ปิ๊งรัก...หัวใจหลอน
สายรุ้งสาวหน้าหวานและเพื่อนสนิท ลิลลี่มีความฝันที่จะ ทำร้านจัดดอกไม้ เช่นเดียวกับกรีนที วินและไตรรัตน์ที่มีความฝันที่จะเป็นเป็นช่างไม้ ทั้งคู่เริ่มต้นกิจการและจัดพลัดจับผลูได้มาเช่าตึกเปิดกิจการอยู่ตึกข้างกัน และมีเรื่องให้ต้องเขม่นกันตลอดเวลา ในความไม่ชอบก็มีเหตุให้แอบปิ๊งปั๊งกันบ้างเป็นบางจังหวะ ต่อมาทั้งคู่เกิดประสพทุกข์ลาภ ได้งานใหญ่แต่กลับเป็นงานที่ทำให้ซวยถึงขั้นถูกฟ้อง คือกลุ่มนางเอกได้จัดงานวิวาห์เจ้าสัว ที่อยากทำเซอร์ไพร์เจ้าสาวด้วยการจัดพิธีวิวาห์ท่ามกลางสวนดอกไม้ แต่เจ้าสาวดันแพ้เกสรดอกไม้ตาย ส่วนกลุ่มพระเอกได้งานทำชุดโต๊ะสุดอลังการงานแซยิดเตี่ยของเสี่ยใหญ่ ที่ต้องทำหัวมังกรให้ใหญ่ ๆๆๆๆๆๆมาก เพื่อเสริมบารมี และมันก็ใหญ่เกินจนหัวมังกรล่วงมาทับอาเตี่ยพิการ ถูกฟ้องเช่นกัน งานจัดดอกไม้กับงานไม้เล็ก ๆจึงไม่สามารถใช้หนี้ของพวกเขาที่ถูกฟ้องได้ มีเหตุให้ทั้งสองกลุ่มต้องร่วมมือทำบริษัท รับจัดงานศพ HAPPY DEATH ซึ่งมีสโลแกนว่า " ร้องไห้ เสียให้พอ ที่เหลือขอให้เป็นหน้าที่เรา" เรื่องวุ่น ๆจึงเริ่มต้นขึ้น เมื่อนางเอกของเราเป็นคนกลัวผีสุด ๆ แต่ต้องรับหน้าที่จัดดอกไม้หน้าศพ ส่วนพระเอกของเราเป็นโรคประจำตัวแพ้เกสรดอกกุหลาบ แต่มีเซ็นต์เห็นผี เรื่องจะลงเอยอย่างไร เมื่อคู่กัดต้องมาทำงานร่วมกัน ท่ามกลางวิญญาณเฮี้ยนของเจ้าภาพแต่ละงาน และอาการหลอนผีกับแพ้เกสรดอกไม้ ของคู่พระนางที่ดูยังไง ๆ ก็ไม่น่าจะไปกันรอด.................

Tags: กรีนที

ตอน: ลูกค้าคนสำคัญ

เช้าวันต่อมา ไตรรัตน์ลืมตาตื่นแต่ลุกไม่ขึ้น บ่นเจ็บเอว
“ ทำไมกูรู้สึกระบมแบบนี้วะเนี่ยะ “ วินกับกรีนทีมองหน้ากัน อยู่อีกมุม ยังไม่ไว้ใจไตรรัตน์
“ เมื่อวาน มึง ยกของมากไปป่าวว” วินทำเสียงสูงขึ้นจมูกกลบเกลื่อน
“ เออ ก็อาจจะเป็นไปได้ แต่ ก็ไม่น่าจะใช่ เพราะตอนกูฝึกทหารยังไม่ขนาดนี้เลย” ไตรรัตน์ งง ๆ กับอาการระบมไปทั้งตัว ของตัวเอง
กรีนทีแอบขำ “ เออ ๆ ถ้ามึงไม่ไหว มึงก็นอนอยู่นี่แหละ เดี๋ยววันนี้พวกกูจัดร้านกันเอง ไปไอ้วิน” ไตรรัตน์พยักหน้าขอบใจเพื่อนแล้วนอนต่อ พอลงมาข้างล่างวินก็พูดกับกรีนทีแบบกล้า ๆกลัว ๆ กลัวผีแม่ม่ายจะได้ยิน
“ ไอ้กรีน แล้วคืนนี้มันจะมาอีกไหมวะ” หันซ้ายหันขวาไปรอบ ๆตัว
“ บอกตามตรงนะ ลูกผู้ชาย อกสามศอกอย่างกู สู้ได้ทุกอย่าง ยกเว้น ผะ ผะ ผีว่ะเพื่อน”
กรีนทีชั่งใจ แล้วคิดว่าถ้าเขาทำบุญ กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลไปให้ ผีแม่ม่าย ก็คงไม่มาวุ่นวายอีก ก็เลยจัดแจงซื้อสำรับอาหารหน้าปากซอย และนึกขึ้นได้ว่าร้านสองสาวคูหาติดกันรับจัดดอกไม้ น่าจะมีดอกบัวสวย ๆสักกำให้พวกเขาไปถวายพระ และน่าจะเป็นการผูกมิตรและขอโทษสองสาวไปในตัว ฐานที่เพื่อนวิน สร้างเรื่องไว้เมื่อวาน จึงค่อย ๆเดิน เลียบๆเคียง ๆ เข้าไปในร้านของสองสาว
ร้านดอกไม้ไม่เล็กไม่ใหญ่ ตกแต่งด้วยเชิงเทียน และเก้าอี้สีขาว สไตล์วินเทจ สอดรับอย่างลงตัวกับผนังสีชมพูอ่อน ที่เต็มไปด้วยภาพวาดสตรีสาวชาวฝรั่งเศส ชื่นชมสวนดอกไม้ ในชุดกระโปรงฟูฟ่องราวกับเจ้าหญิงในนิยาย

เช้านี้ลิลลี่ทำหน้าที่ไปสั่งของ สายรุ้งเฝ้าร้านเพียงคนเดียว กรีนทีเดินชมดอกไม้ในแจกันทรงแปลก ๆ ที่ถูกจัดวางอย่างเก๋ไก๋ น่ารักน่าชัง จนมาสะดุดกับดวงตากลมโต บนหน้าหวานๆ ที่กำลังสาละวนอยู่กับการจัดลิลลี่สีขาวช่อใหญ่ ชายหนุ่มถือวิสาสะจ้องมองภาพเบื้องหน้าที่น่าเอ็นดูจนลืมตัว สายรุ้งรู้สึกเหมือนมีดวงตาที่สวยคมจ้องมองเธออยู่จึงเงยหน้าขึ้นสบตา รู้สึกคุ้น ๆแต่ไม่ได้คิดอะไร มัวแต่ดีใจที่มีลูกค้าคนแรกของร้านเดินเข้ามา
“ สวัสดีค่ะ FLOWER OF PRINCESS ยินดีต้อนรับ ไม่ทราบว่าคุณต้องการดอกไม้ประเภทไหนคะ” หญิงสาวยิ้มหวาน ทักทายเสียงใส จนชายหนุ่มประหม่าเล็กน้อย
" เอ่อ... คือ ผม...ผมอยากได้ดอก..ดอกรัก เอ้ยบัวไปถวายพระน่ะครับ"
"คะ" สายรุ้งได้ยินไม่ค่อยถนัด
"ดอกบัว ครับดอกบัว"
สายรุ้งงง เล็ก น้อยกับดอกบัวที่ชายหนุ่มบอก เพราะคิดไปไกลว่าผู้ชายหน้าตาดีขนาดนี้ น่าจะเข้ามาเพื่อซื้อดอกไม้ที่เป็นดอกลิลลี่หรือไม่ก็กุหลาบสักช่อไปให้แฟนสาว
" ไม่ทราบว่า มีไหมครับ"
" อ้อ ดอกบัว ใช่ค่ะ ดอกบัว มีค่ะ" สายรุ้งแก้เขินเดินเข้าไปเปิดตู้ทำความเย็นขนาดใหญ่ สำหรับแช่ดอกไม้นานาชนิด
" นี่ค่ะ ดอกบัว จะให้ฉันจัดช่อให้เลยไหมคะ" สายรุ้งยื่นดอกไม้ให้ พลางส่งยิ้มหวาน เป็นเวลาเดียวกันกับที่ลิลลี่ซื้อของเสร็จ และวินก็เข้ามาสมทบ
" กูดมอร์นิ่งสาว ๆ เฮ้ย ไอ้กรีน มึงได้ดอกไม้ในดวงใจแล้วรึยังวะ" วินตะโกนแหย่สองสาว ลิลลี่หันขวับไปตามเสียง สายรุ้งขยับถอยหนีจากกรีนทีเมื่อพอเดาออกว่าเขาจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากคู่กรณีตึกข้างๆ
" ไอ้เกย์กรุ๊ป แกออกไปจากร้านฉันเลยนะ" ลิลลี่ตวาด
" อ้าวคุณ เป็นแม่ค้าภาษาอะไรเนี่ยะ ไล่ลูกค้าอย่างกับหมูกับหมา" วินล้อเลียนไม่เลิก
"อย่างพวกนายเนี่ยะ แค่นี้มันยังน้อยไป" ลิลลี่ หันขวับจ้องตาวิน
"อารมณ์เสียแต่เช้าเดี๋ยวไม่สวยนะครับ นอกจากไม่สวยแล้วยังแก่ง่าย เหนียงยาน แก้มหย่อน หนังตาตก สะโพกไม่เด้งอีกด้วยนะคุณ" วินสนุกปากกับการต่อล้อต่อเถียงแม่สาวปรี๊ดแตกของเขา
ลิลลี่จับคาง แก้ม หนังตา และสะโพกของตัวเองตามคำพูดของวินแบบไม่รู้ตัว พอคิดขึ้นได้ ก็ชี้หน้าวินแบบเอาเรื่อง
" วันนี้มาหาเรื่องพวกฉันถึงในร้าน เพราะเมื่อวานยังไม่ได้บทสรุปใช่ไหม ได้ ..งั้นฉั้นจัดให้"
กรีนทีกำลังจะยกมือขึ้นห้ามทัพ ลิลลี่ก็ฉวยเอาช่อดอกกุหลาบแดงที่เพิ่งซื้อมาฟาดเข้าที่สองหนุ่ม ไล่ให้ออกไปจากร้าน จนดอกไม้กระเจิง เกสรกุหลาบปลิวเข้าจมูกกรีนที ทำให้เขามึนงง ตาพร่ามัว ขาอ่อนแรงและหมดสติล้มลงทันที

ที่เตียงคนไข้ หมอตรวจดูอาการ แล้วบอกกับสองสาว และสองหนุ่มที่ตามมาด้วยอย่างรังเกียจเดียดฉันท์ซึ่งกันและกันว่า...
" คนไข้แพ้เกสรกุหลาบ"
แล้วทั้งสี่คนก็พูดพร้อมกัน " อะไรนะ!! แพ้เกสรกุหลาบ!!!"
ขณะที่ทุกคนกำลังอึ้ง กับสาเหตุที่ทำให้กรีนทีเป็นลมกลางศึก ลิลลี่ก็ชิงออกตัว
" พวกฉันไม่รับผิดชอบอะไรนะ เพราะพวกนายมาหาเรื่องฉันถึงถิ่นเองช่วยไม่ได้ และที่ตามมาด้วยนี่ ก็แค่มาตามมารยาท" แล้วจิกตามองไปที่วินอย่างจงใจ
"ซึ่งพวกนายคงไม่เข้าใจ เพราะไม่ค่อยจะมี" พูดจบลิลลี่ก็จูงมือสายรุ้งเดินฉับ ๆออกไปทันที สายรุ้งละล้าละลัง ยังหันหลังมองกรีนทีอย่างเป็นกังวล แต่ก็เดินตามแรงฉุดเพื่อนไปอย่างเสียไม่ได้
" จะดีเหรอแก ไม่อยู่ดูเขาสักหน่อย" เมื่อกลับมาถึงร้าน สายรุ้งรู้สึกเป็นห่วง
"ถึงมือหมอแบบนั้น คงไม่ตายง่าย ๆหรอก ไอ้คนที่น่าจะเข้าไปนอนในโรงพยาบาล น่าจะเป็นนายจมูกบาน ปากเสียนั่นมากกว่า ชิ คนอะไรแพ้เกสรดอกไม้ ตลกชะมัด" ลิลลี่เบ้ปาก แสร้งหัวเราะ รู้สึกยังไม่สะใจเพราะตัวต้นเหตุที่เขม่นกับเธอโดยตรงยังคงลอยนวล
สายรุ้งนึกขึ้นได้ " แล้วถ้ามีลูกค้าแพ้เกสรดอกไม้ เราจะ.." ยังไม่ทันพูดจบลิลลี่ก็สวนขวับขึ้นทันที
" โอ้ย!!!! หมื่นคน จะมีสักคนนึงแหละแกที่แพ้เกสรดอกไม้ แล้วไอ้คนที่แพ้เกสรดอกกุหลาบเนี่ยะ ฉันว่ามีไอ้พวกบ้า คนเดียวในโลกนี่แหละ เราคงไม่ซวยเจอพวกโรคประหลาดแบบนี้ง่าย ๆในโลกใบนี้หรอก แกอย่าไปสนใจเลย" ว่าแล้วลิลลี่ก็ปลีกตัวไปเก็บกวาดดอกไม้ ทิ้งให้สายรุ้งนั่งวิตกกังวลกับเรื่องของคนแพ้เกสรดอกไม้ไปพักใหญ่

บ่ายวันนั้น สามหนุ่มหิ้วปีกพากันกลับเข้ามาในร้าน
" กูเป็นคนป่วย กลับต้องมาหิ้วปีกมึง สังขารไม่ให้แล้วยังเสือกจะไปอีก" กรีนทีบ่นอุบที่ต้องพยุงไตรรัตน์มาตลอดทาง
"ก็กูเป็นห่วงมึง แต่มึงไม่เคยเห็นความหวังดีของเพื่อนอย่างกู เสือกมาว่ากูอีก" ไตรรัตน์แสร้งน้อยใจ
"หวังดีประสงค์ร้ายสิไม่ว่า ไอ้ตัวภาระ" กรีนทีทิ้งตัวลงนอนบนโซฟาหลังจากวางไตรรัตน์ลงได้ เหมือนยกภูเขาเอเวอเรสต์ออกจากอก
" ไอ้กรีน มึงรู้ตัวรึเปล่าวะ ว่ามึงแพ้ดอกกุหลาบ" วินยังสงสัยไม่เลิก
กรีนที นึกถึงภาพในอดีต เมื่อครั้งเขายังอยู่ ม. 1 วิ่งเล่นอยู่กับสาวน้อยน่ารักคนหนึ่ง เขาจูงมือเธอไปเดินไปที่ร้านขายดอกไม้ข้างโรงเรียนเพื่อจะซื้อกุหลาบแดงให้ในวันวาเลนไทน์หมายบอกรัก แต่พอแม่ค้ายื่นดอกกุหลาบให้ เด็กชายก็เป็นลม เด็กหญิงร้องไห้ แล้วก็มีเด็กชายอีกคนมาจูงมือเด็กหญิงไป

วาเลนไทน์ ม.3 เขาให้ดอกดาวเรืองแทนกุหลาบเพื่อบอกรักสาวน้อยคนหนึ่ง แต่ แต่ก็โดนเธอตบ

วาเลนไทน์ ม.6 เขาให้ดอกทานตะวันแทนกุหลาบเพื่อบอกรักสาวน้อยคนหนึ่ง แต่ แล้วก็โดนตบเหมือนเดิม
" สรุปว่ามึงเป็นมาตั้งแต่เกิด" วินและไตรรัตน์พูดพร้อมกัน
บ่ายวันนั้นวินกับไตรรัตน์ช่วยกันแต่งร้านจนเสร็จ จะเหลือก็เพียงดาบโบราญ 2 อันที่วินเคยเอามาเล่นเท่านั้น ที่ทั้งคู่ตกลงกันแล้วว่าไม่รู้จะโชว์มุมไหนจึงตกลงใจเก็บไว้ในกล่องตามเดิม

ส่วนกรีนทีนั่งสูดอากาศอยู่ที่ระเบียงชั้นบน สายรุ้งเห็นเข้าและคิดได้ว่าเขาสั่งดอกบัวไว้จึงแอบเอามาวางให้ที่ระเบียงข้าง ๆ โดยไม่ให้กรีนทีรู้ตัว เมื่อชายหนุ่มหันมาอีกทีและพบช่อดอกบัวที่ถูกพับกลีบเรียบร้อยสวยงาม ก็แอบยิ้มและคิดถึงใบหน้านวลกับดวงตากลมน่ารักคู่นั้น

***********************************************

ที่วัดใกล้ปากซอย ไตรรัตน์บ่นพึมพำเมื่อเข้าเขตอุโบสถ
" พวกมึงจะมาวัดกันทำไมวันนี้วะ กูยิ่งเดินไม่ถนัดอยู่ รอให้กูหายก่อนไม่ได้รึยังไง"
วินกับกรีนทีหันมาพูดพร้อมกัน " ไม่ได้!!!"
เมื่อถึงกุฏิเจ้าอาวาสชายหนุ่มทั้งสามก้มลงกราบหลวงพ่อ พร้อมกัน
" เจริญพรโยม"
" พวกกระผมจะมาทำบุญ ถวายสังฆทาน อุทิศส่วนกุศล ให้กับเจ้ากรรมนายเวรขอรับหลวงพ่อ"
กรีนที ขยับดอกไม้และอุปกรณ์ต่าง ๆที่พวกเขาเตรียมมา ไว้หน้าหลวงพ่อ
หลวงพ่อจ้องหน้ากรีนทีอยู่ครู่หนึ่งจึงเอ่ยขึ้นว่า
" เจ้ากรรมนายเวรของเรานั้น นอกจากบุญกรรมที่ได้กระทำเกี่ยวเนื่องกันมาแล้ว บางทีเขาก็มีเหตุให้ต้องพึ่งพาอาศัยเรา จึงได้ติดสอยห้อยตาม และข้องแวะกันอยู่ทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ ถ้าเขาบรรลุวัตถุประสงค์ที่ต้องการเขาก็ไป แต่ถ้าไม่แม้เราจะอุทิศส่วนกุศล ผลบุญไปให้ เขาก็จะยังคงเวียนว่าย ไม่ไปไหน จนกว่าจะได้ในสิ่งที่เขาต้องการ"
ทั้งสามมองหน้ากัน
" หมะ หมาย หมายความว่า แม้เราจะอุทิศส่วนกุศลให้แล้ว ผีแม่ม่ายก็อาจจะยังไม่ไปผุดไปเกิด ใช่ไหมวะ" วินกระซิปกับกรีนที แม้เสียงกระซิบจะแผ่วเบา แต่ด้วยความที่หลวงพ่อวิปัสนากรรมฐานมานานจึงหยั่งรู้และอ่านความคิดคนออก ก็ได้เปรยออกมาลอย ๆว่า
" ผีน่ะมันไม่มีหรอกโยม วิญญาณต่าง ๆนาๆ ก็ล้วนเป็นจิตปรุงแต่งกันทั้งหมดทั้งสิ้น เอ้าว่าตามอาตมา" แล้วหลวงพ่อก็เริ่มนำสวดถวายสังฆทาน วิญญาณของผีแม่ม่ายที่นั่งเล่นอยู่ในตึกก็ล้อมรอบไปด้วยแสงสว่างและหายวับไป พร้อมกับรอยยิ้มอันเปี่ยมสุข
****************
วันที่สองของ สองร้านใหม่
เริ่มมีลูกค้าในย่านนั้นรู้จักร้านของชายหนุ่มและหญิงสาวมากขึ้น จึงมีออเดอร์ทั้งในส่วนของงานไม้และช่อดอกไม้เข้ามา ชายหนุ่มหญิงสาวต่างขะมักเขม้นทำงานของตนเองอย่างสุดฝีมือ
ในส่วนของศิลป์ไม้แกลลอรี่นั้น กล่องไปรษณีย์ไอเดียบรรเจิดรูปทรงต่าง ๆของกรีนที ได้รับความสนใจจากคนในละแวกนั้นมาก คนแรกที่ซื้อไปต่างพากันบอกต่อ ใครไปใครมาเห็นกล่องรับจดหมายหน้าบ้านไอเดียเก๋ก็ถามถึงร้านที่ทำและตามมาสั่งทำแทบทุกราย
“ สวัสดีครับพี่สาวคนสวย ไม่ทราบว่ามีอะไรให้ ศิลป์ไม้แกลลอรี่ อย่างพวกเรารับใช้ครับ” วินต้อนรับลูกค้าด้วยอาการ HAPPY สุด ๆ เพราะได้แต่มองรองเท้าส้นสูงที่แสนสวย แต่พอไล่เงยขึ้นไปเรื่อย ๆ จากหน้าแข้งที่เต็มไปด้วยขน หุ่น ทรง หน้าอกและใบหน้า อาการHAPPY ก็มลายหายไปสิ้น
“ แหม ยังหนุ่มยังแน่นกันทั้งนั้นเลย พี่นึกว่าพวกเธอจะแก่” ว่าแล้วไฮโซประเภทสองที่สวมชุดขน มิ้งกรุยกรายราวกับชุดฟินนาเล่ย์ในงานเดินแฟชั่นโชว์บนเวทีแคทวอค ก็เอานิ้วจิ้มที่ซิปแพคของวิน
“ จะเหี่ยว” แล้วเดินเยื้อยงกรายกรีดนิ้วไปจิ้มที่ต้นแขนของไตรรัตน์ที่กำลังประกอบชิ้นงานอยู่
“จะหงอก” จากนั้นก็เดินไปลูบไล้เส้นผมของกรีนที ที่กำลังทำสีชิ้นงานอยู่ “ เหมือนช่างไม้ทั่วๆไปเสียอีก”
กรีนทีเบี่ยงตัวหลบ ยิ้มให้ลูกค้าแบบเสียไม่ได้ จนแก้มไปโดนสีชิ้นงานอีกชิ้นที่ยังไม่แห้งดี
“ อุ๊ตต๊ายยย!! เลอะหมดแล้วพ่อหนุ่ม มามะ เด๋วพี่เช็ดให้” ว่าแล้วลูกค้าไฮโซสาวประเภทสอง เชยคางกรีนทีขึ้นแบบบังคับนิด ๆแล้วค่อย ๆหยิบผ้าเช็ดหน้า มาบรรจบลูกไล้ที่วงแก้มคมคายของเขา เป็นเวลาเดียวกับที่สายรุ้งเอาขยะมาทิ้งหน้าตึกเห็นเข้า ก็ยักไหล่ ทำท่าขยะแขยง ขนลุกเข้าร้านไป
กรีนทีเห็นท่า ลูกค้าจะเช็ดไม่เลิก และเริ่มลามปามลงไปที่ซอกหู ซอกคอของเขา ก็เบี่ยงหน้าหลบแบบมีชั้นเชิง
“ อึ่มมม ไม่เป็นไรครับพี่ ขอบคุณมากครับเดี๋ยวที่เหลือผมจัดการต่อเอง” กระเทยไฮโซทำหน้าเซ็ง
“ ว่าแต่คุณพี่มีอะไรให้พวกผมรับใช้ครับ” กรีนรีบออกตัวกลัวเสียลูกค้า
“ ก็ไม่มีอะไรมาก...เห็นคนเค้าพูด ๆๆๆ กันว่าร้านของพวกเธอ สร้างสรรค์งานไม้ได้สวยเริ่ด สะแมนแตน แล้วชั้นคุณนายแอ่นแอ๊นน มดแดงตัวน้อยๆ ”
สามหนุ่มผลัดกันพูดล้อเลียนเบาๆ
" แอ่นแอ๊นนนน"
" มดแดง"
"ตัวน้อย ๆ "
" น้อยกว่าช้างหน่อยนึง"
“ YES !! แม่นนนนนนน เก่งมาก ท่องไว้นะคะผัวขา เอ้ย!! คุณน้องขา ชั้นคุณนายแอ่นแอ๊นน มดแดงตัวน้อยๆ ผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในย่านนี้ กำลังจะสร้างรัง ซึ่งก็คือคฤหาสหลังใหม่ ที่อยู่ท้ายซอยโน่นนน" คุณนายมดแดง กรีดนิ้วที่สวมแหวนเพชรเม็ดเท่าไข่ไก่ ชี้ไปที่คฤหาสหลังท้ายสุด เห็นหลังคาลิบ ๆ สามหนุ่มมองตามเห็นความอลังการก็อ้าปากค้าง คุณนายมดแดงได้ที ไล่เอานิ้วเกลี่ยปากทีละคนจนหุบแทบไม่ทัน
" แล้วฉันก็ต้องการเฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งบ้าน งานไม้ ที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน แบบว่า EXCLUSIVE.... VERY VERY PREMIUM ...LIMITED EDITION ....รังสรรค์มาเพื่อราชินีมดตัวน้อย ๆ อย่างฉันเพียงผู้เดียวในปฐพี พวกเธอ ..เธอ..แล้วก็เธอ....จะทำให้ฉันได้ไหม เรื่องเงินฉันทุ่มไม่อั้น ขอให้ได้ในสิ่งที่ฉันต้องการและพอใจ" ประโยคสุดท้ายคุณนายมดแดงลากเสียงยาวอย่างมีนัยยะ แต่ทั้งสามไม่ได้สนใจฟังเพียงแค่รู้ว่าได้ยินคำว่า ทุ่มไม่อั้นก็ตกปากรับคำพร้อมกันแบบไม่ได้นัดหมายในทันทีว่า

" ไม่มีปัญหา!!!!"
" แต่มีข้อแม้อยู่ว่า..........." คุณนายมดแดงลากเสียงยาววว
ทั้งสามหันขวับมาฟังอย่างตั้งใจ
" พวกนายจะต้องเข้าไปดูงาน และติดตั้งชิ้นงานให้ฉันที่บ้านด้วยนะ เพราะฉันเป็นสตรีที่บอบบาง คงไม่สามารถที่จะตอก ....( ทำท่ากระตุกสะโพก ) จะตำ ....( ทำท่ากระตุกสะโพก ).จะทิ่ม.....( ทำท่ากระตุกสะโพก ) จะแทง......( ทำท่ากระตุกสะโพก ). อะไร ๆในงานไม้ที่แข็งงง ( หันมามองเป้ากางเกงชายหนุ่มทีละคน ) (ทั้งสามกุมมือปิดเป้ากางเกงแบบอัตโนมัติ )
ตะหง่าน สะพรั่นพรึงแบบนั้นได้ หวังว่าพวกเธอคงจะเข้าใจฉันนะ" แล้วคุณนายมดแดงก็ทำตาออดอ้อน ปิ๊งๆ ใส่สามหนุ่มเป็นเชิงขอร้องให้พวกเขาตกปากรับคำ
" เอิ่มมม ขอเวลานอกสักครู่นะครับคุณป้า" วินโพล่งออกมาคุณนายตาเขียวใส่
" เอ้ย!! ขอโทษครับขอเวลานอกสักครู่นะครับพี่สาวสุดสวย "
" เชิญ" คุณนายมดแดงผายมือ
ทั้งสามจึงจับกลุ่มสุมหัวกันแบบนักฟุตบอลขอเวลานอกข้างสนาม
"กูถอนตัว" ไตรรัตน์รีบพูดก่อน และโดนวินตบกระบาลสวนทันที
" งานนี้ เราอาจจะมีสิทธิ์ปลดหนี้ ค่าเช่าตึก เผลอ ๆได้เป็นเจ้าของตึกเลยนะเว้ย" วินโน้มน้าว
" มากไปมึง แค่เฟอร์นิเจอร์ ไม่ได้ทำโครงการบ้าน" กรีนทีเบรค
" เอออ นั่นแหละจะอะไรก็ชั่ง มึงไม่ได้ยินเหรอ คุณนายมดยักษ์นั่งบอกว่าจะทุ่มไม่อั้น" วินเปิดประเด็นขึ้นมาใหม่
" กูว่าทุ่มอย่างอื่นมากกว่า บอกตรง ๆ เลยนะเพื่อน กูกลัววว" ไตรรัตน์ปอดแหก
"ปี๊ดดดดดดดดด เหลืออีก 3 นาที" คุณนายมดแดงเตือนและไม่รู้เอานกหวีดมาจากไหน เป่าจนสามหนุ่มตกใจ
" กูว่าไม่มีอะไรหรอก เราก็ท่องเอาไว้ว่าทำงาน ๆๆ " กรีนทีพูดแบบมั่นใจแต่สีหน้าไม่มั่นใจ
" เออ ท่องไว้ว่าเพื่อเงิน ๆ" วินสมทบ
" ปี๊ดดดดดดดดดดดด หมดเวลา" คุณยายมดแดง เป่าอีกครั้ง
ทั้งสามคนเอามือวางซ้อนกันแล้วร้อง สู้เว้ย
วินหันมาทำหน้าหล่อ ใส่คุณนายไฮโซ"ตกลงครับ ศิลป์ไม้แกลลอรี่ ยินดีรับใช้"
คุณนายมดแดงถูกใจ วิ่งกรี๊ดดดด เข้ามากอดรัดฟัดเหวี่ยงจูบปากจูบคอวินจนหายใจแทบไม่ออก ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่ลิลลี่เอาขยะมาทิ้งบ้าง ลิลลี่เหล่มองแล้วเบ้ปาก อุจาดตากับภาพที่เห็นรีบเข้าร้านไปทันที

" นี่แก เกย์กรุ๊ปบ้านนี้ชอบทำอะไรประเจิดประเจ้อเนอะ ทุเรศจริง ๆ ฉันว่าพวกมันต้องเปิดร้านบังหน้า หาลูกค้าอย่างว่าเข้าสมาคมเดียวกันแน่ เมื่อกี้ฉันเห็นอีตาปากเสียกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับกระเทยควายจากไหนก็ไม่รู้" ลิลลี่กลับมาเม้าส์กับสายรุ้ง
" เมื่อกี้ฉันก็เห็นเหมือนกัน อีตาหนอนชาอะไรนั่นก็ใช่ย่อยนะแก มีกระเทยควาย แต่ไม่รู้จะเป็นตัวเดียวกับของแกรึเปล่านะ มาซับหน้าซับตา ซอกหู ซอกคอ โอ้ยย พูดแล้วฉันขนลุก" สายรุ้งทำท่าขยะแขยง

ฝ่ายคุณนายมดแดงเมื่อได้ลวนลามจนหนำใจ ก็เดินออกนอนร้าน " ให้มันได้อย่างนี้สิ ไว้เจอกันที่บ้านนะจ๊ะ หนุ่มน้อย" แล้วหันมาโบกมือบ๊ายบายราวกับนางงามบนเวทีประกวดมิสเวิล ทิ้งให้วิน รูดตัวลงกับโต๊ะข้าง ๆอย่างไร้เรี่ยวแรง " อร๊อยยยยย คิดผิดหรือคิดถูกวะนี่กู" ไตรรัตน์และกรีนทีมองตามด้วยความขนพองสยองเกล้า

ก่อนกลับคุณนายมดแดงผิวปากอย่างอารมณ์ดีที่ได้ลวนลาม ผู้ชายวัยฮอร์โมนจนหนำใจ จนเกือบจะเปิดประตูรถเข้าไปแต่แกเหลือบมาเห็นร้านดอกไม้ข้าง ๆเสียก่อน
“ อุ๊ย!!!! ต๊าย!!! FLOWER OF PRINCESS ดอกไม้งามช่างเหมาะกับผู้หญิงสวยอย่างฉันอะไรเช่นนี้ “ แล้วคุณนายมดแดงก็เดินฉับ ๆเข้าไปในร่านดอกไม้ของสองสาว
“ สวัสดีค่ะคุณน้อง”
สองสาวจำได้ว่าเป็นกระเทยควายคู่ขาของเกย์กรุ๊บบ้านข้าง ๆ แต่ก็เก็บอาการไว้ รอดูว่าจะมาไม้ไหน
“เอ่อ คือ คุณกระ เอ้ย! คุณผู้หญิงต้องการดอกไม้แบบไหนคะ” ลิลลี่เกือบหลุดปากคำว่ากระเทยออกไป
“ อร๊ายยย!!! ถามได้ คนอย่างคุณนายมดแดง ก็ต้องคู่ควรกับดอกไม้ช่อที่สวยที่สุด และแพงที่สุดในร้านนี้น่ะสิยะ” คุณนายมดแดงกรีดกราย วางท่า
“ ออ ๆ ได้ค่ะ ถ้าอย่างนั้น ต้องเป็นนี่เลยค่ะ ดอกลิลลี่ สีชมพูหวานซ่อนเปรี้ยวช่อใหญ่ที่สุดของร้าน จัดคู่กับไลเซนทัสช่อที่สวยที่สุด กุหลาบสีชมพูอ่อนดอกใหญ่นำเข้าจากออสเตรเลีย แซมด้วยกระดุมเขียว แบบนี้ โอไหมคะ” สายรุ้งแนะนำทันทีเมื่อได้ยินลูกค้าบอกว่าอยากได้ช่อดอกไม้ที่แพงที่สุดในร้าน
“ เริ่ดค่ะ โอเค “ คุณนายมดแดงยิ้มพอใจ นั่งดูสายรุ้งจัดดอกไม้ด้วยความชำนาญและพิถีพิถัน ไม่ช้าช่อดอกไม้ของคุณนายมดแดงก็เสร็จสมบูรณ์ เก๋ไก๋ เป็นช่อดอกไม้ที่สวย ใหญ่และถูกใจคุณนายมดแดงมาก ๆ คุณนายมดแดงรับมาด้วยความพึงพอใจ สูดดม ชื่นชมอยู่สักพักก็ควักเงินให้สายรุ้ง 2 พัน แล้วบอกว่า “ ถูกใจมากกกก ฉันทริปให้ ไม่ต้องทอน “
"ขอบคุณมากค่ะ" สายรุ้งยิ้มแก้มแทบปริ รับเงินมาเก็บใส่กระเป๋า
“ เออนี่พวกหล่อน ฉันประทับใจในฝีมือการจัดดอกไม้ของพวกหล่อนนะ หล่อนพอจะมีเวลาว่างไปจัดดอกไม้ ใส่แจกันบ้านฉันทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ไหม ฉันอยากให้บ้านฉันสวยงามตลอดทั้งอาทิตย์ คิดว่าเปลี่ยนดอกไม้ใหม่สักอาทิตย์ละ สามวัน น่าจะสร้างบรรยากาศให้โรแมนติก คึกคัก กระตู้วู้” คุณนายมดแดงพูดพลางสูดดม ชื่นชมช่อดอกไม้
สองสาวตอบพร้อมกันโดยไม่ต้องนัดหมาย “ ด้วยความยินดีค่ะ”
“ ตามนั้น” คุณนายมดแดงพูดจบก็ผายมือออก ให้ผู้ชาย DARK MAN AND HANDSOME นายหนึ่งเดินมาให้ควงขึ้นรถแบบนางงาม แล้วขับรถหรูออกไปไกลจนลับสายตา
สองสาวยิ้มให้กันอย่างมีความหวัง
“ ได้ลูกค้าประจำแบบนี้สักสี่ห้าเจ้า เราก็สบายแล้ว”



สนธยา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 15 ม.ค. 2558, 01:13:19 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 15 ม.ค. 2558, 01:13:19 น.

จำนวนการเข้าชม : 617





<< วันแรกก็เริ่มหลอน   เรื่องวุ่นวาย ในคฤหาสคุณนายมดแดง >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account