ซีรี่ส์บุปผาสันนิวาส <กรรณิการ์มนตรารัก>
รักร้ายในความคิดทำให้เธอวิ่งหนี แต่รักแท้จากเขากลับตามติด ทว่ามันมาพร้อมกับกลมนตรา ที่เขาต้องช่วยเธอสะสาง
Tags: ซีรี่ส์บุปผาสันนิวาส กรรณิการ์ ทานตะวัน จิรัสยา

ตอน: บทนำ : ๓๑ ตุลาหารัก

‘คราใดที่ดอกไม้บุญแห่งรุ่งอรุณ ทิวากาล และราตรีกาลถือกำเนิดขึ้นในครอบครัวของเจ้า ครบวาระยี่สิบห้าปี ครานั้นอสูรร้ายจะกลับมา พลังแห่งเทวาจะปกป้องให้พ้นภัย’


กลุ่มเมฆดำทมึนเคลื่อนคล้อยตามกระแสลมกรรโชกแรง เข้าปกคลุมบ้านเรือนไทยหลังงามภายในสวนร่มครึ้มของครอบครัวบุปผาวงศา

หญิงชราในวัยเจ็ดสิบปี ที่กำลังยืนอยู่ริมระเบียงกว้างตรงชั้นสองของตัวเรือน แหงนหน้าขึ้นมองธรรมชาติอันผิดแผกนี้ คล้ายบางสิ่งกำลังสำแดงอาเพทท้าทายฟ้าดิน ใบไม้ปลิดปลิวจากต้นคล้ายถูกกระชากด้วยพลังอันเกรี้ยวกราดที่มองไม่เห็น ปลิวว่อนลงสู่ผืนดินกลาดเกลื่อนอย่างไม่อาจทัดทาน

คำทำนายเมื่อหนึ่งร้อยปีก่อน หวนผุดขึ้นในห้วงความคิดของพิกุลฉับพลัน หญิงชราหรี่ตาลง พลางอาการหนาวสั่นสะท้านเข้าเกาะกุมที่ขั้วหัวใจ จนต้องยกมือขึ้นทาบอก

“๓๑ ตุลา ครบยี่สิบห้าปีวันนี้แล้วสินะ”

เมื่อยี่สิบห้าปีก่อนเกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้นกับครอบครัวบุปผาวงศา เมื่อลูกสะใภ้ทั้งสามคนของพิกุล ตั้งครรภ์ขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกัน ทว่าที่น่าอัศจรรย์กว่านั้น เด็กทั้งสามคนได้ถือกำเนิดขึ้นในวันเดียวกัน ต่างกันเพียงทานตะวันถือกำเนิดในตอนรุ่งอรุณ ส่วนจิรัสยาถือกำเนิดในตอนเที่ยงวัน และกรรณิการ์ถือกำเนิดในตอนพลบค่ำ

นั่นเท่ากับยิ่งตอกย้ำให้คำทำนายเมื่อหนึ่งร้อยปีก่อนของท่านชีปะขาวใกล้ความจริงมากขึ้นทุกที ในยามนี้สิ่งเดียวที่พิกุลจะทำได้คือต้องตามหาเทวดาในคำทำนายที่จะมาช่วยปัดเป่าโพยภัยให้ได้ก่อนที่อสูรร้ายจะฟื้นคืนชีพกลับมา

เสียงลมหวีดหวิวยังกรรโชกแรง ทว่าจู่ๆเสียงหัวเราะอันดังก้องก็แทรกผ่านความวังเวงขึ้น

ฮู้ ฮ่าๆๆๆๆ

“นั่นใคร! เสียงของใครกัน” หญิงชราหันมองซ้ายขวาด้วยความหวาดหวั่น พลางรำพึง “หรือว่าจะเป็นท่าน...ขุนฤทธิ์ท่านกลับมาแล้วอย่างนั้นรึ”

พิกุลแทบไม่รู้สึกตัวเลยว่าน้ำตาอุ่นๆเอ่อคลอขึ้นเมื่อใด ขนเส้นอ่อนลุกเกรียวขึ้นทั่วแผ่นหลังและเรียวแขน พอๆกับที่เส้นผมกำลังจะชี้ชูชันขึ้นอย่างอิสระ

ฮู้ ฮ่าๆๆๆๆๆ

“ฉันถามว่าใคร!”

“ผะ ผมเองครับ คะ ครับคุณแม่”

หญิงชราหันหลังขวับ แลเห็นลูกชายคนโตกำลังยืนหัวเราะท้องคัดท้องแข็งอยู่ โดยมีเด็กชายวัยสิบขวบกอดรัดรอบเอว หลบอยู่ด้านหลัง

“ปสพ!”

“ครับคุณแม่ ผมเอง” กำนันหนุ่มใหญ่พยายามแกะมือเล็กๆนั้นออกพัลวัล “ไอ้จ้อย เลิกกอดเอวข้าได้แล้ว มันจั๊กจี้”

“ก็ฉันกลัวนี่ลุงกำนัน”

“คุณแม่ครับ ลมแรง เข้าบ้านเถอะครับ เดี๋ยวจะไม่สบาย” ปสพตะโกนก้องแข่งกับเสียงลม

“หา อะไรนะ!”

“เข้ามาในบ้านเถิดครับ เดี๋ยวจะไม่สบาย”

“แม่ไม่ได้ยิน!”

ทันใดนั้น สายลมวูบใหญ่ก็หยุดพัดกระหน่ำลงฉับพลัน เมื่อกิ่งแก้วถอดปลั๊กพัดลมตัวใหญ่สองตัวที่เคยให้ชาวบ้านยืมไปออกร้านงานธงฟ้าราคาประหยัดออกจากฝาผนัง ความสงบจึงกลับคืนมาอีกครั้ง

“เออ ค่อยยังชั่วหน่อย” พิกุลถอนหายใจอีกครั้งเมื่อสิ้นเสียงอื้ออึง ก่อนแหงนมองท้องฟ้าที่ยังมัวหม่นอยู่เบื้องบน “ขอบใจนะแม่กิ่ง”

“ใครเปิดพัดลมซะแรงขนาดนี้คะ ดูสิใบไม้ปลิวมาเต็มระเบียงไปหมดเลย คืนนี้จะใช้จัดงานวันเกิดให้เด็กๆสามคนซะด้วย” ลูกสะใภ้คนโตรำพันเสียงนุ่ม กวาดสายตามองลานระเบียงกว้างที่กลางเรือน แล้วส่ายหน้า

“สงสัยจะเป็นคนงานที่ใช้ให้มาจัดสถานที่น่ะสิ เห็นอากาศร้อนอบอ้าวเหมือนฝนจะตกก็คงปรารถนาดีเปิดพัดลมเอาไว้ให้” กำนันปสพเอ่ยเสียงเข้ม ขณะประคองมารดาให้เดินกลับเข้ามายืนใต้ชายคาอย่างเอาใจ “เดี๋ยวเย็นนี้จะมีงานปาร์ตี้วันเกิดของหลานๆ ท่าทางว่าจะดึกเหมือนเคย ผมว่าคุณแม่ไปเอนหลังสักหน่อยเถอะนะครับ ดูสีหน้าไม่ค่อยดีเลย”

“จะให้แม่สบายใจอยู่ได้ยังไงล่ะ วันนี้ครบยี่สิบห้าปีแล้วนะปสพ” ดวงตาโรยแสงคู่นั้นฉายแววหวั่นวิตก “ยายวัน กับยายจาว มีเทวดาเป็นของตัวเองหมดแล้ว ยังเหลือก็แต่ยายกรรณของเจ้า ที่ยังไม่ยอมตกร่องปล่องชิ้นกับใครสักที แม่กลัว...กลัวเหลือเกินว่าเมื่อถึงเวลานั้น...”

“คุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ เมื่อวันก่อนกิ่งบังเอิญไปเจอเพื่อนเก่า ทางนั้นเขาเปรยๆเอาไว้ ว่าจะขอจับคู่ดูตัวยายกรรณกับลูกชายของเขาครับ”

“อย่างนั้นรึ ใครกัน”

“คุณนายหยก ภรรยาเจ้าสัวเทียน คนที่เป็นรองธิดากาชาด ปีเดียวกับที่หนูได้ตำแหน่งไงคะ เห็นว่าลูกชายคนเล็กยังโสดอยู่”

“เฮ้อ!” หญิงชราถอนหายใจหนักหน่วง “คนที่เท่าไหร่แล้วละเนี่ย นัดใครให้ แม่เจ้าประคุณก็หลีกหนีไปเสียทุกที เพื่อนๆของแม่ ไม่มีใครยอมพาลูกหลานมาดูตัวด้วยแล้ว แล้วพ่อคนนี้จะไหวรึ”

“คนนี้เห็นว่าไม่ธรรมดาครับ ท่าทางจะเข้ากับยายกรรณได้ เห็นว่าเป็นทนายความจบด้านกฎหมายมาจากมหาวิทยาลัย Cornell เชียว นะครับ”

“น่าสนใจจริงเชียว แล้วชื่ออะไรล่ะ”

“ธีร์เทพค่ะ”

“ธีร์เทพ...” หญิงชราเบิกตาด้วยความสนใจ พลางขนแขนลุกชูชันด้วยลางสังหรณ์บางอย่าง “หรือว่าคนนี้จะเป็นเทวดาในคำทำนายกันนะ เรื่องนี้อย่าเพิ่งให้ยายวันกับยายจาวรู้ละ เพราะเด็กสามคนนั้นสนิทกันมาก ประเดี๋ยวไก่จะตื่นไปซะก่อน”

พิกุลยิ้มกระหยิ่มด้วยความพอใจ ที่ความห่วงเปลาะสุดท้ายกำลังจะหลุดจากอก ถึงอย่างไรหล่อนก็จะต้องหาเทวดาในคำทำนายมาคอยคุ้มครองหลานสาวคนสุดท้ายให้จงได้ ก่อนที่ผีร้ายจะกลับมาล้างแค้นตระกูลของตน ด้วยเรื่องราวแต่หนหลังอันยาวนาน

เธอต้องทำได้...




ณ ดินแดนอันเวิ้งว้างกว้างใหญ่ไร้ผู้คน ลึกลงไปใต้ผืนน้ำอันสงบนิ่ง จมดิ่งลงสู่เบื้องบาดาลสีเขียวมรกต เสียงเพรียกอันแหบแห้งจากวิญญาณร้ายที่สุมเพลิงแค้นอัดแน่นคับอกหามีผู้ใดได้ยินไม่ แม้มันจะกำลังดิ้นรนหาทางออกจากขวดแก้วอย่างไม่หยุดหย่อนมากว่าร้อยปี ด้วยความทุกข์ทรมานและคั่งแค้นเกินทนไหว

ทว่ารอบผนังขวดแก้วอาคมนั้นกลับร้อนรุ่มดั่งมีเปลวเพลิงแผดเผาลามเลียอยู่ทั่วทุกด้าน เกินกว่าที่จะแตะต้องและทำลายร้างลงได้ง่ายๆ

วิญญาณร้ายกำหมัดแน่น ดวงตาแดงก่ำลุกโชนด้วยไฟอาฆาต ใบหน้าเผือดสีขมุกขมอมไปด้วยเขม่าควันไฟนั้นขบกรามเป็นสันนูน ก่อนแหงนหน้าขึ้นแผดเสียงคำรามก้องด้วยความกราดเกรี้ยวครั้งแล้วครั้งเล่า ชุดทหารสีเขียวเข้มที่สวมใส่มีรอยไหม้เป็นหย่อมๆ บางแห่งขาดวิ่นจนแลเห็นผิวหนังชั้นในอันแดงสด เศษเลือดสีแดงเปรอะเลอะชุดเสื้อผ้าน่าสยดสยอง

นับศตวรรษที่ผันผ่านผีขุนฤทธิ์หาได้สำเนียกสักนิดไม่ ว่ากรรมที่ตนก่อพัดพาให้ต้องประสบเคราะห์กรรมเช่นนี้ หาใช่ผู้อื่น แต่กลับยิ่งทวีความแค้นต่ออดีตเกลอรักท่วมทบทวี และรอวันที่จะได้กลับออกไปสะสางแค้นนั้นในสักวัน

“ปล่อยข้า...ออกไป! พวกมึงทุกคนจะต้องตาย...ตายหมดทุกคน”



***********************************************************


เค้าแอบมาตอนดึก กุ๊กๆกู๋ กลัวม้ายๆ

คราวนี้ขอทำตัวไฮโซเล็กน้อย คือเจอกันทุกวันจันทร์กับพฤหัสนะจ๊ะ (สต็อคหมดค่อยว่ากันใหม่ ฮี่ๆๆๆ)

ซีรี่ส์ชุดนี้มีสามเรื่องจ้ะ เหตุการณ์เกิดขึ้นก่อนหลัง ห่างกันประมาณ 1 ปีในแต่ละเล่มตามลำดับ เริ่มจาก

พิสูจน์รักทานตะวัน คือ ปลายสี นางเขียนได้ฮามากขอบอก เป็นคอคอมเมดี้ที่ไร้สารเจือปนจริงๆ เชิญชวนให้อ่านค่ะ
รอยฝันกุหลาบนางฟ้า จาก ดังปัณณ์ รายนี้ก็เรียกได้ว่าชิมลางแนวดราม่าขยี้หัวใจให้สั่นไหวมาแล้วหลายเรื่อง แนะนำๆแล้วจะเซอร์ไพรส์
กรรณิการ์มนตรารัก ของเค้าเอง มาแนวผีๆ แฟนตาซี ไม่ถึงกับสยองขวัญนะ ไม่ต้องกลัว เรื่องนี้เน้นขายรอยยิ้มจ้ะ


ฝากสามสาวเอาไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะค้า เลิฟๆ



พันธุ์แตงกวา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 31 ต.ค. 2557, 00:02:42 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 31 ต.ค. 2557, 00:02:42 น.

จำนวนการเข้าชม : 2334





   บทที่ 1 : จากใจชายคนหนึ่ง >>
tik 31 ต.ค. 2557, 06:03:47 น.
ว้าว น่าสนุก ๆ อยากอ่านตอนต่อไปแล้วอ่ะ คุณพิกุล อายุร้อยกว่าปีแล้วเหรอ หรือว่าเธออัลไซเมอร์ค่ะ


tik 31 ต.ค. 2557, 06:04:31 น.
2เรื่องข้างบน มีลงในเว็บไม๊ค่ะ


แว่นใส 31 ต.ค. 2557, 08:08:51 น.
อยากอ่านทั้งสามเรื่องเลยค่ะ


เบญจามินทร์ 31 ต.ค. 2557, 08:14:13 น.
โอ้ แนวที่อยากอ่านเลย

ปล.เลือกวันโพสต์ได้เหมาะจริงๆ


บุลินทร 31 ต.ค. 2557, 11:48:22 น.
บรรยากาศใบไม้ปลิวว่อนมันมาจากพัดลมนี่เอง ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ อุตส่าห์หลอน แต่ว่าฉากสุดท้ายนั่น ดูท่าออกมาจากขวดได้เมื่อไหร่ขุนฤทธิ์ต้องแผลงฤทธิ์มากแน่ๆเลย


ดังปัณณ์ 31 ต.ค. 2557, 19:34:33 น.
555+ คร้าย ใคร่มาเปิดพัดลมไว้เนี่ย ดูซี้ 555+ โถ คุณย่าขากำลังบิ้วท์เลย กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก

ว่าแต่มันคืออัลไลที่ว่าสต๊อกหมดแล้วว่ากัน ไม่ย้อม ไม่ยอม ห้ามสต๊อกหมดนา อุๆ

มารอดูยายกรรณแผลงฤทธิ์ อิๆ


ปลายสี 31 ต.ค. 2557, 22:24:29 น.
เขาตามมาแล้วววววววว


Zephyr 9 พ.ย. 2557, 17:07:19 น.
ตอนแรก อ้ะ หลอนๆๆๆๆ
ต่อมาพอปิดพัดลม.... เอิ่มมม
ตอนหลังมีวิญญาณ อีก
ตกลงจะหลอนจะขำดีนะ 555


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account