รัก-ที่เกิดขึ้นหลังแต่ง
เธอ คือ สาวน้อยผู้น่ารัก สดใส มีจิตใจที่อ่อนโยน แต่แอบดื้ออยู่ลึกๆ ต้องกลายมาเป็นอีกคนที่ไม่ใช่ตัวเองหลังจากที่แต่งงาน เพื่อแสดงให้เขาเห็นว่าเธอเข้มแข็ง ไม่ได้อ่อนแอ แต่ใครจะไปรู้ว่าลึกๆแล้วเธอไม่ได้เข้มแข็งอย่างที่เธอพยายามแสดงมันออกมา ให้ทุกคนเห็น โดยเฉพาะเขา คนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามี
ส่วนเขา คือ ชายหนุ่มผู้หล่อเหลา เย็นชา พูดน้อย และใจร้ายที่สุด เท่าที่เธอเคยรู้จักมา
ทั้งคู่ต่างใช้ชีวิต เหมือนตอนยังอยู่ตัวคนเดียว แม้บางคนจะพยายามพูดคุยด้วย ถามโน้นนี้นั้น ตามประสาคนสดใส แต่เหมือนอีกฝ่ายไม่ให้ความร่วมมือด้วยเลย ทำให้เธอหมดความพยายามในที่สุด เธอจึงกลายเป็นคนที่เงียบ ไม่พูดไม่จา ไม่ร่าเริงสดใส เหมือนแต่ก่อน ทำให้เขาเริ่มแปลกใจตัวเอง ทำไมถึงต้องรู้สึกยังงี้ด้วย เมื่อเธอกลายเป็นอีกคน ที่เขาไม่คุ้นเคย
ส่วนเขา คือ ชายหนุ่มผู้หล่อเหลา เย็นชา พูดน้อย และใจร้ายที่สุด เท่าที่เธอเคยรู้จักมา
ทั้งคู่ต่างใช้ชีวิต เหมือนตอนยังอยู่ตัวคนเดียว แม้บางคนจะพยายามพูดคุยด้วย ถามโน้นนี้นั้น ตามประสาคนสดใส แต่เหมือนอีกฝ่ายไม่ให้ความร่วมมือด้วยเลย ทำให้เธอหมดความพยายามในที่สุด เธอจึงกลายเป็นคนที่เงียบ ไม่พูดไม่จา ไม่ร่าเริงสดใส เหมือนแต่ก่อน ทำให้เขาเริ่มแปลกใจตัวเอง ทำไมถึงต้องรู้สึกยังงี้ด้วย เมื่อเธอกลายเป็นอีกคน ที่เขาไม่คุ้นเคย
Tags: แนวแต่งก่อนจีบ ความรัก เศร้า อัรฮาม VS อัฟชีณ
ตอน: บทนำ
อัฟชีน สาวน้อยมัธยมปลายช่วงสุดท้าย ต้องรีบกลับบ้านอย่างเร่งด่วน ตามคำสั่งของผู้เป็นแม่ เมื่อกลับมาถึงบ้าน อัฟชีณถึงกับตกใจ เมื่อมีแขกอยู่ในบ้าน
"อ้าวอัฟชีน!!!กลับมาแล้วเหรอลูก มานั่งข้างแม่มา" เธอเดินเข้าไปนั่งข้างมารดาอย่างงุนงง พร้อมกับทักทายแขกของมารดา "อัสลามมูอาลัยกุมค่ะ" แขกของมารดายิ้มตอบพร้อมกับรับคำทักทาย "วาอาลัยกุมมุสลามจ๊ะหนู ไม่เจอกันนาน โตเป็นสาวแล้วน่ะ ไหน!!!ขอป้าเรียมดูหน้าหนูใกล้ๆหน่อยสิจ๊ะ" อัฟชีณหันไปมองมารดาเห็นมารดาพยักหน้าให้ จึงขยับไปนั่งข้างๆแขกของมารดา พร้อมๆกับถอดผ้านิกอบออก ถึงกับทำให้แขกของมารดาตกตะลึงกับความสวย น่ารัก ของลูกสาวเพื่อนรัก "สวย สวยมากๆๆ นี่ถ้าตาอัรฮามได้มาเห็นหนูน่ะ เค้าต้องหลงรักตั้งแต่แรกเจอแน่ๆเลย ป้ารับรอง"พูดจบพร้อมๆกับยิ้มอย่างมีความสุข ในที่สุดวันที่ทั้งสองฝ่ายรอคอยกำลังจะมาถึง อัฟชีณถึงกับงงใหญ่ นี่ผู้ใหญ่เค้าพูดถึงเรื่องอะไรกันอยู่ ไม่เห็นจะรู้เรื่องตรงไหนเลย ว่าแต่ที่แม่เรียกเรากลับบ้านอย่างเร่งด่วนต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆเลย ไม่เป็นไรเดียวค่อยถามหลังจากแขกของแม่กลับไปก่อนก็ได้ "งั้นถ้าไม่มีอะไรแล้ว หนูขอตัวก่อนน่ะค่ะ" "เดี่ยวก่อนลูก" "ค่ะแม่?" "เอ่อ.......ไม่มีอะไร ไปเถอะ" หลังจากลูกสาวออกไปแล้ว ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายก็พูดคุยกันตามประสาเพื่อนรักที่ไม่เจอกันมานานมาก พร้อมๆกับวางแผนอนาคตให้กับลูกๆของทั้งสองฝ่าย ทั้งๆที่ทั้งสองฝ่ายก็ยังไม่รู้ว่าจะบอกกับลูกๆของพวกเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไง แล้วทั้งสองคนก็ถอนหายใจออกมาพร้อมๆกัน "เห้อออออ..........."
ณ กรุงปารีส เมืองหลวงของฝรั่งเศส ผู้คนกำลังหลับใหลยามค่ำคืน แต่มีชายหนุ่มคนหนึ่งที่ออกมาเดินเล่นข้างนอก “ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด” ชายหนุ่มรีบรับโทรศัพท์ทันทีเมื่อเห็นว่าคนที่โทรมาเป็นมารดา “ว่ายังไงครับคุณนาย โทรมาหาผมสะดึกดื่นเลย” “นี่!!!แกไม่คิดจะกลับมาเยี่ยมฉันเลยใช่มั๊ย??” คุณนายมาเรียมแสร้งทำเป็นโมโห จนทำให้คนเป็นลูกรู้สึกผิด จึงใช้ไม้อ้อนเข้ามาช่วย เพราะรู้ว่าคนเป็นแม่แพ้ลูกอ้อนของตัวเอง “โถ่ววว!!!คุณแม่คร้าบบ คุณแม่ก็รู้ว่าผมต้องทำงานไว้วันหยุดที่จะถึงนี้ผมจะกลับไปเยี่ยมแม่น่ะครับ”และแล้วลูกอ้อนของลูกชายสุดที่รักก็ได้ผล “เหอะตลอด แม่มีเรื่องอยากจะบอกลูกด้วย” “เรื่องอะไรเหรอครับแม่” คนเป็นลูกตั้งใจฟังสุดๆ เพราะไม่บ่อยนักที่คนเป็นแม่จะโทรมาในเวลาพักผ่อนแบบนี้ นี้แสดงว่าต้องมีธุระสำคัญมากแน่ๆไม่งั้นคุณนายมาเรียมคงไม่โทรหาลูกชายสุดที่รักในช่วงเวลาพักผ่อนแบบนี้หรอก “คืองี้น่ะลูก ลูกเองอายุก็สมควรที่จะมีครอบครัวเป็นของตัวเองแล้ว” คุณนายมาเรียมหยุดพูด เพื่อรอฟังปฏิกิริยาของเจ้าลูกชาย “แล้ว??....นี่แม่อย่าบอกน่ะว่า” “ใช่แล้วจ๊ะลูก แม่อยากให้ลูกแต่งงาน แล้วแม่ก็ไปทาบทามลูกสาวเพื่อนแม่มาให้ลูกแล้วด้วย” คนเป็นลูกชายถึงกับเครียด “แม่น่ะแม่ ทำอะไรไม่ปรึกษาผมก่อนเลย” “ลูกไม่ต้องกังวลอะไรเลย แม่รับรองว่าลูกจะรักหนูอัฟชีณ ได้อย่างไม่อยากนัก” “ทำไมแม่ถึงมั่นใจขนาดนั้น” คนเป็นลูกไม่เห็นด้วย เพราะเขาเองก็มีคนที่ตัวเองแอบชอบแล้วเหมือนกัน “เพราะแม่รู้จักลูกชายตัวเองดียังไงล่ะ ว่าอย่างไรที่ลูกชอบหรือไม่ชอบ ว่าแต่ลูกจะกลับเมื่อไหร่ เราจะได้เข้าไปสู่ขอหนูอัฟชีณอย่างเป็นทางการ” คนเป็นลูกถอนหายใจแล้วถอนหายใจเล่า กับความคิดของผู้เป็นแม่ เขาสมควรบอกแม่ มั๊ยว่ามีคนที่ชอบอยู่แล้ว สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจบอกผู้เป็นแม่ “แม่ครับ ผมมีเรื่องจะบอก คือ ผมมีคนที่ผมชอบอยู่แล้ว” พูดรวดเดียวจบ เพราะกลัวผู้เป็นแม่ขัดคำพูด คนเป็นแม่ถึงกับตกใจถาม “ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร เป็นลูกเต้าเหล่าใคร แล้วรู้จักกันได้ยังไง บอกแม่มาเดียวนี้” อีกร้อยแปดคำถามจากจากคุณนายมาเรียม “ผมไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวหรอกครับ เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องกับเพื่อนผม เรียนอยู่ที่นี่แหละ” คนเป็นแม่เงียบ จนทำให้คนเป็นลูกชายอยู่ไม่สุข เพราะกลัวมารดาโกรธ จึงต้องเอ่ยถามมารดา “แม่ครับ ยังอยู่ในสายมั๊ยครับ” “เอิ่ม..ยังไงก็ตามแต่ แกต้องกลับประเทศไทยอย่างเร่งด่วน นี้คือคำสั่ง” พูดจบคุณนายวางสายไปทันที ปล่อยให้คนเป็นลูกถึงกับเครียดกับคำสั่งของบุพการี “เห้ออออออ!!!แกจะทำยังไงดีว่ะเนี๊ยะ ไอ้อัร”
สองสัปดาห์ผ่านไป สาวน้อยอัฟชีณเครียดกับการอ่านหนังสือเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย คนเป็นแม่ไม่กล้าบอกเรื่องแต่งงานให้คนเป็นลูกรู้ เพราะกลัวลูกสาวมีเรื่องให้เครียดเพิ่มขึ้น ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายได้โทรปรึกษาหารือกัน เรื่องของลูกๆตน คุณอาอิชแม่ของอัฟชีณได้บอกกับคุณมาเรียมว่า ยังไม่ได้พูดคุยเรื่องแต่งงานกับลูกสาวของตนเลย เพราะเห็นแกเครียดๆเรื่องสอบเข้ามหาวิทยาลัย คุณมาเรียม จึงปลอบไปว่า “ไม่เป็นไรหรอก ยังไม่บอกก็ดีเหมือนกัน รู้เรื่องทีเดียวเลยล่ะกัน จะได้ไม่ต้องเครียดหลายๆรอบ” คุณแม่ทั้งสองฝ่ายต่างยิ้มให้กันอย่างมีความสุข “สัปดาห์หน้าตาอัรฮามก็จะกลับมาแล้ว แล้วฉันจะพาตาอัรฮามมาสู่ขอตามประเภณีน่ะ” “ไว้เดียวฉันจะบอกอัฟชีณให้เตรียมตัวไว้” “ว่าแต่หนูอัฟชีณสอบเสร็จทุกอย่างเมื่อไหร่ล่ะ” คุณอาอิชครุ่นคิดสักครู่ “สัปดาห์หน้านี้อัฟชีณสอบเสร็จหมดทุกอย่างพอดีเลย” คุณมาเรียมยิ้มอย่างมีความสุข อะไรๆก็เป็นไปตามที่ตนคิดไว้ไปหมดซะทุกอย่าง แต่ผิดกับอีกคนที่นั่งคอตกเพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นพูดเรื่องนี้กับลูกสาวอย่างไร
"อ้าวอัฟชีน!!!กลับมาแล้วเหรอลูก มานั่งข้างแม่มา" เธอเดินเข้าไปนั่งข้างมารดาอย่างงุนงง พร้อมกับทักทายแขกของมารดา "อัสลามมูอาลัยกุมค่ะ" แขกของมารดายิ้มตอบพร้อมกับรับคำทักทาย "วาอาลัยกุมมุสลามจ๊ะหนู ไม่เจอกันนาน โตเป็นสาวแล้วน่ะ ไหน!!!ขอป้าเรียมดูหน้าหนูใกล้ๆหน่อยสิจ๊ะ" อัฟชีณหันไปมองมารดาเห็นมารดาพยักหน้าให้ จึงขยับไปนั่งข้างๆแขกของมารดา พร้อมๆกับถอดผ้านิกอบออก ถึงกับทำให้แขกของมารดาตกตะลึงกับความสวย น่ารัก ของลูกสาวเพื่อนรัก "สวย สวยมากๆๆ นี่ถ้าตาอัรฮามได้มาเห็นหนูน่ะ เค้าต้องหลงรักตั้งแต่แรกเจอแน่ๆเลย ป้ารับรอง"พูดจบพร้อมๆกับยิ้มอย่างมีความสุข ในที่สุดวันที่ทั้งสองฝ่ายรอคอยกำลังจะมาถึง อัฟชีณถึงกับงงใหญ่ นี่ผู้ใหญ่เค้าพูดถึงเรื่องอะไรกันอยู่ ไม่เห็นจะรู้เรื่องตรงไหนเลย ว่าแต่ที่แม่เรียกเรากลับบ้านอย่างเร่งด่วนต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆเลย ไม่เป็นไรเดียวค่อยถามหลังจากแขกของแม่กลับไปก่อนก็ได้ "งั้นถ้าไม่มีอะไรแล้ว หนูขอตัวก่อนน่ะค่ะ" "เดี่ยวก่อนลูก" "ค่ะแม่?" "เอ่อ.......ไม่มีอะไร ไปเถอะ" หลังจากลูกสาวออกไปแล้ว ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายก็พูดคุยกันตามประสาเพื่อนรักที่ไม่เจอกันมานานมาก พร้อมๆกับวางแผนอนาคตให้กับลูกๆของทั้งสองฝ่าย ทั้งๆที่ทั้งสองฝ่ายก็ยังไม่รู้ว่าจะบอกกับลูกๆของพวกเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไง แล้วทั้งสองคนก็ถอนหายใจออกมาพร้อมๆกัน "เห้อออออ..........."
ณ กรุงปารีส เมืองหลวงของฝรั่งเศส ผู้คนกำลังหลับใหลยามค่ำคืน แต่มีชายหนุ่มคนหนึ่งที่ออกมาเดินเล่นข้างนอก “ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด” ชายหนุ่มรีบรับโทรศัพท์ทันทีเมื่อเห็นว่าคนที่โทรมาเป็นมารดา “ว่ายังไงครับคุณนาย โทรมาหาผมสะดึกดื่นเลย” “นี่!!!แกไม่คิดจะกลับมาเยี่ยมฉันเลยใช่มั๊ย??” คุณนายมาเรียมแสร้งทำเป็นโมโห จนทำให้คนเป็นลูกรู้สึกผิด จึงใช้ไม้อ้อนเข้ามาช่วย เพราะรู้ว่าคนเป็นแม่แพ้ลูกอ้อนของตัวเอง “โถ่ววว!!!คุณแม่คร้าบบ คุณแม่ก็รู้ว่าผมต้องทำงานไว้วันหยุดที่จะถึงนี้ผมจะกลับไปเยี่ยมแม่น่ะครับ”และแล้วลูกอ้อนของลูกชายสุดที่รักก็ได้ผล “เหอะตลอด แม่มีเรื่องอยากจะบอกลูกด้วย” “เรื่องอะไรเหรอครับแม่” คนเป็นลูกตั้งใจฟังสุดๆ เพราะไม่บ่อยนักที่คนเป็นแม่จะโทรมาในเวลาพักผ่อนแบบนี้ นี้แสดงว่าต้องมีธุระสำคัญมากแน่ๆไม่งั้นคุณนายมาเรียมคงไม่โทรหาลูกชายสุดที่รักในช่วงเวลาพักผ่อนแบบนี้หรอก “คืองี้น่ะลูก ลูกเองอายุก็สมควรที่จะมีครอบครัวเป็นของตัวเองแล้ว” คุณนายมาเรียมหยุดพูด เพื่อรอฟังปฏิกิริยาของเจ้าลูกชาย “แล้ว??....นี่แม่อย่าบอกน่ะว่า” “ใช่แล้วจ๊ะลูก แม่อยากให้ลูกแต่งงาน แล้วแม่ก็ไปทาบทามลูกสาวเพื่อนแม่มาให้ลูกแล้วด้วย” คนเป็นลูกชายถึงกับเครียด “แม่น่ะแม่ ทำอะไรไม่ปรึกษาผมก่อนเลย” “ลูกไม่ต้องกังวลอะไรเลย แม่รับรองว่าลูกจะรักหนูอัฟชีณ ได้อย่างไม่อยากนัก” “ทำไมแม่ถึงมั่นใจขนาดนั้น” คนเป็นลูกไม่เห็นด้วย เพราะเขาเองก็มีคนที่ตัวเองแอบชอบแล้วเหมือนกัน “เพราะแม่รู้จักลูกชายตัวเองดียังไงล่ะ ว่าอย่างไรที่ลูกชอบหรือไม่ชอบ ว่าแต่ลูกจะกลับเมื่อไหร่ เราจะได้เข้าไปสู่ขอหนูอัฟชีณอย่างเป็นทางการ” คนเป็นลูกถอนหายใจแล้วถอนหายใจเล่า กับความคิดของผู้เป็นแม่ เขาสมควรบอกแม่ มั๊ยว่ามีคนที่ชอบอยู่แล้ว สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจบอกผู้เป็นแม่ “แม่ครับ ผมมีเรื่องจะบอก คือ ผมมีคนที่ผมชอบอยู่แล้ว” พูดรวดเดียวจบ เพราะกลัวผู้เป็นแม่ขัดคำพูด คนเป็นแม่ถึงกับตกใจถาม “ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร เป็นลูกเต้าเหล่าใคร แล้วรู้จักกันได้ยังไง บอกแม่มาเดียวนี้” อีกร้อยแปดคำถามจากจากคุณนายมาเรียม “ผมไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวหรอกครับ เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องกับเพื่อนผม เรียนอยู่ที่นี่แหละ” คนเป็นแม่เงียบ จนทำให้คนเป็นลูกชายอยู่ไม่สุข เพราะกลัวมารดาโกรธ จึงต้องเอ่ยถามมารดา “แม่ครับ ยังอยู่ในสายมั๊ยครับ” “เอิ่ม..ยังไงก็ตามแต่ แกต้องกลับประเทศไทยอย่างเร่งด่วน นี้คือคำสั่ง” พูดจบคุณนายวางสายไปทันที ปล่อยให้คนเป็นลูกถึงกับเครียดกับคำสั่งของบุพการี “เห้ออออออ!!!แกจะทำยังไงดีว่ะเนี๊ยะ ไอ้อัร”
สองสัปดาห์ผ่านไป สาวน้อยอัฟชีณเครียดกับการอ่านหนังสือเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย คนเป็นแม่ไม่กล้าบอกเรื่องแต่งงานให้คนเป็นลูกรู้ เพราะกลัวลูกสาวมีเรื่องให้เครียดเพิ่มขึ้น ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายได้โทรปรึกษาหารือกัน เรื่องของลูกๆตน คุณอาอิชแม่ของอัฟชีณได้บอกกับคุณมาเรียมว่า ยังไม่ได้พูดคุยเรื่องแต่งงานกับลูกสาวของตนเลย เพราะเห็นแกเครียดๆเรื่องสอบเข้ามหาวิทยาลัย คุณมาเรียม จึงปลอบไปว่า “ไม่เป็นไรหรอก ยังไม่บอกก็ดีเหมือนกัน รู้เรื่องทีเดียวเลยล่ะกัน จะได้ไม่ต้องเครียดหลายๆรอบ” คุณแม่ทั้งสองฝ่ายต่างยิ้มให้กันอย่างมีความสุข “สัปดาห์หน้าตาอัรฮามก็จะกลับมาแล้ว แล้วฉันจะพาตาอัรฮามมาสู่ขอตามประเภณีน่ะ” “ไว้เดียวฉันจะบอกอัฟชีณให้เตรียมตัวไว้” “ว่าแต่หนูอัฟชีณสอบเสร็จทุกอย่างเมื่อไหร่ล่ะ” คุณอาอิชครุ่นคิดสักครู่ “สัปดาห์หน้านี้อัฟชีณสอบเสร็จหมดทุกอย่างพอดีเลย” คุณมาเรียมยิ้มอย่างมีความสุข อะไรๆก็เป็นไปตามที่ตนคิดไว้ไปหมดซะทุกอย่าง แต่ผิดกับอีกคนที่นั่งคอตกเพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นพูดเรื่องนี้กับลูกสาวอย่างไร
Fidavs
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 23 เม.ย. 2558, 15:03:53 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 26 เม.ย. 2558, 15:55:30 น.
จำนวนการเข้าชม : 1280
แอบมอง >> |
Fidavs 24 เม.ย. 2558, 14:07:57 น.
ฝากติดตามนิยายเรื่องนี้ด้วยน่ะค่ะ เพิ่งแต่งเป็นเรื่องแรก มีอะไรติชมได้ค่ะ
ฝากติดตามนิยายเรื่องนี้ด้วยน่ะค่ะ เพิ่งแต่งเป็นเรื่องแรก มีอะไรติชมได้ค่ะ