ปิ๊งรัก...หัวใจหลอน
สายรุ้งสาวหน้าหวานและเพื่อนสนิท ลิลลี่มีความฝันที่จะ ทำร้านจัดดอกไม้ เช่นเดียวกับกรีนที วินและไตรรัตน์ที่มีความฝันที่จะเป็นเป็นช่างไม้ ทั้งคู่เริ่มต้นกิจการและจัดพลัดจับผลูได้มาเช่าตึกเปิดกิจการอยู่ตึกข้างกัน และมีเรื่องให้ต้องเขม่นกันตลอดเวลา ในความไม่ชอบก็มีเหตุให้แอบปิ๊งปั๊งกันบ้างเป็นบางจังหวะ ต่อมาทั้งคู่เกิดประสพทุกข์ลาภ ได้งานใหญ่แต่กลับเป็นงานที่ทำให้ซวยถึงขั้นถูกฟ้อง คือกลุ่มนางเอกได้จัดงานวิวาห์เจ้าสัว ที่อยากทำเซอร์ไพร์เจ้าสาวด้วยการจัดพิธีวิวาห์ท่ามกลางสวนดอกไม้ แต่เจ้าสาวดันแพ้เกสรดอกไม้ตาย ส่วนกลุ่มพระเอกได้งานทำชุดโต๊ะสุดอลังการงานแซยิดเตี่ยของเสี่ยใหญ่ ที่ต้องทำหัวมังกรให้ใหญ่ ๆๆๆๆๆๆมาก เพื่อเสริมบารมี และมันก็ใหญ่เกินจนหัวมังกรล่วงมาทับอาเตี่ยพิการ ถูกฟ้องเช่นกัน งานจัดดอกไม้กับงานไม้เล็ก ๆจึงไม่สามารถใช้หนี้ของพวกเขาที่ถูกฟ้องได้ มีเหตุให้ทั้งสองกลุ่มต้องร่วมมือทำบริษัท รับจัดงานศพ HAPPY DEATH ซึ่งมีสโลแกนว่า " ร้องไห้ เสียให้พอ ที่เหลือขอให้เป็นหน้าที่เรา" เรื่องวุ่น ๆจึงเริ่มต้นขึ้น เมื่อนางเอกของเราเป็นคนกลัวผีสุด ๆ แต่ต้องรับหน้าที่จัดดอกไม้หน้าศพ ส่วนพระเอกของเราเป็นโรคประจำตัวแพ้เกสรดอกกุหลาบ แต่มีเซ็นต์เห็นผี เรื่องจะลงเอยอย่างไร เมื่อคู่กัดต้องมาทำงานร่วมกัน ท่ามกลางวิญญาณเฮี้ยนของเจ้าภาพแต่ละงาน และอาการหลอนผีกับแพ้เกสรดอกไม้ ของคู่พระนางที่ดูยังไง ๆ ก็ไม่น่าจะไปกันรอด.................

Tags: กรีนที

ตอน: วันแรกก็เริ่มหลอน

มีใครบางคนเคยบอกว่า ความรัก...เปรียบเสมือนผีเสื้อ...ถ้าเรายิ่งไล่จับ มันก็ยิ่งบินหนี แต่ถ้าเรายืนนิ่ง ๆ มองความรักด้วยความเข้าใจ อดทนรอคอยด้วยความหวังอย่างไม่ย่อท้อ สักวันความรักที่สวยงามก็จะโบยบินมาหาเราเอง....
แต่สำหรับฉัน ฉันจะไม่รอให้ความรักโบยบินมาหาเพียงฝ่ายเดียว เพราะฉันไม่รู้ว่ามันจะอีกนานแสนนานสักแค่ไหน หากแต่ฉันจะแปลงร่างเป็นเจ้าหญิงดอกไม้ที่แสนสวยและหอมหวาน เพื่อที่จะส่งกลิ่นอันเย้ายวนและความงดงามที่ต้องตาตรึงใจ กระตุ้นให้เจ้าชายแห่งความรัก บินมา ... บินมา...บินมาใกล้ ๆ
" รุ้ง.....แกจะหลับน้ำลายยืด ขี้มูกย้อย ลิ้นห้อย แล้วก็ละเมอเพ้อเจ้อถึงเจ้าชายในสวนดอกไม้อะไรของแกนี่ไปอีกนานไหม"

ลิลลี่ เพื่อนสาวคนสนิท ที่กอดคอร่วมหัวจมท้ายกับสาวน้อยขี้เซา... สายรุ้ง... มาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยมาด้วยกัน ตะโกนใส่รูหู ของเพื่อนสาวที่กำลังฝันหวานนอนชักกะตุก กับภาพในฝันที่กำลังยื้อยุดฉุดกระชากเจ้าชายผีเสื้อไม่ให้บินจากไป แต่เมื่อเจ้าชายผีเสื้อในฝันของเธอ ถูกผีเสื้อเกย์ตัวหนึงบินมายื้อแย่งเอาไป ทำให้เธอต้องกรี๊ด ปรี๊ดแตก ตื่นจากภวังค์อย่างอารมณ์เสีย

" ไอ้คนบ้า ไอ้ผู้ชายเฮงซวย แกจะพากันไปทำไร่เลื่อยลอย ตัดไม้ทำลายป่า จะไปฟันดาบ กินถั่วดำ กันที่ไหน ก็ไป ไปเลย ไปให้พ้นจากชีวิตฉัน" สายรุ้งลืมต่าตื่นตะโกนทั้งน้ำตาใส่หน้าเพื่อนสาว

ลิลลี่จับบ่าเพื่อนเขย่าเกินพอดี เพื่อเรียกสติกลับมา
" นี่แก ฉันถามจริง ๆเหอะ ป่านนี้แกยังไม่ลืมนังพี่พอร์ช เกย์คิงตัวพ่อนั่นอีกเหรอ แต่ก็นะ ฉันพอจะเข้าใจ มันเป็นรักแรกของแก"

สายรุ้งสบตาที่หวังดีของเพื่อน พลันในใจก็หวนคิดถึงภาพในอดีต ที่เธอเป็นแฟรชชี่มหาวิทยาลัยปี 1 และแอบกรี๊ดรุ่นพี่ปี 3 ...พอร์ช... หนุ่มหล่อสุดฮอต ขาวคม สะอาดสะอ้าน และเป็นนักรักบี้ของทีมมหาวิทยาลัย ความหวังของสายรุ้งสาวน้อยโลกสวย ถูกสานต่อด้วยกามเทพซุกซนที่ดลให้เธอและพี่พอร์ชสุดหล่อ ได้เข้าชมรมเดียวกัน และสานต่อความสัมพันธ์จากการไปเข้าค่ายอาสาพัฒนาชนบท ที่หมู่บ้านโคกอีแร้ง จนกลายเป็นแฟนกันในที่สุด แต่ทว่าเรื่องราวความรักของสายรุ้งกลับสะดุดอย่างไม่เป็นท่า เมื่อปีต่อมาทีมรักบี้ของมหาวิทยาลัยได้น้องใหม่หน้าหวาน..นายพีท...เข้าร่วมทีม ผลจาการฝึกซ้อมนัวเนียกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันเพื่อเตรียมตัวแข่งขันประจำฤดูหนาวในปีนั้น ทำให้พอร์ชค้นพบตัวเอง
เมื่อฝ่ามืออันหนานุ่ม.....
ซิฟแพคที่ร้อนผ่าว ....
ขนหน้าแข้งที่ชนพร้อมจะชูชันได้ทุกเมื่อ เมื่อได้สัมผัสซึ่งกันและกัน
และไรหนวดอ่อน ๆของพีท เข้าปะทะบ่อยครั้ง
ทำให้พอร์ชเคลิ้มและเผลอไผลไปกับพีท 1 ยกก่อนการแข่งขัน และนับจากนั้นมาความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไปเป็นไปแบบหลบ ๆซ่อน ๆ พร้อมกับสถานะแฟนที่คบกับสายรุ้งกลายเป็นฉากบังหน้า
แต่ทว่า ความลับคาว ๆ ก็ไม่มีในโลด เมื่อวันหนึ่ง สายรุ้งคิดจะทำเซอร์ไพร์ นำของขวัญแอบไปมอบให้แฟนหนุ่มเพื่อเป็นกำลังใจในการแข่งขัน เป็นเหตุให้เธอเจอเซอร์ไพร์กว่า นั่นคือแฟนหนุ่มแสนดี ผู้เป็นความหวังแรกแห่งหัวใจดวงน้อย ๆของเธอกำลังนัวเนียกับพีท white man and handsome ด้วยกัน ทำให้เด็กสาวถึงกับต่อมน้ำตาแตก และโลกทั้งใบก็กลายเป็นสีเทาไปทันที จะมีก็แต่เพื่อนสาวคนสนิท...ลิลลี่...ที่รับรู้ในทุกเรื่องราว คอยปลอบใจ เป็นที่ปรึกษาและให้กำลังใจเพื่อนมาตลอด

" ฉันยอมรับ ว่าฉันยังลืมพี่พอร์ชไม่ได้หมดหัวใจ แต่เรื่องมันก็ผ่านมานานแล้ว วันนี้ยังไง ฉันก็ไม่ใช่นางสาวสายรุ้งที่ขี้แยคนเดิมอีกต่อไปแล้ว" เด็กสาวยิ้มให้เพื่อนสนิท กอดกันแล้วโยกตัวไปมาอย่างที่เคยใช้เป็นท่าประจำทุกครั้งสมัยเรียน ไม่ว่าจะสุข หรือจะทุกข์ เพื่อนไม่เคยทิ้งเพื่อนเสมอ
" โอเค!.. ดี!..งั้นแกทิ้งอดีตเน่า ๆของแกไว้ไว้ตรงนี้ก่อน วันนี้เราต้องเริ่มต้นปัจจุบันให้ดีที่สุดเพื่ออนาคตที่ร่ำรวยของเราทั้งคู่กัน ไปลุก ๆ อาบน้ำแต่งตัว แกนอนเน่ามาตั้งแต่เมื่อวานแล้วเนี่ยะ " ลิลลี่กระเซ้า
" ไอ้บ้า ใครนอนเน่า แกพูดให้ดีนะ ฉันแค่เผลอหลับและลืมอาบน้ำไปก็เท่านั้น"
" หรา..แค่เผลอหลับ ไหน ๆฉันดูซิ เห็บขึ้นหัวแกรึยัง"
" แกว่าฉันเป็นแมวเหรอ"
" หมาย่ะ "
"งั้นฉันก็จะไล่งับแก ให้จมเขี้ยวเลยคอยดู แง่มๆๆๆๆ"
แล้วทั้งคู่ก็ไล่หยอกล้อ เอาหมอนมาทุบกันบนที่นอนเหมือนเมื่อครั้งสมัยคบกันใหม่ ๆ ไม่เปลี่ยนแปลง

****************************************************************************
ตึกแถวสามชั้นย่านคนมีตัง ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลาง วงหน้านวล ของสองสาวในชุดสีชมพูลายดอกไม้ กระโปรงบานแฉ่ง ใส่หมวกปีกกว้างราวกับพจมานสว่างวงค์ยุรยาทเข้าสู่บ้านทรายทอง ทั้งคู่ชอบแต่งตัวแบบมีตีม และต้องคล้ายกันจนใคร ๆก็นึกว่าเป็นคู่แฝด

" ถามจริงเหอะแก ทำไมต้องชุดสีชมพูลายดอกไม้ด้วยวะ ฉันรู้สึกไม่มั่นใจเลยอ่ะ มันหวานเลี่ยนยังไงก็ไม่รู้ ไม่เข้ากับลุคฉันเลย" ลิลลี่อดบ่นไม่ได้ ที่จริงเธอขัดคอ ชุดกระโปรงบานหวานแหววนี้มาตั้งแต่ก่อนซื้อแล้ว แต่ด้วย Concept ของร้านจัดดอกไม้ที่เป็นความฝันของเพื่อนรักและเธอก็เป็นหุ้นส่วนร่วมอยู่ด้วย ทำให้ต้องจำใจแต่งองค์ทรงเครื่องกันมาแบบจัดเต็ม

" FLOWER OF PRINCESS" " ชื่อร้านก็บอกอยู่แล้ว ว่าเป็นร้านจัดดอกไม้สไตล์เจ้าหญิง แกจะให้ลูกค้าเข้ามาแล้วเห็นแกกับฉันเป็นคนใช้ในพระราชวังหรือยังไง แล้วใครเขาจะเชื่อถือ ไป..แก อย่าเยอะ ชุด เชิ้ดอะไรมันก็แค่เปลือกนอกน่ะ ถ้าแกยังคงเป็นแกต่อให้แกถลกหนังหมีมาใส่"
" ชั้นรู้ว่าในใจแกจะพูดว่าหนังหมา" ลิลลี่สวนแบบรู้ทัน
" หมี" สายรุ้งทำเสียงสูงในลำคอ
"หมา"
"เออ หมา เอ้ย! หมี จะยังไงแกก็ยังคงเป็นนางสาวลิลลี่แก่นเซี้ยวจอมซนเหมือนเดิมอยู่ดีล่ะน่า " ลิลลี่ถอนหายใจ แล้วเดินเข้าไปในตัวตึก ตามด้วยเพื่อนรักที่ขำกระจายอยู่ด้านหลัง ทั้งคู่เดินสำรวจที่ทาง ห้องหับ และตกลงเซ็นต์สัญญากับเจ้าของห้องเช่าด้วยเงินเก็บที่สะสมมาตลอดการทำงาน 2 ปีเต็ม
" เรียบร้อย ต่อจากนี้ไปเราก็ไม่ต้องเป็นทาสรับใช้ใครอีก บ๊าย ๆ งานประจำ"
" ใช่ ๆ ความฝันของฉันก็จะได้เป็นจริงสักที ร้านดอกไม้น้อย ๆของฉันที่กำลังจะเติบโตและยิ่งใหญ่ กลายเป็นร้านดอกไม้ในดวงใจของคนทั่วทั้งเอเชีย" สายรุ้งฝันไปไกล
" เพ้อเจ้อน่าแก เอาวันนี้ให้รอดก่อนเถอะ " ลิลลี่รีบเบรคก่อนที่เพื่อนสาวของเธอจะจินตนาการไปไกล แล้วทั้งคู่ก็ช่วยกันจัดร้านดอกไม้ หาตู้โต๊ะมาวางและตกแต่งตามมุมต่าง ๆ ไปพร้อมกับเปิดเพลงคลอเบา ๆอย่างสุนทรีย์ จนกระทั่ง...................

***************************************************************************
ตึง!!!!! ตัง!!!! โครม++++
เสียงเอะอะโววยวาย ตึงตัง แบบอึกทึกครึกโครมจากคูหาข้าง ๆที่อยู่อยู่ติดกัน ทำให้สองสาวตัวแข็งชั่วคราว หยุดแต่งร้าน แล้วหันมามองหน้ากัน
จากนั้นก็พากันย่องออกไปแอบดูลาดเลาที่มาของเสียง ณ.ตึกคูหาข้าง ๆ
" ปี๊ปปปป โป่ปๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เสียงหนึ่งในสามหนุ่มทำเลียนแบบหวอตำรวจ สถานการณ์กำลังฉุกเฉิน สถานการณ์กำลังฉุกเฉิน ทุกคนหลบไปๆๆ แล้วไม้ชิ้นใหญ่กับโต๊ะเก้าอี้ที่หนัก ถึงหนักมากกก อีกสิบกว่าตัวก็ถูกโยนลงมาจากรถ 6 ล้อที่จอดเทียบอยู่หน้าตึก"

" ไอ้วิน เดี๋ยวก็พังหมดหรอกมึง เบา ๆหน่อย" ชายหนุ่ม ยืนหันหลัง เอาผ้าขาวม้าโพกหน้า เหมือนจับกังแบกข้าวสาร จึงไม่รู้ว่าหล่อหรือไม่หล่อ แต่หุ่นกล้ามอ่ะ ใช้ได้ หันไปตะโกนใส่เพื่อน

" โธ่ไอ้หนอนชา ช่างไม้ เค้าไม่กลัวของพังกันหรอกเว้ย พัง..ก็ซ่อมใหม่ได้ ชิล ๆ สบาย ๆ " ว่าแล้วมันก็โยนลงมาอีก

สองสาวสบตากันบ่นพึมพำ .....คนอะไรชื่อหนอนชา...
เมื่อรู้ต้นตอที่มาของเสียงอึกทึกครึกโคม และดูทีท่าว่าจะไม่เลิกราลงง่าย ๆ
เสียงใส ๆก็แหวขึ้นท่ามกลางความชุลมุนในการขนข้าวของเข้าตึกของเหล่าชายหนุ่มแปลกหน้า

"ทนไม่ไหวแล้วโว้ย นี่พวกนาย หัดมีมารยาทกันบ้างได้ไหม มาเอะอะเอ็ดตะโรแบบนี้ ไม่รู้จักเกรงใจห้องใกล้เรือนเคียงเขาเสียบ้าง" สายรุ้งจะห้ามเพื่อนแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว ได้แต่ทำใจกล้าจับมือเพื่อนไว้แล้วแสดงตัวออกไปเสริมทัพ

"ใช่ๆ เบา ๆหน่อยก็ได้ ไม่เห็นต้องเอะอะโวยวายมากมายขนาดนี้เลย"

" อยากอยู่แบบสงบ ๆ เงียบ ๆ ก็ไปเช่าบ้านเดี่ยวอยู่สิคุณ แล้วนี่ พวกผมขนไม้นะครับ ไม่ใช่ขนปุยนุ่น มันถึงจะได้ไม่มีเสียง" หนึ่งในสามหนุ่มตะโกนกลับ

"นี่นาย..." ลิลลี่เริ่มออกท่าทาง ไม่ยอมง่าย ๆ
"ขนไม้หรือตั้งวงเหล้า เสียงดังกว่าขี้เมาแถวบ้านฉันอีก"
" อ้าวพูดงี้ก็สวยซิคุณ..." หนึ่งในสามหนุ่มเริ่มหงุดหงิด
"สวยแล้วจะทำไม ฉันก็สวยของฉันอยู่แล้ว และพวกนายล่ะ ไม่หล่อแล้วยังมาเอ็ดตะโร โวยวาย ไร้มารยาท"
แล้วทั้งคู่ก็เริ่มเถียงกันไม่หยุด
" ใครโวยวาย คุณนั่นแหละโวยวาย พวกผมทำงานกันอยู่ดี ๆ ใคร... ใคร.... มายืนปรี๊ดแตก ฉอด ๆๆๆๆ ใส่"
" ดีตรงไหน คนดีเค้าต้องมีมารยาท........แต่เท่าที่ฉันเห็น.........น ....ไม่มีอ่ะ" ลิลลี่ลากเสียงยาวกวนประสาท
"คุณล่ะดีตาย โหโห นางเอกละครสมัยไหนเนี่ยะคุณ พจมาน สว่างวงค์ หรือว่าจะไปรำวงดนตรีย้อนยุคที่ไหน"
" พอเหอะไอ้วิน" เพื่อนหนุ่มปราม
ลิลลี่หันมาสบตาสายรุ้งแล้วกระซิบเบา ๆ " ฉันบอกแกแล้ว ว่ามันเหมือนพจมาน แกก็ไม่เชื่อฉัน" แล้วหันไปเถียงกลับ
"ใคร นายว่าใคร ไหนพูดใหม่อีกทีสิ"
" ก็ว่าคุณนั่นแหละ"
"นายมีสิทธิ์อะไรมาว่า ฉัน หา ไอ้ปลวกกก"
" ผู้หญิงอะไร นอกจากสวยไม่เท่าไหร่แล้วยังปาก..จุด จุด จุด.....อีก"
" ไอ้ ไอ้ บ้า ไอ้โปรโตซัว ไอ้ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ไอ้ "
ก่อนที่ทั้งคู่จะวางมวยกัน ชาวบ้านแถวนั้นก็พากันเปิดหน้าต่างขว้างของใส่ลงมาที่หน้าร้านของทั้งคู่พร้อมทั้งเสียงด่าเอ็ดตะโร จนทั้งสองฝ่ายต้องถอยทัพกลับไป อยู่ในร้านใครร้านมัน

" ใจเย็นก่อนเถอะเพื่อน" สายรุ้งไม่รู้จะพูดอะไรที่ดีกว่านี้ เปิดร้านวันแรกก็ได้เรื่องซะแล้ว
" ไม่ยงไม่เย็นมันแล้ว อะไร ๆก็ดีหมด แต่สภาพแวดล้อมแบบนี้ บอกตรง ๆนะฉันไม่โอเคอย่างแรงส์ ว่าแล้วลิลลี่ก็เดินฉับ ๆขึ้นชั้นบนไปสงบสติอารมย์

" นายก็ไม่น่าไปต่อปากต่อคำกับเค้าเลย เรื่องไม่เป็นเรื่อง" กรีนที หนึ่งในหุ้นส่วนร้านเฟอร์นิเจอร์ไม้แนวใหม่ ที่ออกมาเปิดร้าน...ศิลป์ไม้แกลอรี่..แบบแฮนเมด ตบบ่าเพื่อนเบาๆ แล้วเก็บของ ต่าง ๆให้เข้าที่เข้าทาง
" จริงอย่างไอ้หนอนชามันพูด กูเห็นด้วย อย่างแรง" ไตรรัตน์ หุ้นส่วนอีกคนเสริม
" เมื่อไหร่พวกมึงจะเลิกเรียกกูว่าหนอนชาสักทีวะ เรียกจนคนเค้าเข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว ดูปากกูนะ กูชื่อกรีนนนนนนนนทีทีทีที" กรีนทำย้ำชัด ๆ
" เออ ไอ้ชาเขียว"
" กรีนที"
" พวกกูชินที่เรียกมึงแบบนี้ว่า บอกตรง ๆกรีนที ( เบะปากแสยะพูด ) ไม่ชินปากว่ะ" วินขำไปพูดไป
" จะว่าไปยัยนกหวีดนั่นก็น่ารักเหมือนกันนะมึง เสียอย่างเดียว ปากร้ายไปหน่อยว่ะ" วินเปิดประเด็นไป ช่วยเพื่อนจัดของไป เปิดร้านใหม่ อะไร ๆก็ยังไม่เข้าที่เข้าทาง
"ใช่ ๆ โดยเฉพาะ เพื่อนยัยพจมาน เรียบร้อยย น่าร๊ากกกก" ไตรรัตน์สไลต์ตัวเข้ามาใกล้ ทำหน้าเจ้าชู้กรุ้มกริ่ม เมื่อนึกภาพสาวน้อยหน้าหวานที่ยืนหลบหลังอยู่ข้าง ๆเพื่อนของหล่อน
" ใครวะเพื่อนพจมาน ยายทองกวาวน่ะเหรอ"
" 555 ทองกวาว เออ ใช่ คนนั้นแหละ "
กรีนทีนึกภาพตามเพื่อน ไปถึงเจ้าของดวงตาโตราวกับตุ๊กตาคู่นั้น ภายใต้อาภรณ์ย้อนยุค แล้วก็อดอมยิ้มไปกับคำสรรพยอกของเพื่อนไม่ได้
พอดีกับที่วินหยิบกล่องดาบโบราญสำหรับแต่งร้านออกมา เขาก็ทำท่าเหมือนนักรบโบราญเจ้าเล่ห์
"ศึกคราวนี้ ยังมิมีฝ่ายใดแพ้ฝ่ายใดชนะ จำเราจะต้องรบกันแบบยืดเยื้อเริ้อรัง อีกหลายต่อหลายครั้ง นะแม่เจ้า เจ้าจงเตรียมจัดทัพรับศึกของพี่ในวันรุ่งให้ดีเถอะเจ้า........พจมาน "
" อย่าบอกนะว่ามึง.........." ไตรรัตน์กับกรีนทีพูดพร้อมกันแล้วหันมาทางวิน
วินชูดาบโบราญ แล้วตะโกนก้อง
" ถูกแล้วสหาย กูว่ากูปิ๊งสาวน้อยปากเสียข้างห้องเข้าให้แล้ว"

พร้อมกับเสียงฮัดเช้ย!!! ของลิลลี่ดังมาจากด้านบน
****************************

“วันนี้พอแค่นี้ก่อนเถอะ กูว่าดันทุรังไปก็ไม่เสร็จหรอก ของแม่งโครตเยอะเลย” ไตรรัตน์เริ่มท้อ เพื่อน ๆก็เห็นพ้องต้องกัน จึงละมืออาบน้ำอาบท่า แล้วขึ้นไปกึ่งนอนกึ่งนั่งสมาคมที่ชั้นบนของตัวตึก
“ นอนเอาฤกษ์ เอาชัย ไหว้เจ้าที่เจ้าทางให้เรียบร้อยนะมึง” วินประนมมือหันไปบอกเพื่อนปรากฏว่า สองหนุ่มหลับเป็นตายเสียงกรนสนั่นหวั่นไหว ไปคนละมุมแล้ว
ในภวังค์...ยามราตรีกาล
เสียงหญิงสาวแว่วหวล สะอื้นไห้มาแต่ไกลลลลลลล
อะ..ฮื้อๆๆๆๆๆๆ ฮืออออๆๆๆๆ เสียงร่ำได้โหยหวน ราวกับดวงใจของหล่อนกำลังจะแตกสลาย
พร้อมกับเสียงหมาหอน บรู๊วววววววว
แทรกเบียดลมหนาววิ่งมาปะทะโสตประสาทคนหลับให้ได้ยินแบบพลิ้วแว่วแผ่วผ่าน
ในฝัน กรีนทีเดินหลงเข้าไปในป่าลึก ที่ปกคลุมไปด้วยไอหมอก พลันเขาก็ได้ยินเสียงร่ำไห้ของหญิงสาวโหยหวนมาแต่ไกล ชายหนุ่มสาวเท้าก้าวไปใกล้แมกไม้ที่มาของเสียง พลันก็ปรากฏภาพหญิงสาวร่างบางนางหนึ่งนุ่งห่มสไบ นั่งพับเพียบร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่หลังแมกไม้นั้น
“คุณครับ คุณ เป็นอะไรหรือเปล่าครับคุณ” กรีนทีเดินเข้าไปหา จะพยุงสาวร่างบางขึ้น
หญิงสาวเงยหน้าสวยขึ้นมา แล้วเปล่งวาจาตรึงจิตกังวานแว่วออกไปว่า
“ คุณจะมาอยู่ที่นี่หรือคะ”
กรีนทีชะงัก รู้สึกเย็นวูบ มองไปรอบ ๆตัว “ เธอหมายถึงที่ไหน”
“ ก็ที่นี่ ที่วัง..เอ้อฉันหมายถึง ที่ตึกนี้”
กรีนทีเงยหน้าขึ้นมาอีกที ภาพป่าลึกหายไป กลายเป็นตึกชั้นบนสุดที่พวกเขานอนกันอยู่ และที่น่าตกใจไปกว่านั้นคือหญิงสาวเมื่อสักครู่ตามขึ้นมาอยู่บนห้องนี้ด้วย
ใช่แน่ ๆ ชัวร์โครต ๆ ......กรีนทีพึมพำกับตัวเอง มือเอื้อมไปกระตุกเสื้อวินที่นอนหลับใหลไม่ได้สติอยู่ข้าง ๆ
ขณะที่หญิงสาวกำลังก้าวเข้ามาหาชายหนุ่ม อย่างช้า ๆ เขาก็นึกถึงภาพในอดีต ตอนที่เขาเป็นเด็ก เขามองเห็นวิญญาณคนตาย ในที่เกิดอุบัติเหตุ และในช่วงวัยรุ่นที่เห็นวิญญาณเด็กสก๊อยซ้อนท้ายเด็กแว้นซ์และบังคับแฮนด์มอเตอร์ไซน์ให้พุ่งลงข้างทาง
“แมร่งเอ้ย ตื่นสิวะไอ้วิน” กรีนทีกระตุกเสื้อเพื่อนแรงเท่าไร วินก็ไม่ยอมตื่น พลันวิญญาณหญิงสาวที่เขาเห็นก็สาวเท้าไวขึ้นเพียงแค่ชั่วพริบตา สายตาทั้งคู่ก็ประสานกันจะ จะ
กรีนทีถอยกรูจนติดผนังห้อง “ อย่า อย่าเข้ามา”
“ ฉันรอคอยเธอมานานแสนนานแล้วรู้ไหม คนที่เห็นฉัน ได้ยินเสียงฉัน คนที่จะมาอยู่เคียงข้างฉันทำให้ฉันรู้ว่าโลกนี้ไม่มีมีฉันเพียงแค่คนเดียว ตั้งแต่ผัวฉันตายฉันก็เหงา ก็ว้าเหว่ และฉันก็เหน็บหนาว อ้างว้าง มานานแสนนานเหลือเกิน” หญิงสาวพูดพลางเข้าสวมกอดกรีนที แต่วืดดด ผ่านร่างกรีนทีไปเพราะเธอเป็นเพียงวิญญาณ จึงไม่สามารถแตะต้องเขาได้
เสียงหมาหอนโหยหวนขึ้น ลมกรรโชกมาด้วยแรงโกรธของวิญญาณสาว ที่แตะต้องตัวชายหนุ่มไม่ได้ บัดนี้ผมสยายพลิ้วสยอง หน้าสวยกลายสภาพพุพอง ใบไม้พัดเข้าหน้าต่าง แบบเดียวกับหนังผี

“โอ้ยยยยย!!! คนจะหลับจะนอน หอนอะไรกันอยู่ได้ “ ลิลลี่ตื่นขึ้นมากลางดึกอย่างหัวเสีย สองสาวนอนชั้นบนของตึกเพื่อเอาฤกษ์ เอาชัยในวัน เปิดร้านเช่นกัน
“ ฉันบอกแกแล้วนะรุ้ง ว่าให้กลับไปนอนที่คอนโด แปลกที่แบบนี้ ใครที่ไหนจะไปหลับลง แล้วยังจะไอ้หมาบ้านี่อีก ไม่รู้มันจะหอนอะไรนักหนา หอนอย่างกะเห็นผี” ลิลลี่ลุกขึ้นเปิดไฟ มองออกไปนอนหน้าต่าง
สายรุ้งพอจะได้ยินเสียงเพื่อนตะโกนแว่วว ๆ กอรปกับแสงไฟสาดเข้าตา เลยตอบไปอย่างเสียไม่ได้ทั้งที่กำลังงัวเงีย “ ก็ไม่เห็นมีอะไรเลยนี่แก หูฝาดไปรึเปล่า ฉันไม่เห็นได้ยินเสียงอะไรเลย” ลิลลี่เอื้อมมือไปปลด หูฟังออกจากหูของสายรุ้ง
“ ฟังเพลงหลับสบาย เต็มสองหูแบบนี้แกคงได้ยินหรอกนะ” สายรุ้งยิ้มแหย

ฝั่งวิญญาณผีสาวเมื่อรู้ตัวว่าจับต้องกรีนทีไม่ได้ ก็เลยเปลี่ยนแผนหันไปทางไตรรัตน์ หวังจะเข้าสิงร่างไตรรัตน์แทน
“ อย่า ไอ้ไตร ตื่น ไอ้ไตร “ กรีนทีร้องเรียกไตรรัตน์ หากแต่ไตรรัตน์ก็ยังกรนคร่อก ๆ
“ไอ้วิน ตื่น ตื่น ไอ้วิน” คราวนี้กรีนทีหันมาถีบเพื่อนวินจนกลิ้งตามแรงตีนไปติดข้างฝา วินงัวเงียตื่นขึ้นมา เป็นจังหวะที่ผีสาวสวมวิญญาณเข้าร่างไตรรัตน์ได้สำเร็จ

เสียงวินถูกถีบเข้าข้างฝาดังโครม กระเทือนมาถึงข้างห้อง
“รุ้ง นี่ไงแกได้ยินไหม” ลิลลี่ลุกขึ้นท่าทางเอาเรื่อง “ ใจคอมันจะหาเรื่องพวกเราทั้งกลางวันทั้งกลางคืนเลยใช่ไหม”
ลิลลี่ลุกขึ้นใส่เสื้อคลุม เปิดประตูจะลงไปข้างล่าง แต่สายรุ้งห้ามไว้ได้ทัน เพราะได้ยินเสียงแปลก ๆ
“ เดี๋ยวก่อนแก แกได้ยินเหมือนที่ฉันได้ยินไหม” ลิลลี่ตั้งสติ เงี่ยหูแนบติดข้างฝา

ฝั่ง ไตรรัตน์เมื่อโดนผีแม่ม่ายเข้าสิง ดวงตาก็เริ่มแดงฉาน โผเข้ากอดกรีนทีหอมซ้าย หอมขวา ปลุกปล้ำไม่หยุด วินงัวเงียตื่นขึ้นมาเห็นสภาพเพื่อนจะลุกก็เจ็บบั้นเอว “ โอ้ย แมร่งสงสัยกูจะยกของหนักไปหน่อย แล้วนี่พวกมึงเล่นอะไรกันวะไม่หลับไม่นอน”
กรีนทีเอามือยันหน้า ขายันเอวไตรรัตน์ไว้ “ เล่นเชี่ยไร ไอ้วินมึงรีบมาช่วยกูเร็ว ๆเข้า ไอ้ไตรโดนผีแม่ม่ายเข้า”
ไตรรัตน์หน้ามืดตามัว ยื่นปากจูจุ๊บ “ มามะ มาเป็นผัวฉันเสียดี ๆ อย่าให้ต้องออกแรง ผู้ชายยยยย โอ้วววว ผู้ชายยยยย ผัวขาาา ผัวขาาาา ” แล้วออกแรงโถมตัวเข้าไปอีก กรีนทีตัวเล็กกว่าเขาจึงอยู่ในสถานะที่เสียเปรียบ ฝ่ายวินกำลังนั่งอ้าปากค้างตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“ แมร่งเอ้ย!!!กูจะไม่ไหวแล้ว มึงรีบทำอะไรสักอย่างนึงได้ไหม”

ฝ่ายสองสาวหันมาสบตากัน
“ ได้ยินไหมแก อะไรผัวขา ผัวขา สักอย่างนึงนี่แหละ “ ลิลลี่ กระซิบ สายรุ้งทำหน้าไม่มั่นใจ ทั้งคู่เลยพากันปีนไปที่ระเบียงห้อง ซ่อนตัวอยู่ในความมืด ณ.จุดนี้สามารถมองทะลุกระจกห้องข้าง ๆได้ เพราะห้องของสามหนุ่มยังไม่ได้ติดผ้าม่าน แล้วภาพที่เห็นก็ทำให้สองสาวอ้าปากค้าง

วินไม่รู้จะช่วยเพื่อนยังไง จึงตัดสินใจวิ่งไปกอดเอว ดึงไตรรัตน์ออกจากตัวกรีนที แล้วทั้งสามคนก็เย่อกันไปเย่อกันมา โดยมีเสียงไตรรัตน์ร้องผัวขา ผัวขา อยู่ไม่ขาดปาก

สองสาวเอามือปิดตา วิ่งกลับมาที่ห้อง
“ โอ้ย !!! ทุเรศที่สุด ตาจะเป็นกุ้งยิงหรือเปล่าก็ไม่รู้” ลิลลี่ขยี้ตา ทำหน้าขยะแขยง
“ นั่นน่ะสิ อุบาทว์ที่สุดเลย ทำไมนะ ผู้ชายมันถึงได้เหมือนกันหมด ผู้หญิงดี ๆมีตั้งเยอะแยะไม่ชอบ มาชอบไม้ป่าเดียวกัน” สายรุ้งสมทบ
“ ไม้ป่าเดียวกันไม่เท่าไหร่ นี่ฟันดาบหมู่ด้วยนะแก ยี้” สองสาวเอาผ้าห่มคลุมโปงหันหลังชนกัน ไม่อยากรับรู้และได้ยินเสียงอุบาทว์

ฝ่ายวินเมื่อเห็นว่าแกะไตรรัตน์ไม่ออกแน่ จึงวิ่งไปตั้งหลัก ตะโกนอีกครั้งว่ามึงไม่ยอมมออกใช่ไหม แล้ววิ่งมากระโดดถีบไตรรัตน์อย่างแรง จนกระเด็นติดข้างฝา วิญญาณผีเจ็บจนกระเจิงหนีออกไป เสียงกรี๊ดดดดดดดดดด ดังลั่น ไตรรัตน์สลบ ไสล ไม่ได้สติ

สองสาวรับรู้ได้ถึงแรงกระแทกที่รุนแรง ดึงผ้าห่มออก หันหน้าเข้าหากัน ผลัดกันพูด
"สงสัยจะชนท้าย สามคันรวด"
"ซาดิสย์"
"นิยมความรุนแรง"
แล้วร้อง”ยี้ๆๆๆๆๆๆๆๆ” พร้อม ๆกัน



สนธยา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 15 ม.ค. 2558, 01:10:13 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 15 ม.ค. 2558, 01:10:13 น.

จำนวนการเข้าชม : 634





   ลูกค้าคนสำคัญ >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account