สาปหฤหรรษ์
แนะนำเรื่องแบบย่อๆ
เสียงเล่าลือกล่าวขานถึงนางอัปลักษณ์ในตำนานผู้แสนเหี้ยมโหดชั่วร้ายเกินใครแต่อำนาจทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับนางเช่นกัน เจ้าชายผู้สูงศักดิ์ต้องยอมมอบกายถวายชีวันแลกความอยู่รอดของแผ่นดินด้วยการเป็นสามีของนาง

หมายเหตุ.- เปลี่ยนชื่อเรื่องจาก 'นางเงา' เป็น 'สาปหฤหรรษ์' นะคะ
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: บทที่ 1 (ส่วนหลัง ครบ 100%)

แปะบทที่ 1 ครบร้อยแล้วเด้อค่าาา

แจ้งว่าตอนนี้กำลังพิมพ์บทที่ 2 ไปได้ไม่มาก และตัวต้นฉบับที่เขียนมือก็ยังนับว่าเป็นงานสดๆ ซิงๆ ดิบอย่างจริงจัง จึงมีทั้งขาดๆ เกินๆ แต่ตัวบทที่ 1 ครบร้อยนี้ก็แก้ไขไว้ให้ทุกท่านได้อ่านแบบไม่ขัดตาขัดใจนัก ยังไงแล้วหากได้บทที่ 2 แบบไม่ทำให้ขายหน้ามากก็จะมาโพสต์ต่อเร็วๆ นี้ค่ะ


รักจริงๆ จากใจ จุ๊บๆ

อ้อย/สุชาคริยา


ปล. ตอนก่อนหน้านี้เป็นเนื้อหาใหม่แล้วนะคะ



-----------------------------------------------------------




เธอวิ่งฝ่าความมืดไม่รู้ทิศทาง เมื่อหันหลังไปมอง...แสงสีส้มยังเห็นอยู่ไกลๆ และนั่นทำให้ความหวาดกลัวก่อตัวไม่จบสิ้น

บุญรักษาพยายามกะระยะทางเพื่อหลบต้นไม้ให้ทัน มือยื่นออกไป อย่างน้อยคงเบรกได้โดยไม่เจ็บตัวนักเมื่อเจอต้นไม้ระยะประชิด สตินั้นยังมีครบถ้วน เท้าเริ่มระบมจนชา แต่ก็พยายามวิ่งและตั้งสติให้มากที่สุด

ทว่าในขณะที่วิ่งด้วยความเร็วและแทบมองอะไรไม่เห็น ด้วยกรรมมหาซวย...เธอสะดุดรากไม้ที่ผุดขึ้นจากพื้น เซจนเกือบคะมำแต่ไม่ล้มลงไป ทว่าดันไปชนต้นไม้ต้นหนึ่งจนตัวเด้งกลับมา หงายหลัง ลงไปนอนพื้น

หน้าผากของเธอตอนนี้เจ็บหนึบ รู้สึกเหมือนจะมีเขางอกออกมาอย่างไรอย่างนั้น ที่หน้าอกจุกแน่นจนหายใจไม่ออก ไอเพราะคอแห้งจัดจากการวิ่งหนีไม่ได้หยุด เธอพลิกตะแคง หายใจหอบแรงพร้อมๆ กับไอจนไม่มีแรงจะไอ เส้นเลือดข้างขมับเต้นตุบๆ ประหนึ่งจะระเบิดให้ได้ไม่วินาทีใดก็วินาทีหนึ่ง

เธอยกมือขึ้นลูบหน้าผาก เหลือบตาขึ้นมองแม้จะไม่เห็น

‘ยังดีที่ไม่ปูดมาก’ ลูบหน้าผากตัวเองป้อยๆ ดวงตามองฝ่าความมืดไปพร้อมกัน แต่ก็แทบไม่เห็นอะไร ความรู้สึกบนหน้าผากประหนึ่งถูกเสริมให้หนาราวยี่สิบเซนติเมตรเห็นจะได้ หายใจเข้าลึก และรีบลุกขึ้นอีกครั้ง

เสียงสวบสาบดังอยู่ไม่ไกล บุญรักษากลั้นหายใจ ขยับตัวลุกขึ้นอย่างเงียบที่สุด แต่เหมือนจะไม่ทันเสียแล้ว แสงสว่างขาวๆ ไม่ต่างจากแสงไฟนีนอนเรียกให้หันหลัง ประกายของคมดาบเล่มหนึ่งฟาดลงมา

บุญรักษาหลับตา เกร็งตัวทันที ไม่ทันคิดถึงอะไรไปมากกว่านี้เสียง ‘เกร๊ง’ จากโลหะปะทะกันก็เกิดขึ้น ไม่มีความเจ็บให้รู้สึกจึงรีบลืมตา

เธอเห็นทหารตัวใหญ่สองนายยืนอยู่ตรงหน้า คนผิวเข้มถือดาบและกำลังเก็บแนบไว้ข้างตัวนั้นมองเธอตาไม่กะพริบ ใบหน้าถมึงทึงแสดงความไม่พอใจ ส่วนทหารอีกคนยังถือดาบขวางไว้เหนือศีรษะของเธอ

เจ้าของดาบที่ช่วยเหลือยืนเยื้องไปทางซ้ายมือของบุญรักษา ผิวของเขาขาวกว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า

“แม่หญิงผู้นี้มิได้แต่งกายเยี่ยงคนในหมู่บ้าน เจ้ามิเห็นดอกรึ” ชายคนที่ช่วยเหลือเอ่ย เขาเก็บดาบเข้าฝัก

ทั้งสองมองหน้ากันประหนึ่งต่อสู้ผ่านแววตา และนั่นทำให้เจ้าของดาบที่จะฟันเธอก่อนนั้นหันมาเพ่งมองบุญรักษาอย่างพิจารณาอีกครั้ง

บุญรักษาเริ่มหายใจไม่ทั่วท้อง มือทั้งสองเผลอกำแน่น สภาพนั่งกับพื้นที่กำลังจะลุกแต่ไม่ได้ลุกขึ้นยังค้างอยู่เช่นเดิมไม่เปลี่ยน รอดูสถานการณ์ว่าจะเป็นไปอย่างไร

หญิงสาวสังเกตว่าทั้งสองคนไม่ใช้คบเพลิง แสงสว่างที่เห็นมาจากดวงกลมๆ บนบ่าข้างหนึ่งของพวกเขาและเหมือนจะลอยอยู่

ทหารที่จะฆ่าเธอก่อนนั้นเบิกตากว้างเล็กน้อยก่อนจะปรับเป็นปกติเร็วไว การยิ้มที่มุมปากให้ความรู้สึกไปในทางชั่วร้าย ไม่ปลอดภัยสำหรับเธอ

“มีนามว่ากระไรรึเจ้า” มันถาม

บุญรักษาไม่ตอบ พยายามสงบสติอารมณ์ หายใจเข้าลึก มองสองคนสลับไปมา พร้อมๆ กับหาทางหนีทีไล่ไปพร้อมกัน

“ข้าพเจ้าถาม...ว่าเจ้ามีนามว่ากระไร” ทหารคนเดิมเอ่ยเสียงเข้มอีกครั้ง และเมื่อเห็นว่าบุญรักษายังไม่ยอมตอบก็เหวี่ยงดาบออกมา ปลายดาบชี้หน้าของเธอห่างไม่ถึงนิ้ว

‘ไอ้โหด!’ ต่อว่าในใจแต่ก็ไม่แสดงอาการอะไรนอกจากมองอีกฝ่ายนิ่งๆ ก่อนจะเอ่ย...

“บุญ” เธอตอบ แต่ก็นั่นแหละ...ไม่มีเสียงอยู่ดี

ทหารนิสัยเสียยังไม่ยอมย้ายดาบออกไป มันยิ้มเยาะ “เป็นใบ้ดอกรึ โธ่...เจ้าเนื้อแลเป็นใบ้ จักขายได้ราคากี่มองน้อยกันละนี่”

บุญรักษาตัวแข็งทันทีที่ได้ยิน

ทว่าทหารอีกนายที่ช่วยเธอก่อนนั้นถลึงตาใส่อีกฝ่าย แสดงออกให้รู้ว่าไม่พอใจ เขาย่อกายลง พูดกับเธอ “อย่าได้ฟังความเลอะเทอะ” แล้วหันไปมองหน้าทหารใจร้าย การมองครั้งนี้ทำให้อีกฝ่ายยอมเก็บดาบเข้าฝัก

ทหารใจดีว่า... “หากบุญแม่หญิงยังมี ขอจงมีนามที่หลวงมิได้ต้องการ แต่หากถึงคราตาย...จงคิดเพียงว่าเสียสละตนเพื่อบ้านเมือง ทำหน้าที่ปกปักรักษา แลเฝ้านครให้ปลอดภัย หายใช่นำเจ้าไปขายดอก” เขามองเธออย่างมีเมตตา พิจารณารูปร่างของเธอตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าอย่างไม่น่าเกลียด และเอ่ยอีกครั้ง...

“ลักษณะเยี่ยงแม่หญิง ใบหน้าดูงาม แม้นเจ้าเนื้อแลเป็นใบ้ ทว่าผิวพรรณนั้นอิ่มเอิบ...นวลลออ หากลักษณะนี้ตรงตามตำรานางเฝ้าเมือง ข้าพเจ้าจักช่วยเหลือ บอกแก่ท่านราชครู ให้ฝังเจ้าไว้ที่เสาหลักเมืองกลาง เสาต้นนี้ใหญ่นัก เจ้ามิได้เจ็บมากเป็นแน่แท้ แต่หากเจ้าประจำเสาใดเสาหนึ่งในแปดทิศประจำเมือง นั่นหมายความว่าเจ้าจักมิสิ้นลมในเสาเดียว แต่อาจต้องตอกเสาถึงสามครา เชื่อข้าพเจ้าเถิด...ว่าแม่หญิงจักสบาย” เขายิ้มให้อย่างอาทร

บุญรักษาอึ้งไปเลยทีเดียว ความเมตตาที่เห็นทำให้ยิ้มไม่ออก

‘สบายบ้านบิดาแกสิ’ หญิงสาวคิดอย่างแค้นเคือง ทว่าอีกใจก็อยากจะร้องไห้เต็มทน

แต่นั่นก็แค่ในใจ เพราะตอนนี้เธอกำลังยิ้มให้อีกฝ่ายเล็กน้อยอย่างมีไมตรี พยักหน้าว่าเข้าใจ แสดงออกเป็นนัยว่ายินดีให้ความร่วมมือ จากนั้นค่อยๆ ลุกขึ้น โดยทั้งสองคนไม่ได้ช่วยเหลืออะไร

ทหารนิสัยเสียยังคงมองเธอ มือกอดอก ส่วนอีกคนกำลังยืนขึ้นเช่นกัน เขารอดูว่าเธอยืนได้มั่นคงดีจึงบ่ายหน้าออกไป

บุญรักษายังคงตั้งสติ คอยมองทั้งสองที่ยังคุมเชิง เมื่อเริ่มเดินกันแล้ว บุญรักษาก็วิ่งอ้าวไปอีกทางหนึ่งทันที วิ่งสุดชีวิตเลยคราวนี้ ได้ยินเสียงทั้งสองตะโกนตามหลัง โดยเฉพาะเจ้าคนตัวโตผิวเข้มนั้นส่งเสียงราวกับจะฆ่าเธอให้ได้ คงจะโกรธสุดๆ ไปเลยล่ะ

ต้นไม้แต่ละต้นที่บุญรักษาวิ่งผ่าน...เธอไม่กลัวมันอีกแล้ว ในหัวสั่งเพียงวิ่งให้เร็วที่สุดเพราะอย่างน้อยก็ยังมีโอกาสหนีรอด ดีว่ายอมให้พวกเขาเอาเธอไปเป็นผีเฝ้าหลุมหลักเมืองโดยไม่ทำอะไร ความรักชีวิตของตนเองยังทำให้วิ่งหนีได้ไม่หยุด แสงสีขาวนั้นเธอไม่เห็นอีกแล้วเมื่อหันหลัง สายตายังมองรอบกายระแวดระวัง เท้านั้นระบมจนชาหนักขึ้นมากมายแต่ก็ไม่กล้าหยุดพักแม้เสี้ยววินาที

ไม่รู้ว่าวิ่งหนีมาได้ไกลสักเท่าไร แต่เธอไม่อยากทิ้งชีวิตไว้ที่นี่ และก่อนที่จะได้คิดอะไรไปมากกว่านั้น ผ้าสีดำผืนหนึ่งก็ตกลงมา คลุมร่างเธออย่างรวดเร็ว บุญรักษาถูกรวบตัวไว้ในผ้าผืนนี้

หญิงสาวดิ้นสุดชีวิต ทั้งถีบ ทั้งทึ้ง ทั้งกระชาก เป็นเช่นนั้นกระทั่งหลุดออกมาได้

‘ทหารใจดีหรอกหรือ’ มองอีกฝ่ายเมื่อแสงสีขาวนวลตาสว่างฉับพลัน

เห็นเช่นนั้นก็สะบัดผ้าให้หลุดจากตัว อีกฝ่ายยังตามมาโรมรัน เขาพยายามใช้ผ้าจับเธอให้ได้โดยไม่แตะเนื้อต้องตัว ซึ่งนั่นทำให้สมองของบุญรักษาสั่งการ ถกผ้าถุงแล้วแย่งผ้าผืนนี้ทันที รู้เพียงขอแต่เขาไม่มีผ้าและเธออย่าล้มลงไปเป็นใช้ได้

บรรณารักษ์อย่างเธอพอมีความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมของไทยโบราณมาบ้างจากหนังสือที่เคยอ่าน สิ่งที่เห็นชายคนนี้ปฏิบัติคงไม่พ้นว่าถ้าเมื่อไรที่แตะโดนเนื้อตัวของผู้หญิง เขาก็จำต้องรับไว้เป็นเมีย ไม่อย่างนั้นก็ไม่ใช่ลูกผู้ชาย เป็นการผิดผี ซึ่งหวังว่าที่นี่ก็คงจะมีวัฒนธรรมแบบนี้ไม่ผิดไปนัก เพราะนั่นหมายความว่าเป็นจุดอ่อนของเขาที่เธอรู้ แต่ถ้าหากเป็นทหารอีกคนหนึ่ง... เห็นทีหัวของเธอคงขาดจากตัวไปแล้วกระมัง คงไม่เมตตามาจับให้เสียเวลา

การยื้อแย่งกึ่งหนีของบุญรักษาเป็นไปไม่ได้หยุด เธอแย่งกึ่งผลักเขาให้พ้นตัว เพราะเมื่อไรที่สะบัดหลุดก็จะถูกผ้าผืนนั้นห่อหุ้มทันที ส่วนเขาแย่งและม้วนผ้าอย่างเร็วเพื่อมัดมือมัดเท้าห่อเธอเอาไว้ แต่ไม่มีทางที่เธอจะยอม ฝีไม้ลายมือแบบมวยวัดมีเท่าไหร่จัดไป ที่เคยเรียนการต่อสู้ในวิชาพละศึกษาถูกงัดมาใช้จนหมด

และในจังหวะที่ไม่ทันตั้งตัว ผู้ชายคนนี้ล้มลงมา เขาพยายามเบี่ยงหลบ บุญรักษาพยายามหนีไปอีกทาง แต่เพราะผ้าที่พันเป็นเกลียวคล้องมือข้างหนึ่งของเธอเอาไว้และพันรอบเอวอีกฝ่ายทำให้หนีไม่พ้น

เขาทับลงมาจนเธอจุกหนักกว่าเดิมเลยคราวนี้

คนซวยซ้ำซวยซ้อนผลักอีกฝ่ายให้พ้นจากตัว ตาลีตาเหลือกลุกขึ้นเร็วไว แต่ก็ไม่ง่ายเมื่อตัวของเขาหนักมาก แถมมือของเขายังกดต้นแขนของเธอเสียอีก และในจังหวะที่ไม่ทันตั้งตัว เขายกมือข้างหนึ่งและโบกลมผ่านหน้าของเธอไป และนั่นทำให้อาการไร้เรี่ยวแรงเหมือนตอนถูกหิ้วปีกมาที่หมู่บ้านนี้กลับมาอีกครั้ง ทว่าสาหัสกว่าเพราะตัวอ่อนปวกเปียกเลยคราวนี้ จึงได้แค่กะพริบตาเท่านั้น

ใจของเธอสั่นเพราะกลัวตาย ชายคนนี้ยันตัวเองขึ้นไป นั่งหอบอยู่ข้างๆ ทางด้านขวามือของเธอ เขาคู้ขาขึ้นข้างหนึ่ง ใช้มือข้างเดียวกันกุมหน้าผากและเสยผมหลุดลุ่ยไม่เป็นทรงเกล้ามวยเรียบร้อยเหมือนก่อนนั้นให้เข้ารูป ไม่ปรกหน้าปรกตา

เขาถอนหายใจหนักๆ ยาวๆ ส่ายหน้าอย่างกับว่าทำอะไรผิดพลาดมากมายและไม่ตั้งใจ เขาค่อยๆ หันมา มองเธอ ก้มมองมือของตนเองด้วยแววตาเสียใจสุดๆ ไม่อยากจะเชื่อสายตากับสิ่งที่เกิดขึ้น เขานั่งครุ่นคิดตรงนี้โดยไม่พูดอะไร

เธอเสียใจที่ทำให้เขาต้องพลอยซวย แต่เธอก็ไม่อยากตายนี่นา ส่วนที่ล้มนี่ก็ใช่จะตั้งใจให้เกิดขึ้นเสียหน่อย แต่ถ้าเขาจำต้องรับดูแลแล้วเธอไม่ต้องไปเฝ้าก้นหลุมนั่น...ก็พอหยวนกันได้อยู่นะ

กระทั่งเหมือนว่าชายหนุ่มจะตัดสินใจได้แล้ว เขาขยับมาหาเธอเต็มตัว มองตรงๆ มือของเขาโบกลมตั้งแต่ศีรษะของเธอตวัดไปทางปลายเท้าครั้งหนึ่ง และเอ่ย...

“แม่หญิง... จงเอ่ยด้วยสัตย์จริง เจ้านั้นมีนามใด” มองมาไม่ละสายตาเลยคราวนี้

บุญรักษาอยากจะวิ่งหนี แต่ทำได้แค่เพียงกรอกตาไปมาเท่านั้น “บุ...บุญ” ตอบไป มองอีกฝ่ายตาปริบๆ

เขายิ้มน้อยๆ อย่างรู้ทันทั้งที่ก่อนหน้านั้นเสียงของเธอไม่มีเล็ดลอดออกมา “โกหก” เหมือนเขาจะรู้ว่าเธอพูดอะไร รอยยิ้มละไมอย่างเอ็นดูทำให้รู้ว่าเขาคงไม่ฆ่าเธอเหมือนเจ้าทหารอีกคนนั่นแน่นอน และเขาคงจะช่วยเหลือเธอให้พ้นภัยที่จะถึง

หญิงสาวคิดว่าน่าจะลองพูดอะไรดูบ้าง “ถ้าคุณรู้ว่าฉันโกหก” ขยับปากได้เท่านี้ก็พูดอะไรไม่ออกเมื่ออีกฝ่ายถอดสร้อยคอแล้วสวมให้เธอ

“ข้าพเจ้ามีนามว่าโภไคย นายกองฝ่ายพิธีเมืองตักศิลา เหตุล่วงเกินแม่หญิงเมื่อครู่นี้ จักมิรับผิดชอบเยี่ยงบุรุษพึงกระทำ...ย่อมหาควรไม่ เมื่อใดถึงค่ายพัก ได้พบท่านราชครู แลแม่หญิงมิได้มีลักษณะต้องตำราผู้เฝ้าเมือง เมื่อนั้นข้าพเจ้าจักดูแล รับแม่หญิงร่วมเรือน เป็นอนุของข้าพเจ้า มิให้ด่างพร้อย”

‘หา ยังไม่พ้นที่ตายจริงๆ เหรอ!’ คิดแล้วก็อยากจะร้องไห้แล้วคราวนี้ ที่คิดว่าเขาจะช่วยปกป้องให้รอดตายกลับไม่ใช่

ที่ไหนได้... ยังส่งเธอไปลงหลุมอยู่ดี แล้วจะรับเป็นอนุโดยไม่คิดจะถามเธอสักคำว่าอยากเป็นเมียของเขาหรือเปล่า ที่ทำทั้งหมดน่ะ...เพราะหวังจะหนีตายนะ ไม่ได้อยากไปเป็นเมียใคร สุดท้ายกลายเป็นบ่วงรัดคอตัวเองถึงสองชั้นเลยหรือนี่

แม่บุญรักษา... มันน่าตีตัวเองนัก!

ยังไม่ทันคิดอะไรได้มากกว่านั้นก็ถูกผ้าผืนเดิมห่อคลุมและถูกแบกออกไป ตอนนี้จึงได้ร้องไห้ออกมาจริงๆ แล้วสิ

- * - * - * - * - * - * - * - * - * - *- * - * - * - * - * -







สุชาคริยา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 9 ธ.ค. 2557, 19:17:41 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 10 ธ.ค. 2557, 22:27:08 น.

จำนวนการเข้าชม : 2194





<< บทที่ 1 (ส่วนแรก)   ตอนที่ 2 (มาเป็นตอนไปก่อนนะคะ) >>
แว่นใส 9 ธ.ค. 2557, 22:18:00 น.
จะรอดไหมล่ะเนี่ย


สุชาคริยา 10 ธ.ค. 2557, 00:10:23 น.
@คุณแว่นใส = โดนแบกไปแบบนี้ รับประกันว่าไม่รอดค่ะ 555555+


แล่นแต๊ 10 ธ.ค. 2557, 01:47:31 น.
ขำนางเอก ดูแล้วท่าจะเป็นคนฮาๆ


ใบบัวน่ารัก 10 ธ.ค. 2557, 10:40:37 น.
ซวยจิงๆๆนางเอก
เอาน่า รักษาเมือง
หรือรักษาเรือน ผอ. ที่บ้านก็ยังดีน่า


สุชาคริยา 10 ธ.ค. 2557, 11:54:44 น.
@คุณแล่นแต๊ = 55555 ดีใจที่ชอบจ้า
@คุณใบบัวน่ารัก = 555555 บุญรักษาฝากบอกว่าไม่ได้อยากอยู่จะรักษาเมืองให้ใครเลยจ้า (นางตอบไปน้ำตาก็ไหลไป) 555


Zephyr 13 ธ.ค. 2557, 14:12:00 น.
อุว่ะ คนหล่อรึป่าวแบกไปละ
นางจะลงหลุมรึป่ะนะ
ล่อคนแบกมาลงหลุมด้วยกันมั้ยอ่ะ อิอิ


สุชาคริยา 13 ธ.ค. 2557, 18:20:08 น.
@คุณ Zephyr = 5555555 น่าจะลวงมาลงหลุมด้วยกันจริงๆ นะคะ อิอิ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account