เลศลายดาว
ไม่มีอะไรมากค่า คนเขียนอยากมีพระเอกเป็นดารา เท่านั้นเอง...จริง ๆ นะ...
Tags: ลายดาว ยิ่งกว่า รักจริง อัสกัณ อั๊ต รัมย์

ตอน: บทนำ


เลศลายดาว

บทนำ

อัสกัณถอนหายใจหนัก ๆ อย่างโล่งอกโล่งใจ หลังจากชะโงกหน้าผ่านมุมหลบแล้วไม่พบคนติดตาม เสียงกรี๊ดกราดวี้ดว้ายซึ่งดังห่างออกไปทำให้เขาแน่ใจยิ่งขึ้น เมื่อพบว่าปลอดภัยจากกลุ่มคนผู้คลั่งไคล้แล้ว ชายหนุ่มจึงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดเบอร์ผู้จัดการส่วนตัว โทรออกเพื่อบอกให้มารับ

“พี่เอส ผมปลอดภัยแล้วฮะ มารับที่ลานจอดรถชั้นบีด้วย...อ้อ...อยู่เสาสิบสองนะฮะ” สั่งการเสร็จเก็บโทรศัพท์มือถือกลับกระเป๋าแล้ว อัสกัณก็อดไม่ได้ที่จะกวาดสายตามองรอบบริเวณอย่างระแวดระวัง พร้อม ๆ กับมือก็หยิบแว่นตาดำสุดเก๋ออกมาสวม...วิธีอำพรางตัวอย่างง่ายและเป็นที่นิยมของดารายอดนิยมอย่าง อัสกัณ พระเอกหนุ่มเนื้อหอมแห่งยุคนี้

คิดมาถึงตรงนี้อัสกัณก็อดอมยิ้มกับตัวเองไม่ได้...ดาราหนุ่มเจ้าบทบาทที่ผู้จัดละครหลายค่ายต่างตบตีแย่งชิงคิวเพื่อให้เป็นพระเอกหรือบทเด่นของเรื่อง ทั้งที่ก่อนหน้านั้นไม่กี่ปี ผู้จัดเหล่านั้นยังใช้เพียงหางตาเหลือบมองเขาด้วยระยะเวลานับได้เป็นวินาที เขาซึ่งในตอนนั้นยังเป็นเพียงชายหนุ่มเฉิ่มเชยใส่แว่นตาหนาเตอะ ผมเผ้ากระเซอะกระเซิงเพราะไม่ใส่ใจหวีจัดทรง สิ่งที่เขาใส่ใจในตอนนั้นมีเพียงกรุหนังสือเก่าซึ่งเขาเทียวได้เป็นสมาชิกถาวรแทบทุกร้านในเขตปริมณฑล

จะว่าไปหางตาของผู้จัดละครเหล่านั้นคงไม่เสียเวลามาเหลือบแลเขาเลยแม้แต่น้อย หากว่านามสกุลของเขาจะไม่ใช่ ‘เพชรพลอยสุวรรณ’ หากว่ากิจการครอบครัวของเขาจะไม่ได้มีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วโลกอัญมณี และหากว่า อุณรุท พี่ชายของเขาจะไม่ใช่หนุ่มหล่อติดโผไฮโซในฝันอันดับต้น ๆ ซึ่งผู้จัดละครทั้งหลายต่างก็อยาก ‘จีบ’ ไปเล่นละครของตัวเอง ติดอยู่ที่ว่าตัวพี่ชายของเขานั้นชอบการบริหารกิจการมากกว่าบริหารสายตาประชาชน

ไม่เพียงกลุ่มผู้จัดละครเท่านั้นที่ผิดหวังจากการตามตื้ออุณรุท คุณหญิงอณาผู้เป็นมารดาก็ผิดหวังไม่ใช่น้อย หลังจากลูกชายคนโตยื่นคำขาดว่าหากบังคับให้เข้าวงการบันเทิงเขาจะออกบวชนิดไม่สึก ความผิดหวังของคุณหญิงอณา มีคนรับฟังคือ อัสกัณ

แรกเริ่มการคร่ำครวญก็มาในรูปแบบบ่นเชิงเสียดาย อัสกัณรับฟังชนิดเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา เพราะเบื้องหน้าเขาตอนนั้นคือ เพชรพระอุมากับการอ่านรอบที่เจ็ด ต่อมาการคร่ำครวญจะมาพร้อมการอ้างสรรพคุณของการเป็นดาราที่มีคำว่าไฮโซต่อท้าย คราวนี้เขาต้องฟังเพราะคุณหญิงอณาหยิบเพชรพระอุมาออกจากมือเขา แถมตั้งท่าเตรียมฉีก จำได้ว่าระหว่างที่เขากำลังจ้องเขม็ง ลุ้นระทึกการฉีกของคุณหญิงอณา จู่ ๆ การคร่ำครวญก็หายไปเสียดื้อ ๆ กระนั้นเขาก็ยังไม่สนใจ สายตาของเขาตอนนั้นจดจ่ออยู่เพียงหนังสือในมือผู้เป็นแม่ซึ่งค่อย ๆ วางลงข้างตัว เขาคงกระโจนเข้าไปตะครุบหนังสือเป็นแน่ หากมือของคุณหญิงอณาจะไม่ยื่นมากระตุกแว่นตาออกจนโลกรอบข้างในสายตาเขาพร่ามัวลงในทันที ขณะที่มือเขายังคว้าไขว่อากาศกับรับรู้ได้ถึงสัมผัสจากมือผู้เป็นแม่ที่เที่ยวได้ทึ้งผม ลูบหน้าเขาวุ่นวาย สุดท้ายคุณหญิงอณาก็กรีดร้องอย่างดีอกดีใจ

“อั๊ต ! ตัดผมนะลูกนะ ! ทำเลสิคนะลูกนะ ! เข้าคอร์สปรับปรุงบุคลิกนะลูกนะ !” อัสกัณจำได้ว่าความรู้สึกหลังฟังจบเป็นอย่างไร ไม่ต้องสงสัยว่าเขาจะอยู่ในอาการอึ้งเหวอเพียงไหน กว่าที่เขาจะควานหาแว่นตาเจอเพื่อมองหน้ามารดาให้ชัดเจนเผื่อจะเห็นแววล้อเล่นแม้เพียงสักนิด แต่เมื่อใส่แว่นแล้วเขากลับพบกับสีหน้าเต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นชนิดที่ประกายเจิดจ้านั้นเปล่งรัศมีปิดทับหลอดลม ผลักดันคำปฏิเสธของเขากลับที่เดิมอย่างรวดเร็ว...ที่จำได้อีกอย่างคือเขาพยายามหาที่พึ่งเป็นอย่างยิ่ง...ทว่า...

“พ่อว่าอั๊ตก็เรียนจบนานแล้วนะ เมืองนอกเมืองนาก็ไปได้ปริญญาโทมาตั้งสองใบ ลองทำงานดูสักตั้งไม่เสียหายอะไรนี่ ถึงจะเป็นงานไม่เกี่ยวกับที่เรียนมาก็ถือเสียว่าเป็นประสบการณ์ก็แล้วกันนะลูก...อย่าขัดใจแม่เขาเลย” คำลงท้ายนั่นเองที่เป็นสาเหตุแห่งการหว่านล้อมของคุณประจิม

“ยอมแม่หน่อยเหอะอั๊ต พี่ขอล่ะ เพื่อให้พี่มีสมาธิทำงานหนึ่งล่ะ อย่างสองพี่ว่าไม่น่าเสียหายหรอกนะ แกไม่อยากลองเป็นตัวละครมีชีวิตดูบ้างหรือไง จะได้รู้ว่าระหว่างตัวหนังสือกับตัวเป็น ๆ น่ะต่างกันยังไง...สุดท้ายเลย...อย่าขัดใจแม่เลยอั๊ต” นี่ก็เหมือนกัน คำลงท้ายคือใจความสำคัญเหมือนตอนคุณประจิมพูดไม่ผิดเพี้ยน

อาจเพราะด้วยเหตุผล ‘อย่าขัดใจแม่’ หรืออาจเพราะคำยุของผู้เป็นพี่ชายก็สุดรู้ สุดท้าย อัสกัณก็พบว่าตัวเขาเองเมื่อลอกคราบออกก็กลายเป็นหนุ่มรูปงามเพียงชั่วข้ามคืน...แน่นอนว่าการลงทุนเพื่อความต้องการของคุณหญิงอณาประสบความสำเร็จเป็นที่สุด เพราะเพียงหนึ่งเดือนหลังปฏิบัติการลอกคราบ รอยยิ้มเบิกบานก็กลับสู่ใบหน้าคุณหญิงอณาอีกครั้ง เมื่อเหล่าผู้จัดละครซึ่งเคยถอดใจไปแล้วได้ย้อนกลับมาใหม่พร้อมข้อเสนอซึ่งไม่สำคัญสำหรับคุณหญิงอณาผู้เอมใจเลยสักนิด เล่นตัวไปสักพักอัสกัณก็ได้ชิมลางงานละครเรื่องแรกสมใจคุณหญิงอณา

เขาจำได้ดีว่าครั้งแรกที่อ่านบทละครเรื่องนั้นรู้สึกสนใจอย่างบอกไม่ถูก...สนใจเพราะตัวเอกในเรื่องเป็นคนเฉิ่มเชยในตอนแรก แถมชอบอ่านหนังสือทุกชนิด ทุกแนวเป็นชีวิตจิตใจจนจับพลัดจับผลูต้องแปลงร่างเป็นคนสะดุดตาเพื่อพระเอก...ใช่...ตัวเอกของละครเรื่องนั้นคือผู้หญิง และบทที่หากเขาตกลงเล่นจะได้รับคือบทพระเอกที่นางเอกตกหลุมรัก แต่อารมณ์ ความรู้สึก และเรื่องราวของนางเอกในบทละครเรื่องนั้นกลับสะกิดใจเขายิก ๆ หลังอ่านบทละครจบอัสกัณตกลงรับแสดงทันทีท่ามกลางความดีใจจนออกนอกหน้าของคุณหญิงอณา

ละครเรื่องแรกเป็นแนวคอมเมดี้ ‘ป่วนรักสาวเป๋อ’ ดังระเบิดเป็นพลุแตก เพราะนอกจากจะได้อัสกัณหนุ่มหล่อไฮโซอย่างเขาเล่นเป็นพระเอกแล้ว นางเอกดาวรุ่งอย่าง ‘น้องแพนด้า’ ก็เป็นแรงผลักดันให้ชื่อของอัสกัณปรากฏอยู่ทั่วทุกมุมประเทศ ไม่ต้องสงสัย (อีกครั้ง) ว่าคุณหญิงอณาจะปลื้มเปรมเพียงใด

นอกเหนือจากงานละครยังมีงานถ่ายแบบ งานโฆษณา ติดต่อเข้ามาไม่ขาดสาย ทว่าแม้คุณหญิงอณาซึ่งตอนนั้นปฏิบัติตัวเป็นผู้จัดการกลาย ๆ จะชื่นชอบ ชื่นชมการมีลูกชายเป็นดาราสักเพียงใด ในการรับงานแต่ละครั้งมักจะถูกนำมาพิจารณาร่วมกันกับสมาชิกครอบครัวก่อนเสมอ กระทั่งพักหลังเมื่องานชุกเต็มที่ คุณหญิงอณาจึงได้หาผู้จัดการส่วนตัวชนิดเต็มเวลาให้กับลูกชายดาราซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน สุรพล ลูกพี่ลูกน้องของอัสกัณซึ่งเรียนจบการบัญชีจากต่างประเทศ จบกลับมากลายเป็นมนุษย์ล่องลอยเช่นเดียวกับอัสกัณก่อนนั้น ผู้เป็นพ่อซึ่งมีศักดิ์เป็นน้องชายของคุณหญิงอณาจึงเต็มใจอย่างยิ่งเมื่อพี่สาวออกปากขอตัวลูกชายมาช่วยงาน ตั้งแต่นั้นมาคุณหญิงอณาก็วางมือจากการปลุกปั้นลูกชายดารา ซึ่งก็เป็นการวางมืออย่างวางใจได้

สุรพล ทำงานในตำแหน่งที่ได้รับมอบหมายเป็นอย่างดี ความที่เขาเองก็เป็นนักท่องเมืองมายาตัวเอ้ นั่นหนึ่งล่ะ กับการสนิทสนมโดยส่วนตัวกับอัสกัณ ทำให้ทั้งคู่กลายเป็นคู่หูที่เข้าขา(ในการทำงาน)ได้ทีที่สุด

เสียงรถคุ้นหูเคลื่อนเข้ามาใกล้ทำให้อัสกัณหันไปมอง อมยิ้มกับตัวเองพร้อมกับก้าวออกจากจุดซ่อนตัวไปยืนโบกไม้โบกมือให้กับคนขับรถ

“บอกแล้วว่าอย่าออกมาก่อนก็ไม่เชื่อ หอบแฮ่กเลยสิแก” นั่นคือประโยคแรกที่อัสกัณได้รับหลังจากก้าวขึ้นรถปิดประตูเรียบร้อย

“โธ่...ใครจะไปรู้ล่ะพี่ว่าผู้หญิงสมัยนี้กล้าขนาดบุกเข้าไปในห้องน้ำผู้ชายน่ะ เท่านั้นยังไม่พอนะ คุณเธอเล่นเคาะเรียกทุกห้องเลยเชียว” ชายหนุ่มบอกอย่างละห้อยละเหี่ย

“แล้วแกหนีออกมาได้ไงวะ?” สุรพลถามกลั้วหัวเราะ

“เก๊าะ ปีนข้ามห้องน่ะสิพี่ ทุลักทุเลน่าดูชมเลยล่ะ พอออกมาได้ผมก็เผ่นแน่บมานี่ล่ะ” เล่าเสร็จเขาก็ปรับเบาะที่นั่งเอนนอนทันที

“เออ ทน ๆ เอาหน่อยเหอะวะ ช่วงรุ่ง ๆ ก็เป็นอย่างนี้แหละ อีกเดี๋ยวเหอะแกจะได้ถือโทรโข่งประกาศปาว ๆ ว่าแกเป็นใคร”

“ผมคงไม่ทำอย่างนั้นแน่ ๆ ฮะพี่ หลังจากจบละครเรื่อง ‘เบี่ยงรัก’ ผมว่าจะเลิกแล้วล่ะ” อัสกัณบอกเบา ๆ สุรพลปรายตามองส่ายหน้าน้อย ๆ

“คุณป้าจะยอมเร้อ”

“น่าจะยอมนะพี่เอส ผมว่าพักหลัง ๆ นี่ไม่ค่อยเข้ามาวุ่นวายสักเท่าไหร่ รู้สึกจะไปเห่อพี่เอกกับธุรกิจมาแรงนั่นมากกว่า” ชายหนุ่มพูดพลางหาวหวอด อาการสืบเนื่องจากการถ่ายละครมาทั้งคืน

“ไม่เข้ามาวุ่นวาย ไม่ได้หมายความว่าจะเงียบหายนะโว้ย พี่ว่าคลื่นลมยามสงบน่ะ น่ากลัวกว่าคลื่นลมแรงเป็นไหน ๆ” สุรพลเตือนเรียบ ๆ

“เดี๋ยวผมจะลองพูดดูเผื่อจะสำเร็จ” หาทางออกอีกครั้งก่อนจะผ่อนลมหายใจยาว บอกคนขับเป็นนัย ๆ ว่าเขาต้องการพักผ่อนมากกว่าจะพูดเรื่องนี้อีก สุรพลได้แต่มองใบหน้าหล่อเหลาซึ่งถูกแว่นตาดำบดบังไปกว่าครึ่งหน้า แต่ก็ไม่อาจบดบังความหล่อได้อย่างเห็นอกเห็นใจ ได้แต่ภาวนาให้สิ่งที่ดาราหนุ่มปรารถนาประสบผลโดยเร็ว...เพราะเขาเองก็เริ่มเอียนวงการมายาแล้วเช่นกัน






ดูเหมือนว่าความฝันของอัสกัณให้อย่างไรก็ยังเป็นความฝันอยู่วันยันค่ำ เพราะเมื่อเปิดประตูก้าวเข้าบ้านเขาก็พบกับสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกเหนื่อยตั้งแต่มองเห็น คุณหญิงอณานั่งอยู่กลางวงล้อมของผู้จัดละครหลายค่ายและหลายช่อง การพูดคุยอย่างสนุกสนานของกลุ่มคนเหล่านั้นเขารู้ดีเสียยิ่งกว่ารู้ว่าล้วนแต่ใส่หน้ากากเข้าหากัน และเมื่อเขาปรากฏตัวขึ้นความเคลื่อนไหวของเหล่าผู้จัดละครยิ่งมีมากขึ้น

“กลับมาพอดีเลยอั๊ต พี่ ๆ เขามารออยู่นานแล้วล่ะ เห็นว่ามีละครเรื่องใหม่มาเสนอแน่ะลูก” คุณหญิงอณาเอ่ยทักทายใยหน้าเกลื่อนยิ้มปลื้มเปรม

“คุยกับพี่เอสดีกว่ามั้ยฮะ เดี๋ยวผมตามให้” เขาออกตัวหมายหลบฉาก แต่ไม่สำเร็จ

“แม่ว่าอั๊ตคุยเองดีกว่า...คือว่าแม่ลองอ่านบทดูแล้วน่าสนใจทุกเรื่องเลยจริง ๆ นะ” คุณหญิงอณาบอกยิ้ม ๆ เหล่าผู้จัดละครต่างพยักหน้ารับเป็นเชิงสำทับ “อีกอย่างนะอั๊ต พี่ ๆ เขาบอกว่ายินดีรอคิว แต่อยากให้อั๊ตเล่นทุกเรื่องจริง ๆ นะคะลูก” น้ำเสียงของผู้เป็นแม่ปิดร่องรอยความตื่นเต้นไว้ไม่มิด ยังแววตาระริกรื่นนั่นอีกต่างหาก แถมด้วยการขึงตาส่งท้ายคล้ายบังคับให้เขาก้าวเขาไปนั่งกลางวงล้อมซึ่งอัสกันต้องทำตามอย่างช่วยไม่ได้

แทบจะทันทีที่ทรุดลงนั่ง เอกสารเย็บเล่มอย่างดีก็ถูกเลื่อนมาอยู่ตรงหน้าเขา เพียงปรายตามองคำตอบของอัสกัณก็รออยู่ก่อนแล้ว

“ขอผมอ่านดูก่อนก็แล้วกันนะครับ” คำตอบอย่างขอไปทีของเขากลับสร้างความแช่มชื่นให้กับสีหน้าผู้จัดละครทุกรายไป ไม่เว้นแม้แต่คุณหญิงอณาผู้มารดา

“คุณพี่รับรองเลยค่ะว่าถ้าคุณอั๊ตอ่านเรื่อง ‘วิญญาณลวงรัก’ ของ ‘ฉมบ’ จบแล้วจะต้องชอบ”

“คุณพี่ก็ขอรับรองด้วยค่ะว่าเรื่อง ‘แชร์ใจยัยตัวยุ่ง’ ของ ‘คำหยอก’ น่าสนใจไม่แพ้ใคร จำได้มั้ยคะเรื่องแรกที่สร้างชื่อให้คุณอั๊ตก็เป็นนิยายของ ‘คำหยอก’ นะคะ”

“งั้นเดี้ยนขอรับรองร่วมด้วยคนค่ะ เรื่อง ‘เพียงรักข้ามภพ’ ของ ‘เพียงปลี’ บทของคุณอั๊ตก็โดดเด่นไม่แพ้ใคร แนวแฟนตาซีด้วยนะคะไม่อยากลองหรือ ?”

“อะโหย งั้นต้องของเจ้ ดีเลิศเลยฮ้าคุณอั๊ต ภาษาสละสลวย หนังสือติดอันดับขายดีหลายร้านนานติดต่อกันหลายเดือน ตีพิมพ์ซ้ำครั้งที่สิบห้าภายในเวลาสองปี คนเขียนเรื่องนี้เขียนบทละครเองด้วยนะฮ้า คิดว่าคุณหญิงอณาคงพอเคยได้ยินนะฮะ เรื่อง ‘ดั่งดาราในดวงหฤทัย’ ของ ‘ตรีธาร’ น่ะฮ่ะ”

“เรื่องของดิฉันก็ไม่น้อยหน้าใครหรอกนะคะ เบสเซลเลอร์ ณ ปัจจุบันเลยค่ะ ‘พานดอกรัก’ ของ ‘ประสานดาว’ ค่ะ เรื่องนี้รับประกันว่ามีทุกรสชาติของชีวิตเชียวล่ะค่ะ”

ทุกคำอธิบายเชิงเกทับของบรรดาผู้จัดละคร อัสกัณตอบเพียง

“ครับ แล้วผมจะลองอ่านดู” จบแล้วเขาก็ขอตัวไปพักผ่อนโดยไม่ฟังคำทักท้วงจากคุณหญิงอณา






ความเหนื่อยล้าจากการทำงานข้ามวัน อัสกัณแทบอยากกระโดดขึ้นเตียงแล้วหลับตามต้องการ หากไม่ติดที่ว่านิสัยอันแก้ไม่หายคือต้องอาบน้ำก่อนนอนแล้วละก็ เขาคงไม่รอช้าที่จะทำ ความสดชื่นหลังการอาบน้ำของชายหนุ่มหายไปทันมีเมื่อเปิดประตูห้องน้ำออกมาพบกับคุณหญิงอณานั่งยิ้มมีเลศนัยรออยู่ก่อนแล้ว...อัสกัณไม่จำเป็นต้องเดาสักนิดว่าคนเป็นแม่มานั่งรอเขาด้วยเรื่องใดเพราะในมือของคุณหญิงอณาคือบทละครที่เขาโยนทิ้งไว้บนโต๊ะอย่างไม่ไยดี

“น่าสนใจทุกเรื่องเลยนะอั๊ต” คุณหญิงอณาเอ่ยนำอย่างร่าเริง สวนทางกับลูกชายที่เดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วกลับมากระโดดแผ่หลาลงบนเตียงแถมด้วยการหลับตาเพื่อบอกเป็นนัยว่าต้องการพักผ่อน

“แม่ชอบเรื่อง ‘ดั่งดาราในดวงหฤทัย’ ของ ‘ตรีธาร’ มากเลยนะลูก แม่เคยอ่านฉบับเป็นนิยายสนุกมากเลยล่ะ” เสียงของคุณหญิงอณาดังอยู่ใกล้ ๆ พร้อมกับที่นอนยุบยวบ อัสกัณได้แต่พ่นหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย...เขารู้ดีว่าหากไม่ได้คำตอบที่พอใจคนเป็นแม่ไม่มีทางถอยเป็นแน่

“ผมเหนื่อยฮะ จบละครเรื่องนี้ผมอยากพักยาว” ชายหนุ่มเสี่ยงตอบ ยังไม่ยอมลืมตาขึ้นมอง

“ต๊าย ! ไม่ได้นะอั๊ต !” น้ำเสียงตกอกตกใจของคุณหญิงอณาทำให้เขาหรี่ตาขึ้นมอง

“ทำไมละฮะแม่ ผมเหนื่อยอยากพักบ้าง ผมคนนะฮะไม่ใช่หุ่นไม้ไร้ความรู้สึก” เขาประชด

“แม่รู้ แม่เข้าใจว่าอั๊ตเหนื่อย แต่อั๊ตก็รู้ว่าตอนนี้บริษัทของพี่กำลังจะคลอดคอลเลคชั่นใหม่รับหน้าหนาว”

“แล้วไงฮะ” คุณหญิงอณาส่งค้อนวงเล็ก ๆ หลังจากฟังคำพูดไม่ยี่หระของลูกชายคนเล็ก

“ก็พวกผู้จัดเขารับรองว่าจะใช้เครื่องประดับของเราเข้าฉากเกินเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์น่ะสิ” คุณหญิงอณาบอกอย่างตื่นเต้น

“แต่มีข้อแม้ว่าผมต้องเล่นละครเรื่องนั้นด้วยใช่มั้ยฮะ” เขาดักคออย่างรู้ทัน คุณหญิงอณาดีดนิ้วเปาะ

“อั๊ตเข้าใจถูกต้องแล้วจ้ะ ฉลาดที่สุด”

“เครื่องประดับของพี่เอกขายดีอยู่แล้วนะฮะแม่ ไม่เห็นจำเป็นต้องพึ่งโฆษณาทางอ้อมอย่างนี้เลย ยุ่งยากนักผมลัดคิวไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ก็ได้” อัสกัณบอกอย่างใจป้ำ คุณหญิงอณาหน้าง้ำทันที

“ไม่ด้าย...คอลเลคชันนี้มันเหมาะกับคนชั้นสูงจ้ะคุณลูกชาย ใช้วิธีโฆษณาธรรมดาน่ะมันเชยไป อีกอย่างอั๊ตก็เป็นนายแบบให้พี่เขามาตลอดใคร ๆ ก็รู้ มันไม่แปลกใหม่แล้วนะลูก” ฟังเท่านี้อัสกัณก็รู้ได้ทันทีว่าเขาคงหนีไม่ได้อีกแล้ว...และถ้าให้เขาทายจากการชักแม่น้ำของคุณหญิงอณาแล้วละก็...น่าจะเป็นเรื่อง...

“เนี่ย แม่ว่าเครื่องเพชรคอลเลคชั่นใหม่เข้ากันกับเรื่อง ‘ดั่งดาราในดวงหฤทัย’ เลยล่ะลูก นางเอกเป็นเจ้าหญิงพลัดบ้านพลัดเมืองมามีเครื่องประดับชิ้นสำคัญติดมาด้วย ทีนี้ในบทละครที่แม่ลองอ่านผ่าน ๆ ดูนะ มีฉากที่นางเอกต้องหยิบเครื่องประดับมาดูบ่อย ๆ โอ๊ย...เข้าล็อคเป๊ะ ๆ เลย” อัสกัณถอนหายใจยาวเหยียดหลังฟังจบ...ทำไมเวลาซื้อลอตเตอรี่เขาไม่คาดเดาได้แม่นยำอย่างนี้นะ

“ตกลงว่าแม่อยากให้ผมเล่นเรื่องนี้ใช่มั้ยฮะ” เขาถามเนือย ๆ

“วุ้ย...แม่แค่แนะนำเฉย ๆ จ้ะ จริง ๆ แม่ลอง ๆ อ่านดู สนุกทุกเรื่องเชียวแหละ บทที่เขาเสนอให้อั๊ตเล่นก็เด่นทุกเรื่อง จะว่าไปเหมือนบทละครเขียนขึ้นเพื่ออั๊ตอย่างไรอย่างนั้นเลยนะลูก แต่แม่ว่าเรื่อง ดั่งดาราฯ นี่แหละ เข้าท่าที่สุด” อัสกัณรับฟัง กลอกตาเหนื่อยหน่ายก่อนตอบว่า

“แล้วผมจะลองอ่านดูก็แล้วกันฮะแม่...แต่ตอนนี้ขอนอนก่อนได้มั้ยฮะ” คุณหญิงอณาส่งยิ้มพึงใจ

“ก็ได้จ้ะ งั้นแม่ไปล่ะ เดี๋ยวจะบอกแม่ตุ่มให้เตรียมข้าวไว้รอนะ ตื่นมาเผื่ออั๊ตหิว” พูดจบก็ยื่นมือมาลูบศีรษะลูกชายคนเล็กเบา ๆ ก่อนเดินออกจากห้องไป ทันทีที่ประตูปิดสนิท อัสกัณก็ดีดตัวขึ้นจากที่นอน คำพูดของคุณหญิงอณาทำให้สมองเขาตื่นเกินจะข่มใจหลับเหมือนข้ออ้างตัดบท หลุดพ้นจากความง่วงอัสกัณจึงหยิบบทละครทั้งหมดมานอนอ่านเล่น หวังใจว่าตัวหนังสือละลานตาคงพาความง่วงให้กลับมาสู่ที่เดิมไม่ยากนัก






อัสกัณวางบทละครเล่มสุดท้ายลงข้างตัว ถอนหายใจอย่างเอมอิ่มกับฉากจบของเรื่อง...สนุก...น่าสนใจ...เป็นคำตอบรับจากความคิดของเขาเมื่ออ่านจบแต่ละเรื่อง เขาคงจะอ่านจบเพียงเรื่องเดียวแล้วบังคับตัวเองให้นอนพัก หากว่านิสัยอันคุ้นชินจะไม่พาสายตาอ่านพบชื่อคนเขียนบทละครที่เขาเคยรู้มาว่า นิยายบางเรื่องที่ถูกเลือกมาทำละครนั้น บางครั้งหาเนื้อแทบไม่เจอ ทว่าคนเขียนบทละครเก่ง ๆ สามารถทำนิยายน้ำเน่ากลายเป็นละครน้ำดีเรตติ้งกระฉูดได้...คนเขียนบทเรื่องที่เขาประทับใจมีชื่อ หรืออาจจะเป็นนามปากกาว่า ‘ลายดาว’ เมื่อลองหยิบบทเรื่องต่อไปขึ้นมาดูชื่อคนเขียนบทแล้ว อัสกัณยิ่งตาตื่นกว่าเดิม

...บทละครทุกเรื่องที่เหล่าผู้จัดต่างนำเสนอมานั้น มีคนเขียนบทคนเดียวกัน นั่นคือ...ลายดาว...

เพื่อลบความแปลกใจของตัวเอง ผนวกกับสมองตื่นเต็มที่ อัสกัณจึงหยิบบทละครทุกเรื่องขึ้นอ่านอย่างไม่รอช้า และเมื่อเล่มสุดท้ายจบลงเขาก็ได้แต่ทึ่งกึ่งนิยม คนเขียนบทนาม ‘ลายดาว’ ด้วยไม่ว่าเรื่องราวต้นฉบับจะเป็นแนวใด สำนวนบทละครของ ‘ลายดาว’ ก็ลื่นไหล สนุกสนาน เข้มข้นชวนติดตามจนถึงตอนจบ น่าประทับใจยิ่งนัก แถมยิ่งอ่านเขาก็ยิ่งอยากรู้จัก ‘ลายดาว’ เลือดนักอ่านในกายซึ่งเคยสงบลงตั้งแต่ชีวิตดาราไหลเข้ามาถาโถมถูกปลุกให้ตื่นจนรู้สึกคึกคัก

ความรู้สึกเต็มอิ่มจากการอ่านทำให้อัสกัณปิดเปลือกตาอย่างเป็นสุข ความคิดล่องลอยกลับไปยังบทละครที่เพิ่งอ่านจบ คมปากกาลื่นไหลทำให้เขาอดจินตนาการถึงคนเขียนไม่ได้

‘ลายดาว’ เป็นผู้หญิงหรือผู้ชายนะ ?

‘ลายดาว’ จะอายุประมาณไหนนะ ?

...แล้ว...ถ้าเขาตกลงยอมเล่นละครโดยเพิ่มข้อแม้ว่าขอพบเจอคนเขียนบทด้วย...จะได้ไหมนะ ?

...แล้ว...ถ้าได้พบจริง ๆ นอกจากขอลายเซ็นแล้ว...ขอกอด ‘ลายดาว’ ...จะยอมไหมนะ ?

...เฮ้อ...



รัมย์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 เม.ย. 2554, 22:54:38 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 เม.ย. 2554, 22:54:38 น.

จำนวนการเข้าชม : 2440





   เลศที่ 1 >>
SaiParn 8 เม.ย. 2554, 21:06:32 น.
เจ้...ป่านอ่านเรื่องย่อของเจ้แล้ว ฮึ่มมมมมมมม เนี่ยแร๊ะเจ้ของจริง เหอเหอ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account