เลห์รัก fool in love
เรื่องราวรักหลอกๆของวิลักษณ์สาวใช้ในบ้านสุดแสบของบ้านอัศวกุล
ที่มักจะชอบแอบเอาชุดของเจ้านายตัวเองมาใส่และโกหกใครๆว่าเป็นลูกคุณหนูไฮโซ
ความวุ่นวายของวิลักษณ์ที่ก่อขึ้นนั้นจะจบลงอย่างไร เมื่อมีหนุ่มไฮโซมาแอบชอบเธอ
เพราะคิดว่าเธอนั้นเป็นลูกคุณหนูจริงๆ งานนี้วิลักษณ์จะทำยังไง
โปรดติดตามไปด้วยกันนะคะ
นิยายเรื่องนี้แต่ง 2 เว็บนะคะ ผู้แต่งเป็นคนเดียวกัน
ติดตามการอัพเดตได้ทั้งสองเว็บเลยค่ะ
ทั้งเว็บนี้และเว็บขีดเขียนนะคะ
http://www.keedkean.com/member.html?id=12767
ตามลิงค์นี้เลยนะคะ เป็นเว็บหลักของนักเขียนเองค่ะ
ที่มักจะชอบแอบเอาชุดของเจ้านายตัวเองมาใส่และโกหกใครๆว่าเป็นลูกคุณหนูไฮโซ
ความวุ่นวายของวิลักษณ์ที่ก่อขึ้นนั้นจะจบลงอย่างไร เมื่อมีหนุ่มไฮโซมาแอบชอบเธอ
เพราะคิดว่าเธอนั้นเป็นลูกคุณหนูจริงๆ งานนี้วิลักษณ์จะทำยังไง
โปรดติดตามไปด้วยกันนะคะ
นิยายเรื่องนี้แต่ง 2 เว็บนะคะ ผู้แต่งเป็นคนเดียวกัน
ติดตามการอัพเดตได้ทั้งสองเว็บเลยค่ะ
ทั้งเว็บนี้และเว็บขีดเขียนนะคะ
http://www.keedkean.com/member.html?id=12767
ตามลิงค์นี้เลยนะคะ เป็นเว็บหลักของนักเขียนเองค่ะ
Tags: รัก,โรแมนติก,คอมเมดี้
ตอน: จุดเริ่มต้นแห่งความวุ่นวาย (มันกำลังจะเกิดขึ้น)
ณ ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง
"สวัสดีค่ะ คุณผู้หญิงสนใจตัวใหนค่ะ"
พนักงานหญิงสาวเอ่ยถามขณะที่มีลูกค้ากำลังเลือกดูเสื้อผ้ากระเป๋าในร้าน
"นี่ก็สวยนะคะ แต่ฉันว่ามันยังไม่โอหนะคะ"
หญิงสาวเดินเลือกเสื้อผ้าอย่างสนุกสนานตามประสาผู้หญิง
"งั้นเรามีคอนเลคชั่นใหม่ สวยมากเลยลองดูไหมค่ะ" พนักงานหญิงสาวแนะนำ
"ก็ดีนะค่ะ ฉันขอดูหน่อยสิคะ" หญิงสาวหันมายิ้มอย่างเป็นมิตร
จากนั้นพนักงานหญิงสาวก็เดินไปหยิบเสื้อผ้าเหล่านั้นมาให้เธอดู
หญิงสาวที่กำลังเลือกชุดอย่างเพลินๆนั้นเห็นแล้วก็อดอึ้งในความสวยของมันไม่ได้
เธอไม่เคยเห็นชุดที่มันสวยงามขนาดนี้มาก่อน
เธอเหมือนตกอยู่ในภวังค์และตะลึงกับความงามของชุดอยู่นาน ก่อนจะตั้งสติแล้วเดินไปดูรอบๆ
แต่ที่น่าตกใจกว่านั้นเมื่อเห็นป้ายราคาที่ติดอยู่ (45,000฿) ก็คิดอยู่ในใจเบาๆ
"โอ์ มายก๊อดด ชุดนี่มันทำมาจากทองคำแท้หรือไง แพงชะมัด"
"ไม่ทราบว่าคุณผู้หญิงสนใจหรือเปล่าค่ะ ชุดนี้เป็นแบบสั่งตัดพิเศษจากฝรั่งเศสเลยนะคะ"
พนักงานหญิงสาวถาม
"เอ่ออ อ่อ คือว่า ไม่หรอกค่ะ ชุดนี้ฉันมีแล้วค่ะ งั้นฉันขอตัวนะคะ"
หญิงสาวเอ่ยด้วยสีหน้าซีดๆหลังจากเห็นราคาชุด แล้วเดินออกมาจากร้านทันที
"ชุดบ้าอะไร แพงชะมัด ฉันเอาเงินไปซื้อข้าวกินได้อีกเป็นเดือนๆเลย"
หญิงสาวสบถเบาหลังออกมาจากร้านนั้นแล้ว
เธอเดินช๊อปปิ้งไปทั่วห้างแต่ก็ไม่ซื้อสิ่งใด เพราะอะไรนะหรอ ก็เพราะว่าช้านนนไม่มีเงินหนะสิ
เฮ้อ ฉันละอิจฉาพวกคนรวยนักที่วันๆไม่ต้องทำอะไรมาก มีแต่เงินมากองอยู่หน้า อยากได้อะไรก็
ต้องได้อยากซื้ออะไรก็ซื้อ
ส่วนฉันต่อให้แต่งตัวสวยดูดีขนาดไหน แต่จริงๆแล้วฉันมันก็แค่คนใช้อยู่ดี
โอ๊ยย ทำไมชีวิตฉันถึงได้จนอย่างนี้นะ
นี่แหล่ะตัวฉันวิลักษณ์ จอมลวงโลก ที่ชอบแอบเอาชุดเจ้านายมาใส่และเดินทำตัวสวยไปวันๆ
เพื่อหลอกใครว่าฉันเป็นคุณหนู
------------------------------------------------------------------------------------------
ณ บ้านเศวตฐากุล
ตระกูลเศวตฐากุล เป็นมหาเศรษฐีจากการทำธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรม ตระกูลนี้เป็นผู้ดีเก่า
มีลูกชายคนเดียว แต่ในแวดวงไฮโซหรือนักธุรกิจนั้นไม่เคยเห็นลูกชายของพวกเขาเลย
เพราะส่งไปเรียนต่างประเทศตั้งแต่เด็ก
"เจ้าธี กลับมาคราวนี้ฉันจะลูกให้แต่งงานให้ได้"
"แล้วถ้าเจ้าธีไม่ยอมหล่ะคุณ"
"ยังไง ฉันก็จะหาวิธีให้เจ้าธียอมแต่งงานให้ได้ ลูกเราไม่ใช่เด็กแล้วนะ อายุ 23 แล้ว"
"งั้นก็แล้วแต่คุณละกัน"
คุณหญิงวิไลและนายเมรุจ สองสามีภรรยานั่งคุยกันระหว่างที่รู้ว่าลูกชายจะกลับวันนี้
ไม่นานนักก็มีรถเก๋งแล่นเข้ามาจอดที่หน้าบ้านของเขา ชายหนุ่มรูปสูงโปร่ง
ผิวขาว ใส่เสื้อเชิตสีกรม กางเกงสีดำแต่งตัวเนี๊ยบดูดี ใส่แว่นดำปกปิดดวงตาอันงดงามไว้
ตามสไตล์เด็กนอก เขาก้าวขาลงมาจากรถพร้อมกับถอดแว่นเพื่อให้เห็นแววตาอันงดงามนั้น
พร้อมกับมองไปรอบๆบ้านที่เขาจากไปนานแสนนานด้วยรอยยิ้มแห่งความดีใจ
"มาแล้วหรอลูกรักของแม่" คุณหญิงวิไลเอ่ยต้อนรับอย่างอบอุ่นด้วยรอยยิ้ม
"สวัสดีครับคุณพ่อ คุณแม่" พาธี ยกมือไหว้ทั้งสองท่าน
พ่อแม่ลูก กอดทักทายกันอย่างอบอุ่น ก่อนจะเดินเข้าไปในบ้าน
พร้อมกับเด็กรับใช้หลายคนที่ถือกระเป๋าใบใหญ่ตามหลัง
"นม เอากระเป๋าไปเก็บที่ห้องคุณธีไป"
คุณหญิงวิไลเอ่ยบอกคนรับใช้ที่ยกกระเป๋าตามมานั้น
"ค่ะ คุณหญิง"
จากนั้นคุณหญิงวิไลก็พาลูกชายของตัวเองมานั่งคุยที่ห้องนั่งเล่นต่อ
"คุณพ่อ คุณแม่สบายดีนะครับ" พาธีเอ่ยขึ้นถามตามมารยาทที่ดี
"จ๊ะ พ่อกับแม่สบายดี" คุณหญิงวิไลเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้ม
"ตาธี คือว่าแม่มีเรื่องจะคุยกับลูกหนะ" ผู้เป็นแม่เอ่ยเริ่มขึ้นก่อน
"อะไรหรอครับคุณแม่" พาธีถาม แต่ก็ไม่ได้สงสัยอะไร
เพราะก็เหมือนจะรู้ว่าแม่ของเขาจะคุยเรื่องอะไร
"คือว่า เอ่อ คือว่า แม่อยากให้แกหนะแต่งงานกับคุณหนูนา"
คุณหญิงวิไลตัดสินใจเอ่ยขึ้น
"อ่อ งั้นหรอครับ ได้สิครับ" พาธียิ้มรับทันที แต่นัยน์ตานั้นมีแผนอยู่แล้ว
"ห๊ะ อะไรนะ จริงหรอตาธี แกจะแต่งงานให้แม่จริงๆหรอ"
ทั้งคุณหญิงวิไลและสามีถึงกับตกใจ
"ครับ แต่มีข้อแม้อยู่อย่างหนึ่ง" พาธียิ้มแบบเจ้าเลห์
"ข้อแม้ ข้อแม้อะไรของแก" คุณหญิงวิไลทำสีหน้าสงสัย
"ผมขอเวลาทำความรู้จักกับคุณหนูนาก่อนครับ" พาธีเอ่ยตอบ
"ได้สิ นานแค่ไหนหล่ะ" คุณหญิงวิไลรับคำขอโดยเต็มใจ
"3 เดือนครับ แต่ผมจะขอทำความรู้จักโดยวิธีของผมเองนะครับ"
พาธียิ้มเจ้าเลห์อีกครั้ง
สองสามีภรรยาทำสีหน้าสงสัยหนักกว่าเดิม ว่าลูกชายของตัวเองจะเล่นตลกอะไรกับพวกเขาอีก
ทั้งสองรู้สึกใจไม่ดียิ่งนักเมื่อเห็นท่าทีเจ้าเลห์ของลูกชายตัวเอง
"สวัสดีค่ะ คุณผู้หญิงสนใจตัวใหนค่ะ"
พนักงานหญิงสาวเอ่ยถามขณะที่มีลูกค้ากำลังเลือกดูเสื้อผ้ากระเป๋าในร้าน
"นี่ก็สวยนะคะ แต่ฉันว่ามันยังไม่โอหนะคะ"
หญิงสาวเดินเลือกเสื้อผ้าอย่างสนุกสนานตามประสาผู้หญิง
"งั้นเรามีคอนเลคชั่นใหม่ สวยมากเลยลองดูไหมค่ะ" พนักงานหญิงสาวแนะนำ
"ก็ดีนะค่ะ ฉันขอดูหน่อยสิคะ" หญิงสาวหันมายิ้มอย่างเป็นมิตร
จากนั้นพนักงานหญิงสาวก็เดินไปหยิบเสื้อผ้าเหล่านั้นมาให้เธอดู
หญิงสาวที่กำลังเลือกชุดอย่างเพลินๆนั้นเห็นแล้วก็อดอึ้งในความสวยของมันไม่ได้
เธอไม่เคยเห็นชุดที่มันสวยงามขนาดนี้มาก่อน
เธอเหมือนตกอยู่ในภวังค์และตะลึงกับความงามของชุดอยู่นาน ก่อนจะตั้งสติแล้วเดินไปดูรอบๆ
แต่ที่น่าตกใจกว่านั้นเมื่อเห็นป้ายราคาที่ติดอยู่ (45,000฿) ก็คิดอยู่ในใจเบาๆ
"โอ์ มายก๊อดด ชุดนี่มันทำมาจากทองคำแท้หรือไง แพงชะมัด"
"ไม่ทราบว่าคุณผู้หญิงสนใจหรือเปล่าค่ะ ชุดนี้เป็นแบบสั่งตัดพิเศษจากฝรั่งเศสเลยนะคะ"
พนักงานหญิงสาวถาม
"เอ่ออ อ่อ คือว่า ไม่หรอกค่ะ ชุดนี้ฉันมีแล้วค่ะ งั้นฉันขอตัวนะคะ"
หญิงสาวเอ่ยด้วยสีหน้าซีดๆหลังจากเห็นราคาชุด แล้วเดินออกมาจากร้านทันที
"ชุดบ้าอะไร แพงชะมัด ฉันเอาเงินไปซื้อข้าวกินได้อีกเป็นเดือนๆเลย"
หญิงสาวสบถเบาหลังออกมาจากร้านนั้นแล้ว
เธอเดินช๊อปปิ้งไปทั่วห้างแต่ก็ไม่ซื้อสิ่งใด เพราะอะไรนะหรอ ก็เพราะว่าช้านนนไม่มีเงินหนะสิ
เฮ้อ ฉันละอิจฉาพวกคนรวยนักที่วันๆไม่ต้องทำอะไรมาก มีแต่เงินมากองอยู่หน้า อยากได้อะไรก็
ต้องได้อยากซื้ออะไรก็ซื้อ
ส่วนฉันต่อให้แต่งตัวสวยดูดีขนาดไหน แต่จริงๆแล้วฉันมันก็แค่คนใช้อยู่ดี
โอ๊ยย ทำไมชีวิตฉันถึงได้จนอย่างนี้นะ
นี่แหล่ะตัวฉันวิลักษณ์ จอมลวงโลก ที่ชอบแอบเอาชุดเจ้านายมาใส่และเดินทำตัวสวยไปวันๆ
เพื่อหลอกใครว่าฉันเป็นคุณหนู
------------------------------------------------------------------------------------------
ณ บ้านเศวตฐากุล
ตระกูลเศวตฐากุล เป็นมหาเศรษฐีจากการทำธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรม ตระกูลนี้เป็นผู้ดีเก่า
มีลูกชายคนเดียว แต่ในแวดวงไฮโซหรือนักธุรกิจนั้นไม่เคยเห็นลูกชายของพวกเขาเลย
เพราะส่งไปเรียนต่างประเทศตั้งแต่เด็ก
"เจ้าธี กลับมาคราวนี้ฉันจะลูกให้แต่งงานให้ได้"
"แล้วถ้าเจ้าธีไม่ยอมหล่ะคุณ"
"ยังไง ฉันก็จะหาวิธีให้เจ้าธียอมแต่งงานให้ได้ ลูกเราไม่ใช่เด็กแล้วนะ อายุ 23 แล้ว"
"งั้นก็แล้วแต่คุณละกัน"
คุณหญิงวิไลและนายเมรุจ สองสามีภรรยานั่งคุยกันระหว่างที่รู้ว่าลูกชายจะกลับวันนี้
ไม่นานนักก็มีรถเก๋งแล่นเข้ามาจอดที่หน้าบ้านของเขา ชายหนุ่มรูปสูงโปร่ง
ผิวขาว ใส่เสื้อเชิตสีกรม กางเกงสีดำแต่งตัวเนี๊ยบดูดี ใส่แว่นดำปกปิดดวงตาอันงดงามไว้
ตามสไตล์เด็กนอก เขาก้าวขาลงมาจากรถพร้อมกับถอดแว่นเพื่อให้เห็นแววตาอันงดงามนั้น
พร้อมกับมองไปรอบๆบ้านที่เขาจากไปนานแสนนานด้วยรอยยิ้มแห่งความดีใจ
"มาแล้วหรอลูกรักของแม่" คุณหญิงวิไลเอ่ยต้อนรับอย่างอบอุ่นด้วยรอยยิ้ม
"สวัสดีครับคุณพ่อ คุณแม่" พาธี ยกมือไหว้ทั้งสองท่าน
พ่อแม่ลูก กอดทักทายกันอย่างอบอุ่น ก่อนจะเดินเข้าไปในบ้าน
พร้อมกับเด็กรับใช้หลายคนที่ถือกระเป๋าใบใหญ่ตามหลัง
"นม เอากระเป๋าไปเก็บที่ห้องคุณธีไป"
คุณหญิงวิไลเอ่ยบอกคนรับใช้ที่ยกกระเป๋าตามมานั้น
"ค่ะ คุณหญิง"
จากนั้นคุณหญิงวิไลก็พาลูกชายของตัวเองมานั่งคุยที่ห้องนั่งเล่นต่อ
"คุณพ่อ คุณแม่สบายดีนะครับ" พาธีเอ่ยขึ้นถามตามมารยาทที่ดี
"จ๊ะ พ่อกับแม่สบายดี" คุณหญิงวิไลเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้ม
"ตาธี คือว่าแม่มีเรื่องจะคุยกับลูกหนะ" ผู้เป็นแม่เอ่ยเริ่มขึ้นก่อน
"อะไรหรอครับคุณแม่" พาธีถาม แต่ก็ไม่ได้สงสัยอะไร
เพราะก็เหมือนจะรู้ว่าแม่ของเขาจะคุยเรื่องอะไร
"คือว่า เอ่อ คือว่า แม่อยากให้แกหนะแต่งงานกับคุณหนูนา"
คุณหญิงวิไลตัดสินใจเอ่ยขึ้น
"อ่อ งั้นหรอครับ ได้สิครับ" พาธียิ้มรับทันที แต่นัยน์ตานั้นมีแผนอยู่แล้ว
"ห๊ะ อะไรนะ จริงหรอตาธี แกจะแต่งงานให้แม่จริงๆหรอ"
ทั้งคุณหญิงวิไลและสามีถึงกับตกใจ
"ครับ แต่มีข้อแม้อยู่อย่างหนึ่ง" พาธียิ้มแบบเจ้าเลห์
"ข้อแม้ ข้อแม้อะไรของแก" คุณหญิงวิไลทำสีหน้าสงสัย
"ผมขอเวลาทำความรู้จักกับคุณหนูนาก่อนครับ" พาธีเอ่ยตอบ
"ได้สิ นานแค่ไหนหล่ะ" คุณหญิงวิไลรับคำขอโดยเต็มใจ
"3 เดือนครับ แต่ผมจะขอทำความรู้จักโดยวิธีของผมเองนะครับ"
พาธียิ้มเจ้าเลห์อีกครั้ง
สองสามีภรรยาทำสีหน้าสงสัยหนักกว่าเดิม ว่าลูกชายของตัวเองจะเล่นตลกอะไรกับพวกเขาอีก
ทั้งสองรู้สึกใจไม่ดียิ่งนักเมื่อเห็นท่าทีเจ้าเลห์ของลูกชายตัวเอง
kongkang เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 18 ก.ค. 2557, 00:08:30 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 18 ก.ค. 2557, 00:08:30 น.
จำนวนการเข้าชม : 832
| แมวไม่อยู่หนูร่าเริง >> |