รัก-ที่เกิดขึ้นหลังแต่ง
เธอ คือ สาวน้อยผู้น่ารัก สดใส มีจิตใจที่อ่อนโยน แต่แอบดื้ออยู่ลึกๆ ต้องกลายมาเป็นอีกคนที่ไม่ใช่ตัวเองหลังจากที่แต่งงาน เพื่อแสดงให้เขาเห็นว่าเธอเข้มแข็ง ไม่ได้อ่อนแอ แต่ใครจะไปรู้ว่าลึกๆแล้วเธอไม่ได้เข้มแข็งอย่างที่เธอพยายามแสดงมันออกมา ให้ทุกคนเห็น โดยเฉพาะเขา คนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามี
ส่วนเขา คือ ชายหนุ่มผู้หล่อเหลา เย็นชา พูดน้อย และใจร้ายที่สุด เท่าที่เธอเคยรู้จักมา

ทั้งคู่ต่างใช้ชีวิต เหมือนตอนยังอยู่ตัวคนเดียว แม้บางคนจะพยายามพูดคุยด้วย ถามโน้นนี้นั้น ตามประสาคนสดใส แต่เหมือนอีกฝ่ายไม่ให้ความร่วมมือด้วยเลย ทำให้เธอหมดความพยายามในที่สุด เธอจึงกลายเป็นคนที่เงียบ ไม่พูดไม่จา ไม่ร่าเริงสดใส เหมือนแต่ก่อน ทำให้เขาเริ่มแปลกใจตัวเอง ทำไมถึงต้องรู้สึกยังงี้ด้วย เมื่อเธอกลายเป็นอีกคน ที่เขาไม่คุ้นเคย
Tags: แนวแต่งก่อนจีบ ความรัก เศร้า อัรฮาม VS อัฟชีณ

ตอน: แอบมอง

เมืองไทยวันแรก
ท่าอากาศยานชาร์ลส์ เดอ โกล (Charles de Gaulle Airport หรือCDG) ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ชายหนุ่มกำลังเตรียมตัวเพื่อกลับประเทศไทย ตามสัญญาที่ได้ให้ไว้กับมารดา

“เห้...ไอ้อัร นี่นายจะกลับเมืองเมืองไทยจริงๆเหรอนี้ แล้วงานทางนี้ล่ะ" เพื่อนคนหนึ่งของชายหนุ่มถามอย่างตกใจเมื่อทราบข่าวว่าเพื่อนรักจะกลับเมืองไทย

“เออ จริง ฉันจะกลับเมืองไทย แล้วฉันก็ลางานแล้วด้วย” เพื่อนๆต่างสงสัย เพราะปกติชายหนุ่มจะกลับเมืองไทยแค่ช่วงวันหยุดยาวเท่านั้น แต่ครั้งนี้กลับแปลก เพราะถึงจะหยุดยาวแต่ก็ไม่เคยลางาน แต่ครั้งนี้กลับลางานด้วย

“แล้วนี่นายจะกลับมาที่นี่อีกเมื่อไหร่” หนุ่มหล่อเจ้าสำราญเอ่ยถามเพื่อน

“ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ก็ไม่น่าจะนานนัก” ชายหนุ่มตอบ พร้อมกับถอนหายใจออกมา ชายหนุ่มและเพื่อนๆต่างพูดคุยกันในเรื่องราวต่างๆ จนได้เวลาที่จะต้องไป

“เออ ยังไงก็ขอให้แกเดินทางโดยสวัสดิภาพล่ะกัน มีอะไรก็คาบข่าวมาบอกเพื่อนฝูงด้วยน่ะเว้ย”

“จะพยายาม” ล่ำลากันเสร็จชายหนุ่มก็ขอตัวเข้าเก็จ

“เออ...โชคดี” เพื่อนๆต่างก็อวยพรให้ชายหนุ่มเดินทางอย่างปลอดภัย

“ ไปล่ะ” ชายหนุ่มนั่งครุ่นคิดถึงเรื่องราวที่มารดาได้พูดกับเขาเมื่อสามสัปดาห์ก่อน แล้วนี้เขาจะแต่งงานกับเธอได้ยังไง ในเมื่อเขาไม่เคยรู้จักผู้หญิงคนนั้นเลย หน้าตาก็ไม่เคยเห็น นิสัยใจคอก็ยังไม่ได้ศึกษา แล้วชีวิตคู่ของแกจะไปรอดมั๊ยไอ้อัร คิดแล้วคิดอีก ไม่รู้จะปฏิเสธมารดายังไง แต่ถ้าเขาไม่อยากแต่งจริงๆคุณแม่อาจจะเข้าใจก็ได้ ไม่ลองไม่รู้

ณ บ้านปริยากรโสภณ

คุณนายมาเรียมรอการกลับมาของเจ้าลูกชายตัวดีอย่างตื่นเต้น

“อีกไม่กี่ชั่วโมงแล้วซิน่ะ ตาอัรฮามก็จะถึงบ้านแล้ว ฉันตื่นเต้นจังเลยค่ะคุณเดวิด”

“ผมก็ตื่นเต้นเหมือนคุณนั่นแหละ นี่ก็ไม่เจอมันนานแล้ว” สักพักก็ได้ยินเสียงรถยนต์เข้ามาในบริเวณบ้าน

“อัรฮาม คงถึงแล้วล่ะคุณ” ผู้เป็นบิดาเอ่ย

“งั้นเราออกไปรับลูกกันเถอะ” สองสามีภรรยายังไม่ทันก้าวพ้นประตูบ้านด้วยซ้ำ เจ้าลูกชายตัวดีก็กระโดดมากอดทั้งสองคนด้วยความตื่นเต้น

“คิดถึงคุณพ่อคุณแม่ที่สุดเลย” หันไปหอมแก้มบิดามารดาอย่างออดอ้อน

“นี่ถ้าฉันไม่โทรไป แกก็คงไม่กลับมาซิน่ะ” จนคนเป็นพ่อต้องเอ็ดภรรยา

“เอาน่าคุณ ลูกเพิ่งกลับมาเหนื่อยๆ อย่าเพิ่งไปด่ามันเลย ให้มันขึ้นไปพักผ่อนให้เต็มที่ก่อน หลังจากนั้นถ้าคุณจะด่า ก็ด่าให้เต็มที่เลย ด่าเผื่อผมด้วย” คนเป็นพ่อก็เป็นเอาด้วย

“พ่อก็..........นี้ไม่มีใครเข้าข้างผมเลย”

“ไปไป แกขึ้นไปพักผ่อนไป เดี่ยวเย็นๆจะให้คนขึ้นไปตาม” แล้วชายหนุ่มก็ขึ้นไปพักผ่อนบนห้องตามคำสั่งของคุณนาย
อาหารค่ำมื้อแรกของครอบครัวปริยากรโสภณที่อยู่กันครบพร้อมหน้าพร้อมตากันในรอบหลายปีที่ผ่านมาผ่านไปได้ด้วยดี


“ตาอัรฮาม ทานข้าวเสร็จแม่มีเรื่องอยากจะคุยด้วย” ทุกคนมองหน้ากัน เพราะรู้อยู่แล้วว่าเรื่องที่คุณนายมาเรียมอยากจะคุยด้วยคือเรื่องอะไร

“คุณแม่มีอะไรเหรอครับ” เมื่อทุกคนทานข้าวกันเสร็จแล้ว ก็ไปพร้อมหน้ากันในห้องนั่งเล่น

“เอาล่ะ เรื่องที่แม่อยากจะพูดกับลูกก็คือ เรื่องเดิม เรื่องที่แม่อยากจะให้ลูกแต่งงานกับลูกสาวเพื่อนแม่” พูดจบก็สบตากับลูกชาย

“แต่แม่ครับ ผมบอกแม่ไปแล้ว ว่าผมมีคนที่ผมชอบอยู่แล้ว” ทุกคนนั่งเงียบ เพราะไม่กล้าขัดใจคุณนายมาเรียม มีแต่คุณเดวิดผู้เป็นสามีเท่านั้นที่กล้าขัดใจภรรยาสุดที่รัก

“แต่ผมคิดว่า เราน่าจะให้ตาอัรเป็นคนเลือกเองน่ะคุณ” คนเป็นลูกเห็นด้วยกับผู้เป็นพ่อ จึงแย้งมารดาขึ้นมา

“ใช่ครับคุณแม่ จะหาแม่ของลูกผมทั้งคน ขอผมเป็นคนเลือกเองเถอะครับแม่” คนเป็นแม่เริ่มไม่พอใจ จึงเอ่ยออกไปว่า

“ฉันยังยืนยันคำเดิม ว่าอยากจะให้แกแต่งงานกับหนูอัฟชีณ หรือถ้าแกไม่ชอบหนูอัฟชีณจริงๆค่อยว่ากัน แต่ฉันรับรองว่าแกต้องชอบ” ลูกชายตัวดีถึงกับหันไปขอความช่วยเหลือกับคุณพ่อ

“ได้ ผมจะทำตามที่คุณแม่ต้องการ แต่ถ้าผมไม่ชอบ ทุกอย่างเป็นอันว่าจบ” พูดจบชายหนุ่มก็เดินออกจากห้อง แต่ยังไม่ทันพ้นประตูออกไป คุณนายก็พูดออกมา

“อีกสองวันแกเตรียมตัวให้พร้อม” คุณผู้ชายของบ้านถึงกับแย้ง

“ทำไมถึงเร็วกันล่ะคุณ”

“เร็วๆน่ะแหละดีแล้ว เพราะฉันกลัวคนอื่นจะไปสู่ขอแทรงหน้าเราไปก่อน ฉันขอยืนยันว่าหนูอัฟชีณเหมาะที่จะเป็นสะใภ้บ้านเรา และที่สำคัญ เหมาะที่จะเป็นภรรยาของลูกชายเราที่สุด ถ้าทุกคนได้เห็นเธอทุกคนจะชอบเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น เหมือนกับที่ฉันชอบ” พูดจบก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข เมื่อจินตนาการไปถึงอนาคตที่จะมีลูกสะใภ้ที่มีกริยามารยาทงดงามไม่แพ้รูปร่างหน้าตา เธอสวย สวยมากจริงๆ

อัรฮามขับรถออกจากบ้านตั้งแต่เช้า ใครถามอะไรก็ไม่ตอบ ขับรถไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีจุดหมาย สุดท้ายก็จอดรถที่ส่วนสาธารณะแห่งหนึ่ง ดับเครื่องยนต์เสร็จก็ลงจากรถ เพื่อลงไปสูดอากาสบริสุทธิ์ เดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีเป้าหมาย พลันสายตาก็หันไม่เจอกับสาวน้อยชุดดำคนหนึ่งปิดหน้าปิดตาอย่างมิดชิด นั่งอ่านหนังสืออยู่ใต้ต้นไม้ ชายหนุ่มรู้สึกสะดุดตาเป็นอย่างมาก จึงแอบมองสาวน้อยอยู่ห่างๆ หลายชั่วโมงผ่านไป อัฟชีณเพิ่งรู้สึกตัว เหมือนมีคนแอบมองตัวเองอยู่ จึงหันไปมอง ก็ไม่เห็นเจอกับอะไร

“สงสัยเราจะระแวงไปเองล่ะมั๊ง นี่กี่โมงแล้วเนี๊ยะ” ถามเอง ตอบเองเสร็จทรัพย์ ก็ถึงกับตกใจ

“เห้ย นี่มันเลยเวลานัดไปแล้ว ซวยแล้ว ณาดาต้องบ่นอีกแน่ๆเลย” ด้วยความเร่งรีบจึงเก็บของไปอย่างลวกๆ แล้วเดินจากไป โดยที่ไม่ได้ตรวจดูความเรียบร้อยอีกครั้ง หลังจากสาวน้อยเดินจากไปแล้ว ชายหนุ่มที่แอบมองอยู่ก็เดินมาตรงจุดที่เคยมีสาวน้อยชุดดำนั่งเมื่อสักครู่ พลันสายตาก็หันไปเจอเข้ากับไดอารี่น่ารักๆเล่มหนึ่งเข้า จึงเสียมารยาทก้มลงไปเอาไดอารี่เล่มนั้นเก็บไว้ ก่อนเดินจากไป ได้เอ่ยประโยคๆหนึ่ง

“แล้วเจอกันใหม่สาวน้อยชุดดำ” จากไปพร้อมกับรอยยิ้มเต็มใบหน้า
อัฟชีนไปตามที่นัดกับเพื่อนสายไปหลายนาทีเลย โดนเพื่อนบ่นจนหูชา

“โถ่ว ณาดา เค้าขอโทษจริงๆ อ่านหนังสือเพลินไปหน่อย ดีกันน่ะ” ณาดาแสร้งทำเป็นงอนอีกนิดหน่อย

“แกก็เป็นอย่างนี้ตลอดอ่ะ อ่านหนังสือ จนลืมเพื่อน ตลอดตลอดตลอดเลย” อัฟชีณคิดหาทางง้อไว้แล้วล่ะ “งั้นเดียวฉันเลี้ยงแกเอง โอเคมั๊ย”

“มันก็ต้องอย่างนั้นอยู่แล้วป่ะแก” แล้วทั้งคู่หัวเราะกันอย่างมีความสุข ทุกๆครั้งที่เพื่อนคนนี้งอล อัฟชีณก็มักจะใช้วิธีนี้ง้อ เพราะรู้ว่าเพื่อนต้องใจอ่อน เพราะสำหรับหล่อนเรื่องกินต้องมาก่อนเสมอ กินได้ทุกเวลาจริงๆ ไม่สมกับที่ตัวเล็กแค่นิดเดียว แต่กินจุยิ่งกว่าอะไร สองสาวคุยกันไป กินกันไป จนได้เวลาแยกย้ายกลับบ้าน
เมื่อกลับมาถึงบ้าน ก็เห็นคุณแม่นั่งทำหน้าเครียดอยู่ในห้องนั่งเล่น จึงเดินเข้าไปหา

“คุณแม่ เป็นอะไรรึเปล่าค่ะ เห็นทำหน้าเครียดเชียว” คนเป็นลูกเอ่ยถามมารดา

“แม่มีเรื่องอยากจะคุยกับหนูหน่อยจ้ะ”

“คุณแม่มีอะไรจะคุยกับหนูเหรอค่ะ” อัฟชีณเอ่ยถามมารดาด้วยความสงสัย

“พรุ่งนี้หนูมีธุระ หรือต้องออกไปที่ไหนหรือเปล่าลูก” คนเป็นลูกยิ่งสงสัยใหญ่ คิดว่ามารดาต้องมีอะไรปิดบังตัวเองแน่ๆเลย

“ไม่มีนี่ค่ะแม่ พรุ่งนี้หนูว่าง คุณแม่จะชวนออกไปไหนรึเปล่าค่ะ”

“คือ พรุ่งนี้มีคนจะมาที่บ้านเรา แม่ก็เลยอยากให้ลูกอยู่ช่วยรับแขกกับแม่หน่อยน่ะ” คำตอบของมารดายังไม่ให้ความกระจ่างกับเธอเท่าใดนัก แต่เธอก็ต้องรับปากมารดาไปก่อน เพราะถึงถามไป มารดาก็ยังคงไม่ให้ความกระจ่างอยู่ดี

“งั้นก็ได้ค่ะแม่” รับปากมารดาเสร็จทรัพย์ก็ขอตัวขึ้นไปอาบน้ำ เพื่อทำการละหมาด ตามศาสนกิจของศาสนาอิสลาม ตามด้วยอ่านคัมภีร์อัล-กุรอาน

“เห้อ แขกของคุณแม่พรุ่งนี้ต้องเป็นคนสำคัญมากแน่ๆเลย ถึงกำชับให้เราอยู่ช่วยรับแขกด้วย” หญิงสาวบ่นพึมพำ ก่อนที่จะเข้าสู่ห้วงนิทรา
ทางด้านชายหนุ่ม ยังนอนไม่หลับเพราะยังคิดถึงสาวน้อยชุดดำ ที่เจอวันนี้ คิดได้ดังนั้น ก็หยิบเอาไดอารี่น่ารักๆเล่มนั้นที่เก็บได้ ขึ้นมาอ่าน อ่านไปเรื่อยๆ จนมาสะดุดกับข้อความๆข้อความหนึ่ง

“23042015 วันนี้.......อ่านหนังสืออยู่ใต้ต้นไม้ที่สวนสาธารณะใกล้บ้าน แต่อยู่ๆก็รู้สึกเหมือนมีคนแอบมองอยู่ หันกลับไปมอง ก็ไม่เห็นมีใคร ได้แต่คิดกับตัวเองว่า คงไม่มีอะไร แค่คิดไปเอง”
หลังจากที่ชายหนุ่ม อ่านคำบอกเล่ามาจนถึงตรงนี้ ก็ได้แต่ยิ้มให้กับตัวเอง

“นี่แกเป็นเอามากน่ะเนี๊ยะไอ้อัร”

“จดเรื่องนี้ด้วย เร็วชะมัดเลย เธอเป็นใครกันน่ะ สาวน้อยชุดดำขี้ลืม ลืมได้แม้กระทั่งไดอารี่น่ารักๆ” พูดจบก็ยิ้มให้กับไดอารี่หวังจะส่งรอยยิ้มถึงเจ้าของมัน แต่แล้วชายหนุ่มก็หน้าเครียดขึ้นมาทันที เมื่อนึกไปถึงเรื่องที่มารดาได้บอกไว้

“พรุ่งนี้แล้วสิน่ะ เห้ออออ......”



















Fidavs
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 24 เม.ย. 2558, 14:06:03 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 24 เม.ย. 2558, 14:31:25 น.

จำนวนการเข้าชม : 1234





<< บทนำ   สู่ขอ >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account