บทเรียน (รัก) นอกตำรา
นพมัลลี นักศึกษาฝึกสอนที่จบช้ากว่าเพื่อนรุ่นเดียวกัน
เธอต้องมาฝึกอยู่ในโรงเรียนพิชญ์ปรีชา โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง
หญิงสาวไม่เคยคาดคิดว่าชีวิตของเธอที่เคยเปลี่ยนแปลงไปมา
หาความมั่นคงในชีวิตไม่ได้มาตลอด
จะเทียบไม่ได้เลยกับการมาเป็นครูฝึกสอนที่นี่เพียงไม่กี่เดือน

นอกจากต้องรับมือกับพวกนักเรียนแสบที่เอาแต่สร้างปัญหาให้เธอ
นพมัลลียังต้องมาระแวงกับ ตุนท์ ครูที่ปรึกษาร่วมที่เอาตัวมาวอแวกับเธอไม่เลิก

แต่ไม่ว่าปัญหาจะมากมายเท่าไหร่
สิ่งเดียวที่นพมัลลีต้องทำคือการจบการศึกษาไปให้ได้

มีสิ่งล้ำค้าสิ่งหนึ่งในชีวิต...กำลังรอคอยเธออยู่

Tags: นพมัลลี ตุนท์ คมิก พิชญ์ปรีชา

ตอน: บทนำ

บทนำ

“น้าลีตื่นได้แล้วค่า”

เจ้าของเรือนผมยาวสลวยคว่ำหน้าอยู่บนหมอนขาวใบโต ดวงตาหลับพริ้ม แต่ริมฝีปากกำลังคลี่ยิ้มบางเบา หูสดับเสียงเคาะรัวๆ และเจ้าของเสียงเจื้อยแจ้วที่อยู่นอกประตูอย่างตั้งใจ

“น้าลีคะ เลิกขี้เซาได้แล้ว ตื่นเร็วเข้า ถ้ายังไม่ตื่น หนูมลจะขึ้นไปกระโดดบนเตียงน้าลีนะคะ”

คนโตลืมตาที่ยังมีขี้ตาเกาะกรังอยู่ตรงขอบขึ้นมา ดวงตาเหลือบมองบานประตูที่ยังปิดสนิทอยู่ ปากไม่ยอมปริพูดออกมาให้ ‘หนูมล’ รู้เด็ดขาดว่าเธอตื่นแล้ว การแกล้งเด็กแต่เช้ามันมีความสุขจริงๆ

นพมัลลีรีบหลับตาสนิทเมื่อประตูห้องเปิดออก เสียงซอยเท้ารัวเร็ววิ่งจู๊ดเข้ามา ก่อนกระโดดตุ้บลงพื้นที่เตียงด้านข้างที่หญิงสาวแอบเบี่ยงตัวหลบให้อย่างรู้จักนวมลลิ์ดี มือเล็กป้อมกอดหมับร่างผอมของน้าสาว ส่งเสียงแหลมเล็กข้างหูอย่างต่อเนื่องไม่หยุด

“น้าลีตื่น วันนี้น้าลีต้องเดินทาง ห้ามขี้เซานะคะ ถ้ายังไม่ตื่น หนูมลจะจั๊กจี้นะ” แก้มสีชมพูดอมแดงพองลม มือเล็กกางออกห้านิ้วกว้าง เตรียมกระทำการตามที่ว่าไว้ แต่ยังอยากให้โอกาสน้าสาวอยู่

“หนึ่ง...”

ร่างผอมขยับตัวเล็กน้อย แอบหดมือในผ้าห่มขึ้นมา โดยที่หลานสาวไม่ได้ล่วงรู้

“สอง...สาม กรี๊ด!”

คนแกล้งหลับลืมตา ใช้มืออุ้มร่างเล็กของนวมลลิ์ให้ลอยหวือพลิกตัวไปอยู่ด้านล่าง มือหนึบหนับของนพมัลลีจัดการจี้เอวเล็กของเด็กหญิงให้ดิ้นพล่านเป็นกุ้งเต้น เสียงเล็กหัวเราะเอิ๊กอ๊ากลั่น

“น้าลีขี้โกง ฮ่าๆ”

นพมัลลีก้มลงไปเอาจมูกฝังไปแก้มนิ่มอย่างหมั่นเขี้ยว หลังแกล้งจนเด็กหญิงหัวเราะเหนื่อยหอบ เห็นนวมลลิ์ทำหน้าเหยเกใส่เธอกลับหัวเราะลั่นสนุกสนาน

“น้าลียังไม่ได้แปรงฟันเลย มาหอมแก้มหนูมลได้ไง”

“ทำไมจะไม่ได้ฮึ” หญิงสาวก้มลงไปหอมอีกข้าง ให้เด็กหญิงรักสะอาดกรี๊ดกร๊าดรับไม่ได้ นวมลลิ์รีบผละลงจากเตียงอย่างรวดเร็ว ทำแก้มป่องวิ่งงอนออกไป

นพมัลลียิ้มกว้าง ยืดแขนบิดขี้เกียจอย่างสดชื่น อาการง่วงงุนหายไปเป็นปลิดทิ้ง ตะโกนไล่หลังไปให้เด็กหญิงที่วิ่งออกไปได้ยิน

“ขอบคุณที่ปลุกน้านะตัวเล็ก”


“ไม่รู้มันจะเรียนไปอีกกี่ปี”

นพมัลลีชะงักเท้าที่ออกจากห้องบนชั้นสอง ได้ยินเสียงคุณนพยา ชายวัยห้าสิบกลางๆ ที่ไม่เคยมองเธอในแง่ดีกำลังตำหนิเธอให้คนในครอบครัวฟัง เป็นกิจวัตรประจำของท่าน หญิงสาวทำหูทวนลมไม่ได้ยินบทสนทนาอีกหลายๆ อย่างที่คนในครอบครัวกำลังเปิดประเด็นวิจารณ์เธออย่างออกรส

มือบางเอื้อมไปจับลูกบิดประตูห้องนอนที่เธออยู่อาศัยมาแต่เกิด งับปิดอย่างไม่อาลัยนัก ที่นี่หากไม่มีเธออยู่เป็นตัวเป็นตน กับกรอบรูปอีกสองสามใบ ตัวตนของเธอในบ้านหลังนี้ก็แทบจะไม่หลงเหลืออยู่ ร่างผอมกลับหลังหันมาพบกับห้องฝั่งตรงข้าม ที่มีป้ายหน้าห้องติดว่า ‘ห้องตัวเล็ก’ เป็นป้ายศิลปะที่ใช้มือละเลง มีรอยนิ้วมือเล็กไล่เป็นคำจนครบ ผสมสีมั่วไปหมด

ก้อนแข็งๆ จุกอยู่ตรงคอเมื่อหญิงสาวนึกถึงวันที่เธอสอนเด็กหญิงวัยไม่กี่ขวบฝึกวาดภาพระบายสี สิ่งมีชีวิตตัวน้อยคนนี้คือสิ่งเดียวที่เธออยากจะทนอยู่ในบ้านหลังนี้ต่อไป

หญิงสาวตัดใจจากการมองห้องหลานสาว ยกกระเป๋าสัมภาระที่บรรจุเสื้อผ้า และของใช้จำเป็นเดินลงบันไดอย่างเชื่องช้า หูแว่วได้ยินเสียงเล็กเอ่ยค้านเสียงผู้ใหญ่ในโต๊ะ...ปกป้องเธอ

“ทำอะไรไม่เคยได้เรื่อง แย่จริงๆ”

“น้าลีวาดรูปเก่ง น้าลีของหนูมลเก่งมากนะคะตา”

“ใครกันเอ่ยชมน้าลีน้า” นพมัลลีปรากฏพร้อมเสียง หน้าตาเบิกบานราวกับไม่ได้ยินประโยคอะไรก่อนหน้าที่คนทั้งบ้านสนทนากันก่อนเธอมา หูของเธอได้ยินแค่ประโยคชมเชยของหลานรักก็เพียงพอแล้ว

นวมลลิ์ปีนลงจากเก้าอี้สูงลงมา จูงมือน้าสาวพาไปนั่งยังเก้าอี้ข้างๆ ตัวเอง ดูก็รู้ว่าอาการเอาใจนี้ของเด็กหญิงคือไม่อยากให้เธอสนใจสายตาของคนรอบด้านที่กำลังส่งกระแสเย็นยะเยือก และเงียบกริบมาให้

อาหารบนโต๊ะวันนี้คือข้าวต้มหมู ประธานโต๊ะตักรับประทาน โดยเหลือบแลลูกสาวคนเล็กอย่างเฉยชามาให้เท่านั้น และข้างกันคือสตรีวัยใกล้เคียงกัน สวมชุดราชการ มองสองน้าหลานที่สนิทสนมกันอย่างไม่พอใจนิดๆ

“หนูมล อย่าไปกวนน้าเขามาก”

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะแม่” คนที่นั่งอีกข้างของนวมลลิ์ออกตัวแทนลูกสาว แล้วก้มหน้าก้มตารับประทานข้าวต้มต่อไป “หนูมลก็อย่าลืมกินข้าวล่ะลูก”

“ค่ะแม่” นวมลลิ์รับคำอย่างน่ารัก

นพมัลลียิ้มมุมปาก อาหารมื้อสุดท้ายของวัน ก่อนที่เธอจะออกเดินทางไปฝึกสอนในเทอมสุดท้ายนี้ดูอย่างไรก็ฝืดคอเหลือเกิน ไม่เกี่ยวกับรสมือของมัลลิยาเพราะรสชาติอาหารของพี่สาวยังดีเสมอต้นเสมอปลาย แต่เป็นบรรยากาศในการรับประทานอาหารของบ้านที่มีเธอมาร่วมด้วยต่างหากที่ยังคงความย่ำแย่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง หญิงสาวกล้ำกลืนความรู้สึกของลูกที่ไม่ถูกรักไว้

คนที่ทำความผิดเพียงครั้งแต่ถูกจารจำไปตลอดชีวิตอย่างเจ็บช้ำใจ พวกเขาไม่เคยแม้แต่ให้โอกาสแก้ตัวแก่เธอ

ฝ่ามือเล็กเอื้อมมากระตุกชายเสื้อยืดของนพมัลลี หญิงสาวหยุดมือที่ตักอาหารเข้าปาก หันไปมองนวมลลิ์ที่ยื่นมือเล็กป้อมออกมาเช็ดน้ำตาให้เธออย่างเงอะงะ และร้อนรน

“น้าลีอย่าร้องไห้สิคะ อีกห้าเดือนเราก็เจอกันแล้ว กลัวคิดถึงหนูมลใช่ไหม”

คนร้องไห้ไร้เสียงสะอื้นกัดฟันแน่น พยายามยิ้มให้ออกยามเอื้อมมือสั่นเทาไปลูบผมนุ่มของนวมลลิ์อย่างตื้นตันใจ

“รอน้านะตัวเล็ก น้าจะรีบกลับมาหาหนูแน่นอน ตัวเล็กก็ต้องตั้งใจเรียนนะคะ อย่าดื้ออย่าซนกับพ่อแม่ตายายเขานะ”

“อื้ม” เด็กหญิงพยักหน้ารับ รอจนน้าสาวรับประทานอาหารเช้าเสร็จ จึงปีนเก้าอี้วิ่งจู๊ดตามไปส่งยังหน้าบ้าน บรรยากาศบนโต๊ะอาหารที่อยู่เบื้องหลังเด็กหญิงเต็มกลับไปด้วยความอึดอัด และไม่มีใครคาดคิด เมื่อมัลลิยาพูดสิ่งสำคัญออกไป

“พวกเราจะย้ายไปอยู่อเมริกาเป็นการถาวรในเร็วๆ นี้นะคะแม่”

“แกควรจะปรึกษาเรื่องนี้กับลีมันก่อน หนูมลเป็นหลานรักของมันทั้งคน” นพยาเอ่ยเสียงขรึมหลังได้สติ เขาเห็นเด็กหญิงที่เดินเข้ามาร้องไห้จ้า ตาแดงก่ำ ยกมือปาดน้ำตาอย่างน่าสงสารเดินเข้ามากลางบ้าน ใจของคนเป็นตาก็อ่อนยวบเป็นขี้ผึ้งลนไฟ

“หนูมลไม่อยากร้องไห้ให้น้าลีเห็น หนูมลไม่อยากให้น้าลีไปเลย”

นพยากับมะลิผู้เป็นภรรยาสบตากันด้วยความรู้สึกเดียวกันที่ไม่สามารถพูดออกมาได้ ก่อนจะมองไปยังบุตรสาวคนโตที่นั่งหน้าดำคร่ำเครียด มือกำช้อนตักข้าวไว้แน่น เค้นเสียงลอดไรฟันไม่ให้ดังไปถึงหูของเด็กหญิงที่นั่งแปะกับพื้น และสามีของเธอกำลังเดินไปช้อนอุ้มกอดปลอบไว้

“พวกเราจะย้าย ไม่ว่าลีจะเห็นด้วยหรือไม่ นี่ถือเป็นการตัดสินใจของพวกเรา ครอบครัวของยาค่ะพ่อแม่”


.............................................

เป็นเรื่องใหม่ที่ตั้งใจว่าจะเขียนให้จบ ก่อนไปเคลียร์เรื่องอื่นๆ นะคะ ตอนนี้สู้รบถึงบทที่3 ค่ะ เรื่องนี้น่าจะดราม่าหนักสุดเท่าที่เคยเขียนมา อ่านแล้วรู้สึกยังไงบอกกันได้นะคะ ^^



ปวรา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 16 ก.พ. 2558, 02:10:35 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 16 ก.พ. 2558, 02:10:35 น.

จำนวนการเข้าชม : 1908





   บทที่ 1 : วันแรกพบ >>
นักอ่านเหนียวหนึบ 20 ก.พ. 2558, 00:23:02 น.
น้ำตาลคลอก ตั้งกะอ่านบทนำเลย กินมาม่าอิ่มมากแน่นอน


OhLaLa 21 ก.พ. 2558, 16:11:59 น.
สวัสดีค่ะ มาติดตามอ่านนะคะ น่าสงสารน้าลีดูเหมือนไม่มีใครรัก นอกจากหนูมล ที่ว่าความผิดครั้งเดียวนี่เกี่ยวกับหนูมลใช่มั้ย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account