จุดหมายปลายทางของหัวใจ
บางคนไขว่คว้าหาความรักมาทั้งชีวิต ก็ไม่เคยมีโอกาสพบเจอ
บางคนพยายามวิ่งหนีแทบตาย แต่ก็ไม่เคยหลุดพ้น
บางคนเรียกสิ่งนี้ว่าโชคชะตา พรหมลิขิต พันธนาการ แล้วแต่คำจำกัดความที่แตกต่างกันออกไป
เธอไม่รู้ว่าควรจะเรียกเรื่องราวระหว่างเธอกับเขาที่เกิดขึ้นว่าอะไรดี
บางคนพยายามวิ่งหนีแทบตาย แต่ก็ไม่เคยหลุดพ้น
บางคนเรียกสิ่งนี้ว่าโชคชะตา พรหมลิขิต พันธนาการ แล้วแต่คำจำกัดความที่แตกต่างกันออกไป
เธอไม่รู้ว่าควรจะเรียกเรื่องราวระหว่างเธอกับเขาที่เกิดขึ้นว่าอะไรดี
Tags: ดวงอาทิตย์ , โรแมนติก , รัก , ทราย , ซึ้ง
ตอน: 1 คนที่ก้าวเดินเข้ามา เพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอไปตลอดกาล
จุดหมายปลายทางของหัวใจ 1 คนที่ก้าวเดินเข้ามา เพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอไปตลอดกาล
บรรยากาศภายในโรงเรียนเต็มไปด้วยนักเรียนและผู้ปกครองอย่างคึกคัก สำหรับวันแรกในการเปิดภาคการศึกษาของเทอม 1 เด็กสาวตัวเล็กผู้มีดวงตากลมโต ก้าวเดินเข้ามาบริเวณที่ถูกกำหนดให้เป็นจุดสำหรับรายงานตัว ของนักเรียนชั้นมัธยมปลายปีที่ 4
เธอมองไปทางผู้คนมากมายที่รายล้อมอยู่รอบตัวอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร ไม่เคยนึกอิจฉาที่ใครๆ มีพ่อแม่มาคอยตามรับตามส่งและเอาอกเอาใจแบบนี้ ในขณะที่ตัวเธอต้องมายืนอยู่แค่เพียงลำพัง
เธอเป็นผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่มีชีวิตประจำวันปกติเรียบง่าย ไม่มีอะไรสลับซับซ้อน มีหน้าที่คือมาเรียนหนังสือ พอตกตอนเย็นก็กลับบ้านเท่านั้น อาศัยอยู่กับแม่ที่ทาวเฮ้าส์หลังเล็กๆ หลังหนึ่ง ซึ่งแม่ของเธอที่ทำงานเป็นนางพยาบาล พยายามเก็บหอมรอบริบและผ่อนส่งบ้านหลังนี้มาด้วยน้ำพักน้ำแรง
ส่วนพ่อของเธอ จากที่ได้เห็นครั้งสุดท้ายเมื่อหลายปีมาแล้ว หลังจากที่พ่อก้าวเดินออกจากบ้านหลังนี้ไปพร้อมๆ กับผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมียใหม่ ตั้งแต่นั้นก็ไม่เคยมีโอกาสได้พบเจอกับพ่ออีกเลย ตอนที่พ่อจากไป เธอยังเด็กมากนัก ทำให้ไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อถึงทิ้งเธอกับแม่ไว้ และทำเหมือนเราสองคนเป็นตัวปัญหาที่ต้องขจัดไปให้พ้นทาง
จนเมื่อเติบโตขึ้นมา เธอก็ได้รับรู้และเข้าใจว่าคนเราไม่อาจใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอีกต่อไปได้ ไม่ว่าจะมีเหตุผลร้อยแปดใดๆ มาบังคับ เมื่อเดินทางมาจนถึงจุดสิ้นสุด หรือเรียกง่ายๆ ว่าหมดรัก เธอจำได้ถึงสิ่งที่แม่ทำให้พ่อทุกอย่าง แม้จะเหน็ดเหนื่อยจากการตรากตรำทำงานหนัก และยังต้องกลับมาเจอกับพ่อที่เอาแต่ใจ เจ้าอารมณ์ และชอบทุบตีแม่อยู่เป็นประจำ แต่ไม่ว่าพ่อจะร้ายกาจกับแม่สักแค่ไหนก็ตาม แม่ก็ไม่เคยปริปากบ่นหรือด่าว่าพ่อเลยสักครั้ง ซึ่งเหตุผลนั้นก็เพียงเพราะคำว่ารักคำเดียว
เธอไม่ต้องการพ่อ เธอมีชีวิตเติบโตมาได้ทุกวันนี้ก็เพราะแม่ ความรักของแม่ทำให้เธอไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว รวมทั้งการที่เธอ ไม่ต้องการความรักจากใครอื่นอีกเลยเช่นเดียวกัน ความรักเป็นเรื่องที่ห่างไกลจากตัวมากนัก เป็นความรู้สึกต้องห้าม เป็นสิ่งที่พยายามหลีกเลี่ยง และผลักใสออกไปให้พ้นจากเส้นทางชีวิตมากที่สุด
เธอกลัวความผิดหวัง เกลียดการทรยศหักหลัง ไม่ต้องการพบความพลัดพราก คนเราแม้ว่าแรกเริ่มอาจรักกันปานจะกลืนกินเพียงใดก็ตาม แต่เธอรู้ดีว่าย่อมมีสักวันหนึ่ง ที่รักนี้จะจืดจางลงหรืออาจจะสูญสลายหายไป
เธอจึงพยายามสร้างกำแพงขึ้นมาขวางกั้นระหว่างตัวเธอกับผู้ชายทุกคนเอาไว้ เพื่อเป็นดั่งเกราะกำบังและป้องกันตัวเอง ไม่ให้ตกลงไปอยู่ในวังวนแห่งความทุกข์ทรมานเหมือนกับแม่ และเพื่อที่ตัวเธอจะได้ไม่ต้องวิ่งไล่ล่าไขว้คว้าหาความรักเหมือนเช่นดังผู้หญิงบางคน ที่ช่างมีชีวิตที่น่าเวทนาและน่าสงสารเหลือเกิน
จุดมุ่งหมายสำคัญในชีวิต คือการตั้งใจเรียนให้ได้เกรดดีๆ เพื่อให้แม่รู้สึกภาคภูมิใจในตัวเธอ เพื่อให้เธอมีอนาคตสดใส จะได้ทำให้ชีวิตของแม่กับเธอในภายภาคหน้าได้อยู่อย่างสุขสบาย ผลสำเร็จจากความพยายามทั้งหลายที่ผ่านมา ทำให้เธอเป็นเด็กที่มีมารยาทดี เป็นคนที่สามารถเชิดหน้าชูตา ทำชื่อเสียงให้แก่โรงเรียนเป็นประจำ เป็นนักเรียนดีเด่น ที่มีประกาศนียบัตรเชิดชูเกียรติมาให้แม่ได้ชื่นชมอย่างสม่ำเสมอ
แต่หากเป็นในเวลาที่ได้อยู่เพียงลำพัง ไม่ใช่เวลาที่ต้องทำตัวเป็นคนที่ทั้งเรียนดีและกิจกรรมเด่นอย่างเช่นในเวลาที่อยู่โรงเรียนแล้ว ปกติเธอจะขึ้นชื่อได้ว่าเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูงทีเดียว หากวันไหนที่แม่ไม่อยู่บ้าน เธอสามารถเก็บตัวอยู่ในห้องได้เป็นวันๆ โดยที่ไม่ก้าวออกจากประตูเลยแม้เพียงก้าวเดียวได้อย่างสบายๆ สามารถไปเดินซื้อของใช้ที่ห้างสรรพสินค้า ไปทานข้าว และทำกิจกรรมหลากหลายอย่างได้ด้วยตัวเองเพียงคนเดียว โดยไม่รู้สึกตื่นกลัว หรือเขินอายใดๆ ทั้งนั้น
อาจจะมีบ้างบางครั้งบางคราที่รู้สึกเหงา ว้าเหว่ หรือรู้สึกเคว้งคว้างอยู่บนโลกกว้างใหญ่ใบนี้ และก็ยังมีบางเวลา ที่เธอเคยนึกตั้งคำถามกับตัวเองว่า ..
“เธอเกิดมาทำไม ?”
เสียงของเด็กนักเรียนเริ่มจับกลุ่มคุยกันดังจ๊อกแจ๊กจอแจไปทั่วทั้งห้อง ซึ่งมีทั้งเพื่อนเก่าและเพื่อนใหม่ที่ได้มาเจอกันในวันแรกของการเปิดภาคเรียน ทำให้ภายในห้องชั้น ม. 4 / 1 ดูคึกคักไม่น้อย
“ทราย”
หน้านวลหันไปมอง เมื่อได้ยิน “แจน” เพื่อนสนิทที่เรียนมาด้วยกันตั้งแต่ชั้น ม.ต้น ขานเรียก
“เดี๋ยวเลิกเรียนแล้วไปกินไอศกรีมกันนะ มีร้านอยู่ตรงข้างๆ โรงเรียน น่ารักมากเลย”
“จ๊ะ”
เธอตอบรับและยิ้มหวาน ก่อนจะหันไปสนใจทางหน้าห้อง รวมถึงพวกลิงทโมนทั้งหลายก็กลับไปนั่งที่อย่างสงบเสงี่ยมเรียบร้อย เมื่ออาจารย์สาวเดินเข้ามา อาจารย์ที่ปรึกษาแนะนำตัวเองให้พวกเราได้รู้จัก หลังจากนั้นจึงให้นักเรียนเริ่มแนะนำตัวทีละคนไปเรื่อยๆ จนเกือบจะหมดทั้งห้อง
“สวัสดีครับ ผม “กันต์ตะวัน บริรักษ์โยธิน” เรียก “ซัน” ก็ได้ครับ”
เสียงฮือฮางึมงำจากผู้หญิงหลายคนดังเล็ดลอดออกมา หลังจากน้ำเสียงทุ้มนุ่มของใครบางคนกล่าวแนะนำตัว ทำให้เธอต้องหันไปมองทางด้านหลังอย่างสงสัย
ผู้ชายร่างสูงกำลังยืนอยู่ตรงโต๊ะที่ตั้งอยู่ข้างหลังเธอ หน้าตาหล่อเข้มที่ประดับอยู่บนโครงหน้าได้รูป ตัดกับสีผิวที่ขาวใสได้เป็นอย่างดี จมูกโด่งเป็นสันตามธรรมชาติ ดวงตาคู่คมวาววับเป็นประกาย ริมฝีปากสีสดกำลังยิ้มบางๆ บวกกับบุคลิกที่ดูโดดเด่น ทำให้ผู้ชายคนนี้ดูเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์จนน่าหวาดกลัวเลยทีเดียวสำหรับเธอ
เธอรีบหันขวับกลับมานั่งตัวตรงในทันที เมื่อคนที่กำลังเป็นจุดดึงดูดความสนใจของคนทั้งห้องอยู่ในตอนนี้ ยักคิ้วขึ้นข้างหนึ่งมาให้กับเธออย่างมีเลศนัย
เปิดเทอมวันแรกเริ่มต้นโดยการใช้เวลาเพียงครึ่งวัน เพื่อให้นักเรียนและอาจารย์ได้พบเจอ พูดคุย ทำความรู้จักกัน รวมถึงแจกตารางการสอน และแนะนำเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเราจะได้เรียนรู้ในช่วงตลอดระยะเวลา 1 เทอมต่อจากนี้ เมื่อเนื้อหาและใจความสำคัญทั้งหมดถูกอธิบายจนเสร็จสิ้นลง ทางโรงเรียนก็ปล่อยให้นักเรียนแยกย้ายกันกลับบ้านได้
ภายในร้านไอศกรีมเต็มไปด้วยนักเรียนจนแน่นขนัด เธอ แจน และนิว เพื่อนสนิทอีกคนหนึ่ง เดินเข้าไปนั่งตรงโต๊ะตัวหนึ่งที่ตั้งอยู่มุมร้าน พนักงานของร้านเดินเอาเมนูมาให้ ก่อนจะเดินกลับไปตรงเคาท์เตอร์ หลังจากที่พวกเธอสั่งไอศกรีมแบบที่ต้องการไปแล้ว
“ขอนั่งด้วยได้มั๊ย ?”
เธอละสายตาจากบรรยากาศภายนอก และหันมาทางต้นเสียงที่ได้ยิน
“พอดีโต๊ะอื่นเต็มหมดแล้ว ขอพวกเรานั่งด้วยได้มั๊ย ?”
ซันเอ่ยขออีกครั้ง เมื่อหญิงสาวภายในโต๊ะยังไม่ยอมอนุญาต
“อ้อ ได้สิ นั่งเลย”
แจนยิ้มหวาน พร้อมกับเชื้อเชิญซันกับเพื่อนอีก 2 คน ให้นั่งลง เธอรีบยกกระเป๋าหนังสือมาวางคั่นตรงกลางทันที เมื่อซันนั่งลงที่โซฟาตัวเดียวกันกับเธอ ซันเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งอย่างแปลกใจกับปฏิกิริยาของเธอ ก่อนจะยกยิ้มที่มุมปากออกมา
“ทำไม กลัวผื่นขึ้นเหรอ ?”
เธอหันไปมองสบดวงตาคู่คมแวบหนึ่ง และหันกลับมาเบือนหน้าหนีไปทางอื่นแทน
จากการพูดคุยกันระหว่างแจนกับกลุ่มของซัน ทำให้ได้รู้ว่าเพื่อนสนิทของเขาอีกสองคนมีชื่อว่า “พีท” และ “เชน” ซึ่งพวกเขามาจากโรงเรียนมัธยมต้นที่เดียวกัน ภายในโต๊ะเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะอย่างครึกครื้น แตกต่างจากเธอที่พยายามจะกินไอศกรีมในถ้วยของตัวเองเพื่อให้หมดไปซะที เพราะรู้สึกรำคาญกับสายตาหลายคู่ของผู้หญิงทั้งร้าน
“อร่อยมากเลยเหรอ กินไม่ยอมคุยเลย”
เธอหันไปมองใบหน้าหล่อเหลา โดยไม่ได้พูดตอบรับหรือปฏิเสธอะไร และกลับมาก้มหน้าก้มตากินต่อไป
“ขอชิมมั่งสิ”
เธอตกใจจนชะงักช้อนที่กำลังจะตักไอศกรีมเข้าปากค้างไว้ เมื่อน้ำเสียงทุ้มนุ่มกระซิบอยู่ใกล้ๆ ใบหู
“ทรายกลับก่อนนะ”
เธอเอ่ยบอกเสียงเรียบ ควักกระเป๋าสตางค์หยิบเงินออกมาเป็นค่าไอศกรีมในส่วนของตัวเองและยื่นส่งให้กับนิว
“เดี๋ยวซันเลี้ยงเอง”
ซันฉีกยิ้มหวาน ยิ่งเป็นการโปรยเสน่ห์ที่มีเหลือล้นให้คนที่คอยแอบมองอยู่พากันหลงละเมอไปกันใหญ่ เธอวางเงินที่เตรียมไว้ลงบนโต๊ะ หยิบกระเป๋าหนังสือมาถือไว้และยืนขึ้น
“ขอทางหน่อย”
“จะรีบไปไหนเหรอ ?”
ซันเอ่ยถาม และไม่ยอมขยับตัวออกจากทางที่ขวางอยู่
“เราจะกลับบ้าน หลีก”
“โอเค โอเค”
ร่างสูงลุกขึ้นอย่างยอมแพ้ เมื่อเห็นท่าทางและแววตาไม่พอใจของเธอที่แสดงออกอย่างเปิดเผย เธอยืนนิ่งตัวแข็งค้างอยู่แวบหนึ่ง เพราะทันทีที่ซันยืนขึ้น แทนที่เขาจะเดินออกไปจากโซฟาตัวที่นั่งอยู่ แต่กลับลุกยืนอยู่กับที่และหันหน้าเข้ามาหา ทำให้ใบหน้าหวานซุกอยู่กับแผงอกกว้างแบบพอดิบพอดี
เธอผงะถอยหลัง เมื่อเริ่มตั้งสติได้ ดันตัวเขาให้ออกไปจากทางที่บดบังอยู่ และรีบเดินไปอย่างรวดเร็ว
“ทราย”
ใบหน้าหวานหันกลับไปมองราวกับถูกมนต์สะกด เสียงเรียกชื่อเธอที่ดังออกมาจากริมฝีปากของเขา ช่างแตกต่างจากที่เคยได้ยินใครต่อใครขานเรียกมาตลอดชีวิตอย่างสิ้นเชิง
“แล้วพรุ่งนี้พบกันนะ”
และนั่นก็คือวันแรก ที่เธอได้เจอกับ “ซัน”
ผู้ชายที่จะทำให้เธอได้พบกับ “ความสุข” และ “ความเสียใจ” ที่สุดในชีวิต
คนที่ก้าวเดินเข้ามา เพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอไปตลอดกาล
Sun and Sand
ศศิธาราริน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 10 ก.ย. 2557, 13:09:12 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 10 ก.ย. 2557, 13:09:12 น.
จำนวนการเข้าชม : 1092
2 เลือกที่จะ “เกลียด” มากกว่าจะ “รัก” >> |
ร้อยวจี 10 ก.ย. 2557, 13:39:16 น.
น่าสนุกค่ะ
น่าสนุกค่ะ
แว่นใส 10 ก.ย. 2557, 18:05:03 น.
จะเสียใจเรื่องเจ้าชู้หรือเปล่า
จะเสียใจเรื่องเจ้าชู้หรือเปล่า