สามีตีตราจอง
ชีวิตคู่คือการเริ่มต้นของคน2คนเป็นเหมือนละครฉากสำคัญไม่มีผู้กำกับไม่มีบทมีแต่เธอและเขาที่ต้องเรียนรู้การใช้ชีวิตคู่และเรียนรู้ที่จะเข้าใจกันและนั้นคือความหมายของคำว่า"มั่นคง"
Tags: ความรัก ชีวิตคู่
ตอน: บทที่1:ชีวิตคู่
ภายในบ้านที่กำลังจัดงานทำบุญบ้านเหล่าเครือญาติต่างมาร่วมงานกันอย่างคับคลั่งสองสามีภรรยาที่พึ่งแต่งงานกันเมื่อ3เดือนที่แล้วก้มลงกราบพระพร้อมๆกัน
"เจริญพรโยม" พระให้พรแก่สองสามีภรรยาพลันสกุณาแม่ของธีรกรเดินเข้ามา
"พานิตาไปหาอะไรกินก่อนเถอะลูกเดี๋ยวทางนี้แม่จัดการเอง" สกุณาพูดด้วยรอยยิ้ม
"ครับแม่"ธีรกรรับคำพลางจูงมือภรรยาของเขาออกมาด้านนอก
"นิดจ๋าอยากกินอะไรสั่งมาเลยเดี๋ยวธีเป็นบ๋อยเองวันนี้"ธีรกรยิ้มนิตาหยิกแก้มเขา
"ไม่ต้องมาอ้อนนิดเลยเมื่อคืนไปไหนมา" นิตาทำหน้าดุ
"ก็....ก็ไอ้วัตมันชวนกินเบียร์น่ะมันกำลังจะแต่งงานเลยมาขอคำปรึกษามันเห็นว่าธีแต่งงานแล้วน่าจะให้คำปรึกษาได้"
"นิดพึ่งรู้ว่าธีนอกจากเป็นประธานบริษัทแล้วยังเป็นพนักงานรับให้คำปรึกษาอีก"นิตาทำหน้ามุ้ยธีรกรโผกอดเธอพลันหอมแก้มนิตา
"โหย..อย่างอนเลยนะธีจะไปมองคนอื่นได้ยังไงในเมื่อหัวใจธีมีนิดจองอยู่ทั้งคน"
"ให้มันจริงเถอะ..แต่ว่าปล่อยได้แล้วเดี๋ยวใครมาเห็น"
"ช่างเขาสิธีไม่อายธีรักนิดรักนิดที่สุด" ธีรกรยิ้มพลันสกุณากับแพรวพรายพี่สาวเขาเดินมา
"อะแฮ่ม!!กลางวันแสกๆนะเลยธี" แพรวพรายแซวน้องชาย
"แหม่พี่แพรวก็" ธีรกรยิ้มเขินๆ
"พระท่านจะกลับแล้วธีจะไม่ไปส่งหน่อยรึ" สกุณามองลูกชาย
"งั้นเดี๋ยวธีมานะ" ธีรกรมองนิตาก่อนจะเดินเข้าไปโอบแม่
"พี่ขอคุยอะไรกลับเธอหน่อยสินิตา" แพรวพรายมองนิตาก่อนจะเดินนำมาที่สวนหลังบ้าน
"พี่แพรวมีอะไรเหรอคะ" นิตามองแพรวพราย
"เธอดูบ้านหลังนี้สิ..ธีเก็บเงินซื้อเองเลยนะนิตา..พี่อิจฉาเธอนะธีรักเธอมากซึ่งพี่ไม่เคยถูกผู้ชายคนไหนรักแบบนี้มาก่อนพี่กับแม่อยากจะบอกเธอว่าจำไว้นะไม่ว่าอะไรจะเข้ามาในชีวิตปัญหาความทุกข์หรือความสุข..เธอสองคนจะต้องจับมือไปด้วยกันและจะมีความเชื่อใจความมั่นใจให้กันและกันนะ"แพรวพรายจับมือนิตา
"นิดสัญญาค่ะนิดเองก็ไม่รู้หรอกว่าพรุ่งนี้นิดจะเจออะไรบ้างแต่ตอนนี้นิดจะเชื่อมั่นในตัวธีเพราะนิดรู้ว่าทุกอย่างมันพึ่งเริ่มต้น" นิตายิ้มพลันธีรกรกับสกุณาเดินมา
"รังแกภรรยาผมหรือครับพี่แพรวมันหมดยุคพี่สามีกับน้องสะใภ้แล้วนะ"ธีรกรแซวพี่สาวแพรวพรายเม้มปากก่อนจะเดินมาตีไหล่เขา
"นี่แนะ!!ขอให้แกรักนิดได้อย่างนี้ตลอดละกัน"แพรวพรายพูดสกุณายิ้ม
"พอได้แล้วพี่น้องคู่นี้นี่ป่ะนิตาปล่อยเขาตีกันตายไปเลย"สกุณาเดินมาหานิตา
"แหม่แม่ครับได้ลูกสะใภ้ลืมลูกชายคนนี้เลยนะครับ"ธีรกรยิ้มทั้งสี่คนหัวเราะอย่างมีความสุข
///////////
เช้าวันใหม่
ธีรกรเดินเข้ามาในบริษัทอย่างยิ้มแย้มและไม่วายโดนแซวจากพนักงาน
"คุณธีฮะ" เจ๊ส้มลุกขึ้น
"อะไรหรือครับ" ธีรกรทำหน้างงๆ
"พอดีวันนี้ส้มตาบอดสีน่ะค่ะคุณธีช่วยดูหน่อยสิคะว่าวันนี้โลกสีชมพูหรือเปล่า" เจ๊ส้มพูดพนักงานต่างพากันฮิ้วกันใหญ่ธีรกรยิ้มด้วยความเขินก่อนจะเดินเข้าห้องทำงานพลันพัลลภเดินเข้ามา
"คุณธีครับพอดีมีพนักงานมาสมัครงานตำแหน่งเลขาแทนคุณฉวีที่พึ่งออกไปน่ะครับ"พัลลภวางกระดาษลง
"คุณช่วยบอกเขาด้วยว่าเดี๋ยวทางเราจะติดต่อกลับไปพอดีวันนี้ผมต้องออกไปพบคุณโรเบิร์ตข้างนอกน่ะ"
"ครับ" พัลลภรับคำพลันเดินลงมาข้างล่าง
"เอิ่ม..คุณวาณีกลับไปก่อนนะครับเดี๋ยวทางเราจะติดต่อกลับไป"
"ค่ะ" วาณีรับคำก่อนจะเดินออกจากบริษัทพลันมีรถมอเตอร์ไซด์วิ่งมาปาดหน้าตรงลานจอดรถจนวาณีล้มลง
"โอ้ย!!!" วาณีร้องเมื่อจับเท้าวาณีพยายามลุกขึ้นแต่ก็พลาดจะเซล้มเป็นจังหวะที่ธีกรเดินออกมาแล้วคว้าตัวเธอไว้ทัน
"เป็นอะไรหรือเปล่าครับ" ธีรกรมองวาณี
"สงสัยเท้าจะพลิกน่ะค่ะ"วาณีตอบธีรกรจึงพยุงเธอมานั่งบนรถ
"ให้ผมพาไปหาหมอนะเผื่อกระดูกคุณร้าวจะได้แก้ทัน"ธีรกรพูดวาณีพยักหน้าสักพักก็มาถึงโรงพยาบาลพยาบาลจึงเข็นรถออกมา
"ภรรยาคุณไม่เป็นอะไรแล้วนะคะแค่เท้าพลิก"พยาบาลสาวพูดธีรกรจะบอกว่าวาณีไม่ใช่ภรรยาตนแต่พยาบาลสาวก็ไปซะก่อน
"ขอบคุณนะคะนี่วาทำให้คุณเสียเวลาหรือเปล่า" วาณีมองธีรกร
"ไม่เป็นไรครับคุณกำลังเดือดร้อนผมก็ต้องช่วย..ผมจ่ายค่ายาให้แล้วนะครับงั้นผมขอตัวก่อน"ธีรกรหันหลังวาณีดึงมือเขา
"คือ..คุณช่วยเรียกแท็กซี่ให้หน่อยได้ไหมคะคือ..วายังเจ็บเท้าอยู่"วาณีมองธีรกรเขามองนาฬิกา
"งั้นเดี๋ยวผมไปส่งละกัน"ธีรกรพูดวาณีโอบแขนเขาก่อนจะขึ้นรถและมาถึงบ้าน
"ขอบคุณนะคะรบกวนคุณแย่เลย" วาณีพูด
"ไม่เป็นไรครับ"ธีรกรพูดพลางขึ้นรถแล้วขับออกไปปล่อยให้วาณียืนยิ้มจนแม่เธอออกมา
"ใครอะลูก" แม่ของวาณีถาม
"ว่าที่ลูกเขยแม่ไง" วาณียิ้มแม่วาณีทำหน้างงๆกับลูกสาว
"เจริญพรโยม" พระให้พรแก่สองสามีภรรยาพลันสกุณาแม่ของธีรกรเดินเข้ามา
"พานิตาไปหาอะไรกินก่อนเถอะลูกเดี๋ยวทางนี้แม่จัดการเอง" สกุณาพูดด้วยรอยยิ้ม
"ครับแม่"ธีรกรรับคำพลางจูงมือภรรยาของเขาออกมาด้านนอก
"นิดจ๋าอยากกินอะไรสั่งมาเลยเดี๋ยวธีเป็นบ๋อยเองวันนี้"ธีรกรยิ้มนิตาหยิกแก้มเขา
"ไม่ต้องมาอ้อนนิดเลยเมื่อคืนไปไหนมา" นิตาทำหน้าดุ
"ก็....ก็ไอ้วัตมันชวนกินเบียร์น่ะมันกำลังจะแต่งงานเลยมาขอคำปรึกษามันเห็นว่าธีแต่งงานแล้วน่าจะให้คำปรึกษาได้"
"นิดพึ่งรู้ว่าธีนอกจากเป็นประธานบริษัทแล้วยังเป็นพนักงานรับให้คำปรึกษาอีก"นิตาทำหน้ามุ้ยธีรกรโผกอดเธอพลันหอมแก้มนิตา
"โหย..อย่างอนเลยนะธีจะไปมองคนอื่นได้ยังไงในเมื่อหัวใจธีมีนิดจองอยู่ทั้งคน"
"ให้มันจริงเถอะ..แต่ว่าปล่อยได้แล้วเดี๋ยวใครมาเห็น"
"ช่างเขาสิธีไม่อายธีรักนิดรักนิดที่สุด" ธีรกรยิ้มพลันสกุณากับแพรวพรายพี่สาวเขาเดินมา
"อะแฮ่ม!!กลางวันแสกๆนะเลยธี" แพรวพรายแซวน้องชาย
"แหม่พี่แพรวก็" ธีรกรยิ้มเขินๆ
"พระท่านจะกลับแล้วธีจะไม่ไปส่งหน่อยรึ" สกุณามองลูกชาย
"งั้นเดี๋ยวธีมานะ" ธีรกรมองนิตาก่อนจะเดินเข้าไปโอบแม่
"พี่ขอคุยอะไรกลับเธอหน่อยสินิตา" แพรวพรายมองนิตาก่อนจะเดินนำมาที่สวนหลังบ้าน
"พี่แพรวมีอะไรเหรอคะ" นิตามองแพรวพราย
"เธอดูบ้านหลังนี้สิ..ธีเก็บเงินซื้อเองเลยนะนิตา..พี่อิจฉาเธอนะธีรักเธอมากซึ่งพี่ไม่เคยถูกผู้ชายคนไหนรักแบบนี้มาก่อนพี่กับแม่อยากจะบอกเธอว่าจำไว้นะไม่ว่าอะไรจะเข้ามาในชีวิตปัญหาความทุกข์หรือความสุข..เธอสองคนจะต้องจับมือไปด้วยกันและจะมีความเชื่อใจความมั่นใจให้กันและกันนะ"แพรวพรายจับมือนิตา
"นิดสัญญาค่ะนิดเองก็ไม่รู้หรอกว่าพรุ่งนี้นิดจะเจออะไรบ้างแต่ตอนนี้นิดจะเชื่อมั่นในตัวธีเพราะนิดรู้ว่าทุกอย่างมันพึ่งเริ่มต้น" นิตายิ้มพลันธีรกรกับสกุณาเดินมา
"รังแกภรรยาผมหรือครับพี่แพรวมันหมดยุคพี่สามีกับน้องสะใภ้แล้วนะ"ธีรกรแซวพี่สาวแพรวพรายเม้มปากก่อนจะเดินมาตีไหล่เขา
"นี่แนะ!!ขอให้แกรักนิดได้อย่างนี้ตลอดละกัน"แพรวพรายพูดสกุณายิ้ม
"พอได้แล้วพี่น้องคู่นี้นี่ป่ะนิตาปล่อยเขาตีกันตายไปเลย"สกุณาเดินมาหานิตา
"แหม่แม่ครับได้ลูกสะใภ้ลืมลูกชายคนนี้เลยนะครับ"ธีรกรยิ้มทั้งสี่คนหัวเราะอย่างมีความสุข
///////////
เช้าวันใหม่
ธีรกรเดินเข้ามาในบริษัทอย่างยิ้มแย้มและไม่วายโดนแซวจากพนักงาน
"คุณธีฮะ" เจ๊ส้มลุกขึ้น
"อะไรหรือครับ" ธีรกรทำหน้างงๆ
"พอดีวันนี้ส้มตาบอดสีน่ะค่ะคุณธีช่วยดูหน่อยสิคะว่าวันนี้โลกสีชมพูหรือเปล่า" เจ๊ส้มพูดพนักงานต่างพากันฮิ้วกันใหญ่ธีรกรยิ้มด้วยความเขินก่อนจะเดินเข้าห้องทำงานพลันพัลลภเดินเข้ามา
"คุณธีครับพอดีมีพนักงานมาสมัครงานตำแหน่งเลขาแทนคุณฉวีที่พึ่งออกไปน่ะครับ"พัลลภวางกระดาษลง
"คุณช่วยบอกเขาด้วยว่าเดี๋ยวทางเราจะติดต่อกลับไปพอดีวันนี้ผมต้องออกไปพบคุณโรเบิร์ตข้างนอกน่ะ"
"ครับ" พัลลภรับคำพลันเดินลงมาข้างล่าง
"เอิ่ม..คุณวาณีกลับไปก่อนนะครับเดี๋ยวทางเราจะติดต่อกลับไป"
"ค่ะ" วาณีรับคำก่อนจะเดินออกจากบริษัทพลันมีรถมอเตอร์ไซด์วิ่งมาปาดหน้าตรงลานจอดรถจนวาณีล้มลง
"โอ้ย!!!" วาณีร้องเมื่อจับเท้าวาณีพยายามลุกขึ้นแต่ก็พลาดจะเซล้มเป็นจังหวะที่ธีกรเดินออกมาแล้วคว้าตัวเธอไว้ทัน
"เป็นอะไรหรือเปล่าครับ" ธีรกรมองวาณี
"สงสัยเท้าจะพลิกน่ะค่ะ"วาณีตอบธีรกรจึงพยุงเธอมานั่งบนรถ
"ให้ผมพาไปหาหมอนะเผื่อกระดูกคุณร้าวจะได้แก้ทัน"ธีรกรพูดวาณีพยักหน้าสักพักก็มาถึงโรงพยาบาลพยาบาลจึงเข็นรถออกมา
"ภรรยาคุณไม่เป็นอะไรแล้วนะคะแค่เท้าพลิก"พยาบาลสาวพูดธีรกรจะบอกว่าวาณีไม่ใช่ภรรยาตนแต่พยาบาลสาวก็ไปซะก่อน
"ขอบคุณนะคะนี่วาทำให้คุณเสียเวลาหรือเปล่า" วาณีมองธีรกร
"ไม่เป็นไรครับคุณกำลังเดือดร้อนผมก็ต้องช่วย..ผมจ่ายค่ายาให้แล้วนะครับงั้นผมขอตัวก่อน"ธีรกรหันหลังวาณีดึงมือเขา
"คือ..คุณช่วยเรียกแท็กซี่ให้หน่อยได้ไหมคะคือ..วายังเจ็บเท้าอยู่"วาณีมองธีรกรเขามองนาฬิกา
"งั้นเดี๋ยวผมไปส่งละกัน"ธีรกรพูดวาณีโอบแขนเขาก่อนจะขึ้นรถและมาถึงบ้าน
"ขอบคุณนะคะรบกวนคุณแย่เลย" วาณีพูด
"ไม่เป็นไรครับ"ธีรกรพูดพลางขึ้นรถแล้วขับออกไปปล่อยให้วาณียืนยิ้มจนแม่เธอออกมา
"ใครอะลูก" แม่ของวาณีถาม
"ว่าที่ลูกเขยแม่ไง" วาณียิ้มแม่วาณีทำหน้างงๆกับลูกสาว

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 28 มี.ค. 2558, 18:40:42 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 28 มี.ค. 2558, 18:46:37 น.
จำนวนการเข้าชม : 1896
บทที่2:ความอิจฉา >> |