วังวนวารี ตอนพิเศษ [---ชุด ๕ ปรารถนา---]

Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตินพล+ น้ำหนึ่ง ความรักของไฟและความรักของน้ำ

ตอนพิเศษนี้ สร้างสรรค์โดยติญญา ใครติดใจตินพลตามไปอ่านได้ในเรื่องพันธะสีเพลิง วางแผงแล้ววันนี้

************************

การปรากฏตัวของชายหนุ่มในชุดเสื้อยืดคอวีสีขาวและกางเกงยีนสีเข้มง่ายๆ ดูจะส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของคนเกือบทุกคนที่นั่งอยู่ในร้านอาหารเล็กๆ แห่งนั้น หลายคนถึงกับเหลียวดูอย่างไม่เกรงใจ เสียงซุบซิบดังจ้อกแจ้ก แม้แต่พนักงานเสิร์ฟก็หยุดการทำงาน และหันมาจับตามองเขาอย่างทึ่ง

ผู้ถูกมองไม่สนใจใคร เขาเหลียวซ้ายแลขวาอยู่อึดใจ และเมื่อพบคนที่ต้องการ ก็สาวเท้ายาวๆ ตรงเข้าไปหา

เป้าหมายของเขา คือผู้หญิงผมสีน้ำตาลหยิกสลวยระแผ่นหลังที่นั่งอยู่โต๊ะด้านในสุด ริมกระจกบานใหญ่ใสจนเป็นประกาย เธอไม่เห็นเขา เพราะกำลังทอดสายตาออกไปภายนอก แววตาบอกชัดว่ากำลังเพลิดเพลินกับภาพที่ได้เห็น

ก็ไม่แปลกอะไร ในเมื่อน้ำหนึ่ง เพื่อนของเขาคนนี้จบคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ เธอเป็นนักออกแบบ มีสายตาของศิลปิน และสนใจในรายละเอียดต่างๆ เสมอ เธอมองเห็นความงดงามของไม้ประดับชนิดต่างๆ ชื่นชมความสวยงามของเนื้อไม้ตามธรรมชาติ และมักมีแววตาเป็นประกายยามเห็นของสวยถูกใจ ผิดกับเขา ผู้ซึ่งไม่เคยสนใจหรือมองเห็นในสิ่งเหล่านี้

แต่ถึงจะแตกต่าง มิตรภาพของทั้งคู่กลับผูกพันแน่นแฟ้น คงเป็นเพราะต่างรู้จักกันตั้งแต่ยังเด็ก และยอมรับในตัวตนของกันและกันนั่นเอง

เงาสะท้อนที่ปรากฏในกระจกทำให้น้ำหนึ่งรู้ตัว เธอเบิกตานิดๆ แล้วหันกลับมา

“ตังเต มาตั้งแต่เมื่อไหร่”

“มาเมื่อเห็น” อีกฝ่ายตอบยิ้มๆ พลางนั่งลงบนเก้าอี้ด้วยท่าทางง่ายๆ สบายๆ นัยน์ตาดำคมกริบเป็นประกายแจ่มใส “ว่ายังไง สบายดีมั้ย ยายเพชร”

“ดีบ้าอะไร” น้ำหนึ่งสวนทันควัน เสียงดังจนโต๊ะข้างๆ หันมามอง
หญิงสาวลดเสียงลง

“นี่ส่งลิงก์ข่าวให้ไป ได้อ่านป่ะเนี่ย”

คนถูกถามหยิบเมนูขึ้นมาดูแทนคำตอบ ท่าทีเรื่อยๆ ตามสบายจนน้ำหนึ่งนึกขวาง

“ถาม ได้ยินไหม”

“รู้แล้ว” อีกฝ่ายลากเสียงตอบ “เห็นตินพลคนดัง ไปเที่ยวจตุจักรกับสาวหน้าหวานเหมือนตุ๊กตา ไม่รู้จะเป็นตุ๊กตาหน้ารถคนใหม่หรือเปล่า... เห็นไหม จำได้ด้วยว่านักข่าวชมว่าเธอสวยเหมือนตุ๊กตา”

น้ำหนึ่งทำหน้าครึ่งยิ้มครึ่งบึ้ง เธอขยับจะพูดบางอย่าง ทว่าผู้ที่นั่งฝั่งตรงข้ามยกมือขึ้นห้ามเสียก่อน

“ขอสั่งอะไรกินก่อน เพิ่งทำงานเสร็จก็รีบมา หิวจะแย่แล้ว รอเดี๋ยวค่อยพูดได้ไหม”

โดยไม่รอคำตอบ เขาหันไปโบกมือเรียกพนักงาน ซึ่งรีๆ รอๆ อยู่แล้ว พอถูกเรียก ก็ทำตาโต ลอบสบตากับเพื่อนสาว แล้วหัวเราะกันคิกคัก ท่าทางเขินจนเห็นได้ชัด

น้ำหนึ่งสั่นศีรษะอย่างนึกขัน เหลือบมองเพื่อนชาย ก็เห็นยิ้มหวาน... อย่างที่เธอแอบเรียกขวางๆ ว่า ‘ยิ้มลูกกวาด’ เป็นยิ้มที่ละลายหัวใจสาวๆ ทุกคนได้เสมอมา ตั้งแต่ตินพลยังเป็นเด็กชายตัวน้อย จนกระทั่งย่างเข้าสู่หนุ่มน้อยวัยรุ่น และกลายเป็นดาราหนุ่มรูปหล่อ ดาวรุ่งพุ่งแรงเต็มตัวอย่างทุกวันนี้ ดูเหมือนเสน่ห์ของเขามีแต่จะเพิ่มขึ้น ไม่มีลดน้อยถอยลง

น้ำหนึ่งมองวงหน้าคมคาย ซึ่งไม่อาจนิยามอะไรได้มากกว่าคำว่า ‘หล่อ’ ของคนตรงหน้า ตินพลมีดวงตาคมกริบยาวได้รูปสวย จมูกโด่งเป็นสัน และริมฝีปากหยักสวยราวแกะสลัก ผิวของเขาไม่ขาวจัด แต่เนียนละเอียดเหมือนกระเบื้องเนื้อดี จากสายตาของคนรักศิลปะเช่นเธอ ดวงหน้าที่ได้เห็นไม่ต่างอะไรจากรูปปั้น โครงหน้าของตินพลได้สัดส่วนงดงาม เครื่องหน้าทุกชิ้นคมชัดโดดเด่น แต่อะไรก็ไม่สำคัญเท่าชีวิตชีวาในดวงหน้า แววตาระยับแพรวพราว และรอยยิ้มแจ่มใสอวดฟันเขี้ยวขาวคมตรงมุมปาก ส่งให้เขามีเสน่ห์ยิ่งกว่าผู้ชายคนไหนๆ ที่เธอเคยรู้จัก

แต่ก็นั่นแหละ สำหรับเธอแล้ว เสน่ห์ของเพื่อนชายคนนี้ไม่ต่างจากไฟ ถ้าสัมผัสโดยไม่ระวัง ก็อาจโดนลวกจนมือพองได้ คบกันแบบเพื่อน เขาเป็นคนดีและน่ารัก คอยดูแลเอาใจใส่ช่วยเหลือในยามลำบาก แต่ถ้าให้เป็นคนรัก เธอกลัวว่าจะต้องน้ำตาเช็ดหัวเข่าตั้งแต่ยังไม่ครบสามเดือนแรกด้วยซ้ำ!

เธอรอจนเขาสั่งอาหารเสร็จ พนักงานเสิร์ฟสาวน้อยผละจากไป โดยไม่วายทิ้งหางตามองเธออย่างแปลกใจ คำถามจากแววตาอ่านได้ว่า ‘นี่แฟนใหม่คุณเตหรือเปล่า’ชัดเจนโดยไม่ต้องพูดสักคำ

ตินพลสังเกตเห็นสีหน้าเซ็งๆ ของเธอ ก็หัวเราะเบาๆ ถามล้อๆ ว่า

“ทำไม กลัวเป็นข่าวเพิ่มหรือไง”

“เออสิ” น้ำหนึ่งตอบตรงๆ “สนุกตรงไหน เป็นข่าวกับนาย คาสโนว่าฆ่าไม่ตาย ฉายาอะไรน่ารังเกียจชะมัด”
อีกฝ่ายยังคงยิ้มอารมณ์ดี

“กลัวนายว่านหึงอะดิ”

เขาหลุดชื่อนั้นออกมาจนได้ น้ำหนึ่งรู้สึกว่าหัวใจของเธอกระตุกขึ้นมาวูบหนึ่ง แต่ก็ฝืนวางหน้าเฉยเมยเป็นปกติ

“จะกลัวทำไม ไม่ได้เป็นอะไรกัน...”
ตินพลเลิกคิ้ว

“โอ้ว่าอนิจจาความรัก...” เขาพูดลอยๆ

“เล่นละครมากไปหรือไง” น้ำหนึ่งประชด แต่ผิวหน้าก็ร้อนผ่าว จนเธอนึกกลัวว่าหน้าจะแดง และอีกฝ่ายจะเห็น “หยุดพูดเพ้อเจ้อได้แล้วน่า พูดอะไรไม่เข้าท่า”

ตินพลจับตาดูเพื่อนสาวนิ่งๆ รอยขี้เล่นในแววตาจางหายไป แทนที่ด้วยรอยครุ่นคิดบางอย่าง

ผิวแก้มของน้ำหนึ่งกลายเป็นสีกุหลาบ เปล่งปลั่งไปทั้งดวงหน้า ริมฝีปากอิ่มเต็มเม้มสนิท ดวงตาเป็นประกายวาววับ มองเผินๆ เหมือนเธอกำลังโกรธ แต่คนที่สนิท รู้จักรู้ใจกันมานานอย่างเขา มองออกว่าเธอไม่ได้โกรธหรอก แต่ว่ากำลังเขินต่างหาก...
และเธอจะเป็นอย่างนี้ ทุกครั้งที่เขาเอ่ยชื่อผู้ชายคนนั้น

“โถ่เอ๊ยยย น้ำ” ตินพลแกล้งเรียกชื่อเธอแบบที่ ‘ใครคนนั้น’ เรียก และดูเหมือนคำพูดของเขาจะแทงใจเต็มๆ เพราะดวงหน้านั้นเปลี่ยนสีไป

“ตังเต!”

ตินพลไม่สนใจเสียงเข้มๆ ของอีกฝ่าย เขาโคลงศีรษะไปมา

“รู้ตัวไหม ความรักของเธอน่ะเหมือนน้ำ แล้วเป็นน้ำในบ่อด้วยนะ ไม่ใช่น้ำมีคลื่นแบบทะเล เคยเห็นไหมน้ำในบ่อน่ะ ไหลเอื่อยๆ เรื่อยๆ มันก็เย็นดีหรอก แต่ผู้ชายเขาไม่รู้ตัว ผู้ชายบางคน เขาก็ต้องการความตื่นเต้น ไอ้เรื่องแอบรัก แอบมอง แต่ไม่กล้าพูดเนี่ย ทำไปทำมา เห็นอดทุกราย”

พนักงานยกอาหารมาเสิร์ฟ บทสนทนาจึงหยุดลงชั่วขณะ น้ำหนึ่งพยายามสะกดใจให้คิดแต่เรื่องอาหารตรงหน้า และพยายามไม่โวยวายทั้งๆ ตระหนักว่าตินพลผู้ซึ่งเข้ามาในร้านหลังเธอเกือบสิบห้านาที กลับได้อาหารพร้อมๆ กับเธอ
ใช้ความหล่อให้เป็นประโยชน์ตามเคย! เธอนึกขวางอยู่ในใจ

ตินพลดูจะหิวจัด เขาจัดการอาหารเบื้องหน้าอย่างรวดเร็ว ลืมเรื่องที่พูดเมื่อสักครู่ไปเสียแล้ว และคงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคำพูดเหล่านั้น บาดหัวใจคนฟังถึงเพียงไหน

น้ำหนึ่งหยิบช้อนส้อม เตรียมจะรับประทานอาหารส่วนของตัวเองบ้าง เวลานั้นเป็นเวลาบ่ายแล้ว เธอไม่หิว แต่ก็สั่งสลัดผักและของกินเล่นเล็กๆ น้อยๆ มารับประทานเล่นๆ เป็นเพื่อนเขา

ยังไม่ทันตักอะไรเข้าปาก ประตูร้านก็เปิดออก ร่างระหงของใครคนหนึ่งก้าวเข้ามา หญิงสาวสวยสะดุดตา สวมกระโปรงชุดสั้นๆ สีส้มสดใส อวดเรียวขาขาวเนียน และแม้เธอจะสวมแว่นกันแดดอำพรางดวงหน้าเกือบครึ่ง แต่น้ำหนึ่งก็ยังเห็นจมูกโด่งเรียว และริมฝีปากจิ้มลิ้มสีชมพูใสได้ถนัด รูปหน้านั้นค่อนข้างคุ้นตา คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อน บางที เจ้าหล่อนอาจเป็นดาราหรือนางแบบสักคนก็เป็นได้ ออร่าออกเสียขนาดนั้นนี่นะ

พนักงานเสิร์ฟกุลีกุจอวิ่งเข้าไปต้อนรับ ทีท่าพินอบพิเทาและสีหน้าตื่นเต้นอย่างคนที่เห็น ‘ดารา’ ทำให้น้ำหนึ่งแน่ใจว่าตัวเองเดาไม่ผิด ผู้หญิงคนนี้เป็นดาราจริงๆ เสียด้วย ถ้าจำไม่ผิด ดูเหมือนจะเคยรับบทนางรองหรือว่าเพื่อนนางเอก อะไรทำนองนี้ แต่จะเล่นเรื่องอะไรนั้น คนไม่ถนัดด้านวงการบันเทิงอย่างเธอตอบไม่ได้

เธอเหลียวมองตินพล ก็พบว่าเขากินข้าวหมดจานแล้ว กำลังยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม ท่าทางจะหิวจริง...

“ผู้หญิงคนนั้นสวยเชียว เป็นดาราหรือเปล่า” เธอถาม ด้วยความมั่นใจว่าอีกฝ่ายจะต้องตอบได้ ในเมื่อเขาอยู่วงการบันเทิง ก็น่าจะรู้รายละเอียดดีกว่าเธอ

การณ์กลับกลายเป็นว่าตินพลเหลือบตามอง ‘คนสวย’ แว่บเดียว ก็ยักไหล่

“คนสวยไม่จำเป็นต้องเป็นดาราทุกคนสักหน่อย”

น้ำหนึ่งกลอกตาไปมา ตินพลเป็นอย่างนี้แหละ ขวางโลก ชอบพูดจาประหลาดๆ แต่ในเมื่อคบกันมานาน เห็นกันตั้งแต่ยังเป็นเด็กตัวกระเปี๊ยก เธอก็เลยไม่อยากจะถือสาคำพูดไม่เข้าท่าของเขา เพราะรู้ดีว่าลึกลงภายใต้นิสัยแปลกๆ ตินพลจริงใจ มีน้ำใจ และเป็นห่วงเธอเสมอมา

ส่วนสาเหตุของการนัดเจอวันนี้ ก็เพราะ ‘ข่าว’ ที่เธอเกริ่นไปเมื่อครู่นั่นแหละ

สองเดือนก่อน ตินพลเลิกรากับคนรักคนล่าสุด ซึ่งน้ำหนึ่งก็จำไม่ได้แล้วว่าเป็นคนที่เท่าไหร่กันแน่ และด้วยเหตุผลนั้น เขาจึงมีเวลาว่างพอที่จะอาสาไปเดินจตุจักร เพื่อช่วยเธอ ‘แบก’ ของแต่งบ้านให้กับลูกค้าคนใหม่

ผลออกมา... ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง

แม้จะตระหนักว่าตินพลเป็นคนหน้าตาดี มีเสน่ห์ แต่น้ำหนึ่งก็ไม่เคยมองว่าเพื่อนชายเป็นคนโดดเด่นเตะตาอะไรขนาดนั้น ดังนั้น เธอจึงถึงกับหัวเสียเมื่อพบว่าการเดินจตุจักรกับเขา กลายเป็นเรื่องน่ารำคาญใจอย่างที่สุด ทั้งนี้เพราะไม่ว่าตินพลจะขยับตัวไปทางไหน เป็นต้องโดนรายล้อมโดยสาวๆ ทั้งสาวน้อยสาวใหญ่ ไปจนถึงเด็กตัวเล็กๆ ทุกคนขอถ่ายรูปกับเขาเพื่อไปลงเฟซบุ๊กบ้าง ลงอินสตาแกรมบ้าง บางรายก็คุยอยู่นานไม่ยอมไป บางรายก็เดินตาม คอยแอบถ่ายรูปเหมือนสตอล์กเกอร์ไม่มีผิด ส่วนพ่อค้าแม่ขายก็พากันเฮโลหอบสินค้าของตนมาให้ตินพลโดยไม่ยอมคิดเงิน จนสุดท้าย เธอก็อดรนทนไม่ไหว ต้องชวนเขากลับบ้าน เพราะเห็นว่าเดินต่อไป ก็คงไม่ได้งานแน่

เรื่องแย่ๆ ไม่ได้จบลงแค่นั้น เมื่อวันต่อมา ภาพของเธอปรากฏในทุกสื่อ พร้อมข้อความพาดหัวว่า

‘คาสโนว่าฆ่าไม่ตาย ตินพล ควงสาวนอกวงการ ตุ๊กตาหน้ารถคนใหม่ไปเที่ยวจตุจักร’

น้ำหนึ่งออกอาการเซ็งสุดๆ แม้จะสนิทกับตินพลมานาน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอต้องตกเป็นข่าวกับเขาอารามโมโหทำให้เธอกดก๊อปปี้แล้วกระหน่ำส่งลิงก์เว็บไซต์ต่างๆ ไม่ต่ำกว่าสิบแห่งไปให้ตินพลทางไลน์ ทั้งยังระบายอารมณ์ไปยืดยาว และเขาก็ส่งข้อความกลับมาสั้นๆ ว่า ขอนัดเธอกินข้าวมื้อบ่ายที่ร้านอาหารแห่งนี้

น้ำหนึ่งไม่ได้โกรธตินพล เพราะรู้ว่าเขาเองไม่ได้ตั้งใจให้เกิดเรื่องแบบนี้ ตินพลเองก็น่าจะรู้ความรู้สึกของเธอ แต่เขาก็อุตส่าห์ยอมปลีกตัวมานัดกินข้าวมื้อบ่ายเพื่อเอาใจเธอ ทั้งๆ งานรัดตัวและยุ่งแสนยุ่ง

และคงเพราะนิสัยส่วนนี้นี่แหละ ทำให้เธอคบกับเขาได้จนถึงวันนี้

“สั่งมาเยอะแยะ ไม่เห็นกินอะไรเลย มา เดี๋ยวช่วยกิน” เสียงห้าวๆ เอ่ยขึ้น พร้อมกันนั้นเอง เจ้าตัวก็ยื่นช้อนส้อมมาตักสลัดจากจานของเธออย่างหน้าตาเฉย

น้ำหนึ่งเลื่อนจานไปไว้ตรงกลางอย่างรำคาญ เธอไม่หิวเพราะกินข้าวเที่ยงมาแล้ว แต่เดาว่าตินพลคงจะหิว เพราะเขาเพิ่งจะทำงานเสร็จ

“แล้วนี่ไปทำงานอะไรมา” เธอถาม

“ตอนสิบเอ็ดโมงเดินแฟชั่นโชว์ แล้วเย็นนี้ตอนหกโมงต้องไปงานเปิดตัวเครื่องเพชรที่โรงแรมสุริยาวรินทร์ นัดแต่งหน้าทำผมตอนสี่โมง”

น้ำหนึ่งดูนาฬิกา บ่ายสองแล้ว...

“อีกเดี๋ยวก็ต้องไปแล้วสิ” เธอเปรย

คนฟังพยักหน้ารับ

“โทษทีแล้วกัน” เขาออกตัว เหลือบตาดูเธอแว่บหนึ่งคล้ายจะประเมินความรู้สึกจากสีหน้าและแววตา “อยู่ได้ไม่นาน งานยุ่งจริงๆ บอกเลิกคิวเขาก็ไม่ได้ นัดล่วงหน้านานแล้ว ว่าแต่เธอ... สบายใจขึ้นหรือยัง”

น้ำหนึ่งยักไหล่

“ฉันมีทางเลือกไหมล่ะ”

“ไม่เอาน่า” อีกฝ่ายทำเสียงปลอบประโลม “ฉันไม่ได้ตั้งใจ ใครจะไปรู้ว่าจะโดนแอบถ่าย ปาปาราซซี่พวกนี้ก็เหลือเกิน ขายอะไรได้เอาหมด เนื้อข่าวไม่มีความจริงอะไรเลยก็ยังเอา”

น้ำหนึ่งมองแววตาออดๆ และสีหน้าเศร้าๆ ของเขา แล้วหัวใจก็อ่อนลง

“เอาเถอะ” เธอโบกมือไปมา “ฉันเองก็วู่วามไปหน่อย นายก็ไม่ผิดจริงๆ ด้วย อีกอย่าง เขาไม่ได้ลงชื่อฉัน รูปก็เห็นแค่เงาดำๆ นอกจากยายเกดซ่าแล้ว คงไม่มีใครรู้หรอกว่าเป็นฉัน”

ตินพลหัวเราะเมื่อนึกถึงเจ้าของชื่อ ‘เกดซ่า’ หรือเกศรา เด็กสาวประจำบ้านของน้ำหนึ่ง ทำหน้าที่ดูแลบ้านและดูแลแม่ ซึ่งไม่ค่อยแข็งแรงของหญิงสาว แม้ว่าจะไม่เคยเจอกัน แต่ฟังจากคำบอกเล่าของอีกฝ่าย เขาก็พอจะเดานิสัยออกว่าฝ่ายนั้นเป็นคนช่างพูดช่างคุย และสนุกสนานไปตามเรื่อง

“ยายหนูขาละครที่เธอเล่านั่นน่ะหรือ”

“เออ เกดซ่านั่นแหละ เป็นคนมาถามฉัน คุณเพชรเป็นแฟนกับคุณเตจริงๆ หรือคะ แหม น่าอิจฉาจัง เกดซ่าจะทนไม่ไหวแล้วนะ” น้ำหนึ่งเลียนเสียงเกศราอย่างแนบเนียน จนตินพลหัวเราะ

“ไว้ว่างๆ ต้องแวะไปเจอบ้างแล้ว” เขาว่า

“อย่าเลย” น้ำหนึ่งปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย “ฉันขี้เกียจมาถือกล้องถ่ายรูป ป้าช้อยร้านก๋วยเตี๋ยวอีก ถ้าแกเห็นนายแวะมาที่บ้านเมื่อไหร่ ต้องวิ่งมาขอถ่ายรูปแหงๆ”

ตินพลจิ้มมันฝรั่งทอดชิ้นสุดท้ายส่งเข้าปาก ยกแก้วน้ำขึ้นดื่มจนหมด แล้วจู่ๆ โดยไม่มีคำชี้แจงล่วงหน้าใดๆ ร่างสูงก็ลุกขึ้นยืน

“หมดเรื่องแล้วใช่ไหม” น้ำเสียงนั้นตัดบทเห็นได้ชัด“ถ้าอย่างนั้น ฉันขอตัวไปทักคนหน่อยนะ อ้อ ไม่ต้องจ่ายเงิน มื้อนี้เลี้ยง ถือเป็นการปลอบใจที่ต้องตกเป็นข่าวแล้วกันนะ คุณตุ๊กตาหน้ารถ”

“อ้าว” น้ำหนึ่งงง“จะไปไหนเนี่ย ทิ้งกันดื้อๆ ยังงี้เลยเหรอไง แล้วนายจะไปทักใคร อะไร งง”

ตินพลเลิกคิ้วนิดๆ รอยยิ้มบนเรียวปากสวยหวานแกมประจบ ส่งให้ดวงหน้าคมคายดูหล่อเหลาจับตา จนแม้แต่คนที่ชินกับ ‘เสน่ห์’ ของเขาอย่างน้ำหนึ่ง ก็ยังอดไม่ได้ที่จะชื่นชมอยู่ในใจ

“เธอขับรถมาเอง ก็ต้องขับกลับได้สิ ปกติจะตายไป”

น้ำหนึ่งร้อง “ฮึ” ในคอ แต่พอเธอตั้งท่าจะถามต่อ อีกฝ่ายก็ยกนิ้วชี้ขึ้นโบกไปมา แววตาเป็นประกายพราวพรายอย่างคนขี้เล่น
“ต้องขอบคุณฉันนะ นี่ฉันกำลังจะไปแก้ข่าวให้เธออยู่นี่ไง”

น้ำหนึ่งตามไม่ทัน เธอขมวดคิ้ว

“ว่าไงนะ”

ตินพลไม่ตอบ เขาใช้วิธีชำเลืองมองแทน น้ำหนึ่งมองตามสายตาของเขา ความที่สนิทกันมานาน ทำให้เธอเข้าใจทันที...
สาวสวยชุดสีส้มที่สบตากับเธอเมื่อครู่นี่เอง ว่าแล้วเชียวว่ามันแปลกๆ ที่แท้ก็...

“อย่าบอกนะว่า...”

ตินพลหลิ่วตา

“เขาตามมา เจอกันเมื่อกี้ตอนเดินแฟชั่นโชว์”

น้ำหนึ่งกลอกตาไปมา ถ้าเป็นคนอื่น เธอคงไม่เชื่อ และจะคิดว่าเป็นผู้ชายขี้อวดหรือว่าหลงตัวเองด้วยซ้ำ แต่นี่เป็นตินพล สุดหล่อที่มีผู้หญิงมาตามกรี๊ดกร๊าดตั้งแต่ยังเรียนประถมปลาย เธอจึงไม่แปลกใจ

“เอาเหอะๆ” หญิงสาวโบกมือ ด้วยท่าทางกึ่งปลง “เชิญตามสบาย”

อีกฝ่ายยกมือขึ้นแตะขมับเป็นเชิงล้อ เขาผละจากไปหาผู้หญิงคนนั้น มีการทักทายกัน รอยยิ้มของเจ้าหล่อนหวานพราว นัยน์ตาคู่นั้นปรายมามองเธอ และตินพลก็อธิบายสั้นๆ คงจะบอกว่า เธอกับเขาเป็นเพื่อนสนิทกัน อย่างที่เคยบอกผู้หญิงทุกคนในชีวิตของเขานั่นแหละ

อึดใจต่อมา คนทั้งคู่ก็พูดคุยกันอย่างเพลิดเพลินราวกับรู้จักกันมานาน น้ำหนึ่งมองเห็นประกายของความชื่นชมและแรงปรารถนาในแววตาของสาวสวย ไม่ต่างจากที่เธอเคยเห็นจากสาวๆ คนอื่นในชีวิตของตินพล

หญิงสาวสั่นศีรษะขันๆ เธอหยิบกระเป๋าสะพาย แล้วลุกขึ้นยืน ก้าวออกจากร้าน รู้จากสัญชาตญาณว่าผู้หญิงคนนั้นมองตามมา แต่เธอไม่ใส่ใจ

รถของเธอจอดอยู่ด้านหน้า หันหน้าเข้าหาร้าน และเป็นเรื่องบังเอิญ โต๊ะตัวที่ตินพลนั่งอยู่ อยู่หน้าร้าน เพียงมองออกมา ก็จะเห็นเธอได้พอดิบพอดี

น้ำหนึ่งเงยหน้ามองตินพลอีกครั้ง เขากำลังพูดคุยกับสาวสวยก็จริง ทว่าราวกับมีสัญชาตญาณ ดวงตาคู่นั้นเหลียวมองมา ตาสบตาผ่านฟิล์มกันแดดสีเข้ม เขายกมือขึ้นโบกให้เธอ ยิ้มนิดๆ ที่มุมปากแจ่มใสสะดุดตา

น้ำหนึ่งยิ้มตอบทั้งๆ รู้ว่าเขาไม่เห็น เธอบิดกุญแจสตาร์ทรถ หมุนพวงมาลัยออกจากร้านเล็กๆ แห่งนั้น และภาพของตินพลก็ลับหายไปจากสายตา

ความรู้สึกบางอย่างยังคงตกค้างอยู่ในใจ หวนนึกถึงสายตาแพรวพราว และรอยยิ้มแจ่มใสของตินพลยามอยู่กับสาวสวยคนใหม่ น้ำหนึ่งก็อดไม่ได้ที่จะเป็นห่วง แม้จะรู้ว่าเพื่อนของเธอคนนี้ไม่เคยเจ็บปวดจากความรัก เขามีภูมิต้านทานต่อความผูกพันและความรู้สึกลึกซึ้งได้ดีจนน่าแปลกใจ แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ยังเป็นห่วงเขาอยู่ดี

เธอรู้ว่าชีวิตของใครก็ของคนนั้น และตินพลเองก็มีความสุขกับชีวิตที่เขาเลือก แต่ถึงอย่างนั้น น้ำหนึ่งยอมรับว่า หลายๆ ครั้ง เธอวิตกแทนอีกฝ่าย ชีวิตของตินพลเต็มไปด้วยผู้หญิงมากหน้าหลายตาก็จริง แต่สาวสวยเหล่านั้นกลับมองไม่เห็นตัวตนที่แท้จริงของเขา ความรักของพวกเธอวนเวียนอยู่แค่เปลือกนอก เงาของความหล่อเหลา เสน่ห์ละลานตา และชื่อเสียงอันโด่งดัง ก็เท่านั้นเอง

น้ำหนึ่งถอนใจ นึกขันตัวเองที่มานั่งคิดอะไรต่อมิอะไรได้ยืดยาวจนออกจะน่ารำคาญ ปกติแล้ว เธอไม่ใช่ผู้หญิงจุกจิกหรือว่าคิดมาก แต่ก็น่าแปลก การกระทำของตินพลในวันนี้ เตือนใจให้เธอคิดไปถึงบางสิ่ง...

สิ่งนั้นคือ... ความรัก

แต่ไหนแต่ไร เธอตระหนักดีว่าชีวิตของตินพลไม่เคยแล้งความรัก แต่ก็นั่นแหละ เมื่อมองลึกลงไป น้ำหนึ่งกลับคิดว่าความรักของเขาเหมือนไฟจากก้านไม้ขีด ที่ลุกเพียงวูบวาบ ประกายแห่งไฟติดอยู่แค่ชั่วครู่ พอเชื้อเพลิงหมดไป ความรักก็จบลง รอจนกว่าจะเจอไม้ขีดก้านใหม่ๆ ความรักก็สว่างขึ้น จากนั้นก็ดับลงอีก วนเวียนไปไม่รู้จบสิ้น

เธอได้แต่หวังว่าจะมีสักวันที่ตินพลจะได้พบใครบางคน คนที่ทำให้เขาสามารถจ่อเปลวไฟเข้ากับปลายเทียน เพื่อที่ความรักของเขาจะได้อยู่ได้ยาวนาน และกลายเป็นรักที่แท้จริง

ส่วนเธอน่ะหรือ...

ตินพลว่าอะไรนะ ‘รักของเธอเหมือนน้ำ’ ก็คงจะใช่ เพราะสำหรับเธอแล้ว น้ำคงอยู่ได้เสมอไม่ว่าจะอยู่ในภาชนะรูปทรงไหน ต่อให้คนที่เธอรักจะเป็นอย่างไร รักของเธอก็เหมือน ‘น้ำใสไหลริน’ ที่พร้อมจะปลอบประโลม ทำให้เขามีความสุข แม้ว่ามันอาจจะทำให้เธอต้องเป็นทุกข์ก็ตามที

เสียงโทรศัพท์ดังกังวานขึ้นเป็นเพลง น้ำหนึ่งหยิบขึ้นมาดู และพอเห็นชื่อที่ปลายสาย หัวใจก็กระตุกขึ้นมาวูบ

วาริ...

หญิงสาวต้องระงับใจอยู่ครู่ใหญ่ กว่าจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาได้

“น้ำหรือ” เสียงของอีกฝ่ายแว่วมาตามสาย “เราอยากคุยด้วยหน่อย น้ำว่างไหม”

เกือบจะมีรอยยิ้มที่มุมปาก แต่แล้วยิ้มนั้นก็จางหาย...

“ไม่ว่างหรอก ขอโทษนะ ว่าน”

“แต่...”

“เราขับรถอยู่ มีอะไรไว้ค่อยคุยกัน”

น้ำหนึ่งกดปุ่มวางสาย รถแล่นมาติดไฟแดง และเธอก็คลึงปลายนิ้วกับขมับ รู้สึกปวดตุบๆ คงเพราะอากาศภายนอกค่อนข้างอบอ้าว แดดส่องลงมาต้องแขนและผิวหน้า จนรู้สึกแสบนิดๆ

เสียงข้อความดังขึ้น หญิงสาวเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กดเลื่อนดูข้อความอย่างลืมตัว

“เราจะไปหาที่บ้าน มีเรื่องจะคุยด้วยเยอะแยะ แล้วเจอกันนะน้ำ”

หัวใจของน้ำหนึ่งตกวูบ แล้วเต้นแรงขึ้นจนเจ้าตัวเกือบจะสัมผัสได้ว่าหัวใจอยู่ตรงไหน

ข้อความที่ได้รับสร้างความรู้สึกได้สองอย่าง หนึ่งคือสุข สุขที่เขายังอยากอยู่ใกล้ สนใจเธอ เห็นเธอเป็นคนสำคัญ และสองคือเศร้า เศร้าที่รู้ว่าไม่ว่าอย่างไร รักของเธอก็ไม่อาจสมหวัง และเธอคงไม่มีวันเข้าใกล้เขาได้มากกว่านี้

หลังชั่งใจอยู่ครู่ใหญ่ น้ำหนึ่งตัดสินใจกดปุ่มปิดโทรศัพท์ เธอไม่อยากเห็นข้อความจากเขาอีก และยิ่งกังวลว่าเขาอาจโทร. มาอีกครั้ง วาริไม่รู้หัวใจของเธอ สำหรับเขา เธอคือเพื่อนที่ดีที่สุด เขาไม่เคยมองเธอในแง่อื่นนอกเหนือจากนี้

หัวใจเจ็บขึ้นมาวูบ ไฟสัญญาณเปลี่ยนจากแดงเป็นเขียว น้ำหนึ่งแตะเท้าลงบนคันเร่ง หมุนพวงมาลัยพารถมุ่งหน้ากลับบ้าน พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่คิดถึงเขา เพราะรู้ว่าคิดไป ก็มีแต่จะทำให้หัวใจชอกช้ำยิ่งกว่าเก่า แอบรักเขาข้างเดียวเป็นเกลียวเชือก เขาจะรู้หรือก็หาไม่

รถคันนั้นแล่นเร็วราวกับจะพุ่งทะยานไปข้างหน้า ราวกับคนขับต้องการหนีอะไรบางอย่าง แต่ถึงอย่างนั้น คงมีแต่เจ้าตัวที่รู้ดีแก่ใจว่า... จะหนีอะไรหนีได้ แต่หนีใจตัวเองนี่สิ เธอไม่รู้ว่าจะหนีได้นานแค่ไหนกัน...



ติดตามเรื่องราวความรักของตินพลได้ใน พันธะสีเพลิง โดยติญญา
ติดตามเรื่องราวความรักของน้ำหนึ่งได้ใน วังวนวารี โดยภาวิน



ภาวิน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 10 ต.ค. 2557, 03:02:48 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 10 ต.ค. 2557, 03:03:27 น.

จำนวนการเข้าชม : 1642





yimyum 10 ต.ค. 2557, 03:35:14 น.
ว้า…ตอนนี้อ่านแล้ว
ลุ้นๆๆ


ภาวิน 10 ต.ค. 2557, 03:48:16 น.
สวัสดีค่ะ นี่คงเป็นการโพสต์ครั้งสุดท้ายแล้ว สำหรับในส่วนของวังวนวารี ตอนนี้หนังสือวางแผงแล้ว ไปสอยไปแซ่บกันได้ จะได้รู้ว่าใครคือตัวร้ายที่คอยชักใยเรื่องราวต่างๆ วาริจะได้ร่างคืนไหม หรือเรื่องกลายกลับตาลปัตรเป็นเผด็จที่ได้ครองคู่อยู่เคียงข้างน้ำหนึ่ง เกดซ่าเป็นใคร ทำเรื่องราวต่างๆลงไปเพื่ออะไร มาลินไปไหน ทำอะไร กับใคร แล้วจุดจบของชรัณจะเป็นเช่นใด ติดตามกันได้ในเล่มเลยค่ะ

ตอบคอมเม้นท์

คุณหนอนหนังสือ เรื่องริชาร์ดนี่เกิดจากแรงบันดาลใจตอนเห็นภาพหนุ่มหล่อมาดเท่คนหนึ่ง มีไรหนวดเคราเหมือนชายแท้มาก แต่เขาเคยเป็นผู้หญิงมาก่อน ตอนนั้นตั้งใจเลยว่านิยายเราต้องมีตัวละครแบบนี้ เพราะเหตุนี้ ริชาร์ดจึงเข้าใจผู้หญิงดี

เกดซ่า ถึงกับเงิบไปเลยอะดิ เกดซ่าในเรื่องก็มีดีพอตัว ไม่ใช่คนรับใช้เบๆอย่างที่คิด แล้วจะพาน้ำหนึ่งไปไหน ทำอะไร คงมีคนเดียวเท่านั้นที่ตอบได้...ภาวิน ๕๕๕๕

หนูบาร์บี้ ตามอ่านทันจนได้ เรเชลไม่ใช่แค่ชื่อเพราะ เธอสวยด้วย

คุณ Patok หนังสือวางแผงแล้วค่ะ สามารถหาแซ่บหาสอยได้ตามร้านหนังสือ เท่าที่รู้ เข้าไปวางที่นายอินทร์หลายสาขาแล้ว แต่ถ้าตั้งใจซื้อครบทั้งชุด ไปอุดหนุนที่บูทคำต่อคำ หรือดวงตะวัน ในงานมหกรรมหนังสือ จะได้ส่วนลดและบ๊อกเซ็ตสวยๆไปครอบครองค่ะ

คุณนักอ่านเหนียวหนึบ จำได้ว่าเราเจอกันครั้งแรกจากเรื่องวังวนวารี มาเรื่องนี้ยังตามอ่านกัน ขอบคุณมากค่ะ เรื่องนี้ตัวละครทุกตัวมีปมให้คนอ่านลุ้นกันตัวโก่งไปตลอดทาง คงมีทั้งปมที่เดาถูก เดาเฉียด เดาพลาด ปะปนกันไป แต่ผู้เขียนหวังว่าทุกปมทุกเรื่องจะทำให้คนอ่านสนุกเพลิดเพลิน และพออ่านจบ บางสิ่ง บางคำในเรื่องจะเป็นประโยชน์ต่อคนอ่านบ้าง ไม่ใช่แค่กระดาษที่วางทิ้งไว้เฉยๆ

พี่แตงกวา น้องต้องขอบคุณคุณพี่ทีอยู่เคียงข้างวาริมาโดยตลอดตั้งแต่ร่างแรกเขียนจบ พี่ทำให้น้องมีแรงฮึด และเมื่อเข้ามาโพสต์ในเว็บ คุณพี่ยังตามอ่านตามเม้นท์อย่างสนุกสนาน เนียนๆเหมือนไม่เคยรู้เรื่องมาก่อน ก๊ากกก

อสิตาที่รัก ข้าอยู่เคียงข้างเจ้าเสมอ แค่เจ้ามองมา ก็จะมองเห็น เป็นคู่เลสเบี้ยนต่างไซส์ กร๊ากกก หวังว่าจะได้ร่วมงานกันอีก ขอบคุณที่ส่งไฟในการเขียนมาให้ไม่เคยขาด คอยหิ้วปีกลากจูงยามข้ารอแร่จนสุดท้ายก็ถึงเส้นชัย

คุณใบบัวน่ารัก ยังเหลือปมอีกหลายปอยที่ยังมิได้สะสาง ถ้าอยากรู้ติดตามในเล่มได้เลยค่ะ

น้องหนอนน้อยดังปัณณ์ หนอนน้อยกินเกลือแน่เดือนนี้ เพราะโดน ๕ ปรารถนาสูบเงินออกจากกระเป๋า ๕๕๕ (เสียงหัวเราะ หรือโฆษณาแฝง สังเกตไหม เจ๊หัวเราะเป็นเลขห้าไทยตลอดๆๆๆ)

คุณ Peeno ขอบคุณค่ะที่เข้ามาอ่านมาติดตาม ตอนแรกก็ตั้งใจจะให้เกดซ่าเป็นเด็กรับใช้ธรรมดาค่ะ แต่ตอนหลังต้องการคนทำงานแบบลับๆเลยเพิ่มตำแหน่งให้นางเพราะขี้เกียจสร้างตัวละครใหม่ แค่นี้ก็เยอะแยะวุ่นวายนุงนังจนคนเขียนมึนแล้ว อิ อิ

คุณโกลเด้นซัน เป็นนักอ่านอีกคนที่ช่างสังเกต ละเอียดถี่ถ้วน จับจุด แกะรอยที่คนเขียนจงใจทิ้งไว้ได้เกือบหมด แปลว่าเรื่องหน้าเราต้องพัฒนาฝีมือ ทิ้งรอยให้เนียนกว่านี้ ๕๕๕

คุณ Moona Narak ขอบคุณค่ะที่ติดตามกันมาโดยตลอด หากอ่านจบในเล่มแล้วคิดอย่างไร รู้สึกแบบไหนไปพูดคุยทักทายกันได้ในเพจ ๕ปรารถนา หรือเพจภาวินก็ได้ค่ะ ยินดีต้อนรับเสมอทุกเวลา

คุณ Napawadee Khunbua นี่เป็นนิยายลึกลับด้วย ดราม่าด้วยค่ะ ตอนเขียนก็ไม่ได้ตั้งใจให้เป็นดราม่า แต่คนส่วนใหญ่มักซุกซ่อนเรื่องน่าเศร้าไว้ในใจเสมอ ตัวละครก็เช่นกันตอนแรกเริ่มเราสร้างชีวิตให้เขา พอเขียนๆไปเขามีชีวิตของเขาเอง ก็ต้องปล่อยให้มันดำเนินไปจนถึงที่สุด เลยออกมาเป็นแบบนี้ล่ะค่ะ


สุดท้ายนี้ ขอบคุณทุกคน ทุกกำลังใจที่เคียงข้างเดินทางร่วมกันมา โอกาสหน้าฟ้าใหม่ ถ้าเขียนนิยายจบอีกสักเรื่องคงได้พบกันอีก หวังว่าจะได้มาพบนักอ่านที่น่ารักทุกๆคนอีก

เอาละค่ะ ถึงเวลาประกาศรายชื่อผู้โชคดีที่ได้รับของที่ระลึกเล็กๆน้อยๆจากผู้เขียนแล้ว ของรางวัลคืออะไรไม่บอก ขออุบไว้ก่อน ไปลุ้นกันในวันที่ของถึงมือละกันน้าาาา

ผู้โชคดีทั้งสามคนได้แก่ๆๆๆๆ (มีเสียงสะท้อนด้วย แต่สะท้อนคำนี้ไม่ค่อยดีนะ ๕๕๕)
คุณ Moona Narak
คุณ Peeno
และ...
คุณ Goldensun

ผู้โชคดีทั้งสามโปรดติดต่อทางกล่องข้อความด้วยค่ะ

บ้าย บาย


ภาวิน 10 ต.ค. 2557, 03:51:59 น.
น้องยิ้มจังตื่นเช้าหรือยังไม่นอนเอ่ย พี่ตอบคอมเม้นท์ข้ามหนูไปได้ยังไงกัน ขอบคุรที่ตามอ่านกันจนวันนี้ แล้วเจอกันในงานหนังสือนะคะ (ถ้าหนูไป) พี่อยู่ที่บูทดวงตะวันกับบูทคำต่อคำวันเสาร์ที่ ๑๘ กับวันอาทิตย์ที่ ๑๙ ปีนี้ไปได้แค่สองวันเพราะมีหนูรดา รอนางโตกว่านี้อีกหน่อย ค่อยไปหลายๆวัน


ดังปัณณ์ 10 ต.ค. 2557, 07:15:56 น.
หนอนอ่านแล้วววววววววววว วะฮะฮ่าาาาาาาาาาา ไปกรี๊ดที่พี่อตินลงแย้ววววววววววววววว

ชริๆๆ! ยั่วด้วย กร๊ากกกกกกกกกก อยากบอกขุ่นพี่ เจอมาม่าแน่เดือนนี้ แงๆๆๆๆ

ป.ล.อั้ยย่ะ! พี่ปุ๊กไปวันเสาร์ อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยย พอดีเลย


ketza 10 ต.ค. 2557, 09:06:11 น.
มาแย้ววววววววววววว
ค้างงงงงงงงงงงง
ต้องอ่านใ้ห้ได้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


อสิตา 10 ต.ค. 2557, 10:04:43 น.
หมั่นไส้ นางเพชรน้ำหนึ่งนอกใจไอ้เก้า


ริญจน์ธร 10 ต.ค. 2557, 10:15:39 น.


goldensun 10 ต.ค. 2557, 17:36:44 น.
ท่าจะเป็นจุดเริ่มที่เป็นข่าวเตกับเพชรที่เผด็จอ่านเจอ เตนี่เฟลิตไปเรื่อยจริงๆ
ส่วนเพชร ถึงจะรักแบบน้ำ แต่ก็มั่นคง ไม่วูบวาบนะคะ
รักห้าธาตุ น่าติดตามมากค่ะ


บุลินทร 10 ต.ค. 2557, 17:58:21 น.
เสาร์ที่ 18 เจอกานนน


Barby 10 ต.ค. 2557, 18:36:59 น.
ว้าวๆมาคู่ มาทำให้อยากติดตามทั้งคู่เลย


พันธุ์แตงกวา 11 ต.ค. 2557, 00:49:19 น.
ฮ่าๆๆๆๆงานหน้าม้าต้องจัดมา เพื่อกระตุ้นเรตติ้งกันน้า
โห ตินพล คาสโนว่าฆ่าไม่ตาย เป็นแวมไพรส์แน่ๆเลย นายว่านนี่มีอิทธิพลกับน้ำหนึ่งเสมอ โถ น้ำหนึ่งขอให้สมหวังนะ


peeno 11 ต.ค. 2557, 16:22:23 น.
ขอบคุณมากๆค่ะสำหรับนิยายดีๆที่มอบความสุขให้กับคนอ่าน
และขอขอบคุณสำหรับของรางวัลนะคะ ติดต่อทางกล่องข้อความเแล้วค่ะ


หนอนหนังสือ 11 ต.ค. 2557, 16:45:15 น.
อยากมีเพื่อนแบบตังเตมั่งจังเลย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account