เล่ห์แผนรัก
“ผู้หญิงอย่างเธอนะเหรอที่จะมาเป็นเจ้าสาวฉัน” ราฟาเอลมองลลิตาด้วยสายตาหยามเหยียด “เธอไม่ได้ครึ่งกับผู้หญิงที่ฉันเคยควงสักคน” ราฟาเอลพูดก่อนจะเดินผ่านหน้าลลิตาไป
“ทำไมฉันนี้แหละที่จะทำให้คุณหลงจนโงหัวไม่ขึ้น” ลลิตาตระโกนตามหลังร่างสูงที่เดินไปอย่างติดๆ
“แล้วฉันจะค่อยดู” ราฟาเอลหันมาพูดกับลลิตาด้วยน้ำเสียงเหย่อหยั่น

เขา……..โหดและเย็นชากับทุกคนแต่ทำไหมกับเธอเขาถึงได้อยู่เฉยไม่ได้เมื่อต้องเจอเธอ
เธอ…….. เขาเป็นใครถึงกล้ามาดูถูกฉันเห็นอย่างนี้ฉันก็มีดีทั้งตัวนะ
ทั้งเธอและเขากำลังรอค่อยใครสักคนเพื่อมาเติมเต็มสีสันให้ชีวิตที่เหมือนมีความสุขแต่ไม่ถึงขีดสุด และเมื่อเขาและเธอต้องมาแต่งงานกันจะเกิดอะไรขึ้น เมื่อคนหนึ่งแสนเย็นชาส่วนอีกคนก็ดื้อไม่มีใครเกิน


Tags: หวานมันฮ่า

ตอน: ตอนที่ 8 แปลกๆ

“ราฟจ้ะ” เสียงของกิ่งแก้วเรียกราฟาเอลที่กำลังตกอยู่ในห้วงของความคิดขึ้น
“ครับ…” ชายหนุ่มส่งยิ้มน้อยๆให้มารดาก่อนจะรีบเดินเข้าไปประคองมารดาที่พึ่งออกมาจากห้องน้ำหลังจากเข้าไปเปลี่ยนชุดเพื่อเตรียมจะกลับบ้าน
ราฟาเอลประคองมารดาไปนั่งที่โซฟาที่เอาไว้รับแขกที่อยู่อีกฝั่งของห้องพักผู้ป่วยที่กิ่งแก้วนอนพัก “ แม่มีเรื่องจะขอราฟหน่อย” กิ่งแก้วบอกลูกชายเสียงอ่อนก่อนที่จะเอื้อมมือไปกุมมือของลูกชายเอาไว้
“เรื่องอะไรหรอครับแม่” ราฟาเอลเอ่ยถาม
“แม่อยากเห็นลูกแต่งงานมีครอบครัวก่อนที่แม่จะตาย” กิ่งแก้วเอ่ยเสียงสั่งพยายามกลั้นเสียงสะอื้นไว้รอบดวงตาเอ่อไปด้วยน้ำตา ราฟาเอลได้ยินคำของมารดาแล้วก็นั่งนิ่งจนมารดาถามซ้ำอีกครั้ง
“แต่งงานนะลูก” กิ่งแก้วร้องไห้หนักขึ้นก่อนที่ราฟาเอลจะดึงท่านเข้าไปกอดไว้แล้ว ตอบมารดาเสียเบาหวิวฃ
“ครับผมจะแต่งงาน” ชายหนุ่มโอบกอดมารดาแน่นขึ้นเขาค่อยๆซุกหน้าลงบนบ่าของมารดา
ทั้งสองโอบกอดกันอยู่นานจนกระทั่งได้ยินเสียงทักจากเจอราฟที่เปิดประตู้เข้ามาทั้งสองจึงพละออกจากกัน
“สองคนทำซึ้งอะไรกันหึ” เจอราฟเอ่ยถามทั้งสองก่อนจะเดินไปกอดกิ่งแก้วแล้วถามอย่างทีเล่นทีจริง “ร้องไห้ทำไมครับที่รักไอ้ลูกชายตัวดีมันทำอะไรให้คุณเสียใจบอกผมมาเลยเดียวผมจัดการให้ไม่เอาไม่ร้องนะที่รัก”
“ป่าวค่ะ…ตาราฟไม่ได้ทำอะไรให้แก้วเสียใจทำให้แก้วดีใจตั้งหาก แก้วเลยอดที่จะร้องไห้ออกมาไม่ได้” กิ่งแก้วเงยหน้าสบตากับสามีทั้งที่ยังกอดกันอยู่แล้วส่งยิ้มหวานไปให้จนเจอราฟอดไม่ได้ที่จะก้มลงหอมแก้วภรรยาโทษฐานที่ทำตัวน่ารัก
“เอ่อ…ขอโทษนะครับไม่ทราบว่าพ่อกับแม่ลืมไปแล้วรึเปล่าว่าผมยังยืนอยู่ในห้องนี้ด้วย” ราฟาเอลส่งเสียงบอกบิดามารดาที่เหมือนจะลืมว่าตนอยู่ในห้องนี้ด้วย ทำให้เจอราฟและกิ่งแก้วหันมามองลูกชายเป็นตาเดียวกันก่อนที่เจอราฟจะหันมาสั่งราฟาเอล
“ราฟลูกลงไปก่อนไป เอาของแม่เขาไปด้วย ตาสมเขาเอารถมาจอดรออยู่ที่ลานจอดรถชั้น 4 แล้ว เดียวพ่อขอคุยอะไรกับแม่เขาหน่อยเดียวจะตามลงไป”
“ครับผมก็ไม่อยากขัดเวลาหวานของพ่อกับแม่สักเท่าไหร่ ผมลงไปรอที่รถนะครับอย่าหวานมากละครับเดียวห้องนี้มดมันจะขึ้นสงสารคนที่เขาจะเข้ามาพักห้องนี้ต่อ” พูดจบก็เดินออกจาห้องไป
เจอราฟหลังจากที่เห็นลูกชายจอมเย็นชาออกจากห้องไปแล้ว จึงหันกับมาถามกิ่งแก้วต่อด้วยความเป็นห่วง
“คุณไม่เป็นไรแล้วแน่นนะที่รัก…รู้ไหมหน้าคุณยังซีดอยู่เลย” เพราะความเป็นห่วงทำให้เจอราฟเอ่ยถามภรรยาก่อนจะเอามือไปอังที่หน้าผากเพื่อตรวจดูอุณหภูมิร่างกายของเธอ เมื่อพบว่ามันปกติก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะส่งยิ้มอ่อนๆให้ภรรยาที่ส่งยิ้มหวานส่งให้อยู่ก่อนแล้ว
“ฉันไม่เป็นอะไรแล้วละค่ะ…ฉันเป็นแค่ไข้หวัดธรรมดานะค่ะไม่ได้เป็นโรคหัวใจจริงๆสักหน่อย…คุณก็ห่วงอะไรไม่เข้าเรื่อง” เธอบอกก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆทำให้เจอราฟพลอยหัวเราะไปด้วย
“จริงสินะผมเห็นหน้าคุณซีดผมเลยลืมไปว่าคุณโกหกลูกว่าเป็นโรคหัวใจจริงๆแล้วคุณเป็นแค่ไข้หวัดธรรมดา…แต่ว่าทำไมหน้าคุณซีดอย่างนี้ละ” เจอราฟหัวเราะเมื่อนึกขึ้นได้ว่าภรรยาของเขาโกหกลูกชายว่าป่วยเป็นโรคหัวใจ แต่ก็ต้องฉงนเพราะว่าหน้าของภรรยาที่ซีดเหมือนคนป่วยจริงๆ
เมื่อได้รู้ถึงความสงสัยของสามีทำให้กิ่งแก้วหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะเอามือล่วงเอาของอุปกรณ์สำคัญในการที่ทำหน้าซีดออกมาให้สามีดู
“นี่ไงค่ะ…ของที่ทำให้หน้าซีด” ที่เธอถืออยู่คือแป้งตลับที่เมื่อทาแล้วจะทำให้หน้าซีดมันคือเครื่องสำอางที่เธอให้มะลิเอามาให้เมื่อเข้าโรงพยาบาลตอนที่ราฟาเอลไปทำงานที่บริษัทและเจอราฟกลับบ้านไปอาบน้ำ ตลอด 3 วันที่เธอมาอยู่โรงพยาบาลราฟาเอลจะมาเยี่ยมเธอก่อนไปทำงานและหลังเลิกงานทุกวันเธอจึงอาศัยจังหวะที่ต้องลุกเข้าห้องน้ำในการเติมแป้งทุกครั้ง เหมือนกับก่อนหน้านี้ที่เธอเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเธอก็ใช้จังหวะนั้นให้การเติมแป้งอีกเช่นกัน
“อ่อ…อย่างนี้นี่เอง” ราฟาเอลพยักหน้ารับอย่างเข้าใจก่อนจะเอ่ยถามต่อ
“แล้วเรื่องแผนที่วางไว้ไม่ผิดผลาดอะไรใช่ไหม”
“ค่ะ…ไม่ผิดผลาดอะไรเป็นไปตามแผนทุกอย่าง…ถึงฉันป่วยจนต้องเริ่มแผนการเร็วกว่าที่วางไว้…แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไรทุกอย่างเรียบร้อยเป็นไปตามที่คิดไว้…มือระดับนี้แล้ว” เธอตอบพลางใช้มือตบที่อกของตนเบาๆอย่างย่ามใจ ก่อนจะถามสามีถึงแผนที่ให้กิติและลดาทำว่าผลเป็นอย่างไรบ้าง
“แล้วทางฝั่งของคุณกิติกับคุณลดาละค่ะเป็นยังไงบ้างสำเร็จไหมค่ะ”
“สำเร็จสิคุณ…กิติพึ่งโทรมาบอกผมเมื่อครู่นี้เอง…เห็นบอกว่าจะพาหนูลิต้ามาเยี่ยมคุณด้วยนะแต่ผมบอกเขาว่าคุณกำลังจะออกจากโรงพยาบาลแล้วเขาก็เลยบอกว่าจะมาเยี่ยมคุณที่บ้านแทน…เขาเล่าให้ผมฟังตอนที่ทำตามแผนที่คุณวางไว้เห็นบอกว่าร้องไห้กันหนักมากเลยนะผมละอดสงสารหนูลิต้าไม่ได้…ถ้ารู้ว่าโดนหลอกมีหวังต้องโกรธมากแน่ๆผมละไม่อยากจะคิดเลย”
เมื่อได้ยินคำตอบจากปากสามีว่าแผนทุกอย่างที่ได้วางไว้สำเร็จเธอก็รู้สึกดีใจมากแต่เมื่อนึกถึงคำพูดของสามีที่กล่าวออกมาตอนท้ายว่าถ้าเกินแผนที่วางไว้แตกหรือมีใครคนใดคนหนึ่งรู้ความจริง ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นลูกชายของเธอหรือว่าที่ลูกสะใภ้งานนี้คงต้องเจองานใหญ่แน่ แต่เธอก็หมั่นใจว่าเธอคิดไม่ผิดแน่ที่จะให้ทั้งสองแต่งงานกันเชื่อว่าในอนาคตทั้งสองจะต็องมีความสุขแน่ๆ
“เรากลับบ้านกันดีกว่าป่านนี้ลูกชายตัวดีของคุณคงรอแย่แล้ว” เจอราฟเอ่อบอกภรรยาเพราะเขาและภรรยาใช้เวลาคุยกันนานแล้วถ้ายังไม่รีบลงไปมีหวังลูกชายตัวดีของพวกเขาต้องสงสัยแน่
เจอราฟยืนมือไปให้กิ่งแก้วเธอยิ้มน้อยๆก่อนจะเอื้อมมือไปจับมือของสามีและออกก้าวเดินไปพร้อมกัน เธอหวังอยากให้ลูกได้อยู่กับคนที่จะรักและจะดูแลกันและกันไปตลอดแบบที่เธอและสามีที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็จะไม่มีวันทอดทิ้งกันตราบนานเท่านาน นับตั้งแต่วันแรกที่เธอ

“เชิญครับ…คุณผู้หญิงคุณผู้ชาย” นายสมรีบวิ่งเปิดประตูรถให้เจ้านายเมื่อเห็นทั้งสองคนเดินจับมือกันมาถึงรถ
“ขอบใจมากสม” กิ่งแก้วเอ่อขอบคุณคนขับรถคนเก่าแก่ก่อนที่จะค่อยๆเข้าไปนั่งที่เบาะหลังพร้อมด้วยสามี ทันทีที่เธอและสามีเข้ามานั่งเรียบร้อย ก็ได้ยินเสียงแซวมาจากลูกชายที่นั่งอยู่เบาะหน้าข้างคนขับ
“นี่ผมว่าถ้าอีก 10 นาที คุณพ่อคุณแม่ยังไม่ลงมาผมจะกลับบ้านก่อนแล้วนะครับเนี้ย” ราฟาเอลหันมามองบิดามารดาทั้งสองก่อนจะเอนหลังไปพิงเบาะรถด้วยท่าทางสบายๆก่อนจะโดนมารดาเอื้อมมือมาหยิกจนสะดุ้งจนเขาต้องหันกลับไปมองมารดาอย่างงอนๆ เพราะทำอะไรไม่ได้ก่อนจะได้ยินเสียงเขียวๆของมารดาพูดขึ้นมา
“เดียวเถอะตาราฟชักเอาใหญ่แล้วนะเดียวถ้ายังไม่เลิกล้อแม่นะจะโดนมากกว่าหยิก” พูดจบก็เอื้อมมือไปหยิกลูกชายอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ราฟาเอลรู้ทันจึงคว้าข้อมือของมารดาไว้ได้ทันก่อนจะกดจูบที่มือของมารดาเป็นของแถม ทำให้คนที่อยู่ในเหตุการณ์อย่างเจอราฟและลุงสมได้แต่หัวเราะตามไปด้วย แต่ก่อนที่จะมีเหตุการณ์ศึกสายเลือดระหว่างแม่ลูกที่ดูยังไงก็น่ารักกว่าหน้ากลัวเกิดขึ้นเสียงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงแบรนดังของเจอราฟก็ดังขึ้นทำ คุณกิ่งแก้วที่กำลังเล่นกับลูกชายอยู่จึงหันมาสนใจสามีที่นั่งอยู่ข้างกายแทน
เจอราฟล้วงเอาโทรศัพท์มือถือที่กำลังส่งเสียงดังออกมา ก่อนจะดูที่หน้าจอเมื่อเห็นว่าใครเป็นคนโทรมาก็กดรับสายทันที
“สวัสดีครับคุณกิติ” เจอราฟกรอกเสียงทักทายปลายสายที่โทรเข้ามาทันที
ราฟาเอลเมื่อได้ยินผู้เป็นพ่อเอ่ยชื่อคนที่โทรมาเข้ามาก็แปลกใจเพราะผู้ที่คนเป็นพ่อกำลังคุยด้วยอยู่เป็นผู้ควบคุมและตรวจสอบการทำงานฝ่ายต่างๆในโรงแรมดิเอคาร์ดสาขาใหญ่ที่กรุงเทพฯที่เขาพึ่งเซนเลื่อนขั้นให้เป็นที่ปรึกษาให้เขาเมื่อวันก่อนเพราะคุณกิติเป็นคนมีความสามารถและความซื่อสัตย์ซ้ำยังทำงานให้คาร์ดหลายปีแล้วเขาจึงเห็นว่าคุณกิติหน้าจะมีความเข้าใจในการทำงานสามารถเป็นที่ปรึกษาให้ตนได้อย่างดี เรื่องที่เขาเซ็นให้คุณกิติเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวยังไม่มีใครรู้นอกจากเลขาคนสนิทของเขาและผู้ช่วยเลขาเท่านั้น
เรื่องเลื่อนขั้นของเขาจะต้องประกาศในที่ประชุมเพื่อให้ทุกคนรู้และยอมรับ แต่ตอนนี้ที่เขาสงสัยที่สุดเห็นจะเป็นเรื่องที่คุณกิติโทรหาพ่อเขาทำไมในเมื่อคุณพ่อก็ไม่ได้เป็นประธานบริษัทแล้วถ้ามีอะไรเกี่ยวกับปัญหาที่บริษัททำไมถึงไม่โทรหาเขาละ ไหนจะยังมารดาของเขาที่ตั้งใจฟังโทรศัพท์ของคุณพ่อมากกว่าการจับผิดหรือสงสัยว่าคุยกับกิ๊กเสียอีก
“คุณกิ่งแก้วเป็นยังไงบ้างครับ…หายป่วยหรือยังครับ” กิติถามอย่างเป็นห่วงเขาคิดอยู่นานว่าจะใช้คำว่าอะไรถามอาการของคุณกิ่งแก้วดีเลยใช่คำว่า หายป่วยหรือยัง ถามออกไปเพราะคำนี้รวมความหมายว่าสบายดีขึ้นหรือยังประมาณนี้ เขาต้องใช่ความพยายามอย่างมากเพราะถ้าใครผ่านมาได้ยินจะได้ไม่สงสัย
“หายแล้ว…นายคุยกับเธอเองก็แล้วกัน” เจอราฟตอบปลายสายก่อนจะส่งโทรศัพท์ให้ภรรยา นั่นทำให้ราฟาเอลที่แอบฟังการสนทนาของพวกผู้ใหญ่อยู่อย่างเงียบๆเกิดความสงสัยมากเข้าไปอีก พวกเขาต้องสนิทกันมากแน่ๆแล้วไปรู้จักกันตอนไหนหว่าปกติคุณแม่ไม่ชอบเข้าไปบริษัทนี่และจากการพูดคุยกันต้องรู้จักกันดีพอสมควรแน่
เอาแล้วรู้สึกถึงความซวยไม่สิ้นสุดงที่กำลังจะเข้ามาในชีวิตตงิดๆยังไงไม่รู้โว้…
“ค่ะ…คุณกิติตอนนี้ฉันสบายดีแล้วละค่ะ” กิ่งแก้วเอ่ยตอบคนปลายสาย เธอกำลังจะพูดถึงแผนที่ได้วางเอาไว้ พลันสายตาหันไปเห็นลูกชายตัวดีเอาพอดี และดูเหมือนว่าลูกชายเธอจะแอบฟังเธอคุยโทรศัพท์ตั้งแต่ต้นพอสบตากับเธอปั๊บก็หลบสายตาทันที
“เอาเป็นว่า…คุณกิติมาพบฉันพรุ่งนี้แล้วกันนะค่ะ” เธอรีบเอ่ยตัดบทกลัวว่าถ้ายังสนทนากับคนปลายสายต่อจะทำให้หลุดสิ่งที่ยังเก็บเป็นความรับออกมาแล้วคงจะทำให้เป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่นเอาป่าว
“ครับ…” แม้ว่าคนปลายสายจะงงไม่น้อยแต่ก็ได้รับปากไป เพราะขาดว่าคนที่กำลังคุยอยู่ด้วยอาจจะไม่สะดวกคุย
“ค่ะ…สวัสดีค่ะ” เธอเอ่ยลาคนปลายสายก่อนจะส่งโทรศัพท์คืนให้สามีเมื่อคนที่คุยด้วยวางสายไปแล้ว
“เอ่อ…คุณแม่ครับ” ราฟาเอลหลังจากที่ทนต่อความอยากรู้ว่าเรื่องที่มารดาของเขาคุยกับคนปลายสายเรื่องอะไรไม่ไหวแล้วจริงเอ่ยหวังถามมารดาออกไปตรงๆ แต่ก่อนที่เขาจะได้ถามอะไรออกไปมารดาของเขาก็เอาแต่หันไปคุยกับบิดาที่นั่งอยู่ข้างๆจนไม่มีจังหวะที่เขาจะเอ่ยแทรกได้เลย
กระทั่งมาถึงบ้านมารดาเขาก็อ้างว่ารู้สึกเหนื่อยและอยากพักผ่อนและให้บิดาของเขาประคองเข้าห้องไปทันทีแถมมื้อเย็นก็รับอาหารบนห้องนอนอีกพอเขาจะเข้าไปหาบิดาเขาก็บอกว่ามารดาตนหลับแล้ว อย่างนี้มันเป็นการหลบหน้าเขาชัดๆ



ม่านพระจันทร์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 22 มิ.ย. 2557, 23:21:52 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 22 มิ.ย. 2557, 23:21:52 น.

จำนวนการเข้าชม : 819





<< ตอนที่ 7 เหตุจำยอม   ตอนที่่ 9 >>
ไม้เอก 23 มิ.ย. 2557, 10:16:18 น.
เริ่มสงสัยแร้ว


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account