สัญญารัก...ข้ามฟ้า (สนพ ดอกหญ้า 2000)
เอริน..ว่าที่มัคคุเทศก์คนใหม่วัย 25 ปี ที่โชคชะตานำพาให้พบกับใครบางคนที่แดนไกลในครั้งอดีต และต้องจากกันไป
ชานนท์..นักธุรกิจหนุ่มใหญ่วัย 35 ปี เขากำลังกลับมาตามหาอดีตที่หายไปหลังจากปล่อยเธอไปเมื่อหนึ่งปีก่อน พร้อมกับมาทวงสัญญารักที่จะทำให้เธอต้องจนมุม...อีกครั้ง


Tags: สัญญารัก...ข้ามฟ้า , รักโรแมนติก , ซึ้งกินใจ

ตอน: ตอนที่ 22-23 แค่ใครสักคน..

: แค่ใครสักคน...


ระยะทางจากบ้านสวนโฮมสเตย์ไปยังบ้านต้นไม้บนเนินเขาวันนี้ช่างดูยาวไกลเสียจนกรณ์รู้สึกอึดอัด หลังจากพบเห็นภาพบาดตาและได้ยินเรื่องบางอย่างที่ทำให้จิตใจกระวนกระวายจนอดรนทนไม่ได้ที่จะนึกถึงใครบางคนที่อยู่เพียงลำพังที่บ้านต้นไม้ ป่านนี้หญิงสาวคนนั้นจะอยู่อย่างไรถ้ารู้ว่าคนที่อุตส่าห์มาตามหาถึงที่กำลังจะตกลงปลงใจกับลูกสาวเจ้าของบ้านสวนโฮมสเตย์ เพื่อนรักสุดหวงของเขาเสียแล้ว

แล้วกรณ์ก็ต้องชะงักหยุดนิ่งอยู่แค่ตรงเชิงบันไดเทอเรซกว้างยังไม่ทันที่จะก้าวเท้าขึ้นไป ทันทีที่พบเจอใครคนนั้นซึ่งเป็นเป้าหมายของเขานั่งเหม่อมองไกลไปยังที่ไหนสักแห่งท่ามกลางความมืดทึบของต้นไม้นานาพรรณ

ความมืดที่ปกคลุมไปทั่วบริเวณมีเพียงแสงสลัวลางจากไฟสีนวลในห้องสาดส่องมา ไม่ทำให้ราเชลที่นั่งปลดปล่อยอารมณ์อยู่ริมระเบียงเทอเรซกว้างอย่างหงอยเหงาหวาดกลัวแต่อย่างใด ผมยาวสยายฟูเป็นลอนได้รูป รับกับสันจมูกโด่งคมที่มองเห็นจากเพียงด้านข้างก็ทำเอากรณ์ถึงกับยืนนิ่งไม่กล้าเข้าไปอย่างที่ใจคิดแต่แรก

เสียงใบไม้แห้งสวบสาบดังขึ้นจากไหนสักแห่ง ราเชลหันขวับไปตามเสียงนั้นฉับพลันความหวาดหวั่นก็เข้ามาแทนที่ถ้าหากไม่บังเอิญเห็นเสียก่อนว่าเจ้าของเสียงเมื่อสักครู่คือกรณ์

“เอ๊ะ..นาย” ราเชลสบตากรณ์ที่ยืนละล้าละลังกำลังคิดจะเดินกลับลงไปไม่มาทักทาย


“อืม..ผมมาดูคุณว่าอยู่ได้รึเปล่า เห็นคุณสบายดีผมก็กำลังจะกลับ เอ่อ.. แล้วแฟนคุณล่ะเขานอนแล้วเหรอ”

กรณ์ตัดสินใจเดินเข้ามาราเชลแล้วทำทีเป็นเอ่ยถามถึงชานนท์ทั้งที่รู้ดีอยู่แก่ใจแล้วว่าเขาอยู่ที่ไหน แต่ก็ยังอยากที่จะรู้ความเป็นมาเป็นไป

“เขา..เอ่อ..อืม นอนแล้ว”

ราเชลเสหลบตาวูบ ตอบอ้อมแอ้มไม่เต็มเสียงนัก สายตายังมองทอดไกลลงไปเบื้องล่างถนนที่เห็นเพียงรำไรจากแสงไฟสลัวตรงลานจอดรถแก้เก้อ กรณ์ก้าวขึ้นบันไดมายืนเคียงข้างหล่อนพร้อมทั้งมองตามสายตาที่ทอดยาวไปไกล

หลังคาบ้านสวนสามารถมองเห็นผ่านต้นไม้รกทึบอยู่รำไร กรณ์ถอนหายใจอย่างคิดหนัก เมื่อรู้ว่าจุดมุ่งหมายในการมองหาใครคนนั้นอยู่แห่งใด กว่าจะเปิดปากพูดได้ก็ทำเอาราเชลเหลือบมองด้วยความสงสัย จนกรณ์ต้องเอ่ยออกมา

“คุณกับเขายังรักกันดีอยู่รึเปล่า”

“หมายความว่าไง ไม่ต้องห่วงหรอกฉันตั้งใจจะมาชวนเค้ากลับอังกฤษด้วยกัน อย่างน้อยเราก็เคยรักกันเค้าคงไม่ปฏิเสธฉันเพราะ..เอ่อ ช่างเถอะ ถึงยังไงเค้าก็ไม่มีทางขัดใจพ่อฉันได้ตราบใดที่เรายังต้องเกื้อหนุนธุรกิจกันอยู่”

ราเชลครุ่นคิดอย่างหมายมั่น ไม่มีทางที่หล่อนจะปล่อยชานนท์ให้กับผู้หญิงธรรมดาที่ไม่คู่ควรและไม่สามารถพึ่งพาใดๆในทางธุรกิจได้อย่างเอริน

“อ๋อ..คุณตีค่าเค้าเป็นตัวเงินมากกว่าหัวใจนี่เอง มิน่า” กรณ์ยิ้มเหยียดอย่างกวนประสาทในสายตาราเชลจนหล่อนถึงกับหงุดหงิด“มิน่าอะไร บอกมาเดี๋ยวนี้” ราเชลเสียงเขียวตวาดกลับ แต่กรณ์ก็หาได้เกรงกลัวหนำซ้ำยังพูดแดกดันกลับไปอย่างหมั่นไส้ในน้ำเสียงห้วนของราเชลอีก

“เรื่องอะไรจะบอก แต่ผมถามจริงๆนะ คุณอยากดึงเขากลับไปเป็นของคุณขนาดนั้น แต่คุณดันเอาเรื่องธุรกิจมาขู่เนี่ยนะ ผู้ชายที่ไหนจะยอมรับกัน”

กรณ์ถามเสียงหยันอยากจะเตือนสติแต่ก็ไม่วายที่ราเชลสวนทันควันด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด“ไม่ต้องมายุ่ง ยังไงอเล็กซ์ก็ไม่มีทางหนีฉันพ้น ไม่ต้องมาพูดมากเลย หลีกไป!!”

ราเชลตอบน้ำเสียงสะบัดนึกรำคาญเด็กหนุ่มจอมยุ่งพูดกวนประสาทเต็มทน พยายามหลบหลีกจะเดินหนีกรณ์เข้าไปภายในตัวบ้านแต่กรณ์ก็ยังดักทางซ้ายขวาไม่ลดละ

"ฮึ๊ย...ไอ้บ้า ถอยไป กวนประสาท"

ราเชลสบถอย่างหงุดหงิดที่ต้องมาเล่นเจ้าล่อเอาเถิดกับหนุ่มอ่อนวัยกว่า แต่แล้วคำพูดของกรณ์ก็หยุดหญิงสาวได้ชะงัดนัก

“หนีอะไรก็หนีได้ แต่หนีความจริงไม่ได้ คุณรู้มั๊ยราเชล บางครั้งโอกาสมันก็อาจจะผ่านเราไปโดยที่เราไม่ทันตั้งตัวหรือเตรียมใจไว้ก็ได้ จะมีประโยชน์อะไรถ้าหากความรักที่คุณถวิลหาเสียเหลือเกินจะต้องซื้อหามาด้วยเงินไม่ใช่หัวใจ แล้วจะมีประโยชน์อะไรที่คุณจะมาเสียเวลากับคนที่เค้าไม่รักคุณล่ะ จะดีกว่ามั๊ยถ้าคุณจะกลับไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในที่ที่คุณมา..หรือคุณว่าไง”

กรณ์กลั้นใจถามด้วยอยากจะหยั่งเชิงและเตือนสติหญิงสาวอีกครั้ง ทั้งนึกเป็นห่วงเอรินที่ดูจะไม่รู้อิโหน่อิเหน่ และทั้งราเชลก็ดูเหมือนจะยังไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าความสัมพันธ์ของชานนท์และเอรินกำลังคืบหน้าไปไกลจนแม้แต่ตัวเขาเองและหล่อนก็ไม่อาจจะตามทันเสียแล้ว

คำพูดชวนสะดุดหูของกรณ์ ราเชลมองด้วยสายตาจับผิด ดวงตาคมเรียวคลอไปด้วยน้ำใสอย่างนึกหวั่นใจ คนฉลาดทันคนอย่างหล่อนทำไมจะไม่รู้กันว่ามีความนัยอะไรบางอย่างที่แอบแฝงอยู่ในคำพูดของเขาและทำให้หล่อนนึกสงสัยและจะต้องจะรู้ให้ได้

“หมายความว่าไง บอกมานะ!!”

“เปล่า..ไม่มีอะไร ที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องของผม ถ้าคุณอยากจะดื้อแพ่งก็พากันกลับๆไปซะจะได้หมดเรื่อง ขออย่างเดียวอย่างมายุ่งกับเอรินของผมก็พอ ขอเตือนคุณไว้ก่อนนะ อย่าให้เธอเสียน้ำตาไม่งั้นผมไม่เอาคุณไว้แน่” สายตาของกรณ์ที่มองมาเด็ดเดี่ยวมั่นคง ดุดัน จนราเชลถึงกับนิ่งไป

“เงียบไปอย่างนี้ แสดงว่าเข้าใจแล้ว งั้นผมขอตัว”

กรณ์พูดจบจะเดินลงบันไดที่นอกชานแต่ไม่ทันราเชลกระชากแขนหนาของเขาไว้อย่างแรงแล้วถามเสียงเข้มเอาเรื่อง“เดี๋ยว!! เมื่อกี้ไม่ได้พูดอย่างนี้นี่ คุณบอกให้ฉันปล่อยเค้า แล้วอยู่ดีๆให้พาเค้ากลับไป หมายความว่ายังไง อย่ามาทำให้อยากรู้แล้วไปนะ”

น้ำเสียงเข้มชวนหาเรื่องของหญิงสาวทำเอาชายหนุ่มที่เกลียดถ้อยคำแข็งกร้าวอย่างกรณ์ถึงกับหงุดหงิด โดยไม่ทันตั้งตัวชายหนุ่มสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมของราเชลอย่างแรงเช่นกันจนหล่อนเสียหลักล้มลงตกลงไปในซอกบันไดเทอเรซขั้นแรก หญิงสาวถึงกับร้องโอดโอยกุมข้อเท้าที่ยังเจ็บจากอุบัติเหตุรถชนซึ่งบัดนี้ไปพับขัดกับเท้าอีกข้างที่ตกลงไปในซอกบันไดอย่างเจ็บปวด

“ราเชล!! คุณเป็นยังไงบ้าง ผมขอโทษ ผม...ขอโทษ”

กรณ์ถลาเข้ามาช่วยประคองราเชลที่สีหน้าเหยเกเพราะความเจ็บปวด สองมือกำหมัดทุบถองแผ่นอกหนาของชายหนุ่มอย่างโมโหสุดขีด “ไอ้บ้า ไม่ต้อง!! ฮือ ฮือ ฉันเจ็บ ทำไมชอบทำฉันเจ็บอยู่เรื่อย” ราเชลสะอึกสะอื้นอย่างคับแค้นใจแล้วตวาดกรณ์ไปอย่างเหลืออดเต็มทน

“มา..ผมช่วย คุณค่อยๆลุกนะ” กรณ์ประคองราเชลจะให้ลุกขึ้นแต่หญิงสาวปัดป้องอย่างถือดีไม่ต้องการความช่วยเหลือใดๆ“ไม่ต้องมายุ่ง ผู้ชายไทยเป็นอย่างนี้กันหมดรึไง ชอบรังแกผู้หญิง”

“ผมขอดูหน่อย เจ็บมากมั๊ย ไหนดูซิ”

“ไม่ต้อง เอามือออกไป ฮือ..ฮือ..อเล็กซ์ก็คนนึงทิ้งฉันไปหานังเด็กคนนั้น แล้วยังจะนายมาทำฉันเจ็บอีก มันจะอะไรนักหนานะชีวิตฉันเนี่ย”

ราเชลทุบไหล่กรณ์พัลวัน จนชายหนุ่มอดรนทนต่อไปไม่ไหวช้อนตัวอุ้มสาวใหญ่แล้วเดินตัวงอเข้าบ้านพักไป

“ปล่อย!! ปล่อยฉันนะ ปล่อยยยย”

///////////////

ภายในห้องเรือนกระจกของบ้านต้นไม้มีเพียงแสงไฟสลัวจากโคมไฟหัวเตียงสีเหลืองนวลที่ราเชลเปิดทิ้งเอาไว้ กรณ์บรรจงวางร่างนางแบบสาวหุ่นสวยลงบนเตียงให้แผ่นหลังพิงอยู่กับหัวเตียงอย่างเบามือ ก่อนจะคว้าผ้าห่มขึ้นมาคลุมให้แล้วนั่งลงข้างเตียง ราเชลเฝ้ามองการกระทำนั้นด้วยสีหน้านิ่งสนิท ไม่ยินดียินร้ายใดๆ เสียจนกรณ์ต้องเอ่ยทำลายความเงียบ

“ขอโทษนะ ที่ผมทำคุณเจ็บ แต่ผมไม่ได้ตั้งใจ ขอผมดูข้อเท้าคุณหน่อย”

กรณ์สบตาวาววามของราเชลที่จ้องมองไม่วางตา ทำเอาชายหนุ่มออกอาการประหม่าเล็กน้อย เสหลบสายตากุลีกุจอจับข้อเท้าราเชลคลึงอย่างเบามือ“น่าจะได้ยานวดหน่อยจะได้หายเร็ว” กรณ์สำรวจข้อเท้าที่บวมช้ำแดงน้อยๆของราเชลอย่างรู้สึกผิด

“ไม่เป็นไร นายไปเถอะ” ราเชลหดข้อเท้าไม่ให้ความร่วมมือ แต่กรณ์ยังยื้อเอาไว้แล้วเอาผ้าห่มคลุมให้อย่างเบามือ

“เดี๋ยวผมมา รอแป๊บผมจะไปขอยาที่ป้ามาทาให้คุณนะ”

กรณ์รีบลุกขึ้นจะออกไปจากห้องด้วยท่าทีกระตือรือร้น แต่แล้วก็ถึงกับชะงักเมื่อรู้สึกถึงสัมผัสนุ่มนิ่มคว้ามือของเขาเอาไว้“ไม่ต้อง..ไม่เอา”

ราเชลคว้าแขนกรณ์ไว้แล้วดึงให้เขาโน้มตัวลงมาแล้วจูบเบาๆเข้าที่ริมฝีปากหนาของกรณ์ชั่วครู่ กรณ์ถึงกับตะลึงตาเบิกโพลงอย่างตกใจ

“คุ..คุณ ทำไม”

แล้วก็เป็นกรณ์ที่ถึงกับอึ้งไปเสียเองเมื่อราเชลปล่อยมือเขาให้เป็นอิสระ ชายหนุ่มถึงกับมือไม้เย็นเฉียบยืนนิ่งอึ้งอย่างตกตะลึง ไม่คิดไม่ฝันว่าจะเจอสถานการณ์อย่างนี้กับผู้หญิงถือตัวอย่างร้ายกาจอย่างราเชล ยิ่งเมื่อได้มองเห็นแววตาระริกไหวและริมฝีปากแย้มยิ้มของหล่อนยิ่งต้องคิดหนักอย่างมึนงง

“ขอบใจนะ จูบของเด็กหนุ่มนี่ให้รสชาติที่ไม่เลวเลย ฉันรู้สึกดีขึ้นเยอะ”

/////////////

ท้องฟ้ายามเช้าของวันใหม่ยังคงครึ้มสลัวคล้ายกับจะมีเมฆฝนใหญ่ เอรินยืนอยู่ริมหน้าต่างของห้องพักแขกที่เห็นมุมของสวนไม้หอมสีขาวนวลบานสะพรั่ง หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดลึกอย่างปลดปล่อยอารมณ์ ไม่ทันได้สังเกตชานนท์ที่เข้ามายืนซ้อนหลังพร้อมโอบกอดรอบเอวเล็กแน่นอย่างรักใคร่

“คิดอะไรอยู่..หืม”

เสียงทุ้มนุ่มกระซิบแผ่วเบาผ่านใบหูของสาวน้อย ทำเอาเอรินขนลุกเกรียวมือเรียวบางเกาะกุมมือหนาที่โอบรอบเอวเอาไว้อย่างหลวมๆ“กำลังคิดว่าถ้าฉันเจอแม่คุณจะทำหน้ายังไง”

“คุณว่าท่านจะยอมรับฉันมั๊ยคะ ถ้าเกิดว่าแต่งงานกันแล้วเราจะอยู่ที่ไหน คุณอยากให้ฉันไปอังกฤษกับคุณ แต่ฉันยังไม่รู้จะไปทำอะไรที่นั่นนี่คะ”

เอรินเจื้อยแจ้วอย่างอารมณ์ดี ถึงแม้จะมีร่องรอยหวาดหวั่นแฝงอยู่ในแววตา แต่เอรินยังคงแย้มยิ้มอย่างมีความหวัง ศรีษะทุยพิงแนบบนไหล่หนาของชานนท์พลางใช้ความคิด ต่างกับชานนท์ที่มีสีหน้าลำบากใจชั่วครู่แต่ก็ปรับเปลี่ยนได้เป็นปกติโดยเร็วพลัน

“เธอน่ารักขนาดนี้ ท่านต้องรักเธออยู่แล้วล่ะ ฉันแทบจะรอวันที่เราสองคนจะได้เข้าพิธีแต่งงานกันแทบไม่ไหวแล้วนะเอริน ฉันอยากกอด อยากจูบ อยากอยู่กับเธอทั้งวันทั้งคืน ไม่อยากให้เธอคลาดสายตาฉันแม้แต่วินาทีเดียวเลยจริงๆนะ”

“คุณโลภไปรึเปล่าคะ ขนาดนั้นเชียว อยู่กับฉันตลอดเวลาอีกไม่นานคุณก็เบื่อ”

เอรินยิ้มตาเป็นประกายแกล้งพูดสัพยอก ในขณะที่ชานนท์กระชับกอดหล่อนแน่นเข้าอย่างหวงแหน“หึหึ...คงจะจริงนะ ฉันอาจจะโลภมากไป แต่ฉันไม่มีวันเบื่อเธอหรอก..เอริน”

สองหนุ่มสาวยิ้มให้กันและกันอย่างมีความสุขด้วยความหวังใหม่ในชีวิตท่าทางที่มีความสุขอย่างมากมายของคู่รักข้าวใหม่ปลามันที่ต่างอิงแอบแนบชิดกันและกันราวกับโลกทั้งโลกมีเพียงพวกเขาทั้งสองเท่านั้น ทำให้ใครบางคนที่กำลังยืนมองดูผ่านทางหน้าต่างกระจกของฝั่งสวนไม้หอมด้วยสายตาเย็นชาถึงกับกำหมัดแน่น...

///////////////

มินตรานั่งอ่านเอกสารสำคัญบางอย่างอยู่ภายในห้องทำงานที่เต็มไปด้วยหนังสือและกองกระดาษสุมเรียงรายกันอยู่เป็นจำนวนมาก สีหน้าเคร่งเครียดคิดหนักของหญิงสาวทำเอาอธิปที่เพิ่งกล่อมลูกน้อยให้หลับแล้วจะมาตามมินตราให้ไปนอนได้แต่มองด้วยความเป็นห่วง

“เอ๊ะมันยังไงกันนะ แปลกจัง”

มินตรามองเอกสารในมือสองสามแผ่นสลับไปมาอย่างคิดไม่ตก แล้วหล่อนก็ถึงกับต้องสะดุ้งเมื่ออธิปเข้ามาโอบไหล่เนียนอย่างให้กำลังใจพร้อมด้วยนมอุ่นแก้วใหญ่“อะไรแปลกจ้ะ งานมีปัญหาเหรอ” อธิปค้อมตัวลงมามองดูเอกสารในมือมินตราพร้อมทั้งยื่นแก้วนมให้มินตรารับไป

“ขอบคุณนะโอม อุ่นจัง งานมีปัญหานิดหน่อยน่ะ อยู่ดีๆพี่นนท์ก็โทรศัพท์มาบอกว่าจะถอนตัว ให้มินยกเลิกที่ทำมาทั้งหมดแล้วให้รับช่วงต่อโรงแรมที่กำลังจะสร้างน่ะสิ แล้วก็ยังไม่ได้อธิบายอะไรให้มินเลย มะรืนนี้มีนัดประชุมบอร์ดด้วย แล้วมินจะพูดยังไง” มินตราเหลือบตามองสามีอย่างรักใคร่

“อ้าว แล้วอเล็กซ์ล่ะจะไปไหน แล้วอีกอย่างมินจะไหวเหรอ แค่ออกแบบทำแบบโรงแรมใหม่ให้อเล็กซ์ ฉันก็เห็นมินง่วนอยู่ทั้งวันไม่เป็นอันทำอะไรแล้วนะ สงสัยต้องโทษอเล็กซ์แล้วที่ใช้งานเมียฉันหนัก”

“เห็นว่าพี่นนท์ขอเอรินแต่งงานแล้ว จะย้ายไปอยู่ลอนดอนกัน เอรินตกลงกับพี่นนท์แล้วนะโอม มินดีใจจังน้องรักจะได้เป็นฝั่งเป็นฝากับพี่นนท์ซะที แต่พี่นนท์เล่นโยนหน้าที่ใหญ่ขนาดนี้มาให้มิน จะไหวได้ยังไง”มินตรายิ้มในหน้า แต่แววตายังคงกังวลอยู่

“ก็ดีแล้วนี่จ้ะ พี่เราจะได้มีคนดูแลนะ แล้วอีกอย่างยัยแสบนั่นรักอเล็กซ์จะตายแต่ทำปากแข็ง หึหึ ดีจังมีคนปราบพยศยัยแสบซะที”
อธิปดึงมินตราให้ลุกขึ้นยืนประจันหน้ากัน มือหนาปัดปอยผมที่รวบไว้ลวกๆให้เข้าที่เข้าทางก่อนจะบรรจงจูบหน้าผากนูนสวยราวกับจะส่งผ่านกำลังใจ มินตราถึงกับยิ้มเต็มแก้ม

“กำลังใจมาเยอะเลยโอม มินไม่เหนื่อยหรอก แต่ที่เหนื่อยน่ะคือเหนื่อยใจมากกว่า โอมดูนี่สิวันนี้มีคนส่งจดหมายนี้มาให้มิน โอมช่วยมินดูหน่อยว่าเขาต้องการอะไร”

มินตรายื่นเอกสารมาให้อธิป ชายหนุ่มรับมันมาดูอย่างตั้งอกตั้งใจ หลังจากอ่านทวนซ้ำไปมาหลายรอบอธิปก็ถึงกับขมวดคิ้วอย่างหนักใจแกมสงสัย

“พัชระ อสิราพัฒน์ ใครกันนะ นามสกุลคุ้นๆ”

“นั่นสิ มินก็คิดไม่ออก ติดอยู่ปลายจมูก คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกสักที เขามาเกี่ยวอะไรกับบ้านเรา แล้วใครกันส่งจดหมายพวกนี้มา” มินตราซบหน้าลงบนไหล่กว้างของสามีอย่างครุ่นคิด สองมือน้อยโอบกอดรอบเอวอธิปไว้พร้อมทั้งพึมพำออกมาเบาๆ“มินเป็นห่วงพี่นนท์กับเอรินจังเลย โอม ขอให้คู่นั้นได้แต่งกันไปเร็วๆก็ดีนะ มินรู้สึกไม่ดียังไงก็ไม่รู้ กลัวสองคนนั้นจะไม่ได้แต่งกัน”

“โอ้โห มิน อเล็กซ์หมายมั่นปั้นมือจะจับเอรินซะขนาดนั้น อย่าคิดมากเลยนะมิน ไปนอนกันดีกว่าเดี๋ยวลูกในท้องพักผ่อนไม่เพียงพอจะแย่เอาได้นะ

“ชักจะน้อยใจแล้วนะ ห่วงแต่ลูกไม่ห่วงแม่ใช่มั๊ย”

“โอ๊ย ที่รัก คิดอะไรอย่างนั้นจ้ะ เมียทั้งคนไม่รักไม่ห่วงใยได้ยังไงกัน”

อธิปโอบประคองมินตราที่ตั้งครรภ์อ่อนๆไปด้วยกันอย่างรักใคร่ห่วงใย โดยมีมินตรากระเง้ากระงอดไปตลอดทาง

/////////////

เช้าวันใหม่ที่แสนสดใส ท่ามกลางบรรยากาศสดชื่นของแมกไม้พรรณพฤกษาที่พร้อมใจกันออกดอกบานสะพรั่งในสวนไม้หอม ราเชลกลับเดินออกมาจากสวนไม้หอมด้วยอาการหงุดหงิด

ตั้งแต่เช้าที่ตื่นมาตามชานนท์ถึงบ้านใหญ่ของบ้านสวนโฮมสเตย์เพื่อจะตกลงกันให้รู้เรื่อง แล้วหล่อนก็เผลอหลงเข้ามาในสวนไม้หอมที่มีกลิ่นดอกไม้เย้ายวนใจเสียจนต้องเข้ามาชื่นชม แต่แล้วกลับต้องมาเห็นภาพบาดตาเข้าให้ทำเอาสาวมั่นถึงกับอารมณ์เสีย

“ยัยเด็กไวไฟ ป่านนี้ไปถึงไหนกันแล้วเนี่ย ยัยเอริน เธอนี่ไม่เบานะ ฉันประเมินเธอต่ำไป”

ราเชลครางลอดไรฟันอย่างโกรธเกรี้ยว ใบหน้าสวยคมบูดบึ้งราวกับขัดใจมากมายทำเอากรณ์ที่เพิ่งมาจากบ้านของตนที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านสวนโฮมสเตย์ได้แต่ยืนมองอยู่หน้าซุ้มประตูทางเข้าบ้านหลังน้อยของเอรินด้วยความสงสัย

ทันทีที่เห็นชายหนุ่มอ่อนวัยยืนยิ้มกวนขวางอยู่บริเวณซุ้มประตู ราเชลก็ขึ้นเสียงใส่ทันทีแทบไม่ต้องคิดให้เสียเวลาเลยทีเดียว

“มาทำไมแต่เช้า ไม่มีอะไรทำรึไง หลีก!! ขวางอยู่ได้”

ราเชลเสียงแหวใส่ไม่พอ ยังผลักแขนกรณ์ที่ยกขึ้นมากางกั้นอย่างแกล้งกวนหล่อน ทำเอาชายหนุ่มถึงกับกุมหัวไหล่หนาร้องโอดโอย“แรงยักษ์รึไงแม่คุณ เป็นอะไรไปกินรังแตนมาแต่เช้า”

กรณ์ลอยหน้าลอยตาตอบ นึกสนุกที่ได้แกล้งราเชลสาวมาดเยอะให้หน้าหงิกแต่เช้า แล้วชายหนุ่มก็ได้รางวัลเป็นค้อนวงใหญ่และคำพูดแสบๆคันๆ

“ยุ่ง!! ถอย”

“แหม ทีเมื่อคืนยังจุ๊บเราอยู่เลย เช้านี้ทำมาอารมณ์เสีย” กรณ์ตะโกนไล่หลังราเชลที่เดินจ้ำพรวดไปทางบ้านต้นไม้อย่างหงุดหงิด

“หยุดพูดไปเลย พูดอีกโดนตบปากฉีกแน่”

ราเชลหันมาค้อนขวับใส่ด้วยความโมโหคำพูดจี้ใจดำของชายหนุ่ม แล้วก็ต้องหยุดชะงักเมื่อมองตามสายตากรณ์ที่อยู่ๆก็เงียบไป สายตาละห้อยของกรณ์ที่คอยชะเง้อชะแง้มองหาเอรินที่อยู่ในบ้านหลังน้อยด้วยสายตาเป็นห่วง ทำให้ราเชลได้แต่มองด้วยความหมั่นไส้ นึกอยากจะต่อปากต่อคำอีก แต่แล้วก็เห็นเอรินเดินออกมาจากบ้านน้อยพร้อมกับชานนท์ทางประตูฝั่งสวนไม้หอม

กรณ์ถึงกับหน้าซีดเมื่อเหลือบเห็นมือที่กุมกันแน่นของสองหนุ่มสาวและสีหน้ามีความสุขหัวร่อต่อกระซิกของเอรินและชานนท์ ชายหนุ่มถึงกับถอนหายใจอย่างคิดหนักทันทีที่หันไปเห็นสายตาของราเชลที่มองมายังสองหนุ่มสาวอย่างกินเลือดกินเนื้อ จึงรีบฉุดข้อมือหญิงสาวที่ไม่ทันจะตั้งตัวก็โดนลากตัวปลิวเข้าไปหลบหลังต้นไม้ริมทางเดินเสียแล้ว

“จะบ้ารึไง เรื่องอะไรมาลากฉันถูลู่ถูกังแบบนี้ ไม่ใช่เพื่อนเล่นนะ”

ราเชลทุบไหล่กรณ์ดังปึก ก่อนจะขืนตัวลุกขึ้น แต่ไม่พ้นมือกรณ์ที่ฉุดให้ลงมานั่งหลบด้วยกัน“หุบปากไปเลย เงียบๆ” กรณ์จุ๊ปากใส่ราเชลให้หยุดพูด แต่ไม่วายที่ราเชลจะพูดขัดหูเขาอีกจนได้

“จะพูด มีปัญหาอะไร ปล่อยเลยนะฉันจะไปหาอเล็กซ์..”

ราเชลโวยวายจนกรณ์ถึงกับเหงื่อตก เลยพูดขู่เข้าให้“อย่าหวังจะได้ไปพูดจาทำร้ายน้ำใจเอริน ถ้าไม่ฟังกันระวังผมจะจูบโชว์ไอ้ผู้ชายเฮงซวยของคุณนะ คุณอย่าได้หวังเลยว่าเขาจะมองคุณอีกต่อไปน่ะ”

กรณ์กำชับขู่พร้อมทั้งโอบไหล่บางของราเชลแน่นบังคับให้นั่งข้างกัน และเพราะกำลังจ้องมองกันและกันด้วยสายตาท้าทายทำให้ทั้งกรณ์และราเชลไม่ทันได้สังเกตเห็นว่ามีใครกำลังตรงมาทางพวกเขา และเสียงทักทายนั้นทำให้ทั้งสองต้องลุกพรวดขึ้นมาแทบไม่ทัน

“ยักษ์ ทำอะไรน่ะ เอ๊ะ คุณราเชล”

เอรินปล่อยมือออกจากการเกาะกุมกับชานนท์อย่างเก้อเขิน ในขณะที่กรณ์ดึงมือราเชลให้ลุกขึ้นมายืนเคียงกันอย่างทุลักทุเล

“เอ่อ คือพวกเรา คือ..”กรณ์อึกอักนึกคำพูดเอาตัวรอดไม่ออก ได้แต่มองราเชล เอรินและชานนท์สลับกันซ้ายทีขวาที จนชานนท์เอ่ย

“พวกคุณมีอะไรกันรึเปล่า ราเชลคุณดูหน้าแดงๆนะ”

ชานนท์เอ่ยหยอกเย้า ยังไม่ทันที่ราเชลจะได้แก้ไขความเข้าใจผิด หญิงสาวก็ถึงกับต้องหน้าแดงอีกรอบ เมื่อจมูกของกรณ์ตวัดผ่านแก้มนวลของตนอย่างรวดเร็ว“ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่...อย่างที่เห็น พวกเรากำลังตกลงกันอยู่ว่าจะคบกันดีมั๊ย แต่เธอแหละยัยดื้อมาขัดจังหวะ ดูสิว่าที่แฟนฉันอายหน้าแดงหมดแล้ว”

กรณ์กระทุ้งหัวไหล่หนาเข้ากับไหล่บางของราเชลพร้อมทั้งโอบรอบเอวคอดของหล่อนอย่างจงใจ ทำเอาราเชลที่พูดไม่ออกกับคำหน้าด้านของกรณ์ถึงกับแหวใส่

“ฮึ๊ย ไอ้บ้า ทำบ้าอะไร ฉันไม่โอเค ไม่โอเค!!”

ราเชลพยายามผลักไสชายหนุ่มอ่อนวัยกว่าแต่ก็ไม่อาจต้านทานแรงไหว กรณ์กระซิบข้างหูราเชลอย่างแผ่วเบาทั้งที่โดนทุบตีพัลวันแต่ก็ไม่ปัดป้องแต่อย่างใด และคำพูดของกรณ์ก็ทำเอาราเชลถึงกับตะลึง“มาแสดงละครกันหน่อย เร็ว”

“ละครอะไร ปล่อยนะ!! จะบ้าแล้วรึไง”

ยังไม่ทันที่จะได้แสดงอิทธิฤทธิ์ต่อ กรณ์ก็คว้าราเชลเข้ามากอดหมับพร้อมทั้งกดแนบศีรษะหล่อนเข้ากับไหล่กว้างไม่ให้ราเชลได้ตั้งตัว แล้วกระซิบข้างหูตอบข้อข้องใจของหญิงสาว

“บทบาทของเพื่อนผู้แสนดี คุณกับผม..เรามาแสดงละครกันหน่อยเพื่อเพื่อนรักของพวกเราไง”

กรณ์กระซิบแนบหู ราเชลได้แต่อึ้งไปอย่างงุนงงปรับความคิดตามไม่ทัน แล้วหล่อนก็ต้องถึงกับเบิกตากว้างเพราะโดนกรณ์กระแซะเข้าให้อีก

“ไอ้..ไอ้บ้า!! ทุเรศ!! ”

ราเชลพยายามทั้งผลักทั้งดันร่างใหญ่โตของหนุ่มอ่อนวัยกว่าให้ออกห่าง ทันทีที่เหลือบสายตามองเห็นชานนท์ที่กำลังยิ้มกริ่มมองคนทั้งสองด้วยแววตาตื่นเต้น ในขณะที่เอรินแอบหลบด้านหลังเพราะเกร็งกับสายตาที่มองมาอย่างหาเรื่องของราเชล

“พวกคุณสองคน...เอ่อ ดีใจด้วยนะ ดีใจด้วยนะราเชล คุณเจอคนที่สมน้ำสมเนื้อกับคุณแล้วล่ะ”

“ไม่นะ..ไม่ใช่อย่างที่คุณเห็นนะ..อเล็กซ์”

ราเชลผละออกห่างจากกรณ์แล้วคว้าแขนชานนท์พร้อมทั้งออดอ้อนเขา ทำเอาชานนท์รีบแกะมือหญิงสาวออกแทบไม่ทันด้วยความเกรงใจเอรินที่ยืนเงียบอยู่ด้านหลัง

“ผมเห็นหรือไม่ไม่สำคัญหรอกจริงมั๊ย..เอริน”

ชานนท์โอบเอวเอรินเข้าหาตัวแสดงความเป็นเจ้าของ ทำเอาหญิงสาวขัดเขินปัดป้องพัลวันด้วยเกรงสายตาราเชล “คุณคะ..อย่าทำอย่างนี้” เอรินหน้าเสียเมื่อเห็นสายตาจ้องมองอย่างเย็นชาของกรณ์ก็ถึงกับหลบสายตาแทบจะทันที

ท่ามกลางบรรยากาศที่สุดแสนจะอึดอัดของคนทั้งสี่ พัชระที่กำลังเดินออกมาจากบ้านใหญ่จะไปสำรวจตรวจตราบริเวณโดยรอบบ้านสวนโฮมสเตย์ก่อนจะออกไปทำธุระเรื่องเงินกู้ธนาคารในเมืองถึงกับหยุดจ้องมองอย่างสนใจ อะไรก็ไม่เท่ากับที่เห็นลูกสาวสุดที่รักเพียงคนเดียวกำลังถูกโอบกอดโดยชายหนุ่มที่รู้เพียงว่าเขาคือแขกของบ้านต้นไม้ และแขกคนนี้เขารู้สึกตะหงิดใจอยู่ลึกๆและไม่รู้สึกไว้ใจเลยแม้แต่น้อย

“ไอ้หมอนี่..แกกล้ากอดลูกสาวฉันเชียวเรอะ”

//////////////////////////


ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านค่ะ
มาช้าเลยลงสองตอนเลยค่ะ ><

คุณดาด้า -- ช่วงนี้ให้พี่นนท์ฝันหวานไปก่อนค่ะ ดราม่ากะลังมาค่ะ ใกล้แล้ว >////<

คุณyoko -- ใกล้แล้วค่ะ เรื่องกำลังจะคลี่คลายแล้ว ช่วงนี้หนุ่มสาวเค้าวุ่นวายเล็กน้อย ตอนต่อไปแม่พี่นนท์จะมาแล้วค่ะ

ขอบคุณสำหรับไลค์ตอนที่แล้วด้วยนะคะ
ขอบคุณมากๆค่ะ
^____^




lovereason
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 19 ส.ค. 2557, 16:06:33 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 19 ส.ค. 2557, 16:06:33 น.

จำนวนการเข้าชม : 1412





<< ตอนที่ 20 แค่เธอ..   
ดาด้า 19 ส.ค. 2557, 18:59:55 น.
สงสัยจะประหลาดเราชอบคู่รองมากกว่าอ่ะคะ
กิ๋๊กกันแล้วแน่ๆคู่นนี้ลุ้นๆ


yoko 20 ส.ค. 2557, 20:41:26 น.
ราเชล กะ กรณ์คู่ๆกันไปเหอะจ้า คู่พระนางจะได้หมดปัญหาไปอีกอย่าง ท่าทางปัญหาที่เหลือข้างหน้าจะเยอะน่าดูนิ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account