ปริศนาในรอยรัก
คำโปรยเรื่อง


“หยุด หยุด หยุดเดี๋ยวนี้นะ!!!” เสียงเรียกดังขึ้นพร้อมกับแรงกระชากจากด้านหลัง

“โอ๊ย!!!” ปารณีย์ร้องเสียงหลง เมื่อโดนกระชาก ข้อมือเล็กเจ็บเล็กน้อยจากแรงบีบของคนเสียมารยาท เหมือนเจ้าตัวจะรู้ก็ปล่อยมือของปารณีย์ออก

“เมื่อไหร่คุณจะเลิกทำตัวเสียมารยาทกับฉันสักที วันนี้คุณเสียมารยาทกับฉันไปสองครั้งแล้วนะคะคุณภูธเนศ” ปารณีย์มองผู้ชายที่เธอคิดว่าไร้มารยาทที่สุด ปารณีย์เดาได้ว่าผู้ชายคนนี้ดูจะไม่ชอบขี้หน้าเธอมากเสียด้วย ดวงตาคมที่มองมามันมีความไม่พอใจส่งออกมาอย่างเห็นได้ชัด ปารณีย์ไม่รู้หรอกว่าผู้ชายคนนี้มีปัญหาอะไรกับเธอมาก่อน แต่มันคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ จะว่าแค่เรื่องห้อง ก็คงไม่ใช่แล้วล่ะ

“ก็ผมเรียกคุณ แล้วคุณไม่หยุด”

“คุณเรียกปุ๊บ ฉันจำเป็นต้องหันปั๊บเลยหรือไง คุณต้องรอสิคะ ไม่อยากเชื่อคุณจะเป็นเจ้านายใครเขาได้ ไม่อยากจะเชื่อคนอย่างคุณจะเป็นคนดูแลไร่ใหญ่โตอย่างนี้” คำพูดกึ่งสบประหม่าทำให้ภูธเนศเริ่มโกรธ ด้วยความว่าเติบโตมาในไร่แห่งนี้ ทุกคนตามใจ เทิดทูนบูชาดุจเทพเจ้า เขาไม่เคยเจอคนกล้าต่อปากต่อคำหรือกล้าใช้คำสั่งสอนหรือว่าด่าทอ แบบเธอคนนี้ และมันก็ทำให้อารมณ์โกรธที่ค้างอยู่เริ่มปะทุอีกครั้ง แต่เจ้าตัวก็พยายามข่มอารมณ์โกรธให้เบาลง

“เอาล่ะผมไม่อยากต่อปากต่อคำกับคุณ คุณแม่อนุญาตให้คุณอยู่ต่อ เชิญขนกระเป๋าของคุณกลับขึ้นไป คุณปา...ระ...นี” ภูธเนศพยายามข่มอารมณ์อย่างสุดความสามารถ

“แต่ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว ฉันจะเข้าเมืองตอนนี้ และเดี๋ยวนี้” ใบหน้าสวยหวานออกอาการรั้น ปารณีย์ถือกระเป๋าของตัวเองอีกครั้ง จะหันหลังถือกระเป๋าเดินหนี แต่

Tags: ปริศนา ปมฆาตกรรม ความรัก ความลับ

ตอน: บทนำ

เปิดเรื่องใหม่ ตามจริงก็ไม่ใหม่ แต่ไรเตอร์พึ่งจะรีไรท์เรื่องใหม่ เป็นโครงเรื่อง พล็อตเรื่อง ตอนนี้เรื่องพร้อมเป็นที่เรียบร้อย
ปริศนาในรอยรัก ชื่อเรื่องก็บอกอะไรหลาย ๆ อย่าง แต่จะเป็นอะไรต้องไปรอติดตามกัน
และปริศนาในรอยรักยังเป็นแนวสืบสอนเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ได้ตื่นเต้นกัน
ยังก็ขอให้ช่วยกันติดตาม และช่วยกันคอมเม้นส์ด้วยนะคะ


บทนำ

“ลาออก!!!”

“เอ่อ...”

“ได้ยังไงปา ปาตัดสินใจใหม่ไม่ได้หรอ”

“ปาตัดสินใจแล้วค่ะพี่แพร ปาจะลาออก ตอนนี้ร้านอาหารของแม่วุ่น ๆ ปาอยากไปช่วยครอบครัว ปาเรียนจบมาตั้งหลายปีแล้ว แต่ไม่เคยเข้าไปดูงานของครอบครัวเลย ปาคิดว่ามันถึงเวลาแล้วค่ะ ปาสนุกกับงานนี้มามากพอแล้ว มันถึงเวลาจริง ๆ แล้วค่ะ พี่แพรเข้าใจปานะคะ” เสียงหวานใสเอ่ยอย่างแน่วแน่ ซึ่งเธอเข้ามาในห้องทำงานของบรรณาธิการบริหารคนสวยเกือบจะชั่วโมง แต่เจ้านายสาวกับพูดโน่นพูดนี้ไม่ได้สนจุดประสงค์ของเธอ จนในที่สุดเธอก็ตัดสินใจโพล่งออกไปเมื่อคิดว่าถ้ารอคงไมได้พูด

“พี่ไม่เข้าใจ”

“ปาขอโทษจริง ๆ นะคะพี่แพร แต่ปาตัดสินใจดีแล้ว” เจ้าของเสียงหวานใสก็คือ ...ปารณีย์ รุ่งเรืองทรัพย์... เธอเป็นสาวที่ที่มีใบหน้าสวยและโดดเด่น ใบหน้าขาวใสที่สวยหวานนั่นดูแล้วน่าอิจฉา ทุกองค์ประกอบบนใบหน้าว่าจะหู ตา จมูกหรือปากนั้นผสมผสานวางอย่างลงตัวไม่ว่าจะดวงตาคู่สวยที่หวานตราตรึงสามารถสะกดคนที่เผลอสบตาได้ จมูกที่โด่งเรียวเข้ากับรูปหน้าที่หน้าเรียวเล็ก ริมฝีปากบางสวย สีชมพูระเรื่อ ทุกอย่างบนใบหน้าของเธอคือหวานไปทุกส่วน บวกกับใบหน้าที่ละม้ายคล้ายคลึงกับตุ๊กตาราคาแพงอย่าง ...น้องบลายธ์... ทำให้หลายคนอิจฉาความสวยหวานแบบมีสไตล์ของเธอ แต่สิ่งที่ทำให้ความหวานบนใบหน้าไม่เรียบลื่นจนดูไม่น่าสนใจก็คือการแต่งตัวที่ดูมั่นใจ ไม่โป๊มาก ออกแนวสาวทำงานแต่ก็มีความเป็นแฟชั่น แต่ก็แฝงความสวยงามไว้ ทำให้เธอดูเป็นสาวสวยหวานที่มีสไตล์ บวกกับเรือนหุ่นรูปร่างที่ไม่ถึงกับเล็กบางจนดูเก้งก้าง หุ่นของเธอถือว่าเพอร์เฟ็คมากเลยทีเดียว ความสูง 173 ซม. ทำให้สาวๆในที่ทำงานพากันอิจฉา และหุ่นที่เพรียวได้รูป บ่งบอกว่าเธอคนนี้รักสุขภาพมาก และสาวสวยหวานคนนี้ทำงานเป็นคอลัมน์นิสต์อยู่ที่นิตยสารบุษบานารี คอลัมน์ที่เธอรับผิดชอบคือคอลัมน์เกี่ยวกับสุขภาพและอาหาร ซึ่งคอลัมน์ของเธอเองก็กำลังได้รับความนิยมไม่แพ้คอลัมน์ซุบซิบดาราเลยทีเดียว โดยนามปากกาที่เธอใช้คือ ...ปาริชาต... อนาคตในการเขียนของเธอกำลังจะรุ่ง แต่อยู่ ๆ ปารณีย์เกิดขอลาออกอย่างกะทันหัน ด้วยเหตุผลว่าจะกลับไปช่วยกิจการร้านอาหารของครอบครัว ซึ่งบรรณาธิการสาวรับไม่ได้

“ปา ถ้าปาออกพี่จะหาคนที่ทำงานเก่ง ๆ มีศักยภาพในการทำงานแบบปาได้ยังไง พี่ขอร้องนะปา อยู่ต่ออีกสักปี สองปีเถอะ ให้พี่หาคนฝีมือดี ๆ ได้ก่อน หรือไม่ปาก็ช่วยทำงานให้พี่ไป แล้วก็ทำงานให้บ้านของปาไป นะปา ยังไงมันก็ไม่มีผลกระทบอยู่แล้วนี่ปา คนอื่นเขาก็ทำงานแบบนี้เยอะไป คิดดูนะปา คนที่เขียนคอลัมน์สุขภาพกับอาหารและผู้คนติดตามมันไม่ได้หาง่าย ๆ เหมือนพวกแฟชั่นนะปา แล้วปาเป็นมือหนึ่งของนิตยสารเราเลยนะ พี่ขอนะปา”

“ไม่ได้หรอกค่ะ ปาตามใจตัวเองมามากแล้วนะคะ คุณยายก็คาดหวังในตัวปามาก ปาอยากจะทำงานให้เต็มที่ไม่ต้องพะวงหน้าภวังค์หลัง ยิ่งตอนนี้แม่กำลังจะขยายร้านด้วย ปาต้องกลับไปช่วย แม่ทำคนเดียวไม่ไหวหรอกค่ะ อายุก็มากแล้ว ไหนจะรีสอร์ทของคุณลุงอีก ไม่เคยเข้าไปช่วยดูเลย ปาคิดว่ามันถึงเวลาแล้วจริง ๆ ค่ะ พี่แพร”

“ปา ปาก็รู้ว่านิตยสารเรากำลังจะมีโปรเจ็คใหม่ฉลองครบรอบสี่ปี แล้วโปรเจ็คใหม่นี้พี่ก็วางตัวปาไว้เขียนคอลัมน์แล้ว ถ้าปาไปเราต้องเตรียมงานใหม่หมดเลยนะปา ปาไม่รักนิตยสารเราแล้วหรอ” สาวสวยที่กำลังพยายามขอร้องอ้อนวอนลูกน้องคนสนิทคนนี้คือราชินีแห่งนิตยสารบุษบานารี นิตยสารสำหรับผู้หญิงที่กำลังได้รับความนิยมของเหล่าสาวแท้และไม่แท้ สาวโสดและไม่โสด สาวแก่และไม่แก่ บุษบานารีถือเป็นนิตยสารที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่ปีแรกที่เปิดตัวเลยก็ว่าได้ ด้วยมีการนำปัญหาของสาวๆในปัจจุบันมาตีแผ่ให้ได้รู้ นำเรื่องราวปัญหาของสาวสมัยนี้มาถกเป็นประเด็นให้ได้ติดตาม มีทริคเด็ด ๆ ให้ได้นำไปใช้อย่างเป็นประโยชน์ และเนื้อหาภายในเล่มก็เป็นแนวคิดใหม่ ๆ ทั้งเรื่องราวของแฟชั่น การบันเทิงหรือแม้แต่ปัญหาในชีวิตจริง บวกกับแนวเขียนของคอลัมนิสต์ที่มีความแปลกใหม่ และดึงดูดเหล่าผู้อ่านได้เป็นอย่างดี เป็นผลทำให้นิตยสารบุษบานารีติดอันดับท็อปเท็น เป็นหนังสือที่ได้รับความนิยมมากที่สุดมาสามปีซ้อน นอกจากนิตยสารจะเป็นที่นิยมแล้ว ความสวยของเจ้าของนิตยสารนี้ก็ยังเป็นที่เลื่องลือ เพราะความสวยแบบของแท้แม่ให้มานี้ช่างชวนอิจฉา ทุกประกอบองค์รวมของเธอเหมือนถูกปั้นมาอย่างลงตัว ทั้งดวงตาคม ใบหน้าขาวเรียวได้รูป ริมฝีปากรูปกระจับ เรียวจมูกที่โด่งเป็นสันเข้ากันรูปหน้า เธอดูไม่ต่างจากราชินีเลยแม้แต่น้อย และสาวสวยราวนางพญาคนนี้คือ ...แพร ภุมรี ดิเรกรัตน์ ... ทำหน้าที่เป็นบรรณาธิการและยังควบตำแหน่งหนึ่งในสามผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของนิตยสารบุษบานารี เป็นหนังสือบรรณาธิการบริหาร หรือจะเรียกว่าหนึ่งในเจ้าของนิตยสารนี้ก็ว่าได้

“พี่แพร...” ปารณีย์เอ่ยเสียงอ่อย

“ปารู้ไหมไม่มีใครรู้ใจพี่เท่าปา แถมคนเก่ง ๆ แบบปาไม่ได้หาง่าย ๆ จะให้พี่ปล่อยปาไปได้ยังไง ปาจำวันแรกที่พี่ชวนปามาทำงานได้ไหม” คำพูดของหัวหน้างานและยังควบตำแหน่งรุ่นพี่สาวร่วมสถาบันเอ่ยขึ้น พาให้นึกถึงวันที่เธอถูกภุมรีอ้อนวอนให้เข้ามาช่วยทำงาน ในวันที่เธอจบการศึกษาหมาด ๆ แถมเธอไม่ได้เรียนอะไรที่เกี่ยวข้องกับการเขียนพวกนี้เลย ถ้าภุมรีไม่บังเอิญไปเห็นปารณีย์เขียนบทความเกี่ยวกับอาหารลงหนังสือพิมพ์ของมหาวิทยาลัยในตอนนั้น ทั้งที่เธอคิดว่าเธอจบมาจะกลับไปช่วยงานในครอบครัว แต่ก็ต้องมาแพ้ดวงตาคู่สวยที่อ้อนวอนเธอจนน่าสงสารนี่ และใครจะรู้บ้างเธอไม่ได้ทำหน้าที่แค่เป็นคอลัมน์นิสต์ แต่เธอยังต้องทำหน้าที่ประสานงานต่าง ๆ ให้สำนักพิมพ์ทุกอย่าง เธอต้องเป็นพนักงานบัญชี คนหาโฆษณา จ่ายค่าไฟ แม้แต่แมสเซ็นเจอร์ หรืออะไรอีกปลีกย่อย เธอมีหน้าที่ไม่ต่างจากเบ๊ของภุมรี พูดง่าย ๆ ว่าเธอทำทุกอย่างตั้งแต่สากเบือยันเรือรบก็ว่าได้ และทุกคนก็เรียกเธอว่าเงาภุมรี เพราะเธอมีหน้าที่ทำแทนภุมรีทุกอย่าง ถ้าภุมรีไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ เพียงแค่บอกกับเธอทุกอย่างก็เคลียร์

“ค่ะ”

“รู้ไหมทำไมพี่ถึงเลือกปา พี่เป็นคนที่ถ้าไม่มั่นใจอะไรพี่ไม่มีทางยอมอ้อนวอนขนาดนั้น พี่เห็นบางอย่างในตัวปา พี่เห็นบางอย่างในตัวอักษร พี่รู้ตั้งแต่พี่อ่านบทความนั่นว่าปาเองก็หลงใหลในการเขียน ปารักงานนี้แค่ไหนปาเองก็รู้ดี ปาทำงานแทนพี่ทุกอย่างทั้งที่ไม่จำเป็น ปาจะบอกให้พี่หาผู้ช่วยก็ได้ แต่ปาก็ไม่ทำปายอมทำงานพวกนั้น เพราะปารัก และปาภูมิใจทุกครั้งที่เห็นหนังสือพวกนั้นวางอยู่บนแผงหนังสือ ปาจะภูมิในทุกครั้งที่มีคนชมเชยหนังสือเรา ปารักบุษบานารีพอ ๆ กับพี่ เผลอ ๆ จะมากกว่าพี่ เพราะปาเป็นคนเดียวที่รู้ทุกส่วนงานบุษบานารี ถ้าไม่รักปาไม่ทำ ไม่ทุ่มเทขนาดนี้หรอก”

“พี่...”

“ตามจริงพี่ว่าจะยังไม่บอกปา แต่พี่คิดว่าตอนนี้มันถึงเวลา ปีหน้าบุษบานารีจะมีแพลนเปิดนิตยสารเล่มใหม่พร้อมกับโปรเจ็คพิเศษ นิตยสารเล่มใหม่ของบุษบานารี พี่เป็นคนเสนอชื่อปาให้มาเป็นบรรณาธิการ ปามีคุณสมบัติ รู้งาน มีความรับผิดชอบ พี่ไม่อยากให้ปาโอกาสดี ๆ ไปนะ”

“พี่แพร”

“นอกจากปาแล้ว ที่ประชุมยังเสนอชื่อรพีด้วย” ใบหน้าสวยหดหูลงทันที

“ปาจะถอยหลังยอมให้รพีมันได้ทุกอย่างที่ปาควรได้หรอ แม้ยัยรพีจะเก่ง แต่ก็ไม่เท่าปา ยัยนั่นติดนิสัยคุณหนู ไม่ได้อะไรก็เหวี่ยงวีน เป็นเจ้านายคนไม่ได้หรอก พี่หวังในตัวปา”

“ปาขอบคุณนะคะพี่แพร แต่...”

“พี่ถามตรง ๆ เลยนะ เพราะยัยรพีใช่ไหมปาถึงตัดสินใจลาออก”

“....” ปารณีย์ไม่ตอบและก้มหน้าลง

“เอาอย่างนี้ พี่อยากจะปาลองกลับไปคิดอีกครั้ง พี่จะให้ปาลาพักร้อนสัก...สองเดือน” ปารณีย์มองภุมรีที่เหมือนจะไม่ยอมให้เธอออกง่าย ๆ แถมยังยื่นเสนอต่อเวลาอีก

“พี่แพร...”

“ฟังให้จบสิ พี่รู้ปากลัวว่าอยู่เฉย ๆ จะฟุ่งซ่าน แต่รับรองเลยปาจะไม่ฟุ่งซ่าน พี่มีหลานคนหนึ่ง ปาจำน้องดาได้ไหม” ปารณีย์ทำหน้านึก

“ค่ะ ปาเคยเจอเมื่อปีก่อนตอนงานเลี้ยงครบสามปีของบุษบานารี พี่แพรพาหลานสาวมาด้วย”

“ใช่ น้องดาประสบอุบัติเหตุ เมื่อครึ่งปีก่อน หลังจากฟื้นมาก็มีบางอย่างแปลกไป ไม่พูดไม่คุยเหมือนแต่ก่อน วัน ๆ นั่งเงียบ ไม่ยิ้ม ไม่มองหน้าใคร ถึงเวลากินก็กิน ถึงเวลานอนก็นอน ทำตัวเหมือนหุ่นยนต์ ตอนแรกพวกเราคิดว่าอาจเป็นเอฟเฟ็คจากอุบัติเหตุ แต่มันนานเกินไป พอเข้าเดือนที่สามพี่ว่าไม่ปกติแล้ว”

“พาไปหาหมอหรือยังคะ”

“ไปแล้ว”

“จิตแพทย์ล่ะคะ”

“ไปมาหมดแล้ว หมอส่ายหน้า กายภาพฟื้นฟูจิตใจก็ทำ อะไรที่ว่าใช่ก็ลองแล้ว น้องดาเหมือนเดิม”

“แล้วปาจะช่วยได้หรอคะ” ภุมรียิ้ม

“ลองไปดูสองเดือน บางทีปาอาจจะช่วยน้องดาได้”

“แต่...”

“พักร้อน แล้วทำงานกับเด็ก เชื่อสิว่าปาจะไม่ว่างจนฟุ่งซ่าน ไปเจอบรรยากาศใหม่ ๆ สักพัก คิดทบทวนไตร่ตรอง แล้วกลับมาให้คำตอบพี่ใหม่ อยู่ที่นี่มีแต่ภาวะกดดัน สภาพแวดล้อมเดิม ๆ สภาพจิตใจปาเลยไม่พร้อม”

“ปา...”

“นะ เชื่อพี่อีกสักครั้ง กลับมาคราวหน้าถ้าปายังตัดสินใจเหมือนเดิม พี่จะไม่บังคับปาอีก”

“ก็ได้ค่ะ”

“ไร่ภูปลายฟ้าจะเยียวยาหัวใจของปา กลับมาคราวหน้า ปาอาจจะลืมเขาหมดหัวใจก็ได้ ใครจะไปรู้”

“อกหักนะคะ จะลืมภายในเดือนสองเดือนได้ยังไง แล้วพี่แพรจะให้ปาไปเมื่อไหร่คะ”

“เร็วที่สุด...อีกสองวัน”

“เร็วขนาดนั้นเลยหรอคะพี่แพร”

“แน่สิ เดี๋ยวปาเปลี่ยนใจมาลาออก เดี๋ยวพี่มีธุระต่อ มีอะไรโทรมาละกัน เดี๋ยวตั๋วเครื่องบินพี่ส่งไปให้ที่บ้านพรุ่งนี้ ตอนนี้กลับบ้านได้” ปารณีย์พยักหน้าและเปิดประตูเดินออกไปเก็บกระเป๋าที่โต๊ะทำงาน เธอตวัดสายตามองไปที่โต๊ะทำงานตัวตรงกับเธอที่ไม่มีเจ้าของนั่งอยู่ ปารณีย์หยิบกระเป๋าและเดินออกจากออฟฟิศ แต่กลับเดินไปปะทะหน้ากับคน ๆ หนึ่ง ปารณีย์ยืนนิ่งสตาร์ฟเช่นเดียวกับคนตรงหน้าเธอ ปารณีย์ค่อย ๆ สูดหายใจเข้าและตัดสินใจเดินผ่านหน้าเขาไปโดยไม่หันกลับไปมองอีก

...เธอต้องก้าวผ่านมันไปให้ได้...


...ติดตามตอนต่อไป...



พัชรีพร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 1 ธ.ค. 2557, 15:39:49 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 1 ธ.ค. 2557, 17:25:59 น.

จำนวนการเข้าชม : 981





   ตอนที่ 1 บทเริ่มต้นที่เจ็บปวด >>
ปลาวาฬสีน้ำเงิน 1 ธ.ค. 2557, 16:32:17 น.
น่าสนใจติดตาม ค่ะ มาตอนแรกสั้นไปนิดนึง คราวหน้ายาวกว่านี้นะคะ


แก้วจินดา 2 ธ.ค. 2557, 16:52:52 น.


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account