สุดปลายฝัน
สุดปลายฝัน เรื่องราวของ ‘ณัฐญาณ์’ หญิงสาวที่ประสบเหตุไม่คาดฝัน เมื่ออุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกลงไปใจกลางพายุงวงช้าง ในช่วงเวลาเดียวกับประตูมิติที่เปิดออกนำพาเธอย้อนเวลามาสู่อดีตกาล

ณ สถานที่แห่งนี้ โชคชะตานำพาให้เธอได้มาพบรักกับ ‘กัปตันวิลเลียม แคมพ์เบลล์’ ชายหนุ่มที่เข้ามาดูแลในวันที่เธอตัวคนเดียวในโลกอดีตแห่งนั้น

เมื่อความรักเกิดขึ้นท่ามกลางความแตกต่างของวัฒนธรรมและกาลเวลา เช่นนี้แล้วเรื่องราวความรักของทั้งคู่จะสุขสมหวัง หรือจะกลายเป็นโศกนาฏกรรมของความรักที่ไม่อาจลืมเลือน !!!

โปรดติดตามได้ในนิยายรักโรแมนติก ‘สุดปลายฝัน’ นิยายที่จะทำให้คุณรู้สึกราวกับยังอยู่ในความฝันไปอีกแสนนาน แม้เรื่องราวจะจบลงไปแล้วก็ตาม
Tags: ย้อนอดีต, พีเรียดฝรั่ง, ออสเตรเลีย

ตอน: บทที่ ๑

ณัฐญาณ์วางกระเป๋าเสื้อผ้าลงบนเตียงเมื่อเข้ามาในห้องของโรงแรมที่พัก หลังจากเช็คอินเสร็จเรียบร้อยเจ้าหน้าที่เช็คอินหลังเคาน์เตอร์หยิบกุญแจยื่นให้ และพาเธอเดินมาส่งจนถึงหน้าห้อง ตอนจะกล่าวลาก็อวยพรให้หญิงสาวสนุกกับการเข้าพักที่โรงแรมแห่งนี้ แล้วจึงปล่อยผู้เป็นแขกไว้เพียงลำพัง

โรงแรม ‘แคมพ์เบลล์ มิวเซียม โฮเทล’ แห่งนี้ เป็นอาคารไม้สองชั้นหน้าจั่วสูงหลังใหญ่ สร้างขึ้นในราวทศวรรษที่ ๑๘๖๐ ตามสถาปัตยกรรมแบบวิคตอเรีย ในอดีตเคยเป็นสถานีแปรรูปวาฬก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นโรงแรมกึ่งพิพิธภัณฑ์ บอกเล่าเรื่องราวของผู้คนในสถานีล่าวาฬในช่วงที่ธุรกิจล่าวาฬในออสเตรเลียยังเฟื่องฟู

ธุรกิจล่าวาฬเป็นธุรกิจหลักของออสเตรเลียในยุคแรก ๆ ที่คนขาวเข้ามาลงหลักปักฐานในประเทศที่เป็นเกาะขนาดใหญ่แห่งนี้ ก่อนที่จะถูกกำหนดให้เป็นธุรกิจผิดกฎหมายในตอนต้นศตวรรษที่ ๒๐ หลังจากที่ธุรกิจนี้ทำให้วาฬที่มีอยู่มากมายในน่านน้ำออสเตรเลียลดจำนวนลงจนเกือบสูญพันธุ์

โรงแรมกึ่งพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งอยู่ชายฝั่งเมือง ‘พอร์ทแคมพ์เบลล์’ (Port Campbell) บนถนน ‘เดอะ เกรท โอเชียน โรด’ (The Great Ocean Road) จุดหมายของนักเดินทางที่มีชื่อเสียงของออสเตรเลีย พอร์ทแคมพ์เบลล์เป็นเมืองชายฝั่งที่ถูกตั้งชื่อตาม ‘วิลเลียม แคมพ์เบลล์’ เจ้าของสถานีล่าวาฬแห่งนี้

สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกที่อยู่ที่เมืองนี้ก็คือ ‘เดอะ ทเวลฟ์ อพอสเซิลส’ (The Twelve Apostles) เสาหินในทะเลที่เกิดจากคลื่นซัดและกัดกร่อนหน้าผาหินจนกลายเป็นเสาตั้งอยู่ในทะเล เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกมาเยี่ยมชม โดยมีบริการเฮลิคอปเตอร์นำชมเพื่อให้ได้เห็นภาพมุมมองทางอากาศที่สวยงาม ซึ่งณัฐญาณ์ก็เป็นหนึ่งในนักท่องเที่ยวเหล่านั้น

หลังจบการศึกษาปริญญาตรีจากประเทศอังกฤษ ณัฐญาณ์กลับบ้านที่กรุงเทพ ฯ และทำงานเป็นนักแปลอิสระ แปลทั้งเอกสารและหนังสือ หญิงสาวมีผลงานหนังสือแปลกับสำนักพิมพ์ที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง และรับแปลเอกสารให้กับบริษัทใหญ่ ๆ อีกหลายแห่งด้วยเช่นกัน หลังจากเสร็จงานโปรเจ็คท์ยักษ์กับบริษัทไอทีระดับโลกพร้อมผลตอบแทนที่เป็นเงินก้อนไม่เล็กนัก หญิงสาวให้รางวัลตนเองด้วยการเดินทางมาเที่ยวออสเตรเลียตามลำพัง และเข้าพักที่โรงแรมกึ่งพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เพราะสนใจในเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่คนในปัจจุบันไม่อยากจะพูดถึงนัก หากทายาทของตระกูลแคมพ์เบลล์กลับมองเห็นความสำคัญที่จะนำเสนอธุรกิจการล่าวาฬซึ่งเป็นธุรกิจที่ต้นตระกูลกระทำกันมาให้คนภายนอกได้รับรู้ โดยดัดแปลงอาคารสถานีแปรรูปวาฬเก่าให้เป็นโรงแรม และสร้างพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเรื่องราวในสมัยที่สถานีล่าวาฬแห่งนี้ยังเปิดทำการอยู่ให้นักท่องเที่ยวเข้าชม รวมทั้งจัดนิทรรศการกลางแจ้งบนเรือที่เจ้าของสถานีนำออกล่าวาฬในสมัยนั้น

การจัดตกแต่งห้องพักของโรงแรมแห่งนี้ใช้เครื่องเรือนในสมัยวิคตอเรีย เตียงนอนขนาดควีนส์ไซส์มีหัวเตียงไม้แกะสลักอ่อนช้อย ขาเตียงเป็นรูปเทพบุตรทำท่าราวกับกำลังยกมือรองรับเตียงอยู่ในแต่ละมุม ด้านข้างมีโต๊ะเครื่องแป้งที่กรอบกระจกเป็นภาพนูนสูงรูปดอกไม้เลื้อยมองดูอ่อนช้อยงดงาม บนโต๊ะหัวเตียงทั้งสองด้านมีโคมไฟวางอยู่ ตัวโคมไฟเป็นรูปเทพธิดารูปร่างอ้อนแอ้น ใส่กระโปรงบานออกเป็นฐานของโคมไฟ มือสองข้างยกสิ่งที่คล้ายกับคนโทเทินศีรษะ ซึ่งภายในบรรจุหลอดไฟแรงเทียนต่ำ ส่องให้ห้องมีแสงสว่างเรื่อเรือง

หญิงสาวยิ้มเล็กน้อยเมื่อนึกไปว่า หากเปลี่ยนโคมไฟให้เป็นตะเกียงน้ำมัน และมีสาวใช้ในชุดกระโปรงทรงสุ่มยาวกรอมเท้า เอวคอดจนแทบจะกำรอบด้วยสองมือ และแขนเสื้อพอง ๆ ก็พอจะจินตนาการตนเองเป็นคุณหนูลูกสาวคหบดีผู้มั่งคั่ง กำลังนั่งอยู่ในห้องนอนในคฤหาสน์ชานเมืองลอนดอนได้อยู่

“ห้องพักของเราจะตกแต่งแบบสมัยวิคตอเรีย โดยใช้เครื่องเรือนทำเลียนแบบ แต่ ‘ บ้านนาทาย่าห์’ ซึ่งเป็นบ้านที่กัปตันวิลเลียมและนาทาย่าห์ แคมพ์เบลล์ เคยอาศัยอยู่ จะใช้เครื่องเรือนที่เป็นสมัยวิคตอเรียอย่างแท้จริง เครื่องเรือนทุกชิ้นกัปตันวิลเลียมสั่งลงเรือมาจากอังกฤษ และถูกจัดไว้อย่างที่เคยเป็นในอดีต”

จำได้ว่าพนักงานที่เคาน์เตอร์เช็คอินบอกไว้ว่าอย่างนั้น และยังโฆษณาสถานที่แห่งนี้อีกว่า

“นอกจากพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งบน ‘เรือนาทาย่าห์’ ที่จัดแสดงวิถีการล่าวาฬในอดีตและ ‘บ้านนาทาย่าห์’ แล้ว เรายังมี ‘บ้านมาลีล่า’ ซึ่งเคยเป็นเวิร์คชอปผลิตน้ำหอมของคุณนาทาย่าห์ แคมพ์เบลล์ ในสมัยที่เธอยังมีชีวิตอยู่ หากคุณสนใจน้ำหอมแบรนด์ ‘มาลีล่า’ ของเรา ซึ่งเป็นสูตรของคุณนาทาย่าห์ สามารถหาซื้อได้ที่ร้านขายของที่ระลึกนะคะ” ซึ่งหญิงสาวกล่าวขอบคุณและสัญญาว่าจะต้องเข้าเยี่ยมชมสถานที่ต่าง ๆ อย่างแน่นอน

ณัฐญาณ์เปิดกระเป๋าเดินทางเพื่อค้นหาแปรงและยาสีฟันกับอุปกรณ์สำหรับอาบน้ำ รวมทั้งเสื้อผ้าสำหรับใส่นอน ก่อนจะเดินตรงเข้าไปในห้องน้ำเพื่ออาบน้ำชำระร่างกาย วันนี้เธอเดินทางเหนื่อยมาทั้งวัน และพรุ่งนี้ยังต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปชม ‘เดอะ ทเวลฟ์ อพอสเซิลส’ ตามที่จองตั๋วไว้อีก จึงตั้งใจว่าจะเข้านอนแต่หัววันเพื่อพักผ่อนเอาแรงเสียหน่อย

แม้ตั้งใจว่าจะเข้านอนแต่หัวค่ำ แต่เมื่ออาบน้ำเสร็จหญิงสาวกลับรู้สึกสดชื่นไม่ง่วงงุนเอาเสียเลย เมื่อดูนาฬิกาแบบโบราณที่แขวนอยู่บนผนังก็พบว่าเป็นเวลาสี่ทุ่ม จึงเข้าใจในตอนนั้นเองว่าหตุใดตนจึงไม่รู้สึกง่วง เพราะเวลาที่นี่เร็วกว่าที่ประเทศไทยสามชั่วโมง แสดงว่าที่บ้านตอนนี้เป็นเวลาเพียงหนึ่งทุ่มเท่านั้นเอง ณัฐญาณ์จึงหยิบเอาหนังสือแนะนำและประวัติของสถานที่แห่งนี้ ซึ่งเป็นหนังสือที่พนักงานของโรงแรมยื่นให้พร้อมกับกุญแจห้องในตอนที่เธอเช็คอินเสร็จเรียบร้อยขึ้นมาอ่าน

รายละเอียดในหนังสือเป็นประวัติความเป็นมาของโรงแรมกึ่งพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ กล่าวถึงกัปตัน วิลเลียม แคมพ์เบลล์ นายเรือหนุ่มบุตรชายนักธุรกิจล่าวาฬจากซิดนีย์ ที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์เรือล่มไม่หากจากชายฝั่งที่ตั้งสถานีแปรรูปวาฬแห่งนี้มากนัก ได้มาบุกเบิกพื้นที่รกชัฏบริเวณนี้เพื่อสร้างสถานีแปรรูปวาฬของตนโดยได้รับความร่วมมือและช่วยเหลือจากชนพื้นเมือง ซึ่งเป็นแรงงานสำคัญสำหรับสถานีแปรรูปวาฬแห่งนี้

หลังเหตุการณ์เรือล่มครั้งนั้น ในทะเลบริเวณที่เรือล่าวาฬของกัปตันหนุ่มล่มนั้นจะเกิดพายุงวงช้างขึ้นในทุก ๆ สิบปี ย้อนไปเมื่อสมัยร้อยกว่าปีที่แล้ว เหตุการณ์นี้เป็นเพียงตำนานเล่าขานจากชนพื้นเมืองที่บอกกันต่อมาจากรุ่นสู่รุ่น แต่หลังจากที่ลูกหลานตระกูลแคมพ์เบลล์ได้จดบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็พบว่าตำนานของชนพื้นเมืองเป็นเรื่องจริง จะมีพายุงวงช้างเกิดขึ้นในทุก ๆ สิบปีของเช้าวันที่ 25 สิงหาคม ซึ่งปี 2013 นี้เป็นปีครบรอบที่จะเกิดพายุที่ว่านี้อีกครั้ง

หญิงสาวผู้มาจากแดนไกล หัวข้อหนึ่งของหนังสือเขียนไว้ว่าอย่างนั้น

นาทาย่าห์ หญิงสาวผิวเหลืองและพูดสำเนียงประหลาด ปรากฏตัวขึ้นที่ ‘แคมพ์เบลล์ เวลลิง สเตชั่น’ พร้อมกับคว้าหัวใจเจ้าของสถานีไว้ได้ทั้งดวง นาทาย่าห์เข้ามาสู่ชีวิตอันเงียบเหงาห่างไกลของกัปตันหนุ่ม แม้จะมาจากดินแดนอันไกลโพ้น แต่นั่นก็ไม่ใช่อุปสรรคของหัวใจรักสองดวง หญิงสาวตกลงเป็นเจ้าสาวของ วิลเลียม แคมพ์เบลล์ หลังจากที่อาศัยอยู่ที่สถานีแปรรูปวาฬในฐานะแขกได้ไม่นาน

นาทาย่าห์ แคมพ์เบลล์ หัวใจทั้งดวงของกัปตันหนุ่ม

เมื่ออ่านมาถึงหัวข้อนี้ณัฐญาณ์ต้องอมยิ้ม ดูเหมือนโรงแรมแห่งนี้จะใช้เรื่องราวชีวิตรักที่ท่าทางจะโรแมนติกอยู่ไม่น้อยของเจ้าของสถานที่และภรรยาต้นตระกูล ‘แคมพ์เบลล์’ เป็นจุดขาย

วิลเลียม แคมพ์เบลล์ ไม่เคยอายที่จะประกาศให้ใคร ๆ รู้ว่าเขารักภรรยาของเขาแค่ไหน เห็นได้จากการที่เขาใช้ชื่อของเธอเป็นชื่อของสิ่งของและสถานที่ที่มีความสำคัญต่อสถานีแปรรูปวาฬของเขา ไม่ว่าจะเป็น ‘เรือนาทาย่าห์’ เรือล่าวาฬลำใหม่ที่เขาทำหน้าที่กำกับการเดินเรือเพื่อออกไปล่าวาฬในทุก ๆ ฤดูกาล ‘บ้านนาทาย่าห์’ บ้านไม้แบบคอทเทจทาสีขาว ที่เขาสร้างขึ้นเพื่อรับขวัญภรรยาสุดที่รักและใช้เป็นเรือนหอหลังจากทั้งสองเข้าพิธีแต่งงาน คอทเทจหลังน่ารักถูกล้อมรอบด้วยรั้วต้นการ์ดีเนีย [1] ดอกไม้กลิ่นหอมที่ภรรยาโปรดปราน

นอกจากนี้แล้ว กัปตันหนุ่มใจดีกับภรรยาของเขาเสมอ นาทาย่าห์ แคมพ์เบลล์ มีงานอดิเรกในการผลิตน้ำหอมจากดอกไม้ที่เธอรัก ซึ่งเขาให้คนงานปลูกให้เธอหลายเอเคอร์ และจัดการสร้างเวิร์คชอปให้กับเธอ จนก่อเกิด ‘บ้านมาลีล่า’ เวิร์คชอปผลิตน้ำหอมอันเป็นที่มาของแบรนด์ ‘มาลีล่า’ น้ำหอมสูตรของ นาทาย่าห์ แคมพ์เบลล์ ที่จะอวลกลิ่นอยู่ในหัวใจของผู้ที่ได้สัมผัสแม้เวลาจะผ่านไปนานแสนนาน

ณัฐญาณ์นึกภาพภรรยาของกัปตันเรือหนุ่มใส่ชุดกระโปรงทรงสุ่มกรุยกราย นั่งสกัดและผสมน้ำหอมจากดอกไม้ในไร่ที่สามีของเธอเป็นผู้ปลูกให้ใน ‘บ้านมาลีล่า’ เวิร์คชอปที่สามีผู้ทำทุกอย่างเพื่อภรรยาอันเป็นที่รักสร้างให้ เพียงเพราะเป็นงานอดิเรกที่เธอชอบเท่านั้น แล้วก็อดไม่ได้ที่จะซาบซึ้งกับความรักของสองสามีภรรยา ที่ยังคงมีอนุสรณ์แห่งความรักตกทอดมาให้คนรุ่นหลังได้ชื่นชม
หญิงสาวถอนหายใจอย่างเพ้อ ๆ พึมพำเบา ๆ กับใบหน้าหล่อเหลาของกัปตันหนุ่มในรูป

“จะมีผู้ชายแบบคุณหลงเหลืออยู่ในโลกนี้บ้างไหมคะ กัปตัน” ว่าแล้วก็เพ่งมองรูปภาพของหญิงสาวผู้โชคดีผู้เป็นเจ้าของหัวใจรักของชายหนุ่มที่ยืนเคียงในรูป แม้จะเป็นภาพขาวดำและไม่ค่อยชัดนักแต่ณัฐญาณ์ก็สามารถบอกได้ว่า หญิงสาวในภาพมีใบหน้าออกไปทางเอเชียมากกว่าฝรั่งผิวขาว หรือว่าประเทศหนึ่งในเอเชียคือ ‘ดินแดนอันไกลโพ้น’ ที่หนังสือกล่าวถึง และเมื่อเพ่งดูรูปดี ๆ หญิงสาวก็ต้องขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจ

นาทาย่าห์ แคมพ์เบลล์ มีใบหน้าคล้ายกับเธอ เพียงแต่ดูมีอายุมากกว่าในชุดเสื้อผ้าแบบสมัยวิคตอเรียเท่านั้น
ณัฐญาณ์อ่านข้อความในหนังสือต่อ ซึ่งยังคงพูดถึงภรรยาอันเป็นที่รักของกัปตัน วิลเลียม แคมพ์เบลล์ อยู่เช่นเดิม

นาทาย่าห์ แคมพ์เบลล์ ไม่ใช่เป็นเพียงดวงใจของกัปตันหนุ่มผู้เป็นสามีเท่านั้น แต่เธอคือสมบัติอันล้ำค่าของ ‘แคมพ์เบลล์ เวลลิง สเตชั่น’ ด้วยวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของเธอ ที่มองเห็นว่าธุรกิจล่าวาฬไม่ใช่ธุรกิจที่ยั่งยืน ด้วยจำนวนของวาฬในทะเลที่ลดลงไปเรื่อย ๆ สถานีแปรรูปวาฬแห่งนี้จึงถูกเตรียมพร้อมสำหรับธุรกิจอื่น ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมที่พักและท่าเรือแลกเปลี่ยนสินค้าสำหรับเรือเดินทะเล รวมทั้งพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงวิถีชีวิตในสมัยที่การล่าวาฬยังเฟื่องฟู ก็เป็นสิ่งที่วิลเลียมต้องการให้ทุกอย่างคงอยู่เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความรักที่เขามีต่อภรรยาผู้ล่วงลับไปก่อน

โศกนาฏ...

“แนท แนทของผม” ณัฐญาณ์ได้ยินเสียงนุ่มส่งมาจากด้านหลังจึงหันกลับไปยังต้นเสียง คิ้วขมวดเป็นปมเมื่อเห็นชายหนุ่มในชุดสูทสากลแบบโบราณที่เคยเห็นในภาพเก่า ๆ ยืนอยู่ไม่ห่างมากนัก

“คุณเรียกฉันว่าอะไรนะคะ”

“แนท นาทาย่าห์” ชายหนุ่มตอบ ใบหน้ายิ้มละไม

“ไม่ใช่ค่ะ ฉันชื่อ ณัฐ ณัฐญาณ์” อธิบายกับคนที่ดูเหมือนจะทักคนผิด หากชายหนุ่มกลับยิ้มราวเอ็นดู

“คุณคือแนท นาทาย่าห์ของผม” ชายหนุ่มยืนยันพลางเดินเข้ามาจับมือบางไปกุมไว้ทั้งสองมือ ก่อนที่จะเอื้อมแขนมาโอบเอวเธอและรั้งเข้าไปแนบชิด

น่าแปลกที่แม้จะเป็นครั้งแรกที่พบกับชายหนุ่มผู้นี้ แต่หญิงสาวกลับคุ้นเคยกับสัมผัสของเขาเหลือเกิน คุ้นเคย... ราวกับรู้จักกันมานานแสนนาน...

ณัฐญาณ์รู้สึกตัวตื่นในตอนเช้าและพบว่าหนังสือยังคงวางอยู่บนหน้าอก จึงรู้ตัวว่าเมื่อคืนนี้เผลอหลับไปทั้ง ๆ ที่ยังอ่านหนังสือค้างอยู่ แม้จะไม่ง่วงในตอนเริ่มเปิดหนังสืออ่าน แต่หญิงสาวคิดว่าเป็นเพราะการเดินทางอันยาวนานทั้งวัน ทำให้เธอเหนื่อยและเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว แม้แต่ไฟในห้องก็ไม่ได้ปิด

หญิงสาวหันไปมองนาฬิกาเรือนใหญ่บนผนังพบว่าเกือบหกนาฬิกาเต็มที จึงตัดสินใจลุกเพื่ออาบน้ำเตรียมตัวไปเที่ยวตามที่ซื้อตั๋วไว้ โดยวางหนังสือที่อ่านค้างไว้บนโต๊ะหัวเตียงและตั้งใจว่าจะกลับมาอ่านต่อหลังจากกลับมาจากไปเที่ยวชม ‘เดอะ ทเวลฟ์ อพอสเซิลส’ แล้ว

เมื่อคิดถึงหนังสือก็ทำให้หญิงสาวนึกถึงเรื่องราวความรักระหว่างกัปตันวิลเลียมและภรรยาที่เพิ่งอ่านไปเมื่อคืน และตอนนั้นเองที่จำได้ว่าชายหนุ่มในฝันเมื่อคืนนี้ที่เรียกเธอว่า แนท... นาทาย่าห์... คือกัปตัน วิลเลียม แคมพ์เบลล์ นี่เอง

อินซะเก็บไปฝันว่าตัวเองเป็นนาทาย่าห์เลยนะยายณัฐ หญิงสาวล้อตนเอง ก่อนที่จะเดินเข้าห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายและเตรียมตัวรอรถของบริษัทเฮลิคอปเตอร์ชมวิวจะเข้ามารับในตอนเจ็ดนาฬิกา



รถตู้ของบริษัทเฮลิคอปเตอร์นำชมวิวพาหญิงสาวและนักท่องเที่ยวคนอื่น ๆ มาจอดหน้าอาคารกรุกระจกหลังย่อมบนชายฝั่งเมืองพอร์ทแคมพ์เบลล์ รอบ ๆ เป็นฟาร์มที่มองเห็นวัวยืนเล็มหญ้าอยู่ทั่วไป ด้านข้างของอาคารเป็นลานจอดเฮลิคอปเตอร์ มองเห็นเจ้าแมลงปอยักษ์สีเหลืองสดใสจอดอยู่หลายลำ

เพราะจัดการซื้อตั๋วมาเรียบร้อยแล้ว ณัฐญาณ์จึงไม่จำเป็นต้องเข้าไปซื้อตั๋วในอาคารอีก หากยืนเข้าคิวรอขึ้นเฮลิคอปเตอร์รวมกับคนอื่น ๆ ที่มีตั๋วพร้อมแล้วเช่นกัน

เมื่อมาถึงคิวของหญิงสาว เจ้าหน้าที่พาเดินตรงไปยังเฮลิคอปเตอร์ขนาดสามที่นั่ง โดยมีสามีภรรยาชาวต่างชาติผิวขาวอีกคู่หนึ่งขึ้นลำเดียวกัน นักบินที่ยืนรออยู่แล้วกล่าวทักทาย เปิดประตูให้ผู้โดยสารทั้งสามขึ้นไปนั่งประจำที่ สั่งการให้รัดเข็มขัดนิรภัย ก่อนที่จะก้าวขึ้นไปนั่งยังที่นั่งนักบิน จากนั้นยื่นหูฟังขนาดใหญ่ที่มีก้านไมค์อยู่ด้านหน้าส่งให้ผู้โดยสารทุกคน

“ใส่หูฟังไว้นะครับ ต่อไปเราจะติดต่อกันทางนี้ หากไม่ใส่หูฟังเสียงเฮลิคอปเตอร์จะดังมาก” นักบินบอกอย่างกระตือรือร้น ผู้โดยสารที่นั่งและรัดเข็มขัดนิรภัยเรียบร้อยแล้วยกหูฟังขึ้นครอบศีรษะอย่างว่าง่าย

ทันทีที่ปรับหูฟังให้วางแนบสนิทกับใบหูเรียบร้อย หญิงสาวก็ได้ยินเสียงนักบินดังอยู่ใกล้ ๆ หู

“ได้ยินเสียงผมไหมครับ”

“ได้ยินค่ะ” กรอกเสียงลงไปในไมค์ที่ติดอยู่กับหูฟัง นิ่งไปสักพัก ก่อนจะได้ยินเสียงนักบินอีกครั้ง

“สวัสดีครับ ผมเจมส์ บราวน์ ทำหน้าที่เป็นนักบิน พาคุณบินชม เดอะ ทเวลฟ์ อพอสเซิลส ในวันนี้ ต่อจากนี้ ๑๕ นาที เราจะบินเหนือชายฝั่ง เพื่อชมเสาหินที่เกิดจากการกัดกร่อนของคลื่นในทะเล สามารถถ่ายภาพได้ตามสบาย หากต้องการให้วนตรงไหนเป็นพิเศษ บอกได้เลยนะครับ”

ณัฐญาณ์ก้มลองมองภาพชายฝั่งเบื้องล่าง น้ำทะเลสีเขียวมรกตเป็นประกายเมื่อกระทบกับแสงแดดเจิดจ้า หาดทรายละเอียดสีขาว และชายฝั่งเว้าแหว่ง เป็นภาพที่สวยงามจนไม่อยากละสายตาไปไหนเลยทีเดียว

เสียงนักบินยังคงบรรยายถึงสถานที่แต่ละแห่งที่เฮลิคอปเตอร์บินผ่านไป จนกระทั่งมาถึงบริเวณที่เป็นชายหาดค่อนข้างกว้าง หน้าชายหาดมีลักษณะเป็นโค้งหิน ได้ยินเสียงนักบินอธิบายว่า

“ลอคอาร์ดกอร์จ (Loch Ard Gorge) ชายหาดที่สองผู้รอดชีวิตจากเรือลอค อาร์ด ที่ล่มบริเวณนี้ถูกพัดขึ้นฝั่ง”

ณัฐญาณ์มองลงไปยังภาพเบื้องล่าง นัยน์ตาเบิกกว้างอย่างตื่นเต้นเมื่อมองเห็นพายุงวงช้างเล็ก ๆ กำลังหมุนวนพาเอาน้ำทะเลเบื้องล่างหมุนเป็นเกลียวขึ้นสู่ทิศเบื้องบน ใจกระหวัดไปถึงหนังสือที่อ่านเมื่อคืน พายุงวงช้างที่เกิดขึ้นทุกสิบปี ในเช้าวันที่ ๒๕ สิงหาคม

ยังไม่ทันคิดอะไรต่อ หญิงสาวรู้สึกถึงแรงกระแทกรุนแรงราวกับเฮลิคอปเตอร์ชนกับอะไรบางอย่าง แต่ในสภาพทัศนวิสัยที่ดีขนาดนี้ แดดจัดจ้า ท้องฟ้าไร้เมฆ หญิงสาวนึกไม่ออกว่าจะมีอะไรให้เฮลิคอปเตอร์ชนได้ พายุงวงช้างข้างล่างก็ไม่ได้สูงพอที่จะทำให้เฮลิคอปเตอร์บินชน หูได้ยินเสียงนักบินสบถอะไรบางอย่างฟังไม่ได้ศัพท์

แรงกระแทกทำให้เฮลิคอปเตอร์หมุนคว้างและดิ่งลงเบื้องล่างราวกับนกปีกหัก ในท่ามกลางความตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หญิงสาวรู้สึกตัวว่าตนหลุดออกมาจากเฮลิคอปเตอร์ ลอยละลิ่วลงสู่ผืนน้ำ พุ่งตรงเข้าสู่ศูนย์กลางของงวงช้างเบื้องล่าง หญิงสาวหลับตารอรับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น ในใจนึกถึงมารดาที่รออยู่ที่บ้าน แม่คงแทบหัวใจสลาย เมื่อลูกสาวคนเดียวเอาชีวิตมาทิ้งเสียไกลบ้านไกลเมืองขนาดนี้

ณัฐรักแม่นะคะ...

[1] ดอกพุดซ้อน



รุ่งธิวา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 30 ส.ค. 2557, 17:02:43 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 30 ส.ค. 2557, 17:02:43 น.

จำนวนการเข้าชม : 1013





<< บทนำ   บทที่ ๒ >>
รุ่งธิวา 30 ส.ค. 2557, 17:03:32 น.
อ่านแล้วชอบไม่ชอบอย่างไร พูดคุยกันได้นะคะ :)


แว่นใส 30 ส.ค. 2557, 17:45:23 น.
เอามาลงให้อ่านใหม่เหรอคะ


รุ่งธิวา 30 ส.ค. 2557, 19:24:19 น.
คุณแว่นใสเคยอ่านมาแล้วจากที่ไหนหรือคะ พันทิปหรือเปล่า ใช่ค่ะ เอามาลงใหม่ระหว่างรอผลพิจารณา เป็นฉบับต้นฉบับที่ส่งสำนักพิมพ์ค่ะ แต่เพิ่งมาลงที่นี่เป็นครั้งแรกค่ะ


ปลาวาฬสีน้ำเงิน 31 ส.ค. 2557, 00:36:05 น.
อ่านแล้ว น่าสนใจ อยากติดตามต่อค่ะ



รุ่งธิวา 31 ส.ค. 2557, 08:54:21 น.
ด้วยความยินดีค่า จะลงให้อ่านจนจบ หรือจนกว่าจะผ่านการพิจารณาจากสำนักพิมพ์ค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account