ฤดูกาลรักที่กลางใจ ตอน คิมหันต์กับปัญชิกา
เพราะโชคชะตาทำให้คิมหันต์ได้พบกับปัญชิกาอีกครั้งพร้อมกับข้อเสนอที่น่าตกใจ...
นั่นคือเธอขอมีความสัมพันธ์กับเขาเพียงคืนเดียว!
นั่นคือเธอขอมีความสัมพันธ์กับเขาเพียงคืนเดียว!
Tags: คิมหันต์ ปัญชิกา ซัน ปุยฝ้าย ใช้หนี้ นางเอกน่าสงสาร
ตอน: ตอนที่ 30
บทที่ 30
เย็นวันนั้น เมื่อปัญชิกาก้าวลงบันไดอาคารสำนักงานที่ตั้งของบริษัทแล้วไม่เห็นรถยนต์คุ้นตา หัวใจก็ว่างโหวงทั้งที่เผื่อใจไว้แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้แต่เธอก็ยังเจ็บปวดจากเศษเสี้ยวของความหวังที่ซ่อนอยู่ส่วนลึก
หากเมื่อมาถึงคอนโดฯ แล้วพบว่าที่หน้าประตูห้องของเธอมีใครคนหนึ่งยืนคอยอยู่ ปัญชิกาก็แทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้ หญิงสาวแทบไม่สนใจบรรดาถุงข้าวของในมือของชายหนุ่มเลยสักนิดเพราะความสนใจทั้งหมดทั้งมวลคือใบหน้าที่ไร้สุขของเขาต่างหาก
เขาไม่จำเป็นต้องทรมานตัวเองแบบนี้
ความคิดนั้นทำให้เม็ดน้ำตากลิ้งลงมาตามข้างแก้มและมันก็ส่งผลให้คิมหันต์ชะงักงัน
คิมหันต์ปวดไปทั้งใจเมื่อรู้ว่าการเจอหน้าเขาทำให้เธอต้องเสียน้ำตา ชายหนุ่มต้องใช้เวลาอีกครู่เพื่อกล้ำกลืนก้อนแข็ง ๆ ในลำคอแล้วเอ่ยถามเสียงแปร่งปร่าจากความสะเทือนใจ
“ขอแค่ให้ฉันได้อยู่ใกล้เธอ ได้ดูแลเธอบ้าง ก็ยังไม่ได้เชียวเหรอ”
ปัญชิกาสะอื้นเมื่อคำถามของเขาเสียดแทงเข้ามาที่กลางใจ นึกอยากบอกว่าเธอไม่อยากให้เขาต้องมาทรมานตัวเองแบบนี้เพราะมันก็ทรมานหัวใจของเธอด้วยเช่นกัน เธอไม่อยากเจ็บเจียนตายอีกแล้วหากวันไหนเขานึกเบื่อเธอขึ้นมาจนตัดสินใจทิ้งเธอไป แต่จนแล้วจนรอดก็พูดไม่ออกได้แต่ยืนร้องไห้ตัวสั่นอยู่อย่างนั้น
คิมหันต์เริ่มทนรับไม่ไหว น้ำตาของปัญชิกาทำให้เขารู้สึกเหมือนขาดอากาศหายใจเข้าไปทุกขณะ ชายหนุ่มนึกอยากเอื้อมมือไปซับน้ำตาให้ใจจะขาดแต่เกรงว่าสัมผัสของเขาจะยิ่งทำให้เธอรังเกียจ ดังนั้นความปรารถนาจึงถูกซุกซ่อนอยู่ใต้ฝ่ามือที่ถูกกำแน่นและสายตาที่สะท้อนถึงความเจ็บปวด ก่อนตัดสินใจแขวนถุงพลาสติกไว้กับลูกบิดประตูแล้วหันหลังเดินจากไปเงียบ ๆ ด้วยหัวใจที่สิ้นหวัง
หลังจากนั้นทุกเช้าเมื่อปัญชิกาเปิดประตูห้องออกมาเธอก็พบว่ามีถุงบรรจุอาหารเช้ามาแขวนตรงลูกบิดประตู และทำให้หญิงสาวน้ำตาเอ่อเหมือนทุกเย็นเมื่อกลับมาเห็นว่าที่หน้าประตูมีใครบางคนเอาถุงใส่อาหารมาแขวนไว้ให้อีก เธอยังคงเสียน้ำตาถึงแม้ไม่เห็นหน้าคนที่นำมาให้แต่เพราะในหัวใจยิ่งกว่ารู้ดีว่าใครที่คอยเอาอาหารมาส่งให้เธอ
เมื่อผ่านไปได้หนึ่งอาทิตย์ หัวใจของปัญชิกาก็ต้านรับต่อไปอีกไม่ไหว เธอทรมานกับการที่คิมหันต์ทำแบบนี้ เขาไม่จำเป็นต้องมาใส่ใจ ไม่จำเป็นต้องคอยห่วงใย ยิ่งเขาทำแบบนี้ก็เหมือนยิ่งทำร้ายเธอ
ดังนั้น ในวันหนึ่งปัญชิกาจึงตัดสินใจกลับมาให้ทันการเผชิญหน้า หญิงสาวสั่งคนดูแลเอาไว้ว่าหากคิมหันต์ผ่านประตูคอนโดฯ เข้ามาให้โทร. มาแจ้งเธอด้วย ดังนั้นเมื่อคิมหันต์มาถึงหน้าประตูในตอนเย็นเขาจึงชะงักงันอยู่กับที่เมื่อเห็นว่าใครกำลังเฝ้ารอเขาอยู่
ปัญชิกาน้ำตาซึมจากการไม่ได้เห็นหน้าคิมหันต์มาหลายวัน ได้พบเขาเธอก็เจ็บปวดแต่ไม่ได้เจอเธอก็ปวดใจ จนเธอไม่รู้แล้วว่าจะจัดการยังไงกับหัวใจของตัวเองดี
“วันนี้...ฉันซื้อเค้กมาฝากเธอด้วย”
คิมหันต์ฝืนข่มความขมปร่าจากความเต็มตื้นที่ได้เห็นหน้าปัญชิกาอีกครั้งหลังจากต้องทนฝืนข่มหักห้ามหัวใจเพื่อไม่ให้มารบกวนเธอไปมากกว่านี้ อย่างน้อยขอแค่ได้ดูแลเธอห่าง ๆ ก็ทำให้หัวใจของเขาคลายความทุรนทุรายไปได้บ้าง
“อย่า...ทำแบบนี้อีกเลย ได้ไหมคะ...”
เสียงสะอึกสะอื้นของเธอทำให้คิมหันต์เหมือนถูกสาป หัวใจถูกบีบจากมือที่มองไม่เห็นยามเห็นหญิงสาวหันหลังให้ ความโหยหาผลักดันจนลืมตัวเอื้อมมือออกไปรั้งไว้
“ฉันคิดถึง...”
ชายหนุ่มบอกความรู้สึกในใจ ไม่ได้หวังว่าจะทำให้เธอใจอ่อนแต่อย่างน้อยก็อยากให้เธอรับรู้ไว้ หากเมื่อเห็นอาการสั่นสะท้านที่แม้เห็นเพียงแผ่นหลังเขาก็เข้าใจได้โดยไม่ต้องให้ใครบอก...เธอร้องไห้ ชายหนุ่มปวดใจจนหมดแรงเผลอคลายมือออกโดยไม่รู้ตัว
“ปุยฝ้าย...ไม่อยากเห็นคุณซันอีก...”
ปัญชิกาไม่รู้ คำตัดรอนเพราะทนต่อความเจ็บปวดในหัวใจตัวเองอีกไม่ไหวกำลังฆ่าคิมหันต์ให้ตายทั้งเป็น ชายหนุ่มพูดไม่ออก ทำอะไรไม่ได้ นอกจากยืนนิ่งเป็นหุ่นอยู่แบบนั้นกระทั่งหญิงสาวเปิดประตูแล้วหายเข้าไปในห้อง
วันรุ่งขึ้นเมื่อใกล้เวลาหกโมงเช้า เสียงโทรศัพท์ภายในก็ดังขึ้น ปัญชิกานึกแปลกใจเมื่อผู้ดูแลคอนโดฯ แจ้งว่ามีคนฝากของไว้ให้เธอ
เมื่อลงไปชั้นล่างปัญชิกาก็อึ้งเมื่อพบว่าของที่ฝากไว้คืออาหารมื้อเช้าพร้อมกับกระดาษโน๊ตแผ่นเล็กที่มีลายมือหนาหนักบอกว่า ทานซะกำลังร้อน
น้ำอุ่น ๆ ซ่านเต็มเบ้าตาถึงไม่เห็นกับตาว่าใครเป็นคนเอามาให้แต่เธอก็รับรู้ได้ด้วยหัวใจ หญิงสาวยกถุงใส่อาหารขึ้นมาแนบอกราวกับจะซึมซับไออุ่นของคนที่ซื้อมันมาให้
หากเมื่อมาถึงห้อง ปัญชิกาก็ไม่อาจทนเก็บน้ำตาไว้ได้อีก หญิงสาวร้องและร้องจนเหมือนจะขาดใจอย่างที่ตัวเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าน้ำตาที่หลั่งรินลงมาเกิดจากอะไรกันแน่
เย็นวันนั้นเมื่อกลับจากทำงาน ปัญชิกาก็พบว่ามีคนฝากอาหารมื้อเย็นไว้ให้เธอเหมือนเช่นเมื่อเช้า หากครั้งนี้น้ำตาไม่เอ่อซึมอีกแล้วเพราะมันกำลังไหลย้อนกลับเข้าไปข้างในหัวใจ
เมื่อเข้ามาในห้อง ถุงใส่อาหารเย็นก็ถูกละเลยเพราะความสนใจของหญิงสาวจดจ่ออยู่ที่โทรศัพท์มือถือมากกว่า หลังจากจับจ้องอยู่พักใหญ่หญิงสาวก็กดหมายเลขที่แม้ไม่ต้องบันทึกแต่เธอก็จดจำได้ขึ้นใจ
คิมหันต์ยังคงนั่งอยู่ภายในรถยนต์บริเวณลานจอดของคอนโดฯ หลังจากก่อนหน้านี้เขานำอาหารเย็นไปฝากกับคนดูแลเพื่อให้ปัญชิกา หัวใจชายหนุ่มเต้นแรงเมื่อเห็นว่าหน้าจอขึ้นชื่อของคนที่หัวใจเขาโหยหา
“คุณซันคะ...”
เพียงประโยคแรกของอีกปลายสายที่ฟังแล้วก็รู้ว่าสั่นเครือจากการร้องไห้ หัวใจคิมหันต์ก็หนักอึ้งจนส่งผลให้ปากหนักพูดไม่ออกได้แต่รอฟังว่าปัญชิกาจะพูดอะไร
“ต่อไป...อย่าทำแบบนี้อีกเลยนะคะ ปุยฝ้าย...ขอร้อง...”
คิมหันต์ได้แต่นิ่งงัน ร่างกายชาจนเหมือนไร้ความรู้สึกแต่น่าแปลกที่หัวใจกลับเจ็บปวดเสียจนเหมือนข้างในกำลังมีเลือดหลั่งไหล ชายหนุ่มไม่รับรู้ว่าปัญชิกายังพูดอะไรอีกหรือเปล่าเพราะการรับรู้ของเขาไม่ทำงานหลังจากได้ยินคำร้องขอของเธอ
ไม่ให้เห็นหน้า ไม่ให้เข้าใกล้ ไม่ให้ดูแล
คิมหันต์บอกกับตัวเองอย่างขมขื่น วินาทีนั้นความร้อนผ่าวที่รอบกระบอกตาทำให้เพิ่งรู้สึกตัวว่าความเจ็บปวดที่ได้รับมันสาหัสเสียจนกำลังหาทางระบายออก
------------------------------------------------------------------------------------
ปุยฝ้ายใจร้ายเกินไปหรือเปล่า คุณซันสำนึกตัวแล้วจริง ๆ นะ...จะไม่ให้อภัยกันเลยเหรอ ใจร้าย ๆๆๆๆๆ (คนแต่งเริ่มออกอาการงอแง)
ขออนุญาตแจ้งข่าวนิดหนึ่งค่ะ ช่วงนี้พันวลีเริ่มนำเรื่องของนายพรรษไปแปะไว้ที่เวบเด็กดีและห้องสมุดค่ะ ในชื่อตอนพรรษกับวันวิสาข์...ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนสนใจก็เชิญไปอ่านกันได้นะคะ แต่ยังไงพันวลีก็จะนำเรื่องของนายพรรษมาลงที่นี่เหมือนกันค่ะ แต่ต้องขอเป็นหลังจากจบเรื่องของนายซันไปก่อน
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์และ LIKE ที่มอบเป็นกำลังใจให้กันค่ะ
konhin : 555 ก็ตอนนี้อยู่ในช่วงสำนึกตัวนี่คะก็ต้องทำทุกอย่าง ส่วนเรื่องน้อยใจเนี่ย..พี่ซันก็ไม่เบาหรอกค่ะ
coonX3 : ความพยายามของนายซันยังไม่มากพอเน๊อะ แต่ดูเหมือนเขาจะทำได้เท่านี้นะคะ
ปิ่นนลิน : ค่ะ แต่แผลใจอาจต้องใช้เวลานานกว่าหน่อย คุณซันก็พยายามเท่าที่จะทำได้แล้วค่ะ
กาซะลองพลัดถิ่น : ตอนนี้ยังสะใจ หรือว่าเริ่มสงสารนายซันบ้างแล้วคะ คิดว่าผู้ชายคนนี้สำนึกตัวแล้วจริง ๆ ค่ะ...งั้นให้โอกาสเขาดีไหมคะ
violette : ตอนนี้ดูเหมือนจะเริ่มท้อแล้วล่ะค่ะ แล้วก็ดูจะเสียใจมากด้วย (เฮ้ออออ...เศร้าจัง)
หมูบูลิน : เอาแค่งอนเล็ก ๆ ก็แล้วกันนะคะ เพราะแค่นี้นายซันก็เหมือนจะขาดใจตายแล้ว
เย็นวันนั้น เมื่อปัญชิกาก้าวลงบันไดอาคารสำนักงานที่ตั้งของบริษัทแล้วไม่เห็นรถยนต์คุ้นตา หัวใจก็ว่างโหวงทั้งที่เผื่อใจไว้แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้แต่เธอก็ยังเจ็บปวดจากเศษเสี้ยวของความหวังที่ซ่อนอยู่ส่วนลึก
หากเมื่อมาถึงคอนโดฯ แล้วพบว่าที่หน้าประตูห้องของเธอมีใครคนหนึ่งยืนคอยอยู่ ปัญชิกาก็แทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้ หญิงสาวแทบไม่สนใจบรรดาถุงข้าวของในมือของชายหนุ่มเลยสักนิดเพราะความสนใจทั้งหมดทั้งมวลคือใบหน้าที่ไร้สุขของเขาต่างหาก
เขาไม่จำเป็นต้องทรมานตัวเองแบบนี้
ความคิดนั้นทำให้เม็ดน้ำตากลิ้งลงมาตามข้างแก้มและมันก็ส่งผลให้คิมหันต์ชะงักงัน
คิมหันต์ปวดไปทั้งใจเมื่อรู้ว่าการเจอหน้าเขาทำให้เธอต้องเสียน้ำตา ชายหนุ่มต้องใช้เวลาอีกครู่เพื่อกล้ำกลืนก้อนแข็ง ๆ ในลำคอแล้วเอ่ยถามเสียงแปร่งปร่าจากความสะเทือนใจ
“ขอแค่ให้ฉันได้อยู่ใกล้เธอ ได้ดูแลเธอบ้าง ก็ยังไม่ได้เชียวเหรอ”
ปัญชิกาสะอื้นเมื่อคำถามของเขาเสียดแทงเข้ามาที่กลางใจ นึกอยากบอกว่าเธอไม่อยากให้เขาต้องมาทรมานตัวเองแบบนี้เพราะมันก็ทรมานหัวใจของเธอด้วยเช่นกัน เธอไม่อยากเจ็บเจียนตายอีกแล้วหากวันไหนเขานึกเบื่อเธอขึ้นมาจนตัดสินใจทิ้งเธอไป แต่จนแล้วจนรอดก็พูดไม่ออกได้แต่ยืนร้องไห้ตัวสั่นอยู่อย่างนั้น
คิมหันต์เริ่มทนรับไม่ไหว น้ำตาของปัญชิกาทำให้เขารู้สึกเหมือนขาดอากาศหายใจเข้าไปทุกขณะ ชายหนุ่มนึกอยากเอื้อมมือไปซับน้ำตาให้ใจจะขาดแต่เกรงว่าสัมผัสของเขาจะยิ่งทำให้เธอรังเกียจ ดังนั้นความปรารถนาจึงถูกซุกซ่อนอยู่ใต้ฝ่ามือที่ถูกกำแน่นและสายตาที่สะท้อนถึงความเจ็บปวด ก่อนตัดสินใจแขวนถุงพลาสติกไว้กับลูกบิดประตูแล้วหันหลังเดินจากไปเงียบ ๆ ด้วยหัวใจที่สิ้นหวัง
หลังจากนั้นทุกเช้าเมื่อปัญชิกาเปิดประตูห้องออกมาเธอก็พบว่ามีถุงบรรจุอาหารเช้ามาแขวนตรงลูกบิดประตู และทำให้หญิงสาวน้ำตาเอ่อเหมือนทุกเย็นเมื่อกลับมาเห็นว่าที่หน้าประตูมีใครบางคนเอาถุงใส่อาหารมาแขวนไว้ให้อีก เธอยังคงเสียน้ำตาถึงแม้ไม่เห็นหน้าคนที่นำมาให้แต่เพราะในหัวใจยิ่งกว่ารู้ดีว่าใครที่คอยเอาอาหารมาส่งให้เธอ
เมื่อผ่านไปได้หนึ่งอาทิตย์ หัวใจของปัญชิกาก็ต้านรับต่อไปอีกไม่ไหว เธอทรมานกับการที่คิมหันต์ทำแบบนี้ เขาไม่จำเป็นต้องมาใส่ใจ ไม่จำเป็นต้องคอยห่วงใย ยิ่งเขาทำแบบนี้ก็เหมือนยิ่งทำร้ายเธอ
ดังนั้น ในวันหนึ่งปัญชิกาจึงตัดสินใจกลับมาให้ทันการเผชิญหน้า หญิงสาวสั่งคนดูแลเอาไว้ว่าหากคิมหันต์ผ่านประตูคอนโดฯ เข้ามาให้โทร. มาแจ้งเธอด้วย ดังนั้นเมื่อคิมหันต์มาถึงหน้าประตูในตอนเย็นเขาจึงชะงักงันอยู่กับที่เมื่อเห็นว่าใครกำลังเฝ้ารอเขาอยู่
ปัญชิกาน้ำตาซึมจากการไม่ได้เห็นหน้าคิมหันต์มาหลายวัน ได้พบเขาเธอก็เจ็บปวดแต่ไม่ได้เจอเธอก็ปวดใจ จนเธอไม่รู้แล้วว่าจะจัดการยังไงกับหัวใจของตัวเองดี
“วันนี้...ฉันซื้อเค้กมาฝากเธอด้วย”
คิมหันต์ฝืนข่มความขมปร่าจากความเต็มตื้นที่ได้เห็นหน้าปัญชิกาอีกครั้งหลังจากต้องทนฝืนข่มหักห้ามหัวใจเพื่อไม่ให้มารบกวนเธอไปมากกว่านี้ อย่างน้อยขอแค่ได้ดูแลเธอห่าง ๆ ก็ทำให้หัวใจของเขาคลายความทุรนทุรายไปได้บ้าง
“อย่า...ทำแบบนี้อีกเลย ได้ไหมคะ...”
เสียงสะอึกสะอื้นของเธอทำให้คิมหันต์เหมือนถูกสาป หัวใจถูกบีบจากมือที่มองไม่เห็นยามเห็นหญิงสาวหันหลังให้ ความโหยหาผลักดันจนลืมตัวเอื้อมมือออกไปรั้งไว้
“ฉันคิดถึง...”
ชายหนุ่มบอกความรู้สึกในใจ ไม่ได้หวังว่าจะทำให้เธอใจอ่อนแต่อย่างน้อยก็อยากให้เธอรับรู้ไว้ หากเมื่อเห็นอาการสั่นสะท้านที่แม้เห็นเพียงแผ่นหลังเขาก็เข้าใจได้โดยไม่ต้องให้ใครบอก...เธอร้องไห้ ชายหนุ่มปวดใจจนหมดแรงเผลอคลายมือออกโดยไม่รู้ตัว
“ปุยฝ้าย...ไม่อยากเห็นคุณซันอีก...”
ปัญชิกาไม่รู้ คำตัดรอนเพราะทนต่อความเจ็บปวดในหัวใจตัวเองอีกไม่ไหวกำลังฆ่าคิมหันต์ให้ตายทั้งเป็น ชายหนุ่มพูดไม่ออก ทำอะไรไม่ได้ นอกจากยืนนิ่งเป็นหุ่นอยู่แบบนั้นกระทั่งหญิงสาวเปิดประตูแล้วหายเข้าไปในห้อง
วันรุ่งขึ้นเมื่อใกล้เวลาหกโมงเช้า เสียงโทรศัพท์ภายในก็ดังขึ้น ปัญชิกานึกแปลกใจเมื่อผู้ดูแลคอนโดฯ แจ้งว่ามีคนฝากของไว้ให้เธอ
เมื่อลงไปชั้นล่างปัญชิกาก็อึ้งเมื่อพบว่าของที่ฝากไว้คืออาหารมื้อเช้าพร้อมกับกระดาษโน๊ตแผ่นเล็กที่มีลายมือหนาหนักบอกว่า ทานซะกำลังร้อน
น้ำอุ่น ๆ ซ่านเต็มเบ้าตาถึงไม่เห็นกับตาว่าใครเป็นคนเอามาให้แต่เธอก็รับรู้ได้ด้วยหัวใจ หญิงสาวยกถุงใส่อาหารขึ้นมาแนบอกราวกับจะซึมซับไออุ่นของคนที่ซื้อมันมาให้
หากเมื่อมาถึงห้อง ปัญชิกาก็ไม่อาจทนเก็บน้ำตาไว้ได้อีก หญิงสาวร้องและร้องจนเหมือนจะขาดใจอย่างที่ตัวเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าน้ำตาที่หลั่งรินลงมาเกิดจากอะไรกันแน่
เย็นวันนั้นเมื่อกลับจากทำงาน ปัญชิกาก็พบว่ามีคนฝากอาหารมื้อเย็นไว้ให้เธอเหมือนเช่นเมื่อเช้า หากครั้งนี้น้ำตาไม่เอ่อซึมอีกแล้วเพราะมันกำลังไหลย้อนกลับเข้าไปข้างในหัวใจ
เมื่อเข้ามาในห้อง ถุงใส่อาหารเย็นก็ถูกละเลยเพราะความสนใจของหญิงสาวจดจ่ออยู่ที่โทรศัพท์มือถือมากกว่า หลังจากจับจ้องอยู่พักใหญ่หญิงสาวก็กดหมายเลขที่แม้ไม่ต้องบันทึกแต่เธอก็จดจำได้ขึ้นใจ
คิมหันต์ยังคงนั่งอยู่ภายในรถยนต์บริเวณลานจอดของคอนโดฯ หลังจากก่อนหน้านี้เขานำอาหารเย็นไปฝากกับคนดูแลเพื่อให้ปัญชิกา หัวใจชายหนุ่มเต้นแรงเมื่อเห็นว่าหน้าจอขึ้นชื่อของคนที่หัวใจเขาโหยหา
“คุณซันคะ...”
เพียงประโยคแรกของอีกปลายสายที่ฟังแล้วก็รู้ว่าสั่นเครือจากการร้องไห้ หัวใจคิมหันต์ก็หนักอึ้งจนส่งผลให้ปากหนักพูดไม่ออกได้แต่รอฟังว่าปัญชิกาจะพูดอะไร
“ต่อไป...อย่าทำแบบนี้อีกเลยนะคะ ปุยฝ้าย...ขอร้อง...”
คิมหันต์ได้แต่นิ่งงัน ร่างกายชาจนเหมือนไร้ความรู้สึกแต่น่าแปลกที่หัวใจกลับเจ็บปวดเสียจนเหมือนข้างในกำลังมีเลือดหลั่งไหล ชายหนุ่มไม่รับรู้ว่าปัญชิกายังพูดอะไรอีกหรือเปล่าเพราะการรับรู้ของเขาไม่ทำงานหลังจากได้ยินคำร้องขอของเธอ
ไม่ให้เห็นหน้า ไม่ให้เข้าใกล้ ไม่ให้ดูแล
คิมหันต์บอกกับตัวเองอย่างขมขื่น วินาทีนั้นความร้อนผ่าวที่รอบกระบอกตาทำให้เพิ่งรู้สึกตัวว่าความเจ็บปวดที่ได้รับมันสาหัสเสียจนกำลังหาทางระบายออก
------------------------------------------------------------------------------------
ปุยฝ้ายใจร้ายเกินไปหรือเปล่า คุณซันสำนึกตัวแล้วจริง ๆ นะ...จะไม่ให้อภัยกันเลยเหรอ ใจร้าย ๆๆๆๆๆ (คนแต่งเริ่มออกอาการงอแง)
ขออนุญาตแจ้งข่าวนิดหนึ่งค่ะ ช่วงนี้พันวลีเริ่มนำเรื่องของนายพรรษไปแปะไว้ที่เวบเด็กดีและห้องสมุดค่ะ ในชื่อตอนพรรษกับวันวิสาข์...ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนสนใจก็เชิญไปอ่านกันได้นะคะ แต่ยังไงพันวลีก็จะนำเรื่องของนายพรรษมาลงที่นี่เหมือนกันค่ะ แต่ต้องขอเป็นหลังจากจบเรื่องของนายซันไปก่อน
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์และ LIKE ที่มอบเป็นกำลังใจให้กันค่ะ
konhin : 555 ก็ตอนนี้อยู่ในช่วงสำนึกตัวนี่คะก็ต้องทำทุกอย่าง ส่วนเรื่องน้อยใจเนี่ย..พี่ซันก็ไม่เบาหรอกค่ะ
coonX3 : ความพยายามของนายซันยังไม่มากพอเน๊อะ แต่ดูเหมือนเขาจะทำได้เท่านี้นะคะ
ปิ่นนลิน : ค่ะ แต่แผลใจอาจต้องใช้เวลานานกว่าหน่อย คุณซันก็พยายามเท่าที่จะทำได้แล้วค่ะ
กาซะลองพลัดถิ่น : ตอนนี้ยังสะใจ หรือว่าเริ่มสงสารนายซันบ้างแล้วคะ คิดว่าผู้ชายคนนี้สำนึกตัวแล้วจริง ๆ ค่ะ...งั้นให้โอกาสเขาดีไหมคะ
violette : ตอนนี้ดูเหมือนจะเริ่มท้อแล้วล่ะค่ะ แล้วก็ดูจะเสียใจมากด้วย (เฮ้ออออ...เศร้าจัง)
หมูบูลิน : เอาแค่งอนเล็ก ๆ ก็แล้วกันนะคะ เพราะแค่นี้นายซันก็เหมือนจะขาดใจตายแล้ว
พันวลี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 19 เม.ย. 2558, 06:50:58 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 19 เม.ย. 2558, 08:52:31 น.
จำนวนการเข้าชม : 1921
<< ตอนที่ 28 และ 29 |
หมูบูลิน 19 เม.ย. 2558, 08:40:49 น.
เล่นตัวอีกซักนิดนะปุยฝ้าย 55 แต่ก็แอบสงสารอยู่นิดๆ
เล่นตัวอีกซักนิดนะปุยฝ้าย 55 แต่ก็แอบสงสารอยู่นิดๆ
arixiah 19 เม.ย. 2558, 08:46:51 น.
สงสารทั้งคุณซันและปุยฝ้ายเลย
พระเอกคะ ชัดเจนให้มากกว่านี้ได้มั้ย ทนอีกหน่อยน่าาา
สงสารทั้งคุณซันและปุยฝ้ายเลย
พระเอกคะ ชัดเจนให้มากกว่านี้ได้มั้ย ทนอีกหน่อยน่าาา
Pat 19 เม.ย. 2558, 09:17:39 น.
จับเข่าคุยกันเลยจะเข้าใจไหมนิ คนนึงก็ระแวง คนนึงก็ไม่ชัดเจน แล้วเมื่อไหร่จะเข้าใจตรงกันน้อ
จับเข่าคุยกันเลยจะเข้าใจไหมนิ คนนึงก็ระแวง คนนึงก็ไม่ชัดเจน แล้วเมื่อไหร่จะเข้าใจตรงกันน้อ
coonX3 19 เม.ย. 2558, 11:47:14 น.
ต้องเปิดใจพูดกันให้มากกว่านี้นะ เจ็บทั้งคู่
ต้องเปิดใจพูดกันให้มากกว่านี้นะ เจ็บทั้งคู่
LAM 19 เม.ย. 2558, 13:10:35 น.
อ่านตอนนี้แล้วน้ำตาจะไหล สงสารทั้งคู่เลยค่ะ กลับมาอัพต่อเร็ว ๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้พันวลีเสมอนะ
อ่านตอนนี้แล้วน้ำตาจะไหล สงสารทั้งคู่เลยค่ะ กลับมาอัพต่อเร็ว ๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้พันวลีเสมอนะ
กาซะลองพลัดถิ่น 19 เม.ย. 2558, 15:32:09 น.
ก็สมแล้วนะทำกับเขาไว้เยอะนี่เนอะ .......ตกลงคือเจ็บทั้งสองฝาย แล้วจะทรมานกันไปเพื่อะไร
เคลียร์ ๆ กันไปซะให้มันจบ ๆ
ก็สมแล้วนะทำกับเขาไว้เยอะนี่เนอะ .......ตกลงคือเจ็บทั้งสองฝาย แล้วจะทรมานกันไปเพื่อะไร
เคลียร์ ๆ กันไปซะให้มันจบ ๆ
konhin 19 เม.ย. 2558, 15:49:11 น.
ปุยฝ้ายเอาคืนแบบไม่ได้ตั้งใจ
ปุยฝ้ายเอาคืนแบบไม่ได้ตั้งใจ
Zephyr 19 เม.ย. 2558, 19:07:08 น.
เริ่มแอบคิดว่าปุยฝ้ายก็ชักงี่เง่าละ
พี่ซันก็สู้ต่ออีกนิดสิ
เอิ่ม นางเอกดูงี่เง่ากว่าของขวัญอีกนะ ฮ่าๆๆๆ
โฮ้ยยย อึดอัด ง้อแบบหน่วงๆ ตึงๆ
จะเชียร์ใครดีนะ
ใจนึงก็อยากให้ฝ้ายงี่เง่าต่อไป
อีกใจก็แอบสะใจพี่ซันโดนกรรมตามทัน
อีกความคิดก็เริ่มอยากให้พร้อมหน้าพร้อมตา
อีกอย่างก็เริ่มสงสารเฮีย
อ้ายยยยยยๆๆๆๆๆ
สงัสยต้องโทรจิตคุยกันนะ
แต่ละประโยคของสองคนนี่ คุยแบบรวบรัดมากก
แต่ต่างคนต่างตีความใจนทางของตัวเองทั้งนั้นเลย
อธิบายใช้คำเยอะๆหน่อย
อ้ากกก ขัดใจแต่ต้นจนตอนนี้
เริ่มแอบคิดว่าปุยฝ้ายก็ชักงี่เง่าละ
พี่ซันก็สู้ต่ออีกนิดสิ
เอิ่ม นางเอกดูงี่เง่ากว่าของขวัญอีกนะ ฮ่าๆๆๆ
โฮ้ยยย อึดอัด ง้อแบบหน่วงๆ ตึงๆ
จะเชียร์ใครดีนะ
ใจนึงก็อยากให้ฝ้ายงี่เง่าต่อไป
อีกใจก็แอบสะใจพี่ซันโดนกรรมตามทัน
อีกความคิดก็เริ่มอยากให้พร้อมหน้าพร้อมตา
อีกอย่างก็เริ่มสงสารเฮีย
อ้ายยยยยยๆๆๆๆๆ
สงัสยต้องโทรจิตคุยกันนะ
แต่ละประโยคของสองคนนี่ คุยแบบรวบรัดมากก
แต่ต่างคนต่างตีความใจนทางของตัวเองทั้งนั้นเลย
อธิบายใช้คำเยอะๆหน่อย
อ้ากกก ขัดใจแต่ต้นจนตอนนี้
violette 19 เม.ย. 2558, 23:52:38 น.
อึดอัดแทนค่ะ ใจก็อยากให้นายซํนโดนมากกว่านี้ แต่นายซันดูความอดทนน้อยเหลือเกิน555
อึดอัดแทนค่ะ ใจก็อยากให้นายซํนโดนมากกว่านี้ แต่นายซันดูความอดทนน้อยเหลือเกิน555
ผักหวาน 22 เม.ย. 2558, 20:12:38 น.
โอย....สมองสั่งการพลาดแล้วทั้งคู่ค่ะ พูดไม่ตรงกับใจคิด
โอย....สมองสั่งการพลาดแล้วทั้งคู่ค่ะ พูดไม่ตรงกับใจคิด