เสน่หาภรรยาครึ่งปี
เสน่หาภรรยาครึ่งปี โดย กันต์ระพี
เดิมชื่อกรงรักวิมานร้อน

เธอ..ถูกหลอกขายให้ชายแปลกหน้า
เขา...ต้องการแค่ภรรยาครึ่งปี
เพียงความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืน
เขาก็ต้องการหล่อนทั้งตัวและหัวใจ แต่จะทำฉันใด...

เปิดให้ทดลองอ่านบางส่วนเท่านั้น วางจำหน่ายในรูปแบบ e-book
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตัวอย่างเนื้อเรื่อง

“เป็นอะไรไป ทำไมถึงได้นั่งเงียบ” ดีแลนด์เอ่ยปากถามขึ้น หลังจากที่ขับรถออกจากร้านอาหารมาได้ระยะหนึ่ง

“กำลังคิดว่าผู้หญิงคนนั้นคงไม่ชอบฉันสักเท่าไหร่ เวลาที่เธอมองมามันดูแปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้”

“คาร์ตีนีเหรอ?” ชายหนุ่มหันมองหญิงสาวแวบหนึ่ง เมื่อเห็นหล่อนพยักหน้าตอบรับ จึงเอ่ยขึ้นอีกครั้ง

“อย่าไปสนใจเลย เขาก็เป็นแบบนี้แหละ คนเป็นนางแบบก็มักจะคิดว่าตัวเองสวยเลิศ สมบูรณ์แบบจนผู้ชายทุกคนต้องสยบให้ พอรู้ว่าผมตัดสินใจจะแต่งงานกับคุณ เขาก็คงจะอิจฉาเป็นเรื่องธรรมดา”

“ทำไมต้องอิจฉา หรือว่า...” พิมพ์ลดาเอ่ยพลางหันไปมองหน้าชายหนุ่ม เหมือนจะค้นหาคำตอบว่าตรงกับที่หล่อนคิดไว้ในใจหรือไม่

“ใช่ ผมอาจจะเคยมีความสัมพันธ์กับคาร์ตีนี แต่นั่นมันก็นานมาแล้วก่อนที่ผมจะแต่งงานเสียอีก และหลังจากนั้นผมก็ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับเธออีก”

“แล้วทำไมคุณไม่เลือกที่จะแต่งงานกับเธอแทนที่จะเป็นฉัน”

“คุณไม่ดีใจเหรอไงที่ผมเลือกคุณ ทั้งที่มีผู้หญิงอีกตั้งมากมายอยากจะแต่งงานกับผมด้วยกันทั้งนั้น”

“สำคัญตัวผิดไปหรือเปล่า สำหรับฉัน...คุณไม่ได้มีค่าพอถึงขนาดนั้น”

“จริงสินะ ผมลืมไปว่าเราไม่ได้รักกัน”

“รู้ก็ดีแล้ว”

“แน่นอน! ผมจำได้ขึ้นใจว่าคุณรักไอ้สารเลวแฟนคุณมากแค่ไหน ไม่อย่างงั้นคงไม่ยอมให้มันจับใส่ถาดมาประเคนให้ผมหรอก”

“มิสเตอร์ดีแลนด์!”

“ทำไม แทงใจดำอย่างนั้นเหรอ?” ใบหน้าหล่อเหลาเหยียดยิ้มมุมปากราวจะเยาะ

“เรื่องนี้มันเป็นเรื่องระหว่างเราไม่เกี่ยวกับภู และที่ฉันตกลงแต่งงานกับคุณก็เพราะไม่มีทางเลือก”

“คิดแบบนั้นก็ดีแล้ว เพราะนับแต่นี้คุณต้องทำตามคำสั่งของผม แล้วก็อย่าคิดขัดขืนหรือหลบหนี เพราะอิสระที่คุณมีจะหมดลง และอาจจะต้องอยู่ที่นี่อย่างทรมานไปตลอดชีวิต” ดีแลนด์ตวัดสายตากร้าวมองหญิงสาว ก่อนจะหักพวงมาลัยรถเข้าจอดเทียบริมฟุตปาธ

“นี่คุณขู่ฉันเหรอ”

พิมพ์ลดาตวัดสายตามองชายหนุ่ม แต่เพียงครู่เดียวก็ต้องหลุบสายตาลงต่ำ เมื่อเห็นสีหน้าจริงจังและสายตาเหี้ยมเกรียมของฝ่ายตรงข้าม ทำให้หล่อนนึกกลัวขึ้นมาจับจิต จนไม่กล้าพูดอะไรโต้เถียงเขาอีก

“คนอย่างร็อบ คอลีฟา ดีแลนด์ พูดจริงทำจริงเสมอ ถ้าไม่เชื่อก็ลองดู ไป! ลงจากรถกันได้แล้ว”

ดีแลนด์ก้าวลงจากรถก่อนจะเดินมาเปิดประตูอีกฝั่งให้หญิงสาว รั้งร่างบางให้ก้าวลงจากรถได้ก็ปิดประตูเสียงดังสนั่น ตวัดสายตากร้าวมองหล่อนเชิงบังคับ พลางดันหลังให้ก้าวเดินเข้าไปในร้านจำหน่ายเสื้อผ้าชื่อดังด้วยกัน

“มิสเตอร์ดีแลนด์ ลมอะไรหอบมาถึงที่นี่คะ” หญิงสาวเจ้าของร้านวัยกลางคนรูปร่างอวบอ้วนหันมาเอ่ยปากทักทาย พลางคลี่ยิ้มอย่างมีจริตเมื่อเห็นแขกกระเป๋าหนักก้าวเข้ามาในร้าน

“ผมพาคุณนายดีแลนด์มาหาซื้อเสื้อผ้าครับ” ดีแลนด์เอ่ยพลางก็หันไปคลี่ยิ้มกับหญิงสาว กระชับอ้อมแขนที่โอบล้อมร่างบางแน่นขึ้นอีกนิด ทำให้เจ้าของร้านต้องร้องถามด้วยความแปลกใจ

“คุณนายดีแลนด์? คุณแต่งงานใหม่ตั้งแต่เมื่อไหร่กันคะ”

“ยังหรอกครับ ผมแค่ซ้อมเรียกเอาไว้ก่อน พอถึงเวลาที่ต้องเรียกจริงๆ จะได้ชินปาก”

“อย่างนั้นเหรอคะ แล้ววันนี้ที่คุณมาที่นี่ต้องการให้ดิฉันช่วยอะไรไหมคะ?”

“ครับ ผมต้องการให้คุณช่วยจัดชุดลำลองให้ว่าที่ภรรยาผมสักสิบชุดหรืออาจจะมากกว่านั้นก็ได้ แล้วก็ชุดที่จะใช้สำหรับใส่ออกงาน รวมไปถึงชุดนอนแล้วก็ของใช้ส่วนตัวหลักๆ ด้วย อย่างหลังนี่ขอแบบที่เข้าชุดกันหน่อยนะครับ เผื่อเวลาที่เธอหยิบใช้จะได้สะดวก” ดีแลนด์เอ่ยพลางมองหน้าแดงๆ ของคนในอ้อมแขน ก่อนจะปรายตามองเจ้าของร้านแล้วเอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง

“แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือชุดแต่งงาน ผมอยากได้ชุดที่ดีที่สุดในร้าน ราคาเท่าไหร่ไม่เกี่ยง ขออย่างเดียวให้เจ้าสาวของผมสวยที่สุดก็พอ”

“ได้สิคะ ดิฉันจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย”

“คุณเลือกตามสบายเลยนะที่รัก ผมจะเข้าไปดูงานที่บริษัทฯ สักพักแล้วจะแวะมารับ” ดีแลนด์หันมาเอ่ยกับพิมพ์ลดา แล้วโน้มหน้าลงจุมพิตเรียวปากอิ่มอย่างดูดดื่มต่อหน้าเจ้าของห้องเสื้อ

พิมพ์ลดาหน้าแดงซ่านทีเดียว เมื่อชายหนุ่มถอนริมฝีปากออก ยืนตาปรอยมองเขาก้าวออกจากประตูไปราวกับตกอยู่ในภวังค์จนเจ้าของร้านต้องเอ่ยปากเรียก

“คุณนายดีแลนด์...คุณนายดีแลนด์คะ”

“คะ?” พิมพ์ลดาสะดุ้ง หันมองก็พบว่าเจ้าของห้องเสื้อกำลังส่งยิ้มให้หล่อนพลางผายมือไปด้านข้าง

“เชิญทางนี้ดีกว่าค่ะ ดิฉันจะพาไปเลือกชุด”

“เอ่อ...ขอโทษค่ะ ไม่ทราบว่าถ้าฉันจะขอใช้โทรศัพท์สักครู่จะได้ไหมคะ?”

“เชิญตามสบายค่ะ” หญิงรูปร่างอวบอ้วนคลี่ยิ้มพลางผายมือไปที่โทรศัพท์ที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ ก่อนจะเดินเลี่ยงไปอีกด้านหนึ่งของร้าน เพื่อเปิดโอกาสให้หญิงสาวได้สนทนาเป็นการส่วนตัว

ทันทีที่คล้อยหลังเจ้าของร้าน พิมพ์ลดาก็ไม่รอช้าที่จะกดโทรศัพท์ไปหาภูมินทร์ หล่อนรอโอกาสนี้มานาน อยากจะทราบข้อเท็จจริงทั้งหมดอันเป็นต้นเหตุที่ทำให้ตนต้องตกอยู่ในสภาพนี้ ด้วยเพราะระยะเวลาในการคบหานั้นนานพอสมควร จึงยังไม่ปักใจเชื่อเสียเลยในทีเดียวว่าชายหนุ่มจะเป็นคนเช่นนั้น

เลขหมายนี้ยังไม่เปิดให้บริการค่ะ ไม่มีเลขหมายที่คุณเรียก กรุณาตรวจสอบเลขหมายอีกครั้ง...

พิมพ์ลดาวางโทรศัพท์ลงกับแป้นวาง ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง ไม่ได้รู้สึกดีขึ้นเลย เพราะไม่สามารถติดต่อภูมินทร์ได้ ไม่ว่าจะเป็นที่บริษัทฯ ของเขาหรือแม้แต่โทรศัพท์มือถือ ทุกอย่างถูกเปลี่ยนไปจนหมด ทำให้คิดไปว่าเรื่องที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นจริงอย่างที่ดีแลนด์บอกกล่าว หาไม่แล้วเขาคงไม่หลบหน้าหล่อน

ใบหน้างามแลสลดลงเล็กน้อย เมื่อรู้ธาตุแท้ของชายคนรัก ไม่อยากเชื่อเท่าไหร่นัก ว่าผู้ชายที่พูดจาหวานหูรู้จักเอาใจสารพัดอย่างภูมินทร์จะทำเช่นนี้กับหล่อนได้ เขาเห็นเงินสำคัญกว่าความรัก มันทำให้หล่อนเจ็บปวด แต่นั่นก็คงไม่เจ็บแสบเท่าที่เขาทำลายความไว้วางใจและขายหล่อนให้กับชายอื่น!



“ว้าว! สวยมากเลยค่ะ นี่ถ้ามิสเตอร์ดีแลนด์มาเห็นต้องพอใจมากแน่ๆ”

หญิงเจ้าของร้านที่เปิดผ้าม่านเข้ามาทำตาโตห่อปากอย่างมีจริต ก่อนจะเดินวนไปรอบ ๆ ตัวหญิงสาวเพื่อสำรวจความเรียบร้อย แล้วจูงมือหล่อนให้ออกมาหยุดยืนหน้ากระจกบานใหญ่

“เป็นยังไงค่ะ ถูกใจหรือเปล่า ชุดนี้ดิฉันใช้เวลาออกแบบและก็ตัดเย็บนานที่สุดเลยนะคะ”

“ค่ะ ถูกใจมาก มันสวยมากจริงๆ ค่ะ”

พิมพ์ลดาเอ่ยออกมาราวกับคนละเมอ คลี่ยิ้มเต็มใบหน้าเมื่อมองเงาสะท้อนในกระจก แล้วพบว่าชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์แบบเกาะอกเผยผิวเนื้อเนียนละเอียดนั้นส่งบุคลิกให้ดูงามสง่า เสริมความหวานให้กับผู้สวมใส่ด้วยการถักทอลวดลายกุหลาบด้วยดิ้นเงินบนผ้าชีฟองบางเบาที่ทิ้งตัวทอดยาวลงมาจากเอวคอดกิ่ว รับกับมงกุฎน้อยๆ ที่คาดทับอยู่บนเรือนผมสลวยทำให้หล่อนดูสวยหวานไม่ผิดกับเจ้าหญิง

“ดิฉันนึกแล้วว่าคุณต้องชอบ เพราะคุณกับคุณรีเบคก้าดูแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว รายนั้นสวยหวานดูสง่าไม่ใช่แบบที่เธอต้องการหรอกค่ะ ต้องเซ็กซี่ตรึงคนทั้งงานให้มองกันเท่านั้นถึงจะถูกใจเธอ”

“รีเบคก้า?”

“ก็อดีตภรรยาของคุณดีแลนด์ยังไงล่ะค่ะ เธอเป็นนางแบบแถวหน้าที่มีชื่อเสียงมากเลยนะคะ ตอนที่แวะมาเอาเสื้อที่ตัดกับทางร้าน ดิฉันยังถ่ายรูปเก็บเอาไว้เลย นั่นยังไงล่ะค่ะ”

พิมพ์ลดาละสายตาจากคู่สนทนามองตามมืออวบอูมที่ชี้ไปที่ผนังด้านหนึ่ง ทันทีที่เห็นผู้หญิงที่อยู่ในรูปก็จ้องตาไม่กะพริบ รีเบคก้า...สวยเซ็กซี่ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าอย่างที่เจ้าของร้านพูดไว้ไม่มีผิด แม้รูปร่างจะอ้อนแอ้นอรชรสมลุคนางแบบ แต่ส่วนที่ควรอวบอิ่มในตัวหญิงสาวก็แลน่ามองไม่ใช่น้อย โดยเฉพาะดวงตาคมเข้มคู่นั้นเหมือนจะมีมนต์สะกดที่ทำให้ทุกคนต้องหันมองมาที่หล่อน

พิมพ์ลดาระบายลมหายใจออกมาช้าๆ พลางนึกไปว่าขนาดรีเบคก้าสวย เซ็กซี่ มีชื่อเสียงขนาดนี้ ยังรั้งดีแลนด์ไว้ไม่อยู่ แล้วนับประสาอะไรกับผู้หญิงพื้นๆ อย่างหล่อน แต่จะว่าไปก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ว่าทำไมจู่ๆ ก็คิดถึงเรื่องแบบนี้ขึ้นมา ทั้งที่รู้ดีว่าการแต่งงานในครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความรัก หากแต่เป็นเรื่องจำยอมเพราะไม่มีทางเลือก แล้วหล่อนจะมาคาดหวังอะไรจากผู้ชายที่เป็นเพียงแค่สามีกำมะลอ...



ดีแลนด์พาพิมพ์ลดาไปแนะนำกับบิดามารดา หลังจากที่เรือยอร์ชเข้าจอดเทียบท่าในเวลาพลบค่ำ ถึงแม้ว่าการพบปะพูดคุยจะเป็นไปด้วยดี แต่ถึงกระนั้นหญิงสาวก็อดที่จะใจเต้นตุ๋มๆ ต่อมๆ ขึ้นมาไม่ได้ ทันทีที่มีโอกาส ก็รีบเอ่ยปากขอปลีกตัวออกมาจากห้องทำงานของชายหนุ่ม เพื่อจะนำตุ๊กตาหมีตัวอ้วนกลมไปมอบให้ชาร์ลอตตามสัญญา

“ร็อบ แน่ใจแล้วเหรอว่าจะแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้” ทันทีที่คล้อยหลังหญิงสาว เฟรดเดอริกก็หันไปตบไหล่บุตรชาย พลางเอ่ยขึ้นอย่างไม่สบายใจนัก

“ครับ” ดีแลนด์รับคำเรียบๆ ขณะหันมองบิดา

“แต่พ่อไม่เห็นด้วยเลย ที่ลูกจะดึงหนูพิมพ์ลดาเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้”

“นั่นน่ะสิ เธอไม่รู้ไม่เห็นอะไรด้วย มันจะไม่โหดร้ายเกินไปหน่อยเหรอลูกที่ทำร้ายคนดีๆ แบบนี้” ฟาติมามารดาชายหนุ่มเอ่ยเสริมสามีกึ่งเตือนสติบุตราย

“แต่ผมไม่มีทางเลือกนี่ครับ ตอนนี้ได้ข่าวว่ารีเบคก้ากำลังทำเรื่องยื่นฟ้องเพื่อจะขอเป็นผู้ดูแลชาร์ลอต ถ้าไม่รีบจัดการอะไรลงไป เราอาจจะต้องเสียแกไป” น้ำเสียงทุ้มนุ่มที่บ่งบอกถึงความกังวล ทำให้ฟาติมาอดที่เอ่ยขึ้นมาอีกครั้งไม่ได้

“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ลูกก็น่าจะลองโทรถามเธอดูก่อนว่าที่ยื่นฟ้องน่ะต้องการอะไร เพราะแม่มั่นใจว่ารีเบคก้าน่าจะมีจุดประสงค์อื่น มากกว่าที่จะต้องการตัวชาร์ลอตไปเลี้ยงดูจริงๆ”

“พ่อก็เห็นด้วยกับแม่เขานะ ถ้ารีเบคก้าต้องการอะไร ลูกก็ยอมๆ ไปก็หมดเรื่อง ยังดีเสียกว่าที่จะดึงคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยอย่างหนูพิมพ์ลดามาเกี่ยวข้อง”

“ถ้ารีเบคก้าเป็นผู้หญิงจิตใจดี ผมก็คงจะทำตามอย่างที่พ่อแม่พูด แต่ผู้หญิงร้ายกาจไม่มีสัญชาตญาณของความเป็นแม่แบบนั้น มันต้องตาต่อตาฟันต่อฟัน!” ดวงตาสีเขียวมรกตทอประกายเกรี้ยวกราด เมื่อย้อนนึกถึงเรื่องราวอันเป็นจุดเริ่มของการแตกหักในชีวิตสมรส เมื่อครั้งที่บุตรสาวยังอยู่ในวัยไร้เดียงสา...

“ดึกขนาดนี้แล้ว คุณจะออกไปไหนอีก” ดีแลนด์ร้องถามออกไปอย่างไม่ค่อยพอใจนัก เมื่อก้าวเข้ามาภายในห้องนอน แล้วพบภรรยากำลังนั่งเขียนคิ้วทาปากอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง

“ฉันจะออกไปดื่มกับเพื่อนสักหน่อย”

“ดึกป่านนี้เนี่ยนะ แล้วถ้าชาร์ลอตหิวนมขึ้นมาจะทำยังไง”

“เลิกพูดถึงเด็กบ้านั่นเสียทีจะได้ไหม แค่นี้ฉันก็ประสาทจะกินตายอยู่แล้ว ถ้ารู้ตั้งแต่แรกว่าคลอดออกมาแล้วจะแหกปากร้องทั้งวันแบบนี้ ฉันคงไม่เอามันไว้หรอก” รีเบคก้าชะงักอาการเติมสีสันลงบนเรียวปาก กระแทกลิปสติกลงโต๊ะเครื่องแป้งแล้วตวัดสายตากร้าวมองสามี

“ทำไมถึงพูดแบบนั้นล่ะ ชาร์ลอตเป็นลูกของเรา คุณไม่รักแกเหรอ”

“ใครจะรักเข้าไปลง ที่ฉันต้องมานั่งควบคุมอาหารลดน้ำหนักอยู่แบบนี้ มันไม่ใช่เพราะนังเด็กบ้านั่นเหรอ แล้วไหนจะน้ำนมคาวๆ เหนียวเหนอะหนะนี่อีกล่ะ แค่คิดก็สุดจะทนแล้ว” รีเบคก้าเบ้ปาก หันไปคว้ากระเป๋าสะพายแล้วเอ่ยขึ้นอีกครั้งก่อนจะก้าวออกจากห้องไป

“อ้อ...แล้วต่อไปนี้อย่าเอานังเด็กนั่นมาใกล้ฉันอีกล่ะ เพราะฉันจะไม่ยอมให้มันมาทึ้งหน้าอกฉันให้เสียทรงอีกต่อไปแล้ว”

**********************************************
ตอนนี้เป็นตอนสุดท้ายแล้วที่จะลงให้อ่านกันค่ะ นักอ่านท่านใดสนใจงานเขียนเรื่องนี้หาโหลดได้แล้วที่...
http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiNTE5MzI4IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NToiMTQ3MTQiO30

ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับแรงใจดีๆ จากนักอ่านไม่มากก็น้อยนะคะ ขอบคุณค่ะ
กันต์ระพี



กันต์ระพี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 22 ก.ค. 2557, 17:18:46 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 26 ก.ค. 2557, 10:36:49 น.

จำนวนการเข้าชม : 1627





<< ตัวอย่างเนื้อเรื่อง   
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account