Mystery Magician. เวทย์รัก พิทักษ์โลก
นาดาเระ นักเดินทางจากต่างเมือง ได้เข้ามาในเมืองนากะเมืองแห่งการค้า ซึ่งพบกับภารกิจต่างๆ ที่ต้องสะสาง และมีเพื่อนร่วมงานชื่อ คาสึโตะ การต่อสู้ ความมันส์ ติดตามได้ในเรื่องนะคะ ^_^

Tags: แฟนตาซี เลิฟเลิฟ ผจญภัย

ตอน: บทที่ 3 ผลึกสัตว์เทพ

เย่ๆ ในที่สุด ศึกทัวร์นาเม้นท์ก็เริ่มต้นขึ้น ฉันรู้สึกตื่นเต้นมากๆเลย เพราะนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้เข้าแข่งขันระดับโลกแบบนี้ ตอนนี้ฉันกับคาสึโตะกำลังเก็บตัวอยู่ในห้องพักรอจับสลากเพื่อจับคู่ และพวกเราก็จับได้เบอร์ 9 จากทั้งหมด 16 คู่

"คาสึโตะกลัวแพ้ใครมากที่สุดในการต่อสู้ครั้งนี้งั้นหรอ"ฉันถามเพราะไม่มีอะไรทำ

"อืม ฉันน่ะหรอ ฉันกลัวแพ้แม่ทัพวากิตะไงล่ะ เขาคว้าแชมป์ไปยี่สิบเจ็ดสมัยซ้อนเลยล่ะพูดง่ายๆก็ตั้งแต่เริ่มทัวร์นาเม้นท์ครั้งแรก ยังไม่มีใครล้มเขาได้เลยน่ะ"

โอ้โห! ตัวเลขบ่งบอกอายุเลยนะเนี่ย แม่ทัพวากิตะเห็นหนุ่มๆปาไปสี่สิบกว่าแล้วหรอเนี่ย

"อย่างงั้นหรอกหรอ แล้วเขาคู่กับใครล่ะ"

"ได้ยินมาว่าเขาคู่กับรองแม่ทัพซาโตะน่ะ ทั้งคู่ฝีมืออยู่ในระดับ S+ เลยล่ะ ทั้งพลัง อาวุธ สกิลดาบ ทุกๆอย่างเลยล่ะ"

"น่าสนใจดีนี่นา เชื่อฉันสิว่าพวกเราต้องชนะ แต่ผู้หญิงเป็นรองแม่ทัพก็ไม่เลวนะ คงเก่งพอตัวเลยล่ะ"มันแน่อยู่แล้วล่ะ

"ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดีนะ แต่เธออย่าลืมนะ ทัวร์นาเม้นท์น่ะ ไม่รับประกันชีวิตของเราหรอกนะ ทางที่ดีพวกเราควรจะ..."

"ไม่ ไม่มีวันหรอก ฉันน่ะ เกลียดคนขี้แพ้ที่สุดเลย"

"เปล่าไม่ใช่แบบนั้นนะ"


และแล้วการแข่งขันก็เริ่มขึ้น ณ บัดนาววว

"เอาล่ะครับ จากผลการจับสลาก ดังนี้ครับ หมายเลขหนึ่ง คุณแวร์วูฟกับคุณมาริโอ้ ได้ต่อสู้กับ หมายเลขสอง คุณคิริกับคุณสุมะ หมายเลขสาม คุณวากิตะกับคุณซาโตะ ต่อสู้กับ หมายเลขสี่ คุณมิยางะกับคุณบุนยะ บลาๆ หมายเลขเก้า คุณคาสึโตะกับหนูน้อยนาดาเระ ต่อสู้กับ หมายเลขสิบ คุณฟุกุกับคุณคิระ บลาๆ ตอนนี้ขอเชิญหมายเลขหนึ่งและสองขึ้นมาบนเวทีครับ"

"คาสึโตะ ยังไงๆ เราต้องถึงรอบชิงชนะเลิศแน่ๆ เพราะคุณวากิตะกับคุณซาโตะน่ะอยู่ครึ่งแรก"

"อืม ถ้า..ไม่มีเธอน่ะนะ"ประโยคหลังเขาพูดเสียงเบาลงจนเกือบเงียบ แต่ฉันก็ได้ยินน้าาาา >O<

"ถ้ากลัวแพ้นักก็มาช่วยซ้อมให้ฉันหน่อยสิ"หาทำอะไรทำเวลาว่างดีกว่า

"ก็ดีเหมือนกันนะ"และเขาก็ลุกขึ้นมาจากโซฟาตัวสีฟ้าคราม

"ก่อนอื่นต้องอบอุ่นร่างกายสินะ"และฉันก็ยืดเส้นยืดสาย

"การประลองครั้งนี้หมายเลขหนึ่งคุณแวร์วูฟกับคุณมาริโอ้เป็นฝ่ายชนะครับ ต่อไปขอเชิญหมายเลขสามและสี่ครับ"อยู่ๆเสียงพิธีกรก็ดังขึ้นอีก

และคาสึโตะก็สอนวิธีใช้ดาบเบื้องต้นให้กับฉัน ตอนแรกๆฉันก็ไม่กล้าหรอกเพราะไม่เคยใช้ดาบอันใหญ่ๆ เคยใช้แต่ดาบคาตามะอะ ครั้งนี้ใช้ดาบใหญ่ ถึงมันจะเบากว่าคทาเวทย์ของฉันก็เถอะแต่พอถือในตอนแรก ทำเอาหมดแรงเลยอะ T^T แต่พอฝึกไปเรื่อยๆ ฉันก็คล้องและไม่กลัวดาบเล่มใหญ่ๆอีกเลย และสามารถใช้มันได้อย่างคล่องแคล่วอีกด้วย

"เธอนี่เรียนรู้เร็วนะ"คาสึโตะเดินมาจับไหล่ฉัน

"ใช่มั้ยล่ะ ใช่มั้ยล่ะ"พูดอย่างภูมิใจสุดๆ

"ต่อไปฉันจะสอนท่าไม้ตายนะ ท่านี้ฉันคิดเองเลยล่ะ แต่มันจะกิน SP น่ะ เอาไว้ใช้ยามจำเป็นนะเพราะฉันใช้ทีนึง SP เกรี้ยงเลย"มันก็แน่อยู่แล้วนักดาบที่ไหนมี SP สูงบ้างล่ะ นักดาบส่วนใหญ่ไม่ค่อยใช้เวทย์มนต์ SP จึงไม่ค่อยจำเป็นซะเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นนักเวทย์ แน่นอน SP น่ะสำคัญกว่า HP อยู่แล้ว เพราะนักเวทย์มักจะโจมตีในระยะไกล การถูกโจมตีจึงไม่ค่อยสร้างความเสียหายมากนัก

"ฉันว่าคาสึโตะอย่าสอนเลยถ้าคาสึโตะใช้ SP หมดเกลี้ยงฉันคงมี SP ไม่พอน่ะนะ และถ้าคาสึโตะใช้ตอนนี้จะเปลือง SP เปล่าๆเลยล่ะ"พูดโดยหาข้ออ้างไม่ฝึกต่อแล้วเพราะเบื่อสุดๆ และท่าไม้ตายของคาสึโตะก็แค่ใช้เวทย์เพิ่ม AGI และ DEX ทำให้โจมตีได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ซึ่งมันก็คือทักษะของนักธนูนั่นแหละ

"นั่นสินะ ลืมซะสนิทเลย แต่การฝึกตะกี้นี้คงทำให้เธออัพเพิ่มจากเลเวลสามนะ"

"มันแน่อยู่แล้วล่ะ"ฉันพูดพร้อมยืดอก

"การประลองครั้งนี้หมายเลขสี่คุณวากิตะกับคุณซาโตะเป็นฝ่ายชนะ ต่อไปขอเชิญหมายเลขห้าและหกขึ้นมาบนเวทีครับ และขอประชาสัมพันธ์ เนื่องจากนักสู้หมายเลขแปดติดธุระทั้งคู่หมายเลขเจ็ดจึงชนะบายไปครับ จึงขอให้หมายเลขเก้าและสิบเตรียมตัวให้ดีนะครับ"เสียงพิธีกรดังขึ้นอีกครั้ง

"อ้าว! น้องสาวคนนี้ทักษะดาบ เลเวลสามเองอย่างงั้นหรอ ฉันต้องออมมือรึเปล่า"เสียงบุคคลที่สามเอ่ยขึ้นมา

"จะเป็นพระคุณอย่างสูงนะคะ ถ้าคุณหยุดพูดดูถูกดิฉันน่ะค่ะ คุณคิระ"ฉันตอบโต้ด้วยอารมณ์ที่ไม่ดีสักเท่าไหร่ เพราะเขาคือคู่ต่อสู่คู่แรกที่คู่กับคุณฟุกุ ทั้งคู่เป็นทหารเอกของเมืองนากะ ซึ่งอีตาคิระเลเวล 90 ส่วนคุณฟุกุเลเวล 95 ทั้งสองคนเลเวลมากกว่าคาสึโตะทั้งคู่เลยนี่นา แต่ทำไมคาสึโตะถึงไม่กลัวแพ้พวกเขาล่ะ ช่างมันเถอะ เอาเป็นว่าฉันชนะแน่นอนแต่ที่กังวลคือแม่ทัพวากิตะ เขามีทักษะดาบเลเวล 106 แต่ฉันเลเวล 103 นี่ เอ๊ะ! ถ้าจำไม่ผิด ผู้เข้าแข่งขันสามารถใช้ทักษะอื่นๆได้นอกจากทักษะดาบได้นี่นา งั้นก็เข้าทางฉันล่ะ ใช้ดาบนี่แทนคทาละกันนะ เพราะเขาบังคับให้ใช้แค่ดาบอะ เผด็จการชะมัด T^T

"ทางที่ดีพวกคุณช่วยอย่ามายุ่งกับพวกเราจะดีกว่านะครับ"คราวนี้คนพูดเป็นคาสึโตะ

"บังอาจมากนะที่ไล่ข้า เราจะได้เห็นดีกัน"อีตาคิระก็เดินจากไป ส่วนคุณฟุกุที่ไม่ได้พูดอะไรเลยก็เดินตามเขาไป

"คาสึโตะใกล้ถึงรอบของพวกเราแล้ว ฉันตื่นเต้นจังเลย"ฉันพูดจากใจจริง เพราะตอนนี้หัวใจฉันเต้นถี่มากๆเลยล่ะ

"ฉันมีวิธีแก้ความตื่นเต้นนะ ทำอย่างนี้ หายใจเข้าลึกๆ หายใจออกยาวๆ คิดว่าตัวเองอยู่คนเดียวจะได้หายตื่นเต้นนะ"คาสึโตะแนะนำวิธีการ ฉันจึงลองทำ มันแก้ได้จริงๆนะ

"การประลองครั้งนี้หมายเลขห้าคุณคุรุมิกับคุณมิโตะชนะ ต่อไปขอเชิญหมายเลขเก้าและสิบบนเวทีด้วยนะครับ"เสียงพิธีกรดังขึ้นอีกครั้ง ฮึ่มหมายเลขแปดไม่น่าติดธุระเลย ฉันจะได้นั่งทำใจอีกสักพัก

"พร้อมนะ นาดาเระ"

"พร้อมเสมอแหละ คาสึโตะ"พร้อมตั้งแต่เกิดแล้ว

"ไปกันเถอะ"และคาสึโตะก็จับมือฉันและพาเดินไปบนเวทีด้วยกัน เอ~? ทำไมเขาต้องหน้าแดงด้วยอะ แต่ก่อนจะถึงทางออกสู่เวทีลานประลอง ฉันได้สวมผ้าคลุมปิดหน้าตาและตัวไว้ เพราะอาจจะมีคนรู้จักอยู่ในนี้

ผ่าง!! เมื่อฉันออกมาถึงเวทีการประลองที่มีลักษณะคล้ายๆโคลอสเซียม เมื่อมายืนตรงกลางและมองไปรอบๆซึ่งเต็มไปด้วยผู้คนทำให้ตื่นเต้นไม่น้อย แต่เพราะใช้วิธีของคาสึโตะเลยหายตื่นเต้น และเมื่อมองไปรอบๆ เพื่อหาคนที่ฉันรู้จักพบว่ามีอยู่คนหนึ่งที่เขารู้จักฉัน เพราะเขาเป็นเพื่อนฉันสมัยเด็กตอนอายุเราสองคนเท่ากับ 5 ปี คงจะจำไม่ได้แล้วมั้ง แต่เพื่อความปลอดภัยฉันยังคงสวมผ้าคลุมอยู่

"อ้าว! เธอจะสวมผ้าคลุมทำไมน่ะนาดาเระ"คาสึโตะแปลกใจเมื่อฉันแต่งตัวแปลกๆ

"ก็แดดมันแรงอะ ฉันกลัวผิวเสีย"ในที่สุดฉันก็หาข้ออ้างมาจนได้

"ผู้หญิงนี่จริงๆเลยนะ"เขาบ่นพึมพำจนฉันเกือบหัวเราะออกมา เพราะจริงๆแล้วฉันน่ะนิสัยแทบจะไม่มีความเป็นผู้หญิงเลยถ้าไม่วางฟอร์มน่ะ

"ทำข้อตกลงกันก่อน ฉันเป็นตัวหลักเธอเป็นคนสนับสนุนนะ"

"ไม่เอาเป็นตัวหลักทั้งคู่นี่แหละ"ใครจะยอม

"โอเค ตกลง เอางั้นก็ได้"

"เอาล่ะครับนับจากนี้การประลองจะเริ่มขึ้น ห้า สี่ สาม สอง หนึ่ง เริ่มครับ!"

ตึกๆๆ อีตาคิระที่อยู่อีกฟากของเวทีประลองวิ่งด้วยความเร็วสูงมาที่ฉันกับคาสึโตะ และเมื่อใกล้ขึ้นเขาวิ่งมาที่ฉันนี่นา!! ส่วนคุณฟุกุ ท่าทางจะเป็นฝ่ายสนับสนุน จึงไม่ได้ทำอะไรในขณะนี้

"นาดาเระระวัง!!!"คาสึโตะตะโกนเสียงดังมาที่ฉัน

"ย้าก!"เมื่ออีตาคิระวิ่งมาถึงฉันก็รีบเงื้อมดาบฟันทันที

ด้วยความเร็วที่เหนือกว่าฉันได้กระโดดข้ามเขาไป แงะเมื่อถึงพื้นหน้าฉันหันไปทางด้านหลังของเขา มือขวาดันพื้นไว้กันล้มตอนถึงพื้นส่วนมือซ้ายถือดาบ

"คาสึโตะ ไปจัดการคุณฟุกุ คุณคิระเป็นหน้าที่ฉันเอง"

ด้วยเวทย์มนต์คำพูดหรืออะไรสักอย่างทำให้คาสึโตะทำตามโดยไม่มีข้อโต้แย้ง จังหวะนั้นเอง คุณคิระก็ปาดาบมาที่ฉัน แต่ฉันหลบได้อย่างหวุดหวิด

"ถึงตาฉันแล้วนะคะ คุณคิระ"และฉันก็ดึงดาบของเขาที่ปักทรายอยู่ข้างๆฉันออกและถือไว้ด้วยมือขวา และวิ่งไปหาเขาด้วยดาบสองมือ

"อะ..อะไรกันนี่มันสกิลดาบคู่นี่นา..อึก"ยังไม่ทันจะพูดจบ เขาก็ถูกฉันใช้ดาบข้างซ้ายแทงกลางท้อง ส่วนดาบข้างขวาจ่อไว้ที่คอ ถ้าหยุดช้ากว่านี้อีกนิดเดียวคอเขาขาดแน่ๆ และฉันก็ดึงดาบออกจากกลางท้อง และเขาก็ล้มลงไป อยู่ๆก็มีพนักงานรักษาความปลอดภัยมารับตัวเขาไป และเมื่อฉันมองไปที่คาสึโตะและคุณฟุกุ ดูดีๆ ตอนนี้คาสึโตะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เพราะความเร็วของเขาสู้คุณฟุกุไม่ได้เลย ถ้าฉันไปช่วยไม่ทันเขาอาจจะถึงตายได้เลยนะ

"คาสึโตะ ไหวมั้ย!!!"ฉันตะโกนไป ทำให้การต่อสู้หยุดชะงัก ทั้งคาสึโตะและคุณฟุกุมองมาที่ฉัน

"แล้วคุณคิระล่ะ"คาสึโตะถามด้วยความแปลกใจ

"ฉันจัดการไปแล้ว ฟันมั่ว แทงกลางท้องเลย"พูดให้มันดูปัญญาอ่อนก็ดี

"โคตรโชคดีอะ"

"หมดเวลาคุยกันแล้วล่ะ"อยู่ๆคุณฟุกุก็พูดแทรกออกมาและใช้มีดจ่อที่คอคาสึโตะ"ยอมแพ้ซะเถอะถ้าเธอไม่อยากให้เขาตาย"

"นี่มัน..คุณอย่าใช้วิธีสกปรกสิ"

"ถ้าไม่สกปรกเขาไม่เรียกว่าการต่อสู้หรอกหนูน้อย"

"งั้นฉันขอใช้บ้างนะวิธีสกปรกน่ะ"และฉันก็ยื่นมือข้างขวาที่ว่างเพราะดาบไปกับเจ้าของแล้ว ไปข้างหน้าและท่องคาถาเบาๆว่า"น้ำแข็งเอ๋ย จงปรากฏบนมือของศัตรู เพื่อช่วยเหลือคาสึโตะด้วยเถิด"

"นะ..นี่มันอะไรกัน"เมื่อนั้น แขนข้างที่ใช้ดาบจ่อคอของคาสึโตะได้แข็งไปด้วยน้ำแข็ง ส่วนคาสึโตะตอนนี้ช๊อคตายไปแล้วมั้ง แต่อย่าเพิ่งใส่ใจเรื่องนั้น ฉันเดินไปหาทั้งสอง และใช้มือข้างเดิมทุบลงไปที่มือที่แข็งเป็นน้ำแข็งนั้น ส่งผลให้ทั้งดาบและมือของคุณฟุกุแตกเป็นชิ้นเล็กๆ คุณฟุกุไม่ได้เจ็บปวดเพราะอาการชาจากน้ำแข็งแต่คงจะสติแตกเพราะเสียมือไป ส่วนคาสึโตะ เอ่อ อย่าพูดถึงเลย คอของเขามีเกร็ดน้ำแข็งติดอยู่นิดนึง แต่อากาศค่อนข้างร้อนเลยละลายไปแล้ว

"เธอทำได้ยังไงน่ะ"คาสึโตะถาม

"ก็ฉันติดเครื่องผลิตน้ำแข็งไว้ที่ข้อมือไงล่ะ"และฉันก็พลิกข้อมือให้เขาดูเครื่องผลิตน้ำแข็งที่ฉันเพิ่งเสกขึ้นตะกี้นี้

"อย่างนี้นี่เอง มิน่าทำไมเธอถึงบอกว่าเป็นวิธีสกปรก"

"การประลองครั้งนี้ หมายเลขเก้าคุณคาสึโตะกับหนูน้อยนาดาเระเป็นฝ่ายชนะ ครับต่อไปขอให้หมายเลขสิบเอ็ดและสิบสองเตรียมตัวนะครับ และขอคุยอะไรกับคู่นี้นิดนึงนะครับ หนูนาดาเระครับช่วยเปิดผ้าคลุมได้มั้ยครับ"

"ได้ค่ะ"และฉันก็เปิดผ้าคลุมออกเมื่อเพื่อนคนนั้นของฉันไม่อยู่แล้ว เมื่อเปิดผ้าคลุมออก ฉันที่มีผมสีดำถักเปียก้างปลาสองข้าง ตาเป็นประกายสดใส ริมฝีปากบางสีชมพูอ่อน ผิวขาว จึงปรากฏออกมา

"ว้าว! หน้าตาน่ารักมากเลยล่ะ"

"โห! คนน่ารักแต่โหดชะมัด"

เสียงฮือฮาดังลั่นลานประลอง ไม่เว้นพิธีกรที่ช๊อกกับใบหน้าของฉัน ถามหน่อยเป็นพิธีกรทำไมไม่ศึกษาข้อมูลมาก่อนยะจะได้ไม่ต้องช๊อคกลางเวทีลานประลอง

ไม่นานฉันก็สวมผ้าคลุมเหมือนเดิมและเดินจูงมือคาสึโตะเข้าห้องเก็บตัว ปล่อยให้พิธีกรช๊อคไป

เสียงฮือฮาไม่ใช่เพียงรอบเวทีประลองเท่านั้น แต่เสียงฮือฮานั้นดังมาจากห้องเก็บตัวด้วย เนื่องจากทหารเอก 2 คนมาแพ้ให้กับชายหนุ่มกับเด็กได้อย่างไรกันล่ะ แต่มันก็เป็นไปแล้วนี่เนอะ ช่างมันปะไร ว่าแต่นี่เขาเล่นพนันกันเลยอย่างนั้นหรอ และมีอยู่คนหนึ่งที่คนอื่นๆเอาเงินไปรวมไว้ และคนคนนั้นก็เดินมาหาฉันและพูดว่า

"ว่าไงนาดาเระ ไม่ได้เจอกันซะนานเลยนะ ยังเตี้ยเหมือนเดิมเลยนะ"เสียงใครบางคนได้เข้าไปในโสตประสาทของฉัน ซึ่งฉันจำได้แม่นว่าคือเสียงของพี่ชายของฉันเอง แต่ทำไมเขาอยู่ในชุดบริกรชายล่ะ สงสัยปลอมตัวมาแน่ๆเลย เป็นพี่ชายที่นอกจากไม่มีความสามารถในการต่อสู้แล้วยังปากดีอีก ฉันไม่สงสัยเลยว่าทำไมเขาถึงทายถูก ถ้าไม่มีเขาก็จะไม่มีใครเลือกฉันเลยใช่มั้ยเนี่ย โอ้ย! เศร้า TT_TT

"พี่นาโตะ มาทำอะไรที่นี่อะ"

"ก็มาเชียร์น้องสาวไง"พูดหน้ากวนๆ ฉันว่าน่าจะมีจุดประสงค์อื่นมากกว่าซึ่งต้องเกี่ยวกับเงินแน่นอน และฉันก็เดินแยกกับเขาและกลับมาหาคาสึโตะ

"ใครน่ะ"คาสึโตะถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดนิดๆ

"เขาแค่มาแสดงความยินดีน่ะ เป็นใครฉันไม่รู้หรอก"นี่ฉันกลายเป็นเด็กจอมโกหกไปแล้วหรอเนี่ย TOT

"ตัวเกะกะสินะ"คาสึโตะมองด้วยสีหน้าไม่พอใจนัก

"เอาเป็นว่าระหว่างรอการต่อสู้รอบที่สอง เราไปหาอะไรรองท้องก่อนดีมั้ย"ฉันรีบเปลี่ยนเรื่องเมื่อเขาหน้าตาดุๆ

"ดีเหมือนกัน ฉันก็เริ่มหิวซะแล้ว ใช้พลังงานเยอะไปหน่อย"เขาพูดพร้อมใช้มือเกาหัว

และฉันกับคาสึโตะก็เดินออกมาจากห้องเก็บตัวออกไปนอกเวทีประลองเปลี่ยน ไปสิงสถิตตามร้านอาหารและขนม ซึ่งนับรวมๆได้ประมาณเจ็ดร้านได้

"นี่ๆ คาสึโตะน่ะ ยังไม่เห็นใช้สไคลเปอร์เลยนะ"ฉันพูดเพื่อทำลายความเงียบที่เริ่มต้นตั้งแต่อาหารมาเสิร์ฟตรงหน้า คงรู้นะว่าเงียบเพราะอะไรน่ะ

"ของดีแบบนี้ต้องเอาไว้ใช้กับแม่ทัพวากิตะเท่านั้น"

"แต่ฉันอยากเห็นอะว่าลงผลึกแล้วหน้าตาจะเป็นยังไง"มันต้องเท่มากแน่ๆเลย ฉันยังไม่เคยมีสัตว์เทพเป็นกระต่ายเลยนะ

"ไว้กินข้าวเสร็จจะเรียกให้ดูนะ"คาสึโตะหน้าแดง

"ได้ งั้นก็รีบๆกินสิ"

เมื่อทานอาหารเสร็จเรียบร้อย เขาก็ออกมาจากร้านเดินไปยังสนามเด็กเล่น

"ว่าแต่มันเรียกยังไงอะ"ตาบ้ามีสัตว์เทพแต่เรียกไม่เป็นเนี่ยนะ ไม่มีก็มีค่าเท่ากัน

"ฉันจะไปรู้มั้ย คาสึโตะก็ลองเรียกชื่อมันดูสิ หรือจะเรียกโค้ดเนมมันก็ได้"นี่ใบ้ให้แล้วนะ

"อะฮะ จะลองดูนะ..สไคลเปอร์!!"

ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฉันจะบ้าตายเรียกแค่นั้นมันจะออกมามั้ยล่ะ

"สงสัยต้องมีแบบคำว่า ขออันเชิญ จงออกมาอะไรประมาณนี้มั้ง"นี่ฉันใบ้สุดๆแบบใบ้ต่อไปคือบอกแล้วนะ

"นั่นสิเดี๋ยวลองใหม่..ขออันเชิญ สไคลเปอร์ จงออกมา"

ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฉันไม่ได้ให้เติมคำในช่องว่างนะยะ ใช้ไหวพริบหน่อยสิ

"คาสึโตะ ฉันนึกได้เป็นประโยคที่น่าจะเรียกออกมาได้"อย่างแน่นอนน่ะ ไม่ใบ้มันละ รำคาญ

"เรียกยังไงล่ะ"เขาถามด้วยความอยากรู้แบบสุดๆ

"ขออันเชิญ ดวงวิญญาณในผลึกสไคลเปอร์ จงออกมา ณ บัดนี้ คาสึโตะฟังแล้วเข้าท่ามั้ย"

"เข้าท่าดี งั้นเดี๋ยวขอลองมั่งนะ..ขออันเชิญ ดวงวิญญาณในผลึกสไคลเปอร์ จงออกมา ณ บัดนี้"

แวบ วาบ! มีแสงปรากฏที่หลังมือของเขาซึ่งเป็นที่ที่ผลึกอยู่ และก็มีกระต่ายตัวเล็กน่ารักออกมา มันน่ารักกว่าแต่ก่อนซะอีก เนี่ยนะสัตว์เทพ

"เพราะอย่างนี้เลยไม่อยากให้ดูอะ อาย"มิน่าตอนบอกว่าจะให้ดูถึงหน้าแดงเชียว

"พลังเราไม่ได้ดูจากภายนอกหรอก..มันต้องมาจากภายใน"ประโยคหลังฉันเอามือไปจับตรงอกของคาสึโตะและยิ้มให้เขา"ลองแสดงพลังทั้งหมดของนายให้ฉันเห็นหน่อยสิ คราส"ฉันเรียกมันด้วยชื่อที่ฉันตั้งให้ก่อนหน้านี้

"ฉันมั่นใจว่าเจ้าคราสนี่ต้องเก่งกว่าเธอแน่นอน"เขาพูดถากถางฉัน อีกแล้ว

"แปลว่าต้องเก่งกว่าคาสึโตะด้วย"

"ทำไมล่ะ"

"ก็ฉันสามารถจัดการคู่ต่อสู้ได้ถึงสองคน แต่คาสึโตะไม่ได้ช่วยอะไรเลย แถมไปเป็นตัวประกันอีก"

"ให้มันได้แบบนั้นตลอดละกันเถอะ"

"เมื่อไหร่คราสจะได้แสดงความสามารถกันน้า เจ้านายของนายเนี่ย พูดมากจังเลยเนอะ"ฉันเปลี่ยนไปคุยกับคราสแทน

"แต่ฉันยังไม่รู้ธาตุของเจ้านี่เลยนะ"แล้วทำไมคาสึโตะไม่ไปศึกษาก่อน ห้ะ!!

ฉันใช้มือข้างขวาจับบนตัวของคราสและตรวจสอบธาตุของมัน"น้ำ จากความรู้สึกนะ"

"งั้นหรอ ที่ฉันเชื่อเธอเพราะฉันไม่มีทางเลือกอื่นแล้วนะ"

"ไม่พูดก็ไม่มีใครท้วงหรอกจ้าา"

บางทีฉันก็รู้สึกเกลียดหมอนี่เหมือนกันนะ - -^^^



คิเรดะ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 11 ต.ค. 2557, 23:59:01 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 11 ต.ค. 2557, 23:59:01 น.

จำนวนการเข้าชม : 869





<< บทที่ 2 การดวลครั้งแรก   
yimyum 12 ต.ค. 2557, 10:24:21 น.
5555 นาดาเระอย่าไปเกลียดหมอนั่นเลย

ตัวนุ่มพี่เก้า อ๊าย >< #อะ อ้าว ผิดเรื่อง -_-


คิเรดะ 14 ต.ค. 2557, 12:43:15 น.
ยิ้มจะเอาไปปนกับเรื่องทองพญามารทำไมล่ะนั่น =_=


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account