ความลับ (ที่) ซ่อนเร้น .. หรือจะเป็น ความรัก!(?)
คำถาม .. ที่มีคำตอบ
แต่คำตอบ .. กลับยังคงมากมายด้วยคำถาม

เพราะนิยามในคำหนึ่งคำนั้น
แฝงเร้นซุกซ่อนไว้ซึ่งความลึกลับ
ความซับซ้อนชวนสับสน รอยยิ้มปนเปื้อนคราบน้ำตา
เล่ห์เสน่หาหวานล้ำ และพร้อมจะนำความเจ็บปวดมาให้ .. ได้ทุกเวลา

.. หากว่ามันคือ ความรักที่มากล้น จนกลายเป็น .. ความลับ ! ..
Tags: ความรัก ความลับ

ตอน: บทนำ .. ณ กาลครั้งหนึ่ง




ท่ามกลางแสงแดดที่กำลังคายกระไอร้อนตอนบ่าย จู่ๆสายฝนก็เทกระหน่ำโดยไร้วี่แววเสียงฟ้าคำรามครั่นครืนเป็นสัญญาณ ทำให้ร่างประเปรียวในชุดนักเรียนหญิงชั้นมัธยมปลาย ที่เดินทอดน่องเพลินๆล้าหลังเพื่อนๆระหว่างเปลี่ยนคาบเรียนถึงกับหยุดนิ่งแหงนเงยหน้ามองฟ้าครู่หนึ่ง หยาดน้ำที่หยดลงมาเรียกสติให้ต้องยกหนังสือเรียนสามสีเล่มขึ้นมาแนบอก แล้วออกวิ่งไปยังใต้อาคารที่อยู่ใกล้ที่สุด


แม้จะรีบเร่งหาที่หลบฝนฟ้าซึ่งตกลงมากะทันหันโดยไม่ตั้งตัว แต่ก็ทำเอาเสื้อผ้าพลอยซับความเปียกชื้นไม่น้อย และเพราะมัวแต่ปัดป่ายเนื้อตัวสลับกับสลัดปอยผมซอยสั้นระต้นคอ เด็กสาวจึงไม่ได้สนใจเลยว่า ตนไม่ได้อยู่ตามลำพัง ณ ที่แห่งนี้


"โธ่เอ๊ย จู่ๆก็ตก ดีนะยังวิ่งทัน เฮ้อ"


"นั่นสิ"


เสียงทุ้มสะดุดหูตอบรับอย่างเห็นด้วย ทำให้องก์อัมพุทชะงักอากัปกิริยาที่กำลังวุ่นวายกับตนเอง ก่อนจะค่อยๆหันไปทางต้นเสียงน่าฟังนั้น


กระทั่งได้เห็นชัดเจนนั่นล่ะ ว่าเจ้าของน้ำเสียงนุ่มนวลชวนฟังเป็นใคร เด็กสาวในชุดนักเรียนซึ่งยังคงเปียกชื้นอยู่ถึงกับอุทานเสียงหลงออกมาอย่างตกใจ


"เฮ้ย .. เอ้ย ไม่ใช่ อาจารย์มาอยู่นี่ได้ไงคะ"


"หลบฝน"


คำตอบที่ฟังแล้วรู้สึกว่า คนพูดช่างประหยัดจำนวนคำดีเหลือเกิน หลุดจากปากเรียวบางยิ่งกว่าผู้หญิงของบุคคลที่เธอเรียกเขาว่า 'อาจารย์' ทำให้นักเรียนมัธยมปลายเบือนหน้าแอบเม้มปากขัดใจ อดคิดไปคนเดียวไม่ได้ว่า

'
โอ้ย อีตาอาจารย์ห้องสมุดนี่ ยังไงกันนะ สงสัยห้องสมุดจะเงียบเกินไป เลยต้องออมปากออมคำจนชิน'


องก์อัมพุทหงุดหงิดทั้งอากาศและคนที่อยู่ตรงหน้า และเธอมั่นใจว่ามันคงจะแสดงออกมาอย่างชัดเจน เพราะคนเป็นอาจารย์ถึงกับขมวดคิ้วคล้ายสงสัยกับกิริยาอาการของคนที่ถือว่าเป็นลูกศิษย์ในโรงเรียน


"หนาวรึเปล่า"


เด็กสาวเลิกคิ้วกับสุ้มเสียงเสมือนทอดห่วงใยให้ จึงเงยหน้าขึ้นมองสบสายตาหลังแว่นใสของอีกฝ่าย ก่อนจะก้มสำรวจตนเองก็พบว่าเธอยังกอดหนังสือเรียนกระชับกับอก อีกทั้งเสื้อนักเรียนสีขาวก็ชื้น แถมดูจะบางจนเห็นเสื้อซับข้างในเพราะโดนละอองเม็ดฝน จนได้รู้ที่มาถึงเหตุแห่งคำถาม นั่นเพราะเธอเพิ่งจับอาการสั่นสะท้านกลายๆของตัวเองได้


"นิดหน่อยค่ะ แต่เดี๋ยวก็คงดีขึ้น ฝนก็ซาแล้วด้วย"


องก์อัมพุทยอมรับกับตัวเองว่า ไม่กล้าจะสบตากับอาจารย์คนนี้เท่าใดนัก จึงเสมองไปรอบกายซึ่งฝนฟ้าที่จู่ๆก็ตกลงมานั้น ซาเม็ดจนเหลือเพียงละอองโปรยปรายอย่างที่พูดแล้ว


"งั้น .. หนูไปก่อนนะคะ สวัสดีค่ะอาจารย์"


เด็กสาวหันมาเอ่ยลาพร้อมยกมือทำความเคารพ ก่อนที่จะวิ่งตื๋อออกไปตามทิศทางเดิม โดยไม่ได้เหลียวหลังกลับมามองบุคคลที่เหลืออยู่ จึงไม่อาจรับรู้ได้ว่า สีหน้าและแววตาของอีกฝ่ายที่เฝ้ามองเงียบๆจนสุดสายตา เปี่ยมไปด้วยความรู้สึกเช่นไร





และด้วยเหตุที่องก์อัมพุทเข้าห้องเรียนจนเกือบหมดคาบ อาจารย์ประจำวิชาสังคมจึงให้ทำรายงานเดี่ยวเพิ่มอีกหนึ่งชิ้นโทษฐานที่มาสายแม้ว่าเธอจะอธิบายอย่างไร แต่ก็ต้องจำนนเพราะเพื่อนๆก็มาทันกันทุกคน มีแต่เธอที่เตลิดไปติดฝนใต้อาคารอื่น .. กับใครบางคน แทนที่จะวิ่งมาที่ห้องเรียนแห่งนี้


หลังจากอาจารย์สั่งงานและออกจากห้องเรียน รวมถึงเพื่อนคนอื่นๆก็แยกย้ายกันไป เพราะหมดชั่วโมงการเรียนของห้องเธอในวันนี้แล้ว


ตอนนี้จึงเหลือเพียงเพื่อนสนิทกับเจ้าตัวคนมาสายเมื่อชั่วโมงก่อนที่เร่งจดงานจนเสร็จ ซึ่งต่างก็อยู่ใกล้ๆกันก่อนที่เพื่อนจะเอ่ยขึ้นขณะกำลังยืนหาหนังสือบนชั้นไปเรื่อยๆ ในมุมหนึ่งของห้องสมุดโรงเรียน


"เอาน่า ไอ้พุด ถือว่าเพิ่มพูนวิชาให้แน่นๆยิ่งขึ้น ฮ่าๆ"


"ไม่ต้องมาเยาะเย้ยกันเลย แทนที่แกจะดึงฉันมาด้วย เล่นวิ่งหนีหายไปซะเฉยๆ"


"เอ้า ก็แกเองนั่นล่ะ ที่มัวแต่เอ้อระเหย ฉันเลยกะจะมาจองที่ก่อน ที่ไหนได้กว่าแม่นางจะเสด็จ อาจารย์ก็สั่งงานกลุ่มแล้ว แกถึงเพิ่งโผล่"


เภตราร่ายยาวเหยียดให้เพื่อนสำนึกว่า ทุกอย่างที่เกิดขึ้น เป็นเพราะองก์อัมพุททำตัวเองล้วนๆ


"พอเลยไอ้เภา ไม่ช่วยกันแล้วยังจะมาว่าอีก ดี .. ถ้าพี่พัดกลับมา ฉันจะไม่เอาของฝากมาให้แก คอยดู"


"เฮ้ย .. ได้ไง อย่าๆ อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง แหม เพื่อนพุดล่ะก็ อย่าเอาพี่พัดของฉันมาขู่สิ เพื่อนเภาจะทำตัวดีๆ คอยเกื้อกูลว่าที่น้องสาวสามีอย่างเต็มใจ .. ก็ได้"


คำหยอกเย้ากระเซ้าแหย่ที่ดูก๋ากั่นเรียกเสียงหัวเราะแก่เด็กสาวมัธยมปลายทั้งสอง กว่าจะรู้สึกตัวว่าพวกตนกำลังอยู่ที่ใด ก็ได้รับสายตาเชิงตำหนิจากนักเรียนที่จำได้ว่ารุ่นเดียวกัน แต่อยู่ต่างห้องหันมาสายตาปรามๆ พร้อมคำพูดเบาๆแต่เข้มข้น


"นี่ห้องสมุดนะ รักษามารยาทหน่อยสิ"


"อุ้ย ขอโทษ เดี๋ยวพวกเราหาหนังสือเสร็จก็ไปแล้ว"


การสะบัดหน้าใส่ของนักเรียนหญิงคนนั้น คือคำตอบที่ทำให้องก์อัมพุทกับเภตราต้องหันมาสบตากัน ก่อนเปลี่ยนเป็นยิ้มขำดีว่าต่างเอามือตะครุบปากไว้ทัน จึงไม่ได้ปล่อยเสียงหัวเราะออกไปอย่างเมื่อครู่


"แค่นี้ต้องดุ แถมเชิดใส่อีก ก็คนมันเผลอนี่หว่า"


"แต่เราก็ผิดจริงๆนี่เภา ลืมไปเลยว่าอยู่ในห้องสมุด"


"ก็ใครล่ะ ที่พูดถึงพี่พัดจนหัวใจสาวน้อยอย่างฉันกระเจิดกระเจิง คิคิ"


เภตราอดไม่ได้ขณะเอ่ยถึงบุรุษที่สามพร้อมแสร้งทำท่าเคลิบเคลิ้มราวกับตกอยู่ในภวังค์ จนองก์อัมพุทหมั่นไส้ยื่นมือมาหยิกหมับที่ต้นแขนเบาๆ


"พอๆเป็นสาวเป็นแส้ มาพูดเพ้อหาผู้ชาย ถึงจะเล่นๆแต่ใครเห็นเข้ามันจะไม่ดี"


"ใครว่าฉันเล่นๆยะ ยัยพุด ฉันเอาจริง .. บอกแล้วว่าฉันจองพี่ชายแก ตั้งแต่วันที่เห็นเขาครั้งแรก ตอนมาปฐมนิเทศตอนม.๔ แล้ว"


คนเป็นเพื่อนเห็นความมุ่งมั่นของเพื่อนที่แสดงออกมากับอาการลูบแขนป้อยๆส่งเสียงซี้ดเหมือนบอกให้รู้ว่าเจ็บ ก็ชักจะไม่แน่ใจแล้วว่า เพื่อนสนิทพูดเล่นหรือพูดจริง เพราะที่ผ่านๆมาก็ได้แต่ยั่วแหย่หยอกล้อกันพอขำๆ เธอจึงแกล้งสัพยอกไปอย่างไม่จริงจังนัก


"แหม ทีกับเรื่องเรียน แกตั้งใจขนาดนี้มั้ยเนี่ย"


องก์อัมพุทไม่อยากคิดเลยว่า ถ้าเรื่องนี้รู้ไปถึงหูเมฆพัด พี่ชายของเธอจะมีปฏิกิริยาอย่างไร


เด็กสาวได้แต่หวังว่า คำพูดของเพื่อนเป็นแค่ความสนุกตามประสาสาวน้อยวัยเดียวกัน ที่อาจจะช่างเพ้อฝันไปตามวัย อีกไม่นานก็หลงลืมไปเหมือนเวลาหลงใหลได้ปลื้มดาราหรือศิลปินชายสักคน


กระทั่งสัญญาณออดบอกเวลาหมดคาบเรียนสุดท้ายดังขึ้น พวกเธอจึงพากันเก็บหนังสือที่คัดมาแต่ไม่สามารถเป็นข้อมูลทำรายงานได้เข้าที่เดิม มีเพียงสองเล่มที่ขนาดหนาและบางไม่ต่างกันมากที่พอจะใช้ได้


องก์อัมพุทให้เภตราเดินออกไปรอข้างนอกก่อน ระหว่างที่เธอนำหนังสือทั้งสองเล่มไปทำการยืมกับอาจารย์บรรณารักษ์ห้องสมุด






หนังสือเกี่ยวกับภูมิศาสตร์ประวัติศาสตร์สองเล่มถูกวางบนเคาน์เตอร์พร้อมกับบัตรห้องสมุด ที่จะให้อาจารย์บรรณารักษ์ประทับตราวันยืมและส่งคืนรออยู่แล้ว แต่ว่าตรงหน้าองก์อัมพุทกลับว่างเปล่าไม่มีใครทำหน้าที่อย่างที่เคย


เด็กสาวหันรีหันขวางประเดี๋ยวหนึ่งคิดว่าอาจารย์อาจจะติดธุระส่วนตัวหรือทำงานอยู่ข้างใน เธอจึงวางหนังสือและบัตรห้องสมุดไว้ที่เดิม แล้วเดินออกมาหาเภตราที่ยืนรออยู่ข้างนอก


"เภา อาจารย์ห้องสมุดไปไหนไม่รู้ ถ้าแกจะกลับก่อนก็ได้นะ ช้ากว่านี้รถเมล์จะหมดซะก่อน"


"เอางั้นเหรอพุด นี่ถ้าพ่อกับแม่ให้อยู่หอก็ดีสิ จะได้ไม่ต้องรีบตื่นรีบกลับ .. แกอยู่ได้นะ"


"ได้สิ ไม่ต้องห่วง พอยืมหนังสือเสร็จก็กลับบ้านเหมือนกัน เพราะต้องกลับไปช่วยแม่ทำกับข้าวรอพี่พัด"


"งั้น .. ฝากทักทายว่าที่สามีในอนาคตด้วยก็แล้วกัน .. แบบนี้นะ .."


พอขาดคำฝาก เภตราก็สาธิตด้วยการชะโงกหน้ามาจุมพิตแก้มเพื่อนเบาๆรวดเร็ว ก่อนผละออกมาส่งรอยยิ้มทะเล้นแล้วโบกมือเป็นการบอกลา ขณะที่เพื่อนยังตกใจพูดไม่ออกทำอะไรไม่ถูกจึงไม่ได้โต้ตอบ นอกจากเอามือกุมแก้มบ่นพึมพำเบาๆอย่างขบขันไล่หลังไป


"แกนี่ ใครจะกล้าไปหอมแก้มพี่พัดแล้วบอกมีคนฝากมากันเล่า เขาได้เขกกะโหลกหาว่าแก่แดดเอาน่ะสิ"






ไม่ถึงสามนาทีองก์อัมพุทก็หันกลับเดินเข้ามายังด้านหน้าเคาน์เตอร์อีกครั้ง ซึ่งตอนนี้ปรากฏร่างของอาจารย์หนุ่มคนเดียวกันกับที่ไปติดอยู่ใต้อาคารเรียนเพื่อหลบฝนเมื่อช่วงบ่ายนี่เอง


"อ้าว อาจารย์มาแล้วเหรอคะ หนูขอยืมสองเล่มนี้ค่ะ .. "


"เรียบร้อยแล้ว .. คืนอาทิตย์หน้า ตรงเวลาด้วยล่ะ"


สีหน้าเรียบนิ่งดูเคร่งขรึมกับนัยน์ตาหลังกระจกแว่นใสในกรอบสี่เหลี่ยมมองตรงมายังองก์อัมพุท ทำเอาเด็กสาวแทบจะทำตัวไม่ถูกรีบเข้ามารับหนังสือและบัตรห้องสมุดกลับคืน เนื่องจากท่าทางของอาจารย์ผิดไปจากเมื่อตอนหลบฝนด้วยกันอย่างสิ้นเชิง


"ขอบคุณค่ะอาจารย์"


องก์อัมพุทพูดได้เพียงเท่านั้น แล้วจึงทำความเคารพแทนการเอ่ยลา ความหวั่นเกรงเริ่มคืบคลานเข้ามาช้าๆ ความคิดที่ว่าเธอกำลังทำอะไรผิดไปหรือเปล่า จึงทำให้ถูกอาจารย์มองเหมือนกับเฉยชาเช่นนั้น


แต่ไม่ว่าจะมีเหตุใดเกิดขึ้นกับอาจารย์บรรณารักษ์ เด็กสาวชั้นมัธยมปลายก็ไม่ได้เก็บมาใส่ใจอีก เมื่อเธอก้าวเดินพ้นจากประตูห้องสมุดมาจนถึงรั้วหน้าโรงเรียน แล้วพบเมฆพัดมารอรับเธอกลับบ้านอย่างคาดไม่ถึง


ความดีใจทำให้เธอวิ่งเข้าไปหาพี่ชายอย่างลืมตัว โดยไม่ได้ยกมือไหว้หรืออะไรนอกจากเกาะกอดแขนอย่างคิดถึง ก่อนจะพากันเดินไปขึ้นรถที่จอดเทียบอยู่ริมฟุตปาธห่างจากประตูรั้วพอไม่ให้กีดขวางทางใคร แล้วจึงค่อยขับเคลื่อนออกไปจนลับตา





หนังสือภูมิศาสตร์ประวัติศาสตร์สองเล่มถูกนำมาคืนก่อนกำหนดหนึ่งวัน และองก์อัมพุทต้องยืนหันรีหันขวางเหมือนครั้งก่อนที่มายืม นั่นคือ พยายามมองหาเจ้าหน้าที่ แต่ก็ยังไร้เงาร่างของอาจารย์บรรณารักษ์อีกแล้ว


"อาจารย์ไม่อยู่หรือไงนะ"


เด็กสาวจึงได้หันกลับมามองยังจุดเดิม ก่อนตัดสินใจวางสิ่งที่นำมาคืนไว้อย่างนั้นกับบัตรห้องสมุดซ้อนไว้ด้วยกัน เธอคิดว่าระหว่างที่เดินเข้าไปหาหนังสืออ่าน อาจารย์ก็คงมาจัดการหนังสือทั้งสองเล่มกับบัตรของเธอเอง


ดังนั้นองก์อัมพุทจึงหันหลังกลับว่องไวเท่าความคิด ทว่า แทนที่จะได้สาวเท้าไปข้างหน้าก็ต้องชะงักกะทันหัน เพราะร่างสูงของอาจารย์คนเดิมที่ก้าวเข้ามาแบบไม่ให้สุ้มให้เสียง จนเกือบจะชนกันถ้าเธอขยับไปอีกก้าว


"อุ้ย ขอโทษค่ะ อาจารย์ .. หนูนึกว่าไม่อยู่ เลยจะไปหาหนังสืออื่นก่อน"


"จัดหนังสือคืนเข้าที่อยู่น่ะ"


สิ่งที่ได้ยินทำให้คนฟังถึงกับเบิกตาโตแปลกใจ เพราะไม่คิดว่าอาจารย์บรรณารักษ์ต้องทำอะไรแบบนี้ด้วยตัวเอง


"อาจารย์ไม่มีคนช่วยเหรอคะ หนูนึกว่ามีเจ้าหน้าที่ที่เป็นนักเรียนมาช่วยซะอีก"


"มี แต่วันนี้ลาป่วย"


อาจารย์บรรณารักษ์ตอบสั้นๆอย่างเคย ก่อนเดินผ่านเด็กสาวไปตรงช่องที่เป็นบานผลักแทนประตูเพื่อทำเรื่องคืนหนังสือให้ จนอีกฝ่ายต้องหมุนร่าง ๑๘๐ องศาตามไปด้วย


บัตรห้องสมุดขององก์อัมพุทถูกประทับตราคืนเรียบร้อย และเธอก็ได้เห็นหนังสือทั้งสองเล่มถูกนำไปวางไว้บนรถเข็น ที่มีกองหนังสืออยู่ไม่น้อย ถึงกับต้องออกปากถามอย่างสงสัย


"นั่น อาจารย์ต้องเก็บคนเดียวเหรอคะ"


สายตาหลังแว่นใสมองดวงหน้าอ่อนเยาว์ของคนถามชั่วขณะ ก่อนพยักหน้าเพียงนิดเดียวเป็นคำตอบโดยไม่พูดอะไร แล้วก้มหน้าพร้อมกับจรดปากกาเซ็นชื่อกำกับตราโรงเรียน เพื่อรับรองการยืมคืนแล้วส่งบัตรห้องสมุดคืนสู่เจ้าของ


องก์อัมพุทรับมาถือไว้พลางคิดว่า เธอมีเวลาเหลือเฟือตั้งหนึ่งชั่วโมง เพราะวันนี้เภตราแยกไปเตรียมกิจกรรมของวิชาเลือก ซึ่งเป็นคนละวิชากับเธอ ส่วนวิชาที่เด็กสาวเลือกเรียนนั้นเป็นเชิงวิชาการ และวันนี้อาจารย์ประจำวิชางดสอนในชั่วโมงที่สอง เธอจึงนัดเจอกับเภตราที่ห้องสมุด หลังเสร็จจากกิจกรรมแล้ว


"เอ่อ พอดีวันนี้หนูว่าง ให้หนูช่วยอาจารย์ดีมั้ยคะ ไหนๆหนูก็แค่มารอเพื่อนเลิกเรียนอยู่แล้ว"


อาจารย์บรรณารักษ์หรี่ตามองเด็กสาวในเครื่องแบบนักเรียนครู่หนึ่ง ราวกับชั่งใจว่าควรจะให้คนนอกมายุ่มย่ามกับงานของตนหรือไม่ เพราะในสายตาขององก์อัมพุทกำลังเห็นท่าทีอีกฝ่ายเป็นอย่างนั้น และเธอเองก็ไม่อาจล่วงรู้ว่าอาจารย์คิดอะไรอยู่กันแน่


"ก็ได้ แค่คอยช่วยส่งหนังสือก็พอ"


เป็นคำอนุญาตเบาๆ ที่สร้างรอยยิ้มกว้างให้ปรากฏบนดวงหน้าใสอย่างไม่ปิดบัง เด็กสาวบอกไม่ถูกว่าทำไมถึงดีใจมากขนาดนี้ ที่จะได้ทำตัวให้พอมีประโยชน์บ้าง


เมื่อพร้อมแล้วองก์อัมพุทก็ทำหน้าที่เข็นรถที่บรรทุกหนังสือต่างๆ ซึ่งจัดตามหมวดหมู่การเก็บเรียบร้อยแล้วก่อนนำขึ้นชั้นวาง เธอเข็นรถตามหลังอาจารย์บรรณารักษ์ไป สุดแต่ว่าเขาจะนำทางและบอกให้หยุดส่งหนังสือเข้าที่ที่ตำแหน่งใด


เด็กสาวจึงได้ใช้โอกาสนี้ พิจารณาทุกอิริยาบถของอาจารย์บรรณารักษ์ ซึ่งเขาจะประจำอยู่แต่เพียงห้องสมุดของโรงเรียน ไม่มีทางใดที่จะได้เข้าใกล้ขนาดนี้อีกแล้ว นอกจากการอาสาทำงานที่นี่เท่านั้น ...








ทุกครั้งที่ละอองฝนพร่างพราวระหว่างวสันตฤดู องก์อัมพุทอดคิดถึงช่วงเวลาสมัยมัธยมปลายที่ล่วงผ่านมาเนิ่นนานไม่ได้สักที


จากเด็กหญิงเติบโตขึ้นเป็นเด็กสาวจนก้าวพ้นสถานะนักเรียนนักศึกษาตามวันเวลา กระทั่งแตกเนื้อสาวสะพรั่งในวัยย่าง ๒๘ ปี


แต่ไม่ว่าจะกี่วันกี่เดือนหรือนับปี หญิงสาวยังคงมีเงาของใครบางคนในห้วงคำนึงแห่งความทรงจำเสมอมา


กว่าหนึ่งปีกับความรู้สึกที่เก็บซ่อน ความหวั่นไหวยามชิดใกล้ .. ท่ามกลางความคิดที่ขัดแย้ง ในเรื่องของความเหมาะสม ควรหรือไม่ควร .. สุดท้ายความในใจก็พ่ายจิตสำนึกจนถึงวาระที่ต้อง .. ลาจากกัน


และมันก็ผ่านมาเกือบ ๑๐ ปี นับตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้!


เม็ดฝนยังคงเกาะกระจก หยาดหยดไหลลู่เป็นทางตามแรงโน้มถ่วง ความมืดในยามค่ำคืนไม่อาจทำหน้าที่แห่งรัตติกาลหลังพายุกระหน่ำได้อีกแล้ว


เพราะเมื่อฝนสร่างซาเหือดแห้ง เมฆหม่นก็เลื่อนลอยคล้อยหายเผยแสงนวลจากจันทร์ค่อยๆคลายรัศมีกระจ่างฟ้า


องก์อัมพุทเผลอผุดรอยยิ้มมุมปากน้อยๆ .. ทุกคราวเป็นต้องหวนคะนึงถึงบทกวีที่เคยได้อ่านและติดตรึงหัวใจ




ทะมึนลอยเคลื่อนคล้อย.........กำบัง

อัมพุทสยายมนตร์ขลัง..........ผงาดเงื้อม

ไหนฤาสยบจีรัง...................วิธูหม่น หมองมัว

สูงลิบหากอาจเอื้อม.............ไขว่คว้าวังเวง ฯ







*********************************************************




สวัสดีฮะ .. แรมรติกลับมาอีกครั้ง
พร้อมด้วนิยายเรื่องใหม่ .. ความลับ(ที่)ซ่อนเร้น .. หรือจะเป็น ความรัก!(?)
ชื่อยาว .. และซ่อนความหมายไว้มากกมาย

ขอฝากผลงานอีกชิ้นไว้ ณ เลิฟ สตอรี่ด้วยนะฮะ

หวังว่า จะสร้างรอยยิ้ม และความสุขให้แก่คุณผู้อ่าน .. ไม่มากก็น้อย

แล้วพบกับ .. บทที่ ๑ นานมาแล้ว .. พุธหน้านะฮะ



แรมรติ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 22 เม.ย. 2558, 12:17:08 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 22 เม.ย. 2558, 12:17:08 น.

จำนวนการเข้าชม : 1417





   บทที่ ๑ .. นานมาแล้ว >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account