เล่ห์ร้าย..อุบายรัก
วิริน..สาวสวยสุดซ่า..แก่นกะโหลกกะลา..แห่งดินแดนที่ราบสูง..
ใครเลยจะนึกว่าสาวหน้าหวานแห่งโคกผักกระถิน..จกข้าวเหนียวจิ้มแจ่วปลาร้าอยู่ทุกวัน..ดั๊น..ต้องโคจรมาพบรักกับเขา..หนุ่มหล่อระดับแบรนด์ แอมบาสเดอร์ของโรงแรมหรู
ที่จริง..เขาควรจะได้ดำรงตำแหน่งเป็นคุณพี่เขยของเธอไปแล้ว..
แต่กามเทพชอบเล่นตลก..วิรินเลยฟลุ๊ค..ได้หนุ่มหน้าหยกมาเป็นสามีแทน..
แต่กว่าจะได้พ่อหนุ่มรูปงามมาสยบอยู่ในอุ้งมือน้อยๆ..
วิรินก็เหนื่อยจนหืดขึ้นคอ..
ต้องงัดทุกสารพัดวิธีมาจัดการมัดมือชกพ่อหนุ่มใจน้ำแข็งให้ดิ้นไม่หลุด..
มาแอบดูสาวน้อยเจ้าเล่ห์แสนทะโมนคนนี้..จัดการกับเป้าหมายของเธอกันเถอะค่ะ..!
ใครเลยจะนึกว่าสาวหน้าหวานแห่งโคกผักกระถิน..จกข้าวเหนียวจิ้มแจ่วปลาร้าอยู่ทุกวัน..ดั๊น..ต้องโคจรมาพบรักกับเขา..หนุ่มหล่อระดับแบรนด์ แอมบาสเดอร์ของโรงแรมหรู
ที่จริง..เขาควรจะได้ดำรงตำแหน่งเป็นคุณพี่เขยของเธอไปแล้ว..
แต่กามเทพชอบเล่นตลก..วิรินเลยฟลุ๊ค..ได้หนุ่มหน้าหยกมาเป็นสามีแทน..
แต่กว่าจะได้พ่อหนุ่มรูปงามมาสยบอยู่ในอุ้งมือน้อยๆ..
วิรินก็เหนื่อยจนหืดขึ้นคอ..
ต้องงัดทุกสารพัดวิธีมาจัดการมัดมือชกพ่อหนุ่มใจน้ำแข็งให้ดิ้นไม่หลุด..
มาแอบดูสาวน้อยเจ้าเล่ห์แสนทะโมนคนนี้..จัดการกับเป้าหมายของเธอกันเถอะค่ะ..!
Tags: เล่ห์ร้าย , พหล , วิริน
ตอน: ตอนที่ 1.
พิธีเลี้ยงฉลองสมรสถูกจัดขึ้นที่โรงแรมชื่อดังริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา แขกเหรื่อที่มาร่วมงานแน่นขนัดจนกระทั่งห้องบอลรูมใหญ่ขนาดเปิดสองห้องเป็นโถงกว้างคับแคบไปถนัดตา แขกเหรื่อที่มาร่วมงานมีทั้งบรรดานักธุรกิจร้อยล้านพันล้านชื่อดัง เหล่านักการเมืองน้อยใหญ่รวมทั้งกลุ่มของสื่อมวลชนจากหลายสาขา
วิรินยิ้มหวานหยดย้อยขณะพนมมือไหว้แขกเหรื่อที่มาถึงงาน..ไหว้แล้วก็ยิ้ม..ยิ้มจนรู้สึกเมื่อยไปหมดทั้งหน้า ไหว้เสียจนมือและแขนอ่อนล้าแทบยกไม่ขึ้น บุรุษหนุ่มร่างสูงใหญ่ในชุดสูทแบบทักซิโด้สีเนฟวี่บลูงามสง่ายืนเคียงข้างหญิงสาวอยู่ไม่ห่างและไม่ว่าหล่อนจะก้าวเดินไปทางไหนก็ต้องมีเขาก้าวเดินตามติดไปทักทายแขกเหรื่อด้วยอาการยิ้มแย้มแจ่มใสเสมอ
เขาล่ะ..นายพหล จิระเสถียร เจ้าบ่าวของงานคืนนี้ !
เจ้าบ่าวผู้ที่มีชื่อแปลกประหลาดที่สุดเท่าที่วิรินเคยได้ยินมา ฟังชื่อแล้วทำให้นึกถึงถนนพหลโยธินหรือไม่ก็ชื่อของอดีตนายกรัฐมนตรีท่านหนึ่งในสมัยปฎิรูปการปกครองไทยคนแรกๆที่ชื่อเจ้าพระยาพหลพลพยุหเสนาฯไปโน่น
“ คุณเต็น..ไปทางโน้นกันหน่อยเถอะ..”
เสียงทุ้มๆนั้นกระซิบบอกอยู่ข้างหูพร้อมกันนั้นมือหนาใหญ่แข็งแรงของเจ้าบ่าวก็แตะที่เอวบางของเจ้าสาวออกแรงรั้งให้ก้าวเดินไปตามทิศทางที่เขาต้องการ แขกกลุ่มใหญ่ที่เจ้าบ่าวพาหล่อนมาทักทายกำลังส่งเสียงสนทนากันอย่างครื้นเครง
คงจะเป็นกลุ่มเพื่อนของเจ้าบ่าวนั่นแหละเพราะดูจะมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกันแทบทั้งสิ้นมีทั้งหญิงและชายแต่งกายด้วยอาภรณ์เลิศหรูดูดีมีสไตล์ เสื้อผ้าติดเบรนด์เนมยี่ห้อดังของเมืองนอกพูดอังกฤษคำไทยคำจนวิรินฟังแล้วชักจะเวียนหัว
“ เอ..วันนี้คุณเต็นเงียบจัง..ไม่ค่อยพูดค่อยจาเลย..เหนื่อยหรือครับ ?”
เพื่อนเจ้าบ่าวในกลุ่มคนหนึ่งเอ่ยถามวิรินอีกทั้งยังส่งสายตาล้อๆมาให้เสียด้วย
“ แหม..จะไม่ให้เหนื่อยได้ยังไงล่ะเล่นแต่งกันกระทันหันเสียขนาดนี้ ”
“ นี่นิค..มีข่าวลงหนังสือพิมพ์ด้วย..เขาแซวว่ายูน่ะแต่งงานสายฟ้าแล่บสงสัยเจ้าสาวจะมี ซัมทิ้งรองท์..ป่องก่อนแต่ง..ข่าวจริงรึมั่วย่ะ? ”
“ เล่มไหนกล้าลงข่าวแบบนั้น..เดี๋ยวพ่อฟ้องหมิ่นประมาทเสียเลย..”
เจ้าบ่าวตอบด้วยน้ำเสียงเอือมๆแต่สีหน้ายังคงเกลี่ยไปด้วยรอยยิ้ม
นิค...เป็นชื่อเล่นของเจ้าบ่าวสุดหล่อคนนี้เองหรอกหรือ
นี่เป็นความรู้ใหม่ของวิรินล่ะ..
“ ก็ยูมันเนื้อหอม คุณเต็นระวังนะคะเห็นนิ่งๆขรึมๆอย่างเนี้ย..ร้ายจะตาย..! ตอนนิคเขาเรียนอยู่ที่อเมริกาเขาชอบหักอกสาวๆเป็นงานอดิเรกค่ะ.. ”
“ นี่เอมม่า..ยูจะมายุให้ครอบครัวเขาแตกแยกกันตั้งแต่วันนี้เลยรึไงฮึ..!”
เจ้าบ่าวของหล่อนรีบแย้งพร้อมกับโคลงศีรษะไปมาอย่างไม่รู้จะทำอะไรที่ดีไปกว่านั้นได้
“ ไม่รู้ล่ะ..ก็เตือนคุณเต็นเอาไว้ก่อน..ยูน่ะไว้ใจได้ที่ไหนกัน..!”
“ แล้วกันสิ...ยิ่งว่าเหมือนยิ่งยุ..วันนี้วันแต่งงานไอนะเอมม่า..”
“ ก็ใครใช้ให้ยูเจ้าชู้เล่า..ชนักติดหลังมันก็เยอะอย่างนี้ล่ะ..จริงมั้ยคะคุณเต็น..? ”
แม่สาวแต่งตัวแสนเปรี้ยวที่ชื่อเอมม่าทำปากยื่นปากยาวพยักเพยิดหน้ามาขอความคิดเห็นจากวิริน ผู้เป็นเจ้าบ่าวของงานเลยหันมายิ้มหวานกับเจ้าสาวอย่างพยายามประจบประแจงเต็มที่
“ คุณเต็นอย่าไปฟังเอมม่ามากนะ..รายนี้เขาชอบให้ร้ายผมประจำ..”
วิรินยิ้มเจื่อนๆไม่รู้จะกล่าวตอบว่ากระไรดีจึงได้แต่ยืนเงียบ
“ เออ..เรื่องโปรเจ็คที่เชียงรายว่าไง..? ”
หนึ่งหนุ่มในกลุ่มเอ่ยถามขึ้นกลางวงสนทนาและแล้วเรื่องราวเกี่ยวกับธุรกิจร้อยล้านพันล้านก็ถูกขยายวงกว้างไปถึงเรื่องอื่นๆอีกไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินทุน การธนาคาร สภาพคล่อง หุ้น ที่ดิน ตลาดอสังหาริมทรัพย์และอะไรต่อมิอะไรที่วิรินพยายามจะฟังและทำความเข้าใจเท่าไหร่ก็ไม่ยักเข้าใจอาจเป็นเพราะสติปัญญาของหล่อนมันไปไม่ถึงเรื่องพวกนั้นกระมัง
สุดท้ายเมื่อไม่สามารถจะเข้าใจอะไรได้วิรินก็เลือกที่จะไม่ใส่ใจฟัง..เอาเวลาที่มีมายืนดูหน้าหล่อๆของเจ้าบ่าวไปพลางๆดีกว่าเป็นไหนๆ
เจ้าบ่าวของหล่อน..เขาช่างเป็นผู้ชายที่หล่อมาก..มากๆๆๆ
มากอะไรเยี่ยงนี้..ให้ตายเถอะ..!
ผิวของเขาค่อนข้างขาวเหมือนพวกเอเชียที่ไปใช้ชีวิตอยู่ในเมืองหนาวเป็นเวลานานหลายสิบปี รูปร่างก็สูงใหญ่เหมือนหนุ่มฝรั่ง..ที่จริง..นายพหลคนนี้เขาก็มีเชื้อมีสายทางฝั่งยุโรปอยู่เหมือนกันถ้าวิรินจำไม่ผิดแม่ของนายพหลเป็นสาวลูกครึ่งไทยฝรั่งเศสเธอเคยเป็นอดีตนางแบบชื่อดังประดับวงการบันเทิงของไทยมาก่อนเสียด้วยซ้ำ
ก็ไม่แปลก..ที่เธอจะผลิตลูกชายออกมาได้หล่อเหลาถึงขนาดนี้
คิ้วเข้มๆเฉียงๆของเขาค่อนข้างหนา ขนตายาวเฟื้อยช้อนงอนเหมือนขนตาผู้หญิง..จมูกโด่งจนขึ้นสัน ลูกคางบึกบึนเกลี้ยงเกลานั้นมีรอยเขียวๆของหนวดเคราที่เพิ่งจะถูกโกนมาหมาดๆ
เฮ้อ..วิรินไม่รู้ว่าจะบรรยายความหล่อของอีตาคนนี้ยังไงดี..
เอาเป็นว่า..เขาหล่อเกินมาตราฐานพระเอกในดวงใจของหล่อนก็แล้วกัน..
“ อ้าว..แล้วกัน..มายืนจ้องหน้าผมทำไมครับ..? ”
วิรินกำลังเพลิดเพลินกับการสำรวจความหล่อเหลาของเจ้าบ่าวอยู่ดีๆ จู่ๆดวงตาคมกริบคู่นั้นก็หันมาสบตาของหล่อนเข้าอย่างจังจนหลบไปไหนก็ไม่ทัน..เจ้าบ่าวผู้เลอโฉมจึงถือโอกาสยื่นหน้าเข้ามากระซิบบอกเบาๆที่ข้างหูของวิรินพอให้ได้ยินกันสองคน
“ อย่ามองผมแบบนี้ซี..มันยังไม่ถึงเวลาเข้าหอรู้มั้ย..?”
วิรินทำหน้าเหวอๆก่อนจะยิ้มแหยกลบเกลื่อนอาการประดักประเดิกของตนเองและแล้วหัวใจของวิรินก็ต้องเต้นโครมครามไม่เป็นจังหวะเมื่อจู่ๆก็ถูกเจ้าบ่าวร่างยักษ์รั้งร่างของหล่อนเข้าไปกอดก่อนที่ปลายจมูกโด่งๆของเขาจะยื่นมากดเบาๆที่พวงแก้มนุ่มพร้อมทั้งสูดเอากลิ่นหอมอ่อนๆจากนวลแก้มของวิรินกลับไปด้วยอย่างคล่องแคล่วรวดเร็วจนน่าใจหายใจคว่ำ
“ นี่ๆๆ..ไปสวีทกันไกลๆไป๊..อย่ามาทำให้เพื่อนอิจฉาแบบนี้...”
“ นั่นน่ะสิ..รักกันดูดดื่มเหลือเกิ๊น..เลี่ยนจริงๆคู่นี้..! ”
เจ้าบ่าวเปล่งเสียงหัวเราะชอบใจอีกทั้งยังกอดกระชับร่างเจ้าสาวแนบแน่นเข้าไปอีกเมื่อบรรดาช่างภาพหลายสิบคนเดินเข้ามาขอถ่ายรูป
วิรินทำหน้าไม่ถูก..ยิ้มก็คงเป็นยิ้มที่ประหลาดๆเอาการอยู่..ขณะวางท่าเป็นเจ้าสาวแสนสวยผู้อยู่ในอ้อมแขนอันแสนอบอุ่นของเจ้าบ่าวรูปงามปานเทพบุตร
เสียงโฆษกกิติมศักดิ์ประกาศเชิญคู่บ่าวสาวขึ้นสู่เวทีพร้อมประธานของงานซึ่งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีประจำกระทรวงอะไรสักอย่างให้ขึ้นมาคล้องมาลัยและกล่าวอวยพรคู่บ่าวสาว
แสงเฟลชจากบรรดาสื่อมวลชนสว่างพรึ่บพรั่บจนวิรินตาพร่าขณะเดินเคียงคู่เจ้าบ่าวขึ้นสู่เวทีที่เหนือฉากม่านสีแดงเลือดนกนั้นมีอักษรสีหวานติดหร่าเด่นสะดุดตาเป็นชื่อของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวคู่รักไฮโซที่ต่างก็เด่นดังไม่แพ้กันในวงสังคม
วันชื่นคืนสุข..วรดา - พหล
ใครๆต่างก็รู้ว่าเจ้าบ่าวคนที่ยืนอยู่บนเวทีนั่นคือนายพหล จิระเสถียร หนุ่มหล่อไฮโซ ลูกชายคนเล็กของนายตุลา จิระเสถียร เจ้าของโรงแรมชื่อดังริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งนี้..อีกทั้งยังมีโรงแรมในเครือไม่ว่าจะเป็นในเขตกรุงเทพฯหรือต่างจังหวัดอีกหลายต่อหลายแห่ง
นายพหลผู้มีทั้งรูป มีทั้งทรัพย์ มีทั้งสติปัญญาอันเฉลียวฉลาด..
เท่าที่จำได้เขาติดอันดับหนุ่มนักธุรกิจเลือดใหม่ไฟแรงที่หยิบจับอะไรขึ้นมาทำก็ประสบความสำเร็จไปเสียทั้งหมดแต่จะมีใครรู้บ้างมั้ยหนอว่ายังมีอีกสิ่งหนึ่งที่นายพหลคนนี้ประสบความล้มเหลวอย่างสิ้นท่า
นั่นก็คือการเอาชนะหัวใจดวงน้อยๆของผู้หญิงคนหนึ่ง..ผู้หญิงคนที่ชื่อวรดา วัชรนนท์
ผู้หญิงคนที่แท้จริงแล้วควรจะได้มายืนอยู่บนเวทีแห่งนี้..ตรงที่ที่วิรินกำลังยืนอยู่
+++++++++++++++++++++++++++++++++++
วิรินยิ้มหวานหยดย้อยขณะพนมมือไหว้แขกเหรื่อที่มาถึงงาน..ไหว้แล้วก็ยิ้ม..ยิ้มจนรู้สึกเมื่อยไปหมดทั้งหน้า ไหว้เสียจนมือและแขนอ่อนล้าแทบยกไม่ขึ้น บุรุษหนุ่มร่างสูงใหญ่ในชุดสูทแบบทักซิโด้สีเนฟวี่บลูงามสง่ายืนเคียงข้างหญิงสาวอยู่ไม่ห่างและไม่ว่าหล่อนจะก้าวเดินไปทางไหนก็ต้องมีเขาก้าวเดินตามติดไปทักทายแขกเหรื่อด้วยอาการยิ้มแย้มแจ่มใสเสมอ
เขาล่ะ..นายพหล จิระเสถียร เจ้าบ่าวของงานคืนนี้ !
เจ้าบ่าวผู้ที่มีชื่อแปลกประหลาดที่สุดเท่าที่วิรินเคยได้ยินมา ฟังชื่อแล้วทำให้นึกถึงถนนพหลโยธินหรือไม่ก็ชื่อของอดีตนายกรัฐมนตรีท่านหนึ่งในสมัยปฎิรูปการปกครองไทยคนแรกๆที่ชื่อเจ้าพระยาพหลพลพยุหเสนาฯไปโน่น
“ คุณเต็น..ไปทางโน้นกันหน่อยเถอะ..”
เสียงทุ้มๆนั้นกระซิบบอกอยู่ข้างหูพร้อมกันนั้นมือหนาใหญ่แข็งแรงของเจ้าบ่าวก็แตะที่เอวบางของเจ้าสาวออกแรงรั้งให้ก้าวเดินไปตามทิศทางที่เขาต้องการ แขกกลุ่มใหญ่ที่เจ้าบ่าวพาหล่อนมาทักทายกำลังส่งเสียงสนทนากันอย่างครื้นเครง
คงจะเป็นกลุ่มเพื่อนของเจ้าบ่าวนั่นแหละเพราะดูจะมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกันแทบทั้งสิ้นมีทั้งหญิงและชายแต่งกายด้วยอาภรณ์เลิศหรูดูดีมีสไตล์ เสื้อผ้าติดเบรนด์เนมยี่ห้อดังของเมืองนอกพูดอังกฤษคำไทยคำจนวิรินฟังแล้วชักจะเวียนหัว
“ เอ..วันนี้คุณเต็นเงียบจัง..ไม่ค่อยพูดค่อยจาเลย..เหนื่อยหรือครับ ?”
เพื่อนเจ้าบ่าวในกลุ่มคนหนึ่งเอ่ยถามวิรินอีกทั้งยังส่งสายตาล้อๆมาให้เสียด้วย
“ แหม..จะไม่ให้เหนื่อยได้ยังไงล่ะเล่นแต่งกันกระทันหันเสียขนาดนี้ ”
“ นี่นิค..มีข่าวลงหนังสือพิมพ์ด้วย..เขาแซวว่ายูน่ะแต่งงานสายฟ้าแล่บสงสัยเจ้าสาวจะมี ซัมทิ้งรองท์..ป่องก่อนแต่ง..ข่าวจริงรึมั่วย่ะ? ”
“ เล่มไหนกล้าลงข่าวแบบนั้น..เดี๋ยวพ่อฟ้องหมิ่นประมาทเสียเลย..”
เจ้าบ่าวตอบด้วยน้ำเสียงเอือมๆแต่สีหน้ายังคงเกลี่ยไปด้วยรอยยิ้ม
นิค...เป็นชื่อเล่นของเจ้าบ่าวสุดหล่อคนนี้เองหรอกหรือ
นี่เป็นความรู้ใหม่ของวิรินล่ะ..
“ ก็ยูมันเนื้อหอม คุณเต็นระวังนะคะเห็นนิ่งๆขรึมๆอย่างเนี้ย..ร้ายจะตาย..! ตอนนิคเขาเรียนอยู่ที่อเมริกาเขาชอบหักอกสาวๆเป็นงานอดิเรกค่ะ.. ”
“ นี่เอมม่า..ยูจะมายุให้ครอบครัวเขาแตกแยกกันตั้งแต่วันนี้เลยรึไงฮึ..!”
เจ้าบ่าวของหล่อนรีบแย้งพร้อมกับโคลงศีรษะไปมาอย่างไม่รู้จะทำอะไรที่ดีไปกว่านั้นได้
“ ไม่รู้ล่ะ..ก็เตือนคุณเต็นเอาไว้ก่อน..ยูน่ะไว้ใจได้ที่ไหนกัน..!”
“ แล้วกันสิ...ยิ่งว่าเหมือนยิ่งยุ..วันนี้วันแต่งงานไอนะเอมม่า..”
“ ก็ใครใช้ให้ยูเจ้าชู้เล่า..ชนักติดหลังมันก็เยอะอย่างนี้ล่ะ..จริงมั้ยคะคุณเต็น..? ”
แม่สาวแต่งตัวแสนเปรี้ยวที่ชื่อเอมม่าทำปากยื่นปากยาวพยักเพยิดหน้ามาขอความคิดเห็นจากวิริน ผู้เป็นเจ้าบ่าวของงานเลยหันมายิ้มหวานกับเจ้าสาวอย่างพยายามประจบประแจงเต็มที่
“ คุณเต็นอย่าไปฟังเอมม่ามากนะ..รายนี้เขาชอบให้ร้ายผมประจำ..”
วิรินยิ้มเจื่อนๆไม่รู้จะกล่าวตอบว่ากระไรดีจึงได้แต่ยืนเงียบ
“ เออ..เรื่องโปรเจ็คที่เชียงรายว่าไง..? ”
หนึ่งหนุ่มในกลุ่มเอ่ยถามขึ้นกลางวงสนทนาและแล้วเรื่องราวเกี่ยวกับธุรกิจร้อยล้านพันล้านก็ถูกขยายวงกว้างไปถึงเรื่องอื่นๆอีกไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินทุน การธนาคาร สภาพคล่อง หุ้น ที่ดิน ตลาดอสังหาริมทรัพย์และอะไรต่อมิอะไรที่วิรินพยายามจะฟังและทำความเข้าใจเท่าไหร่ก็ไม่ยักเข้าใจอาจเป็นเพราะสติปัญญาของหล่อนมันไปไม่ถึงเรื่องพวกนั้นกระมัง
สุดท้ายเมื่อไม่สามารถจะเข้าใจอะไรได้วิรินก็เลือกที่จะไม่ใส่ใจฟัง..เอาเวลาที่มีมายืนดูหน้าหล่อๆของเจ้าบ่าวไปพลางๆดีกว่าเป็นไหนๆ
เจ้าบ่าวของหล่อน..เขาช่างเป็นผู้ชายที่หล่อมาก..มากๆๆๆ
มากอะไรเยี่ยงนี้..ให้ตายเถอะ..!
ผิวของเขาค่อนข้างขาวเหมือนพวกเอเชียที่ไปใช้ชีวิตอยู่ในเมืองหนาวเป็นเวลานานหลายสิบปี รูปร่างก็สูงใหญ่เหมือนหนุ่มฝรั่ง..ที่จริง..นายพหลคนนี้เขาก็มีเชื้อมีสายทางฝั่งยุโรปอยู่เหมือนกันถ้าวิรินจำไม่ผิดแม่ของนายพหลเป็นสาวลูกครึ่งไทยฝรั่งเศสเธอเคยเป็นอดีตนางแบบชื่อดังประดับวงการบันเทิงของไทยมาก่อนเสียด้วยซ้ำ
ก็ไม่แปลก..ที่เธอจะผลิตลูกชายออกมาได้หล่อเหลาถึงขนาดนี้
คิ้วเข้มๆเฉียงๆของเขาค่อนข้างหนา ขนตายาวเฟื้อยช้อนงอนเหมือนขนตาผู้หญิง..จมูกโด่งจนขึ้นสัน ลูกคางบึกบึนเกลี้ยงเกลานั้นมีรอยเขียวๆของหนวดเคราที่เพิ่งจะถูกโกนมาหมาดๆ
เฮ้อ..วิรินไม่รู้ว่าจะบรรยายความหล่อของอีตาคนนี้ยังไงดี..
เอาเป็นว่า..เขาหล่อเกินมาตราฐานพระเอกในดวงใจของหล่อนก็แล้วกัน..
“ อ้าว..แล้วกัน..มายืนจ้องหน้าผมทำไมครับ..? ”
วิรินกำลังเพลิดเพลินกับการสำรวจความหล่อเหลาของเจ้าบ่าวอยู่ดีๆ จู่ๆดวงตาคมกริบคู่นั้นก็หันมาสบตาของหล่อนเข้าอย่างจังจนหลบไปไหนก็ไม่ทัน..เจ้าบ่าวผู้เลอโฉมจึงถือโอกาสยื่นหน้าเข้ามากระซิบบอกเบาๆที่ข้างหูของวิรินพอให้ได้ยินกันสองคน
“ อย่ามองผมแบบนี้ซี..มันยังไม่ถึงเวลาเข้าหอรู้มั้ย..?”
วิรินทำหน้าเหวอๆก่อนจะยิ้มแหยกลบเกลื่อนอาการประดักประเดิกของตนเองและแล้วหัวใจของวิรินก็ต้องเต้นโครมครามไม่เป็นจังหวะเมื่อจู่ๆก็ถูกเจ้าบ่าวร่างยักษ์รั้งร่างของหล่อนเข้าไปกอดก่อนที่ปลายจมูกโด่งๆของเขาจะยื่นมากดเบาๆที่พวงแก้มนุ่มพร้อมทั้งสูดเอากลิ่นหอมอ่อนๆจากนวลแก้มของวิรินกลับไปด้วยอย่างคล่องแคล่วรวดเร็วจนน่าใจหายใจคว่ำ
“ นี่ๆๆ..ไปสวีทกันไกลๆไป๊..อย่ามาทำให้เพื่อนอิจฉาแบบนี้...”
“ นั่นน่ะสิ..รักกันดูดดื่มเหลือเกิ๊น..เลี่ยนจริงๆคู่นี้..! ”
เจ้าบ่าวเปล่งเสียงหัวเราะชอบใจอีกทั้งยังกอดกระชับร่างเจ้าสาวแนบแน่นเข้าไปอีกเมื่อบรรดาช่างภาพหลายสิบคนเดินเข้ามาขอถ่ายรูป
วิรินทำหน้าไม่ถูก..ยิ้มก็คงเป็นยิ้มที่ประหลาดๆเอาการอยู่..ขณะวางท่าเป็นเจ้าสาวแสนสวยผู้อยู่ในอ้อมแขนอันแสนอบอุ่นของเจ้าบ่าวรูปงามปานเทพบุตร
เสียงโฆษกกิติมศักดิ์ประกาศเชิญคู่บ่าวสาวขึ้นสู่เวทีพร้อมประธานของงานซึ่งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีประจำกระทรวงอะไรสักอย่างให้ขึ้นมาคล้องมาลัยและกล่าวอวยพรคู่บ่าวสาว
แสงเฟลชจากบรรดาสื่อมวลชนสว่างพรึ่บพรั่บจนวิรินตาพร่าขณะเดินเคียงคู่เจ้าบ่าวขึ้นสู่เวทีที่เหนือฉากม่านสีแดงเลือดนกนั้นมีอักษรสีหวานติดหร่าเด่นสะดุดตาเป็นชื่อของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวคู่รักไฮโซที่ต่างก็เด่นดังไม่แพ้กันในวงสังคม
วันชื่นคืนสุข..วรดา - พหล
ใครๆต่างก็รู้ว่าเจ้าบ่าวคนที่ยืนอยู่บนเวทีนั่นคือนายพหล จิระเสถียร หนุ่มหล่อไฮโซ ลูกชายคนเล็กของนายตุลา จิระเสถียร เจ้าของโรงแรมชื่อดังริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งนี้..อีกทั้งยังมีโรงแรมในเครือไม่ว่าจะเป็นในเขตกรุงเทพฯหรือต่างจังหวัดอีกหลายต่อหลายแห่ง
นายพหลผู้มีทั้งรูป มีทั้งทรัพย์ มีทั้งสติปัญญาอันเฉลียวฉลาด..
เท่าที่จำได้เขาติดอันดับหนุ่มนักธุรกิจเลือดใหม่ไฟแรงที่หยิบจับอะไรขึ้นมาทำก็ประสบความสำเร็จไปเสียทั้งหมดแต่จะมีใครรู้บ้างมั้ยหนอว่ายังมีอีกสิ่งหนึ่งที่นายพหลคนนี้ประสบความล้มเหลวอย่างสิ้นท่า
นั่นก็คือการเอาชนะหัวใจดวงน้อยๆของผู้หญิงคนหนึ่ง..ผู้หญิงคนที่ชื่อวรดา วัชรนนท์
ผู้หญิงคนที่แท้จริงแล้วควรจะได้มายืนอยู่บนเวทีแห่งนี้..ตรงที่ที่วิรินกำลังยืนอยู่
+++++++++++++++++++++++++++++++++++
โอชิน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 10 พ.ย. 2557, 00:55:29 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 21 พ.ย. 2560, 16:41:14 น.
จำนวนการเข้าชม : 1779
<< บทนำ |
sugar 11 พ.ย. 2557, 00:06:46 น.
ตอนแรกก็สนุกแล้วค่า ^^
ตอนแรกก็สนุกแล้วค่า ^^
โอชิน 11 พ.ย. 2557, 02:11:52 น.
เรื่องนี้ออกแนวตลกขบขัน อมยิ้มแก้มปริไรงี้ ลองเขียนดูค่ะ เป็นประเภทตบจูบแหวกแนว..
เรื่องนี้ออกแนวตลกขบขัน อมยิ้มแก้มปริไรงี้ ลองเขียนดูค่ะ เป็นประเภทตบจูบแหวกแนว..
ปริยาธร 12 พ.ย. 2557, 20:01:55 น.
แวะมาอ่านค่า
แวะมาอ่านค่า
โอชิน 12 พ.ย. 2557, 23:33:50 น.
ขอบคุณค่ะ แวะไปอ่านของคุณปริยาธรมาเหมือนกัน ชอบคุณหมออันด้วยคน..!
ขอบคุณค่ะ แวะไปอ่านของคุณปริยาธรมาเหมือนกัน ชอบคุณหมออันด้วยคน..!