จุมพิตนิทรา
"หากได้พบเธอแค่เพียงในฝัน ฉันก็ปรารถนาจะหลับใหลไปชั่วกาล"

นราภัทร วิศวกรคอมพิวเตอร์สาวมั่นที่ทั้งชีวิตนี้ไม่เคยเชื่อเรื่องลี้ลับเหนือธรรมชาติ
แต่หลังจากไปไหว้พระตรีมูรติ เธอก็ได้พบกับคนที่มาเปลี่ยนแปลงชีวิตเธอ
"เขา" ทำให้เธอยิ้ม ทำให้เธอหัวเราะ ทำให้เธอมีความสุขได้
แต่ "เขา" อยู่แต่ในความฝันของเธอเท่านั้น
นราภัทรแค่ฝันไป? หรือ เขาคือเนื้อคู่ที่สวรรค์ประทานลงในให้?

Tags: โรแมนติก,ดราม่า,ความฝัน,รักในฝัน

ตอน: บทที่ 8/1

8

“มะ...ไม่!” นราภัทรพูดขึ้นมาเป็นคำแรก

“คิดให้ดีๆ ห้ามโกหกนะ” ชายหนุ่มดักคอ

หญิงสาวไม่เคยค้นใจตัวเองเลยสักครั้ง จะบอกว่าไม่ชอบคนคนนี้ก็ดูจะไม่ใช่ เธอปฏิบัติกับเขาผิดจากผู้ชายคนอื่นในชีวิต อย่างน้อยเธอก็ไม่รังเกียจเขาเหมือนที่รู้สึกกับผู้ชายทั่วๆ ไป แต่จะบอกว่าชอบ นราภัทรก็ไม่แน่ใจในความรู้สึกของตัวเอง ถึงไม่สนใจเรื่องคนรักมาแต่ไหนแต่ไร แต่นราภัทรก็มีสเปกของเธออยู่เหมือนกัน

คนที่เธอชอบจะต้อง...เหมือนกับผู้ชายในฝันคนนั้น อบอุ่น ดูแลเธอได้อย่างดีเยี่ยม รักเธอมากขนาดยอมตายแทนได้ ไม่ทิ้งเธอไปในยามที่เธอลำบาก และเป็นเหมือนแสงสว่างในความมืด...

แล้วดูสิว่าคนคนนี้เหมือนกับคนในฝันของเธอตรงไหน นอกจากรอยยิ้มที่เจิดจ้าเหมือนแสงตะวันแล้ว นราภัทรยังมองไม่เห็นอะไรสักอย่างที่ตรงสเปกในตัวผู้ชายคนนี้ ที่เห็นก็มีแต่ความทะลึ่งทะเล้น เจ้าเล่ห์แสนกล...จอมบงการ อ้อ แต่อย่างน้อยเขายังคำนึงถึงความรู้สึกของเธอด้วย

‘ชอบใครสักคน มันเป็นความรู้สึกแบบไหนกันนะ’

ยิ่งคิดก็ยิ่งสับสน นราภัทรจึงตอบว่า “ไม่...ฉันไม่รู้”

เมื่อคำตอบไม่ได้ออกมาในแบบ ‘ใช่ ฉันก็ชอบคุณ’ หรือ ‘ไม่ ฉันไม่ได้ชอบคุณ’ คนที่รอฟังอย่างใจจดใจจ่อก็ถอนหายใจออกมาแรงๆ

“โอเค ถ้าคุณยังไม่รู้ ผมก็จะรอจนกว่าคุณจะรู้ตัวว่าชอบผม”

“ฉันอาจจะรู้ตัวว่าไม่ได้ชอบคุณก็ได้นะ” หญิงสาวแบะปากหยัน

“ไม่มีทาง ผู้ชายในชีวิตของคุณต้องเป็นผมคนเดียวเท่านั้น” ชายหนุ่มพูดอย่างเต็มปาก

“มั่นใจจริงนะ” หญิงสาวชักอยากรู้ว่าเขาไปเอาความมั่นใจมาจากไหน

“ผมมันคนเซนส์ดี เหมือนที่รู้ว่าคุณต้องมาพบกับผมในฝันนี่แหละ จะว่าไป...คุณแพ้พนันผมนี่นา” ชายหนุ่มขยิบตาล้อเลียน

ถ้าเขาไม่ทัก นราภัทรคงลืมไปแล้วว่าพนันอะไรกับเขาไว้ ก่อนถามกลับไปอย่างเซ็งๆ “งั้นคุณต้องการอะไร”

“นี่กำลังคิดว่าผมจะเอาเปรียบคุณอยู่ใช่ไหม” เขาเปิดโปงความในใจของเธอออกมา

“ปกติคุณก็เป็นแบบนั้นอยู่แล้วนี่”

“จริงๆ คุณเองก็ไม่เคยเสียเปรียบผมสักครั้งนะ ไม่ว่าจะบีบคอผมในแกลเลอรี หรือว่าจะลูบไล้เนื้อตัวเปล่าเปลือยของผมในสระว่ายน้ำ หรือที่จับผมกดลงบนหาดทรายเมื่อกี้นี้ เทียบกันแล้วผมว่า ผมเป็นคนถูกเอาเปรียบมากกว่านะ” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยสีหน้าทะเล้น

“คุณ!” เมื่อถูกแฉพฤติกรรมที่ผ่านๆ มา นราภัทรก็มีอาการเหมือนลูกโป่งที่ถูกสูบลมเข้าไปเรื่อยๆ โป่งพองเหมือนจะระเบิดในวินาทีใดวินาทีหนึ่ง

ชายหนุ่มยกมือขึ้นต่างไมค์อีกครั้งแล้วดัดเสียงให้เล็กลง ก่อนร้องเพลงเก่าออกมา “ไม่อยากให้เธอรื้อฟื้น สิ่งที่เธอทำเอาไว้...”

“นี่! หยุดเลยนะ” และแล้วนราภัทรก็ได้คำจำกัดความสำหรับคนตรงหน้าอีกคำ ‘กวนประสาท’

“หรือผมพูดไม่จริง” เขากะพริบตาปริบๆ ทำหน้าไร้เดียงสาแบบทูตสวรรค์ที่ไม่เคยแปดเปื้อนบาป ทำให้หญิงสาวโกรธจนหน้าดำหน้าแดง มือกำแน่นจนเกร็ง นึกอยากจะชกหน้าเขาให้สลบไปซะ เพื่อที่จะได้ไม่พูดอะไรให้เธอโมโหอีก

“ฉันว่าอีกไม่นานฉันต้องกลายเป็นฆาตกรฆ่าคนเพราะคุณแน่ๆ”

“ไม่เอาน่า เป็นฆาตกรไม่สนุกหรอก ถ้าคุณจะรักผมขนาดนั้น เป็น...แม่เสือสาวสุดร้อนแรงถือแส้ไว้ในมือคอยเฆี่ยนผมดีกว่านะ เดี๋ยวผมซื้อแส้กับโซ่และกุญแจมือให้เอง แล้ว...เรามาลองทำตามหนังสือที่คุณอ่านกันดีไหม” วินาทีที่แล้วยังเป็นทูตสวรรค์อยู่เลย แต่ตอนนี้อาการอมยิ้มพลางยักคิ้วของเขาดูราวกับซาตานร้ายเจ้าเสน่ห์ ที่พร้อมทำให้ผู้หญิงทุกคนในโลกกลายเป็นทาส

“ตาบ้า! ฉันบอกคุณไปแล้วว่าฉันไม่ได้อ่านหนังสือเล่มนั้น คุณยังจะมาล้อฉันอยู่อีก แล้วลองทำตามหนังสืออะไรกัน ฉันไม่ทำกับคุณหรอกนะ ทะลึ่ง! ลามก! ทุเรศ! คนผีทะเล! นี่คุณอยากให้ฉันฆ่าคุณหมกชายหาดใช่ไหม” จากที่อยู่นิ่งๆ มาสักพักใหญ่ๆ นราภัทรที่หน้าแดงจัดเพราะทั้งโกรธและอายก็สะบัดมืออีกข้างของเขาทิ้ง แล้วทุบสองมือลงบนแผ่นอกกว้างของคนตรงหน้า

“ไม่นะ คุณจะลองทำตอนนี้เลยเหรอ ถึงตรงนี้จะไม่มีใครเลย แต่คุณช่วยอายพระอาทิตย์กับท้องทะเลหน่อยได้ไหม” ซาตานยังไม่เลิกแหย่

ชายหนุ่มพยายามทนรับแรงทุบจากมือหนักๆ ของหญิงสาว แต่โดนเข้าไปหลายหนเข้าก็เริ่มจุกเพราะเจ็บจริง เขาค้นพบว่าไม่เผชิญหน้ากับหญิงสาวตอนโกรธจะดีกว่าจึงเริ่มวิ่งหนี

“คนผีทะเล ไม่แน่จริงนี่ ถ้าแน่จริงก็หยุดยืนนิ่งๆ ให้ฉันอัดเดี๋ยวนี้นะ” นราภัทรไล่ตามเขาอย่างไม่ลดละ

“ไม่เอา ผมยังไม่อยากเป็นผีทะเลแถวนี้ อยากอัดผมจริงก็ตามให้ทันสิ” เขาแกล้งสำออย

แล้วเกมวิ่งไล่จับก็เกิดขึ้นอีกครั้ง อาจเพราะนราภัทรไม่ได้ออกกำลังกายมานาน พอจับตัวเขาไว้ได้จริงๆ หญิงสาวก็เหนื่อยเกินกว่าจะอัดชายหนุ่ม จึงยืนหอบแฮกๆ อยู่ข้างเขา มือหนึ่งยันเข่าไว้ มืออีกข้างยึดชายเสื้อเชิ้ตสีฟ้าพิมพ์ลายชายหาดหัวหินเอาไว้แน่น

นักโทษหนุ่มเอี้ยวตัวมาสะกิดให้นราภัทรดูพระอาทิตย์

“ดูนั่นสิ พระอาทิตย์กำลังสวยเลย” ระหว่างนั้นเขาก็ถอดเสื้อเชิ้ตลงปูกับพื้นทรายต่างเสื่อ ก่อนจะดึงหญิงสาวให้ทรุดตัวลงนั่งดูพระอาทิตย์ด้วยกัน

ท้องฟ้าเป็นสีส้มเหลือบชมพู หมู่เมฆขาวขอบเคลือบด้วยแสงสีทองอร่ามตาลอยละล่องอยู่บนท้องฟ้ากว้างใหญ่ ขณะที่ผืนน้ำสีครามเปล่งประกายระยิบระยับเมื่อแสงแรกของดวงตะวันอาบไล้ สายลมอ่อนละมุนพัดผ่านกายคนทั้งคู่ไปราวสัมผัสอันอ่อนโยนของคนรัก

“สวยเนอะ” ชายหนุ่มพูดอีกครั้ง

นราภัทรหันมายิ้มให้เขาพลางตอบรับ

“อื้อ สวยมาก...” ท้ายเสียงของหญิงสาวขาดหายไปเพราะชายหนุ่มจับจ้องมาที่ใบหน้าของเธอ เขาไม่ได้หมายความถึงพระอาทิตย์อีกต่อไป นราภัทรรู้ได้เองโดยที่อีกฝ่ายไม่ต้องปริปากบอก แต่เธอไม่รู้ว่าจะละสายตาไปจากคนตรงหน้าได้อย่างไร อีกทั้งในใจก็คิดว่าตอนนี้เขาก็สวยเหมือนกัน

ลมพัดเส้นผมจากด้านหลังมาระวงหน้าเรียวสวยของเขา มันดูเกะกะเสียจนเธออยากปัดออกไป เพื่อให้เธอได้เห็นใบหน้างดงามของเขาเต็มตา

เหมือนมีเวทมนตร์เกิดขึ้นจากดวงตาคู่นั้น ทำให้หัวใจเธอเต้นผิดจังหวะ และเหมือนโดนสาปให้หยุดนิ่ง นราภัทรรู้สึกว่าปากคอแห้งผากจนต้องแลบลิ้นออกมาเลียปาก กลืนน้ำลายลงคอเพื่อดับกระหาย สายตาของเขาทำให้ผิวหน้าของเธอเหมือนฉาบไปด้วยเปลวไฟ มันร้อนไปหมด...ดวงหน้าของชายหนุ่มเลื่อนเข้ามาใกล้เรื่อยๆ จนเมื่อปลายจมูกชนกัน ลมหายใจของเขาและเธอผสมผสานคละเคล้าแทบเป็นหนึ่งเดียวกัน หญิงสาวก็หลับตาลงทันที ไม่ดิ้นรน ไม่ขัดขืน ราวกับยอมรับและรอคอยทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้…

แต่รอแล้วรอเล่าก็ไม่มีอะไรอย่างที่คิดไว้เกิดขึ้นทั้งนั้น

เสียงถอนใจยาวๆ ดังขึ้นเมื่อเขาซบหน้าลงบนบ่าของเธอ นราภัทรจึงลืมตาขึ้น และเพิ่งรู้ตัวว่าเมื่อกี้เธอคาดหวังอะไรจากเขา...
‘เธอหวังให้เขาจูบเธอนั่นเอง!’

หญิงสาวพยายามโยนความผิดให้สมองว่ามันเกิดอาการรวน จนทำให้เธออยากได้จูบจากผู้ชายตรงหน้าซึ่งเธอเพิ่งเคยพบเขาไม่กี่ครั้ง ไม่รู้จักนิสัยใจคอ ไม่รู้แม้กระทั่งชื่อด้วยซ้ำ แล้วเธออยากได้จูบของเขาได้ยังไง หรือตอนนี้เป็นช่วงที่ฮอร์โมนของเธอพลุ่งพล่าน

“ทีหลังอย่ามองผมแบบนั้นนะ” เขาพึมพำออกมาเบาๆ

“แบบไหน” นราภัทรถามสวนออกไป

“แบบที่จะทำให้ผมอดใจไม่ไหว”

“อดใจอะไรไม่ไหว” หญิงสาวถามเสียงพร่า รู้สึกเหมือนกำลังก้าวข้ามไปสู่เขตแดนที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน หัวใจเต้นโครมครามขึ้นมาอีกครั้งหลังจากที่เมื่อครู่พลาดหวังไป

ชายหนุ่มเกลือกหน้าบนบ่าบอบบางอย่างหงุดหงิดไม่น้อย “ผมอยากทำให้คุณหน้าแดงยิ่งกว่านี้ และร้องเรียกชื่อผมดังๆ”

นราภัทรหน้าแดงวาบเพราะจินตนาการโลดแล่นไปไกล แต่ก็ยังต่อปากต่อคำกับเขา “ฉันยังไม่รู้ชื่อคุณเลย จะไปเรียกชื่อคุณดังๆ ได้ยังไง”

“แต่ผมบอกคุณไปแล้ว” เขาทะลึ่งตัวขึ้นมา สองมือจับเข้าที่ไหล่ของหญิงสาว

“แต่ฉันจำไม่ได้” หญิงสาวยอมรับตรงๆ

“โอ้ สวรรค์เล่นตลกสินะ” ชายหนุ่มกลอกตาขึ้นฟ้าด้วยความเหนื่อยใจ ก่อนสบถเบาๆ

“แล้วจะบอกซ้ำไหมล่ะ คราวนี้ฉันจะจำให้ได้” นราภัทรช้อนตาขึ้นมอง ไม่ได้รู้ตัวสักนิดว่ากิริยาของเธอส่งผลอย่างไรต่ออีกฝ่าย และไม่รู้ตัวเลยว่าเธอเริ่มใส่ใจคนตรงหน้ามากขึ้นขนาดไหน

ชายหนุ่มหลับตาลง ท่าทางของเขาดูเหมือนทรมานในสายตาของนราภัทร

“คุณนี่มัน...ยายตัวร้ายชัดๆ”

“หมายความว่ายังไง” นราภัทรเสียงเขียว โกรธที่เขากล่าวหา เธอยังไม่ได้ทำอะไรเขาเลยด้วยซ้ำ ออกจะเป็น...เด็กดีเชื่อฟังเขาทุกอย่าง

“อย่าทำให้ผมคลั่งได้ไหม” เขาเน้นเสียงหนัก

“ฉันไม่ได้ทำอะไรเลยนะ” หญิงสาวแหวขึ้นมา

“คุณทำ เพียงแต่คุณไม่รู้ตัว และตอนนี้ผมไม่รู้จะห้ามใจยังไงไม่ให้แตะต้องคุณอีก”

“ก็...ไม่ต้องห้ามสิ” นราภัทรอุบอิบตอบ

ชายหนุ่มเบิกตากว้างเหมือนโดนผีหลอกตอนกลางวันแสกๆ พลางย้อนถามไปว่า “แล้วเมื่อกี้คุณบอกว่าคุณไม่รู้ว่าชอบผมหรือเปล่าได้ยังไงเนี่ย ในเมื่อคุณเองก็...”

หญิงสาวนิ่วหน้า “เรื่องชอบก็ส่วนเรื่องชอบสิ ฉันก็แค่อยากรู้ว่า...มันจะเป็นยังไง”

“หือ”

“จูบแรกมันจะเป็นยังไง” นราภัทรกัดริมฝีปาก ก่อนจะข่มความอายพูดออกไปหมดเปลือก เธอไม่เคยมีแฟนมาก่อน จึงไม่มีประสบการณ์เรื่องรักๆ ใคร่ๆ เลย มาตอนนี้เธอจึงอยากรู้ว่าจูบจากผู้ชายกวนประสาทคนนี้จะให้รสชาติอย่างไรหญิงสาวไพล่คิดไปถึงรอยจูบหนักแน่นในฝัน ชายคนนั้นที่ดีดเปียโนให้เธอฟัง... ตอนที่เขาจูบเธอนั้น นราภัทรรู้สึกได้ว่าเขาทะนุถนอมเธอมาก เหมือนว่าเธอคือสิ่งมีค่าที่สุดในชีวิตเขา สัมผัสได้ว่าเขาเอาหัวใจตัวเองมาวางให้เธอตรงหน้า เพื่อพิสูจน์ว่าเขารักเธอมากแค่ไหน
รอยจูบนั้นเหมือนดั่งคำสาบานว่าจะมอบความรักนี้ให้เธอชั่วนิรันดร์

แต่คำตอบของชายหนุ่มตรงหน้าคือ...

“คุณฆ่าผมเถอะ”

สีหน้าเหมือนเห็นโลกถล่มลงตรงหน้าของเขาทำให้นราภัทรโกรธมาก

“ไม่จูบก็อย่าจูบสิ ใครง้อคุณกัน” หญิงสาวทำท่าจะลุกขึ้น อายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนี แต่ถูกเขารั้งตัวไว้ก่อน

“ที่ผมไม่จูบก็เพราะว่าคุณไม่ยอมรับว่าชอบผมนี่นา อีกอย่าง...นี่ก็จูบแรก...ของผมเหมือนกันนะ” ชายหนุ่มตะกุกตะกักเป็นครั้งแรก วงหน้าขาวขึ้นสีแดงจางๆ

“โกหกน่า...” นราภัทรหน้าเหลอไปและครางออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ

“ผมก็ไม่เคยมีแฟนเหมือนคุณ จะไปมีจูบแรกได้ยังไง”

“ไม่เคยมีจริงๆ เหรอ” หญิงสาวย้ำอีกที

“ไม่มี ผมก็อยากมีจูบแรกกับผู้หญิงที่ผมก็ชอบเขาและเขาก็ชอบผมนะ” ชายหนุ่มเว้นวรรคไปนิดหนึ่งแล้วสะบัดหน้าหนี พลางยกสองมือขึ้นกอดเข่า ไม่รั้งนราภัทรอีกต่อไป “แต่คุณไม่ชอบผมนี่ แล้วยังคิดจะใช้ริมฝีปากผมเพื่อตอบสนองความอยากรู้ของตัวเองอีก”

นราภัทรไม่เคยเห็นผู้ชายตัวโตๆ ทำหน้ามุ่ยด้วยเหตุผลแบบนี้มาก่อน เพื่อนผู้ชายของนราภัทรแต่ละคนผ่านประสบการณ์มาอย่างโชกโชน แถมยังเอามาเล่าต่อจนทำให้เธอเกือบจะเชื่อว่าผู้ชายทุกคนล้วนโสโครกไม่ต่างกัน แน่นอนเธอก็คิดว่าคนตรงหน้าที่หล่อขนาดนี้ มีเสน่ห์ขนาดนี้ ไม่มีทางที่จะไม่มีแฟน เขาต้องโกหกเธอแหงๆ แต่ท่าทีเขินอายของเขาเมื่อกี้กลับทำให้หัวใจเธอเต้นแรงอย่างห้ามไม่อยู่

ผู้ชายคนนี้นี่รับมือลำบากชะมัด

แล้วเขาก็น่ารักเกินไปแล้ว!!!

ความปรารถนาบางอย่างพุ่งขึ้นสูงเสียดฟ้าเหมือนน้ำพุ และนราภัทรควบคุมมันไม่ได้

คำถามเรื่องชอบหรือไม่ชอบหายวับไปจากหัวทันที สิ่งที่ควบคุมร่างกายเธออยู่คือสัญชาตญาณเก่าแก่ของมนุษย์เท่านั้น
เมื่อปรารถนา ก็ต้องช่วงชิงมา!

“งอนเหรอ” วิศวกรสาวจิ้มนิ้วใส่คนที่สะบัดหน้าหนี

ชายหนุ่มปัดมือบางออกพลางขยับตัวหนีไม่ให้หญิงสาวจิ้มได้อีก

“ฉันอยากได้จูบแรกของคุณ ให้ฉันไม่ได้เหรอ” นราภัทรไม่คาดคิดมาก่อนว่าตัวเองจะไร้ยางอายได้ขนาดนี้ และพูดออกมาโดยไม่กระดากปากเอาเสียเลย หากมารดาเธอมาได้ยินมีหวังเธอคงถูกตีจนลายไปทั้งตัวแน่

“ผมบอกแล้วว่าจะมีกับผู้หญิงที่ชอบ...” ถ้อยคำของชายหนุ่มขาดหายไป เพราะนราภัทรซึ่งไม่รู้ว่าไปเอาความกล้ามาจากไหนเคลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ แล้วประกบปากปิดปากของเขาซึ่งหันมาพูดกับเธอพอดี

หญิงสาวเพียงแค่แตะแผ่วๆ เหมือนสัมผัสบางเบาประหนึ่งปีกผีเสื้อโลมไล้ ก่อนจะเคลื่อนใบหน้าที่แดงจัดเหมือนเลือดออกมา หัวใจก็เต้นระส่ำระสาย ทว่าในดวงตาของนราภัทรเต็มไปด้วยประกายวิบวับ ไม่อาจปกปิดความกระหยิ่มยินดีที่ได้จูบเขาเป็นคนแรก

“จูบแรกของคุณเป็นของฉันแล้ว เบบี๋” หญิงสาวผละออกมาเอ่ยอย่างหยอกเย้า แถมยังใช้มืออันเย็นเฉียบเพราะความตื่นเต้นเชยคางชายหนุ่มเล่นอีก

“ผมคิดแล้วไม่มีผิดว่าคุณนี่มัน...ยายตัวร้ายชัดๆ”

“เพิ่งรู้เหรอ” นราภัทรยักคิ้วอย่างเป็นต่อ ช่างเป็นหัวขโมยจูบที่ไม่มีทีท่าจะสำนึกผิดสักนิด

“รู้มานานแล้ว” หลังจากหายตื่นตะลึง ชายหนุ่มก็เปลี่ยนไป “และคุณเองก็พูดไม่ครบนะ”

“ฉันพูดอะไรขาดไปหรือไง” นราภัทรฉงน

“จูบแรกของคุณก็เป็นของผมแล้วเหมือนกัน...”

หนังแกะที่หุ้มไว้อย่างดีถูกสลัดออกอย่างรวดเร็ว หมาป่าหนุ่มโผเข้าหาหญิงสาวทันที ร่างเล็กล้มลงบนผืนทรายชายหนุ่มตามลงมาทาบทับพร้อมเผยความหิวโหยของนักล่าผู้ปรารถนาจะกลืนกินเรือนร่างบอบบางนี้ให้หมดสิ้น

คนที่คิดจะเปรียบเทียบว่าจุมพิตของเขาคนนี้กับอีกคนเหมือนกันไหมนั้นไม่มีเวลาขบคิดอะไรทั้งสิ้น เพราะกลีบปากอุ่นของเขาประทับลงบนริมฝีปากของเธอ แต่ครั้งนี้ไม่เหมือน ‘จูบแรก’ ที่เป็นฝีมือเธอเมื่อครู่ น้ำหนักที่ลงมาแตกต่างกันอย่างชัดเจน และเปลี่ยนโลกของเธอไปเป็นอีกใบทันที

จุมพิตของชายหนุ่มไม่ใช่จุมพิตเบาๆ ที่แค่เฉียดไล้ แต่เขาบดริมฝีปากลงมาแล้วเริ่มละเลียดชิมริมฝีปากของเธอราวกับเป็นอาหารเลิศรสที่ต้องกินให้หมด ไม่ให้เหลือติดจานสักคำ สมองของหญิงสาวเริ่มมึนตื้อและเหมือนจะหยุดทำงาน เธอพริ้มตาลงรับสัมผัสของเขาอย่างเต็มใจ ปลายลิ้นเปียกชื้นสอดแทรกเข้ามาในโพรงปากอ่อนหวาน เสาะหาลิ้นของเธอแล้วตวัดเกี่ยว สอนให้นราภัทรล่วงรู้ว่า จูบแรกที่แท้จริงควรเป็นอย่างไร

ในยามที่ชายหนุ่มถอนริมฝีปากออกมา ลมหายใจของเธอถี่กระชั้น ดวงหน้าแดงก่ำเหมือนยังล่องลอยอยู่ในเวทมนตร์ของจูบแรก ปล่อยให้เขาประพรมจุมพิตลงไปบนใบหน้าอีกตามใจชอบ เสียงทุ้มนุ่มมีเสน่ห์เหลือแสนยั่วเย้าอยู่ข้างหูของเธอ ก่อนเขาจะขบเม้มที่ติ่งหูอันนุ่มนิ่มเบาๆ

“พร้อมสำหรับจูบที่สองหรือยัง เบบี๋”

นราภัทรไม่ทันได้ตอบ เขาก็ก้มหน้าลงมาอีกครั้ง หญิงสาวเห็นเพียงเงาดำเคลื่อนมาใกล้ แล้วเธอก็หลับตาลงเหมือนถูกมนตร์สะกด รอรับในสิ่งที่เขามอบให้ ความอ่อนหวานดุจดั่งน้ำผึ้งทำให้เธอรู้สึกราวล่องลอยอยู่ในทะเลแห่งความสิเน่หา มือเลื่อนไปเกาะเกี่ยวคอของเขาไว้ราวกับกลัวจะจมหายไปในวินาทีใดวินาทีหนึ่ง ก่อนจะได้สติเมื่อมือร้อนผ่าวของเขาสอดเข้ามาในเสื้อ สัมผัสแผ่นหลังแล้วเริ่มลูบไล้สำรวจเนื้อตัวของเธอ...

...
................................

ใครชอบบ้าง ขอเมนท์หน่อยนะ ^^ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาค่า



ใบบัวน่ารัก
- เพิ่งตอนที่ 8 เอง ใจเย็นอีกนิด

แว่นใส
- พระเอกน่ารักมากๆๆๆๆๆๆๆ (อวยพระเอกสุดๆ)

ปรางขวัญ
- ตอบไม่ได้จริงๆ ขนาดเพื่อนไรต์เตอร์ที่ฝันทำนองนี้ (หมายถึงเจอผู้ชายที่ชอบในฝัน) นางยังไม่มีโอกาสได้เจอในชีวิตจริงเลย





ท้องฟ้า
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 13 ม.ค. 2558, 04:11:59 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 13 ม.ค. 2558, 04:11:59 น.

จำนวนการเข้าชม : 1184





<< บทที่ 7/2   
ใบบัวน่ารัก 13 ม.ค. 2558, 06:47:00 น.
ไหนว่าไม่เคยมีแฟน
แล้วนี้จูบแรก แต่ทำไมดูโชกโชนขนาดนี้อะคะ
จูบแบบนี้ เฮ้ม คือความฝันอีกอะดิ
คนสวยเซง


ปรางขวัญ 13 ม.ค. 2558, 07:43:23 น.
โอวววว first kiss ในฝันน่ารักจัง


แว่นใส 13 ม.ค. 2558, 08:43:04 น.
ช่าย น่ารักที่สูดดดดด


Pat 14 ม.ค. 2558, 19:28:17 น.
น่ารักน่าหยิกจริง


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account