สาปหฤหรรษ์
แนะนำเรื่องแบบย่อๆ
เสียงเล่าลือกล่าวขานถึงนางอัปลักษณ์ในตำนานผู้แสนเหี้ยมโหดชั่วร้ายเกินใครแต่อำนาจทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับนางเช่นกัน เจ้าชายผู้สูงศักดิ์ต้องยอมมอบกายถวายชีวันแลกความอยู่รอดของแผ่นดินด้วยการเป็นสามีของนาง
หมายเหตุ.- เปลี่ยนชื่อเรื่องจาก 'นางเงา' เป็น 'สาปหฤหรรษ์' นะคะ
เสียงเล่าลือกล่าวขานถึงนางอัปลักษณ์ในตำนานผู้แสนเหี้ยมโหดชั่วร้ายเกินใครแต่อำนาจทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับนางเช่นกัน เจ้าชายผู้สูงศักดิ์ต้องยอมมอบกายถวายชีวันแลกความอยู่รอดของแผ่นดินด้วยการเป็นสามีของนาง
หมายเหตุ.- เปลี่ยนชื่อเรื่องจาก 'นางเงา' เป็น 'สาปหฤหรรษ์' นะคะ
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: บทที่ 1 (ส่วนแรก)
***เปลี่ยนชื่อเรื่องจาก 'นางเงา' มาเป็น 'สาปหฤหรรษ์' นะคะ**
--------------------------------------------------
แปะๆๆ บทที่ 1 ดราฟแรกสดๆ ร้อนๆ มาแล้วจ้าาาาา
แบบว่า...ตื่นเต้นค่ะ 5555555 นี่ไม่รอให้พิมพ์ครบนะ แต่อยากเอามาอวดค่ะ เป็นงานเขียนอีกชิ้นหนึ่งที่แบบว่าเขียนมือแล้วสนุกมาก คือลุ้นกับแม่นาง ‘บุญรักษา’ สุดๆ ประหนึ่งไปวิ่งหนีกับนางด้วยอีกคน ฮา
อ้อยเองก็เขียนไปลบไปหลายรอบทีเดียวค่ะ แต่ซีนนี้เป็นซีนที่ชอบที่สุดในบรรดาหลายๆ ซีนที่เขียนมา จึงตัดสินใจว่าจะใช้ซีนนี้แหละเป็นซีนเปิดเรื่อง ซึ่งตามที่อ้อยได้แจ้งไว้นะคะว่าเพิ่งจะเริ่มเขียน เขียนมือ จากนั้นจึงพิมพ์ พูดง่ายๆ ก็คือเป็นฉบับด้นสดยังไม่ผ่านกระบวนการพาสเจอร์ไรซ์เอ๊ย! ไม่ช่ายยยย ผ่านกระบวนการต่างๆ ซึ่งอ้อยคงจะมาแก้ในเว็บอยู่เป็นระยะๆ
ดังนั้นหากนักอ่านท่านใดเห็นว่ามีหน้านี้เด้งขึ้นว่าอัพแต่ไม่มีเนื้อหาเพิ่ม เป็นอันเข้าใจกันเนอะว่ามีการแก้ไขเนื้อหา และคงจะเพิ่มไปเรื่อยๆ จนกว่าจะครบบท ซึ่งซีนนี้ยังไม่ลงตัวดีเท่าไหร่ แต่เขียนแล้วตื่นเต้นมากค่ะ อยากให้เพื่อนๆ นักอ่านมาตื่นเต้นไปด้วยกัน (หรือเปล่า) และหากมีความเห็นดีๆ จากนักอ่าน อ้อยคงจะนำมาปรับใช้ไปด้วย ถึงแม้ว่าจะวางพล็อตไว้แล้วก็ตาม แต่ดูเหมือนว่าพล็อตที่วางคงจะใช้ได้แต่โครงหลักๆ ส่วนที่เหลือก็ให้เป็นไปตามชะตากรรมของแม่นางบุญรักษาน่าจะดีกว่าค่ะ 555555
รักนะจ๊ะ จุ๊บๆ
อ้อย/สุชาคริยา
------------------------------------------------------------------
บทที่ 1
ไฟโหมกระหน่ำลามเลียใกล้เข้ามา บ้านเรือนสร้างจากไม้ใช้หญ้าคามุงหลังคาถูกเผามอดไหม้อย่างรวดเร็วเพราะต่างเป็นเชื้อเพลิงชั้นดีแม้ถูกเผาเพียงไม่นาน
บุญรักษาหวาดกลัวสุดขีด ใจเต้นแรง เหนื่อยจากการวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนยังต้องมาลุ้นระลึกว่าคนพวกนั้นจะตามเจอหรือไม่ หวังใจว่าใต้ถุนเรือนขนาดเล็ก ยกสูง และมีหญ้ากองกับพื้นตรงนี้คงพอช่วยบดบังให้ปลอดภัยครู่หนึ่ง
หญิงสาวมองเข้าไป...ถัดจากเรือนนี้เป็นป่า น่าจะเป็นท้ายหมู่บ้าน เพราะเธอเพิ่งหนีมาจากทางหน้าหมู่บ้าน แทบไม่เห็นอะไรในความมืด รู้แค่มีต้นไม้เยอะเหลือเกิน
แสงสีส้มของเพลิงไหม้และเสียงเอะอะทำให้ต้องหันหลังกลับไปมองอีกครั้ง บุญรักษาเห็นทุกสิ่งถนัดตา เหงื่อผุดพราย รู้สึกถึงความเปียกชื้นบนกรอบหน้าและแผ่นหลังของตนเอง ดวงตายังจ้องเขม็งยังจุดนั้น พยายามคิดหาทางเอาตัวรอด
หมู่บ้านแห่งนี้กำลังถูกเผาจากฝีมือทหารกลุ่มหนึ่ง คงไม่แปลกถ้าเป็นทหารสวมชุดลายพรางหรือเครื่องแบบในยุคปัจจุบัน แต่ทหารที่ว่านี่... พวกเขาแต่งกายด้วยชุดราชองค์รักษ์เหมือนละครพื้นบ้านไม่มีผิด แถมยังไว้ผมยาวเกล้ามวยสูงเสียด้วย พวกชาวบ้านเองก็ยังนุ่งผ้าถุงนุ่งโจงกระเบน ห่มสไบ ห่มผ้าแถบ บ้างใส่เสื้อแขนกระบอก แต่บางคนก็ไม่สวมใส่อะไรเลยในท่อนบนก็มี พวกชาวบ้านกำลังถูกฆ่าอย่างเหี้ยมโหด อาวุธหลักของทหารที่ใช้คือดาบ ลักษณะคล้ายไปทางกระบี่หรือดาบคาตานะของญี่ปุ่น
เธอเพิ่งมาถึงหมู่บ้านประหลาดนี่ไม่นานนัก ตอนนี้ได้แต่มองรอบด้านอย่างชั่งใจ ความมืดที่เห็นและไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหนยิ่งทำให้ต้องขบคิด
เวรกรรมอะไรพาเธอมาอยู่ตรงนี้กันหนอ เมื่อตอนหัวค่ำยังอยู่ในงานกาชาดประจำจังหวัดแท้ๆ แต่ตอนนี้ดันมาอยู่ที่ไหนก็ไม่ทราบได้
สามคนที่เดินเข้ามาหาตอนนั้นก็ดันนึกไปว่าเป็นคนของหน่วยงานที่รับผิดชอบการประกวด ‘นางสาวฮานะคะ’ ซึ่งเป็นหนึ่งในธีมการจัดงานกาชาดของปีนี้ซึ่งเน้นความเป็น ‘เมืองไทยในวันวาน’ จึงยากจะฉุกใจคิดถึงความผิดปกติเพราะมีคนแต่งกายด้วยชุดไทยสารพัดรูปแบบ
พวกเขาสามคนนุ่งโจงกระเบนใส่เสื้อแขนกระบอก เป็นชายผอมๆ คนหนึ่ง เป็นหญิงผิวคล้ำตัวใหญ่ดูแข็งแรงสองคน พวกเขามวยผมต่ำแบบลวกๆ เหมือนกัน ผู้ชายที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าผายมือไปยังทิศทางหนึ่ง เป็นความหมายว่าให้เดินตาม
เธอสวมชุดไทยจักรพรรดิเดินตามสามคนนั้นต้อยๆ เพราะเป็นตัวแทนประกวด ไปทางหลังเวทีโดยไม่คิดอะไร ใจอยากให้จบงานเร็วๆ เพราะเสียงอึกทึกทำให้ปวดหูเกินจะทน
งานกาชาดประจำปีและเป็นงานใหญ่ระดับจังหวัดเริ่มน่าเบื่อตามคำบอกเล่า ปีที่แล้วยอดทำบุญตก ผู้ดูแลการจัดงานบอกว่าหากมีแค่การออกร้าน ตักไข่ สอยดาว จับฉลาก หรือเชิญดาราก็คงยากจะเรียกแขกเพราะเริ่มไม่มีอะไรให้ตื่นเต้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงคิดงานรูปแบบนี้ขึ้นมา โดยให้มีการขายอาหาร ขนม ซึ่งเน้นความเป็นไทยอย่างมีเอกลักษณ์
ส่วนเธอมีหน้าที่แต่งชุดไทยไปเป็นตัวประกอบบนเวทีเท่านั้น หากไม่ให้ความร่วมมือก็จะถูกเพ่งเล็งเสียอีก ยังดีที่รู้ว่าเทพีประจำตำแหน่งเป็นใครเพราะได้ถูกกำหนดตัวไว้แล้ว แถมยังมุกเยอะเสียด้วยสิ จึงไม่ต้องกังวลว่าจะพูดหรือตอบอะไรเมื่ออยู่บนนั้น
และสาเหตุที่เธอต้องประกวดในงานก็เพราะมีคนสมัครน้อย ไม่มีใครอยากชิงรางวัลนางสาวแสนฮา มีแต่คนอยากได้รางวัลประเภทนางงามประจำจังหวัด พวกร่วมประกวดที่เหลือก็คือพวกไม่โดนขอร้องกึ่งบังคับก็คือพวกอยากทำบุญจริงๆ ส่วนเธอคือพวกแรกหรือที่เรียกกันเองว่าตัวประกอบจำยอม จะให้ขายความฮาที่ไม่เคยฮาก็คงพิลึก และนั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมถึงไม่ฉุกใจคิด แถมยังเดินตามสามคนนั้นมาอย่างง่ายดาย กว่าจะรู้ตัวถึงความผิดปกติว่าเคยมีแสงไฟสว่างๆ ได้กลายเป็นแสงสลัวก็สายไปเสียแล้ว
เธอชะงักเท้า... แต่หญิงผิวคล้ำตัวใหญ่สองคนนั้นก็เข้ามาล็อกแขนหิ้วปีกทันที ดิ้นท่าไหนก็ไม่หลุดเพราะเท้าลอยไม่แตะพื้น แหกปากร้องท่าไหนก็ไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมา เนื้อตัวอ่อนแรงฉับพลันอย่างไม่มีสาเหตุแต่ก็ไม่ถึงกับอ่อนปวกเปียก สติยังมีอยู่ครบถ้วน รับรู้ว่าพวกเขากำลังเดินเข้าสู่ละอองหมอกที่ไม่ควรจะมีสักนิดกับอากาศที่ร้อนอบอ้าว
สามคนนั้นเดินเพียงไม่กี่ก้าวสภาพรอบด้านก็เปลี่ยนไป ละอองหมอกสลาย กลายเป็นสภาพป่าทึบทันที มีคนถือคบเพลิงรออยู่อีกสามคน และไม่นานนักเธอก็ถูกพาตัวมายังหมู่บ้านแห่งนี้ นับรวมเวลาจากงานกาชาดมาถึงที่นี่ไม่เกินห้านาทีด้วยซ้ำ มาถึงยังไม่ทันจะได้พักและไม่มีโอกาสถามว่าอะไรเป็นอะไรก็มีคนตะโกนดังมาให้ได้ยินว่า...
“ถูกจู่โจม!”
หญิงสองคนที่หิ้วปีกเธออยู่ยกตัวเธอลอยขึ้นจากพื้นอีกครั้งอย่างรวดเร็ว
สองคนนี้พาเธอมายังบ้านไม้หลังใหญ่กว่าทุกหลังที่มีในหมู่บ้านนี้ หนึ่งในสองที่ควบคุมตัวเธอได้พาเข้ามาในห้องหนึ่ง ส่วนอีกคนแยกจากไป
“แม่หญิงจงอยู่ตรงนี้ อย่าได้เอ็ดไปเทียว หากพวกมันทราบว่าเราได้ตัวแม่หญิงมาแล้วไซร้ ชีวิตแม่หญิงจักมีภัยใหญ่หลวงนัก ฤๅไม่...พวกมันจักฆ่าชาวเราให้หมดวงศ์” หล่อนกระซิบบอกเมื่อต่างนั่งลงตรงกลางห้องที่เป็นห้องว่างๆ นี้และไม่มีอุปกรณ์หรือเฟอร์นิเจอร์ใด
บุญรักษาพยักหน้าทันที เพิ่งได้ยินประโยคแรกนับตั้งแต่ถูกพาตัวมา
หญิงตรงหน้าพูดด้วยภาษาประหลาดแต่เธอกลับแปลความหมายและเข้าใจได้อย่างไรนั้นไม่อาจจะรู้ได้ถึงสาเหตุ รู้แค่ถึงอยากพูดแต่ก็ไม่สามารถเปล่งเสียงได้ จะตะโกนอย่างไรก็ไม่ประสบผล จึงได้แต่อ้าปากพะงาบๆ เท่านั้น
และก่อนจะทำอะไรได้มากกว่าเดิม เสียงเหมือนคนตีกันไกลๆ ก็แว่วมา เรียกให้หันไปมอง แต่ก็เห็นเพียงแค่ฝาบ้านที่ทำจากไม้
บุญรักษารับรู้ถึงเหงื่อที่เริ่มผุด แผ่นหลังมีมากขึ้นและเริ่มจะไหลหยด บนกรอบหน้านั้นมีมากจนต้องยกแขนปาดทิ้งไป เพราะเสียงที่ได้ยินตอนนี้คือโลหะกระทบกันจากการต่อสู้เสียแล้ว!
หญิงคนข้างๆ ยกมือขึ้น ทำท่าให้รู้ว่าเงียบๆ
บุญรักษาพยักหน้าหงึกหงัก กะพริบตาปริบๆ ถึงไม่บอกเธอก็ไม่พูดอะไรอยู่แล้ว ที่สำคัญคือถึงอยากพูดก็ไม่มีเสียง จะให้พูดอะไรได้ ได้แต่เงี่ยหูฟังความเคลื่อนไหว
“ผู้ใดมีนาม อันมีความหมายว่า ‘รักษา’ จงปรากฏแต่เบื้องหน้าข้าพเจ้าโดยไว’ เสียงขึงขังของผู้ชายคนหนึ่งดังให้ได้ยิน
บุญรักษาสะดุ้งตาโตทันที ซวยซ้ำซวยซ้อนจริงๆ เธอเห็นหญิงคนที่อยู่ในห้องด้วยกันกำลังขยับไปตรงผนังด้านหนึ่งของห้อง ก้าวย่องอย่างระมัดระวังไม่ให้เกิดเสียง
หล่อนคนนั้นค่อยๆ ย่อกาย คุกเข่าลงกับพื้น ค้อมตัวลงเล็กน้อย มองลอดรูขนาดเล็กจุดหนึ่งตรงข้างฝา ตัวบุญรักษาอยู่เกือบกลางห้อง ลุ้นตามว่าอีกฝ่ายจะเห็นอะไร แต่ปลายดาบสีเงินวาววับกลับทะลุศีรษะหญิงคนนั้นโดยไม่มีคำเตือน บุญรักษาสะดุ้งสุดตัว ยกมือขึ้นปิดปากตัวเองเร็วพลัน ตัวของเธอสั่นระริก โชคดีที่ไม่ถูกมัดมือมัดเท้า
ผู้คนด้านนอกและคงมีจำนวนไม่น้อยกำลังวิ่งไปทั่ว สังเกตจากเสียงฝีเท้าที่ได้ยิน
บุญรักษาตระหนกมากกว่าเดิม ดวงตายังจ้องดาบที่ทะลุศีรษะหญิงคนนั้นและถูกดึงกลับไปอย่างรวดเร็ว ร่างนั้นฟุบลงกับพื้นทันที คนจำนวนหนึ่งกำลังกรูขึ้นมาบนบ้านหลังนี้
บุญรักษารีบลุกขึ้น มองรอบด้านเพื่อหาทางเอาตัวรอด ผี สาง เทวดา สวรรค์ นรกอะไรลงโทษเธอกันหนอ แต่ก่อนจะได้โอดครวญไปมากกว่านั้น สมองก็สั่งให้ถอดรองเท้า
มือของเธอรีบถอดเร็วรี่ ถอดเสร็จก็เงยหน้ามองไปรอบๆ ห้อง อาศัยแสงสว่างที่มีมากกว่าเดิม รีบเขย่งเดินด้วยปลายเท้าดิ่งไปที่ประตู ฝีเท้าม้าดังกุบกับยิ่งทำให้ความกลัวปะทุขึ้นอีก รู้ว่าเริ่มลนลาน จึงพยายามบอกตัวเองให้ใจเย็นๆ ทั้งที่ความจริงคือขาสั่นสุดๆ
ไม้ขัดกลอนประตูนั้นมีขนาดใหญ่และแน่นหนาระดับหนึ่ง คงพอช่วยถ่วงเวลาได้นิดหน่อย
เธอรีบตรงไปที่หน้าต่าง พยายามไม่มองร่างไร้ลมหายใจของหญิงคนนั้น เรื่องบ้าอะไรกันที่ทำให้ต้องเจอเรื่องแบบนี้กันเนี่ย
และถึงแม้ขาของเธอสั่นจนแทบจะก้าวไม่ออก อีกทั้งผ้าถุงที่ใส่อยู่ทำให้ไม่สะดวกนัก แต่ก็นับว่ามาถึงหน้าต่างห้องที่มีหนึ่งเดียวได้รวดเร็ว ไม่กล้าเข้าใกล้ผนังจนเกินไปเพราะกลัวจะเกิดเหตุการณ์เหมือนเมื่อครู่ ครั้นพอถึงหน้าต่างได้ หน้าต่างแบบบานกระทุ้งก็ถูกเปิดขึ้นจากอีกฝั่ง
บุญรักษาตกใจสุดขีด หวีดร้อง แต่ก็ใช่จะมีเสียง มือรีบคว้าหมับตรงที่จับและดึงปิดทันที ทว่าติดมือของคนอีกฝั่งที่เปิดขึ้นก่อนนั้น
“มีคนอยู่ด้านในอีก” เจ้าของมือตะโกนบอก
‘แย่งกลับมา!’ เสียงในหัวของเธอสั่งการ
บุญรักษาดึงหน้าต่างเข้าหาตัวสุดแรง แต่ก็ถูกแย่งกลับไป พยายามยื้อแย่งเช่นนั้นจนเจ้าของมือที่อยู่อีกฝั่งหลุดออก มันร้องเสียงหลงเพราะความเจ็บ เธอรีบลงกลอนที่เป็นไม้แท่งไม่ใหญ่อย่างเร็วไวแต่ก็ลนลาน
ประตูห้องถูกถีบโครมๆ
คนมือสั่นแทบทำอะไรไม่ถูกแล้วตอนนี้ นึกถึงคุณพระคุณเจ้าให้ช่วยเหลือ ตัวสั่น มือสั่น น้ำตาแทบไหล สิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนจะนานแต่ไม่นานสักนิด ทุกอย่างเกิดขึ้นในเวลารวดเร็วมาก
หญิงสาวถอยห่างออกมา อยู่กลางห้องอีกครั้ง มองรอบด้านเป็นห้องสี่เหลี่ยมเปล่าๆ ก็แทบไม่มีซ่อนที่ไป
เธออยากร้องไห้จริงๆ แล้วตอนนี้
‘ขอพ่อแก้วแม่แก้วช่วยลูกด้วยเถิด’ เพราะประตูนั่นเริ่มคลอนมากขึ้นทุกที
บุญรักษาหันซ้ายหันขวาอีกรอบ ถกผ้าถุงผืนสวยที่เช่ามาจากร้านชื่อดังขึ้นสูงไม่รอช้า เท้าหนึ่งเหยียบโครงไม้ของผนังห้อง โชคดีที่มีโครงแบบเป็นแนวนอนกับแนวตั้งตามประสาบ้านไม้สมัยเก่าจึงง่ายเมื่อต้องปีนขึ้นไป เธอจับและเหนี่ยวตัวเอง ไต่ขึ้นโดยไม่มีพลาด สภาพทุลักทุเลแต่ก็มืออาชีพจริงๆ หมดสภาพหญิงไทยใจงามเพราะผ้าถุงถกขึ้นจนถึงขาอ่อนและคงเห็นอะไรต่อมิอะไรโดยไม่ต้องเดาแล้วตอนนี้
เธอไต่จากด้านล่างมาถึงด้านบนได้ในเวลานับหนึ่งไม่ถึงสิบ ต้องขอบคุณความกลัวตายที่ทำให้ปีนขึ้นมาได้เร็วอย่างเหลือเชื่อ ในใจคิดเพียงว่าโชคดีที่บ้านมุงด้วยหญ้าคาจึงมุดขึ้นมาได้โดยง่าย
บุญรักษารีบหมอบต่ำทันทีเมื่อขึ้นมาอยู่บนหลังคาเรียบร้อย อากาศตอนกลางคืนปะทะผิวให้รู้สึกเย็นวาบ แต่ร่างกายก็ยังร้อนไม่หยุด เธอค่อยๆ ไต่ไปตามโครงไม้อย่างระวังไม่ให้เกิดเสียงทั้งที่มือสั่นตัวสั่น ประคองร่างอวบๆ ของตัวเองไม่ให้พลัดตกลงไป รักษาสมดุลของร่างกายสุดชีวิต นึกถึงบทสวดมนต์ที่พอจะคิดออกไปพร้อมกันด้วย แต่ก็แทบไม่ช่วยอะไรเพราะท่องผิดๆ ถูกๆ
ด้านล่างที่เห็นเริ่มมีแสงสว่างจากกองเพลิง ไฟไหม้บ้านบางหลังไปแล้ว บุญรักษามาถึงอีกฟากหนึ่งของเรือนและน่าจะเป็นห้องตรงข้ามกับเมื่อครู่จึงค่อยๆ ผ่อนลมหายใจ รีบมองดูตำแหน่งแลนดิ้งทันที
บ้านหลังนี้ไม่สูงนักจึงน่าจะพอจะหย่อนตัวกึ่งกระโดดเมื่อใกล้ถึงพื้นแบบไม่เจ็บตัวเท่าไร สรุปได้ดังนั้นจึงมองซ้ายมองขวาให้แน่ใจอีกครั้งหนึ่ง ไม่มีคนแน่นอนจึงรีบพาตัวเองลงไป หาจุดที่มืดและปลอดภัยที่สุด ทว่ายังมีเสียง ‘ตุบ’ เบาๆ ขณะลงมาถึงพื้นพร้อมกับอาการจุกเสียดพอประมาณ แม้จะเก็บคองอเข่าช่วยบรรเทาน้ำหนักที่ไม่น้อยของตนเองไปแล้ว
‘สัญญาเลยค่ะว่าจะลดน้ำหนักจริงจังหลังจากนี้โดยไม่มีข้อแม้อีก’ สัญญากับตัวเองไปก็ขยับลุกนั่งทั้งสภาพฝุ่นเต็มหลัง เต็มขา เต็มแขน เต็มมือไป
“หลังคาเรือน ตรวจรอบ!” เสียงนั้นบ่งบอกว่าพวกมันรู้ตัว
บุญรักษารีบลุกขึ้น วิ่งอ้าวทันที สภาพที่สไบปลิว ถกผ้าถุง วิ่งหน้าตั้งทั้งเท้าเปล่าคงดูไม่จืด ที่สำคัญคือวิ่งเร็วผิดรูปร่าง หนีผียังไม่น่ากลัวเท่าหนีคน วิ่งสะเปะสะปะไม่รู้ทิศทาง ความสว่างเริ่มลดลงแต่ก็ยังเหลียวมองด้านหลังเป็นระยะโดยไม่หยุด กระทั่งมาอยู่ที่หน้าบ้านหลังน้อยยกพื้นสูงตรงท้ายหมู่บ้าน มีกองหญ้าแห้งๆ สูงเท่าตัวคนกองสุมกับพื้นดินอยู่ใต้เรือนนั้น จึงรีบคลานเข้าไป เธอซุกตัวหอบหนักอยู่ตรงนี้ครู่หนึ่งจึงรู้ว่าเป็นกองฟาง ไม่พ้นว่าแท้จริงบ้านหลังน้อยคงเป็นยุ้งฉางเอาไว้เก็บข้าวเปลือก
เธอหายใจแรง คอแห้งเป็นผง เหนื่อยแทบขาดใจ ไม่เคยวิ่งหนีอะไรแบบนี้มาก่อนในชีวิต มองไปรอบๆ อีกครั้ง ด้านหลังเป็นป่า ครั้นหันไปมองหน้าหมู่บ้านที่วิ่งหนีมาไฟก็เริ่มลามมากขึ้นทุกที ดูเหมือนคนพวกนั้นเริ่มจะเบนทิศทางมาตรงนี้ที่เธอซ่อนตัวอยู่
บุญรักษาแอบสะอื้น ตัวนั้นยังสั่นเทา กลัวจับใจ... กลัวมากจนไม่รู้ว่ากำลังกลัวอะไรกันแน่ เธอมองเข้าไปในป่าอีกครั้ง หนทางนั้นมืดสนิท ไม่รู้ว่าจะมีอะไรอยู่ในนั้นบ้าง แต่อีกด้านก็เต็มไปด้วยผู้ชายร่างกำยำที่กำลังฆ่าคนไม่หยุด เธอยกมือขึ้นท่วมหัว
‘คุณพระคุณเจ้าคุ้มครองลูกด้วย บุญของลูกอยู่ที่ไหน...ขอให้คุ้มครองลูกด้วยเถิดเจ้าค่ะ’
คิดเช่นนั้นก็บ่ายหน้า คลานออกไปจากตรงนี้ มุ่งเข้าป่าด้านหลังหมู่บ้านทันที ก่อนจะลุกขึ้น วิ่งหนี พร้อมๆ กับอยากจะร้องไห้เต็มทน

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 22 พ.ย. 2557, 00:49:57 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 10 ธ.ค. 2557, 22:20:42 น.
จำนวนการเข้าชม : 1949
<< บทนำ | บทที่ 1 (ส่วนหลัง ครบ 100%) >> |

ใบบัวน่ารัก 22 พ.ย. 2557, 07:17:23 น.
จะเป็นนางเอกของคุณอ้อย ต้องอดทนนะ บุญรักษา นะ
วิ่งๆๆไปก่อน เด๋ว จะส่ง นางยัก เรื่องยอพระกลิ่น ไปช่วยนะ
คิริๆๆ
จะเป็นนางเอกของคุณอ้อย ต้องอดทนนะ บุญรักษา นะ
วิ่งๆๆไปก่อน เด๋ว จะส่ง นางยัก เรื่องยอพระกลิ่น ไปช่วยนะ
คิริๆๆ

ปรางขวัญ 22 พ.ย. 2557, 09:08:39 น.
ขอบุญรักษาด้วยนะคะ คิดภาพตามที่คุณอ้อยบรรยายแล้วตื่นเต้น
ขอบุญรักษาด้วยนะคะ คิดภาพตามที่คุณอ้อยบรรยายแล้วตื่นเต้น

คิมหันตุ์ 22 พ.ย. 2557, 11:36:47 น.
คิดชื่อมิออกเลยยยยย. แต่ว่าตื่นเต้นดีค่ะ
คิดชื่อมิออกเลยยยยย. แต่ว่าตื่นเต้นดีค่ะ

สุชาคริยา 22 พ.ย. 2557, 14:40:23 น.
@คุณใบบัวน่ารัก = 555555 ใช่เลยค่ะ จะเป็นนางเอกของอ้อยต้องอดทนจริงๆ ค่ะ // รอนางยักษ์มาช่วยค่ะ 5555
@คุณปรางขวัญ = ดีใจที่ตื่นเต้นไปด้วยกันค่ะ จุ๊บๆ
@คุณคิมหันตุ์ = 55555 อะจ้า จุ๊บๆๆ
@คุณใบบัวน่ารัก = 555555 ใช่เลยค่ะ จะเป็นนางเอกของอ้อยต้องอดทนจริงๆ ค่ะ // รอนางยักษ์มาช่วยค่ะ 5555
@คุณปรางขวัญ = ดีใจที่ตื่นเต้นไปด้วยกันค่ะ จุ๊บๆ
@คุณคิมหันตุ์ = 55555 อะจ้า จุ๊บๆๆ

แว่นใส 22 พ.ย. 2557, 16:05:51 น.
ขอให้บุญรักษาสมชื่อนะ
ขอให้บุญรักษาสมชื่อนะ

สุชาคริยา 22 พ.ย. 2557, 17:27:05 น.
@คุณแว่นใส = อ้อยจะพยายามรักและถนอมให้มากที่สุดค่ะ ว่าแตร่...ชื่อบุญรักษานี่ต้องเจออะไรแบบว่าบุญรักษาสิคะ เรื่องจะได้สนุก ไม่อย่างนั้นไม่สมชื่อนาง - ฮา
@คุณแว่นใส = อ้อยจะพยายามรักและถนอมให้มากที่สุดค่ะ ว่าแตร่...ชื่อบุญรักษานี่ต้องเจออะไรแบบว่าบุญรักษาสิคะ เรื่องจะได้สนุก ไม่อย่างนั้นไม่สมชื่อนาง - ฮา

สุชาคริยา 22 พ.ย. 2557, 17:31:41 น.
@คุณ Tukta Sangarch = (เพิ่งเห็นว่ามีคอมเม้นท์ถัดลงไปที่มาจากเฟชบุ๊ค - ขออนุญาตตอบตรงนี้นะคะ) ดีใจมากๆ ที่ติดตามค่ะคุณตุ๊กตา ส่วนเป็นเล่ม อันนี้ไม่แน่ใจจริงๆ ค่ะว่าจะเสร็จเมื่อไร เพราะไม่อยากทำงานแบบเร่งเลยค่ะ เร่งงานทีไรงานได้ออกเล่มเร็วก็จริงแต่เนื้อเรื่องไม่สวยอย่างที่คิดค่ะ เลยคิดว่าเรื่องนี้ค่อยๆ ทำไป คือก็เขียนทุกวันค่ะ แต่ต้องทิ้งเวลาเพื่อคิดหาฉากที่ดีที่สุดสำหรับแต่ละบทแต่ละซีนค่ะ คือหากเขียนแล้วไม่สวยก็ไม่เสียดายที่จะลบทิ้ง แล้วค่อยเขียนใหม่ แต่ถ้าเร่งก็จะกลายเป็นว่าไม่มีเวลาทบทวนและคิดว่าฉากนั้นดีพอหรือไม่เพราะต้องรีบส่ง เลยคิดว่าทำงานทุกวัน แต่จะไม่กำหนดเวลาเสร็จ ไม่อย่างนั้นคงจะกู้ชื่อกลับมาไม่ได้แน่ๆ ค่ะ (- - ')
@คุณ Tukta Sangarch = (เพิ่งเห็นว่ามีคอมเม้นท์ถัดลงไปที่มาจากเฟชบุ๊ค - ขออนุญาตตอบตรงนี้นะคะ) ดีใจมากๆ ที่ติดตามค่ะคุณตุ๊กตา ส่วนเป็นเล่ม อันนี้ไม่แน่ใจจริงๆ ค่ะว่าจะเสร็จเมื่อไร เพราะไม่อยากทำงานแบบเร่งเลยค่ะ เร่งงานทีไรงานได้ออกเล่มเร็วก็จริงแต่เนื้อเรื่องไม่สวยอย่างที่คิดค่ะ เลยคิดว่าเรื่องนี้ค่อยๆ ทำไป คือก็เขียนทุกวันค่ะ แต่ต้องทิ้งเวลาเพื่อคิดหาฉากที่ดีที่สุดสำหรับแต่ละบทแต่ละซีนค่ะ คือหากเขียนแล้วไม่สวยก็ไม่เสียดายที่จะลบทิ้ง แล้วค่อยเขียนใหม่ แต่ถ้าเร่งก็จะกลายเป็นว่าไม่มีเวลาทบทวนและคิดว่าฉากนั้นดีพอหรือไม่เพราะต้องรีบส่ง เลยคิดว่าทำงานทุกวัน แต่จะไม่กำหนดเวลาเสร็จ ไม่อย่างนั้นคงจะกู้ชื่อกลับมาไม่ได้แน่ๆ ค่ะ (- - ')

นักอ่านเหนียวหนึบ 22 พ.ย. 2557, 19:07:59 น.
น่ากลัววววว ตอนดาบปักฉึก! ยังจะมีถอนดาบกลับอี๊กกกก โอ้ยยย บุญรักษานะ 5555
น่ากลัววววว ตอนดาบปักฉึก! ยังจะมีถอนดาบกลับอี๊กกกก โอ้ยยย บุญรักษานะ 5555

สุชาคริยา 22 พ.ย. 2557, 20:12:55 น.
@คุณนักอ่านเหนียวหนึบ = 5555555 เจอเม้นท์นี้เข้าไป รู้สึกว่าเรื่องนี้จะ S พอสมควรรรร
@คุณนักอ่านเหนียวหนึบ = 5555555 เจอเม้นท์นี้เข้าไป รู้สึกว่าเรื่องนี้จะ S พอสมควรรรร


สุชาคริยา 22 พ.ย. 2557, 21:02:54 น.
@น้อง omelate = ดีใจที่ชอบจ้า คิดทึ้งคิดถึงงงง อิอิ (ปากหวานเนอะ 55555)
@น้อง omelate = ดีใจที่ชอบจ้า คิดทึ้งคิดถึงงงง อิอิ (ปากหวานเนอะ 55555)

Zephyr 23 พ.ย. 2557, 22:09:38 น.
เหยยยย อ่าน อยู่ดีๆตอนดาบทะลุหัวนี้ โทรศัพท์ร่วงเลย 555 สยองดีแท้ อะไรจะเสียบแม่นปานนี้
นางเองดู อึด ถึก ทน มากค่ะ อิอิ
เหยยยย อ่าน อยู่ดีๆตอนดาบทะลุหัวนี้ โทรศัพท์ร่วงเลย 555 สยองดีแท้ อะไรจะเสียบแม่นปานนี้
นางเองดู อึด ถึก ทน มากค่ะ อิอิ

สุชาคริยา 24 พ.ย. 2557, 01:50:35 น.
@คุณ Zephur = กีสสสสส ทำนักอ่านตกใจกันโม้ดดดด 55555 // เรื่องนี้นางเอกทั้งอึด ถึก ทน จริงๆ ค่ะ ฮา
@คุณ Zephur = กีสสสสส ทำนักอ่านตกใจกันโม้ดดดด 55555 // เรื่องนี้นางเอกทั้งอึด ถึก ทน จริงๆ ค่ะ ฮา