อะรูซะตี...เจ้าสาวของผม (จบแล้วค่ะ)
เป็นเรื่องราวของคนที่ไม่เคยเจอกันมาก่อน
แล้วต้องมาแต่งงานกัน...

เมื่่อต้อง "แต่งก่อนจีบ"...มิใช่ "จีบก่อนแต่ง"
อย่างเรื่องก่อนๆที่โยเคยเขียนมา...


...ดานีส...นายแพทย์หนุ่มรูปงาม ลูกผสมหลายเชื้อชาติ
ผู้เพียบพร้อมไปด้วยรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ และความสามารถ

กับ

...นาดา...หรือน้ำค้าง...หญิงสาวที่แสนธรรมดา ผู้ที่ดานีสไม่เคยเห็นหน้า
แม้กระทั่งวันแต่งงาน เขาก็ยังไม่เคยเห็นหน้าเจ้าสาวตัวเอง...

จวบจนต้องพาเธอข้ามน้ำข้ามทะเลสู่ดินแดนอาทิตย์อุทัย

ที่นั่น...ทำให้น้ำค้างแข็งในฤดูหนาวต้องละลายเมื่อเจอกับ
แสงแห่งรุ่งอรุณแรก...


...'อะรูซะดี'...หญิงสาวท่องจำประโยคภาษาอาหรับ
ที่เขียนอยู่บนกล่องของขวัญวันแต่งงานที่เจ้าบ่าวมอบให้กับเธอ
โดยไม่อาจรู้ความหมายของมันเลย...

...เขาแต่งงานกับเธอ เพียงเพราะแม่ของเธอขู่เขา...

...ส่วนเธอแต่งงานกับเขา เพียงเพราะ...แม่ขอร้อง....

...เธอคงเป็นได้เพียงแค่เจ้าสาวของเขา...เท่านั้นสินะ...
...เป็นได้แค่เจ้าสาว...


Tags: แนวแต่งก่อนจีบ ดานีส นาดา น้ำค้าง โสภณพสุธ

ตอน: ตอนที่ 23 เจ้าสาวของผม (ตอนจบ)

เจ้าสาวของผม (ตอนจบ)


นาดาที่กำลังวุ่นวายอยู่กับการช่วยตรวจดูเครื่องแต่งกายให้ลูกชายคนโต
ที่กำลังจะเข้าร่วมพิธีรับปริญญาเอกสาขาการบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์
ตามรอยคุณย่า กับลูกสาวคนรองที่จบปริญญาโทสาขาเภสัชกรรมตามรอยคุณปู่ทวด…

ส่วนลูกสาวฝาแฝดของเธอเองก็กำลังจะจบปริญญาตรีสาขาแพทยศาสตร์ตามรอยคุณพ่อ…

ซึ่งทั้งสี่ได้กลายเป็นทายาทรุ่นล่าสุดที่จะเข้ามาช่วยสืบทอดกิจการของตระกูล
ต่อจากผู้เป็นบิดาที่แบกรับภาระหนักมาแสนยาวนาน…

ส่วนลูกชายคนที่ห้า น้องนาบีล บัดนี้กำลังศึกษาด้านการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ตามรอยคุณปู่…

ซึ่งหลังจากนาบีลแล้วเธอยังให้กำเนิดบุตรชายคนที่หก ชื่อ จาลัล
ตอนนี้กำลังเตรียมทำเรื่องเข้าศึกษาต่อ
สาขานิติศาสตร์อิสลามในมหาวิทยาลัยที่เมืองมาดีนะห์ ประเทศซาอุดิอารเบีย…

ส่วนน้องสาวคนสุดท้อง มีชื่อภาษาอาหรับว่า หะบีบี้ ซึ่งแปลว่า สุดที่รักนั้น
กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมที่สาม…

ซึ่งน้องนุจสุดท้องดูจะเป็นที่หวงและห่วงของคุณพ่อและพี่ๆ
เพราะว่าขี้อ้อนกว่าใคร

ทำให้วันนี้นาดาที่ถือกำเนิดบุตรให้กับดานีสถึงเจ็ดคน
ถึงกับปลาบปลื้มใจที่ได้เห็นลูกๆประสบความสำเร็จในด้านการศึกษา…
และพร้อมจะเป็นความหวังครั้งใหม่ของเธอและสามีต่อไป…

“หะบีบี้ ช่วยแม่รับโทรศัพท์มือถือหน่อยลูก…”นาดาร้องเรียกให้ลูกสาวคนเล็ก
ช่วยรับโทรศัพท์มือถือที่กำลังกรีดเสียงร้องอยู่บนห้องนอนของเธอ

“บีบี้กำลังผูกโอบิให้พี่นีลอยู่ค่ะ มือไม่ว่างเลยค่ะแม่…”เสียงลูกสาวคนเล็กตอบกลับมารดา
ในขณะที่มือก็ยังคงสาละวนอยู่กับการแต่งตัวให้กับพี่สาว

นาดาจึงละมือจากการช่วยลูกสาวฝาแฝดอีกคนลง

“เดี๋ยวแม่กลับมาช่วยต่อนะจ๊ะฟ้า…”

“ไม่เป็นไรค่ะแม่ เดี๋ยวฟ้าให้คุณย่าช่วยก็ได้ค่ะ คุณย่าเดินมาโน่นกับคุณยายแล้ว…
น้าๆก็มาแล้วด้วย…”ดารีญ่าพูดกับมารดาในขณะที่ดวงตาสดใสเป็นประกาย
หันไปจับอยู่ที่ผู้กำลังเดินทางมาถึง

“อัสลามุอะลัยกุม…”อะมานีส่งเสียงทักทายทุกคนในบ้าน

“วะอะลัยกุมมุสลาม…”ทุกคนตอบรับอย่างพร้อมเพรียงกัน

“ย่าก็นึกว่าจะมาไม่ทันซะแล้วสิ…”หญิิงสูงวัยกล่าวเมื่อนั่งลงตรงโซฟา

“ก็ย่าเล่นพายายไปทัวร์คาสบลังก้าซะเพลิน เกือบลืมวันสำคัญของหลานๆซะแล้ว…”
อะมานีหยอกหลานเสียงแหบ เพราะแม้อายุจะล่วงวัยชราจนเรียกได้ว่าไม้ใกล้ฝั่งแล้ว
ทว่าก็ยังไม่วายออกเดินทางท่องเที่ยวไปทั่ว
ยิ่งได้คู่หูพาเที่ยวอย่างมารดาของนาดาแล้ว ยิ่งเพลิดเพลินใหญ่…

“อย่าลืมของขวัญด้วยนะคะ ของนีลกับฟ้าต้องยิ่งใหญ่กว่าของพี่รุสกับพี่รัลนะคะ”
นาดีญาเอ่ยเสียงใส

“อะไรกันน้องนีล วันนี้มันเป็นวันของพี่รุสกับพี่รัลนะจ๊ะ…
ของเธอกับน้องฟ้าน่ะปีหน้าโน้นไม่ใช่หรือ…”ดารัลแซวน้องสาวเล่น

“นั่นน่ะสิ…พี่ก็ว่าอยู่…”ดารุสเสริม ทำเอาสองสาวฝาแฝดหันมามองหน้ากัน
แล้วเชิดใส่พี่ๆพร้อมกัน สร้างรอยยิ้มให้กับคนดูจนก่อเป็นเสียงหัวเราะ…

“คาสบลังก้ามีดียังไงนะ ถึงทำให้คุณย่าไปที่นั่นบ่อยเหลือเกิน”
นาบีลเอ่ยขัดขึ้นเมื่อเห็นคุณย่าของตนเองดูจะมีความสุขทุกครั้งที่กลับมาจากที่นั่น…
หนุ่มน้อยเดินไปนั่งข้างๆคุณยายที่นั่งติดกับย่า

“เจ้าคงต้องไปสัมผัสดูเองแล้วล่ะ…ย่าบอกได้แค่ว่า มันคือที่ๆย่ากับคุณปู่
พบกันครั้งแรกและเป็นที่ๆเราสองคนไปฮันนีมูนด้วยกันทุกๆปี
เมื่อครบรอบวันแต่งงานจ้าเด็กๆ…”อะมานีพูดไปก็หน้าแดงไป…

“โอ้ว้าววววว…โรแมนติกมากเลยย่าเรา…งั้นพาเราไปเที่ยวบ้างสิคะ…
ไปกันหมดนี่เลยได้มั้ยอ่ะ บีบี้อยากไปค่ะย่า…”น้องนุจสุดท้องของบ้าน
หยุดจากการช่วยพี่สาวผูกโอบิแล้ววิ่งเข้าไปคุกเข่าลงบนพื้นพรม
กอดแขนผู้เป็นย่าส่งสายตาออดอ้อนขอความเมตตา
ทำเอาคนมองถึงกับยิ้มพร้อมส่ายหน้าด้วยความเอ็นดู…

“อยากไปสัมผัสดูว่าที่นั่นมีดียังไง…ปู่กับย่าถึงได้ปิ๊งกัน แล้วก็ทำให้คุณย่า
ของเราหน้าแดงเวลาพูดถึงด้วย…”นาบีลถือโอกาสหยอกเย้าผู้เป็นย่าเล่นต่อไป

“เราสองคนนี่ขี้เล่นจริงๆ…ไปขอพ่อเราโน่นไป…ว่าแต่พ่อเรากับจาลัลหายไปไหนนี่
เข้ามาตั้งนานแล้วไม่เห็นโผล่หน้ามาให้เห็นเลย…”

“พี่จาลัลอยู่ในครัวโน่นแน่ะค่ะ…ช่วยน้าชายทำอาหารเลี้ยงพวกเรา…
ส่วนพ่อเห็นแว้บไปแว้บมาแถวๆนี้แหล่ะค่ะ…”ดารัลเป็นคนตอบ
สร้างรอยยิ้มให้ผู้เป็นย่าในทันทีที่ได้รับคำตอบนั้น

“โอ้…เดี๋ยวนี้ผู้ชายบ้านนี้เขาเข้าครัวกันแล้วรึ…ว่าแต่จะกินกันได้รึ…”
ผู้เป็นย่าแหย่หลานๆเล่น…

“ย่าน่ะแกล้งลืม ก็ในบรรดาพวกเราทั้งหมดรวมกันแล้ว
ก็ยังสู้ฝีมือการทำกับข้าวของพี่จาลัลไม่ได้เลย…พี่จาลัลน่ะเขาหลานยาย
ดูสิ พอพูดปุ๊บยายก็รีบเดินไปหาหลานคนโปรดในครัวทันทีเลย
เห็นมั้ยคะคุณย่า…น้าทั้งสองก็รีบตามไปติดๆอีก”

หะบีบี้พูดแซวผู้เป็นยายกับพี่ชายและน้าสาวทั้งสองที่เพิ่งเดินทางกลับ
มาจากคาสบังก้าเล่น

“แกล้งทำไม่อร่อยกันล่ะสิไม่ว่า…จะได้มีคนทำให้กินโดยไม่ต้องเหนื่อย
ย่ารู้ทันพวกเราหรอก ไม่ต้องมาหาข้ออ้างเลย…”อะมานีมองหลานๆ
ด้วยแววตารู้เท่าทัน

“เฮ้อ…จะมีสักครั้งมั้ยนะ ที่ย่าจะปล่อยให้พวกเราได้ฉลาดกว่่าบ้าง…”
ดานีญาแสร้งถอนหายใจ

“ว่าแต่แม่เราล่ะ…หายไปไหนแล้ว เมื่อกี้ยังเห็นแว้บๆอยู่เลย…”

“สงสัยจะรีบขึ้นไปรับโทรศัพท์ค่ะ…ไม่รู้ใครโทรมา…”
ดารีญ่่าตอบขณะมองขึ้นไปยังชั้นบน

“งั้นคุณย่าช่วยฟ้าผูกโอบิให้หน่อยนะคะ…แม่ทำค้างไว้…เดี๋ยวสวยไม่เสร็จ”

“ไหนหันมาให้ย่าดูซิ…”อะมานีจัดแจงหมุนตัวหลานสาวไปมาแล้วช่วย
ผูกโอบิให้หลานสาวด้วยใบหน้าสดใส…มีความสุข…





ส่วนทางด้านนาดาที่รีบขึ้นมารับโทรศัพท์ด้านบนด้วยหน้าตาตื่น
เพราะคิดว่าจะเป็นสายสำคัญจากเมืองไทย…

เธอกำลังรอสายจากสาวหน้าใสวัยเบญจเพศ ว่าที่คู่หมั้นของลูกชายคนโตอยู่พอดี…
เนื่องจากทางโน้นกะจะเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาทำเซอร์ไพร้ลูกชายของเธอในวันนี้…
ป่านนี้คงอยู่ที่สนามบินแล้ว…

ทว่า เมื่อเข้ามาในห้อง เธอก็เห็นผู้เป็นสามีนั่งพับเพียบเรียบร้อยอยู่บนเตียงนุ่ม
ปล่อยให้โทรศัพท์ของเธอที่วางอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้ง
แผดเสียงร้องอยู่ครั้งแล้วครั้งเล่าก็ไม่ยอมลูกขึ้นไปรับสายให้

นาดาจึงวาดสายตาไปทางคนที่นั่งอยู่บนเตียงที่ทำไม่รู้ไม่ชี้อยู่
แล้วรีบเดินไปรับโทรศัพท์มือถือของเธอ…

ทว่าชื่อของผู้ที่กำลังโทรเข้ามานี่สิ ทำเอาสีหน้าของคนรับผิดหวัง
แล้วอดไม่ได้เลยที่จะหันไปทางคุณสามีที่กำลังกดโทรศัพท์อยู่ในมือเล่น…

นาดาสะบัดหน้าไปทางดานีสด้วยแววตาเอาเรื่องปนแอบขำทันที

“คุณหมอจะโทรหาน้ำค้างทำไมคะ…”

นัั่นน่ะสิ จะโทรหาทำไม ก็เห็นๆอยู่
ว่าเธอกำลังช่วยลูกๆแต่งตัวอยู่ด้านล่าง แล้วโทรศัพท์ของเธอก็อยู่ข้างๆเขาแค่เอื้อม
แปลกคนแท้ๆเชียวคุณหมอนี่!

ทว่า ดานีสกลับอมยิ้มก่อนจะยักคิ้วให้คนที่กำลังกำโทรศัพท์อยู่
เสียงของมันยังคงแผดร้องอยู่ไม่ยอมหยุด

“ก็เห็นคนอื่นๆเขาแต่งตัวสวยหล่อกันหมดแล้ว
แต่ฉันนี่สิ…ยังไม่มีใครแต่งตัวให้เลย…ยังอยู่ในชุดนอนอยู่เลยเห็นมั้ย…
น้ำก็ยังไม่ได้อาบ”

ดูซิ…นี่ถ้าเขาเป็นเด็กคงน่าเอ็นดูอยู่หรอก…แต่เจออย่างนี้มันน่าหยิกชะมัด

“นี่แน่ะ…ขอหน่อยเหอะ…”แล้วนาดาก็ทำตามความคิด
ด้วยการหยิกเข้าตรงลำแขนของสามี

“ตื่นก็ตื่นก่อนใครแท้ๆ…แถมยังเดินไปทั่วบ้านแล้วด้วย…”
นาดาต่อว่าด้วยแววตาหมั่นไส้

“ก็เมียไม่สนใจเลย…เอาใจแต่ลูก…”ดานีสแสร้งตีหน้าเศร้า

“งั้นมาค่ะ…เดี๋ยวเมียจะพาไปอาบน้ำ ประแป้งและแต่งตัวให้หล่อ
ไม่แพ้หนุ่มๆข้างล่างนะคะ…แต่ได้โปรดเลิกโทรสักทีได้มั้ยคะ
ไม่งั้นเมียเปลี่ยนใจ คุณสามีจะได้ใส่ชุดนอนไปงานรับปริญญาของลูก
ก็เป็นได้นะคะ…”นาดาอ่อนใจเพราะไม่ว่าจะกดวางสายไปกี่รอบ
อีกฝ่ายก็ดูจะยังสนุกไม่เลิกกับการหาเรื่องแกล้งกดโทรหาเธออยู่

“โอเคๆ…ไม่แกล้งแล้วก็ได้…”ดานีสวางโทรศัพท์ลงบนหัวเตียงทันที

“เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าน้ำค้างเผลอลืมลูกน้อยไว้บนห้องอีกคน…
ไปค่ะไป ไปอาบน้ำกัน…”

นาดาคว้าแขนของคนที่นั่งอยู่บนเตียงให้ลุกขึ้นตามเธอมา

ทว่า ดานีสกลับกระตุกแขนของเธอจนทำให้หญิงสาวเสียหลักล้มลงไป
ทาทับบนตัวของดานีส ก่อนที่ดานีสจะเป็นฝ่ายพลิกกลับให้นาดานอนราบ
บนเตียงแทนส่วนเขาก็ก้มลงหอมแก้มซ้ายขวาของเธอไปหลายฟอด

“ตั้งแต่มีลูก เธอก็เลิกอาบน้ำให้ฉันมาตั้งแต่บัดนั้น…ตอนนี้ลูกเราก็โต
จนอาบน้ำแต่งตัวได้เองกันหมดแล้ว ไม่ต้องพึ่งพาเธอแล้ว
เธอจะกลับมาอาบน้ำแต่งตัวให้ฉันเหมือนเดิมได้รึยัังน้ำค้าง…”

“น้ำค้างรู้ค่ะว่่า…ลูกน่ะโตจนอาบน้ำแต่งตัวเองกันได้หมดแล้ว…
แต่ไม่รู้ทำไมคนแถวนี้ถึงยังอาบน้ำเองไม่ได้สักทีน้า…
ว่าแต่นี่คือคำสั่งหรือคำขอร้องกันนะ…”ดานาแกล้งเย้าอีกฝ่ายเล่น…

“ใครว่าฉันอาบน้ำเองไม่ได้ ก็อาบน้ำเองมาตั้งหลายปี…
แต่ปีนี้ไม่อยากอาบน้ำเองแล้ว…ไม่มีมือที่สามมาช่วยขัดหลังให้ตั้งหลายปี…
มันไม่สบายหลังเลยรู้รึเปล่า…”

ดูซิ ดูคนแก่ทำตัวเหมือนเด็กสิ…มันน่ารักซะที่ไหน น่าหมั่นไส้สุดๆล่ะสิไม่ว่า

“งั้นมาค่ะ…อย่ามัวโอ้เอ้…ไปอาบน้ำเลย…”

“ไม่…ขอกอดอีกหน่อยไม่ได้เหรอ…เมื่อคืนก็ไม่ได้กอด
เมื่อคืนก่อนก็ไม่ได้กอด เมื่อคืนก่อนโน้นก็ไม่ได้กอด…
ไม่ได้กอดมาสี่คืนแล้ว…”ดานีสเริ่มประท้วง

“ก็ใครใช้ให้คุณหมอไปนอนกอดหมอนข้างที่ทางเหนือล่ะคะ…”

“ก็งานน่ะสิ…รู้งี้พาหมอนข้างที่นี่ไปด้วยก็ดี…”

“กอดซะแน่นแบบนี้ อยากมีลูกเพิ่มอีกเหรอคะคุณหมอขา…”
นาดาลากเสียงยาว

“ได้อีกก็ดีนะ…ก็บอกแล้วไงว่าอยากได้ซักหนึ่งโหลเอาไว้ตั้งทีมฟุตบอล”

“ตอนนี้ก็เต็มบ้านแล้วนะคะคุณหมอดานีสขา…
น้ำค้างว่าเรามารอลุ้นหลานกันไม่ดีกว่าเหรอ…
นี่ถ้าลูกเราแต่งงานออกเรือนครบเมื่อไหร่รับรองว่าคุณหมอจะมีหลานเกินโหลชัวร์ๆ”

“ก็เธอยังไม่แก่ซักหน่อย…”

“ห้าสิบสองนี่นะคะยังไม่แก่…”นาดาย้ำ

“ยังสาวอยู่เลย…ถ้าเธอไม่บอก…ฉันก็คงนึกว่าเธอยังยี่สิบห้านะเนี่ย”

“ยี่สิบห้าน่ะมันอายุของว่าที่คู่หมั้นของลูกเราแล้วล่ะค่ะ…”

“นี่ลูกเรากำลังจะแต่งงานแล้วเหรอเนี่ย…”

“เจ้าดารุส ลูกชายคนโตของคุณน่ะ ปีนี้อายุสามสิบสองแล้วนะคะ…”

“อายุเท่าฉันตอนแต่งงานกับเธอเลย…”ดานีสเปรย
เพิ่งนึกได้ว่าตัวเองอายุไม่น้อยแล้ว เผลอคิดไปได้ไงก็ไม่รู้ว่ายังสามสิบสองอยู่…

“ส่วนน้องรัลเห็นว่าคุณแม่จะพาหนุ่มหล่อจากคาสบลังก้ามาดูตัวด้วยนะวันนี้น่ะ…”

“เจ้าตัวเขารู้รึยัง…”นาดาส่ายหน้า

“ยังเลยค่ะ…”

“เดี๋ยวก็เกิดเรื่องอีกหรอก…รายนั้นหัวแข็งจะตาย…ตรงข้ามกับแม่สุดๆ…”

“ก็นั่นน่ะมันลูกคุณนี่นา…”

“หน้าสวยเหมือนฉันด้วยใช่มั้ยล่ะ…”นาดาถึงกับเบ้ปาก
ก่อนจะหยิกแก้มดานีสด้วยความหมั่นเขี้ยว…

“เห็นคุณแม่บอกว่า เป็นหลานชายของเพื่อนรักที่โน่นน่ะค่ะ…
เป็นสถาปนิกชื่อดังของที่โน่นเลยน้า…”

“เธอเคยเห็นหน้าเขาแล้วเหรอ…”นาดาส่ายหน้า

“ยังเลยค่ะ…แต่คุณแม่การันตีว่าหล่อไม่แพ้คุณหมอตอนหนุ่มๆเลยล่ะ…”

“เจ้าชู้รึเปล่าก็ไม่รู้…”ดานีสบ่น

“นี่อย่าบอกนะว่าหวงลูกน่ะ…”

“ก็น่าหวงมั้ยล่ะ…ฉันน่ะอยากให้ลูกปิดหน้าเหมือนเธอรู้มั้ย…
หนุ่มๆจะได้ไม่มองมามากนักเวลาออกไปไหนมาไหนกับฉันน่ะ…”

นาดาถึงกับระยายยิ้มออกมากับอาการหวงลูกสาวของสามี

“เรื่องนี้คุณคงต้องไปบอกลูกเอาเองแล้วล่ะค่ะ…ลูกคงยอมอยู่แล้ว
เห็นวันก่อนบ่นๆอยู่ว่าเรียนจบแล้วจะหาผ้ามาปิดหน้าเวลาออกไปนอกบ้าน”

“ง้ันก็ดีสิ…ฉันจะได้หายกังวล…หรือถ้าจะให้ดีกว่านี้ก็เรียนต่อเอกไปเลย
ไม่ต้องรีบแต่งงานหรอก ผู้ชายสมัยนี้หาที่ดียากนะ…ส่วนใหญ่ที่พบ
ก็มีดีแค่หน้าตา…”ดานีสเริ่มวิจารณ์เพศเดียวกัน…

“เรื่องหนุ่มคนนั้น คุณหมอไม่ต้องกังวลไปนะคะ
คุณแม่คงมองคนไม่ผิดหรอกค่ะ…ท่านตาแหลมจะตาย…”

“แม่ฉันน่ะแปดสิบกว่าแล้ว…สายตาอาจจะเพี้ยนได้เหมือนกันนะ…”

“ดูไปว่าท่าน…”

“เรื่องนี้ฉันขอนะน้ำค้าง…”

“น้ำค้างยกให้คุณตัดสินใจค่ะ…เพราะผู้ชายด้วยกันคงมองกันออก…
แต่ตอนนี้เราไปอาบน้ำกันดีกว่าค่ะ เดี๋ยวจะไปไม่ทันกันพอดี ลูกๆคงเสร็จกันหมดแล้ว…”

พูดจบนาดาก็ลุกขึ้นพาดานีสไปยังห้องน้ำทันที


ต่อจากนี้เธอคงต้องกลับมาใส่ใจหน้าที่ทีี่ต้องปฏิบัติต่อสามีอย่างจริงๆจังๆอีกครั้ง
หลังจากที่ปล่อยให้เขาจัดการเองมาหลายปี

เนื่องจากเธอเองก็มัวแต่ยุ่งๆวุ่นวายอยู่แต่กับลูกๆ
ซึ่งตอนนี้ลูกๆก็โตพอที่จะจัดการกับตัวเองได้แล้ว…
จึงไม่มีอะไรที่เธอจะต้องห่วงอย่างแต่ก่อนอีก
จะห่วงก็คงจะเป็นคุณสามีนี่แหล่ะ…ที่นับวันจะดูขี้อ้อนเหมือนเด็กเหลือเกิน

แต่เธอก็ชอบนะ ยังคงชอบทุกอย่างที่เป็นเขา
ความรู้สึกประทับใจในตัวเขาก็ไม่เคยหายไปเลย เพราะเขาเคยดูแลเธอ
เอาใจเธออย่างไร เขาก็ยังคงทำเช่นนั้นอยู่จนบัดนี้ เคยอบอุ่นน่าอยู่ใกล้
เคยโรแมนติก เคยหวานอย่างไรในอดีต
ปัจจุบันเขาก็ยังปฏิบัติเช่นนั้นต่อเธออยู่…

เขายังคงบอกรักเธอผ่านสายตาของเขาอยู่เสมอ…
ยิ่งนานวัน เขาก็ยิ่งดูภูมิิฐานมากขึ้น…

สำหรับเธอแล้ว แม้วันนี้เขาจะอายุมากขึ้นกว่าวันแรกที่เจออยู่ไม่น้อยแล้วก็ตาม
แต่เขาก็ยังคงทำให้เธอรู้สึกได้ว่าเขายังคงสามสิบสองอยู่…
แล้วเขายังทำให้เธอรู้สึกเหมือนตอนที่เธออายุสิบแปด…
เหมือนตอนที่เราเพิ่งได้เจอกัน…เพิ่งแต่งงานกัน…

เขาเคยขยันจีบเธออย่างไร บัดนี้เขาก็ยังขยันจีบเธออยู่อย่างนั้น…
แม้รูปแบบในการจีบจะเปลี่ยนไป
แต่ความรู้สึกที่ได้รับยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง…

…คงจะไม่แปลกเลยที่ทุกวันนี้…เธอยังคงรู้สึกได้ว่า…

เธอคือ… ‘อะรูซะตี’…อย่างที่เขามักจะพูดกับเธอเป็นประจำ


นับตั้งแต่วันแต่งงาน จนกระทั่งวันนี้เขาก็ยังคงพูดกับเธอ
แม้กระทั่งเวลานี้ ตอนที่เธอแต่งตัวให้เขาเสร็จตรงหน้ากระจก...

“เธอคืออะรูซะตี…คือเจ้าสาวของฉัน…นาดา…”




.......สวัสดีค่ะ.......



อย่าลืมติดตามต่อในบทส่งท้ายกันนะคะ...มีเรื่องราวระทึกใจให้นักอ่าน

วาบหวิวนิดๆ...อิอิอิ...

สรุปว่า...หมอดานีสกับน้ำค้างมีลูกด้วยกันถึง 7 คน ชาย 3 หญิง 4
สามารถเนอะ...อิอิอิ...งานนี้ไม่ใช่แค่หมอดานีสที่สุดยอด เพราะคนคลอดสุดยอดกว่า
โดยเฉพาะคนเขียนสุดยอดอยู่แล้ว(เพราะตอนนี้ปีนขึ้นสู่ยอดตาลนั่งอยู่บนยอดสุดของต้นตาลเรียบร้อยโรงเรียนเต่าแว้ว...เย้ๆๆ)

ขอบคุณทุกๆเสียงทุกๆกำลังใจมากๆเลยนะคะ...

ปล.มีนักอ่านท่านใดพอจะทราบหรือคำนวณอายุปัจจุบันของหมอดานีสได้บ้างคะ
ใครทราบลงชื่อรอรับของขวัญพิเศษจากใจเต่าโยพร้อมด้วยลายเซ็นงามๆ
เอาไว้ได้เลยค่ะ

งานนี้ใครตอบถูกคนแรกมีของขวัญให้ค่ะ...
ส่วนคนถัดไปก็มีให้อีกเช่นกัน เฉลยกันในบทส่งท้ายนะจ๊ะ...


ใครมาตอบให้ช้าหลังจากเฉลยไปแล้วอดน้า...
(จำได้ว่าไม่ได้แจกอะไรๆให้นักอ่านลุ้นมานานเนิ่นนานแว้ว...เอาสักหน่อย) อิอิ



รักษาสุขภาพนะคะ

"เต่าโย"









yoraya
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 31 ส.ค. 2557, 02:19:22 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 26 พ.ค. 2563, 01:34:40 น.

จำนวนการเข้าชม : 5709





<< ตอนที่ 22 เมื่อหมอกสลายไป   
Pat 31 ส.ค. 2557, 08:42:05 น.
ช่างอ้อนจริงคุณหมอดานีสขา สุดยอดจริงๆมีลูกตั้งเจ็ดคน เดาว่าคุณหมออายุ64 ค่ะ


Chii 31 ส.ค. 2557, 09:18:11 น.
66 มั้ง อิอิ

รอนานมากกกก ดีใจที่ได้อ่านนะตัว


คิมหันตุ์ 31 ส.ค. 2557, 09:50:36 น.
ตอบ66เช่นกันค่าาาาาาาาาาคำนวณแล้วอิดิ

น่ารักเนอะ


peeno 31 ส.ค. 2557, 15:17:25 น.
เป็นครอบครัวน่ารักกกกก

ขอตอบว่าคุณหมออายุ 64 ค่ะ (มากกว่าานาดา 1 รอบ)


ใบบัวน่ารัก 31 ส.ค. 2557, 21:04:00 น.
ลูกเต็มบ้าน ที่นี้หละ ไม่ต้องแย่งลูกหลานกันนะค้า


saralun 31 ส.ค. 2557, 21:07:36 น.
ขอตอบ 66 ค่า


pseudolife 31 ส.ค. 2557, 22:28:21 น.
เข้ามาอ่านทีเดียวสี่ตอนเลย (พลาดไปเยอะมาก) น่ารักมากๆ ค่ะพี่โย


แว่นใส 31 ส.ค. 2557, 23:16:16 น.
เดาว่า 66 เหมือนกันนะ


พัชรี 2 ก.ย. 2557, 02:09:57 น.
66 ใช่ไหมฦ


SEA 14 ส.ค. 2564, 20:46:45 น.
ชอบ​มาก​มาย​ค่ะ​เรื่อง​นี้​ แต่​หายไปหลายตอนเลยค่ะ ถ้า​เป็น​​ไปได้อยากให้ลงครบทุกตอนอีกครั้งค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account