เมียบำเรอเจ้าพ่อ
ไม่มีสักครั้งที่ ‘คังเจียลี่’ เจ้าพ่อวงการธุรกิจก่อสร้างแห่งเกาะฮ่องกง
จะยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับบรรดาคู่ขาให้ขึ้นมาอยู่ในฐานะคนรัก
หากเมื่อได้พบกับ ‘พิมพ์ชนก’ น้องสาวภรรยาของเพื่อนสนิท คนที่เขาเคยหมายตาไว้เข้าอีกครั้ง
เจ้าพ่อหนุ่มก็ไม่รีรอที่จะกระชากเอาตัวหญิงสาวสุดเฮี้ยวมาไว้ใกล้ๆในฐานะเลขานุการส่วนตัว
แล้วเอ่ยปากขอแกมบังคับให้เธอยอมรับตำแหน่งคนรักเจ้าพ่อโดยไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลง
แต่ถึงจะรู้ทั้งรู้ว่าผู้ชายอย่างคังเจียลี่คือแบดบอยตัวร้ายที่ผู้หญิงทุกคนไม่ควรอยู่ใกล้ชิด...
มิหนำซ้ำรอบตัวเขายังมีแต่ปมปริศนาฆาตกรรมที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งและอันตราย
หากพิมพ์ชนกก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่าเขาเป็นผู้ชายที่น่าหวั่นไหวที่สุดในโลก
และการได้อยู่ใกล้ชิดกับชายหนุ่มก็ทำให้หัวใจของสาวน้อยสั่นสะเทือน ไร้แรงต้านทาน
ทว่าความลับสุดยอดที่พิมพ์ชนกได้ล่วงรู้เป็นสาเหตุให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เกิดความคลางแคลง
และเมื่อมีเหตุการณ์ชวนให้หัวหมุนเข้ามาแทรก ‘เมียบำเรอเจ้าพ่อ’ อย่างเธอจึงเลือกที่จะหนีไปให้ไกล
และการจะหนีจากเจ้าพ่อผู้ทรงอิทธิพลอย่างเขาให้รอดพ้นได้นั้น
ก็ต้องไปในยามที่เขาบาดเจ็บดังเช่นตอนนี้ และต้องไปเดี๋ยวนี้!
จะยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับบรรดาคู่ขาให้ขึ้นมาอยู่ในฐานะคนรัก
หากเมื่อได้พบกับ ‘พิมพ์ชนก’ น้องสาวภรรยาของเพื่อนสนิท คนที่เขาเคยหมายตาไว้เข้าอีกครั้ง
เจ้าพ่อหนุ่มก็ไม่รีรอที่จะกระชากเอาตัวหญิงสาวสุดเฮี้ยวมาไว้ใกล้ๆในฐานะเลขานุการส่วนตัว
แล้วเอ่ยปากขอแกมบังคับให้เธอยอมรับตำแหน่งคนรักเจ้าพ่อโดยไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลง
แต่ถึงจะรู้ทั้งรู้ว่าผู้ชายอย่างคังเจียลี่คือแบดบอยตัวร้ายที่ผู้หญิงทุกคนไม่ควรอยู่ใกล้ชิด...
มิหนำซ้ำรอบตัวเขายังมีแต่ปมปริศนาฆาตกรรมที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งและอันตราย
หากพิมพ์ชนกก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่าเขาเป็นผู้ชายที่น่าหวั่นไหวที่สุดในโลก
และการได้อยู่ใกล้ชิดกับชายหนุ่มก็ทำให้หัวใจของสาวน้อยสั่นสะเทือน ไร้แรงต้านทาน
ทว่าความลับสุดยอดที่พิมพ์ชนกได้ล่วงรู้เป็นสาเหตุให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เกิดความคลางแคลง
และเมื่อมีเหตุการณ์ชวนให้หัวหมุนเข้ามาแทรก ‘เมียบำเรอเจ้าพ่อ’ อย่างเธอจึงเลือกที่จะหนีไปให้ไกล
และการจะหนีจากเจ้าพ่อผู้ทรงอิทธิพลอย่างเขาให้รอดพ้นได้นั้น
ก็ต้องไปในยามที่เขาบาดเจ็บดังเช่นตอนนี้ และต้องไปเดี๋ยวนี้!
Tags: คังเจียลี่ - พิมพ์ชนก
ตอน: ตอนที่ 11 100%
พิมพ์ชนกรู้ตัวว่ากำลังตื่นเต้นเพราะเป็นครั้งแรกของการออกงานสังคมที่หรูหราขนาดนี้! ริมฝีปากอิ่มขยับบอกผู้ชายข้างที่กำลังได้รับความสนใจจากนักข่าวที่ถูกกันไว้บริเวณทางเดินเข้าโรงแรม “แพมต้องวางตัวยังไง อย่าลืมกระซิบบอกนะคะ” หญิงสาวบอกที่พึ่งคนเดียวในตอนนี้เบาๆ ให้พอได้ยินกันสองคน
“ซบหน้าลงที่อกผม แล้วฉีกยิ้มหวานๆ ให้กล้อง” ริมฝีปากบึกบึนพูดชัดแต่กลับไม่ขยับริมฝีปากเลยแม้แต่น้อย
พิมพ์ชนกแหนหน้าขึ้นมอง เฮอะ! เขานี่มันเหลือเชื่อเลยจริงๆ “ฝันไปเถอะ!” ปากอิ่มออกเสียงแต่ไม่ขยับริมฝีปากเลียนแบบบ้าง ทำเอาเจ้าพ่อหนุ่มหัวเราะร่วนถูกใจบ้าง เธอมันยัยเด็กรู้มาก รู้ทันเขาไปทุกเรื่องจริงๆ
ข่าวคราวที่ว่ามีสาวน้อยร่างอรชรกุมหัวใจของเจ้าพ่อคอนสตรักชั่น ผู้ชายโสดเนื้อหอมอันดับหนึ่งของฮ่องกงถูกยืนยันด้วยภาพที่เขาโอบเอวอ้อนแอ้นของหญิงสาวชาวไทยไว้อย่างเปิดเผย แสดงความเป็นเจ้าของทำให้สาวๆ ค่อนเอเชียต้องอกหักไปตามๆ กันแน่ นักข่าวระรัวชัตเตอร์ตักตวงเอาภาพที่เห็นได้ไม่บ่อยนักเต็มสปีด ไม่นานทั้งคู่ก็เดินตามพรมแดงเข้าไปด้านในที่มีแขกเหรื่อวีไอพีจำนวนนับร้อยเต็มห้องบอลรูม หลายคนให้ความสนใจคู่ควงของเจ้าพ่อคอนสตรักชั่น มีเสียงซุบซิบพูดถึงประวัติของเธออย่างกว้างขวาง บางคนเมื่อได้รู้แล้วก็ยิ้มให้หญิงสาวอย่างผูกมิตรเพราะเธอมีดีกรีเป็นถึงน้องสาวของมาดามโจว เจ้าของกาสิโนและโรงแรมหรูเกือบทั่วเอเชียในเครือสตาร์คิงส์นั่นเอง
คังหย่งเหอ ท่านผู้ว่าการเกาะฮ่องกงและภริยากำลังสนทนากันอย่างออกรส ทั้งหมดหันมามองเมื่อทั้งคู่เดินใกล้เข้ามา
“สวัสดีครับท่าน มาดาม” คังเจียลี่ทักทายทั้งคู่อย่างสุภาพและแนะนำหญิงสาวข้างกายให้รู้จักทั้งคู่พร้อมกัน พิมพ์ชนกเอ่ยทักทายและยิ้มให้ทั้งคู่เช่นกัน
“โอ... นี่คงเป็นน้องสาวของมาดามโจวใช่ไหมคะ?” ภริยาท่านผู้ว่าการเขตปกครองพิเศษฮ่องกงถามพร้อมทั้งมองเครื่องเพชรชุดใหญ่ของตระกูลคังที่เคยเห็นคังเหม่ยเฟิ่งสวมใส่ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ บัดนี้ลูกชายเอาออกมาให้หญิงสาวได้สวม จึงเดาได้ไม่ยากว่าคงเป็นตัวจริงของคังเจียลี่ คริสตัลหลานสาวของตัวเองคงต้องได้เสียใจอีกเป็นแน่
“ครับ เธอชื่อพิมพ์ชนกครับ” คังเจียลี่ตอบ
“แหม... ฮ่องกงเรามิขาดดุลแย่เหรอคะ!? มีสะใภ้คนไทยสองคน สองตระกูลใหญ่เชียว” มุขตลกของภริยาท่านผู้ว่าการฯ ต้องเป็นหมันเพราะน้ำเสียงที่เธอใช้ดูประชดประชันมากกว่าหยอกเย้า จึงไม่มีใครตลกด้วยเดือดร้อนคนเป็นสามีต้องแก้ต่างให้เป็นพัลวันเพราะทั้งสกุลคังและสกุลโจวเป็นสองตระกูลใหญ่ที่ต่างก็ให้เงินสนับสนุนเกือบทุกโครงการของทางการก็ว่าได้ ความเกรงอกเกรงใจจึงมากตามไปด้วย
“เราต่างหากที่ได้กำไรเพราะทั้งคู่แต่งเข้ามาอยู่ในฮ่องกง ไม่ได้แต่งออกไปอยู่ที่เมืองไทยสักหน่อยจริงไหมคุณหย่งเหอ?” ท่านผู้ว่าฯ หันมาถามคังหย่งเหอ
“ครับท่าน หนูแพมต่างหากต้องปวดหัวไม่เว้นแต่ละวันเพราะหลานชายของผมคนนี้ช่างเอาแต่ใจตัวเองครับคุณนาย”
วงสนทนาเริ่มผ่อนคลายความตึงเครียดลง เมื่อพิธีกรในงานเดินออกมากล่าวต้อนรับแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงานในวันนี้ พร้อมกับการปรากฏตัวของประธานซุนแบงค์คนใหม่บนเวที คริสตัลซุนในชุดราตรีสีแดงเพลิงเดินออกมากล่าวคำมั่นในการนำพาซุนฮ่องกงแบงค์ให้ก้าวเดินต่อไปภายใต้การบริหารของเธอ
“ชั่วโมงนี้ แม่ก็เห็นแค่คริสตัลคนเดียวที่เหมาะสมกับลูก” หวังเหม่ยฉีหันมากระซิบกระซาบกับลูกชายระหว่างที่ฟังคริสตัลพูดอยู่บนเวที “อย่าลืมเอาของขวัญที่แม่เตรียมมามอบให้เธอกับมือด้วยแล้วกัน”
แดนนี่หวังพยักหน้ารับแต่ตาของเขายังมองพิมพ์ชนกที่วันนี้เธอสวยบาดจิตถูกใจเขาเป็นที่สุด เสียแค่ว่าเอวคอดรับกับสะโพกผายของเธอถูกครอบครองโดยมือหนาของไอ้คังเจียลี่!! แดนนี่ส่งยิ้มพร้อมทั้งส่งสายตาชื่นชมให้หญิงสาวอย่างไม่ปิดบัง และยิ่งพอใจเป็นอย่างมากเมื่อเธอยิ้มหวานตอบทั้งที่อยู่ในอ้อมกอดของมัน!! การยั่วยวนทำให้มันไม่พอใจบ้างเล็กๆ น้อยๆ นั้นมันทำให้เขามีความสุขใจได้บ้าง
“แดนนี่!!? อย่าให้ฉันหมดความอดทนกับแกนะ” หวังเหม่ยฉีหันมาปรามลูกชาย เมื่อเธอมองตามสายตาไปแล้วพบว่า เขาไม่ได้ใส่ใจในสิ่งที่ตนเองพูด และยิ่งแทบจะกรีดร้องออกมาเมื่อคริสตัลซุนเอ่ยขอบคุณเป็นการใหญ่สำหรับผู้ที่สอนให้เธอรับมือกับงานกองโตได้ แสงไปสปอร์ตไลท์ส่องไปที่คังเจียลี่ เจ้าพ่อคอนสตรักชั่นแห่งยุค พร้อมกับเสียงปรบมือกระหึ่มขึ้น
คังเจียลี่ก้มศีรษะให้ทุกคนที่หันมามองเขาเป็นสายตาเดียวอย่างหนุ่มทรงเสน่ห์โดยที่มืออีกข้างยังไม่ปล่อยหญิงสาวข้างๆ แม้แต่น้อย
คริสตัลกล่าวจบแล้วเดินลงมาทักทายแขกเหรื่อด้านล่าง พร้อมเดินเข้ามาหากลุ่มของท่านผู้ว่าการฯ
“คริสตัลหลานอาวันนี้เด่นเป็นสง่าที่สุดเลย อาได้ยินเสียงตอบรับจากนักธุรกิจส่วนมากก็เป็นไปในทางที่ดีนะ เขายังว่าถ้าได้ซีอีโอหนุ่มอย่างคุณเดร็กเป็นเทรนเนอร์ให้แล้วล่ะก็รุ่งไปกว่าครึ่งแล้วล่ะ” คุณนายท่านผู้ว่าการฯ พูดขึ้นเมื่อหลานสาวเดินเข้ามาร่วมกลุ่มสนทนา
“ถ้าอย่างนั้นต้องยกเครดิตให้เทรนเนอร์ค่ะ โชคดีนะคะที่ฉันยังมีคุณอยู่” คริสตัลหันมาสบตาราวกับจะบอกความในใจของเธอให้คังเจียลี่ได้รับรู้
พิมพ์ชนกทำเป็นก้มหน้าและเสมองไปทางอื่นทันทีเมื่อเห็นสายตาที่ส่งมาแบบโล่งแจ้งเช่นนั้น
“วันนี้คุณแพมสวยมากแต่ดูเงียบๆ ไปนะคะ เบื่อรึเปล่าคะที่ต้องมาออกงาน มีแต่เรื่องธุรกิจน่าปวดหัวแบบนี้อยู่รอบตัว” คริสตัลหันไปถามพร้อมข่มความอิจฉาไว้ในใจ เธอต่างหากถึงจะคู่ควรอยู่ในอ้อมแขนของผู้ชายคนนี้!!
พิมพ์ชนกยิ้มสดใสให้ “ไม่หรอกค่ะ ยินดีกับคุณคริสตัลด้วยนะคะ” ตอบออกไปเท่านั้นเพราะไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดีไปกว่านี้แล้ว
“ขอบคุณค่ะ วันนี้ต้องขอยืมตัวเดร็กหน่อยนะคะ เพราะอยากให้เดร็กแนะนำคริสตัลให้รู้จักกับนักธุรกิจอีกหลายคนเลย คุณแพมไม่ว่าอะไรนะคะ??” คริสตัลได้ทีขออนุญาติด้วยน้ำเสียงที่เหมือนเป็นเพื่อนกันปกติ ทั้งที่ในใจนั้นไม่ใช่เลย
“อย่าพูดอย่างนั้นเลยค่ะ คุณคริสตัลกับเจียลี่รู้กันมาก่อนแพมซะอีก” พิมพ์ชนกบอก
“งั้นเราไปกันเถอะค่ะเดร็ก ฉันยังใหม่กับวงการนี้อยู่มากคุณคนเดียวที่จะช่วยได้” คริสตัลหันมาบอกพร้อมกับคล้องแขนของคังเจียลี่ทันที
คังเจียลี่หันมายิ้มให้แฟนสาว “ไปด้วยกันก็ได้นะที่รัก ผมกลัวแพมเหงา” ถ้อยคำที่บอกถึงความห่วงใยเอาใจใส่ทำให้ทั้งคริสตัลและคุณอาของเธอหุบยิ้มฉับทันที!
“ไปเถอะค่ะ แพมอยู่ได้ คุณอาหย่งเหอก็อยู่ด้วย” พิมพ์ชนกบอกพลางพยักหน้าย้ำความต้องการของตนเอง พร้อมกับดันแขนเขาให้เดินออกไปตามแรงรั้งของคริสตัลอีกแรง ท่านผู้ว่าการฯ และภรรยาจึงขอตัวไปทักทายแขกท่านอื่นบ้าง คังหย่งเหอจึงชวนพิมพ์ชนไปนั่งเก้าอี้ตรงมุมๆ หนึ่งของห้องบอลรูม
“วันนี้หนูแพมสวยจริงๆ เครื่องเพชรชุดนี้ไม่ได้ออกงานตั้งแต่เหม่ยเฟิ่งจากไป ตอนอาเห็นหนูแพมแว๊บแรกที่เดินเข้ามายังทำให้คิดถึงเหม่ยเฟิ่งขึ้นมา”
พิมพ์ชนกสีหน้าที่แสดงออกถึงความเศร้าใจออกมา ตอนนี้ตาของคังหย่งเหอยังจับจ้องอยู่ที่ลูกชายคนเดียวที่ไม่เคยมีสิทธิ์ในตัวเขาเลย “คุณอาอย่าคิดมากไปเลยนะคะ แพมว่าอีกไม่นานเมื่อเรารู้ว่าใครเป็นคนอยู่เบื้องหลังการตายของคุณลุงกับคุณป้าแล้ว เมื่อถึงวันนั้นเจียลี่เขาจะต้องรู้เรื่องนี้และยอมรับมันได้ในที่สุด เชื่อแพมนะคะ”
คังหย่งเหอหันกลับมายิ้มที่มุมปากให้สาวน้อย “แสดงว่าอาเล่อคงเล่าเรื่องทุกอย่างให้เจียลี่ได้รู้แล้วสินะ แต่แปลกจังทำไมอายังเห็นเจียลี่นิ่งเงียบอยู่เหมือนเดิม?”
“เปล่าหรอกคะ อาเล่อไม่ยอมพูดอะไรเลย!” หญิงสาวมองหน้าของคังหย่งเหอทำหน้าแปลกใจปนไม่อยากจะเชื่อ “จริงๆ นะคะคุณอา อาเล่อบอกว่าใครทำกรรมอะไรไว้ไม่นานก็ต้องรับผลกรรมนั้นวันยังค่ำ เหมือนกับเขารู้เรื่องดีแต่ไม่ยอมพูดออกมาเพราะต้องการปกป้องใครบางคนอยู่”
“เจี่ยลี่ไม่โมโหแย่เหรอ??” คังหย่งเหอถาม
“ไม่หรอกค่ะ แต่เห็นได้ชัดว่าเขาเครียดมากๆ แพมเดาว่าเจียลี่คงรู้ว่าอาเล่อคงไม่อยากกลายเป็นคนเนรคุณไม่ว่าจะต่อใครทั้งนั้น!” พิมพ์ชนกพูดไปพร้อมกับคิดไปด้วยกัน “คุณอาคิดเหมือนแพมไหมคะ ก็เหลือแต่คุณนายหวังคนเดียวเพราะคุณอาหย่งเหอคงไม่มีวันที่จะคิดร้ายกับคุณป้าเหม่ยเฟิ่งและเจียลี่ได้”
คังหย่งเหอหัวใจกระตุกวาบ เมื่อได้ยินสิ่งที่หญิงสาวตั้งข้อสันนิษฐาน “เอ่อ... จ๊ะ แต่เจียลี่คงไม่คิดเหมือนหนูแพมแน่?”
“ไม่เขายังไม่ทราบเรื่องสำคัญเหมือนหนูยังไงล่ะคะ”
“จริงของหนูแพม” คังหย่งเหอเลียบเคียงถามถึงอาเล่อต่ออย่างไม่แสดงความผิดปกติให้หญิงสาวได้เห็น “หวังว่าเจียลี่คงให้คนดูแลอาเล่อเป็นอย่างดีนะ ยังไงเขาก็เป็นคนเก่าแก่ที่จงรักภักดีกับเรา”
“อาเล่อคงอยู่ได้ไม่ลำบากอะไรหรอกค่ะ เซฟเฮ้าส์ก็เหมือนบ้านสองชั้นปกติอาเล่อไม่น่าอึดอัดอะไร มีห้องนอนส่วนตัวให้อยู่อย่างดีแถมยังมองเห็นวิวของเกาะมาเก๊าด้วย อาหารการกินก็มีคนดูแลให้” พิมพ์ชนกบอก
คังหย่งเหอพยักหน้ารับ สมองประมวลถึงสถานที่ที่พิมพ์ชนกพูดให้ฟังทันที “ได้ยินอย่างนี้อาก็สบายใจแล้ว”
พิมพ์ชนกนั่งสักพักจึงขอตัวไปเข้าห้องน้ำ โดยไม่รู้ว่าแดนนี่หวังรอโอกาสที่จะได้คุยกับเธอตามลำพังอยู่แล้ว ชายหนุ่มขอตัวจากกลุ่มสนทนาเดินออกมาด้านนอกตามหญิงสาวทันที
แดนนี่หวังกำลังจะยกมือเรียกพิมพ์ชนกแต่ไม่ทันเพราะเธอหายเข้าไปในห้องน้ำแล้ว ชายหนุ่มจึงรีบเข้าห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัวของตนบ้าง
“ไม่รู้จะขอบคุณคุณยังไงดี วันนี้ถ้าไม่ได้คุณการันตีกับเสือสิงห์พวกนั้นฉันคงแย่แน่คะเดร็ก” คริสตัลซุนบอกกับคังเจียลี่ เมื่อทั้งคู่ปลีกตัวออกมาจากวงสนทนาที่เหมือนลานประหารสำหรับคริสตัล หลายคำถามที่ออกจากปากนักลงทุน ผู้ถือหุ้นหลัก ถูกตอบคำถามอย่างชาญฉลาดโดยผู้ชายคนนี้
“ไม่เอาน่า... คุณพูดขอบคุณผมครั้งที่พันแล้ว ระหว่างเราต้องมีคำขอบคุณพวกนี้อีกหรือไงคริสตัล” เจ้าพ่อหนุ่มบอกน้ำเสียงหน่ายใจ หลังจากเปลี่ยนความสัมพันธ์จากคู่รักกับเธอเขาก็เห็นเธอเป็นเพื่อนคอยให้ความช่วยเหลือเธอตอนเรียนอยู่ที่อเมริกาเสมอเพราะเธอเป็นผู้หญิงตัวคนเดียว ทั้งยังรู้ดีว่าประธานซุนติงหมิงที่ล่วงลับไปให้ความช่วยเหลือ เค คอนสตรักชั่นไว้ เขาจึงคิดว่ามันไม่ได้หนักหนาอะไรหากตอนนี้ลูกสาวของประธานซุนต้องการความช่วยเหลือและเขาจะตอบแทนคืนบ้าง
คริสตัลยิ้มหวานให้ชายที่เธอเคยคิดว่าขาดเขาแล้วความรู้สึกก็คงเหมือนกับการเลิกลากับผู้ชายที่เคยผ่านมา เธอจึงไม่ได้แยแสกับมันเลย แต่เมื่อเวลาผ่านพ้นมา เธอประจักษ์แก่ใจตัวเองแล้วว่า คังเจียลี่บุรุษผู้เปี่ยมไปด้วยความสามารถรอบด้าน อารมณ์ขัน ความโรแมนติก พลังดึงดูดทางเพศเหลือล้น เป็นคนที่เธอตัดใจจากเขาไม่ได้เลย และมันยิ่งเหมือนใจจะขาดต้องแย่งชิงเขากลับคืนมาเมื่อเขาทำเหมือนกับว่าจะวางหัวใจไว้ในมือผู้หญิงคนนั้น
“คิดถึงวันที่ฉันบอกเลิกคุณนะคะ ตอนนั้นฉันอารมณ์ร้อนเอาแต่ใจตัวเอง แค่เห็นคุณจูบอยู่กับสาวอเมริกันทรงโตนั่น ฉันก็โวยวายขอเลิกกับคุณโดยไม่ฟังอะไรเลย” คริสตัลพูดพร้อมเงยหน้ารับลมที่เข้ามาประทะใบหน้าเหมือนสายลมเหล่านี้นำเอาเรื่องราวในอดีตให้ย้อนกลับมาคิดถึงได้
คังเจียลี่ลูบแผ่นหลังบางปลอบโยนรู้ว่าเธอคงว้าเหว่เพราะเพิ่งเสียบิดา “เฮ้!! คุณผู้หญิง คุณยังไม่มีผมหงอกสักเส้นทำไมชอบคิดถึงเรื่องเก่าๆ นักนะ แต่ความจริงตอนนั้นคุณเป็นผู้หญิงที่น่าโมโหมากที่สุด!”
คำพูดของเขาเรียกเสียงหัวเราะของทั้งคู่ออกมาเหมือนถ่านไฟเก่าที่กำลังจะลุกโชติช่วงขึ้นอีกครั้ง!! โดยที่ทั้งคู่ไม่มีทางรู้เลยว่าถัดไปมุมตึกที่เป็นทางเลี้ยวเข้าห้องน้ำนั้น แดนนี่หวังและพิมพ์ชนกกำลังฟังบทสทนานั้นอยู่
พิมพ์ชนกออกมาจากห้องน้ำก็พบว่า แดนนี่กำลังด้อมๆ อยู่ที่มุมตึก เขาหันมายกนิ้วชี้ขึ้นพร้อมทำท่าทางบอกให้เธอเงียบๆ และนั่นเองที่พิมพ์ชนกได้ยินบทสทนาของทั้งคู่ตั้งแต่เริ่มต้น!
คริสตัลสบสายตาของคังเจียลี่อยู่นาน “พ่อเคยบอกฉันว่า เราจะเห็นว่าของอยู่ในมือมีค่าก็ต่อเมื่อเราได้สูญเสียสิ่งนั้นไปแล้ว”
เจ้าพ่อหนุ่มรู้ว่าเธอกำลังจะพูดอะไรต่อไป ปากบึกบึนกำลังจะขยับห้ามแต่คริสตัลก็ไวกว่า!!!
“ฉันพูดอย่างไม่อายนะคะเดร็ก ฉันยังรักคุณอยู่ รักมาตลอด ฉันไม่อยากรับรู้ว่าคุณจะรักใครและไม่เอามาใส่ใจด้วยขอแค่คุณรับความเอาความรู้สึกของฉันเอาไว้ก็พอ ฉันยอมที่จะอยู่ในที่มืด ได้ไหมคะเดร็ก ฉันขอร้อง??!” เสียงของคริสตัลดังขึ้นเรื่อยตามอารมณ์ของเธอ ซึ่งพิมพ์ชนกและแดนนี่ได้ยินชัดเจนทุกถ้อยคำ!
“คุณดื่มมากไปรึเปล่าคริสตัล” ชายหนุ่มไม่อาจจะพูดอะไรไปได้มากกว่านี้เพราะกลัวว่าคริสตัลจะคุมอารมณ์ไม่อยู่และเธอดื่มแชมเปญฉลองไปหลายแก้วแล้วด้วย
“ไม่ค่ะ ฉันมีสติครบเต็มร้อย คุณรู้ไหมคะเดร็ก คนที่คุณควรถามไถ่ด้วยความรัก น้ำเสียงห่วงใย มือของคุณควรจะโอบเอวของฉัน ผู้หญิงคนนั้นควรเป็นฉัน คุณจะว่าอะไรไหมหากว่าฉันจะลงแข่ง?”
คังเจียลี่ขมวดคิ้วกับคำถามของเธอ “พอเถอะคริสตัล วันนี้เป็นวันเริ่มต้นของคุณ เรื่องอื่นเอาไว้ค่อยคุยกันทีหลังเถอะ”
“ไม่ค่ะเดร็ก คุณรู้บ้างไหมว่าฉันแทบบ้าตาย ทำไม่คุณไม่ให้โอกาสฉันบ้าง ฉันแฟร์แค่ไหนที่จะลงแข่งกับเด็กคนนั้นเพื่อพิสูจน์ให้คุณได้เห็นว่าฉันก็รักคุณไม่น้อยไปกว่าใครเหมือนกัน”
มันไม่ได้อยู่ที่ว่าคุณรักผมไหมหรอกนะคริสตัล แต่มันอยู่ที่ผมรักพิมพ์ชนกต่างหาก คังเจียลี่จะพูดในสิ่งที่คิดแต่เมื่อเห็นแววตาหม่นหมองระคนร้องขอความเห็นใจจึงไม่อยากทำร้ายจิตใจเธอด้วยคำพูดที่ตัดไมตรีแบบนั้น “ถ้าคุณยังอยากเจอหน้าผมอยู่ก็อย่าเพิ่งพูดเรื่องนี้เลยนะคริสตัล คุณไปล้างหน้าล้างตาหน่อยเถอะ ดึกมากแล้วผมจะกลับก่อนก็แล้วกัน”
“เดร็ก!! เดร็กอย่าเพิ่งไป!!” คริสตัลเรียกตามร่างสูงใหญ่ที่เดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองอีกเลย
แดนนี่หวังและพิมพ์ชนกเข้ามาหลบในประตูหนีไฟใกล้ๆ บริเวณนั้น และได้ยินเสียงฝีเท้าของคริสตัลที่เดินผ่านหน้าไป แดนนี่หวังมองหน้าที่สลดไปอย่างเห็นได้ชัดของพิมพ์ชนก รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก็ปรากฏขึ้นโดยที่หญิงสาวไม่มีทางได้เห็นเพราะสิ่งที่เพิ่งได้ยินมันกำลังดังขึ้นในหูซ้ำอีกครั้ง
“วันนี้ผมได้ยินคนพูดว่าแพมกับคุณเดร็กเป็นแฟนกัน ได้ยินแล้วก็อดเป็นห่วงไม่ได้น่ะครับ อย่างที่เราได้ยินกัน ไม่เพียงแค่คริสตัลเท่านั้น หลายคนก็เห็นว่าทั้งคู่เหมาะสมกัน แต่ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับคุณเดร็กคนเดียวเท่านั้นล่ะครับ”
“ฉันขอตัวนะคะ คงต้องกลับแล้ว” พิมพ์ชนกเข้าใจในสิ่งที่ชายหนุ่มกำลังจะพูดแต่ตอนนี้เธอไม่อยากจะฟังเรื่องนี้อีกแล้ว
“แพมครับผมไม่ปฏิเสธว่ารู้สึกดีๆ กับคุณนะแต่ผมก็ยอมรับการตัดสินใจของแพมและอยากบอกว่ายังรอคุณอยู่ที่เดิมเสมอ” แดนนี่หวังพูดเหมือนตัวเองเป็นผู้แพ้ที่ยิ่งใหญ่
“ขอบคุณค่ะ” พิมพ์ชนกบอกเท่านั้นและผลักประตูก้าวออกมา และก็ต้องมาเจอะกลับคริสตัลที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ คริสตัลมองคู่แข่งของตัวเองที่ออกมาจากหลังประตูทางหนีไฟก็เข้าใจได้ในทันทีว่าเธอต้องได้ยินสิ่งที่เธอและคังเจียลี่คุยกันแล้วเป็นแน่
“เดี๋ยวสิคะคุณแพม ขอคุยด้วยหน่อย” คริสตัลเรียกเมื่อหญิงสาวยิ้มให้น้อยๆ และทำท่าจะเดินจากไป
พิมพ์ชนกหันกลับมารอฟังในสิ่งที่คริสตัลอยากจะพูดกับตัวเอง
“ฉันแน่ใจว่าคุณได้ยินในสิ่งที่ฉันกับเดร็กคุยกันแล้ว และฉันยังยืนยันคำพูดเดิม เรามาแข่งกันแบบแฟร์ๆ ใครชนะได้เดร็กไป”
คริสตัลที่ไม่คิดจะปิดบังความรู้สึกของตัวเองอีกต่อไปแล้วกล่าวท้ากับพิมพ์ชนก
“ฉันไม่คิดว่าจะแข่งกับใครเพื่อแย่งผู้ชายหรอกนะคะ ฉันจะเดินออกไปจากชีวิตของเขาโดยไม่มีข้อแม้เลยถ้าหากว่าเขาหมดรักในตัวของฉัน และจะไม่ทำตัวดื้อด้านอ้อนวอนมอบความรู้สึกที่มีค่าของฉันให้กับคนที่ไม่เห็นค่าของมันเลย ถ้าคุณคิดจะแข่งฉันก็คงห้ามไม่ได้ แต่ถ้ารู้ผลแล้วฉันก็หวังว่าคุณจะเป็นนักกีฬาที่มีสปิริตเช่นกัน” พิมพ์ชนกโต้กลับอย่างไม่สะทกสะท้าน
คริสตัลเงยหน้าขึ้นหัวเราะเย้ยหยันคู่ต่อสู้ที่ไม่กริ่งเกรงต่อสารณ์ท้ารบของเธอ “เอาเถอะ ตอนนี้เธออาจจะพูดออกมาอย่างมั่นใจในความรู้สึกที่เดร็กมีให้เธอ แต่อย่าลืมนะ!! มันก็แค่ความรู้สึกที่มนุษย์เราเปลี่ยนได้ภายในชั่วพริบตา วันนี้รักมาก... พรุ่งนี้อาจจะไม่แม้แต่มองหน้าก็เป็นได้ และฉันรู้สึกได้ว่าตอนนี้ความมั่นใจของเธอมันไม่ได้เต็มร้อยเหมือนเดิมแล้ว อย่าร้องไห้เป็นเด็กขี้แยแล้วกันเมื่อถึงวันที่ต้องเดินออกไปจากชีวิตของเดร็กจริงๆ” คริสตัลพูดด้วยน้ำเสียงข่มขู่! และเริ่มสนุกกับเกมส์ขึ้นมาอย่างมากเมื่อคู่ต่อสู้ของเธอไม่อ่อนหัดอย่างที่คิด!!
“บอกตัวเองเถอะค่ะ ดูเหมือนว่าจะเป็นตัวคุณเองมากกว่าที่กำลังทำอย่างนั้นอยู่” พิมพ์ชนกบอกอย่างถือไพ่เหนือกว่าพร้อมหมุนตัวเดินออกมาจากการสนทนาที่อึดอัด ชวนให้โมโหนี่!!!
“เฮ้อ! ถ้ามีคนอื่นมาได้ยินคงไม่อยากจะเชื่อว่าประธานซุนฮ่องกงแบงค์คนใหม่ต้องมาแย่งผู้ชายกับผู้หญิงรุ่นน้องเกือบสิบปี” แดนนี่หวังที่ยืนฟังสองสาวคุยกันเมื่อสักครู่เดินออกมาจากมุมของตึก พร้อมยื่นมือรอคริสตัลไปสัมผัสอยู่
“สำหรับอะไรไม่ทราบ??!” หญิงสาวถามแปลกใจเป็นครั้งที่สอง การแปลกใจครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อสักพักใหญ่ที่ผ่านมาแดนนี่หวังเอาของขวัญมาแสดงความยินดีกับเธอและเริ่มบทสนทนาว่าเขารู้ว่าเธอต้องการคังเจียลี่ ส่วนเขาก็ต้องการพิมพ์ชนก เป็นการดีที่จะร่วมมือกันแยกคนทั้งคู่ออกจากกัน คริสตัลจึงชวนคังเจียลี่ออกมาด้านนอกเมื่อเห็นแดนนี่หวังส่งสัญญาณให้ และแดนนี่หวังก็เดินตามพิมพ์ชนกออกมาด้านนอกนั่นเอง
“สำหรับจุดมุ่งหมายเดียวกันของเรายังไงเล่า... คุณได้ผู้ชายที่ควรจะเป็นของคุณคืน ส่วนผมก็ได้ผู้หญิงที่ควรจะเป็นของผมคืน วินวินกันทั้งคู่” คำพูดและรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นที่ใบหน้าของหนุ่มตี๋ คริสตัลยิ้มตอบเห็นด้วยกับความคิดของแดนนี่หวัง ถ้าหากว่าเธอจะมีตัวช่วยคอยขัดแข้งขัดขาคู่ต่อสู้ให้เสียเปรียบบ้างมันก็ต้องดีอยู่แล้ว คิดได้ดังนั้นจึงยื่นมืออกไปสัมผัสกับชายหนุ่มเป็นการตอบรับข้อเสนอทันที!
“ไปไหนมาจ๊ะ? ผมเดินหาแพมซะทั่วแต่ไม่เจอ” คังเจียลี่ถามเมื่อเห็นแฟนสาวเดินเข้ามาในงาน หลังจากที่เขามองหาเธอจนทั่วแต่ไม่พบ
“ไปเข้าห้องน้ำค่ะ แล้วตามหาแพมทำไมคะ?” หญิงสาวถามหลังจากที่ยืนมองเขาอยู้ด้านนอกอยู่สักพักพร้อมปรับอารมณ์ลงแล้วจึงเดินเข้ามาหาเขา
“กลับกันเถอะดึกมาแล้ว ผมบอกคริสตัลแล้วด้วย เดี๋ยวเราเดินไปลาท่านผู้ว่าการฯ กับภรรยาก่อนนะจ๊ะ” คังเจียลี่บอกพร้อมโอบเอวคอดเดินเข้าไปลาผู้ใหญ่ทั้งสอง ก่อนจะขอตัวออกจากงานเลี้ยงในเวลาต่อมา
“แพมจะหลับก็ได้นะ เดี๋ยวผมอุ้มขึ้นไปส่งเอง” คังเจียลี่บอกหลังจากที่ขึ้นมานั่งบนรถแล้ว และต้องยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู เมื่อแฟนสาวทิ้งตัวพิงกับหน้าอกก้วางของตัวเองทันที มือหนาลูบแขนเรียวขึ้นลงเบาๆ เหมือนกล่อมให้หลับฝันดี
“อย่าเป็นห่วงแพมนักเลยค่ะ”
“ไม่ห่วงแพมได้ไงก็แพมเป็นแฟนผมนี่ เป็นอะไรรึเปล่า? เหงาหรือโกรธเหรอที่ผมไม่ค่อยได้คุยกับแพมอยู่ในงานเลี้ยงเหรอ? ขอโทษนะที่รัก”
“ขอโทษทำไมคะ แพมไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย แค่อยากบอกคุณว่าอย่าเอาใจแพมมาก อย่าแสดงออกว่ารักและห่วงใยแพมมาก เดี๋ยวแพมจะเหลิงไปกันใหญ่ ถ้าวันไหนที่คุณไม่รักแพมแล้วหรือรักแพมน้อยลง แพมต้องอาละวาดแน่!! ถ้าคุณทำให้แพมเคยตัวแบบนี้”
คังเจียลี่กระชับร่างสมส่วนให้แน่นขึ้นรู้สึกได้ถึงกระแสเสียงความสับสนในใจของเธอ พร้อมเชยคางมนขึ้นมาให้สบตากัน จ้องลึกลงไปในดวงตาสีน้ำตาลสดใสที่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นหมองหม่นอย่างไม่ทราบสาเหตุ!! “ทำไมพูดอย่างนั้น ความรักของผมมีให้แพมไม่มีวันหมดหรอกเด็กเจ้าปัญหา แพมจะเหลิงจะเอาแต่ใจตัวเองแค่ไหนผมก็รับมือได้ทั้งนั้นแหละ ไม่มีวันเปลี่ยนใจหรอกสวีตฮาร์ท”
“มีคนเคยบอกแพมว่าความรู้สึกมันเปลี่ยนกันได้ วันนี้อาจจะรักมาก พรุ่งนี้อาจจะไม่อยากแม้แต่จะมองหน้าก็เป็นได้” พิมพ์ชนกยกเอาประโยคที่คริสตัลพูดกับตัวเอง และก็รู้ว่ามันเป็นความจริงทีเดียวขึ้นมาถามเขา ในใจอยากถามตรงๆ ว่า ถ้าคริสตัลเข้ามาแทรกกลางระหว่างเราคุณจะหวั่นไหวไหมต่างหาก?!! แต่ก็ปากหนักไม่กล้าถามออกไปตรงๆ
“มันก็จริง แต่ผมยังนึกถึงความรู้สึกที่เบื่อแพมไม่ออกเลย แค่ผมไม่ได้เห็นหน้าแพมวันเดียวมันก็กระวนกระวายแล้ว ไม่ได้แกล้งพูดเพื่อเอาใจคุณนะแต่ผมเป็นอย่างนั้นจริงๆ” คังเจียลี่มองใบหน้าอ่อนเยาว์ เธอสวยน่ารัก วันๆ แสดงความรู้สึกออกมาร้อยแปดแล้วเขาจะเบื่อได้อย่างไร?? “อย่าคิดไปไกลนัก โบราณว่าทำบุญร่วมกันร้อยชาติถึงได้ร่วมเรียงเคียงหมอน แพมรู้ไหมว่าผมภาวนาให้ร้อยชาติที่ผ่านมาเราได้ทำบุญร่วมกัน ชาตินี้ผมจะได้ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ร่วมเรียงเคียงหมอนกับแพม หืม??”
พิมพ์ชนกแย้มยิ้มที่สวยและเปิดเผยที่สุดในชีวิตออกมา มือบางโน้มลำคอหนาลงมาหา แล้วจูบเบาๆ ที่คางคร้ามหนึ่งที ถูกใจกับคำพูดของเขาเหลือเกิน “แพมเพิ่งรู้ว่าคุณภาวนาอะไรแบบนั้น ต่อไปนี้แพมก็จะทำอย่างคุณบ้าง”
“สบายใจแล้ว ก็หลับซะแม่คนเจ้าปัญหา” คังเจียลี่บอก พร้อมกับตระกองกอดคนเจ้าปัญหาให้แน่นขึ้น เธอคงจะได้ยินใครพูดถึงคริสตัลและตัวเขาในงานว่าเหมาะสมกัน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับคนที่มีความสงสัยทุกเรื่องรอบกายจะเก็บเอามาคิดในขุ่นข้องหมองใจ เขารู้ดีว่าชื่อเสียงในการคบหาเพศตรงข้ามที่ผ่านมาของเขาทำให้เธอรู้สึกหนักใจได้บ้าง แต่มันก็เป็นการใช้ชีวิตวัยหนุ่มอย่างเต็มที่และไม่เคยได้ทำความเดือดร้อนให้กับใคร ผู้หญิงที่ผ่านเข้ามาทุกคนก็เต็มใจและรู้ถึงข้อตกลงในความสัมพันธ์นี้ดีทั้งนั้น แต่เมื่อเขาได้พบหน้าของแม่สาวในอ้อมกอดครั้งแรก! เขาก็ไม่อยากจะเชื่อว่าLove at first sight รักแรกพบจะเกิดขึ้นกับตัวเอง!!!
และเขาต้องการที่จะสะสางเรื่องส่วนตัวที่ยังเป็นปมค้างคาใจให้จบสิ้นไป เพื่อความปลอดภัยของครอบครัวที่กำลังจะสร้างขึ้น พิธีวิวาห์จะเป็นการกระทำที่ย้ำถึงคำพูดมากมายที่เขาได้พูดกับเธอให้เธอได้มั่นใจ ไร้ซึ่งความคลางแคลงใจอีก
พิมพ์ชนกนั่งนิ่งๆ กอดแขนที่เต็มไปด้วยกล้ามมัดของคนที่กอดเธออยู่อีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ต่างคนต่างเงียบเพราะเขาคงคิดว่าเธอหลับไปแล้ว
คำพูดเมื่อครู่ทำให้หัวใจอันห่อเหี่ยวกลับขึ้นมาชุ่มชื่นอีกครั้ง ราวกับสายฝนที่โปรยลงมาชุบชีวิตให้ต้นไม้ที่กำลังเหี่ยวเฉา สิ่งที่ต้องใช้แข่งขันกับคริสตัลคือความเข้มแข็งของหัวใจ ความหนักแน่น ความมั่นคงของใจตัวเองต่างหาก เพราะเธอได้หัวใจของผู้ชายคนนี้ไว้ในมือแล้ว สิ่งที่ต้องทำคือเก็บรักษาเอาไว้ให้ดีเท่านั้นเอง คำพูดของคังเจียลี่ในวันเปิดตัวเค ไพรเวทฯ ก็ทำให้เธอได้คิดอีก ผมจะไม่มีวันปล่อยมือจากคุณ ตราบใดที่คุณยังกุมมือผมไว้อยู่
ฉันจะทำอย่างนั้นค่ะเจียลี่... ฉันจะทำและต่อสู้เพื่อเราหากคุณยังรักฉัน แต่ฉันจะปล่อยมือจากคุณโดยไม่ร้องขอความเห็นใจถ้าเพียงแค่คุณมีใจให้กับผู้หญิงคนอื่น พิมพ์ชนกคิดในใจ และทันทีที่รถเคลื่อนตัวเข้ามาจอดหน้าคฤหาสน์สกุลโจว หญิงสาวก็ดันตัวเองออกจากอ้อมกอดอันอบอุ่น จูบราตรีสวัสดิ์ก่อนที่จะจากกันในวันนี้และพบกันใหม่ในวันรุ่งขึ้น
รุ่งเช้ารถคันหรูของประธานเค ไพรเวทฯ แวะรับแฟนสาวของเขามาทำงานด้วยกันเป็นประจำอย่างนี้มาเกือบสองเดือนแล้ว พอถึงชั้นแรกของสำนักงานใหญ่พิมพ์ชนกก็จะปรี่เข้าไปซื้อกาแฟร้านประจำที่เธอชอบนักหนาทันที เขาเคยบอกกับเธอว่าจะยกเอาร้านกาแฟชื่อดังนี้ขึ้นไปไว้ชั้นบนสุด เธอจะได้ไม่ต้องเดินลงมาชั้นล่างอีก แต่กลับได้รับคำตอบว่า ‘มันไม่อร่อยหรอกค่ะถ้าทำแบบนั้น มันต้องเข้าแถวรอแล้วสูดกลิ่นกาแฟเข้าไประหว่างรอ มองดูคนที่อยู่หัวแถวได้ดูดกาแฟเข้าไปเพื่อยั่วน้ำลายเรา กาแฟของเราถึงจะอร่อย’
คำพูดที่ทำให้เขายิ้มกับวิธีคิดที่ไม่เหมือนใครของเธอ และนับวันเขาเริ่มจะคิดเหมือนเธอแล้วเพราะก่อนที่จะขึ้นไปชั้นบนสุดต้องมานั่งมองเธอเข้าคิวรอซื้อกาแฟด้วยกัน
ก๊อก... ก๊อก... เก้านาฬิกาตรงของวัน เจฟลูกน้องมือขวาหน้าตื่นเข้ามาเมื่อได้ยินเสียงเจ้านายอนุญาติ...
“คุณเดร็กครับ คนของเราโทรมารายงานว่าอาเล่อหายตัวไปครับ!!!” เจฟรายงานเจ้านายพร้อมกับก้มหน้างุด หลบสายตากร้าวของเจ้านายทันที!
“อะไรนะ!!?? คนทั้งคนจะหายไปได้ยังไง ห๊า??” เสียงห้าวตวาดจนสั่นสะเทือนห้อง
“เอ่อ... เมื่อชั่วโมงที่ผ่านมา ยามที่เฝ้าอยู่หน้าประตูรั้วเห็นว่าสายมากแล้วแต่คนในบ้านยังไม่มีใครออกมาเปิดประตูเหมือนทุกวัน เลยไขประตูเข้ามาดู ปรากฏว่าบอดี้การ์ดที่อยู่ในบ้านทั้งห้าคนหลับสนิททุกคนครับ พอทุกคนได้สติขึ้นมาก็พบว่าอาเล่อหายตัวไปแล้วครับ”
คังเจียลี่หลับตาลงอย่างข่มอารมณ์ มือหนาตบปัง!! ลงที่โต๊ะทำงานจนเจฟและพิมพ์ชนกสะดุ้ง เป็นครั้งแรกที่หญิงสาวได้เห็นอารมณ์โกรธของเขาตั้งแต่รู้จักกันมา บอกได้เลยว่ามันน่ากลัวราวกับพายุไต้ฝุ่น แววตาขี้เล่นเหลือเพียงความแข็งกร้าว ขุ่นมัว
“ทำงานกันยังไง?? ถึงได้ปล่อยให้คนทั้งคนหายไปแบบนี้ มันน่าจับไปยิงทิ้งให้หมดไหม??” เสียงห้าวกร้าวกระหึ่มทั่วห้อง
“ตอนนี้พวกเขาออกตามหาตัวอาเล่อแล้วครับ” เจฟรายงานเจ้านาย
“กล้องวงจรปิดที่ติดไว้ล่ะไปเอามาดูรึยัง? แล้วในบ้านพวกมันไม่ทิ้งเบาะแสอะไรไว้บ้างหรือยังไง??” คังเจียลี่ยังตะคอกถามเสียงดัง!!
“ประตูด้านหลังถูกงัดเข้ามาครับ ผมว่าน่าจะเป็นคนในที่รู้ทางหนีทีไล่เป็นอย่างดี เพราะคนของเราบอกว่าก่อนที่จะไม่รู้สึกตัว ไฟฟ้าดับอยู่ประมาณสองนาที พอจะเดินไปดูแผงวงจรไฟ ไฟก็สว่างขึ้นมาเอง ผมคิดว่าน่าจะเป็นตอนนี้ที่พวกมันแอบตัดสัณญาณเตือนภัย แล้วรมยาสลบทั่วบ้านครับ” เจฟรายงาน
“ระดมกำลังออกตามหาฉันต้องได้ตัวอาเล่อกลับมาภายในยี่สิบสี่ชั่วโมง ไปเอาเทปที่อัดได้จากกล้องวงจรปิดมาเปิดให้ฉันดูด้วย”
เจฟรับคำพร้อมกำลังจะก้าวออกจากห้อง เสียงเจ้านายของเขาก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“เดี๋ยว!! ฉันจะไปตรวจที่เซฟเฮ้าส์เอง” คังเจียลี่ลุกขึ้นใส่เสื้อสูทพร้อมมองแฟนสาวที่เดินเข้ามาหา เมื่อเจฟออกไปด้านนอกแล้ว
“แพมรอผมอยู่ที่นี่นะ ผมต้องไปจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง เพราะถ้าเราช้าอาเล่ออาจจะไม่มีชีวิตอยู่บนโลกนี้ก็เป็นได้
“คุณคิดว่าใครที่มาลักพาตัวอาเล่อไปคะ?” พิมพ์ชนกถามด้วยความกังวล
“ยังตอบไม่ได้ แต่หาไม่ยากหรอก คนที่ต้องการตัวอาเล่อเหมือนกับรู้แน่ว่าผมได้ตัวอาเล่อไว้แล้วแต่ไม่มีทางรู้หรอกว่าผมซ่อนอาเล่อไว้ที่ไหน คนที่รู้ที่อยู่ของอาเล่อมีไม่กี่คนเท่านั้น ไม่แน่ว่าเกลืออาจจะเป็นหนอนก็ได้”คังเจียลี่บอกพร้อมกับเอื้อมมือใหญ่เลื่อนมาสอดไล้เข้าที่แก้มเนียน
“ระวังตัวนะคะ แพมเป็นห่วง”
“จ้ะ ผมจะกลับมารับแพมกลับบ้านเองนะที่รัก” เขาพูดพร้อมกดจูบที่หน้าผากเนียนหนักๆ แล้วเดินออกไปอย่างรีบร้อน
คำพูดของเขาเมื่อครู่ทำให้พิมพ์ชนกได้คิด คนที่รู้ว่าอาเล่ออยู่ที่ไหนมีไม่กี่คน มีเขา เธอ เจฟ และบอดี้การ์ดอีกไม่กี่คนในเซฟเฮ้าส์ คงเป็นไปไม่ได้ว่าเขาจะเผลอหลุดปากเล่าให้ใครฟัง โอ๊ะ!!! คุณพระช่วย!!! เธอเองต่างหากที่เป็นคนหลุดปากเล่าเรื่องนี้ให้คังหย่งเหอฟัง! แต่ไม่ได้บอกนี่ว่าอาเล่ออยู่ที่ไหน แล้วคังหย่งเหอก็ไม่มีวันทำร้ายลูกแท้ๆ ของตัวเองแน่ๆ ความคิดสับสนในสมองวิ่งวุ่นชนกันไปหมด เพราะมันเท่ากับความเป็นความตายของชีวิตชีวิตหนึ่ง! ไวเท่าความคิดหญิงสาวก้าวฉับๆ ออกจากห้องทำงานตรงรี่ไปหาคนที่เธอสงสัยเป็นอันดับหนึ่งทันที!!
พิมพ์ชนกเปิดประตูเข้าไปในห้องทำงานของคังหย่งเหอทันทีเมื่อได้รับอนุญาต หญิงสาวมองคนที่นั่งทำงานอยู่บนโต๊ะทำงานและเงยหน้าขึ้นมาทักทายเธอตามปกติอย่างจับพิรุธ
“คุณอาทราบรึยังคะว่าอาเล่อหายตัวไป” พิมพ์ชนกถามทันที
“หนูแพมว่าอะไรนะ?? หายไปได้ยังไง?” คังหย่งเหอวางปากกาในมือลง ถามน้ำเสียงตกใจ!
“ค่ะ หายไปจริงๆ นี่เจียลี่ก็ออกไปตามหาด้วยตัวเอง เขาบอกว่าหาได้ไม่ยากเพราะมีไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้ หนึ่งในนั้นคือแพมและแพมเองเป็นคนเล่าเรื่องของอาเล่อให้คุณอาฟัง”
คังหย่งเหอขมวดคิ้วมองหน้าหญิงสาวเหมือนรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ “หนูแพมพูดแบบนี้คงไม่คิดว่าอาเป็นคนขโมยตัวอาเล่อไปหรอกนะ??”
พิมพ์ชนกยกมือไหว้ขอโทษคังหย่งเหอ “แพมขอโทษคุณอาค่ะ แต่พูดตามตรงแพมคิดอย่างนั้นจริงๆ และอยากถามคุณอาว่าคุณอาทำรึเปล่า??”
“อายอมรับว่าเคยให้คนออกตามหาตัวอาเล่อนั่นก็เพราะอยากรู้ในสิ่งเดียวกันกับเจียลี่เหมือนกัน แต่เมื่อเจียลี่ได้ตัวอาเล่อไว้แล้วอาจะทำอย่างนั้นอีกทำไม? อาไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่าเจียลี่เอาอาเล่อไปไว้ที่ไหน หนูแพมเองก็ไม่เคยเล่าให้อาฟังว่าอาเล่ออยู่ที่ไหน??” คังหย่งเหอไม่เข้าใจว่าอยู่ๆ ทำไมหญิงสาวถึงนึกสงสัยในตัวของเขาขึ้นมาได้
“แพมไม่รู้หรอกค่ะ แต่เพราะสงสัยเลยมาถามคุณอาเอาตรงๆ เพราะไม่คิดว่าเจียลี่จะหลุดปากเล่าเรื่องที่อยู่ของอาเล่อให้ใครฟัง แต่แพมเล่าให้คุณอาฟังคนเดียว” พิมพ์ชนกบอกตรงๆ เพราะหลังจากที่รู้ถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่แล้ว ก็เห็นว่าคนเป็นพ่อควรรู้ว่าลูกชายของตนกำลังทำอะไรอยู่เพื่อจะได้ช่วยเหลือในยามที่เขาเพรี่ยงพร้ำ
“อาบอกหนูแพมให้สบายใจตรงนี้ได้เลยว่าอาไม่เคยคิดร้ายกับเจียลี่ มีความปราถนาดีกับเขาพอๆ กับหนูแพมนั่นแหละ” คังหย่งเหอพูดด้วยน้ำเสียงตำหนิออกมาบ้าง
“แพมขอโทษอีกครั้งค่ะ แต่แพมอดสงสัยไม่ได้จริงๆ แล้วก็ร้อนใจกลัวว่าอาเล่อจะเป็นอะไรไป”
“ช่างเถอะ ยังไงเราสองคนก็หวังดีกับเจียลี่ทั้งคู่” คังหย่งเหอลอบถอนหายใจ เมื่อหญิงสาวหมดข้อสงสัยในตัวเองลงได้บ้าง
“หรือว่าอาจจะเป็นคนใกล้ตัวของเจียลี่ บอดี้การ์ดที่คุ้มกันที่นั่นคนหนึ่งคนใดรึเปล่าที่ถูกส่งเข้ามาล้วงเอาความลับ ก็อาจเป็นได้เหมือนกันนะ!”
“ไม่รู้สิคะ แต่ตอนนี้ลางสังหรณ์ของแพมมันบอกว่าอาเล่ออยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัยนัก ทั้งที่คุณอายืนยันแล้วแต่ใจของแพมมันหดหู่จนบอกไม่ถูกเลยค่ะ” หญิงสาวบอกความรู้สึกร้อนรุ่มในใจของตัวเองออกมา
“หนูแพมอย่าเพิ่งกังวลใจไปก่อนเลย เอาไว้ฟังข่าวจากเจียลี่ก่อนแล้วค่อยคิดหาหนทางแก้ไขก็ได้ คนดีตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้หรอกนะ” คังหย่งเหอบอกเมื่อเห็นพิมพ์ชนกทำหน้าหนักใจ “อาฝากดูแลเจียลี่ด้วยนะ เย็นนี้อาต้องไปเซ็นสัญญาที่ดูไบซะด้วย เกิดเรื่องแบบนี้แล้วอาอดเป็นห่วงเจียลี่ไม่ได้”
และคำพูดนี้! มันทำให้พิมพ์ชนกยอมเดินกลับออกมาจากห้องทำงานของเขาได้ในเวลาต่อมา
...ฉันขอโทษเธอด้วยแล้วกันนะพิมพ์ชนก ที่ต้องใช้เธอเป็นเครื่องมือ! ความผิดพลาดมหันต์ในครั้งก่อนที่ได้ทำลงไป เป็นสิ่งที่ไม่สามารถจะย้อนกลับไปแก้ไขได้ การปัดกวาดเศษฝุ่นแห่งความลับอันชั่วร้ายออกไปเป็นทางเดียวที่จะทำให้ลูกยอมรับพ่อได้อย่างสนิทใจ และยังเป็นความหวังที่อยากจะได้ยินลูกชายเรียกตัวเองว่าพ่อออกจากปากของเขาสักครั้งด้วยความเต็มใจเท่านั้นเอง!!!
พิมพ์ชนกเดินกลับมานั่งลงรอฟังข่าวด้วยหัวใจอันห่อเหี่ยว ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงรู้สึกได้ว่าคังหย่งเหอยังปิดบังเรื่องที่เป็นพ่อบังเกิดเกล้าของคังเจียลี่งอยู่! ความรู้สึกที่สัมผัสได้มันไม่ได้เชื่อใจ ไว้ใจเต็มร้อยเหมือนตอนที่ได้รู้ว่าเขาและคังเจียลี่แท้จริงมีความสัมพันธ์เป็นพ่อลูกกัน รู้สึกเหมือนว่าคังหย่งเหอปกปิดอะไรบางอย่างอยู่แต่ก็คิดไม่ออกและมันไม่มีเหตุผลอันใดที่คังหย่งเหอจะคิดร้ายต่อลูกของตน หญิงสาวนั่งทำงานไปอย่างไม่มีสมาธิตลอดเวลาที่เหลือในช่วงเช้า และสั่งอาหารขึ้นมาที่ห้องในตอนพักกลางวัน ในใจภาวนาขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองให้ได้ตัวอาเล่อกลับมาอย่างปลอดภัย
สวัสดีค่ะ
ศิริพาราลงเมียบำเรอเจ้าพ่อให้อ่านครบแล้วนะคะ นักอ่านที่รักสามารถพาเจียลี่ – น้องแพม ไปครอบครองได้ที่ร้านซีเอ็ดบุ๊ก ร้านนายอินทร์ ร้านบีทูเอส เว็บสำนักพิมพ์อินเลิฟ เว็บบุ๊กสไมล์ และสามารถพูดคุยกับศิริพาราได้ตามช่องทางดังนี้
1. e-mail siripara2writer@gmail.com
2. fanpage https://www.facebook.com/siripara.raya
3.facebook https://www.facebook.com/siripara.looktan
ติชมหรือแสดงความคิดเห็นได้ตามสบายค่า เม้ามอยหอยขมกันได้ไม่เฉพาะเรื่องนิยาย ศิริพารายังมีเกมกติกาแสนง่ายดาย แจกของรางวัลเล็กน้อยเพื่อตอบแทนนักอ่านที่รัก อย่าลืมกดlikefanpage ศิริพารา รายาฤดีนะคะ
จบเรื่องนี้แล้ว ศิริพาราจะเอานิยายทั้งหมดมาอัพให้นักอ่านที่รักได้อ่านกันทุกเรื่อง ขอบคุณที่ติดตามและแสดงความคิดเห็นค่ะ
จุ๊บๆๆ
ศิริพารา
“ซบหน้าลงที่อกผม แล้วฉีกยิ้มหวานๆ ให้กล้อง” ริมฝีปากบึกบึนพูดชัดแต่กลับไม่ขยับริมฝีปากเลยแม้แต่น้อย
พิมพ์ชนกแหนหน้าขึ้นมอง เฮอะ! เขานี่มันเหลือเชื่อเลยจริงๆ “ฝันไปเถอะ!” ปากอิ่มออกเสียงแต่ไม่ขยับริมฝีปากเลียนแบบบ้าง ทำเอาเจ้าพ่อหนุ่มหัวเราะร่วนถูกใจบ้าง เธอมันยัยเด็กรู้มาก รู้ทันเขาไปทุกเรื่องจริงๆ
ข่าวคราวที่ว่ามีสาวน้อยร่างอรชรกุมหัวใจของเจ้าพ่อคอนสตรักชั่น ผู้ชายโสดเนื้อหอมอันดับหนึ่งของฮ่องกงถูกยืนยันด้วยภาพที่เขาโอบเอวอ้อนแอ้นของหญิงสาวชาวไทยไว้อย่างเปิดเผย แสดงความเป็นเจ้าของทำให้สาวๆ ค่อนเอเชียต้องอกหักไปตามๆ กันแน่ นักข่าวระรัวชัตเตอร์ตักตวงเอาภาพที่เห็นได้ไม่บ่อยนักเต็มสปีด ไม่นานทั้งคู่ก็เดินตามพรมแดงเข้าไปด้านในที่มีแขกเหรื่อวีไอพีจำนวนนับร้อยเต็มห้องบอลรูม หลายคนให้ความสนใจคู่ควงของเจ้าพ่อคอนสตรักชั่น มีเสียงซุบซิบพูดถึงประวัติของเธออย่างกว้างขวาง บางคนเมื่อได้รู้แล้วก็ยิ้มให้หญิงสาวอย่างผูกมิตรเพราะเธอมีดีกรีเป็นถึงน้องสาวของมาดามโจว เจ้าของกาสิโนและโรงแรมหรูเกือบทั่วเอเชียในเครือสตาร์คิงส์นั่นเอง
คังหย่งเหอ ท่านผู้ว่าการเกาะฮ่องกงและภริยากำลังสนทนากันอย่างออกรส ทั้งหมดหันมามองเมื่อทั้งคู่เดินใกล้เข้ามา
“สวัสดีครับท่าน มาดาม” คังเจียลี่ทักทายทั้งคู่อย่างสุภาพและแนะนำหญิงสาวข้างกายให้รู้จักทั้งคู่พร้อมกัน พิมพ์ชนกเอ่ยทักทายและยิ้มให้ทั้งคู่เช่นกัน
“โอ... นี่คงเป็นน้องสาวของมาดามโจวใช่ไหมคะ?” ภริยาท่านผู้ว่าการเขตปกครองพิเศษฮ่องกงถามพร้อมทั้งมองเครื่องเพชรชุดใหญ่ของตระกูลคังที่เคยเห็นคังเหม่ยเฟิ่งสวมใส่ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ บัดนี้ลูกชายเอาออกมาให้หญิงสาวได้สวม จึงเดาได้ไม่ยากว่าคงเป็นตัวจริงของคังเจียลี่ คริสตัลหลานสาวของตัวเองคงต้องได้เสียใจอีกเป็นแน่
“ครับ เธอชื่อพิมพ์ชนกครับ” คังเจียลี่ตอบ
“แหม... ฮ่องกงเรามิขาดดุลแย่เหรอคะ!? มีสะใภ้คนไทยสองคน สองตระกูลใหญ่เชียว” มุขตลกของภริยาท่านผู้ว่าการฯ ต้องเป็นหมันเพราะน้ำเสียงที่เธอใช้ดูประชดประชันมากกว่าหยอกเย้า จึงไม่มีใครตลกด้วยเดือดร้อนคนเป็นสามีต้องแก้ต่างให้เป็นพัลวันเพราะทั้งสกุลคังและสกุลโจวเป็นสองตระกูลใหญ่ที่ต่างก็ให้เงินสนับสนุนเกือบทุกโครงการของทางการก็ว่าได้ ความเกรงอกเกรงใจจึงมากตามไปด้วย
“เราต่างหากที่ได้กำไรเพราะทั้งคู่แต่งเข้ามาอยู่ในฮ่องกง ไม่ได้แต่งออกไปอยู่ที่เมืองไทยสักหน่อยจริงไหมคุณหย่งเหอ?” ท่านผู้ว่าฯ หันมาถามคังหย่งเหอ
“ครับท่าน หนูแพมต่างหากต้องปวดหัวไม่เว้นแต่ละวันเพราะหลานชายของผมคนนี้ช่างเอาแต่ใจตัวเองครับคุณนาย”
วงสนทนาเริ่มผ่อนคลายความตึงเครียดลง เมื่อพิธีกรในงานเดินออกมากล่าวต้อนรับแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงานในวันนี้ พร้อมกับการปรากฏตัวของประธานซุนแบงค์คนใหม่บนเวที คริสตัลซุนในชุดราตรีสีแดงเพลิงเดินออกมากล่าวคำมั่นในการนำพาซุนฮ่องกงแบงค์ให้ก้าวเดินต่อไปภายใต้การบริหารของเธอ
“ชั่วโมงนี้ แม่ก็เห็นแค่คริสตัลคนเดียวที่เหมาะสมกับลูก” หวังเหม่ยฉีหันมากระซิบกระซาบกับลูกชายระหว่างที่ฟังคริสตัลพูดอยู่บนเวที “อย่าลืมเอาของขวัญที่แม่เตรียมมามอบให้เธอกับมือด้วยแล้วกัน”
แดนนี่หวังพยักหน้ารับแต่ตาของเขายังมองพิมพ์ชนกที่วันนี้เธอสวยบาดจิตถูกใจเขาเป็นที่สุด เสียแค่ว่าเอวคอดรับกับสะโพกผายของเธอถูกครอบครองโดยมือหนาของไอ้คังเจียลี่!! แดนนี่ส่งยิ้มพร้อมทั้งส่งสายตาชื่นชมให้หญิงสาวอย่างไม่ปิดบัง และยิ่งพอใจเป็นอย่างมากเมื่อเธอยิ้มหวานตอบทั้งที่อยู่ในอ้อมกอดของมัน!! การยั่วยวนทำให้มันไม่พอใจบ้างเล็กๆ น้อยๆ นั้นมันทำให้เขามีความสุขใจได้บ้าง
“แดนนี่!!? อย่าให้ฉันหมดความอดทนกับแกนะ” หวังเหม่ยฉีหันมาปรามลูกชาย เมื่อเธอมองตามสายตาไปแล้วพบว่า เขาไม่ได้ใส่ใจในสิ่งที่ตนเองพูด และยิ่งแทบจะกรีดร้องออกมาเมื่อคริสตัลซุนเอ่ยขอบคุณเป็นการใหญ่สำหรับผู้ที่สอนให้เธอรับมือกับงานกองโตได้ แสงไปสปอร์ตไลท์ส่องไปที่คังเจียลี่ เจ้าพ่อคอนสตรักชั่นแห่งยุค พร้อมกับเสียงปรบมือกระหึ่มขึ้น
คังเจียลี่ก้มศีรษะให้ทุกคนที่หันมามองเขาเป็นสายตาเดียวอย่างหนุ่มทรงเสน่ห์โดยที่มืออีกข้างยังไม่ปล่อยหญิงสาวข้างๆ แม้แต่น้อย
คริสตัลกล่าวจบแล้วเดินลงมาทักทายแขกเหรื่อด้านล่าง พร้อมเดินเข้ามาหากลุ่มของท่านผู้ว่าการฯ
“คริสตัลหลานอาวันนี้เด่นเป็นสง่าที่สุดเลย อาได้ยินเสียงตอบรับจากนักธุรกิจส่วนมากก็เป็นไปในทางที่ดีนะ เขายังว่าถ้าได้ซีอีโอหนุ่มอย่างคุณเดร็กเป็นเทรนเนอร์ให้แล้วล่ะก็รุ่งไปกว่าครึ่งแล้วล่ะ” คุณนายท่านผู้ว่าการฯ พูดขึ้นเมื่อหลานสาวเดินเข้ามาร่วมกลุ่มสนทนา
“ถ้าอย่างนั้นต้องยกเครดิตให้เทรนเนอร์ค่ะ โชคดีนะคะที่ฉันยังมีคุณอยู่” คริสตัลหันมาสบตาราวกับจะบอกความในใจของเธอให้คังเจียลี่ได้รับรู้
พิมพ์ชนกทำเป็นก้มหน้าและเสมองไปทางอื่นทันทีเมื่อเห็นสายตาที่ส่งมาแบบโล่งแจ้งเช่นนั้น
“วันนี้คุณแพมสวยมากแต่ดูเงียบๆ ไปนะคะ เบื่อรึเปล่าคะที่ต้องมาออกงาน มีแต่เรื่องธุรกิจน่าปวดหัวแบบนี้อยู่รอบตัว” คริสตัลหันไปถามพร้อมข่มความอิจฉาไว้ในใจ เธอต่างหากถึงจะคู่ควรอยู่ในอ้อมแขนของผู้ชายคนนี้!!
พิมพ์ชนกยิ้มสดใสให้ “ไม่หรอกค่ะ ยินดีกับคุณคริสตัลด้วยนะคะ” ตอบออกไปเท่านั้นเพราะไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดีไปกว่านี้แล้ว
“ขอบคุณค่ะ วันนี้ต้องขอยืมตัวเดร็กหน่อยนะคะ เพราะอยากให้เดร็กแนะนำคริสตัลให้รู้จักกับนักธุรกิจอีกหลายคนเลย คุณแพมไม่ว่าอะไรนะคะ??” คริสตัลได้ทีขออนุญาติด้วยน้ำเสียงที่เหมือนเป็นเพื่อนกันปกติ ทั้งที่ในใจนั้นไม่ใช่เลย
“อย่าพูดอย่างนั้นเลยค่ะ คุณคริสตัลกับเจียลี่รู้กันมาก่อนแพมซะอีก” พิมพ์ชนกบอก
“งั้นเราไปกันเถอะค่ะเดร็ก ฉันยังใหม่กับวงการนี้อยู่มากคุณคนเดียวที่จะช่วยได้” คริสตัลหันมาบอกพร้อมกับคล้องแขนของคังเจียลี่ทันที
คังเจียลี่หันมายิ้มให้แฟนสาว “ไปด้วยกันก็ได้นะที่รัก ผมกลัวแพมเหงา” ถ้อยคำที่บอกถึงความห่วงใยเอาใจใส่ทำให้ทั้งคริสตัลและคุณอาของเธอหุบยิ้มฉับทันที!
“ไปเถอะค่ะ แพมอยู่ได้ คุณอาหย่งเหอก็อยู่ด้วย” พิมพ์ชนกบอกพลางพยักหน้าย้ำความต้องการของตนเอง พร้อมกับดันแขนเขาให้เดินออกไปตามแรงรั้งของคริสตัลอีกแรง ท่านผู้ว่าการฯ และภรรยาจึงขอตัวไปทักทายแขกท่านอื่นบ้าง คังหย่งเหอจึงชวนพิมพ์ชนไปนั่งเก้าอี้ตรงมุมๆ หนึ่งของห้องบอลรูม
“วันนี้หนูแพมสวยจริงๆ เครื่องเพชรชุดนี้ไม่ได้ออกงานตั้งแต่เหม่ยเฟิ่งจากไป ตอนอาเห็นหนูแพมแว๊บแรกที่เดินเข้ามายังทำให้คิดถึงเหม่ยเฟิ่งขึ้นมา”
พิมพ์ชนกสีหน้าที่แสดงออกถึงความเศร้าใจออกมา ตอนนี้ตาของคังหย่งเหอยังจับจ้องอยู่ที่ลูกชายคนเดียวที่ไม่เคยมีสิทธิ์ในตัวเขาเลย “คุณอาอย่าคิดมากไปเลยนะคะ แพมว่าอีกไม่นานเมื่อเรารู้ว่าใครเป็นคนอยู่เบื้องหลังการตายของคุณลุงกับคุณป้าแล้ว เมื่อถึงวันนั้นเจียลี่เขาจะต้องรู้เรื่องนี้และยอมรับมันได้ในที่สุด เชื่อแพมนะคะ”
คังหย่งเหอหันกลับมายิ้มที่มุมปากให้สาวน้อย “แสดงว่าอาเล่อคงเล่าเรื่องทุกอย่างให้เจียลี่ได้รู้แล้วสินะ แต่แปลกจังทำไมอายังเห็นเจียลี่นิ่งเงียบอยู่เหมือนเดิม?”
“เปล่าหรอกคะ อาเล่อไม่ยอมพูดอะไรเลย!” หญิงสาวมองหน้าของคังหย่งเหอทำหน้าแปลกใจปนไม่อยากจะเชื่อ “จริงๆ นะคะคุณอา อาเล่อบอกว่าใครทำกรรมอะไรไว้ไม่นานก็ต้องรับผลกรรมนั้นวันยังค่ำ เหมือนกับเขารู้เรื่องดีแต่ไม่ยอมพูดออกมาเพราะต้องการปกป้องใครบางคนอยู่”
“เจี่ยลี่ไม่โมโหแย่เหรอ??” คังหย่งเหอถาม
“ไม่หรอกค่ะ แต่เห็นได้ชัดว่าเขาเครียดมากๆ แพมเดาว่าเจียลี่คงรู้ว่าอาเล่อคงไม่อยากกลายเป็นคนเนรคุณไม่ว่าจะต่อใครทั้งนั้น!” พิมพ์ชนกพูดไปพร้อมกับคิดไปด้วยกัน “คุณอาคิดเหมือนแพมไหมคะ ก็เหลือแต่คุณนายหวังคนเดียวเพราะคุณอาหย่งเหอคงไม่มีวันที่จะคิดร้ายกับคุณป้าเหม่ยเฟิ่งและเจียลี่ได้”
คังหย่งเหอหัวใจกระตุกวาบ เมื่อได้ยินสิ่งที่หญิงสาวตั้งข้อสันนิษฐาน “เอ่อ... จ๊ะ แต่เจียลี่คงไม่คิดเหมือนหนูแพมแน่?”
“ไม่เขายังไม่ทราบเรื่องสำคัญเหมือนหนูยังไงล่ะคะ”
“จริงของหนูแพม” คังหย่งเหอเลียบเคียงถามถึงอาเล่อต่ออย่างไม่แสดงความผิดปกติให้หญิงสาวได้เห็น “หวังว่าเจียลี่คงให้คนดูแลอาเล่อเป็นอย่างดีนะ ยังไงเขาก็เป็นคนเก่าแก่ที่จงรักภักดีกับเรา”
“อาเล่อคงอยู่ได้ไม่ลำบากอะไรหรอกค่ะ เซฟเฮ้าส์ก็เหมือนบ้านสองชั้นปกติอาเล่อไม่น่าอึดอัดอะไร มีห้องนอนส่วนตัวให้อยู่อย่างดีแถมยังมองเห็นวิวของเกาะมาเก๊าด้วย อาหารการกินก็มีคนดูแลให้” พิมพ์ชนกบอก
คังหย่งเหอพยักหน้ารับ สมองประมวลถึงสถานที่ที่พิมพ์ชนกพูดให้ฟังทันที “ได้ยินอย่างนี้อาก็สบายใจแล้ว”
พิมพ์ชนกนั่งสักพักจึงขอตัวไปเข้าห้องน้ำ โดยไม่รู้ว่าแดนนี่หวังรอโอกาสที่จะได้คุยกับเธอตามลำพังอยู่แล้ว ชายหนุ่มขอตัวจากกลุ่มสนทนาเดินออกมาด้านนอกตามหญิงสาวทันที
แดนนี่หวังกำลังจะยกมือเรียกพิมพ์ชนกแต่ไม่ทันเพราะเธอหายเข้าไปในห้องน้ำแล้ว ชายหนุ่มจึงรีบเข้าห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัวของตนบ้าง
“ไม่รู้จะขอบคุณคุณยังไงดี วันนี้ถ้าไม่ได้คุณการันตีกับเสือสิงห์พวกนั้นฉันคงแย่แน่คะเดร็ก” คริสตัลซุนบอกกับคังเจียลี่ เมื่อทั้งคู่ปลีกตัวออกมาจากวงสนทนาที่เหมือนลานประหารสำหรับคริสตัล หลายคำถามที่ออกจากปากนักลงทุน ผู้ถือหุ้นหลัก ถูกตอบคำถามอย่างชาญฉลาดโดยผู้ชายคนนี้
“ไม่เอาน่า... คุณพูดขอบคุณผมครั้งที่พันแล้ว ระหว่างเราต้องมีคำขอบคุณพวกนี้อีกหรือไงคริสตัล” เจ้าพ่อหนุ่มบอกน้ำเสียงหน่ายใจ หลังจากเปลี่ยนความสัมพันธ์จากคู่รักกับเธอเขาก็เห็นเธอเป็นเพื่อนคอยให้ความช่วยเหลือเธอตอนเรียนอยู่ที่อเมริกาเสมอเพราะเธอเป็นผู้หญิงตัวคนเดียว ทั้งยังรู้ดีว่าประธานซุนติงหมิงที่ล่วงลับไปให้ความช่วยเหลือ เค คอนสตรักชั่นไว้ เขาจึงคิดว่ามันไม่ได้หนักหนาอะไรหากตอนนี้ลูกสาวของประธานซุนต้องการความช่วยเหลือและเขาจะตอบแทนคืนบ้าง
คริสตัลยิ้มหวานให้ชายที่เธอเคยคิดว่าขาดเขาแล้วความรู้สึกก็คงเหมือนกับการเลิกลากับผู้ชายที่เคยผ่านมา เธอจึงไม่ได้แยแสกับมันเลย แต่เมื่อเวลาผ่านพ้นมา เธอประจักษ์แก่ใจตัวเองแล้วว่า คังเจียลี่บุรุษผู้เปี่ยมไปด้วยความสามารถรอบด้าน อารมณ์ขัน ความโรแมนติก พลังดึงดูดทางเพศเหลือล้น เป็นคนที่เธอตัดใจจากเขาไม่ได้เลย และมันยิ่งเหมือนใจจะขาดต้องแย่งชิงเขากลับคืนมาเมื่อเขาทำเหมือนกับว่าจะวางหัวใจไว้ในมือผู้หญิงคนนั้น
“คิดถึงวันที่ฉันบอกเลิกคุณนะคะ ตอนนั้นฉันอารมณ์ร้อนเอาแต่ใจตัวเอง แค่เห็นคุณจูบอยู่กับสาวอเมริกันทรงโตนั่น ฉันก็โวยวายขอเลิกกับคุณโดยไม่ฟังอะไรเลย” คริสตัลพูดพร้อมเงยหน้ารับลมที่เข้ามาประทะใบหน้าเหมือนสายลมเหล่านี้นำเอาเรื่องราวในอดีตให้ย้อนกลับมาคิดถึงได้
คังเจียลี่ลูบแผ่นหลังบางปลอบโยนรู้ว่าเธอคงว้าเหว่เพราะเพิ่งเสียบิดา “เฮ้!! คุณผู้หญิง คุณยังไม่มีผมหงอกสักเส้นทำไมชอบคิดถึงเรื่องเก่าๆ นักนะ แต่ความจริงตอนนั้นคุณเป็นผู้หญิงที่น่าโมโหมากที่สุด!”
คำพูดของเขาเรียกเสียงหัวเราะของทั้งคู่ออกมาเหมือนถ่านไฟเก่าที่กำลังจะลุกโชติช่วงขึ้นอีกครั้ง!! โดยที่ทั้งคู่ไม่มีทางรู้เลยว่าถัดไปมุมตึกที่เป็นทางเลี้ยวเข้าห้องน้ำนั้น แดนนี่หวังและพิมพ์ชนกกำลังฟังบทสทนานั้นอยู่
พิมพ์ชนกออกมาจากห้องน้ำก็พบว่า แดนนี่กำลังด้อมๆ อยู่ที่มุมตึก เขาหันมายกนิ้วชี้ขึ้นพร้อมทำท่าทางบอกให้เธอเงียบๆ และนั่นเองที่พิมพ์ชนกได้ยินบทสทนาของทั้งคู่ตั้งแต่เริ่มต้น!
คริสตัลสบสายตาของคังเจียลี่อยู่นาน “พ่อเคยบอกฉันว่า เราจะเห็นว่าของอยู่ในมือมีค่าก็ต่อเมื่อเราได้สูญเสียสิ่งนั้นไปแล้ว”
เจ้าพ่อหนุ่มรู้ว่าเธอกำลังจะพูดอะไรต่อไป ปากบึกบึนกำลังจะขยับห้ามแต่คริสตัลก็ไวกว่า!!!
“ฉันพูดอย่างไม่อายนะคะเดร็ก ฉันยังรักคุณอยู่ รักมาตลอด ฉันไม่อยากรับรู้ว่าคุณจะรักใครและไม่เอามาใส่ใจด้วยขอแค่คุณรับความเอาความรู้สึกของฉันเอาไว้ก็พอ ฉันยอมที่จะอยู่ในที่มืด ได้ไหมคะเดร็ก ฉันขอร้อง??!” เสียงของคริสตัลดังขึ้นเรื่อยตามอารมณ์ของเธอ ซึ่งพิมพ์ชนกและแดนนี่ได้ยินชัดเจนทุกถ้อยคำ!
“คุณดื่มมากไปรึเปล่าคริสตัล” ชายหนุ่มไม่อาจจะพูดอะไรไปได้มากกว่านี้เพราะกลัวว่าคริสตัลจะคุมอารมณ์ไม่อยู่และเธอดื่มแชมเปญฉลองไปหลายแก้วแล้วด้วย
“ไม่ค่ะ ฉันมีสติครบเต็มร้อย คุณรู้ไหมคะเดร็ก คนที่คุณควรถามไถ่ด้วยความรัก น้ำเสียงห่วงใย มือของคุณควรจะโอบเอวของฉัน ผู้หญิงคนนั้นควรเป็นฉัน คุณจะว่าอะไรไหมหากว่าฉันจะลงแข่ง?”
คังเจียลี่ขมวดคิ้วกับคำถามของเธอ “พอเถอะคริสตัล วันนี้เป็นวันเริ่มต้นของคุณ เรื่องอื่นเอาไว้ค่อยคุยกันทีหลังเถอะ”
“ไม่ค่ะเดร็ก คุณรู้บ้างไหมว่าฉันแทบบ้าตาย ทำไม่คุณไม่ให้โอกาสฉันบ้าง ฉันแฟร์แค่ไหนที่จะลงแข่งกับเด็กคนนั้นเพื่อพิสูจน์ให้คุณได้เห็นว่าฉันก็รักคุณไม่น้อยไปกว่าใครเหมือนกัน”
มันไม่ได้อยู่ที่ว่าคุณรักผมไหมหรอกนะคริสตัล แต่มันอยู่ที่ผมรักพิมพ์ชนกต่างหาก คังเจียลี่จะพูดในสิ่งที่คิดแต่เมื่อเห็นแววตาหม่นหมองระคนร้องขอความเห็นใจจึงไม่อยากทำร้ายจิตใจเธอด้วยคำพูดที่ตัดไมตรีแบบนั้น “ถ้าคุณยังอยากเจอหน้าผมอยู่ก็อย่าเพิ่งพูดเรื่องนี้เลยนะคริสตัล คุณไปล้างหน้าล้างตาหน่อยเถอะ ดึกมากแล้วผมจะกลับก่อนก็แล้วกัน”
“เดร็ก!! เดร็กอย่าเพิ่งไป!!” คริสตัลเรียกตามร่างสูงใหญ่ที่เดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองอีกเลย
แดนนี่หวังและพิมพ์ชนกเข้ามาหลบในประตูหนีไฟใกล้ๆ บริเวณนั้น และได้ยินเสียงฝีเท้าของคริสตัลที่เดินผ่านหน้าไป แดนนี่หวังมองหน้าที่สลดไปอย่างเห็นได้ชัดของพิมพ์ชนก รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก็ปรากฏขึ้นโดยที่หญิงสาวไม่มีทางได้เห็นเพราะสิ่งที่เพิ่งได้ยินมันกำลังดังขึ้นในหูซ้ำอีกครั้ง
“วันนี้ผมได้ยินคนพูดว่าแพมกับคุณเดร็กเป็นแฟนกัน ได้ยินแล้วก็อดเป็นห่วงไม่ได้น่ะครับ อย่างที่เราได้ยินกัน ไม่เพียงแค่คริสตัลเท่านั้น หลายคนก็เห็นว่าทั้งคู่เหมาะสมกัน แต่ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับคุณเดร็กคนเดียวเท่านั้นล่ะครับ”
“ฉันขอตัวนะคะ คงต้องกลับแล้ว” พิมพ์ชนกเข้าใจในสิ่งที่ชายหนุ่มกำลังจะพูดแต่ตอนนี้เธอไม่อยากจะฟังเรื่องนี้อีกแล้ว
“แพมครับผมไม่ปฏิเสธว่ารู้สึกดีๆ กับคุณนะแต่ผมก็ยอมรับการตัดสินใจของแพมและอยากบอกว่ายังรอคุณอยู่ที่เดิมเสมอ” แดนนี่หวังพูดเหมือนตัวเองเป็นผู้แพ้ที่ยิ่งใหญ่
“ขอบคุณค่ะ” พิมพ์ชนกบอกเท่านั้นและผลักประตูก้าวออกมา และก็ต้องมาเจอะกลับคริสตัลที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ คริสตัลมองคู่แข่งของตัวเองที่ออกมาจากหลังประตูทางหนีไฟก็เข้าใจได้ในทันทีว่าเธอต้องได้ยินสิ่งที่เธอและคังเจียลี่คุยกันแล้วเป็นแน่
“เดี๋ยวสิคะคุณแพม ขอคุยด้วยหน่อย” คริสตัลเรียกเมื่อหญิงสาวยิ้มให้น้อยๆ และทำท่าจะเดินจากไป
พิมพ์ชนกหันกลับมารอฟังในสิ่งที่คริสตัลอยากจะพูดกับตัวเอง
“ฉันแน่ใจว่าคุณได้ยินในสิ่งที่ฉันกับเดร็กคุยกันแล้ว และฉันยังยืนยันคำพูดเดิม เรามาแข่งกันแบบแฟร์ๆ ใครชนะได้เดร็กไป”
คริสตัลที่ไม่คิดจะปิดบังความรู้สึกของตัวเองอีกต่อไปแล้วกล่าวท้ากับพิมพ์ชนก
“ฉันไม่คิดว่าจะแข่งกับใครเพื่อแย่งผู้ชายหรอกนะคะ ฉันจะเดินออกไปจากชีวิตของเขาโดยไม่มีข้อแม้เลยถ้าหากว่าเขาหมดรักในตัวของฉัน และจะไม่ทำตัวดื้อด้านอ้อนวอนมอบความรู้สึกที่มีค่าของฉันให้กับคนที่ไม่เห็นค่าของมันเลย ถ้าคุณคิดจะแข่งฉันก็คงห้ามไม่ได้ แต่ถ้ารู้ผลแล้วฉันก็หวังว่าคุณจะเป็นนักกีฬาที่มีสปิริตเช่นกัน” พิมพ์ชนกโต้กลับอย่างไม่สะทกสะท้าน
คริสตัลเงยหน้าขึ้นหัวเราะเย้ยหยันคู่ต่อสู้ที่ไม่กริ่งเกรงต่อสารณ์ท้ารบของเธอ “เอาเถอะ ตอนนี้เธออาจจะพูดออกมาอย่างมั่นใจในความรู้สึกที่เดร็กมีให้เธอ แต่อย่าลืมนะ!! มันก็แค่ความรู้สึกที่มนุษย์เราเปลี่ยนได้ภายในชั่วพริบตา วันนี้รักมาก... พรุ่งนี้อาจจะไม่แม้แต่มองหน้าก็เป็นได้ และฉันรู้สึกได้ว่าตอนนี้ความมั่นใจของเธอมันไม่ได้เต็มร้อยเหมือนเดิมแล้ว อย่าร้องไห้เป็นเด็กขี้แยแล้วกันเมื่อถึงวันที่ต้องเดินออกไปจากชีวิตของเดร็กจริงๆ” คริสตัลพูดด้วยน้ำเสียงข่มขู่! และเริ่มสนุกกับเกมส์ขึ้นมาอย่างมากเมื่อคู่ต่อสู้ของเธอไม่อ่อนหัดอย่างที่คิด!!
“บอกตัวเองเถอะค่ะ ดูเหมือนว่าจะเป็นตัวคุณเองมากกว่าที่กำลังทำอย่างนั้นอยู่” พิมพ์ชนกบอกอย่างถือไพ่เหนือกว่าพร้อมหมุนตัวเดินออกมาจากการสนทนาที่อึดอัด ชวนให้โมโหนี่!!!
“เฮ้อ! ถ้ามีคนอื่นมาได้ยินคงไม่อยากจะเชื่อว่าประธานซุนฮ่องกงแบงค์คนใหม่ต้องมาแย่งผู้ชายกับผู้หญิงรุ่นน้องเกือบสิบปี” แดนนี่หวังที่ยืนฟังสองสาวคุยกันเมื่อสักครู่เดินออกมาจากมุมของตึก พร้อมยื่นมือรอคริสตัลไปสัมผัสอยู่
“สำหรับอะไรไม่ทราบ??!” หญิงสาวถามแปลกใจเป็นครั้งที่สอง การแปลกใจครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อสักพักใหญ่ที่ผ่านมาแดนนี่หวังเอาของขวัญมาแสดงความยินดีกับเธอและเริ่มบทสนทนาว่าเขารู้ว่าเธอต้องการคังเจียลี่ ส่วนเขาก็ต้องการพิมพ์ชนก เป็นการดีที่จะร่วมมือกันแยกคนทั้งคู่ออกจากกัน คริสตัลจึงชวนคังเจียลี่ออกมาด้านนอกเมื่อเห็นแดนนี่หวังส่งสัญญาณให้ และแดนนี่หวังก็เดินตามพิมพ์ชนกออกมาด้านนอกนั่นเอง
“สำหรับจุดมุ่งหมายเดียวกันของเรายังไงเล่า... คุณได้ผู้ชายที่ควรจะเป็นของคุณคืน ส่วนผมก็ได้ผู้หญิงที่ควรจะเป็นของผมคืน วินวินกันทั้งคู่” คำพูดและรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นที่ใบหน้าของหนุ่มตี๋ คริสตัลยิ้มตอบเห็นด้วยกับความคิดของแดนนี่หวัง ถ้าหากว่าเธอจะมีตัวช่วยคอยขัดแข้งขัดขาคู่ต่อสู้ให้เสียเปรียบบ้างมันก็ต้องดีอยู่แล้ว คิดได้ดังนั้นจึงยื่นมืออกไปสัมผัสกับชายหนุ่มเป็นการตอบรับข้อเสนอทันที!
“ไปไหนมาจ๊ะ? ผมเดินหาแพมซะทั่วแต่ไม่เจอ” คังเจียลี่ถามเมื่อเห็นแฟนสาวเดินเข้ามาในงาน หลังจากที่เขามองหาเธอจนทั่วแต่ไม่พบ
“ไปเข้าห้องน้ำค่ะ แล้วตามหาแพมทำไมคะ?” หญิงสาวถามหลังจากที่ยืนมองเขาอยู้ด้านนอกอยู่สักพักพร้อมปรับอารมณ์ลงแล้วจึงเดินเข้ามาหาเขา
“กลับกันเถอะดึกมาแล้ว ผมบอกคริสตัลแล้วด้วย เดี๋ยวเราเดินไปลาท่านผู้ว่าการฯ กับภรรยาก่อนนะจ๊ะ” คังเจียลี่บอกพร้อมโอบเอวคอดเดินเข้าไปลาผู้ใหญ่ทั้งสอง ก่อนจะขอตัวออกจากงานเลี้ยงในเวลาต่อมา
“แพมจะหลับก็ได้นะ เดี๋ยวผมอุ้มขึ้นไปส่งเอง” คังเจียลี่บอกหลังจากที่ขึ้นมานั่งบนรถแล้ว และต้องยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู เมื่อแฟนสาวทิ้งตัวพิงกับหน้าอกก้วางของตัวเองทันที มือหนาลูบแขนเรียวขึ้นลงเบาๆ เหมือนกล่อมให้หลับฝันดี
“อย่าเป็นห่วงแพมนักเลยค่ะ”
“ไม่ห่วงแพมได้ไงก็แพมเป็นแฟนผมนี่ เป็นอะไรรึเปล่า? เหงาหรือโกรธเหรอที่ผมไม่ค่อยได้คุยกับแพมอยู่ในงานเลี้ยงเหรอ? ขอโทษนะที่รัก”
“ขอโทษทำไมคะ แพมไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย แค่อยากบอกคุณว่าอย่าเอาใจแพมมาก อย่าแสดงออกว่ารักและห่วงใยแพมมาก เดี๋ยวแพมจะเหลิงไปกันใหญ่ ถ้าวันไหนที่คุณไม่รักแพมแล้วหรือรักแพมน้อยลง แพมต้องอาละวาดแน่!! ถ้าคุณทำให้แพมเคยตัวแบบนี้”
คังเจียลี่กระชับร่างสมส่วนให้แน่นขึ้นรู้สึกได้ถึงกระแสเสียงความสับสนในใจของเธอ พร้อมเชยคางมนขึ้นมาให้สบตากัน จ้องลึกลงไปในดวงตาสีน้ำตาลสดใสที่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นหมองหม่นอย่างไม่ทราบสาเหตุ!! “ทำไมพูดอย่างนั้น ความรักของผมมีให้แพมไม่มีวันหมดหรอกเด็กเจ้าปัญหา แพมจะเหลิงจะเอาแต่ใจตัวเองแค่ไหนผมก็รับมือได้ทั้งนั้นแหละ ไม่มีวันเปลี่ยนใจหรอกสวีตฮาร์ท”
“มีคนเคยบอกแพมว่าความรู้สึกมันเปลี่ยนกันได้ วันนี้อาจจะรักมาก พรุ่งนี้อาจจะไม่อยากแม้แต่จะมองหน้าก็เป็นได้” พิมพ์ชนกยกเอาประโยคที่คริสตัลพูดกับตัวเอง และก็รู้ว่ามันเป็นความจริงทีเดียวขึ้นมาถามเขา ในใจอยากถามตรงๆ ว่า ถ้าคริสตัลเข้ามาแทรกกลางระหว่างเราคุณจะหวั่นไหวไหมต่างหาก?!! แต่ก็ปากหนักไม่กล้าถามออกไปตรงๆ
“มันก็จริง แต่ผมยังนึกถึงความรู้สึกที่เบื่อแพมไม่ออกเลย แค่ผมไม่ได้เห็นหน้าแพมวันเดียวมันก็กระวนกระวายแล้ว ไม่ได้แกล้งพูดเพื่อเอาใจคุณนะแต่ผมเป็นอย่างนั้นจริงๆ” คังเจียลี่มองใบหน้าอ่อนเยาว์ เธอสวยน่ารัก วันๆ แสดงความรู้สึกออกมาร้อยแปดแล้วเขาจะเบื่อได้อย่างไร?? “อย่าคิดไปไกลนัก โบราณว่าทำบุญร่วมกันร้อยชาติถึงได้ร่วมเรียงเคียงหมอน แพมรู้ไหมว่าผมภาวนาให้ร้อยชาติที่ผ่านมาเราได้ทำบุญร่วมกัน ชาตินี้ผมจะได้ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ร่วมเรียงเคียงหมอนกับแพม หืม??”
พิมพ์ชนกแย้มยิ้มที่สวยและเปิดเผยที่สุดในชีวิตออกมา มือบางโน้มลำคอหนาลงมาหา แล้วจูบเบาๆ ที่คางคร้ามหนึ่งที ถูกใจกับคำพูดของเขาเหลือเกิน “แพมเพิ่งรู้ว่าคุณภาวนาอะไรแบบนั้น ต่อไปนี้แพมก็จะทำอย่างคุณบ้าง”
“สบายใจแล้ว ก็หลับซะแม่คนเจ้าปัญหา” คังเจียลี่บอก พร้อมกับตระกองกอดคนเจ้าปัญหาให้แน่นขึ้น เธอคงจะได้ยินใครพูดถึงคริสตัลและตัวเขาในงานว่าเหมาะสมกัน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับคนที่มีความสงสัยทุกเรื่องรอบกายจะเก็บเอามาคิดในขุ่นข้องหมองใจ เขารู้ดีว่าชื่อเสียงในการคบหาเพศตรงข้ามที่ผ่านมาของเขาทำให้เธอรู้สึกหนักใจได้บ้าง แต่มันก็เป็นการใช้ชีวิตวัยหนุ่มอย่างเต็มที่และไม่เคยได้ทำความเดือดร้อนให้กับใคร ผู้หญิงที่ผ่านเข้ามาทุกคนก็เต็มใจและรู้ถึงข้อตกลงในความสัมพันธ์นี้ดีทั้งนั้น แต่เมื่อเขาได้พบหน้าของแม่สาวในอ้อมกอดครั้งแรก! เขาก็ไม่อยากจะเชื่อว่าLove at first sight รักแรกพบจะเกิดขึ้นกับตัวเอง!!!
และเขาต้องการที่จะสะสางเรื่องส่วนตัวที่ยังเป็นปมค้างคาใจให้จบสิ้นไป เพื่อความปลอดภัยของครอบครัวที่กำลังจะสร้างขึ้น พิธีวิวาห์จะเป็นการกระทำที่ย้ำถึงคำพูดมากมายที่เขาได้พูดกับเธอให้เธอได้มั่นใจ ไร้ซึ่งความคลางแคลงใจอีก
พิมพ์ชนกนั่งนิ่งๆ กอดแขนที่เต็มไปด้วยกล้ามมัดของคนที่กอดเธออยู่อีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ต่างคนต่างเงียบเพราะเขาคงคิดว่าเธอหลับไปแล้ว
คำพูดเมื่อครู่ทำให้หัวใจอันห่อเหี่ยวกลับขึ้นมาชุ่มชื่นอีกครั้ง ราวกับสายฝนที่โปรยลงมาชุบชีวิตให้ต้นไม้ที่กำลังเหี่ยวเฉา สิ่งที่ต้องใช้แข่งขันกับคริสตัลคือความเข้มแข็งของหัวใจ ความหนักแน่น ความมั่นคงของใจตัวเองต่างหาก เพราะเธอได้หัวใจของผู้ชายคนนี้ไว้ในมือแล้ว สิ่งที่ต้องทำคือเก็บรักษาเอาไว้ให้ดีเท่านั้นเอง คำพูดของคังเจียลี่ในวันเปิดตัวเค ไพรเวทฯ ก็ทำให้เธอได้คิดอีก ผมจะไม่มีวันปล่อยมือจากคุณ ตราบใดที่คุณยังกุมมือผมไว้อยู่
ฉันจะทำอย่างนั้นค่ะเจียลี่... ฉันจะทำและต่อสู้เพื่อเราหากคุณยังรักฉัน แต่ฉันจะปล่อยมือจากคุณโดยไม่ร้องขอความเห็นใจถ้าเพียงแค่คุณมีใจให้กับผู้หญิงคนอื่น พิมพ์ชนกคิดในใจ และทันทีที่รถเคลื่อนตัวเข้ามาจอดหน้าคฤหาสน์สกุลโจว หญิงสาวก็ดันตัวเองออกจากอ้อมกอดอันอบอุ่น จูบราตรีสวัสดิ์ก่อนที่จะจากกันในวันนี้และพบกันใหม่ในวันรุ่งขึ้น
รุ่งเช้ารถคันหรูของประธานเค ไพรเวทฯ แวะรับแฟนสาวของเขามาทำงานด้วยกันเป็นประจำอย่างนี้มาเกือบสองเดือนแล้ว พอถึงชั้นแรกของสำนักงานใหญ่พิมพ์ชนกก็จะปรี่เข้าไปซื้อกาแฟร้านประจำที่เธอชอบนักหนาทันที เขาเคยบอกกับเธอว่าจะยกเอาร้านกาแฟชื่อดังนี้ขึ้นไปไว้ชั้นบนสุด เธอจะได้ไม่ต้องเดินลงมาชั้นล่างอีก แต่กลับได้รับคำตอบว่า ‘มันไม่อร่อยหรอกค่ะถ้าทำแบบนั้น มันต้องเข้าแถวรอแล้วสูดกลิ่นกาแฟเข้าไประหว่างรอ มองดูคนที่อยู่หัวแถวได้ดูดกาแฟเข้าไปเพื่อยั่วน้ำลายเรา กาแฟของเราถึงจะอร่อย’
คำพูดที่ทำให้เขายิ้มกับวิธีคิดที่ไม่เหมือนใครของเธอ และนับวันเขาเริ่มจะคิดเหมือนเธอแล้วเพราะก่อนที่จะขึ้นไปชั้นบนสุดต้องมานั่งมองเธอเข้าคิวรอซื้อกาแฟด้วยกัน
ก๊อก... ก๊อก... เก้านาฬิกาตรงของวัน เจฟลูกน้องมือขวาหน้าตื่นเข้ามาเมื่อได้ยินเสียงเจ้านายอนุญาติ...
“คุณเดร็กครับ คนของเราโทรมารายงานว่าอาเล่อหายตัวไปครับ!!!” เจฟรายงานเจ้านายพร้อมกับก้มหน้างุด หลบสายตากร้าวของเจ้านายทันที!
“อะไรนะ!!?? คนทั้งคนจะหายไปได้ยังไง ห๊า??” เสียงห้าวตวาดจนสั่นสะเทือนห้อง
“เอ่อ... เมื่อชั่วโมงที่ผ่านมา ยามที่เฝ้าอยู่หน้าประตูรั้วเห็นว่าสายมากแล้วแต่คนในบ้านยังไม่มีใครออกมาเปิดประตูเหมือนทุกวัน เลยไขประตูเข้ามาดู ปรากฏว่าบอดี้การ์ดที่อยู่ในบ้านทั้งห้าคนหลับสนิททุกคนครับ พอทุกคนได้สติขึ้นมาก็พบว่าอาเล่อหายตัวไปแล้วครับ”
คังเจียลี่หลับตาลงอย่างข่มอารมณ์ มือหนาตบปัง!! ลงที่โต๊ะทำงานจนเจฟและพิมพ์ชนกสะดุ้ง เป็นครั้งแรกที่หญิงสาวได้เห็นอารมณ์โกรธของเขาตั้งแต่รู้จักกันมา บอกได้เลยว่ามันน่ากลัวราวกับพายุไต้ฝุ่น แววตาขี้เล่นเหลือเพียงความแข็งกร้าว ขุ่นมัว
“ทำงานกันยังไง?? ถึงได้ปล่อยให้คนทั้งคนหายไปแบบนี้ มันน่าจับไปยิงทิ้งให้หมดไหม??” เสียงห้าวกร้าวกระหึ่มทั่วห้อง
“ตอนนี้พวกเขาออกตามหาตัวอาเล่อแล้วครับ” เจฟรายงานเจ้านาย
“กล้องวงจรปิดที่ติดไว้ล่ะไปเอามาดูรึยัง? แล้วในบ้านพวกมันไม่ทิ้งเบาะแสอะไรไว้บ้างหรือยังไง??” คังเจียลี่ยังตะคอกถามเสียงดัง!!
“ประตูด้านหลังถูกงัดเข้ามาครับ ผมว่าน่าจะเป็นคนในที่รู้ทางหนีทีไล่เป็นอย่างดี เพราะคนของเราบอกว่าก่อนที่จะไม่รู้สึกตัว ไฟฟ้าดับอยู่ประมาณสองนาที พอจะเดินไปดูแผงวงจรไฟ ไฟก็สว่างขึ้นมาเอง ผมคิดว่าน่าจะเป็นตอนนี้ที่พวกมันแอบตัดสัณญาณเตือนภัย แล้วรมยาสลบทั่วบ้านครับ” เจฟรายงาน
“ระดมกำลังออกตามหาฉันต้องได้ตัวอาเล่อกลับมาภายในยี่สิบสี่ชั่วโมง ไปเอาเทปที่อัดได้จากกล้องวงจรปิดมาเปิดให้ฉันดูด้วย”
เจฟรับคำพร้อมกำลังจะก้าวออกจากห้อง เสียงเจ้านายของเขาก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“เดี๋ยว!! ฉันจะไปตรวจที่เซฟเฮ้าส์เอง” คังเจียลี่ลุกขึ้นใส่เสื้อสูทพร้อมมองแฟนสาวที่เดินเข้ามาหา เมื่อเจฟออกไปด้านนอกแล้ว
“แพมรอผมอยู่ที่นี่นะ ผมต้องไปจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง เพราะถ้าเราช้าอาเล่ออาจจะไม่มีชีวิตอยู่บนโลกนี้ก็เป็นได้
“คุณคิดว่าใครที่มาลักพาตัวอาเล่อไปคะ?” พิมพ์ชนกถามด้วยความกังวล
“ยังตอบไม่ได้ แต่หาไม่ยากหรอก คนที่ต้องการตัวอาเล่อเหมือนกับรู้แน่ว่าผมได้ตัวอาเล่อไว้แล้วแต่ไม่มีทางรู้หรอกว่าผมซ่อนอาเล่อไว้ที่ไหน คนที่รู้ที่อยู่ของอาเล่อมีไม่กี่คนเท่านั้น ไม่แน่ว่าเกลืออาจจะเป็นหนอนก็ได้”คังเจียลี่บอกพร้อมกับเอื้อมมือใหญ่เลื่อนมาสอดไล้เข้าที่แก้มเนียน
“ระวังตัวนะคะ แพมเป็นห่วง”
“จ้ะ ผมจะกลับมารับแพมกลับบ้านเองนะที่รัก” เขาพูดพร้อมกดจูบที่หน้าผากเนียนหนักๆ แล้วเดินออกไปอย่างรีบร้อน
คำพูดของเขาเมื่อครู่ทำให้พิมพ์ชนกได้คิด คนที่รู้ว่าอาเล่ออยู่ที่ไหนมีไม่กี่คน มีเขา เธอ เจฟ และบอดี้การ์ดอีกไม่กี่คนในเซฟเฮ้าส์ คงเป็นไปไม่ได้ว่าเขาจะเผลอหลุดปากเล่าให้ใครฟัง โอ๊ะ!!! คุณพระช่วย!!! เธอเองต่างหากที่เป็นคนหลุดปากเล่าเรื่องนี้ให้คังหย่งเหอฟัง! แต่ไม่ได้บอกนี่ว่าอาเล่ออยู่ที่ไหน แล้วคังหย่งเหอก็ไม่มีวันทำร้ายลูกแท้ๆ ของตัวเองแน่ๆ ความคิดสับสนในสมองวิ่งวุ่นชนกันไปหมด เพราะมันเท่ากับความเป็นความตายของชีวิตชีวิตหนึ่ง! ไวเท่าความคิดหญิงสาวก้าวฉับๆ ออกจากห้องทำงานตรงรี่ไปหาคนที่เธอสงสัยเป็นอันดับหนึ่งทันที!!
พิมพ์ชนกเปิดประตูเข้าไปในห้องทำงานของคังหย่งเหอทันทีเมื่อได้รับอนุญาต หญิงสาวมองคนที่นั่งทำงานอยู่บนโต๊ะทำงานและเงยหน้าขึ้นมาทักทายเธอตามปกติอย่างจับพิรุธ
“คุณอาทราบรึยังคะว่าอาเล่อหายตัวไป” พิมพ์ชนกถามทันที
“หนูแพมว่าอะไรนะ?? หายไปได้ยังไง?” คังหย่งเหอวางปากกาในมือลง ถามน้ำเสียงตกใจ!
“ค่ะ หายไปจริงๆ นี่เจียลี่ก็ออกไปตามหาด้วยตัวเอง เขาบอกว่าหาได้ไม่ยากเพราะมีไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้ หนึ่งในนั้นคือแพมและแพมเองเป็นคนเล่าเรื่องของอาเล่อให้คุณอาฟัง”
คังหย่งเหอขมวดคิ้วมองหน้าหญิงสาวเหมือนรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ “หนูแพมพูดแบบนี้คงไม่คิดว่าอาเป็นคนขโมยตัวอาเล่อไปหรอกนะ??”
พิมพ์ชนกยกมือไหว้ขอโทษคังหย่งเหอ “แพมขอโทษคุณอาค่ะ แต่พูดตามตรงแพมคิดอย่างนั้นจริงๆ และอยากถามคุณอาว่าคุณอาทำรึเปล่า??”
“อายอมรับว่าเคยให้คนออกตามหาตัวอาเล่อนั่นก็เพราะอยากรู้ในสิ่งเดียวกันกับเจียลี่เหมือนกัน แต่เมื่อเจียลี่ได้ตัวอาเล่อไว้แล้วอาจะทำอย่างนั้นอีกทำไม? อาไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่าเจียลี่เอาอาเล่อไปไว้ที่ไหน หนูแพมเองก็ไม่เคยเล่าให้อาฟังว่าอาเล่ออยู่ที่ไหน??” คังหย่งเหอไม่เข้าใจว่าอยู่ๆ ทำไมหญิงสาวถึงนึกสงสัยในตัวของเขาขึ้นมาได้
“แพมไม่รู้หรอกค่ะ แต่เพราะสงสัยเลยมาถามคุณอาเอาตรงๆ เพราะไม่คิดว่าเจียลี่จะหลุดปากเล่าเรื่องที่อยู่ของอาเล่อให้ใครฟัง แต่แพมเล่าให้คุณอาฟังคนเดียว” พิมพ์ชนกบอกตรงๆ เพราะหลังจากที่รู้ถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่แล้ว ก็เห็นว่าคนเป็นพ่อควรรู้ว่าลูกชายของตนกำลังทำอะไรอยู่เพื่อจะได้ช่วยเหลือในยามที่เขาเพรี่ยงพร้ำ
“อาบอกหนูแพมให้สบายใจตรงนี้ได้เลยว่าอาไม่เคยคิดร้ายกับเจียลี่ มีความปราถนาดีกับเขาพอๆ กับหนูแพมนั่นแหละ” คังหย่งเหอพูดด้วยน้ำเสียงตำหนิออกมาบ้าง
“แพมขอโทษอีกครั้งค่ะ แต่แพมอดสงสัยไม่ได้จริงๆ แล้วก็ร้อนใจกลัวว่าอาเล่อจะเป็นอะไรไป”
“ช่างเถอะ ยังไงเราสองคนก็หวังดีกับเจียลี่ทั้งคู่” คังหย่งเหอลอบถอนหายใจ เมื่อหญิงสาวหมดข้อสงสัยในตัวเองลงได้บ้าง
“หรือว่าอาจจะเป็นคนใกล้ตัวของเจียลี่ บอดี้การ์ดที่คุ้มกันที่นั่นคนหนึ่งคนใดรึเปล่าที่ถูกส่งเข้ามาล้วงเอาความลับ ก็อาจเป็นได้เหมือนกันนะ!”
“ไม่รู้สิคะ แต่ตอนนี้ลางสังหรณ์ของแพมมันบอกว่าอาเล่ออยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัยนัก ทั้งที่คุณอายืนยันแล้วแต่ใจของแพมมันหดหู่จนบอกไม่ถูกเลยค่ะ” หญิงสาวบอกความรู้สึกร้อนรุ่มในใจของตัวเองออกมา
“หนูแพมอย่าเพิ่งกังวลใจไปก่อนเลย เอาไว้ฟังข่าวจากเจียลี่ก่อนแล้วค่อยคิดหาหนทางแก้ไขก็ได้ คนดีตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้หรอกนะ” คังหย่งเหอบอกเมื่อเห็นพิมพ์ชนกทำหน้าหนักใจ “อาฝากดูแลเจียลี่ด้วยนะ เย็นนี้อาต้องไปเซ็นสัญญาที่ดูไบซะด้วย เกิดเรื่องแบบนี้แล้วอาอดเป็นห่วงเจียลี่ไม่ได้”
และคำพูดนี้! มันทำให้พิมพ์ชนกยอมเดินกลับออกมาจากห้องทำงานของเขาได้ในเวลาต่อมา
...ฉันขอโทษเธอด้วยแล้วกันนะพิมพ์ชนก ที่ต้องใช้เธอเป็นเครื่องมือ! ความผิดพลาดมหันต์ในครั้งก่อนที่ได้ทำลงไป เป็นสิ่งที่ไม่สามารถจะย้อนกลับไปแก้ไขได้ การปัดกวาดเศษฝุ่นแห่งความลับอันชั่วร้ายออกไปเป็นทางเดียวที่จะทำให้ลูกยอมรับพ่อได้อย่างสนิทใจ และยังเป็นความหวังที่อยากจะได้ยินลูกชายเรียกตัวเองว่าพ่อออกจากปากของเขาสักครั้งด้วยความเต็มใจเท่านั้นเอง!!!
พิมพ์ชนกเดินกลับมานั่งลงรอฟังข่าวด้วยหัวใจอันห่อเหี่ยว ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงรู้สึกได้ว่าคังหย่งเหอยังปิดบังเรื่องที่เป็นพ่อบังเกิดเกล้าของคังเจียลี่งอยู่! ความรู้สึกที่สัมผัสได้มันไม่ได้เชื่อใจ ไว้ใจเต็มร้อยเหมือนตอนที่ได้รู้ว่าเขาและคังเจียลี่แท้จริงมีความสัมพันธ์เป็นพ่อลูกกัน รู้สึกเหมือนว่าคังหย่งเหอปกปิดอะไรบางอย่างอยู่แต่ก็คิดไม่ออกและมันไม่มีเหตุผลอันใดที่คังหย่งเหอจะคิดร้ายต่อลูกของตน หญิงสาวนั่งทำงานไปอย่างไม่มีสมาธิตลอดเวลาที่เหลือในช่วงเช้า และสั่งอาหารขึ้นมาที่ห้องในตอนพักกลางวัน ในใจภาวนาขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองให้ได้ตัวอาเล่อกลับมาอย่างปลอดภัย
สวัสดีค่ะ
ศิริพาราลงเมียบำเรอเจ้าพ่อให้อ่านครบแล้วนะคะ นักอ่านที่รักสามารถพาเจียลี่ – น้องแพม ไปครอบครองได้ที่ร้านซีเอ็ดบุ๊ก ร้านนายอินทร์ ร้านบีทูเอส เว็บสำนักพิมพ์อินเลิฟ เว็บบุ๊กสไมล์ และสามารถพูดคุยกับศิริพาราได้ตามช่องทางดังนี้
1. e-mail siripara2writer@gmail.com
2. fanpage https://www.facebook.com/siripara.raya
3.facebook https://www.facebook.com/siripara.looktan
ติชมหรือแสดงความคิดเห็นได้ตามสบายค่า เม้ามอยหอยขมกันได้ไม่เฉพาะเรื่องนิยาย ศิริพารายังมีเกมกติกาแสนง่ายดาย แจกของรางวัลเล็กน้อยเพื่อตอบแทนนักอ่านที่รัก อย่าลืมกดlikefanpage ศิริพารา รายาฤดีนะคะ
จบเรื่องนี้แล้ว ศิริพาราจะเอานิยายทั้งหมดมาอัพให้นักอ่านที่รักได้อ่านกันทุกเรื่อง ขอบคุณที่ติดตามและแสดงความคิดเห็นค่ะ
จุ๊บๆๆ
ศิริพารา
ศิริพารา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 6 พ.ค. 2558, 20:49:07 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 6 พ.ค. 2558, 20:49:07 น.
จำนวนการเข้าชม : 1257
<< ตอนที่ 10 100% |