ใยรักสีรุ้ง
...เป็นเค้าใช่ไหม หรือ ใครอีกคน

...ที่ช่วยฉุด ให้หลุดพ้น ความหม่นหมอง

...ให้คืนมัว ฟ้ามืดดำ น้ำตานอง

...มีดาวส่อง ครองราตรี ชี้เส้นทาง

หนึ่งในสองฝาแฝด ใครกันนะที่ช่วยชีวิตเธอไว้ รุ้งทองจึงเริ่มปฏิบัติการทดแทนคุณ

แต่หารู้ไม่แผนการครั้งนี้คือที่มาของ...หายนะ
Tags: รัก หง โรแมนติก

ตอน: ตอนที่ ๑ แฝงตัว

พอมาถึงร้านอาหารข้างบริษัทตามที่ได้นัดหมายไว้กับเพื่อน ร่างโปร่งบางแว่นตาหนาในชุดเสื้อเชิ้ตสีนวลแขนยาวติดกระดุมข้อมือแบบเรียบๆชายเสื้อที่อยู่กระโปรงดำยาวกรอบเท้าถูกคาดทับด้วยเข็มขัดเส้นเล็ก ก็กวาดตามองมองไปรอบร้านที่เสริมบรรยากาศด้วยดอกไม้สดหอมกรุ่น พอทำให้ลูกค้าซึ่งส่วนใหญ่เป็นพนักงานบริษัทในเครือธีรเวทา กรุ๊ป ที่ออกมาหาอะไรกินเพื่อเปลี่ยนบรรยาศอันจำเจบนแคนทีนที่อยู่บนชั้นสามให้รู้สึกสดใสขึ้นมาบ้าง เมื่อเห็นเป้าหมายที่เป็นสาวสวยร่างเล็กนั่งจิบน้ำอัดลมอย่างสบายอารมณ์ตรงมุมส่วนด้านในสุดของร้านสุดของร้านที่ติดกับกระจกใส สามารถมองออกไปเห็นผู้คนเดินขวักไขว่อยู่ภายนอก เธอก็ดิ่งไปหาทรุดตัวลงบนเก้าอี้ที่ว่างอยู่ตรงกันข้าม ก่อนฟุบหน้านิ่งลงกับโต๊ะอาหารอย่างหมดสภาพ “โอ้ย เหนื่อย”
“จะถอดใจแล้วเหรอ อุตส่าห์ฝ่าด่านอรหันต์จากคุณหญิงพวกผกามาได้”ชะเอมหรือทิพย์นทีเอ่ยพลางเลื่อนแก้วน้ำเย็นไปให้คนตรงหน้าอย่างรู้ใจ ใครก็รู้คุณหญิงพวงผกาห่วงลูกชายฝาแฝดมากแค่ไหน การคัดเลือกผู้จะเข้ามาทำหน้าที่เลขาหน้าห้องให้ลูกชายของนาง จึงต้องผ่านด่านการทดสอบมหาโหด นอกจากวัดความสามารถในการทำงานแล้วยังต้องมีการทดสอบ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้ใช้งามบังหน้าเพื่อเข้าใกล้ลูกชายของนาง แต่ดันมาจุดใต้ตำตอเอาอย่างจังเมื่อคนที่คุณหญิงเลือกดันเป็นเพื่อนสาวของเธอ
“ท่องเอาไว้สิ ความกตัญญูกตเวที คือเครื่องหมายของคนดี”
เจ้าของร่างแค่ผงกศีรษะขึ้นมาเถียงอย่างอดไม่ได้ อย่างคนที่ไม่ค่อยยอมใคร
“ ท่องแล้ว” หงหรือรุ้งทองเค้นเสียงตอบ เลขานุการสาวยอมรับว่าถ้าไม่เพราะอยากรู้และอยากตอบแทนบุญคุณ รามกับรักษ์ ธีรเวทากุล หนึ่งในสองสองฝาแฝด ใครคนใดคนหนึ่งที่เคยช่วยชีวิตเธอเอาไว้จากการจมน้ำเมื่อสิบปีสามก่อนละก็ หญิงสาวไม่มีวันยอมเข้ามาเป็นพนักงานบริษัทธีรเวทา กรุ๊ป ที่แสนวุ่นวายนี้เป็นอันขาด เพราะนอกจากยุ่งกับงานหลักของตัวเองแล้ว หญิงสาวยังต้องวุ่นวายกับจัดการกับสาวๆที่มาขอเข้าพบกับเจ้านายสุดหล่อไม่เว้นแต่ละวัน ทั้งยังต้องรายงานทุกอย่างให้คุณหญิงพวงผกาแม่ที่รักลูกยิ่งกว่า ‘จงอางหวงไข่’ ทราบอีกด้วย และที่สำคัญ รักษ์ แฝดผู้น้องเจ้านายหนุ่มของเธอ ยังทำทีท่า ไม่ไว้เนื้อเชื่อใจและมองเธอแปลกๆ อีกตะหาก “แต่พอเห็นสายตากับท่าทางแหยงๆเหมือนฉันเป็นพวกปีศาจหรือตัวประหลาดทีไร ฉันก็อดท้อไม่ได้สักที”
“ ถ้าฉันเป็นคุณรักษ์ก็อดแหยงไม่ได้หรอก ดูแกสิ” ทิพย์นทีกวาดตามองเพื่อนตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างไม่เกรงใจ แล้วตัดสินได้ทันทีว่าทำไมเจ้านายสุดหล่อของเพื่อนสาว ต้องทำสีหน้าแปลกๆทุกครั้งที่เธอเข้าใกล้ ก็แม่เจ้าประคุณดูแล้ว‘หลอน’ สุดๆแบบนี้นะสิ เคยเป็นสาวมาดเท่ทอมบอยผมซอยสั้นท่าทางห้าวนิดๆสะกิดบาทาหน่อยๆ บัดนี้ถูกคลุมด้วยวิกผมดำยาวถึงกลางหลังกับชุดแสนเฉิ่ม จัดซะเหมือนอาจารย์ซีบิลล์ ทรีลอว์นีย์ ผู้สอนวิชาพยากรณ์ศาสตร์ในแฮรี่ พอตเตอร์ ขนาดนี้ อย่าว่าแต่จะให้เข้าถามว่า ‘คุณใช่ไหมที่ช่วยฉันเมื่อสิบปีก่อน’ เล้ย แค่เฉียดเข้าใกล้เขายังกลัว ก็มันขัดตายังไงพิกล “เชยสะบัดเลยอ่ะ”
พอได้ยินคำกล่าวหาร่างที่ดูเหมือนหมดอาลัยตายอยากในตอนแรกกระเด้งตัวขึ้นมาราวกับซอมบี้คืนชีพพลางขยับวิกผมดำยาวให้เข้าที่เข้าทาง แล้วกล่าวอย่างเหลืออด
“ก็ใครกันละที่เป็นคนบอกฉันว่า ถ้าอยากได้งานนี้ต้องแต่งตัวเรียบร้อย ไม่ให้เด่น ไม่ให้เป็นจุดสนใจ เพราะคุณหญิงพวงผกาไม่ชอบให้ผู้หญิงสวยๆมาเข้าใกล้ลูกชายท่านไม่ใช่เหรอ ดีไม่ดีอาจจะโดนเด้งกลางอากาศเหมือนแม่เลขาคนก่อนก็ได้”
เลขาณุการคนก่อนของรักษ์ คือ กานดามณีสาวโสดอายุประมาณสามสิบกว่าเรียบร้อยนิสัยดี ได้รับความไว้วางใจจากคุณหญิงพวงผกาให้เป็นเลขาฯตั้งแต่ รักษ์เข้ามาทำงานใหม่ๆ จนกระทั้งเมื่อสองเดือนก่อนเธอก็ถูกไล่ออกโดยไม่ทราบสาเหตุ พร้อมกับเสียงเล่าลือเป็นทำนองว่าเจ้าหล่อนหวังสูงเกินกว่าจะเป็นแค่เลขาฯหน้าห้องธรรมดา แต่รุ้งทองไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก
“ ก็คุณท่านให้ข้อมูลฉันมาอย่างงั้นนิน่า” คนตอบทำหน้าราวกับสำนึกผิดแต่ยังโบ้ยไปให้คุณหญิงวรางศรี ภรรยาหม้ายของนายพลเดโช ผู้ยังอยู่ในแวดวงไฮโซ และเป็นผู้ปกครองของเจ้าตัวอีกต่อหนึ่ง “แล้วฉันก็แค่บอกว่าเรียบร้อย ไม่ใช่เชยสุดซอยขนาดนี้”
รุ้งทองได้แต่กัดฟันกรอด จับไม่เคยได้ไล่ไม่เคยทัน สำหรับผู้เป็นทั้งเพื่อนสนิทที่เปรียบเสมือนพี่น้องคลานตามกันมาและผู้ร่วมงานคนนี้
“เอาน่าแก บางทีเขาอาจยังระแวงเรื่องที่ยายเลขาฯคนก่อนทำเอาไว้ก็ได้” มือเรียวตบเบาๆที่ไหล่เพื่อนอย่างปลอบโยน เมื่อได้อาหารที่สั่งทั้งสองก็ลงมือรับประทานอยากเร่งรีบ
“ ว่าแต่ แก่ถามคุณรักษ์รึยังว่าใช่เค้ารึป่าวที่ช่วยแกตอนจมน้ำอ่ะ”
“ยังไม่มีโอกาสเลย”
“ หาโอกาสได้แล้ว พี่เทียนให้เวลาแค่สามเดือนเอง”ชะเอมกล่าวอย่างกังวลแทน “ นี่มันผ่านมาได้ตั้งเดือนหนึ่งแล้วนา”
“เออ รู้แล้วน่า”รุ้งทองเอ่ยอย่างขอไปที แต่ในใจก็อดคิดกังวลถึงคนที่กำลังกล่าวถึงไม่ได้ เทียนหรือนภนต์ เลิศมนตรีศักดิ์ พี่ชายคนเดียวที่กำลังคร่ำเคร่งอยู่กับกิจการหลายอย่างของครอบครัว อีกทั้งโชว์รูมรถที่พึ่งเปิดใหม่ได้ไม่นานนั้นยังไม่เข้ารูปเข้ารอย แต่ยังอุตส่าห์ ‘กัดฟัน’ อนุญาตให้น้องสาวคนเดียว
เร่งสะสางสิ่งที่ยังค้างคาใจมาหลายปี เพราะเหตุผลร้อยแปดที่เธอยกมาอ้าง
‘ ทำไมต้องทำเรื่องให้มันยุ่งยากนะ’ ขณะพูดหน้าคมยังคงเครียดเคร่งอยู่กับเอกสารตรงหน้า ‘ เข้าไปถามตรงๆเลยก็สิ้นเรื่อง’
‘ หงไม่ใช่พวกฮาร์ดคอร์อย่างพี่เทียนนิ ที่จู่ๆจะให้เดินเข้าไปถาม เฮ้นาย นายใช่ไหมที่ช่วยฉันเมื่อสิบปีก่อน ’ หญิงสาวแสร้งทำเสียงล้อเลียน ‘ มันเขินๆยังไงไม่รู้อ่ะ ’
คนเป็นพี่ยอมละสายตาจากกองเอกสาร จ้องมาทางน้องสาวคนเดียวด้วยสายตาจริงจัง คล้ายจะบอกว่า ‘หน้าอย่างแกอายเป็นด้วยเหรอ’
แล้วก้มหน้าทำงานต่อ ไม่สนใจรังสีอำมหิตที่แผ่ออกมาจากคนข้างตัว.. ’ไม่อยากมีเรื่อง’ ท่องเอาไว้รุ้งทอง
หญิงสาวรู้ว่าเขาไม่ชอบใจกับความคิดแผลงๆของเธอเท่าใดนัก เขาคงกลัวว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยเมื่อสิบสามปีก่อน เพราะหลังจากพ่อแม่จากไปด้วยอุบัติเหตุคราวนั้น ไม่ถึงสองเดือนดีรุ้งทองก็โดนผลักตกน้ำ
แต่ดีที่ฝาแฝดธีรเวทากุลช่วยไว้ทัน....จนกระทั้งบัดนี้ยังจับมือใครดมไม่ได้...
“ถ้าไม่มีพวกเค้า ก็คงไม่มีหงในวันนี้” เธอให้เหตุผลกับเขา
.....ความกตัญญูกตเวที......เป็นหลักยึดถือในครอบครัว เลิศมนตรีศักดิ์มาตั้งแต่บรรพบุรุษ คนเป็นลูกหลานอย่างเขาจะละเลยอย่างไรได้
เมื่อรุ้งทองมุ่งมั่นที่จะทำ คนเป็นพี่รึจะกล้าห้าม

‘ แล้วงานเราละ ใครจะทำ ’เทียนหมายถึงงานที่เธอต้องรับผิดชอบในการส่วนของการเก็บค่าเช่าที่ดิน อสังหาริมทรัพย์และ รวมไปถึงเก็บค่าเช่าแผงในตลาด และเข้าไปช่วยจัดการอู่ซ่อมรถครบวงจรที่อยู่ตัวแล้วให้เทียนได้มีเวลาเต็มที่กับโชว์รูมใหม่ การเป็นกองหลังที่มีประสิทธิภาพทำให้กองหน้าอย่างเทียนไม่เคยพะวงหลัง
‘ ยายเอมจัดการ’ ยายชะเอมเป็นหัวหน้าแผนกบัญชีของบริษัท รวมทั้งงานจับซ่ายจึงถูกยกมาเป็นยันต์กันตายไปซะทุกเรื่อง

“ แกห้ามลืมนะเว้ย งานวันเกิดยายแพรวเริ่มสามทุ่มคืนนี้ที่ผับ.....แล้วนั้นเสื้อผ้า” ชะเอมปลุกเพื่อนจากพะวังด้วยน้ำเสียงสดใส พลางชี้ไปยังกระเป๋าผ้าสีดำใบย่อมที่ติดตัวมา“จะได้ไม่ต้องย้อนกลับบ้านสวนให้มันยุ่งยาก ฉันจะนั่งแท็กซี่มา ขากลับจะได้กลับด้วยกัน...เข้าใจนะ ”
ชะเอมสั่งผู้เป็นทั้งเจ้านายและเพื่อนเสร็จ ซึ่งช่วงนี้สติสตังไม่ค่อยจะสมประกอบ แถมยังทำหน้าเอ๋อเหมือนพวกวิญญาณไม่รวมกับร่างก่อนแยกกลับไปทำงานของตัวเองต่อที่โชวฺรูมใหม่ รุ้งทองได้แต่มองตามหลังเพื่อนปริบๆ แม้ไม่ค่อยแปลกใจในความรอบคอบราว ‘หยั่งรู้’ ด้วยญาณของอีกฝ่ายเพราะได้พิสูจน์มานักต่อนักแล้ว หรือเพียงแค่คิดว่าต้องการสิ่งใด สิ่งนั้นก็มักจะมาวางลงตรงหน้าด้วยฝีมือทิพย์นทีเสมอ แต่เรื่องหนึ่งที่ยังประหลาดใจ......ใครเป็นเจ้านายใครกันแน่เนี่ย

รุ้งทองเดินดุ่มผ่านลานจอดรถเข้าสู่อาคารสูงยี่สิบชั้นทันสมัยกลางกรุง สมกับเป็นบริษัทนำเข้าและส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีตลาดทั้งในประเทศและประเทศในแถบเอเชียเป็นหลัก ฐานของบริษัทค่อนข้างมั่นคง แม้จะโดนพิษเศรษฐกิจเล่นงานไปช่วงหนึ่ง หากด้วยความหลากหลายของสินค้าทำให้ธุรกิจหยัดยืนอยู่ได้ ทั้งยังพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสในการต่อยอดธุรกิจใหม่ทางด้านความงามและบุกเบิกบริษัททัวร์ในต่างประเทศ ผู้ที่เป็นเรี่ยวแรงในการต่อยอดธุรกิจของตระกูลก็คือบุตรชายฝาแฝดทั้งสองของครอบครัวธีรเวทากุล
ราม แฝดผู้พี่ที่ไม่ชอบอยู่นิ่ง จึงมีหน้าที่ติดต่อประสานงานบินไปบินมาระหว่างประเทศไม่ค่อยได้อยู่ในบริษัท ทำให้รักษ์ ต้องอยู่โยงดูแลทุกอย่างแทนบิดาที่เตรียมตัวปลดเกษียณตัวเอง
เหลือบมองนาฬิกาเรือนเล็กบางเฉียบที่ข้อมือเหลือเวลาสิบห้านาทีก่อนหมดเวลาพักเที่ยง ถึงยังมีเวลาเหลือพอจะได้หายใจหายคออยู่บ้าง แต่หญิงสาวเลือกที่กดลิฟท์ขึ้นไปสู่ชั้นสิบเก้าเพื่อเริ่มทำงานของตนทันที แต่ก็ต้องตาเหลือก เมื่อเหลือบไปเห็นผู้ที่ก้าวตามเข้ามาในลิฟท์ซึ่งมีเพียงคนเดียว ร่างสูงของชายวัยกลางคนแต่งการภูมิฐานสมกับเป็นนักธุรกิจนั้นแนวหน้ากดที่หมายเลขยี่สิบ นั้นเป็นห้องทำงานของนายเกียรติ และ คุณหญิงพวงผกา ประธานและรองประธานบริษัท ตาคมกริบของเขาเบิกกว้างเมื่อเห็นผู้ที่ยืนซุกตัวอยู่ด้านใน ก่อนคลี่ยิ้มอย่างยินดี
ให้ตายดิ้นไปต่อหน้า หญิงสาวอยากสบถออกมาดังๆแทบอยากแทรกตัวตามกำแพงสีมันวาวของลิฟท์
“ อ้าว ยายหง” ชายวัยกลางคน เอือมมือลูบหัวทุยอย่างรักใคร่“ไม่เจอกันนาน เปลี่ยนไปเยอะเลยนะแล้วมาทำไมที่นี่เนี่ย”
“อาหมิง” หญิงสาวยิ้มรับเหวอๆ พลางประนมมือไหว้อย่างนอบน้อม มันก็น่ายินดีมิใช่น้อยที่พบ อาหมิง หรือทรงยศ เลิศมนตรีศักดิ์ น้องชายคนเดียวของบิดาผู้ที่เธอเคารพรักในเวลาอื่น ไม่ใช่ที่นี่
“แล้วอาหมิงมาทำไมละคะ”เธอเลี่ยงที่จะตอบ แต่ยิงคำถามใส่อีกฝ่ายแทน
“แวะมารับอารัชของเราน่ะสิ”รัชนีกร ภรรยาของทรงยศเป็นเพื่อนรักสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ของคุณหญิงพวงผกา ที่แม้จะแยกย้ายกันไปมีครอบครัวแล้วแต่ทั้งคู่ยังติดต่อกันไม่ได้ขาด “ไปลองสปาที่ร้านใหม่ของคุณหญิงมา สั่งอามารับที่นี่”
นี่ก็อีกปัญหาที่เธอไม่อยากเจอ รัชนีกร หญิงวัยกลางคนแต่ดูดีมีสง่าราศีสมเป็นภรรยานักธุรกิจใหญ่และผู้ที่มีชื่อเสียงอยู่ในสังคมชั้นสูง ...ผิดเพียงว่าผู้หญิงคนนี้ เกลียดคุณนิศารัตน์มารดาของเธอ ทั้งที่เป็นเพื่อนร่วมรุ่น แต่เพราะแม่เป็นแค่ลูกชาวสวนธรรมดา หากกลับได้รับความสนใจจากลูกชายเจ้าสัวซง ธงชัย เลิศมนตรีศักดิ์ ผู้ยิ่งใหญ่ทางด้านอสังหาริมทรัพย์ถึงสองคน และหนึ่งในนั้นคือผู้ชายที่เธอหมายตา นั่นคือทรงยศ ผู้ที่เทียวไล้เทียวขือตั้งแต่นิศารัตน์เป็นนิสิตฝึกงานที่บริษัท แต่คนที่แม่เลือกกับเป็นผู้ชายเงียบๆเอางานเอาการ คนนั้นคือหลง หรือ ทรนง เลิศมนตรีศักดิ์
การตัดสินใจในครั้งนั้นของพ่อกับแม่เปรียบได้ดั่งการจุดระเบิดครั้งใหญ่ในครอบครัว ผลของมันทำให้พ่อต้องออกจากบ้านของปู่ ส่วนทรงยศเสียผู้เสียคนอยู่สามปี ก่อนที่จะแต่งงานกับคุณรัชนีกร แม้ระยะหลังพี่น้องทั้งสองจะความเข้าใจกันได้ แต่รัชนีกรยังรักษาความเกลียดชังได้อย่างมั่งคง
คนที่เคยเป็นหนึ่งในทุกๆเรื่องก็อยากเป็นเพียงหนึ่งในใจของคนที่ตนรัก หาใช่ได้ครอบครองเพียงร่างกาย แต่ในใจของเขา ยังมีเงาของใคร ซ่อนอยู่ก้นบึ้งของหัวใจ.. เช่นนี้
ความเกลียดนี้ย่อมส่ผลมาถึงลูกของแม่ด้วย นั้นคือเธอ.......
หญิงสาวลอบระบายลมออกช้าๆด้วยความอึดอัด เห็นทีปฏิบัตการตอบแทนคุณของเธอในครั้งนี้คงเต็มไปด้วยอุปสรรคแน่แท้.. รู้งี้ทำตามที่พี่เทียนแนะนำก็ดี
“เราละมาทำอะไร” ตาคมตวัดไปดูหมายเลข “ที่ชั้นสิบเก้า ติดต่องานเหรอ”
“ค่ะอา”เธอฉีกยิ้มได้ไอเดียจากคนถามโดยบังเอิญ “ห้ามบอกใครนะคะอา”
คนเป็นอานิ่วหน้า แค่ติดต่องานนี่ต้องห้ามบอกใครด้วยเหรอ
ก่อนที่จะตั้งคำถามใดอีก ลิฟท์ก็ส่งเสียงเตือนและเปิดอ้าพร้อมกับคำกล่าวขอลาและแทรกร่างหายไปอย่างรวดเร็วราวกับลมพัดของคนเป็นหลาน
ผ่านด่านทรงยศมาได้อย่างฉิวเฉียดรุ้งทองรีบซุกกระเป๋าที่ได้รับจากทิพย์นทีไว้ใต้โต๊ะทำงานของตนเอง
ก่อนจะเดินยังหน้าห้องรองประธานบริหาร แล้วแอบมองลอดผ่านบานเกล็ด ไปสู่โต๊ะทำงานขนาดใหญ่สีน้ำตาลเข้ม ‘เจ้านาย’ ยังคงนั่งทำงานอยู่ด้านใน เขาเป็นผู้บริหารที่เก่งคนหนึ่ง ทุ่มเท กล้าหาญ มองการณ์ไกลและฉลาดรอบคอบ ซึ่งมันก็คงไม่แปลกที่เค้ายังคงไม่ได้ให้ความไว้วางใจในตัวเธอ หญิงสาวยักไหล่กับตัวเอง พินิจใบหน้าอันเคร่งขรึมของเขาที่ยังคงจดจ่ออยู่กับเอกสารตรงหน้าแล้วระบายยิ้มอ่อนๆที่ริมฝีปากแดงย้อย
ต้องยอมรับว่า รักษ์ ธีรเวทากุล เป็นผู้ชายดูดีมากคนหนึ่ง รูปร่างของเขาสูงตรง ผิวค่อนข้างขาว ใบหน้าคมคายมีไรเคราครึ้มจางๆใต้ริมฝีปากบาง คิ้วเข้มเหนือดวงตาคมติดจะเย็นชานั้นมีรอยแผลเป็นด้านซ้ายตัดเฉียงประมาณสองนิ้ว เวลาเผลอไผลเจ้าตัวมักจะลูบเล่นอย่างลืมตัว ความยโสและถือดีที่แสดงออกก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ทำให้สาวๆต่างก็วิ่งเข้าใส่ หมาย ‘ล่า’ หัวใจอันแสนเย่อหยิ่งของเขา แต่สุดท้ายคนล่านั่นแหละที่กลายเป็นเหยื่อโดยไม่รู้ตัว....
เฮ้อ....นี้เขาเรียกว่า อาการปลื้มรึป่าวนะ

‘เพ้อละ’ ได้แต่บอกตัวเอง

ตึดดดดดด ตึดดดดดดด
เสียงโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานปลุกให้รุ้งทองตื่นจากมายาทางอารมณ์ทั้งมวล เธอยกหูขึ้นรับยังไม่ทันได้เอ่ยคำใด เสียงทุ่มต่ำของคนที่อยู่ในห้องก็แทรกเข้ามา
“รุ้งทองอย่าเอาแต่จ้องได้ไหม” เขาเอ่ยอย่างเนื่อยๆก่อนสะบัดเสียงอย่างหงุดหงิดในตอนท้าย
“หาอะไรให้กินหน่อย ผมหิว”
เธอแก้มร้อนชู่อย่างละอาย
คราวนี้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนดีละรุ้งทอง
...............................



เดือนมีนา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 9 ม.ค. 2558, 01:40:25 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 10 ม.ค. 2558, 01:09:21 น.

จำนวนการเข้าชม : 971





   เจ้าชายผู้ไม่ได้ขี่ม้าขาว >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account