ตะวันบนพื้นน้ำ
เขาเปรียบดังตะวันสาดแสงลงบนพื้นน้ำ

แผดเผากระจายไอร้อนบ่อนทำร้าย

ตะวันไม่เคยเห็นค่าพื้นน้ำแม้แต่หยดเดียว

.......................................................

ขอเมนสักนิดน๊า
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 26 คลี่คลาย



แสงแดดอ่อนๆทอดยาวลงบนร่างของหญิงสาวใต้ผ้าห่มผืนนุ่ม บริเวณเอวถูกกอดรั้งจากมือหนาของอสูรหนุ่ม บดเบียดแนบชิดหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกัน แววตาสีมรกตแววฉายแววอบอุ่นยามทอดมองร่างนิ่มในอ้อมแขนของตน

“สาม ตื่น”

“พี่หนึ่งสามขออีก ห้านาที” เหยื่อสาวยังคงสะลึมสะลือด้วยโดนจัดหนักข้ามคืนจรดยามรุ่ง

“เจ็ดโมงแล้วสาม ไปอาบน้ำหรือจะเอาอีกรอบ ฮึ” อสูรหนุ่มเริ่มขู่ซึ่งได้ผลทันควัน หญิงสาวเปิดตาตื่นพาสองขารีบวิ่งหลบเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว

“ให้ไว เดี๋ยวก็สาย”

“ฉันลาออกมาแล้ว ไม่ต้องไป” โผล่หน้าออกมาจากขอบประตูของห้องน้ำเพื่อออกมาโต้เถียง

“เจ็บไหม”

“อะไร โอ๊ย” หญิงสาวร้องเสียงหลงเพราะบาดแผลจุดเดิมในบริเวณนิ้วปรากฏขึ้นเป็นรอยบาดของคัตเตอร์

“ข้าย้อนเวลาให้เจ้าแล้ว จงไปเรียนซะเป็นเด็กเป็นเล็กต้องเรียนหนังสือ” อสูรหนุ่มบ่นราวกับครูแก่เรียวคิ้วขมวดมุ่นพร้อมน้ำเสียงเข้มขรึมดูน่ามองไปอีกแบบ

“นากิม อย่าทำกุ๊กไก่นะ ฉันขอร้อง” หากย้อนเวลากลับไปจุดเดิม กุ๊กไก่เหยื่ออีกคนของนากิมจะต้องรับความเจ็บปวดเช่นเดิม
จากการสัมผัสคลุกคลีกับอสูรหนุ่มตรงหน้าแม้จะไม่ได้เห็นกับตาแต่ก็พอเดาได้ถึงความเด็ดขาดของอสูรหนุ่มว่าโหดเหี้ยมเพียงใด

“เจ้ารู้กฎของการย้อนเวลาหรือไม่สาม ทุกอย่างต้องคงเดิม” อธิบายพร้อมตัดบทก่อนหายตัวจากไปเป็นคำตอบปฏิเสธได้อย่างดี

ลำแสงสีชมพูอ่อนค่อยๆปรากฏกายขึ้นทางบริเวณหน้าประตูทางเข้าก่อนปรากฏเป็นร่างของหญิงสาวในชุดชมพูงามระยับ

“ข้าเวร่า มารับใช้นายหญิงเจ้าค่ะ” หญิงสาวดูหวานละมุนในทุกระเบียดนิ้วเปิดรอยยิ้มอ่อนโยน

นางผู้นี้คือน้องสาวสุดหวงของหนึ่ง

อสูรตนนี้เป็นคู่นอนของนากิม

จำได้อย่างแม่นยำถึงคราแรก เมื่อเปิดประตูเข้ามายังห้องนอนเพื่อพักผ่อนให้ชุ่มปอดกับความอลังการของห้องพักอันแสนหรูหราแต่สายตาพบสองร่างกำลังประกอบกิจกรรมคาวอย่างไม่สนใจสายตาของคนร่วมห้องเลยสักนิด

ณ ตอนนั้นการแกล้งทำเป็นไม่รับรู้เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแต่กลับพลาดเพราะอสูรหนุ่มเสแสร้งเก่งซะเหลือเกินจนหลงเชื่อใจและไว้ใจ น่าให้รางวัลโนเบลยิ่งนัก

“นายท่านให้ข้าพานายหญิงไปเรียนเจ้าค่ะ รีบอาบน้ำเถิดเจ้าค่ะนายท่านฝากบอกท่านว่าหากวันนี้ท่านไปเรียนสาย พรุ่งนี้จะไม่ให้นายหญิงไปเรียนเจ้าค่ะแต่จะสอนนายหญิงอยู่บนเตียงแทน”

หลังจบคำแก้มขาวๆของอสูรสาวแดงปลั่งเลยเชียว

เหอะให้คู่นอนของตัวเองมาเป็นคนดูแลเรา นี่หรือรัก หลอกกันอีกครั้งแล้วสินะนากิม บริหารจัดการผู้หญิงได้ดีจริงๆ ฉันเกลียดคุณ

ปัง!!! เสียงปิดประตูห้องเป็นการเปิดฉากชั่วโมงสุดแสนจะเร่งรีบ
…………………………………………………………………………………………
การเรียนทั้งวันดำเนินไปอย่างน่าเบื่อหน่ายในความรู้สึกของหญิงสาว ทุกฉากทุกตอนที่เกิดขึ้นในวันนั้นคงรูปแบบเดิมไว้ทั้งหมด

เหยื่อสาวเช่นกุ๊กไก่ถูกลงโทษอย่างน่าสงสารเป็นทั้งสุดแล้วเมื่อไหร่นะจะวนเวียนมาถึงตาเรา

หึ คงต้องรอให้เขาเบื่อเราก่อน

“ใครเบื่อใคร” ท่านชายปรากฏกายขึ้นยืนเคียงตรงข้างระเบียงห้อง
หน้าก็ไม่อยากจะมอง เชอะ แอบอ่านความคิดเราอีก

“คุณจะทำร้ายฉันเหมือนคืนนั้นใช่ไหม”

“ใครบอกเจ้า ฮึ”

“ในวันนี้คุณจำได้ไหม คุณทำร้ายฉัน อย่างเจ็บปวดที่สุด”

“สาม มานี่มา” อสูรหนุ่มรั้งร่างน้อยเข้าสู่อ้อมแขนแทนการปลอบประโลม

“ข้าขอสัญญา มันจะไม่เกิดขึ้นอีก คนดีเรียกข้าเหมือนเดิมนะ ข้าไม่ชอบคำว่าคุณมันดูห่างเหินกันเกินไป”
เหยื่อสาวไม่ยอมสบตาทำให้อสูรหนุ่มเริ่มเป็นกังวล รู้ดีความผิดที่ก่อในวันเวลาเก่าก่อนใหญ่หลวงนัก ครั้งแรกของหญิงสาวกลับโดน
ผล่าผลาญข่มขืน

“เจ้าชอบหน้าบึ้งเวลาข้าแอบอ่านความคิดเจ้าใช่ไหม”

“#$%^*&%”

“ข้าได้ร่ายอาคมจำกัดการเข้าถึงความคิดของเจ้าแทนคำขอโทษแล้วโอเคไหมจ๊ะ”

หญิงสาวไม่ตอบคำแต่ยอมสบตาในที่สุดจึงได้รางวัลเป็นการหอมแก้มเสียหนึ่งฟอด

ฮึ ดูห่างเหินแล้วคนใกล้ชิดของคุณของคุณมีกี่คนหรือนากิม
ฉันเป็นคนที่เท่าไหร่กัน รักไม่ต้องการลำดับคุณไม่เข้าใจใช่ไหม ความคิดกลับแล่นไปทางด้านมืดเสียแล้วซึ่งอสูรหนุ่มไม่อาจรับรู้

“ข้าเลือกช่วงเวลานี้เพื่ออะไร เจ้าไม่รู้รึ”

น้ำตาเริ่มปริ่มมาที่ขอบตายามนึกถึงการกระทำแสนโหดร้ายของเขาทำให้ร่างน้อยถูกรัดแน่นขึ้น

“โอ๊ๆ เด็กดีมานี่มา” เหยื่อสาวถูกพาไปยังเตียงกว้าง แก้มสองข้างเริ่มปรากฏสีฝาดๆของเลือดแดงๆเต็มทั้งสองข้าง เขาจะทำอีกแล้ว

“ข้าย้อนเวลาเฉพาะอาณาเขตรอบโรงเรียนของเจ้าไม่ได้กระทบกับสิ่งใดเพราะฉะนั้นตัวเจ้ายังเป็นของข้าอยู่เช่นเคยอย่าหวังเลยว่าจะบริสุทธิ์ผุดผ่อง หึหึ”

ท่านชายเริ่มยั่วเย้าจึงได้แรงทุบไปสองสามตุบบนอกกว้าง

“พอก่อนสามมันเจ็บ ในโลกของเจ้าชอบดูดาวกันใช่หรือไม่ ตอนข้ายังเด็กพ่อข้าชอบแอบพาเนวีหนีไปดูดาว เนวีคือแม่ของข้า ข้าเรียกตามท่านพ่อ” เป็นครั้งแรกที่ท่านชายยอมเปิดเผยเรื่องครอบครัว

วืด!!! มือโบกสะบัดเพียงครั้งเพดานกว้างกลายสภาพเป็นท้องฟ้าดำมืด ฉายภาพค่ำคืนของฟากฟ้า

“ท่านพ่อท่านแม่ของข้าจากไปก่อนที่ข้าจะโตเต็มไวด้วยซ้ำ ข้าเองยังไม่ทันตั้งตัวแต่ยังดีมีไลน์คอยดูแล”

หญิงสาวในอ้อมแขนเริ่มประท้วงยามได้ยินชื่อของไลน์
นามที่ปรักปรำเหล่านักเวทย์ผู้บริสุทธิ์

“ข้ารู้สามเจ้าจะพูดอะไร ข้าจะหยุดชะงักสงครามไว้เสียก่อน”

แววตาของอสูรหนุ่มขรึมเครียดด้วยนามที่โดนพาดพิงเปรียบได้กับแม่คนที่สองก็ไม่ปานส่วนหญิงสาวในอ้อมแขนยิ้มกว้างไม่มีหุบ พวกเราชาวเวทย์รอดแล้วในระยะเวลาหนึ่ง

“ข้าจะกลับมรนาการส่วนเจ้าเป็นเด็กดีไปเรียนหนังสือ ห้ามเกเร ไอ้หนุ่มร้านดอกไม้ก็ห้ามไปยุ่ง พี่ชายคิดไม่ซื่อยิ่งห้ามเกินเลย”

คำสั่งมาเป็นชุดพร้อมกับการบีบจมูกเย้าเอ็นดู

“ข้าจะมารับ” คำสัญญาเปรียบได้กับคำสาบาน

“ใครจะไปกับนาย” หญิงสาวยอมโอนอ่อนให้ระยะหนึ่งยอมตัดคำว่าคุณทิ้งตามใจท่านชาย

“ไปแน่” รอยยิ้มของท่านชายดูไม่น่าไว้ใจสุดๆ

“ทำไมนายมั่นใจนัก” เหยื่อสาวชักเริ่มระแวง

“ไม่บอก” ท่านชายลอยหน้าลอยตายั่วอารมณ์

“เออ ไม่อยากรู้แล้ว” เหยื่อสาวชักเริ่มงอน

“มาดูดาวกันดีกว่าสาม นั้นดาวอะไรนั้น” ท่านชายเริ่มเปลี่ยนเรื่อง

“ไม่รู้” ส่วนเหยื่อสาวเริ่มงอแง

“ทำสักรอบไหมเผื่อเจ้าจะนึกออก” คำขู่ของท่านชายได้ผลเสมอ

“อย่านะๆ ดาวประจำเมือง” เหยื่อสาวยอมยกธงขาวในที่สุด

“ ฮาๆๆ น่ารักจริงๆสามของข้า เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม”

หน้าตาของท่านชายดูเฟรนลี่เป็นที่สุดหล่อเหลาอารมณ์ดีจนน่ากอดน่าหอมเลยทีเดียวเชียว

ตาสบตาประสานกันและกัน หญิงสาวเป็นคนที่ถอนสายตาออกเป็นคนแรกด้วยแก้มอันร้อนชู่อีกไม่นานเขาคงเอาแต่ใจเช่นเคย

“ข้าจะไปพรุ่งนี้ คืนนี้ข้าขอนอนกอดเจ้านะ” เสียงอ้อนดังแว่วๆอยู่ข้างหู หญิงสาวไม่รับคำแต่ก็ไม่ได้ต่อต้าน

สองร่างนอนเคียงข้างบนเตียงกว้างแรงกอดรัดของอสูรหนุ่มไม่แรงนักทุกสัมผัสเต็มไปด้วยความถะนุถนอมอ่อนโยน
…………………………………………………………………………………………
“หายไปนานจัง เวร่า” นักเวทย์หนุ่มเริ่มบ่นยามเห็นหน้าภูติสาวอีกครั้ง

“ข้าไปทำงาน”

“เรามาคุยกันได้สักทีนะ ผมไม่ได้ทิ้งหวาน” ชายหนุ่มเริ่มอธิบาย


“คืนที่หวานโดนขังผมไปทำงาน โทษของหวานต้องรอสอบสวนก่อนเป็นเวลาสามวันถึงจะลงอาญาได้ทำให้ผมมั่นใจว่าหวานจะต้องปลอดภัย”

“ปลอดภัยจนเป็นตอตะโก” อสูรสาวเริ่มประชด



“มานี่” น้ำเสียงของชายหนุ่มชักเริ่มดุขึ้น


”ไม่”

“อย่าให้เดินไปลาก มันจะไม่จบแค่คุยกันแน่”

ร่างบางยอมเดินเข้ามาหาในที่สุดเพราะเวลานี้ชายหนุ่มดูน่าเกรงกลัวเป็นสุด

“มาใกล้ๆ อย่าให้ผมเรียกก้านมะยมนะ” ยังคงดุไม่เลิก
ยังจำได้ดีหากดื้อมากๆก้นน้อยๆคงระบมเป็นแน่แท้

ก้ามมะยมเปรียบเหมือนถ้อยคำแสนศักดิ์สิทธิ์ อสูรสาวยอมจำนนอย่างว่าง่ายเพราะรู้รสเป็นอย่างดี

“ผมไปที่คุก ไปหาหวานแอบสอดจดหมายเพื่อบอกว่าจะมาช่วยแต่ผมกลับมาช้าเกินไป หวานรู้ไหมว่าผมรู้สึกเช่นไร

เป็นครั้งแรกที่ผมฆ่าคน ผมจับนางกำนัลทั้งสองเชือดคอต่อหน้าองค์หญิงส่วนตัวองค์หญิงเองผมร่ายอาคมหลอนประสาทเข้าใส่ ป่านนี้ไม่รู้จะบ้าไปถึงไหนแล้ว”

“หนึ่ง ถอนอาคมให้องค์หญิงเถอะสงสารเขา”

“ไม่ มันบังอาจมายุ่งกับหวานของผม แค่นี้น้อยไปด้วยซ้ำ”

“หนึ่งองค์หญิงชอบหนึ่ง หนึ่งก็รู้ นางอาจจะทำผิดแต่หนึ่งไม่ควรทำผิดตามนาง”

“อืม” นักเวทย์หนุ่มรับคำไม่เต็มเสียงแต่ก็ยอมถอนอาคมในที่สุด

“ใครมาช่วยหวาน” จำเลยเริ่มเปลี่ยนข้าง อสูรสาวชักตกที่นั่งลำบาก

“เอ่อ” ภูติสาวเริ่มก้มหน้าก้มตาหนี

“ใคร” น้ำเสียงกดดันเป็นที่สุด

“นายท่าน”

“มันเรียกสิ่งตอบแทนเป็นอะไร” อยู่ในวงการนี้มานานทำให้รู้ดีว่าพวกอสูรไม่ยอมช่วยเหลือกันฟรีๆเป็นแน่

“คือ หนึ่ง” ภูติสาวยังคงก้มหน้าก้มตาหนี

ขวับ ๆๆๆ ก้านมะยมปรากฏขึ้นอยู่ในมือของชายหนุ่ม

“หวาน 1 2 ” มือหนายืนลิดใบอย่างใจเย็นหากนับถึงสามเมื่อไหร่คงมีการเจ็บตัวเป็นแน่แท้

“ครั้งแรกของข้า” จบคำทำนบน้ำตาจึงค่อยๆไหลเปื้อนแก้มขาว

“…” ชายหนุ่มเงียบไปพักหนึ่ง

“หวาน ผมขอโทษ” น้ำตาลูกผู้ชายไหลรินชดเชยความผิด หญิงสาวตรงหน้าเป็นผู้ที่สำคัญยิ่งในชีวิตแต่ตนกลับเป็นต้นเหตุของเรื่องเลวร้ายในชีวิตของนาง

“ไม่เป็นไรหนึ่ง มันจบลงไปนานแล้ว ข้าไม่โกรธท่าน” ภูติสาวใช้มือน้อยปาดเช็ดคราบน้ำตาบนแก้มหนาของชายหนุ่ม

รสสัมผัสไม่เคยคุ้นทาบทับลงบนริมฝีปากก่อนบทรักอ่อนโยนจะค่อยๆถูกถ่ายทอดออกมาจากร่างของหนุ่มนักเวทย์

“โอ๊ย” เสียงร้องไม่เบาเลยยามประสานร่างเชื่อมเป็นเนื้อเดียวกัน

“หืม” น้ำเสียงสงสัยดังมาจากร่างแกร่ง สายตาคมทอดมองบนกลีบกุหลาบ

“ฮาๆๆๆ หวานคนดี ผมเป็นคนแรกของคุณ” จบคำชายหนุ่มจึงค่อยๆนำพาอสูรสาวหลงวนอยู่ในโลกที่ไม่รู้จักหลายรอบๆเข้าจนภูติสาวชักคุ้นเคย

………………………………………………………………………………………

“ตามถ้อยคำของนายหญิงตรงกับเรื่องที่สืบมาทั้งหมดค่ะ” แววตาของท่านชายเริ่มชายแววเคร่งเครียดขึ้น

“เวร่า เราจะกลับมรนาการกัน” คำสั่งเดินทางตามมาอย่างทันที

“ค่ะ”

“มีอะไร” ท่าทางของอสูรสาวคนสนิทให้ท่านชายผิดสังเกต

“เอ่อ ข้ากับนายท่านไม่เคยมีอะไรกัน” ใบหน้าของภูติสาวสาวเริ่มเก้อเขิน

“ใช่ ฮาๆ เจ้าเพิ่งรู้รึ ตอนนั้นเจ้าดูอยากประชดชีวิต ทุกครั้งข้าก็แค่ป้อนยาพิษให้เจ้ารู้สึกเหมือนมีอะไรกับข้าเท่านั้นเอง แตะนิดแตะหน่อยเจ้าจะได้ไม่สงสัย มีสัมพันธ์กับข้าดีกว่าไปมีกับคนอื่น เจ้าเป็นน้องสาวคนเดียวของข้าถึงข้าจะไม่อยากรับก็เถอะ”

“นากิม นายท่าน” เสียงหวานชักเริ่มสั่นเครือ

“นี่ก็อีกนายท่าน ข้าเคยสั่งให้เจ้าเรียกหรือ เจ้าเรียกของเจ้าเอง เมื่อไหร่เจ้าจะยอมลดบรรดาศักดิ์ของข้าลงเสียทีเวร่า”

“ท่านหญิงไลน์สั่งห้ามข้าตีเสมอท่านเพราะข้าไม่ใช่สายเลือดเดียวกับท่าน”

“ทำไมจะไม่ใช่ เนวีกรอกหูเจ้าทุกวัน เจ้าไม่จำบางรึ เวร่าเป็นน้องของนากิม นากิมต้องดูแลน้อง ข้ายังจำมาจนทุกวันนี้” ถ้อยคำของท่านชายหนักแน่น

“พี่นากิม” น้ำตาของภูติสาวหลั่งไหลเป็นสายออกมาด้วยความสุข

“ยอมเรียกสักที เวร่า น้องน้อย” อสูรหนุ่มโอบกอดร่างบางอยู่ในอ้อมแขน สายสัมพันธ์ผูกพันแน่นแฟ้นขึ้นอีกครา

“เวร่า เจ้ารู้ได้ยังไงว่าข้าหลอกเจ้า” จบคำน้องน้อยในอ้อมแขนรีบหายตัวไปโดยไม่เอ่ยคำลา

“ไอ้นักเวทย์ แกกับข้าเจอกันอีกแน่” ถึงน้องน้อยไม่บอกแต่ก็พอเดาได้

.......................................................26
ได้ข่าวนายก็ไปกินน้องเขามาเหมือนกันนะนากิม -_-





ลายหมึก
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 27 ส.ค. 2557, 01:20:12 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 27 ส.ค. 2557, 01:20:12 น.

จำนวนการเข้าชม : 998





<< ตอนที่ 20 ความจริง   ตะวัน ตอนที่ sp1 เจรจา >>
ใบบัวน่ารัก 27 ส.ค. 2557, 08:34:25 น.
พี่น้องครับ พอๆๆกันนะคุณพี่ชาย ท่านชายกะ พี่หนึ่ง
คายฆ่าท่านพ่อท่านแม่ท่านชายยยยยยย
บอกความจริงมา


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account