หลังม่านเมฆ

Tags: สืบสวน โรแมนติก

ตอน: ---- (10) ----


“จะอยากรู้ไปทำไมกันละคะ เขาคงสงสัยและพูดไปอย่างนั้นเอง เพราะช่วงหลังๆ วัธน์เขาก็แปลกๆ ไปด้วย” จริยายังบ่ายเบี่ยงที่จะตอบ เมื่อภามมาหาที่บ้านในวันหนึ่งเพื่อถามหาตัว ‘เพื่อนคนนั้น’ ของกวีวัธน์ เธอเข้าใจว่าภามกำลังต้องการความจริงบางอย่างเพื่อการตามหาตัวคนบงการฆ่าลูกชายของเธอ แต่เธอยังไม่เห็นว่าชื่อเพื่อนคนนั้นของกวีวัธน์จะช่วยอะไรได้

“ถ้ามันไม่จริง เรื่องอย่างนี้พูดได้ที่ไหนกันล่ะจุ๋ม คุกเชียวนะ” ภามติง

“จะว่าไปเขาแค่มาบอกว่าช่วงนั้นวัธน์ดูเครียดขรึม อารมณ์แปรปรวน ไม่เหมือนปกติ หน้าตาหมองคล้ำ เขาสงสัยว่าวัธน์ติดยาเสพติดหรือเปล่า มีพวกตำรวจบอกเขามา” ภามขมวดคิ้วมากกว่าเดิม

“ตำรวจที่ไหนล่ะจุ๋ม?”

“ตำรวจที่ว่านี้จุ๋มไม่รู้จัก”

“แล้วคนที่มาบอกจุ๋มล่ะ ใคร?” จริยาถอนหายใจเบาๆ

“หมวดชยพนเขามาบอก...” ภามครางในลำคอ ดูเหมือนอะไรๆ มันเข้าใกล้หมวดชยพนคนนี้ไปทุกอย่าง สมมติว่าหมวดคนนี้เป็นตัวการ แต่ชายหนุ่มยังกล้าเดินมาหาปวิตราหลังจากกวีวัธน์ตายแบบไม่เกรงกลัวสิ่งใดเลยอย่างนั้นหรือ ช่างกล้าอะไรเช่นนั้น

“...แต่เขาว่ามันอาจจะไม่จริงก็ได้ ถ้ายังไงให้จุ๋มตะล่อมๆ วัธน์ให้เลิกซะ และไปตรวจ แต่พอจุ๋มลองพูดกับวัธน์เรื่องนี้ เขาดูไม่พอใจและโกรธเอามากด้วย ซึ่งมันก็แปลกจริงๆ วัธน์เขาไม่ใช่พวกอารมณ์ร้อนแบบนั้น”

“แล้วสุดท้ายวัธน์ไปตรวจหรือเปล่า?”

“ไม่ได้ไปหรอก เขามาเสียไปเสียก่อน”

“ถ้าอย่างนั้นเราก็สรุปไม่ได้หรอกจุ๋ม แม้วัธน์เขาจะแปลกไป อารมณ์ร้อนไป แต่มันอาจมาจากความเครียดอื่นๆ ก็ได้”

“มุกเขาก็บอกจุ๋มแบบนั้นนะ ช่วงนั้นมุกเขามาหาบ่อย เพราะอยากให้จุ๋มสบายใจ พยายามจะบอกว่ามันไม่จริงหรอก อย่าด่วนเชื่อหมวดชยพน” ภามขมวดคิ้วอีกหน ผู้ต้องสงสัยในรายการของเขาอย่างสุกัญญากลับกลายเป็นคนดีในสายตาของจริยา

“ขอถามอีกอย่าง อย่าเคืองกันนะ” คราวนี้จริยาสบตาภาม อะไรหรือทำให้ภามเครียดและขอสัญญาไม่ให้โกรธกันหากถามคำถามนี้ออกไป

“ถามมาเถอะ ไม่โกรธหรอก” ภามระบายลมหายใจเบาๆ

“ได้ยินมาน่ะว่าวัธน์ไม่ให้สมบัติอะไรหนึ่งเลยหากเขาเป็นอะไรไป มันเรื่องจริงหรือเปล่า?” จริยามีสีหน้าตกใจกับคำถามนั้นก่อนพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ

“ไม่ได้อยากจะได้อะไรหรอกนะที่ถาม จะว่าไปไม่ใช่เรื่องอะไรของผมด้วย แค่ต้องการข้อมูลบางอย่างเอาไปคิดหน่อย” ภามย้ำเจตนาในการถามคำถามนี้ของเขา

“พูดจริงๆ คือจุ๋มไม่รู้ นายวินกับวุ้นน่าจะรู้ดีที่สุด แล้วก็เอ่อ...พ่อของเขานั่นแหละ” จริยาหมายถึงอดีตสามีของเธอ

“วัธน์ไม่สนิทกับพ่อไม่ใช่เหรอ ทำไมทางนั้นถึงรู้ล่ะ”

“พักหลังๆ วินเขาพาวัธน์เข้าไปหาพ่อมากขึ้น เรื่องธุรกิจพวกนี้จุ๋มกับพี่จ๋าไม่ค่อยรู้เรื่อง พี่น้องเขาเลยคุยกันเองแล้วก็ปรึกษากับพ่อเขาน่ะ จุ๋มเลยคิดว่าทางนั้นเขาน่าจะรู้เรื่องพวกนี้

เราไม่รู้ด้วยนะว่าอะไรมันจะเกิดขึ้น จุ๋มเลยไม่เคยถามอะไรทำนองนี้กับวัธน์เขาเลย พอเกิดเรื่องเขาตายไป จุ๋มเหมือนตาบอด ดีที่นายวินเขาใกล้ชิดน้อง เลยช่วยได้มาก”

ภามค่อยพยักหน้าช้าๆ จริงสินะเขาลืมคนสำคัญอีกคนหนึ่งไปเสียสนิท อดีตสามีของจริยา อดีตเจ้าพ่อเจ้าของโรงแรม ‘เพชรา’ ที่ตอนหลังขายกิจการให้กวินภพ แล้วเกษียณตัวเองไปเป็นเพียงที่ปรึกษา
-------------------------------------------------------------------------

กัทลีเงยหน้าจากรายการของที่ต้องสั่งซื้อประจำวันเมื่อรู้สึกถึงความเงียบรอบๆ ตัว แม้ร้านจะยังไม่เปิด แต่เธอแง้มประตูหน้าร้าน พร้อมทั้งลูกจ้างทุกคนก็มากันครบแล้ว ดังนั้นเธอจึงคุ้นเคยกับเสียงคุยเบาๆ กับเสียงทำความสะอาดร้านก่อนหน้านี้ มากกว่าความเงียบสงัดที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้

ร่างสูงที่ยืนกอดอกอยู่หน้าโต๊ะที่เธอนั่ง ทำให้หญิงสาวต้องมองอย่างไม่เข้าใจ ‘มาทำไม’ คำถามที่คงสะท้อนออกไปทางสายตา

“มีเรื่องอยากคุยด้วย” พีรัชเอ่ยพอได้ยินสองคน ขณะที่กัทลีค่อยกวาดสายตามองไปรอบๆ ร้านก็เห็นลูกจ้างของเธอกำลังจ้องมองมาด้วยสายตาแปลกใจ หญิงสาวตวัดสายตากลับมามองที่หนุ่มใหญ่อีกครั้ง แต่ยังไม่เอ่ยสิ่งใดออกมา

“ไม่ได้สูบบุหรี่มาหรอกน่า ตั้งแต่รู้ว่าจะมาหาคุณนายเนี่ย ก็หยุดสูบตั้งแต่เมื่อคืนยันเช้านี้เลย” พีรัชไม่ได้พูดเกินจริงหรอก เขาทำจริงๆ นั่นแหละ

“ถ้าหยุดตลอดไปจะดีมาก” กัทลีเอ่ยออกมาเป็นประโยคแรกด้วยใบหน้านิ่งสนิท

“ก็ถ้าจะให้มาหาทุกวัน ก็น่าสน” คราวนี้หญิงสาวรีบหันไปมองรอบๆ อีกหน กลัวว่าบรรดาลูกจ้างจะได้ยินแล้วเอาไปพูดต่อๆ กัน

“จะมาทำบ้าอะไร?” ใบหน้านิ่งๆ นั่นเริ่มจะนิ่งไม่ไหวอีกต่อไป

“ก็เรื่องที่จะคุยด้วยนี่แหละ” ไม่พูดเปล่า พีรัชลากเก้าอี้นั่งลงตรงข้ามกัทลีหน้าตาเฉย

“ขอแบบส่วนตัวหน่อย ไม่อยากให้รั่ว” กัทลีถอนหายใจก่อนเอ่ยปากบอกให้บรรดาลูกจ้างออกไปด้านนอกและปิดประตูด้านหน้าร้านให้ด้วย

“น้องชายคุณมาคุยกับคุณหรือยังเรื่องโกงค่าอาหารในร้านคุณ” กัทลีหรี่ตามอง จริงที่กวินภพมาคุยกับเธอแล้ว และเธอก็กำลังตรวจสอบอยู่นี่ไง แต่คนตรงหน้าเธอนี้เขารู้มาจากไหน และมาหาเธอทำไม

“ผมรู้มาจากน้ำ เพราะน้องชายคุณเอาตัวยัยน้ำไปสอบปากคำแบบถึงเนื้อถึงตัวเชียวละ แล้วเขาสองคนก็สงสัยเรื่องที่มีการโกงค่าอาหารในร้านของคุณ เลยคิดว่าอยากให้คุณซึ่งเป็นคนใหม่ ดูใสๆ ไม่มีพิษสงเป็นคนจับตามอง คนร้ายจะได้ไม่ไหวตัว” กัทลีจ้องหน้าคนพูดด้วยความคลางแคลงใจ ชมหรือด่ากันแน่ ‘ใสๆ ไม่มีพิษสง’

“รู้แล้ว วินมาบอกตั้งแต่เมื่อวาน จะมาย้ำอีกทำไม อีกอย่างนะ ไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกับคุณ” พีรัชมองแบบเคืองๆ

“เออ ไม่เกี่ยวหรอก แค่อยากมาช่วย มาแนะนำ ในฐานะที่มีประสบการณ์ เห็นถึงน้ำใจบ้างก็ดี อย่าทำตัวเป็นหญิงเก่งให้มาก จะขึ้นคานเอานะนั่น” คราวนี้ปากกาในมือกัทลีถูกวางลงอย่างแรง

“งั้นคุณคงเป็นผู้ชายเก่งละสิ...” แวบแรกเกือบยิ้มเพราะคิดว่าถูกชม แต่เพียงไม่กี่วินาทีพีรัชแทบอยากบีบคอคนตรงหน้า ปากจัดไม่มีใครเกิน

“ก่อนหน้านี้ก็คงอย่างนั้น แต่ช่วงนี้รู้สึกอยากมีเมียแปลกๆ” กัทลีที่เตรียมอ้าปากจะสวนกลับถึงกับไปไม่ถูก ไม่อยากคิดว่าเขาหมายถึงเธอ แต่สายตาที่จ้องมองแน่วแน่มายังเธอมันหมายถึงอะไรกัน

“ตกลงมาทำไม?” คร้านจะต่อปากต่อคำให้เข้าตัวมากไปกว่านี้ พีรัชยิ้มที่มุมปาก ผู้หญิงคนนี้ไร้เดียงสาชะมัด อายุป่านนี้แล้วยังไม่เคยโดนจีบ เขาไม่อยากเชื่อเลยจริงๆ

“ผมพาพนักงานบัญชีของผมมาช่วยคุณดูพวกบัญชีเก่าๆ สมมติว่ามีการตกแต่งบัญชีจริง เรื่องแบบนี้เขาดูออกไม่ยากหรอก ส่วนคุณนับแต่นี้ไป พยายามดูรายละเอียดของที่ต้องสั่งซื้อในแต่ละวันว่าตรงกับราคาตลาดไหม คุณลองดูแล้วเงียบไว้ อย่าโวยวายไป จนแน่ใจว่ามันมีการซื้อของในราคาที่แพงเกินจริง ตอนนั้นรวบรวมหลักฐานแล้วมาคุยกันอีกที” พีรัชกล่าวอย่างเป็นงานเป็นการ

“ฉันกลัวพวกเขาจะสงสัยว่าทำไมฉันถึงเกิดอยากดู”

“คุณก็อ้างอะไรไปก็ได้ อาจจะบอกว่าคุณอยากเปลี่ยนเมนู เพิ่มเมนู เลยอยากรู้ว่าของราคาเท่าไร กลัวจะขาดทุน ไม่คุ้มอะไรทำนองนั้น...” พีรัชหยุดคิดต่ออีกเล็กน้อย

“...หรือไม่ก็บอกไปว่า คุณอยากให้ลูกค้าได้กินอาหารดีๆ อยากเพิ่มงบ จะได้ซื้อของคุณภาพดีขึ้น พวกชอบโกงมันตาโตแน่นอนถ้าได้ยินอย่างนี้” กัทลีถอนหายใจออกมาเบาๆ เธอต้องทำได้ เพื่อน้องชายของเธอ

“และถ้าคุณจะยอมทำอีกนิด คุณอาจแกล้งบอกว่าคุณไม่เห็นด้วยกับนโยบายของน้องคุณ รัดเข็มขัดเกินไป อยากจะเพิ่มงบจัดซื้อ แค่นี้คนพวกนั้นต้องรีบสนับสนุนคุณแน่นอน แต่คุณต้องพยายามโง่เข้าไว้ ทำตัวเหมือนพวกไม่รู้เรื่องธุรกิจแต่อยากโชว์ออฟน่ะ เข้าใจไหม” คำแนะนำของเขาเข้าท่าดีอยู่หรอก แต่คำพูดนี่สิ ดิบชะมัด

“แต่ที่แน่ๆ การที่คุณมาหาฉันที่นี่ มันผิดสังเกตนะคะ สมมติมีใครแอบสังเกตการเคลื่อนไหวของพวกเราอยู่ เขาคงแปลกใจที่คุณมาที่นี่ ทั้งที่เวลานี้เราควรเป็นศัตรูกัน” พีรัชเองก็นึกไม่ถึงเรื่องนี้ เขามัวแต่กังวลว่ากัทลีจะสามารถทำงานนี้ได้หรือไม่ เป็นห่วงว่าเธอจะกระโตกกระตากจนเป็นภัยแก่ตัวเอง ที่ไหนได้กลายเป็นเขาที่กำลังทำให้เรื่องยุ่ง

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวเล่นละครเอาหน่อยแล้วกัน” แล้วพีรัชก็ลุกพรวดเตรียมตัวกลับ และภาพที่บรรดาไทยมุงด้านนอกได้เห็นคือ กัทลีที่เดินตามพีรัชมาด้วยใบหน้าบอกบุญไม่รับ พร้อมทั้งชี้นิ้วให้เขากลับไปอย่างรวดเร็ว

“ไปเลยนะ แล้วอย่ามาเหยียบที่นี่อีก” สีหน้าท่าทางของคนที่บอกว่าเล่นละคร ทำให้พีรัชเขวอยู่เหมือนกัน กัทลีเล่นสมจริงเกินไปหรือเปล่า แค่เขากอดเธอเพื่อพิสูจน์กลิ่นบุหรี่แค่นี้ แล้วบอกให้แกล้งไล่เขาเพื่อตบตาคนด้านนอก แต่ทำไมเธอต้องเล่นเหมือนจริงขนาดนี้ก็ไม่รู้
------------------------------------------------------------------------------------

หลังจากวันที่สัญญากับกวินภพว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับวสุอีกต่อไป ปณาลีก็ไม่เคยติดต่อหาหมอหนุ่มอีกเลย แต่ถึงอย่างนั้นเธอกลับพบเขาที่ร้านเค้กหน้าโรงเรียนเกือบทุกวัน หญิงสาวไม่หลีกเลี่ยงเมื่อต้องพบกันเช่นนี้ เพราะนั่นเท่ากับเพิ่มความน่าสงสัย เธอเป็นคนเรียกร้องอยากเจอเขา เพราะอยากคุยเรื่องคดี แต่จู่ๆ จะหลบหน้า คงทำให้วสุสงสัยไม่น้อย

“พ่อผมบอกว่า ถ้าพวกคุณต้องการความช่วยเหลือ ท่านจะช่วยตามหามือปืนให้” ปณาลีทำตาโต

“จริงเหรอคะ น้ำได้ยินมาว่ามีพวกมีอิทธิพลให้ที่ซ่อนตัวมือปืน คดีเลยไม่คืบหน้าไปไหนเลย ถ้าเราได้ตัวมือปืนมาคงดีไม่น้อยเลยนะคะ” วสุยิ้มให้เมื่อเธอเห็นด้วยกับเขา

“ว่าแต่เราจะทำได้เหรอคะ ในเมื่อตอนนี้มือปืนพวกนั้นตายหรือยังอยู่เราก็ไม่รู้เลย อาจจะโดนเก็บไปแล้วก็ได้”

“เราก็ต้องลองหาดูครับ ไม่อย่างนั้นจะรู้ได้ยังไงว่าอยู่หรือตายแล้ว” หญิงสาวพยักหน้าคล้อยตาม

“เอิ่ม...คุณเล็กจะตามหายังไงเหรอคะ? พวกเราก็ไม่รู้เบาะแสอะไรสักนิด” วสุสบตาปณาลีเพียงครู่ ก่อนยิ้มบางๆ ตามสไตล์ของเขา

“คุณพ่อผมท่านจะจัดการให้ แล้วผมจะมาบอกน้ำแล้วกันนะ” วสุเตรียมจะลุกออกไปจากร้าน ขณะที่ปณาลีรีบรั้งเขาไว้

“เอ่อ เดี๋ยวค่ะ คือหน้าตาคนร้ายเป็นยังไงพวกเรายังไม่รู้เลย แล้วคุณพ่อของคุณเล็กจะได้เค้ามาจากไหนเหรอคะ?”

“คุณพ่อผมท่านเป็นนักการเมืองเก่า เรื่องแบบนี้ท่านคงพอถามเพื่อนฝูงในสายตำรวจได้บ้าง น้ำอย่ากังวลไปเลย” ชายหนุ่มหันมาตอบก่อนจะเดินจากไปด้วยท่าทีปกติ ทิ้งให้หญิงสาวนั่งครุ่นคิดอยู่เพียงคนเดียว

“พี่วินอยู่ไหน น้ำไปหาที่บ้านได้ไหมคะ?” เมื่อคิดไม่ออก เธอจึงโทร.หากวินภพ

“นั่งดูเราจู๋จี๋กับไอ้หมอตี๋ไง” ปณาลีขมวดคิ้วก่อนมองซ้ายขวาหน้าตาเลิ่กลั่ก กวินภพอยู่ไหน ทำไมรู้ว่าเมื่อครู่เธออยู่กับวสุ ทั้งร้านเค้กไม่เห็นแม้แต่เงาของเขา แสดงว่าอยู่ด้านนอก หญิงสาวเดินไปจ่ายค่าขนมที่ซื้อไปฝากฝาแฝดก่อนเดินออกมาจากร้าน และได้เห็นแลนด์โรเวอร์ของเขาจอดอยู่ไม่ไกล

“อยู่ตรงนั้นเลยพี่วิน อย่าขับมาปาดหน้าแบบวันนั้นอีก ไปรอน้ำที่บ้านนะคะ เดี๋ยวน้ำเอาเค้กไปให้หลานก่อน แล้วจะตามไป” ชายหนุ่มทำเสียงไม่พอใจในลำคอ จนบอดี้การ์ดร่างยักษ์ที่เป็นคนขับรถให้เขาในวันนี้ต้องหันมามอง

“กลับไปที่สำนักงาน แล้วคุณก็กลับบ้านไปเถอะ ผมจะกลับบ้านเหมือนกัน” กวินภพบอกคนขับรถของเขาทันทีที่วางโทรศัพท์และมองเห็นว่าปณาลีขับรถออกไปแล้ว

“ผมไปส่งที่บ้านก็ได้ครับ” ยุทธ...ผู้เป็นทั้งคนขับรถและบอดี้การ์ดเสนอ

“ไม่ต้องหรอก ผมขับไปเองดีกว่า คุณไปพักผ่อนเถอะ” กวินภพปฏิเสธ เขายังไม่ชอบให้ใครเข้ามาวุ่นวายกับเขามากนัก แม้คนคนนั้นจะเป็นถึงบอดี้การ์ดที่อยู่กับเขามาสักพักแล้วก็ตามที

เมื่อไล่ยุทธลงที่สำนักงานแล้ว ชายหนุ่มก็บึ่งตรงกลับบ้านทันที บ้านที่เขากับปณาลีรู้กันว่าหมายถึงบ้านหลังเล็กของเขา ยุทธมองตามผู้เป็นเจ้านาย ทางที่กวินภพขับไปนั้นไม่ใช่ทางกลับบ้านใหญ่ที่เขาเคยไป ยิ่งไปกว่านั้นดูเหมือนผู้หญิงที่ชื่อปณาลีคนนั้นจะมีอิทธิพลกับเจ้านายของเขาเหลือเกิน ถึงขนาดไปนั่งเฝ้าหน้าโรงเรียน และแสดงอารมณ์ฉุนเฉียวที่น้อยครั้งนักที่เขาจะได้เห็นกวินภพแสดงมันออกมาต่อหน้าคนอื่น

ผู้หญิงคนนั้น...คงไม่ใช่แค่คนข้างบ้านเสียแล้วกระมัง
ผู้หญิงคนนั้น...คงไม่ใช่คนที่ถูกรังเกียจเพราะเป็นน้องสาวของผู้หญิงที่เป็นฆาตรกรอีกต่อไปแล้วกระมัง
-------------------------------------------------------------------------------

รถคันใหญ่จอดซ้อนหลังรถยนต์คันเล็กอีกคันที่คงมาถึงก่อนหน้าเขาได้ไม่นาน วันนี้ปณาลีไม่ได้นั่งรอในความมืดที่หน้าบ้านเหมือนวันนั้น ก่อนจากกันเมื่อคราวก่อน เขาส่งกุญแจสำรองของบ้านหลังนี้เอาไว้ให้เธอด้วย และอนุญาตให้หญิงสาวเปิดมันได้ตามที่ต้องการ

กวินภพก้าวยาวๆ เข้าไปภายในบ้านที่เปิดไฟเรียบร้อยแล้วด้วยฝีมือของคนตัวเล็กที่กำลังง่วนทำอะไรสักอย่างอยู่ในครัว ดูท่าทางแม่คุณจะสบายใจที่ป่วนเขาได้ในวันนี้ แถมยังสั่งเขาได้อีกต่างหาก

“พี่วิน...ว้าย!...อื๊อ!...” ทันทีที่เข้าถึงตัว กวินภพจัดการทำโทษคนหัวดื้อทันที ปณาลีไม่ได้ตั้งตัวหรือเตรียมใจไว้เลยว่าเธอจะเจอกับอะไรบ้าง เมื่อได้ยินว่าเขาเดินเข้ามาด้านหลัง เธอจึงหันไปทัก แต่ชายหนุ่มกลับใช้สองมือประคองแก้มของเธอแล้วบดจูบลงมาด้วยความรุนแรง

หญิงสาวหอบแฮ่ก เมื่อเขาถอนริมฝีปากออก กวินภพดึงตัวเธอเข้ามากอดไว้ ก่อนที่จะแข้งขาอ่อนล้มไปตรงนี้

“ทำไมดื้ออย่างนี้” เสียงทุ้มว่าอย่างโกรธๆ อยู่เหนือศีรษะของเธอ ปณาลีพยายามควบคุมอัตราการหายใจให้กลับมาสู่ภาวะปกติก่อนจะค่อยๆ ฝืนตัวออกมา แต่กวินภพยังคงกอดตัวเธอไว้พร้อมกับลูบไปบนแผ่นหลังบางเบาๆ

“ไม่ได้ดื้อ บังเอิญเขามา จะวิ่งหนีก็ไม่ได้” เสียงหวานตอบซบอยู่กับอก

“เลยวิ่งเข้าร้านเค้กเลยสิ” เขาประชดให้

“อื้อ” แม่ตัวดีรับคำหน้าตาเฉยจนชายหนุ่มต้องถอนใจ ก็รู้มาตั้งนานแล้วว่าดื้อ ใจร้อน แล้วเขาจะทำอย่างไรได้ล่ะ ที่ผ่านๆ มา ที่ทะเลาะกันมาตลอด ก็เพราะดื้อและใจร้อน มาตอนนี้เธอคงยังไม่เปลี่ยน เพียงแต่ความบาดหมางในใจของทั้งสองคนมันจางหายไป และเขาคงต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับความเป็นเธอให้ได้

“แล้วนี่ทำอะไร?” เมื่อทำอะไรคนดื้อไม่ได้เลยต้องเลยตามเลย

“อ๋อ...แม่พี่วินฝากกับข้าวมา ตอนที่น้ำแวะเอาเค้กเข้าไปให้เด็กๆ น้ำกำลังจัดใส่จาน กินข้าวก่อนนะคะ” เพราะเขาเองก็หิว จึงยอมทำตามอย่างว่าง่าย ช่วยหญิงสาวจัดช้อนจัดจาน จนมานั่งมองอาหารหน้าตาน่ากินตรงหน้า

“ก็พ่อไอ้หมอนั่นเขามีอิทธิพล เป็นนักการเมือง” กวินภพโพล่งออกมาเมื่อฟังปณาลีเล่าเรื่องที่คุยกับวสุให้เขาฟัง

“น้ำก็ทราบมาบ้างแล้วค่ะจากอาอู๋ แต่เราจะเชื่อได้ยังไงว่าที่เขาหาเจอนั้นมือปืนจริง ไม่ใช่แพะ มือปืนจริงอาจจะโดนเก็บไปแล้วก็ได้”

“ไม่ต้องไปถึงขั้นนั้นเลย เอาแค่ว่ามันจะเข้ามายุ่งทำไม แล้วเอาเข้าจริงพ่อของหมอนั่นจะลงทุนทำอะไรขนาดนี้เพียงเพื่อพยาบาลที่เป็นคนรู้จักของลูกชายเหรอ แถมยังเป็นลูกชายของเมียรอง” ทั้งสองคนเงียบกันไปนาน ก่อนกวินภพจะมองสบตาหญิงสาว

“สมมตินะว่าหมอนี่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ถ้าพ่อเขาเจ๋งจริงเหมือนที่เขาคุย เขาก็ย่อมฆ่าวัธน์และซ่อนมือปืนไว้ได้จริงไหมล่ะ”

“นั่นในกรณีที่เขาเกี่ยวข้องนะคะ แต่เขาจะฆ่าพี่วัธน์ทำไมคะ มีเหตุจูงใจอะไร” กวินภพดึงปณาลีขึ้นมานั่งซ้อนบนตัก ก่อนจะกอดไว้หลวมๆ

“น้ำบอกเองนะว่าตอนนี้เราสามารถสงสัยใครก็ได้ เราจะไม่โกรธกัน”

“ค่ะ พี่วินพูดมาเถอะค่ะ”

“พี่สาวของน้ำนั่นแหละเป็นเหตุจูงใจได้ น้ำบอกเองไม่ใช่เหรอว่าหมอนั่นดูเหมือนจะรู้สึกกับหนึ่งมากกว่าเพื่อนธรรมดา แถมยังเคยมีคนลือว่าหมอนั่นชอบหนึ่งจริงๆ ถ้าไม่มีมูลเลยเขาจะลือกันมาจากไหน” ปณาลีดันตัวเองเพื่อมองหน้ากวินภพให้ชัดขึ้น

“ฆ่าพี่วัธน์เพื่อเอาภรรยาเขานี่นะคะ...” หญิงสาวทำหน้าเหลือเชื่อ

“ถึงไม่มีพี่วัธน์แล้วพี่หนึ่งก็ไม่ชอบเขาหรอกค่ะ อีกอย่างคือเขาก็มีการศึกษานะคะ ไม่น่าคิดอะไรตื้นๆ ขนาดนั้น”

“คดีความที่เราเห็นๆ กันทุกวันนี้ ผู้ต้องหาเป็นคนมีการศึกษาอยู่ในสังคมชั้นสูงกันมากมายไม่ใช่เหรอ...” กวินภพมองหน้าหญิงสาว

“พี่ไม่ได้อยากตอกย้ำว่าเป็นนายวสุคนนี้ แค่อยากบอกน้ำเท่านั้นเองว่าเรื่องแบบนี้เป็นใครก็ได้ บางครั้งคนมีการศึกษาเสียอีกที่คิดทำ ไม่ใช่เขาคิดตื้น แต่เขาคิดลึก คนพวกนี้รู้ทางหนีทีไล่มากกว่าตาสีตาสานะ” ปณาลีถึงคราวอึ้งบ้าง ถ้าคิดดีๆ มันก็มีอะไรประหลาดอยู่มากเหมือนกัน วสุดูกระตือรือร้นจนเกินเหตุ ในเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องของเขา

“ถ้าให้พี่แต่งนิยายสักเรื่อง พี่คงจะแต่งว่า นายวสุเกิดติดอกติดใจหนึ่ง จึงวางแผนฆ่าสามีของหนึ่งซะ ในขณะที่ทั้งคู่กำลังระหองระแหงกัน และพ่อของเขามีอิทธิพลพอที่จะหามือปืนดีๆ และทำให้มือปืนหายตัวไปด้วย จากนั้นก็เป็นช่วงเวลาทำคะแนนของนายวสุ เพื่อให้หนึ่งหันมาสนใจ...”

“น้ำว่ามันไม่มีน้ำหนักพอ” ปณาลีค้านเบาๆ

“แต่น้ำต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า หมอวสุชอบหนึ่งจริงๆ พี่สังเกตได้จากเวลาที่เขามองหนึ่ง และพี่ได้ยินมาบ้างจากคนที่โรงพยาบาล” คราวนี้หญิงสาวขยับมองหน้ากวินภพ

“ซึ่งต่างกับกรณีของหมวดชยพน รายนั้นไม่ได้มองหนึ่งด้วยความสเน่หาชู้สาวเลย” ยิ่งคุยมากขึ้นปณาลีกลับยิ่งสับสน

“สมมติว่าเป็นหมวดชยพน รายนั้นคงมีแรงจูงใจเรื่องอื่น ไม่ใช่เรื่องชู้สาวแน่นอน” นานๆ หรอกจึงจะได้ยินกวินภพพูดยาวเช่นนี้ และเป็นเรื่องที่สำคัญจริงๆ

“ตอนนี้เราอาจต้องรอดูทางพี่วุ้นว่าได้ข้อมูลอะไรบ้างไหม ถ้าได้เบาะแสตามที่เราสงสัยจริงนั่นคือติกับมุกโกงร้าน งานนี้เรามีสามเจ้าให้ต้องเคลียร์เชียวละ”

เสียงรถจักรยานยนต์ที่เพิ่งมาถึงหน้าบ้านทำให้ทั้งสองมองหน้ากันด้วยความสงสัย ตอนนี้เป็นเวลาเกือบพลบค่ำแล้ว กวินภพไม่เคยรับแขกที่บ้านหลังนี้ ขณะที่แทบจะไม่มีใครรู้จักบ้านหลังนี้เช่นเดียวกัน ชายหนุ่มปล่อยปณาลีลงก่อนค่อยๆ แง้มม่านหน้าต่างดู เขาเห็นยุทธที่เพิ่งแยกจากเขาไม่นานกำลังคร่อมอยู่บนมอเตอร์ไซค์คันโตที่เจ้าตัวใช้เป็นประจำหากไม่ได้ขับรถให้เขา

กวินภพขมวดคิ้วด้วยความสงสัยก่อนหันหน้ามาทางหญิงสาวที่นั่งนิ่งมองเขาอยู่เช่นกัน

“ยุทธ บอดี้การ์ดของพี่ เดี๋ยวพี่ออกไปดูเอง น้ำอย่าออกไปให้เห็นนะ”

“รถของน้ำจอดเด่นขนาดนั้น เขาคงไม่รู้เนอะว่ามีคนอื่นอยู่ด้วย” กวินภพอมยิ้มก่อนมือใหญ่จะวางลงบนศีรษะของหญิงสาวและโยกไปมา

“เขาไม่รู้นี่นาว่ารถใคร เอาละอย่าออกมา” ว่าแล้วกวินภพก็เปิดประตูออกไป

“เอ่อ เอกสารสำคัญคุณยังไม่ได้เซ็น ผมเลยอาสาเอามาให้ครับ” ยุทธรีบบอก เมื่ออ่านสายตาของกวินภพออกว่าเขากำลังสงสัยและมากด้วย

“อะไร?” ถามขณะยื่นมือรับและเปิดออกดู ใบหน้ายามเห็นเอกสารนั้นไม่ได้แสดงความรู้สึกใดๆ ก่อนจะเก็บมันไว้อย่างเดิม

“อืม...ขอบคุณมาก ผมเซ็นแล้วพรุ่งนี้ผมเอาเข้าไปเอง” กวินภพมองบอดี้การ์ดของเขาด้วยแววตานิ่งเฉยเหมือนทุกครั้ง

“มาถูกได้ยังไง?” เขาไม่เก็บความสงสัยไว้กับตัวนาน

“ก็...แวะไปถามแม่คุณมาครับ ท่านเลยบอกทางให้” กวินภพผงกศีรษะให้รู้ว่าเข้าใจ

“ไม่เชิญเข้าบ้านละนะ พอดีว่าจะพักผ่อนแล้ว”

“ครับ ไม่เป็นไร ผมขอตัวนะครับ”

ทันทีที่แน่ใจว่ายุทธออกไปพ้นเขตบ้าน กวินภพรีบวิ่งกลับขึ้นมาบนบ้านอีกครั้ง จริงอย่างที่เขาคิด ปณาลีแอบมองอยู่ทางช่องหน้าต่าง

“คนนี้น้ำเคยเห็นตอนงานศพพี่วัธน์ เขาเป็นบอดี้การ์ดพี่วินเหรอคะ?”

“อืม...พ่อหามาให้ก่อนวัธน์จะเสียไม่นาน” คิ้วหนาขมวดมุ่นอยู่ตลอดเวลาจนปณาลีแปลกใจ

“กลับเถอะ เดี๋ยวพี่ไปส่งที่บ้าน”

“ไหนว่าไม่อยากผิดสังเกต แล้วจะไปส่งน้ำทำไมคะ น้ำกลับเองได้ค่ะ” ชายหนุ่มถอนหายใจเบาๆ

“ไปเถอะ เดี๋ยวไปส่ง” หญิงสาวไม่เถียงเขาอีก ขยับตัวเพื่อลงไปด้านล่าง แต่ในใจกลับสงสัยท่าทีของกวินภพ และตลอดเวลาที่เขาขับรถของเธอกลับมาโดยมีเธอนั่งอยู่ข้างๆ กวินภพเหมือนจะจมอยู่กับความคิดของเขาคนเดียว ชายหนุ่มขับรถด้วยท่าทางเหมือนคนคิดเรื่องหนึ่งเรื่องใดอยู่ตลอดเวลา

รถยนต์คันเล็กของปณาลีจอดเทียบหน้ารั้วเตี้ยๆ ของบ้าน คิ้วที่ขมวดอยู่แล้วของกวินภพกลับผูกกันยุ่งไปกว่าเดิมเมื่อเห็นว่าที่หน้าบ้านนั้นมีรถยนต์สี่ประตูจอดอยู่ และปวิตรากำลังก้าวลงมาจากรถคันนั้น อะไรไม่สำคัญเท่าเขาจำได้ว่ารถคันนี้เป็นของหมวดชยพน!
-------------------------------------------------------------------------------------

มาแล้วค่ะ ตอนล่าสุด แหะๆ ยอมรับผิดว่าช้าสุดๆ แต่ไม่มีเวลาจริงๆ ค่ะ ตอนนี้แทบจะกินนอนในห้องแลบแล้ว

ตอนนี้เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สนุกสนานกันให้เต็มที่นะคะ ตอนต่อไปจะพยายามมาให้เร็วกว่านี้

จุ๊บ...จุ๊บ...ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านค่ะ
--------------------------------------------------------------------------------------



น้ำแอปเปิ้ล
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 1 มี.ค. 2558, 17:48:13 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 1 มี.ค. 2558, 17:48:13 น.

จำนวนการเข้าชม : 3052





<< ---- (9) ----   
กาซะลองพลัดถิ่น 1 มี.ค. 2558, 20:08:02 น.
ได้อ่านก็ดีใจแล้วคะ เอาใจช่วยนะคะ .....
ตอนนี้ปมมันผูกกันให้วุ่นไปหมดเลย หลาย ๆ คนดูน่าสงสัยไปหมดเลย ....



myfearless 1 มี.ค. 2558, 21:13:08 น.
มาแว้วววววว


bom2528 1 มี.ค. 2558, 22:30:58 น.
สนุกค่าา ไม่กล้าเดาเลย


ribbin 1 มี.ค. 2558, 22:31:06 น.
เรื่องนี้มี 2 คู่ใช่ไหมคะ
คนน่าสงสัยเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ชักไงแล้วสิ


Chii 1 มี.ค. 2558, 22:45:55 น.
รอได้ค่ะ ช้าก้อรอได้

แค่เข้ามาดูทุกวันเลยยยย เท่านั้นเอง

//ทีมพี่วิน


Zephyr 2 มี.ค. 2558, 00:12:48 น.
ปมเยอะขึ้นเรื่อยๆๆๆ
เดาไปเดามาเริ่มจะเดาไม่ถูกแล้ว 555
สืบไปพร้อมพี่วินกัน้ำละกัน


konhin 2 มี.ค. 2558, 01:00:39 น.
ยังเดาทางไม่ถูก


ผักหวาน 2 มี.ค. 2558, 13:18:15 น.
ใกล้เข้ามาๆ แล้ว มีประเด็นให้พี่วินต้องคิดหลายอย่างจริงๆ
แบบนี้ ต่อไปใครจะเป็นคนที่เดือดร้อนอีกคะเนี่ย ถ้าไม่ใช่หนูน้ำ


goldensun 11 มี.ค. 2558, 19:54:39 น.
เป็นเรื่องที่เดายากจัง น่าสงสัยไปหมด แถมเบาะแสก็น้อย
รอลุ้นไปเรื่อยๆ ค่ะ ท่าทางยุทธก็ดูจะน่าสงสัยอีกคนแล้วสิ


oolong 22 เม.ย. 2558, 21:54:32 น.
หายไปนาน ยุ่งมากเหรอคะ


myfearless 16 ส.ค. 2558, 12:35:47 น.
คนเขียนหายไปไหนน๊อออออ
ส่งข่าวบ้างก็ยังดีนะค๊าาา


น้ำแอปเปิ้ล 26 ส.ค. 2558, 05:57:41 น.
แวบมาส่งข่าวว่างานยุ่งค่ะ ไม่มีเวลามาเขียนเลย ขอโทษคนอ่านจริงๆ นะคะ ถ้ามีเวลาเมื่อไรจะพยายามเอามาลงต่อค่ะ ขอบคุณนะคะที่ยังติดตาม


myfearless 10 ก.ย. 2558, 19:29:47 น.
แว้ปเข้ามาดู เห็นไรเตอร์มาตอบ. ดีใจที่ยังมีข่าวคราวบ้างค่ะ อยากถามอีกเรื่อง คือน้องป่านกับคุณปีไปถึงไหนแล้วค๊าา ถ้าสำนักพิมพ์เงียบ ลองทำอีบุ๊คมั้ยค่ะ. อยากอ่านมากๆๆๆๆ


น้ำแอปเปิ้ล 8 พ.ย. 2558, 18:43:05 น.
น้องปาล์มกับคุณปีก็ยังพยายามส่ง สนพ ค่ะ แต่คาดว่าถ้า สนพ นี้ไม่ผ่านคงไม่ส่งแล้วค่ะ จะทำอีบุคค่ะ อาจจะเป็นปีหน้านะคะที่จะได้เห็นอีบุคกัน...ขอบคุณนะคะที่คิดถึงและสนับสนุนกันมาตลอด


ribbin 6 ธ.ค. 2558, 00:32:35 น.
เข้ามาส่งเสียงว่ายังรออยู่ค้า (ว่าแต่ว่า ย้ายถิ่นฐานกลับมาหรือยังคะ^^)


oolong 6 พ.ค. 2560, 00:56:53 น.
เรื่องนี้ทำebookยังคะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account