ภรรยาเพียงนาม
ภรรยาเพียงนาม โดย...ธัญปัณณ์


เป็นเรื่องสุดท้ายของหนุ่มๆ ตระกูลเศรษฐินาธรนะคะ

นำแสดงโดย คุณใหญ่ โคแก่มาดขรึม และ ใบบัว สาวน้อยจอมดื้อ!






‘พิชาภพ เศรษฐินาธร’ มหาเศรษฐีหนุ่มหล่อ เจ้าของธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทที่ร่ำรวยอันดับต้นๆ ของประเทศ จำต้องรับ ‘ณัฐชาดา’ สาวน้อยหน้าหวานเข้ามาใช้นามสกุลเดียวกันด้วยบุญคุณที่พ่อของเธอเคยช่วยชีวิตเขาเอาไว้ แรกนั้นจะให้อยู่ในสถานะ ‘ภรรยาเพียงนาม’ แต่ความดื้อดึงปนน่ารักในการเอาตัวรอดของเธอ ทำให้หนุ่มใหญ่นึกอยากเอาชนะ แม่กวางน้อยไร้เดียงสาน่ะหรือ...จะรอดพ้นราชสีห์หนุ่มเจ้าป่าอย่างเขา

และสิ่งที่เขาสังหรณ์ใจแต่แรก จึงจดทะเบียนสมรสกับเธอเสียก็เกิดขึ้นจริง เมื่อหญิงสาวถูกหลอกขาย แต่เขานี่แหละที่จะซื้อเธอด้วยความรักอย่างเต็มใจ!



ตัวอย่างจ้าาาาาา

“คุณใหญ่ปล่อยนะ!”

สาวน้อยร้องลั่นเมื่อเขาตวัดคว้าเอวบางเข้าหาตัวก่อนจะกดเธอลงกับเตียงนอนแล้วโน้มใบหน้าเข้ามาหาเสียใกล้ ท่าทางล่อแหลมมากเหลือเกิน

“เด็กโกหก!”

“คุณใหญ่ไม่รู้หรอกว่าผู้หญิงที่ไหนก็ต้องกลัวเรื่องแบบนี้ทั้งนั้น”

“เรื่องแบบไหน”

“ก็เรื่องเซ็กซ์”

“ใครบอกเธอว่าฉันจะทำแบบนั้น”

“ก็คนนอนเตียงเดียวกันก็ต้องคิดเรื่องนี้ทั้งนั้นแหละค่ะ”

“คราวหน้าอย่ามาทำอะไรไม่เข้าเรื่องแบบนี้อีก เข้าใจไหม” พิชาภพเลี่ยงที่จะตอบว่าเขาคิดเรื่องพวกนั้นกับเธอหรือเปล่าเพราะยังไม่แน่ใจตัวเองนัก จะว่าคิดก็ใช่ จะว่าไมได้คิดก็ใช่

“ค่ะ” เธอตอบเสียงแผ่ว

“ไม่งั้นจะถูกลงโทษ” ชายหนุ่มยิ้มเจ้าเล่ห์ นัยน์ตาพราวระยับเมื่อจับจ้องที่ริมฝีปากซึ่งเผยอน้อยๆ ในขณะนี้

“ลงโทษ?”

“ถ้าใบบัวดื้อ ฉันจะจูบ!”

“จะ...จูบ!” สาวน้อยเบิกตาโตเท่าไข่ห่าน

“ใช่! ดังนั้นอย่าดื้อหรือทำให้ฉันไม่พอใจอีก”

“ค่ะ ใบบัวจะไม่ดื้อแล้ว” สาวน้อยรีบรนตอบจนลิ้นแทบพันกัน “คุณใหญ่คะ ครั้งนี้ยกเว้นใช่ไหม”

“ถ้ายกเว้น ใบบัวจะเข็ดหลาบไหม”

“ใบบัวยังไม่แปรงฟันด้วยนะ”

***********
Tags: โคแก่หญ้าอ่อน

ตอน: บทนำ ทะเบียนสมรส




ภรรยาเพียงนาม

ธัญปัณณ์

บทนำ



‘ณัฐชาดา เศรษฐินาธร’

นัยน์ตากลมโตแวววาวไปด้วยหยาดน้ำใสขณะทอดมองชื่อของตัวเองในแผ่นกระดาษที่ดูเผินๆ แล้วไร้ซึ่งความหมาย ทว่ามันคือสิ่งที่เปลี่ยนทั้งชีวิตของเธอราวกับตายแล้วเกิดใหม่ เธอไม่ใช่ณัฐชาดาคนเดิมอีกต่อไปแล้ว แต่เป็น ‘ณัฐชาดา เศรษฐินาธร’ ภรรยาในทะเบียนสมรสของ ‘พิชาภพ เศรษฐินาธร’ หนุ่มใหญ่วัยสามสิบห้าปี บุตรชายคนโตเจ้าของธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทในเครือเศรษฐินาธรกรุ๊ป

ชายหนุ่มที่ยืนเคียงข้างยังเป็นคนแปลกหน้าสำหรับเธอ แม้จะมีใบทะเบียนสมรสไว้ในครอบครอง ทั้งยังเปลี่ยนนามสกุลมาใช้ร่วมกับเขา ทว่าณัฐชาดาก็ยังตื่นเกรงต่อผู้ชายที่อายุมากกว่าเธอถึงสิบสามปีคนนี้อยู่ดี ถึงจะรู้จักกันมาก่อนหน้านี้สองเดือน ทว่าท่าทางรอบจัดและดูมีอำนาจของเขาทำให้หญิงสาวอดเกร็งไม่ได้ เธอไม่รู้ว่าจะพูดอะไรกับเขา ไม่รู้จะปฏิบัติตัวยังไงด้วยซ้ำ หญิงสาวรู้เพียงว่าอยากกลับบ้านเป็นที่สุด เธอไม่เคยคิดฝันว่าเรื่องทุกอย่างจะเป็นแบบนี้ ไม่เคยคิดเลยสักนิด...

“ใบบัว”

“คะ...” คนถูกเรียกสะดุ้งก่อนช้อนตากลมใสขึ้นมองเขา

ชายหนุ่มถอนหายใจยาว สายตาของเธอดูยังไงก็เหมือนเด็กพลัดหลงกับผู้ปกครอง

“เสร็จธุระแล้ว อาจะพากลับบ้าน” เขาเอ่ยเสียงเข้ม ดวงตาที่ทอดมองมาดูพินิจพิจารณาจนหญิงสาวรู้สึกร้อนที่ใบหน้า

“บะ...บ้าน” นัยน์ตาสุกใสขึ้น แต่ครู่เดียวก็หลุบลงต่ำเมื่ออีกคนทลายความหวังลงสิ้น

“บ้านของฉัน”

“ค่ะ” ณัฐชาดากลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น เขาเป็นคนแรกรองจากพ่อที่เธอต้องเชื่อฟัง ทั้งๆ ที่อยากวิ่งหนีกลับบ้านเสียให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็ทำไม่ได้เพราะ...เธอเป็นภรรยาของเขาแล้ว

“เก็บเสื้อผ้ามาหมดแล้วใช่ไหม” ชายหนุ่มเอ่ยถามเนื่องจากตอนไปรับเห็นเพียงเป้ใบกลางๆ เพียงหนึ่งใบเท่านั้น หญิงสาวรุ่นๆ อย่างเธอน่าจะมีเสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องสำอางประทินผิวอะไรมากมายไม่ใช่หรือ

“เก็บมาหมดแล้วค่ะ”

“งั้นก็ไป ถ้าขาดเหลือค่อยมาซื้อวันหลัง”

ร่างสูงโปร่งก้าวเดินนำไปที่รถยนต์ หญิงสาวก้าวตามไปต้อยๆ มือยังถือทะเบียนสมรสเอาไว้ หัวใจรับรู้ถึงการมีอยู่ของแผ่นกระดาษใบนั้นตลอดเวลา ณัฐชาดารู้สึกอยากร้องไห้ อยากร้องมากที่สุดเผื่อพ่อจะมารับเธอกลับไป เธออยากอยู่กับพ่อ ไม่อยากอยู่กับเขา ซึ่งเป็นใครก็ไม่รู้ นิสัยใจคอเป็นอย่างไรก็คาดเดาได้ยาก เขาบอกพ่อว่าจะดูแลเธออย่างดี แต่คงไม่ดีเท่าพ่อแน่นอน เมื่อก่อนเธอออกจะแก่นแก้วและเข้มแข็ง แต่ผู้ชายคนนี้ทำให้เธอกลัวจนหงอ ไม่กล้าหือทั้งๆ ที่เขาไม่ต้องทำอะไรเลย เพียงปรายตาคมปลาบมามอง ณัฐชาดาก็แทบจะมุดแผ่นดินหนีแล้ว ทั้งหมดก็แค่ความเพ้อฝันเท่านั้น สุดท้ายร่างบางก็พาตัวเองเข้าไปนั่งในรถยนต์บีเอ็มดับบลิวคันหรูหราเคียงข้างเขาด้วยหัวใจที่สั่นสะท้าน

รถยนต์แล่นไปบนท้องถนนอย่างไม่เร็วนัก สาวน้อยนั่งบีบมือกันแน่น หัวใจเต้นกระหน่ำ ตื่นกลัวกับการที่ต้องไปอยู่กับเขา กระนั้นณัฐชาดาก็ลอบมองเสี้ยวหน้าคมคายหล่อเหลา ไรหนวดเขียวครึ้มที่แนวคางเสริมให้เขาดูเข้มและมีเสน่ห์อย่างร้ายกาจ เธอไม่เคยมองหน้าผู้ชายคนไหนแล้วหัวใจเต้นรุนแรงแบบนี้มาก่อน

แล้วหญิงสาวก็รวบรวมความกล้าสนทนากับเขา

“คุณใหญ่คะ”

“ว่าไง” เขาขานรับสั้นๆ ไม่ได้เหลือบมามองเธอสักนิด

“ทำไมคุณใหญ่ถึงจดทะเบียนสมรสกับใบบัวคะ” ณัฐชาดาแทบกลั้นใจถาม แต่เธออยากรู้เพราะอันที่จริงเขาไม่จำเป็นต้องลงทุนถึงขนาดนี้ แค่พาเธอไปอยู่ด้วย นั่นคือสิ่งที่พ่อต้องการ

“แล้วทำไมเธอถึงจดทะเบียนสมรสกับฉันล่ะ” เขาย้อนถามหลังกระตุกยิ้มราวกับมีแผนการอะไรในใจ

“พ่อบอกให้เชื่อฟังคุณใหญ่ค่ะ” เธอตอบอย่างซื่อๆ

“ก็ดีแล้ว ต่อไปนี้ใบบัวต้องฟังฉัน จะดื้อเหมือนตอนอยู่กับพ่อไม่ได้” พิชาภพว่าเสียงขรึม เต็มไปด้วยอำนาจที่เหนือกว่า

“คุณใหญ่ยังไม่ตอบใบบัวเลยนะคะ”

“งั้นฉันตอบให้ก็ได้” เขานิ่งไปอึดใจ ก่อนว่า “เพราะฉันไม่อยากให้เกิดปัญหาภายหลัง”

“ปัญหา? อะไรหรือคะ” สาวน้อยไม่เข้าใจคำพูดเขา ดูลึกลับซับซ้อนชอบกล

“เรายังไม่รู้เรื่องอะไรหรอก” พิชาภพส่ายหน้าช้าๆ

“แต่ใบบัวไม่ใช่เด็กแล้ว” เป็นครั้งแรกที่เธอเถียงเขา แม้จะกลัวแต่ก็ยังไม่ทิ้งนิสัยเดิม

“ฉันรู้ เพราะถ้าเธอยังเด็ก ฉันคงไม่จดทะเบียนสมรสเอามาเป็นเมียแน่”

คำพูดของเขาทำให้ร่างกายของหญิงสาวชาวาบ ‘เมีย’ เป็นสิ่งที่เธอกลัวมาตลอด การที่เขาพูดแบบนี้ แสดงให้รู้ว่าเธอไม่มีวันรอดพ้นเงื้อมมือราชสีห์เจ้าป่าอย่างเขา

“แล้วใบบัวจะรู้เองเมื่อเป็นผู้ใหญ่มากกว่านี้”

“มีอะไรที่ใบบัวไม่รู้หรือคะ”

“เอาไว้ให้ฉันแน่ใจก่อนแล้วอาจะบอก”

“บอกตอนนี้ไม่ได้หรือคะ แบบไม่แน่ใจก็ได้”

“เรานี่ดื้ออย่างที่พ่อบอกจริงๆ นะ”

“ถ้าคุณใหญ่บอก ใบบัวจะไม่ดื้อเลย” หญิงสาวส่งสายตาคาดหวังมาให้เขา

“ไม่ดื้อ...ทุกเรื่องหรือเปล่า หืม” ชายหนุ่มหันมาส่งสายตาวิบวับ

“เอ่อ...” ณัฐชาดาอึกอัก ถึงเธอจะอ่อนต่อโลก แต่ก็พอรู้ความหมายของเขา

“ว่ายังไง ถ้าสัญญาว่าจะไม่ดื้อ ‘ทุกเรื่อง’ แล้วอาจะบอกเธอ” เขาว่าเสียงหนักแน่น

หญิงสาวง้างปากไม่ออก เขากล้าเสี่ยง แต่เธอไม่บ้าบิ่นเสี่ยงเรื่องอย่างนั้นกับเขาแน่ เป็นครั้งแรกที่เธอคุยกับเขายาวๆ จึงได้รู้ว่าเขาเหลี่ยมจัดแค่ไหน และต่อแต่นี้คงต้องอยู่กับเขาแทบจะ ‘ตลอดเวลา’ เธอจะเอาตัวรอดอย่างไร ยังมองไม่เห็นทาง

“เอ่อ...ใบบัวไม่อยากรู้แล้วก็ได้ค่ะ”

เขาหัวเราะเบาๆ ในลำคอ แล้วเปลี่ยนเรื่องเสียเฉย

“หิวหรือเปล่า อีกไกลกว่าจะถึงบ้าน”

ณัฐชาดาปฏิเสธแล้วจมจ่ออยู่กับความคิดของตัวเอง แต่หาคำตอบเท่าไรก็หาไม่เจอ ไม่รู้ทำไมต้องมีลับลมคมในด้วย แต่ที่แน่ๆ เธอจะต้องรู้ให้ได้



นัยน์ตาคู่งามเบิกกว้างเมื่อรถแล่นเข้ามาสู่อาณาเขตคฤหาสน์เศรษฐินาธรหลังงามโอ่อ่าสไตล์ฝรั่งเศส ตัวตึกสีขาวนวลสูงตระหง่าน สวยงามราวกับพระราชวัง บ่อน้ำพุด้านหน้าประดับด้วยเทพคิวปิดกางปีกโบยบิน รายล้อมด้วยดอกกุหลาบหินเล็กๆ ถัดไปทางขวามือมีสระว่ายน้ำสีฟ้าสดใสราวกับท้องฟ้าเหนือยอดคฤหาสน์ เพียงมองก็สัมผัสได้ถึงความหรูหราร่ำรวย ชายหนุ่มข้างกายของเธอเปรียบเหมือนเจ้าชายก็มิปาน

เมื่อเห็นชายหนุ่มก้าวลงจากรถ ณัฐชาดาจึงก้าวลงตาม เขาอ้อมมายืนเคียงข้าง และโดยที่หญิงสาวไม่ทันคาดคิด มือนุ่มก็ถูกสัมผัสอย่างแผ่วเบา เขากอบกุมเอาไว้ในอุ้งมือใหญ่ ความอุ่นแผ่ซ่านจนสาวน้อยสะดุ้ง เบิกตาโต แหงนหน้ามองเขา

“คุณใหญ่...”

“เข้าไปข้างในกันเถอะ”

สาวน้อยขืนตัว ทำท่าจะดึงมือออกจากการเกาะกุม มองเขาด้วยสายตาไม่ไว้ใจ ถึงจะจดทะเบียนสมรสแต่เธอจะไม่ยอมให้เขาแตะเนื้อต้องตัวเด็ดขาด เธอจะเก็บความบริสุทธิ์เอาไว้ให้ผู้ชายที่เธอรักเท่านั้น ซึ่งไม่ใช่ผู้ชายอายุสามสิบห้าอย่างเขาแน่นอน

พิชาภพถอนใจ ทำหน้าตาเบื่อหน่ายก่อนส่งสายตาดุ

“ฉันจำเป็นต้องจูงมือเธอ เข้าใจไหม” เขาบอกเสียงระอา

“แต่ใบบัวว่าไม่จำเป็น...” เธอเถียงเขา แต่เสียงอ่อยน่าดูด้วยกลัวตาคมดุคู่นั้น และยิ่งเธอพยายามเอามือออก เขาก็ยิ่งกระชับมือให้แน่นขึ้น แต่ไม่ถึงกับอึดอัด

“พ่อบอกว่ายังไง ให้เชื่อฟังฉันไม่ใช่หรือ”

“แต่ว่า...”

“ไม่มีแต่ ฉันมีสิทธิ์ในตัวเธอ หรือต้องให้ทำมากกว่านี้ถึงจะเข้าใจ” ชายหนุ่มมองหญิงสาวด้วยนัยน์ตาหวานและล้ำลึก

“ไม่ค่ะ ไม่!” ณัฐชาดารีบปฏิเสธโดยหารู้ไม่ว่าท่าทางตื่นๆ นั้นช่าง ‘ยั่ว’ ในสายตาคนมองเหลือเกิน

“ดี! เดี๋ยวเข้าไปข้างในอาจะเป็นคนพูดเอง ส่วนใบบัวอยู่เฉยๆ แล้วเป็นเด็กดี”

เขาพูดยังกับว่าเธอเป็นเด็กห้าขวบ เธอโตแล้วนะ ทำไมต้องมาสั่งโน่นนี่เยอะแยะด้วย หญิงสาวไม่พอใจพิชาภพอย่างมาก แต่ก็ทำได้เพียงเม้มปากแน่นแล้วมองตาขวาง

“เข้าใจแล้วใช่ไหม”

“ค่ะ”

ร่างบางสูงแค่อกของเขาเท่านั้น เธอดูตัวเล็กจ้อยไปเลยเมื่อยืนเคียงข้างกันแบบนี้ ไม่เพียงรูปร่าง ด้านอำนาจเธอก็เป็นรองอยู่มาก หรือแทบจะไม่มีเลย เขาเป็นเจ้าชายรูปงามที่น่ากลัวเหลือเกิน

พิชาภพจูงมือภรรยาในทะเบียนสมรสก้าวเข้าสู่คฤหาสน์เศรษฐินาธร ที่โถงกลางกว้างขวาง คุณพิมุกต์พร้อมด้วยน้องชายทั้งสองและน้องสะใภ้เล็กนั่งอยู่บนโซฟาหรูหราลวดลายพรรณไม้สีแดงเลือดนกขลิบทอง เมื่อทุกคนเห็นเขาต่างก็มองมาเป็นตาเดียวกัน สีหน้าท่าทางดูตกตะลึงและแฝงไปด้วยคำถามมากมาย

“พี่ใหญ่!” พิริยะร้องเรียกเสียงตกใจพลางเหลือบมองสาวน้อยข้างกาย

“ตาใหญ่...นี่” คุณพิมุกต์เอ่ยเชิงถาม คิ้วดกหนาขมวดเข้าหากันอย่างข้องใจ พิชาภพไปทำงานที่รีสอร์ททางใต้ตามปกติ ทว่าที่ไม่ปกติเหมือนทุกครั้งคือชายหนุ่มกลับมาพร้อมกับหญิงสาวแรกรุ่นคนหนึ่ง ชายสูงวัยไล่มองสาวน้อย เธอดูน่ารักสดใสสมวัย ผิวพรรณขาวผุดผาด ใบหน้าจิ้มลิ้มเหมือนตุ๊กตาแต่มีแววดื้อรั้นอยู่มาก การแต่งเนื้อแต่งตัวดูดี ไม่น่าจะใช่ผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายเท้า และลักษณะที่พิชาภพจับมือเอาไว้ตลอดเวลาก็บ่งบอกถึงความจริงจัง แม้จะพอคาดเดาอะไรบางอย่างได้แต่ก็ไม่สู้จะแน่ใจนักด้วยไม่มีปี่มีขลุ่ยมาก่อนและสาวน้อยก็น่าจะอายุน้อยกว่ารดา สะใภ้คนเล็กเสียอีก

“สวัสดีครับคุณพ่อ” ชายหนุ่มพนมมือไหว้ ใบหน้ายังนิ่งสงบไม่สนใจสายตาสงสัยจากทุกคน

คุณพิมุกต์ยกมือรับไหว้ลูกชาย แต่สายตายังจับจ้องที่สาวน้อยข้างกายอย่างเคลือบแคลงสงสัย

พิชาภพหันไปพยักหน้าให้ณัฐชาดา แล้วจูงมือเข้าไปทรุดกายลงนั่งที่โซฟาตัวเล็ก เขามองหน้าทุกคนก่อนจะเอ่ยแนะนำด้วยน้ำเสียงมั่นคง

“คุณพ่อครับ นี่ใบบัว เป็นภรรยาของผม”

“ภรรยา!”

คนถูกแนะนำยกมือสั่นๆ ไหว้ชายสูงวัย สีหน้าซีดเผือด ท่าทางของทุกคนดูตกใจกับการมาของเธอมาก ก็สมควรแล้วเพราะไม่มีใครเคยรู้เรื่องของเธอมาก่อน จู่ๆ ก็ก้าวเข้ามาเป็นสะใภ้ของบ้านนี้ ณัฐชาดาอดกังวลไปต่างๆ นานาไม่ได้ ทั้งการอยู่กับพิชาภพและอยู่กับทุกๆ คนในบ้านหลังนี้

“พี่ใหญ่...มีภรรยาตั้งแต่เมื่อไรกันครับ” พิชาทยุตม์เอ่ยถาม แม้จะยินดีอยู่ลึกๆ ที่ผู้เป็นพี่ชายสละโสดเสียที ทว่าทำไมถึงได้รวดเร็วปานจรวดเช่นนี้ จะว่ามีมาอยู่ก่อนหน้าก็ไม่น่าจะใช่เพราะเขาก็เคยไปที่รีสอทร์พังงา ไม่เห็นจะเจอภรรยาของพิชาภพ

“คืออย่างนี้ครับ ใบบัวเป็นลูกสาวของเพื่อนรุ่นพี่ที่เรียนที่อังกฤษด้วยกัน เรารู้จักกันมาสักพักแล้วครับ ใบบัวเป็นเด็กนิสัยน่ารัก ผมจึงตัดสินใจจดทะเบียนสมรสกับเธอ” ชายหนุ่มอธิบายสั้นๆ ไม่ลงรายละเอียดอะไรมากมาย

แม้จะยังไม่กระจ่างเท่าใด แต่คุณพิมุกต์ก็ส่งยิ้มให้กับสาวน้อย เห็นเธอนั่งเกร็ง หน้าซีดอย่างเด็กตื่นที่ก็สงสาร เอาไว้ค่อยซักรายละเอียดกับพิชาภพอีกที ตอนนี้ต้องปลอบขวัญสาวน้อยเสียก่อน

“ครอบครัวเศรษฐินาธรยินดีต้องรับหนูใบบัวเข้ามาอยู่ด้วยกันที่นี่นะ”

ได้ฟังดังนั้น ณัฐชาดาก็ก็เงยหน้าขึ้นมามองท่าน นัยน์ตาเปล่งประกาย ก่อนคลี่ยิ้มบางๆ

“ขอบพระคุณคุณท่านมากนะคะ”

“ต้องเรียกพ่อสิถึงจะถูก” ชายสูงวัยเอ่ยเสียงเอ็นดู

“ค่ะคุณพ่อ”

“ส่วนนี่นายกลาง นายเล็ก น้องชายของฉัน และรดาเมียนายเล็ก ส่วนเมียนายกลางไปทำงาน เธอชื่อไหมเป็นตำรวจ"

พิชาภพแนะนำสมาชิกในบ้านให้รู้จัก ณัฐชาดาพนมมือไหว้ทุกคนด้วยรู้ดีว่าตนเองอายุน้อยกว่าใครทั้งหมดแน่นอน

“น้องใบบัวไม่ต้องกลัวจะเหงานะคะ มีอะไรก็คุยกับพี่ได้นะ” รดาเอ่ยอย่างเป็นมิตรพลางส่งยิ้มกว้างให้ เธอยังเป็นนางฟ้าเสมอมา

“ขอบคุณนะคะ” หญิงสาวยิ้ม รู้สึกดีขึ้นมากที่ไม่มีใครรังเกียจเธอ

“ป้านวลให้เด็กช่วยเอากระเป๋าใบบัวไปไว้ในห้องนอนผมด้วยนะครับ” พิชาภพหันไปสั่ง ทำเอาสาวน้อยตื่นตะลึง เบิกตาโต ใจเต้นแรง

“ได้ค่ะคุณใหญ่” รับคำแม่บ้านนวลก็รีบกุลีกุจอเดินออกไป

“หนูรดาพาน้องไปดูรอบๆ บ้านกับดูห้องนอนเถอะไป จะได้ถือโอกาสทำความรู้จักกันด้วย อีกหน่อยก็ต้องเป็นเพื่อนกัน” คุณพิมุกต์เอ่ย

“ค่ะคุณพ่อ” รดารับคำก่อนหันมาเรียก “น้องใบบัวตามพี่มาทางนี้ค่ะ”

ณัฐชาดาหันมาขอความเห็นจากพิชาภพ ท่าทางยังตื่นๆ ไม่อยากห่างเขา เธอไม่รู้จักใครเลย เขาจึงเหมือนเป็นที่พึ่งเดียวในตอนนี้ จนเมื่อชายหนุ่มพยักหน้า สาวน้อยจึงค่อยเดินตามรดาออกไป คล้อยหลังหญิงสาวทั้งสอง คุณพิมุกต์ก็เอ่ยขึ้นเสียงเครียด

“ถึงเวลาที่ใหญ่จะต้องตอบคำถามของพ่อ”



พิชาภพขยับตัวนิดหนึ่ง ใบหน้าเขายังนิ่งเฉย แม้ว่าขณะนี้สมาชิกทุกคนในครอบครัวจะหันมามองที่เขาเป็นตาเดียวกันก็ตาม สายตาของทุกคนแฝงไปด้วยคำถามมากมาย ซึ่งเขาเข้าใจดีทุกอย่าง

หนุ่มโสดเจ้าสำราญวัยสามสิบห้าปีที่มีผู้หญิงรายล้อมมากมายเอาไว้ควงเล่น ทั้งดารา นางแบบ หรือแม้กระทั่งนางงาม ทว่าเขากลับไม่เคยจริงจังกับใครจนพามาที่บ้าน แต่กลับณัฐชาดา ไม่เพียงพามาที่บ้านเท่านั้นแต่กลับแนะนำว่าเป็นภรรยา จดทะเบียนสมรสกันเสร็จสรรพแบบไม่ปรึกษาใคร ทั้งยังเป็นเมียเด็ก อายุห่างกันเกินรอบ ไม่แปลกที่ทุกคนจะตกตะลึงเช่นนี้

“มีอะไรจะอธิบายกับพ่อไหมตาใหญ่”

“เรื่องใบบัวน่ะหรือครับ” เขาถามทั้งๆ ที่รู้ดีอยู่แล้ว

คุณพิมุกต์กดใบหน้าลงช้าๆ สายตาครุ่นคิด

“อย่างที่ผมได้บอกคุณพ่อไปว่าใบบัวเป็นลูกสาวของเพื่อนรุ่นพี่ เรารู้จักกันเมื่อสองเดือนที่แล้วครับ เธอเป็นเด็กดี อาจจะดื้อรั้นอยู่บ้างแต่ก็น่ารักน่าเอ็นดู หลังจากที่เราเจอกันบ่อยขึ้น ผมก็เริ่มชอบเธอ”

“แล้วทำไมถึงไม่ศึกษาดูใจกันไปก่อน มีอะไรเร่งด่วนหรือถึงต้องรวบรัดจดทะเบียนสมรสกันโดยไม่มีผู้ใหญ่รู้เรื่อง”

“ไม่มีอะไรอย่างนั้นนะครับคุณพ่อ” พิชาภพรีบปฏิเสธด้วยไม่อยากให้ทุกคนในบ้านมองณัฐชาดาเสียหาย

“พ่อรู้นิสัยใหญ่ดี” คุณพิมุกต์ค่อยสบายใจขึ้น

“ที่ต้องรวบรัดเร่งด่วนเพราะพ่อของใบบัวมีปัญหาด้านการเงินน่ะครับ ผมเลยถือโอกาสสู่ขอใบบัว พ่อของใบบัวมีบุญคุณกับผมมาก เขาเคยช่วยชีวิตผมไว้ที่เมืองนอกครับ”

“ช่วยชีวิต?” ชายสูงวัยเอียงศีรษะเนื่องด้วยบุตรชายไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง

“ใช่ครับ พี่มโนกระโดดเข้ามาช่วยไม่ให้ผมถูกรถชนครับ” นี่เป็นหนึ่งเหตุผลสำคัญที่เขาตัดสินใจสละโสด

คุณพิมุกต์พยักหน้าเข้าใจ

“ใหญ่รักน้อง หรือแค่ต้องการตอบแทนบุญคุณของพ่อน้องกันแน่”

“ผมรักใบบัวครับคุณพ่อ”

“ไม่ใช่ว่าเขาหลอกขายลูกสาวนะ”

“ไม่ใช่แน่นอนครับ ผมขอใบบัวมาเอง ทางโน้นไม่ได้เสนอให้” พิชาภพขยับตัวอีกครั้งพลางถอนหายใจยาว เขาเล่าความจริงไม่หมด ทั้งยังโกหกว่ารักเด็กสาวอีกด้วย

“ถ้าอย่างนั้นทำไมไม่รอจัดงานแต่งงานก่อนค่อยจดทะเบียนสมรสกัน อย่างนี้หนูใบบัวเขาจะคิดยังไง” ชายสูงวัยอ้างถึงหญิงสาวไปอย่างนั้นเอง ที่จริงต้องการรู้ความจริงให้ลึกกว่านี้

“ผมไม่อยากให้เอิกเกริกน่ะครับ”

“แต่พ่อว่าต้องจัดงานเสียหน่อย” ผู้เป็นบิดาเห็นว่าไม่ค่อยเหมาะสมนักเพราะบุตรชายคนโตแห่งตระกูลเศรษฐินาธรจะมีเมียโดยกระทำอย่างลับๆ ได้อย่างไร งานแต่งงานที่ใหญ่โตหรูหราสมฐานะถึงจะเหมาะสม ในเมื่อพิชาภพมั่นใจว่าณัฐชาดาคือผู้หญิงที่จะใช้ชีวิตร่วมกันตลอดไปก็ต้องแต่งงาน

“เอ่อ...ผมว่าอย่ายุ่งยากเลยดีกว่านะครับ แต่งหรือไม่แต่งไม่สำคัญเท่ากับว่าผมกับใบบัวจะรักกันตลอดไปหรอกครับ”

“แต่เรามีสังคม คนอื่นจะคิดกับใบบัวยังไงที่มาเป็นเมียใหญ่โดยไม่มีงานแต่งงานประกาศให้รับรู้ ทะเบียนสมรสน่ะไม่มีใครเขามารู้กับเราหรอกนะ”

“งั้นรออีกสักระยะแล้วกันนะครับ ผมอยากสะสางงานให้เรียบร้อยเสียก่อน” พิชาภพถือโอกาสอ้างงานไปก่อน เขาไม่อยากให้มโนธรรม บิดาของณัฐชาดาทราบว่าเขาจดทะเบียนสมรสกับหญิงสาว ทั้งๆ ที่คำขอร้องแค่รับหญิงสาวมาเป็นเมียเท่านั้น

“พี่ใหญ่รักใบบัวจริงๆ หรือครับ คือ...น้องดูเด็กมาก” พิชาทยุตม์เอ่ยถามอย่างไม่แน่ใจ ไม่ใช่สิ! ไม่เชื่อมากกว่า

“มีอะไรที่ดูเป็นไปไม่ได้หรือนายกลาง” ท่าทางของพิชาภพดูนิ่งสงบเพื่อกลบเกลื่อนพิรุธ

“เปล่าครับ ผมเห็นพี่ใหญ่ไม่เคยจริงจังกับผู้หญิงคนไหน ขนาดลูกสาวเพื่อนคุณพ่อ พี่ใหญ่ยังควงเล่น แต่กลับมาแต่งงานกับเด็กที่อายุน้อยกว่ากันเกินรอบ พี่ใหญ่กับใบบัวดูแตกต่างกันมาก”

“นายเคยได้ยินไหม...ความต่างที่ลงตัว”

“โอ้โห! พี่ใหญ่พูดได้สุดยอดไปเลยฮะ” พิริยะยกนิ้วแม่โป้งให้พลางส่งสายตาชื่นชม

“นายก็พูดเกินไป”

“พี่กลางไม่เข้าใจหรอก พี่ใหญ่อาจจะชอบกินเด็กเป็นอาหารก็ได้นะครับ” พิริยะแซวใหญ่

“แต่พ่อก็อยากให้มีงานแต่งงานอยู่ดีนะ” ผู้เป็นบิดายังกังวลเรื่องหน้าตาในสังคม รวมถึงชื่อเสียงของณัฐชาดาด้วย คนจะครหานินทาได้

“มีแน่นอนครับ เพียงแต่ขอเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น” แม้น้ำเสียงจะฟังดูมั่นใจ ทว่าคนพูดเองกลับไม่ค่อยมั่นใจเท่าใดนัก คนไม่ได้รักกันจะอยู่ด้วยกันยืดยาวได้อย่างไร

“เมื่อไร”

“ไม่นานหรอกครับคุณพ่อ ผมสัญญานะครับว่าจะไม่ทำให้ใบบัวต้องอับอายต่อหน้าใครแน่นอน ผมจะดูแลเมียผมอย่างดีที่สุด” เขาจะดูแลหญิงสาวอย่างดีให้สมกับที่รับปากกับบิดาของเธอเอาไว้



‘พี่รักใบบัวมาก พี่ฝากลูกด้วย พี่ไว้ใจใหญ่มากที่สุดว่าจะต้องดูแลใบบัวได้ดีแน่นอน ใบบัวอยู่กับใหญ่คงจะมีชีวิตที่สุขสบาย ไม่ต้องทนลำบากกันพ่อจนๆ’

‘ผมสัญญาครับว่าจะดูแลใบบัวอย่างดี’

‘พี่รู้ว่าตอนนี้ใหญ่ไม่ได้รักแก แต่พี่อยากให้ใหญ่เอ็นดูแกสักนิด แบ่งใจให้ใบบัวแค่เพียงเสี้ยว พี่ก็ดีใจแล้ว’

‘ไม่ว่าจะยังไงผมก็จะดูแลเธอให้ดีที่สุดครับ’



“พ่อได้ยินอย่างนี้ก็สบายใจ”

“ผมอยากจะขอร้องคุณพ่อให้เมตตาเอ็นดูใบบัวบ้างจะได้ไหมครับ” พิชาภพห่วงหญิงสาว หากทุกคนทำเฉย เธอจะไม่มีความสุข เผลอๆ จะพาลคิดไปว่าไม่มีใครต้อนรับก็เป็นได้

“ทำไมถึงคิดอย่างนั้นล่ะ”

“ผมทราบดีครับว่าคุณพ่อยังสงสัยว่าทำไมผมถึงต้องจดทะเบียนสมรสกับใบบัวกะทันหันแบบนั้น แต่ผมรับรองได้ว่าใบบัวเป็นเด็กดี เธอน่ารักมากนะครับ เลยอยากให้คุณพ่อเอ็นดูเธอด้วย” เขารู้ดีว่าไม่มีใครเชื่อเรื่องที่เล่าร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ทุกคนตัดสินใจเลิกถามเพื่อให้เกียรติเขา

“วางใจเถอะตาใหญ่ พ่อกับน้องๆ ของใหญ่ก็เห็นตรงกันว่าใบบัวน่าเอ็นดูแค่ไหน”

“อีกอย่าง รดาก็คงเป็นเพื่อนใบบัวได้อย่างสบาย ทั้งสองคนอายุไล่เลี่ยกันมาก” พิริยะเอ่ยบอกเพื่อให้ผู้เป็นพี่ชายสบายใจ

“ขอบคุณทุกคนมากนะครับที่เอ็นดูใบบัว” ชายหนุ่มยิ้ม ใจชื้นที่หญิงสาวจะได้ไม่ลำบากจนเกินไปนัก

“ใหญ่รักใคร พ่อก็รักด้วย”

พิชาภพยิ้มไม่เต็มปากนัก เขาน่ะหรือ...จะรักเด็กผู้หญิงอายุห่างกันเกินรอบคนนั้นได้ คงไม่มีทาง...ไม่มีทางแน่นอน

///////////////////////////////////////////////////

เค้ากลับมาแล้วววววว
ฝากนิยายเรื่องใหม่ด้วยค่ะ เป็นเรื่องสุดท้ายของหนุ่มๆ ตระกูลเศรษฐินาธร แต่ไม่ต้องกังวลนะ อ่านแยกเล่มได้เนื้อหาไม่เกี่ยวข้องกันจ้า หรือใครอยากอ่านคุณเล็กกับคุณกลางก็จัดไปอย่าให้เสีย 5555 (แอบขายของ)

ที่สำคัญอย่าลืมคอมเม้นต์นะคะ อ่านแล้วปลื้มมากมายเลย จุ๊บๆ



จรดปลายรุ้ง
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 7 ธ.ค. 2557, 21:18:52 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 7 ธ.ค. 2557, 21:19:43 น.

จำนวนการเข้าชม : 2214





   บทที่ 1 ชีวิตแต่งงานวันแรก 1 >>
konhin 8 ธ.ค. 2557, 00:41:00 น.
น่าสนใจค่ะ


ตำลึง 31 ธ.ค. 2557, 20:57:00 น.
สนุกจังค่ะ ^^


Zephyr 27 ก.พ. 2558, 17:38:31 น.
อุต้ะ มุบๆมิบๆแบบนี้ ตอนจะให้เมียจริงๆ
อย่าประกาศนะเฟร่ย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account