เหลี่ยมร้ายลายพยัคฆ์
เหลี่ยมร้ายลายพยัคฆ์
ประพันธ์โดย...กันต์ระพี
(ลิขสิทธิ์งานเขียนเรื่องนี้เป็นของสนพ. Touch publishing)

อลิส..นักโจรกรรมสาวพราวเสน่ห์หวังช่วงชิงไดมอนด์เฟอร์เซีย แต่เหตุการณ์กลับพลิกผันนำเธอสู่ทะเลทราย ดินแดนที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งรัก

เปิดให้ทดลองอ่านบางส่วนเท่านั้น!!
หมายเหตุ...
งานเขียนเรื่องนี้เดิมทีชื่อพยัคฆ์สาวเจ้าหัวใจชีค
ปัจจุบันต้นฉบับได้รับการปรับเปลี่ยนเพื่อความสมบูรณ์ของเนื้อเรื่อง
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 6

บ่ายคล้อย...ชีคลาซิสเสด็จเยือนสถานที่พำนักของพระสนมฟ้ามาศ แม้จะประหวั่นในอัชฌาสัยของเจ้าของบ้านที่เดินมาเปิดประตู ด้วยตระหนักดีว่าการโน้มน้าวจิตใจอดีตพระสนมของพระบิดาให้โอนอ่อนผ่อนตามนั้นเป็นเรื่องยาก แต่ก็ทรงมุ่งมั่นที่จะประสานสัมพันธไมตรี

“สวัสดีครับ” ชีคลาซิสยกพระหัตถ์ทั้งสองขึ้นประณต ทักทายตามแบบฉบับคนไทย แม้ท่าทางนั้นจะเก้กัง แต่ก็ทรงกระทำจากส่วนลึกของก้นบึ้งจิตใจ

“หม่อมฉันเป็นแค่สามัญชน ฝ่าบาทไม่ควรจะลดองค์มากราบไหว้หรอกเพคะ” ฟ้ามาศเอื้อมมือไปแตะพระหัตถ์พลางรั้งลง ด้วยเห็นว่าเป็นเรื่องไม่สมควร

“แต่การสำนึกในบุญคุณของคนที่เคยป้อนข้าวป้อนน้ำก็เป็นเรื่องที่สมควรแล้วไม่ใช่หรือ แม่คงไม่อยากให้ใครมองผมว่าเป็นคนอกตัญญูหรอกใช่ไหม”

“ฝ่าบาท...” ฟ้ามาศครางน้ำตาซึม ภาพเจ้าชายองค์น้อยซึ่งในเวลานั้นดำรงตำแหน่งองค์รัชทายาทยังติดอยู่ในความทรงจำ ไม่เว้นแม้แต่คำว่าแม่ที่มักจะเรียกขานจนนางต้องปรามอยู่บ่อยครั้ง ด้วยเกรงว่าถ้อยคำนั้นจะเล็ดลอดถึงพระกรรณ ของผู้เป็นมารดาแท้ๆ

“ผมยังจำได้ดี ไม่เคยลืมความรักความอบอุ่นที่แม่มอบให้ แล้วแม่ล่ะครับ...ลืมลาซิสคนนี้หรือยัง”

“หม่อมฉันจะลืมฝ่าบาทได้อย่างไรกันล่ะเพคะ” ฟ้ามาศบอกเสียงเบา ไม่เคยลืมว่าอดีตองค์รัชทายาทผู้นี้เคยปกป้องนางกับลูก เมื่อครั้งที่พระมารดาของพระองค์ส่งทหารมาทำร้าย

“ถ้าอย่างนั้นก็เรียกผมว่าลาซิสสิครับ”

“เวลานี้ทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลงไป ฝ่าบาทเป็นกษัตริย์...หม่อมฉันไม่อาจเอื้อมหรอกเพคะ” ฟ้ามาศหลุบสายตาลงต่ำอย่างเจียมตน

“ฐานันดรศักดิ์ก็เป็นแค่หัวโขน สิ่งที่อยู่ในใจนั้นสำคัญกว่า ผมไม่เคยลืมว่าแม่เคยเลี้ยงผมมาและยังระลึกถึงบุญคุณเสมอ”

“ฝ่าบาท...”

“ถ้าเป็นเพราะเรื่องในอดีตทำให้แม่ไม่ยอมรับในตัวผม ก็ลืมมันไปให้หมดเถอะครับ ผมรู้ว่าไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะที่ผ่านมาพระมารดาทรงกระทำเรื่องเลวร้ายไว้มาก แต่แม่จะไม่ให้อภัยคนตายเชียวหรือ”

คำพูดนั้นทำให้ฟ้ามาศได้คิด แม้จะขุ่นเคืองพระนางเฟอร์เซียจนไม่อยากให้อภัย แต่จะแค้นเคืองคนที่ไร้ลมหายใจก็กระไรอยู่ แทนที่ใจจะเป็นสุขกลับทำให้ตัวเองต้องเป็นทุกข์กับความโกรธแค้น คิดดังนั้นก็ว่าจะปล่อยวาง แต่ยังไม่ทันพูดอะไร ชีคลาซิสก็ลดองค์ลงคลุกพระชานุแนบพื้น

“ฝ่าบาท! อย่าทำอย่างนี้เลยเพคะ พระองค์เป็นกษัตริย์...เป็นผู้อยู่เหนือปวงชน ไม่ควรจะลดเกียรติกับสามัญชนที่ต่ำต้อยอย่างหม่อมฉัน” ฟ้ามาศถลาเข้าไปรั้งท่อนพระกร ทว่าชีคลาซิสกลับฝืนองค์ไว้

“ผมจะไม่ลุกขึ้นจนกว่าแม่จะให้อภัยพระมารดา”

“โธ่...ฝ่าบาท”

“ได้โปรดเถอะครับ...ถ้าไม่เห็นแก่ดวงวิญญาณที่ล่วงลับ ก็ขอให้เห็นแก่ผมสักครั้ง อโหสิกรรมให้กับพระมารดาเถอะครับ อย่าให้ผมต้องเป็นลูกอกตัญญูเลย”

“ลุกขึ้นเถอะเพคะ หม่อมฉันอโหสิกรรมให้พระนางเฟอร์เซีย ไม่ถือโกรธพระนางอีก”

“ขอบคุณครับแม่” ชีคลาซิสแย้มพระโอษฐ์อย่างปลื้มปิติ ทรงยินยอมให้อดีตพระสนมของพระบิดารั้งท่อนพระกรให้ลุกขึ้น ครั้นยืนเคียงกันก็หยิบสร้อยเพชรน้ำงามยื่นให้นาง

“ดวงวิญญาณของพระมารดาคงไปสู่สุขคติ ถ้าไดมอนด์เฟอร์เซียได้คืนกลับสู่เจ้าของ”

“หม่อมฉันคงรับไว้ไม่ได้หรอกเพคะ องค์อัสซาร์เคยตรัสไว้ว่าสร้อยเส้นนี้ไม่ใช่แค่สมบัติล้ำค่าที่คู่ควรกับแผ่นดินซาร์รียาร์ก แต่เป็นสิ่งคุ้มภัยคนทั้งแผ่นดิน ในฐานะที่ฝ่าบาทเป็นกษัตริย์ พระองค์ควรจะเป็นผู้เก็บรักษาไว้” ฟ้ามาศดันพระหัตถ์ชีคลาซิสออกห่างตัว

“แต่ผมเป็นผู้ชาย...จะให้สวมสร้อยเพชรก็ยังไงอยู่ ถ้าแม่ไม่รับไว้ งั้นผมฝากให้ปลายฟ้าเป็นของขวัญวันแต่งงานก็แล้วกัน” ชีคลาซิสมีรับสั่งอย่างเจ้าเล่ห์ พลางฉวยข้อมือคนที่เคยเลี้ยงดูแล้วหย่อนสร้อยเพชรน้ำงามลงในอุ้งมือ ด้วยเห็นว่าเหตุผลของอีกฝ่ายนั้นฟังไม่ขึ้น อัญมณีก็เป็นแค่เครื่องประดับจะคุ้มภัยใครได้ หากไม่ได้รับการเจียรไนยก็ไม่ต่างจากก้อนหินก้อนกรวด

สองชั่วโมงให้หลัง รถยนต์พระที่นั่งเคลื่อนตัวออกจากบ้านพระสนมฟ้ามาศ หลังจากชีคลาซิสทรงหว่านล้อมเจ้าของบ้านจนต้องรับสร้อยเพชรน้ำงามนั้นไว้ รวมทั้งยินยอมให้บุตรสาวมาร่วมโต๊ะเสวยตามคำเชื้อเชิญ ซึ่งการเชื่อมสัมพันธไมตรีในครั้งนี้ก็เป็นไปด้วยดี

ชีคลาซิสทรงเบิกบานใจเป็นยิ่งนัก แม้สายพระเนตรที่ทอดยาวจะเก็บเกี่ยวบรรยากาศระหว่างทางเสด็จกลับโรงแรมที่ประทับ แต่ภายในพระราชหฤทัยกลับประหวัดถึงอิสตรีสองนาง

นางหนึ่ง...งามซึ้งตรึงใจน่าพิสมัยด้วยใจสิเน่หา
อีกนางไซร้...ปราดเปรียวเป็นปริศนาชวนค้นหาด้วยท่าทางที่ท้าทาย

แม้สตรีสองนางจะมีภาพลักษณ์แตกต่าง แต่ชีคลาซิสก็ทรงให้ความสนพระทัยไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ด้วยคนหนึ่งนั้นต้องตาต้องใจ ส่วนอีกคนก็ปรารถนาจะมีชัยเหนือกว่า ซึ่งชัยชนะหอมหวานที่รออยู่เบื้องหน้าก็ทำให้ชีคหนุ่มอดรนทนไม่ได้ต้องฉวยโทรศัพท์ติดต่อพันโทการิม ผู้บัญชาการหน่วยสืบราชการลับแห่งซาร์รียาร์ก

ด้วยมีพระประสงค์จะให้เสาะหาบุคลที่มีความรู้ความสามารถทางด้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และช่างเจียระไนเพชรฝีมือดีเพื่อจัดทำสิ่งของต้องประสงค์ และทรงกำชับว่าห้ามแพร่งพรายเรื่องนี้ให้ใครรู้เป็นอันขาด หาไม่จะต้องโทษเสมอเท่ากบฏต่อแผ่นดิน...



แสงแห่งวันลาลับเลื่อนสลับดวงดาราจับท้องนภา ชีคลาซิสในฉลองพระองค์ชุดสูทตามสมัยเสด็จพระราชดำเนินจากห้องที่ประทับลงมายังห้องอาหารก่อนเวลานัดเล็กน้อย ด้วยมีพระประสงค์จะทอดพระเนตรอิสตรีที่ต้องตาต้องใจนับตั้งแต่ก้าวแรกที่หล่อนผ่านประตูเข้ามา

เวลานี้ใจคนรอนั้นร้อนรน แม้แต่เข็มนาฬิกาที่บอกเวลาอย่างเที่ยงตรงอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันก็ยังแลเชื่องช้ากว่าพระหทัยของชีคหนุ่ม บ่อยครั้งที่ทรงชะเง้อชะแง้มองหา แต่สาวเจ้าก็ยังไม่มา จนกระทั่งใกล้เวลานัดหมาย อับดุลลาก็เดินนำชายหนุ่มหน้าตาคมคายเข้ามาในห้องอาหาร

“คุณมาร์ค รีวิลล์ พระเจ้าค่ะ”

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ” ชีคลาซิสเหยียดวรองค์ขึ้นเต็มความสูงอย่างให้เกียรติ ทรงแย้มพระโอษฐ์ตามมารยาท พลางยื่นพระหัตถ์ออกไปทักทายตามหลักสากล แม้จะนึกฉงนที่มาร์คก้าวเข้ามาในห้องอาหารโดยปราศจากอลิสผู้เป็นน้องสาว แต่ก็ไม่ได้รับสั่งสอบถาม ด้วยเห็นว่าไม่ใช่เรื่องที่สมควร

“เช่นกันพระเจ้าค่ะ กระหม่อมกับน้องสาวรู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ฝ่าบาทพระราชทานเลี้ยงอาหารค่ำในวันนี้” มาร์คยื่นมือออกไปสัมผัส

“ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ ทำตัวตามสบายเถอะ เราต่างก็เป็นนักธุรกิจด้วยกัน การคบหากันไว้ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย”

“พระเจ้าค่ะ”

“เมื่อสักครู่คุณพูดถึงน้องสาว...แล้วเธอไปไหนเสียล่ะครับ” ชีคลาซิสถือโอกาสเลียบๆ เคียงๆ ถาม ด้วยเห็นว่ามาร์คเอ่ยนำร่องขึ้นมาก่อน

“น้องสาวกระหม่อมขอตัวไปเข้าห้องน้ำพระเจ้าค่ะ อีกสักครู่คงตามมา ผู้หญิงก็เป็นแบบนี้แหละพระเจ้าค่ะ ห่วงสวยมากกว่าเรื่องอาหาร” มาร์คอดประชดประชันออกมาไม่ได้ กว่าเขาจะลากอลิสให้มาด้วยกันก็ต้องโอ้โลมปฏิโลมอยู่นาน ครั้นมาถึง...หล่อนก็ไม่วายโยกโย้ตั้งแง่ให้เขามาเข้าเฝ้าก่อน โดยอ้างว่าอยากจะสำรวจความเรียบร้อย ทั้งที่เพิ่งจะแต่งหน้าแต่งตัวออกมาจากบ้าน

“ถ้าอย่างนั้น...ระหว่างรอน้องสาวคุณ เราไปหาอะไรดื่มพลางๆ ก่อนจะดีกว่า เชิญทางนี้ครับ” ชีคลาซิสผายพระหัตถ์เชื้อเชิญมาร์คไปที่เคาน์เตอร์บาร์

ระหว่างการรอคอย ชีคลาซิสทรงแลกเปลี่ยนทัศนคติกับมาร์ค ตลอดจนสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับกล้องวงจรปิดและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลากหลาย ไม่ได้ปล่อยเวลาให้ผ่านไปอย่างไร้ประโยชน์ ด้วยมีพระประสงค์จะให้บริษัทของมาร์คทำการติดตั้งกล้องวงจรปิดภายในงานแสดงเครื่องเพชร รวมทั้งสั่งซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ล้ำสมัยจำนวนหนึ่ง โดยระบุให้จัดส่งไปที่ซาร์รียาร์ก...



อีกด้านหนึ่ง อลิสในชุดเดรสสั้นสีปีกแมลงทับอวดเรียวขากลมกลึงบนรองเท้าส้นสูง หล่อนยืนบรรจงวาดลิปสติกสีแดงสดบนเรียวปากอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ภายในห้องน้ำ ไม่ได้แต่งเสริมเติมเสน่ห์ให้ดึงดูดใจ แต่จงใจจะปิดบังซ่อนเร้นความงดงามจากสายตาบุรุษ

แม้การแต่งหน้าทาปากจัดจ้านจะสร้างภาพลักษณ์เปรี้ยวจี๊ดจ๊าดไม่ต่างไปจากสาวร้อนแรง แต่อลิสก็ยังไม่พึงพอใจ หงุดหงิด ด้วยเงาสะท้อนในกระจกยังแลเย้ายวนอยู่ในที ครั้นนึกอะไรได้บางอย่าง หล่อนก็หยิบหมากฝรั่งจากกระเป๋าสะพายมาขบเคี้ยวแล้วเป่ามันไม่ต่างจากลูกโป่ง

“มันต้องอย่างนี้สิ” อลิสหยักยิ้มมุมปาก พลางกวาดเครื่องสำอางใส่กระเป๋า พึงพอใจในภาพลักษณ์หญิงก๋ากั่นที่แสนจะยียวนกวนประสาท ครั้นละสายตาจากกระจกบานใหญ่ก็ฉวยกระเป๋าแล้วก้าวออกจากห้องน้ำ ในจังหวะนั้นเองก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินสวนเข้ามาก็เลยชนกันโดยบังเอิญ

“อุ๊ย! ขอโทษค่ะ”

“ไม่เป็นไรค่ะ” อลิสยิ้มให้อย่างมีไมตรี ไม่ได้ถือโกรธ ด้วยเห็นว่าตัวเองก็รีบร้อนขาดการระมัดระวัง ครั้นเห็นผู้หญิงที่ชนหล่อนถนัดตาก็ทักทายออกไป

“อ้าว...พี่ฟ้าเองเหรอคะ”

“น้องอลิส...” ปลายฟ้ามีสีหน้าแปลกประหลาดใจ ไม่คิดว่าจะได้มาพบน้องสาวคู่หมั้นที่นี่ อีกทั้งสีสันจัดจ้านบนใบหน้าอีกฝ่ายก็ไม่ใช่สิ่งคุ้นตา หากไม่เอ่ยปากทัก หล่อนคงจำไม่ได้

“พี่ฟ้ามาทำอะไรที่นี่คะ?”

“พอดีว่าลูกของคุณลุงเพิ่งเดินทางมาจากต่างประเทศน่ะค่ะ คุณแม่พี่กลัวว่าเขาจะเหงาก็เลยให้พี่มาทานข้าวเป็นเพื่อน แล้วน้องอลิสละคะ?”

“อลิสมาทานข้าวกับพี่มาร์คค่ะ พี่ฟ้าจะแวะไปหาพี่มาร์คก่อนไหม...อลิสจะพาไป”

“ไม่ดีกว่าค่ะ พี่ไม่อยากให้ลูกคุณลุงต้องรอนาน นี่ก็ใกล้เวลานัดเต็มทีแล้ว” ปลายฟ้ายกข้อมือขึ้นดูเวลาบนหน้าปัดนาฬิกาแล้วคลี่ยิ้มให้อีกฝ่าย

“ถ้าอย่างนั้น...อลิสไปก่อนนะคะ แล้วจะให้พี่มาร์คโทรหาค่ะ” อลิสทิ้งท้ายไว้แค่นั้นแล้วก้าวออกจากห้องน้ำ ไม่ได้ใส่ใจว่าที่พี่สะใภ้อีก

ครั้นเดินมาหยุดยืนหน้าห้องอาหารแล้วไม่ได้ยินเสียงสนทนาของผู้คนเล็ดลอดออกมาก็นึกฉงน แต่ข้อกังขาก็ถูกกลบจนลบเลือน ด้วยมุ่งมั่นจะแก้แค้นและเอาคืนชีคหนุ่ม ต้องการจะสร้างความอับอายให้เขาต่อหน้าธารกำนัล โทษฐานที่บังอาจมาแตะเนื้อต้องตัวหล่อน

“สู้ๆ อลิส เรื่องแค่นี้เธอทำได้อยู่แล้ว” หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดลึก เรียกขวัญกำลังใจแล้วก้าวเข้าสู่ห้องอาหาร การแสดงละครฉากสำคัญกำลังจะเริ่มขึ้น...

****************************************
เหลี่ยมร้ายลายพยัคฆ์วางจำหน่าย 10 มีนาคมนี้ค่ะ ผู้เขียนจะโพสงานเรื่องนี้ไปจนกว่าหนังสือจะวางจำหน่ายค่ะ
สามารถดูปกและสั่งซื้อหนังสือเรื่องนี้ได้แล้วที่...

http://www.welovenovel.com/PD994898-%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%9E%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%84%E0%B8%86%E0%B9%8C_%E0%B8%A7%E0%B8%B2.html

คุณจะได้รับส่วนลดจากทางสนพ. จากราคา 200 เหลือเพียง 160 บาทเท่านั้น



กันต์ระพี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 2 ต.ค. 2557, 21:27:09 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 2 ต.ค. 2557, 21:27:09 น.

จำนวนการเข้าชม : 1172





<< ปก...   ตอนที่ 7 >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account