สวาทร้ายเจ้าชายทรราช
สวาทร้ายเจ้าชายทรราช
ตีพิมพ์สนพ. Be mine วางจำหน่ายตั้งแต่ 13 เมษายน 2553

***งานเขียนเรื่องนี้เปิดให้ทดลองอ่านใหม่บางส่วน เพื่อการโปรโมตในวางจำหน่ายใน 7-11***
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 1

สวาทร้าย...เจ้าชายทรราช

ประพันธ์โดย..กันต์ระพี




ท่านพี่...ถึงท่านจะเหนือกว่าข้าไปเสียทุกอย่าง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะชนะข้าไปเสียทุกเรื่อง!

เนินเขาสูงชันบุรุษผึ่งผายบนหลังอาชาพร้อมสมัครพรรคพวกอีกครึ่งร้อย ในชุดคลุมดำที่เผยให้เห็นเพียงดวงตาเรียวยาวคมวาวประดุจเหยี่ยว ทอดสายตามองขบวนเดินเท้าของท่านหญิงซานีอา บินติอัลไซมาล อาบูลัค พระธิดาองค์เล็กที่ถือกำเนิดจากพระสนมในกษัตริย์อัลไซมาลแห่งแคว้นอาบูลัค ท่ามกลางเหล่านางกำนัลและราชองครักษ์ที่คอยคุ้มกันภัย ร่างสมส่วนในแพรพรรณชั้นดีที่ปกปิดใบหน้าเผยให้เห็นดวงตากลมโตดำขลับ สวมใส่เครื่องประดับพราวระยับประทับนั่งบนเสลี่ยงหลังอูฐ ดึงดูดสายตาบุรุษผู้นำกลุ่มที่จ้องมองอยู่เหนือเนินเขา

นี่น่ะหรือ...

บรรณาการที่ถวายแด่องค์อัลจาดีร์เพื่อเจริญสัมพันธไมตรีระหว่างแคว้นอาบูลัคกับทัชซาลามัลค์

โอ้ว...ซานีอา เจ้าช่างงดงามคู่ควรแก่การช่วงชิงนัก!

“ลงมือ!”

เสียงกร้าวประกาศก้อง พร้อมทั้งกระชากดาบออกจากฝักและชักอาชาคู่ใจเข้าโรมรันร่วมกับสมัครพรรคพวก เมื่อขบวนเดินเท้าของท่านหญิงซานีอาผ่านเข้าไปในช่องแคบของหุบเขา ท่ามกลางความโกลาหลในสมรภูมิรบ ร่างบุรุษล้มตายเกลื่อนกลาด เสียงกรีดร้องของเหล่านางกำนัลสาวดังเซ็งแซ่ สลับไปมากับเสียงร้องระงมของผู้บาดเจ็บ ทำให้สตรีสูงศักดิ์ที่นั่งบนเสลี่ยงหน้าซีดตัวสั่นทำอะไรไม่ถูก ด้วยไม่เคยต้องมาเผชิญกับเหตุการณ์ร้ายดังกล่าว

“ท่านหญิงซานีอาทางนี้พระเจ้าค่ะ!” ร่างสมส่วนที่ลงจากหลังอูฐก้าวตามบุรุษร่างยักษ์หนึ่งในราชองครักษ์คอยคุ้มกันภัย ที่พยายามจะตีฝ่าวงล้อมเพื่อเปิดทางให้หลบหนี แต่น้ำน้อยหรือจะสู้ไฟที่โหมกระพือเข้ามารอบด้านได้ อาหมัดประดาบต่อสู้เพื่อปกป้องผู้เป็นนายได้ไม่นานนัก ร่างใหญ่โตของเขาก็ชุ่มโชกไปด้วยเลือดก่อนจะทรุดลงไปนอนกับพื้น เมื่อถูกคมดาบจากสารทิศฟาดฟันเข้าใส่อย่างมุ่งหมายจะเอาชีวิต

“อ๊ากก!”

“กรี๊ดด...อาหมัด! ไม่นะ...พระเจ้า! เจ้าต้องไม่เป็นอะไร” ซานีอากรีดร้องเสียงหลง สองขาอ่อนแรงทรุดลงนั่งใกล้ร่างผู้คอยรับใช้ติดตามมาตลอดหลายปี หยาดน้ำใสรินไหลจากดวงตาที่เต้นระริก ขณะที่มือสั่นเทาเอื้อมไปแตะร่างใหญ่โตที่อาบไปด้วยเลือดของข้าช่วงใช้อย่างไม่ถือศักดินา

“ไม่ต้องห่วงกระหม่อมพระเจ้าค่ะ หนีไป! หนีไปพระเจ้าค่ะ! อย่าให้ไอ้โจรชั่วมันจับตัวได้!” ลมหายใจที่เริ่มจะติด ๆ ขัด ๆ คล้ายจะขาดห้วง นั้นบ่งบอกให้รู้ว่าเขาคงไม่อาจจะรักษาชีวิตเอาไว้ได้ อาหมัดจึงกัดฟันผลักร่างหญิงสูงศักดิ์ให้ไกลห่างพร้อมทั้งร้องสั่ง ด้วยหวังจะอารักขานายสาวตามหน้าที่จนถึงวินาทีสุดท้ายของชีวิต

“อาหมัด!”

“หนี! หนีไปพระเจ้าค่ะ...”

ซานีอาปาดหยาดน้ำตาแล้วออกวิ่งเต็มกำลัง เมื่อคำสั่งลาสุดท้ายก่อนที่ร่างใหญ่โตตรงหน้าจะแน่นิ่งนั้นย้ำเตือนสติว่ากำลังเผชิญอยู่กับภัยร้าย แต่ทว่าร่างสมส่วนในแพรพรรณชั้นดีวิ่งหนีไปได้ไม่ไกลนัก ร่างทั้งร่างก็ลอยละลิ่วขึ้นไปอยู่บนหลังอาชาเคียงบุรุษ เมื่อลำแขนแกร่งของผู้มีดวงตาประดุจเหยี่ยวเกี่ยวกวัดรัดเอวบาง ก่อนจะรั้งร่างนุ่มนิ่มเข้ามาแนบชิดติดกับแผงอกแล้วชักอาชาหายลับไปกับเส้นขอบฟ้า ท่ามกลางเสียงประดาบที่ยังมีอย่างต่อเนื่อง...



แสงแห่งวันที่เลือนหายไปกับเส้นขอบฟ้าถูกทดแทนด้วยความมืดสลัวของราตรีกาล ไอร้อนระอุทั่วทั้งบริเวณคลายตัวลง เมื่อความเหน็บหนาวแทรกซึมไปทุกพื้นที่ เสียงฝีเท้าม้าชั้นดีที่ห้อตะบึงมาแต่ไกลเชื่องช้าก่อนจะหยุดนิ่งหน้ากระโจมกว้าง ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางกระโจมน้อยใหญ่หลังเนินเขาสูงชัน อันเป็นสถานที่พักแรมเร้นลับของกองกำลังที่ดักซุ้มโจมตีขบวนเดินเท้าของท่านหญิงซานีอา บุรุษผึ่งผายในชุดคลุมดำปกปิดใบหน้าลงจากหลังอาชา ก่อนจะกระชากร่างบางเบาที่ดิ้นรนขัดขืนขึ้นพาดบ่าแล้วพาหายเข้าไปในกระโจมกว้าง ท่ามกลางเสียงเป่าปากโห่ร้องอย่างคึกคะนองของกลุ่มชายฉกรรจ์ ที่นั่งเวรยามระแวดระวังเหตุร้ายรอบกองไฟบนลานกว้างหน้ากระโจม

“เจ้าโจรชั่ว! ถ้าเจ้าแตะต้องข้าแม้แต่ปลายเล็บ องค์อัลจาดีร์จะส่งเจ้าลงนรก!”

ภายในกระโจมกว้าง ร่างสมส่วนในแพรพรรณชั้นดีถูกเหวี่ยงลงบนพรมขนแกะผืนหนา น้ำเสียงที่ติดจะสั่นเล็กน้อยตวาดกร้าวพร้อมทั้งถอยร่น เมื่อนัยน์ตาดำขลับที่แฝงแววตื่นตระหนกปะทะเข้ากับสายตาหื่นกระหายที่โลมเลียตลอดเรือนร่าง

“คนอย่างข้าไม่เคยกลัวใคร ข้ายินดีที่จะลงนรก หากคืนนี้ได้ขึ้นสวรรค์กับเจ้า!”

บุรุษในชุดคลุมดำปกปิดใบหน้าไม่พูดเปล่า หากแต่ย่างสามขุมเข้าหา

“อย่าเข้ามานะ! พรหมจรรย์ข้าไม่ได้มีไว้สำหรับเจ้า ข้าไม่ใช่ผู้หญิงดาษดื่นพรรค์นั้น”

ร่างบอบบางที่ถอยร่นไปจนสุดผืนพรมผลุนผลันลุกขึ้น ด้วยหมายจะวิ่งหนีไปอีกฟากหนึ่งของกระโจม แต่ทว่ากลับถูกมือแข็งรั้งร่างไว้ ก่อนจะเหวี่ยงกลับไปบนพรมหนาแล้วทิ้งน้ำหนักตัวกดทับจนสิ้นอิสระ

“ไม่ว่าเจ้าจะเป็นราชนิกุลผู้สูงศักดิ์หรือนางไพร่ ยามที่ตกอยู่ในห้วงเสน่หา ก็หาได้แตกต่างจากสตรีผู้ทอดกายใต้ร่างบุรุษ!” ดวงตาคมประดุจเหยี่ยวจ้องมองอย่างเย้ยหยัน นึกหยามใจ เลื่อนมือขึ้นปลดผ้าคลุมหน้าผืนบางเผยเครื่องหน้างดงามของหญิงสาว จมูกโด่งที่เชิดขึ้นเล็กน้อยอย่างถือดี กับริมฝีปากอวบอิ่มสีกุหลาบแลเชิญชวนให้ฝากรอยจุมพิตอยู่ในที ทำให้ผู้รุกรานอดใจไม่ไหวที่จะไล้มือสัมผัสไปตามกลีบปากนวลนุ่ม

“กรี๊ดด! เอามือสกปรกของเจ้าออกไปจากตัวข้า ถ้าเจ้าแตะต้องข้า องค์อัลจาดีร์จะบั่นคอเจ้า เจ้าจะต้องตกนรก พระเจ้าจะลงโทษเจ้า! ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้! ไอ้โจรชั่ว!”

ซานีอาเบือนหน้าหนี สองมือกำแน่นทั้งทุบทั้งผลักผู้รุกราน แต่หาได้ทำให้ชายหนุ่มสะดุ้งสะเทือนเลยแม้แต่น้อย หากแต่สร้างความสำราญใจให้ฝ่ายตรงข้าม จนผู้ที่อยู่เหนือร่างหลุดเสียงหัวเราะอย่างพึงใจในลำคอ ความกลัวและโกรธที่เกิดขึ้นในคราเดียวกัน ผลักดันให้ฝ่ามือเรียวสะบัดเข้าใส่ใบหน้าที่ปกปิดด้วยผ้าคลุมดำ แต่ทว่าบุรุษผู้นั้นกลับอาศัยความว่องไวกว่าฉวยข้อมือเรียวไว้ ก่อนจะรวบอีกข้างมาตรึงไว้ด้วยกันเหนือศีรษะได้รูปสวยของหญิงสาวด้วยมือเพียงข้างเดียว

“เจ้าจะหวงตัวไปไย จะช้าหรือเร็ว เจ้าก็ต้องเสียตัวอยู่ดี”

“แต่ไม่ใช่กับเจ้า!” น้ำเสียงขุ่นตวาดกร้าว ขณะที่ดวงตาดำขลับจ้องบุรุษเหนือร่างอย่างไม่หวั่นเกรง

“ฮึ...ยังไงเสียคืนนี้เจ้าจะต้องเป็นของข้า เป็นของข้าคนเดียวเท่านั้น! และอย่าได้หวัง...ว่าข้าจะปล่อยให้พรหมจรรย์ของเจ้าหลุดรอดไปถึงมืออัลจาดีร์”

“ถ้าข้าต้องตกเป็นเมียโจรชั่วช้าอย่างเจ้า ข้าขอตายเสียยังจะดีกว่า”

“ตายอย่างนั้นหรือ? มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก แต่ก็เอาเถอะ...ถ้าเจ้าอยากตายนัก ข้าก็จะสงเคราะห์ให้เจ้าได้สำลักความสุขตายอยู่ในอ้อมกอดของข้าก็แล้วกัน เผื่อมันจะสมใจเจ้าบ้าง” เสียงแหบพร่าชิดใบหูไม่ได้พูดเปล่า หากแต่ไล้สัมผัสเรือนกายผ่านแพรพรรณชั้นดีไปตามส่วนโค้งส่วนเว้าราวกับเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ

“กรี๊ดด! เจ้าโจรชั่ว! เจ้าคนถ่อย! อย่าแตะต้องเนื้อตัวข้า ถ้าเจ้าขืนใจข้า ข้าจะฆ่าเจ้า! ข้าสาบานว่าเมื่อใดที่เจ้าสิ้นชีวิต ข้าจะแล่เนื้อเจ้าออกมาสับเป็นชิ้น ๆ” ซานีอาหน้าถอดสี หล่อนกรีดร้องเสียงหลง ขณะที่เนื้อตัวสั่นเทาไปกับสัมผัสจาบจ้วง ด้วยเพราะด้อยประสบการณ์ จึงไม่รู้เลยว่ายิ่งหล่อนดิ้นรนขัดขืนมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งกระตุ้นให้ผู้ที่อยู่เหนือร่างต้องการจะสัมผัสเนื้อตัวนุ่มนิ่มมากขึ้นเท่านั้น แต่จู่ ๆ ชายจาบจ้วงก็ชะงักการกระทำประหนึ่งเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมากะทันหัน

“เฮ้อ! ข้าล่ะกลัวใจผู้หญิงเสียจริง ๆ เอาเป็นว่าวันนี้ข้าจะปล่อยเจ้าก็แล้วกัน เพราะข้าเองก็ไม่ชอบฝืนใจใคร อีกอย่างเสียงร้องของเจ้ามันทำให้ข้าแสบแก้วหูจนหมดอารมณ์ เจ้าตะเบ็งเสียงใส่ข้าเป็นสิบ ๆ หนไม่รู้สึกคอแห้งบ้างหรือไร" บุรุษในชุดคลุมดำระบายลมหายใจยาวก่อนจะปล่อยร่างนุ่มนิ่มให้เป็นอิสระ แล้วลุกขึ้นไปรินน้ำในเหยือกใบใหญ่ใส่แก้วส่งให้หญิงสาว โดยไม่มีทีท่าว่าจะล่วงเกินหล่อนอีก

"เอา...ดื่มน้ำเสียหน่อยสิแล้วนอนพัก ข้าสัญญาว่าวันนี้จะไม่แตะต้องเจ้า เว้นเสียแต่ว่าเจ้าจะเป็นฝ่ายร่ำร้องเรียกหาข้า”

“ไม่มีวันที่ข้าจะทำเช่นนั้น”

“ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน” หากชายผู้นั้นมิได้ปกปิดใบหน้าเหมือนที่เป็นอยู่ หญิงสาวก็คงจะได้เห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์พร่างพรายอยู่บนใบหน้า แต่ถึงกระนั้นหล่อนก็ยังจ้องมองบุรุษตรงหน้าเขม็ง ด้วยรู้สึกฉงนใจกับถ้อยคำแปลก ๆ

“เจ้าหมายความว่ายังไง?”

“ไม่มีอะไร ดื่มน้ำเถิด แล้วนอนพักเสีย”

แม้ซานีอาจะรู้สึกงุนงงกับท่าทีที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาของโจรชั่วช้าที่จับตัวหล่อนมา แต่ก็จำต้องยื่นมือออกไปรับแก้วน้ำมาดื่มดับกระหายแต่โดยดี ด้วยเพราะลำคอนั้นแห้งผาดจากการขาดน้ำมานาน จึงมิได้เฉลียวใจเลยสักนิดว่าไมตรีที่ได้รับจะไม่ต่างจากงูพิษ

“นอนลงแล้วปล่อยตัวตามสบาย อีกสักพักเจ้าจะรู้สึกดีมากกว่าที่เป็นอยู่” เพียงแค่มือหนาดันไหล่บางผ่านเนื้อผ้าก่อนจะไล้ไปตามเรียวแขนกลมกลึง หญิงสาวก็รู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งร่าง อาการกระสับกระส่ายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน บ่งบอกให้รู้ว่าเวลานี้มีสิ่งผิดปกติบางอย่างเกิดขึ้นกับร่างกายหล่อน

“จ...เจ้าทำอะไรข้า”

ไม่มีถ้อยคำใดหลุดจากปากชายหนุ่ม นอกจากนัยน์ตาวาววับที่จับจ้องตลอดเรือนกายหญิงสาว

“จ...เจ้าคนถ่อย เจ้าวางยาข้า จ...เจ้ามันชั่วช้านัก!”

ซานีอาส่งสายตากร้าวจ้องมองบุรุษตรงหน้าราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ อาการเหนื่อยหอบจนอกสะท้อนนั้นเกิดจากเลือดในกายเดือดพล่าน ในขณะที่ร่างกายกลับไร้กำลังต่อต้าน ไฟปรารถนาที่ลุกโชนทวีความรุนแรงขึ้นตามลำดับ และมันกำลังบังคับให้ร่างกายหล่อนเรียกร้องการปลดปล่อย

“ความจริงเจ้าไม่ควรจะด่าว่าข้าแบบนี้ แต่ควรจะขอบใจที่ข้าทำให้เจ้าไม่ต้องฝืนใจตัวเองที่จะมีความสุขไปพร้อมกับข้า”

“เจ้าโจรชั่ว! เจ้าสัญญาแล้ว...”

“สัจจะไม่มีในหมู่โจร”

“จ...เจ้ามันต่ำช้า...ต่ำช้าที่สุด!” หญิงสาวใช้กำลังที่เหลือเพียงน้อยนิดโถมทั้งตัวเข้าหาชายตรงหน้าด้วยหมายจะประทุษร้าย แต่ทว่าเมื่อเรือนกายสาวสัมผัสกับร่างแกร่งก็เหมือนจะยิ่งจุดไฟปรารถนา กลิ่นกายบุรุษและอ้อมกอดอบอุ่นที่โอบกระชับร่างหล่อนไว้ ปลุกความวาบไหวให้กายสาวสั่นสะท้านไปทั่วสรรพางค์

“ซานีอา...เนื้อตัวเจ้าสั่น มันกำลังฟ้องว่าเจ้าปรารถนาให้ข้าสัมผัส บอกกับข้าสิว่าเจ้าต้องการข้า” เสียงแหบพร่ากับไอร้อนที่เป่ารดลงมาข้างใบหู ทำให้หญิงสาวรู้สึกเหมือนจะคลั่ง แต่ด้วยความหยิ่งทะนงในศักดิ์ศรีและหวงแหนพรหมจรรย์ ทำให้หล่อนพยายามอย่างที่สุดที่จะปิดกั้นความรู้สึก

“ม...ไม่! ข้าไม่ต้องการเจ้า!”

“เจ้าจะปิดกั้นตัวเองไปเพื่ออะไร ในเมื่อร่างกายของเจ้ามันกำลังร่ำร้องเรียกหาข้า วิงวอนข้าสิซานีอา ขอร้องข้า...พูดออกมาว่าเจ้าต้องการข้า แล้วข้าจะปลดปล่อยเจ้าจากความทุกข์ทรมานที่เป็นอยู่”

“ม...ไม่!”

“เจ้าไม่ยอมพูดใช่ไหม ได้! ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเจ้าจะทนไปได้สักกี่น้ำ” ชายหนุ่มมิได้พูดเปล่า หากแต่สัมผัสเคล้าคลึงเรือนกายสาว เพื่อจุดไฟปรารถนาให้ลุกโชนมากกว่าเก่า ไม่นานนัก...ร่างบอบบางก็สั่นสะท้านเสมือนหนึ่งใจจะขาดเสียให้ได้ ในทุกครั้งที่สัมผัสวาบหวามนั้นห่างหายไปจากเรือนกายสาว

“อย่าทรมานข้าอีกเลย ได้โปรด...”

“วิงวอนข้า พูดออกมาสิซานีอา พูดว่าเจ้าต้องการข้า!”

“ได้โปรด...ข้าต้องการเจ้า อย่าทรมานข้าอีกเลย สัมผัสข้า ข้าต้องการเจ้า...”

เพียงแค่หญิงสาวเพ้อรำพันราวกับคนละเมอในห้วงฝันพร้อมทั้งรั้งร่างแกร่งเข้าแนบชิด บุรุษผู้ปกปิดใบหน้าก็เผยยิ้มกว้างใต้ผ้าสีดำสนิท แม้จะรู้ดีว่าอาการเชิญชวนดังกล่าวนั้นเกิดจากฤทธิ์ยากำหนัด แต่ชายหนุ่มกลับสุขใจและยินดีเป็นยิ่งนัก ที่ร่างบอบบางในอ้อมแขนร่ำร้องเรียกหาด้วยความปรารถนา มือหนาที่ไล้สัมผัสละจากเรือนกายหญิงสาว ก่อนจะเลื่อนขึ้นไปปลดผ้าสีดำสนิทที่ปกปิดใบหน้าแล้วใช้มันปิดนัยน์ตาคู่สวย ที่ยามนี้หลับพริ้มด้วยวาบไหวไปกับสัมผัสวาบหวาม

ท่ามกลางความมืดมิด จุมพิตเร่าร้อนกึ่งเรียกร้องอยู่ในทีสัมผัสไปทุกอณูบนผิวเนื้อเนียนละเอียด ทำให้อาการร้อนผ่าวในกายสาวสูญสลายกลับกลายมาเป็นความสุขสม ซึ่งความสุขที่ได้รับนั้นก็ไม่ผิดกับน้ำทิพย์ฉ่ำเย็นที่หลั่งรดลงมาบนเรือนร่าง เพียงไม่นาน...เรือนกายสาวก็สั่นสะท้านอย่างเปี่ยมสุขในอ้อมแขนแข็งแกร่งของบุรุษผู้ช่วงชิงพรหมจรรย์ ทว่ากว่าที่ไฟปรารถนาร้อนเร่าจะมอดดับ พายุอารมณ์ที่ก่อตัวขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก็นำพาให้หญิงสูงศักดิ์พานพบกับความสุขล้ำนับครั้งไม่ถ้วน...

***************
หมายเหตุ...
สวาทร้ายเจ้าชายทรราช by กันต์ระพี ตีพิมพ์สนพ.Be mine
(วางจำหน่าย 13 เมษายน 2553)

อ่านสวาทร้ายเจ้าชายทรราช (e-book)
สามารถอ่านได้บน iPad, iPhone, iPad Touch (iOS 4 ขึ้นไป)
http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&book_id=1606


หรือสั่งซื้อได้ที่...
http://www.phetpraguy.com/show_product.php?id=1100&cat=11

****งานเขียนเรื่องนี้เปิดให้ทดลองอ่านใหม่บางส่วน เพื่อการโปรโมตในการวางจำหน่ายใน7-11****



กันต์ระพี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 ก.ย. 2555, 22:46:27 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 31 ก.ค. 2556, 08:34:46 น.

จำนวนการเข้าชม : 2092





   ตอนที่ 2 >>
หมูอ้วน 12 ก.ย. 2555, 23:17:39 น.
รอตอนต่อไปค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account