~ สายใย .. ไฟรัก ~
~ สายใย .. ไฟรัก ~


เส้นสายใย .. ใครกันหนอ .. ที่ทอถัก
เส้นสายรัก .. ใครจักสาน.. ขานคำขอ
เส้นทางเดิน .. ใครเหินห่าง .. ต่างเฝ้ารอ
ไฟรักพอ .. ต่อหัวใจ .. ให้อุ่นอิง




เธอ .. คือ เพื่อนสนิทของน้องสาวเพื่อนรัก

เขา .. คือ ผู้บริหารโรงแรมจอมเผด็จการ แต่กลับเป็นเพื่อนรักพี่ชายของเพื่อนสนิท

ทว่า ..

เธอ .. ในสายตาของเขา .. คือ คนอวดดี ยโส ที่ใช้เพื่อนเป็นทางผ่านไปสู่ความสำเร็จของตัวเอง

เขา .. ในสายตาของเธอ .. คือ ผู้ชายไร้เหตุผล เอาแต่ตนเองเป็นใหญ่

ที่สำคัญเหนืออื่นใด .. ทั้งเธอและเขา .. กำลังตกหลุมรักคนที่ไม่ควรจะรัก!




***************************
Tags: ความรัก ครอบครัว เพื่อน

ตอน: ใยเส้นที่ 2 .. ไฟ .. บรรลัยกัลป์



แผ่นฟ้าเหนือทะเลอันดามันยามนี้ มืดมิดราวม่านกำมะหยี่สีดำทึบทับทาบทั่วทิศ หากงดงามด้วยอัญมณีแห่งราตรีเปล่งประกายระยับวับวาว มองไกลออกไปนอกชายฝั่ง เรือประมงลอยลำเห็นแสงโป๊ะไฟอยู่ลิบๆเป็นระยะ ท่ามกลางเกลียวคลื่นม้วนตัวซัดสาดเข้าหาผืนทรายที่ระดับน้ำทะเลเอ่อเต็มล้นยามค่ำคืน


หากแต่มันไม่ได้อยู่ในความสนใจของเพลิงกัลป์อีกต่อไป เพราะสายตาคู่เฉียบคมกำลังเพ่งมองไปยังกลุ่มคน ที่พยายามประคับประคองแต่ละย่างก้าวกันมา โดยมีหนึ่งในสามคนนั้นเดินกระย่องกระแย่งอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งถ้าไม่มีอีกสองคนคอยพยุงขนาบข้าง เขาก็เชื่อว่ากว่าจะมาถึงโรงแรมคงเป็นพรุ่งนี้เช้านั่นล่ะ


ด้วยระยะทางจากเวิ้งโขดหินที่ชายหนุ่มมักจะใช้เวลาอยู่ที่นั่นเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียด แล้วค่อยเดินเลียบหาดกลับมายังรู้ค รีสอร์ทแอนด์สปาของเขา จะว่าใกล้ก็คงใกล้สำหรับคนที่คุ้นชิน แต่มันก็ดูจะไกลเอาเรื่องอยู่ไม่น้อยถ้าไม่ได้ใช้มันเดินไปกลับเป็นประจำ


นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มยังคงจับภาพของ ‘คนอวดดี’ ไม่ลดละ นี่ถ้าไม่ใช่เพราะน้องสาวของเพื่อนรักเคยได้ฝากกันไว้ เพลิงกัลป์อาจจะได้ฝังมัสลินไว้ปลายเวิ้งด้วยข้อหาอวดดื้อถือดีกล้ามาตีฝีปากกับเขาไปแล้ว


คนที่คอยพยุงอยู่ทางขวาคือเวหา น้องสาวของเขาซึ่งชายหนุ่มลงทุนลงแรงเดินไปเคาะที่ประตูห้องบอกกล่าวว่า มีคนต้องการความช่วยเหลือ ด่วน!


เวหาที่อยู่ระหว่างการพักผ่อนในห้องส่วนตัว เธอกำลังคุยโทรศัพท์ขณะมาเปิดประตูรับ คนเป็นพี่ไม่สนใจว่าน้องสาวจะคิดอย่างไร แต่คนข้างนอกนั่นคงรอช้าไม่ได้


หญิงสาวพูดอะไรกับใครบางคนอีกสองสามคำก่อนตัดสาย แล้วก้าวเท้าพ้นประตูตามเขาออกมาทันที พร้อมกับโทรศัพท์เรียกนิกรมาช่วยอีกแรง


เมื่อมาพร้อมแล้วจึงมุ่งหน้าไปยังจุดเกิดเหตุ เพียงแต่เพลิงกัลป์เลือกที่จะรอดูสถานการณ์อยู่ห่างๆ เพราะคงไม่สามารถทำอะไรมากไปกว่านี้ได้



นั่นคือ สิ่งที่เพลิงกัลป์คิดออกและทำลงไป นับตั้งแต่หันหลังกลับ เดินจากเวิ้งตรงนั้นมาอย่างรวดเร็ว เพราะถ้าขืนชักช้าความมืดจะโรยตัวลงเสียก่อน ซึ่งมันก็เป็นเช่นนั้นแล้วจริงๆ


แม้ว่าเกาะแห่งนี้แม้จะมีระบบไฟฟ้าที่สามารถใช้ได้ยี่สิบสี่ชั่วโมง แต่การประหยัดแสงไฟในพื้นที่ที่ไม่จำเป็น ก็ถือเป็นแนวทางที่จะทำให้ทุกคนสามารถใช้มัน เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด


ที่สำคัญบริเวณโขดหินสุดเวิ้งเกาะแห่งนี้ ยังไม่มีกระแสไฟฟ้าจากแหล่งใดไปถึง


ทางลงสู่ชายหาดของรู้คในเวลาเย็นช่วงโพล้เพล้ พนักงานที่อยู่กะบ่ายจะช่วยกันเดินจุดเทียน ที่มีกำบังลมกันดับเพื่อให้แสงทอดเป็นระยะทางเกือบร้อยเมตร แทนการใช้คบเพลิงน้ำมันก๊าด แต่นั่นมันยังไม่เพียงพอที่จะส่องสว่างไปถึงเวิ้งนั้น


เพลิงกัลป์นึกย้อนถึงอุบัติเหตุเมื่อกว่าชั่วโมงที่แล้ว ชายหนุ่มเห็นชัดเจนและแน่ใจว่า หญิงสาวที่นั่งก้นจ้ำเบ้าอยู่คงจะเจ็บพอสมควร แต่เพราะเจ้าตัวเองนั่นล่ะ ที่ทำท่าเย่อหยิ่งและจองหองกับเขาเหลือทน


“เด็กบ้าเอ๊ย”


เสียงสบถขุ่นมัวเกิดขึ้นเมื่อเขาได้ตัดสินใจไปว่าต้องทิ้งคนบาดเจ็บ แล้วเร่งก้าวเดินรีบร้อนจนถึงจุดที่คิดว่า พ้นสายตากราดเกรี้ยวจากดวงตาคู่สวยแต่คมดุ


ตอนนั้นเขาก็เปลี่ยนเป็นวิ่งเต็มฝีเท้าหวังจะไปให้ถึงโรงแรมโดยไม่เสียเวลา กระทั่งยืนมองราวกับรอการกลับมาของคนที่ไม่อยากดูดำดูดีด้วยตรงหน้าหาดของรู้คนี่เอง พร้อมกับพึมพำปรามาสให้ลอยตามลม เผื่อว่า ‘คนหัวดื้อ’ จะได้ยินขึ้นมาบ้าง


“หึ .. ทำไมไม่เก่งให้ตลอดล่ะ .. ลินิน”





เวหาช่วยประคองมัสลินพาเข้ามาในห้องพัก ที่ทางรู้คจัดไว้เป็นการเฉพาะ สำหรับสต๊าฟของวิริยา ไทยทัวร์ ซึ่งหัวหน้าสต๊าฟจะได้สิทธิพิเศษเป็นบังกะโลหลังเดี่ยวอยู่ในโซนเดียวกับที่พักของผู้บริหารโรงแรมแห่งนี้


“เป็นยังไงบ้างลินิน ไปทำอิท่าไหน ถึงได้เจ็บขนาดนี้ ดีนะที่พี่ .. เอ่อ เฉลียวใจว่าจะค่ำแล้วไม่เห็นเราน่ะ เลยออกไปตามหา”


ฟร้อนท์ ออฟฟิศ แมเนเจอร์ถามไถ่ความเป็นมา ที่พอจะคาดเดาถึงสาเหตุความเป็นไปได้ไม่ยาก จนเกือบเผลอเอ่ยพาดพิงใครบางคนเข้า แต่เพราะสายตาเข้มๆคล้ายพร้อมจะมีเรื่องได้ทุกขณะจ้องมองอยู่ด้วยความสงสัย ทำให้เวหาเบี่ยงบ่ายไปเรื่องอื่นได้ทัน


ไม่นานนิกรก็เดินเข้ามาสมทบในห้องอีกคน หลังจากให้ความช่วยเหลือหญิงสาวกระทั่งมาส่งเมื่อครู่ ก่อนขอตัวไปหยิบอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้นมาดูแลคนเจ็บ


“นั่นสิ แล้วเดินไปซะไกลเชียวน้องลินิน มันอันตรายนะ”


“ลินินขอโทษค่ะ ที่ทำให้พี่ฟ้ากับพี่นิกกี้เดือดร้อน .. อุ๊ย”


มัสลินเอ่ยเสียงอ่อยขณะนั่งบนที่นอนตรงปลายเตียงเพื่อห้อยขาทั้งสองข้าง แล้วจู่ๆก็ต้องสูดปากเพราะความแสบจากแอลกอฮอล์ล้างแผล ที่นิกรกำลังทำความสะอาดให้โดยไม่รังเกียจ


“โทษทีจ้ะ ลืมบอกก่อนว่าที่นี่มีแต่แอลกอฮอล์ ไม่มีน้ำเกลือ”


“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวลินินทำเองก็ได้ พี่นิกกี้ส่งอุปกรณ์มาเถอะค่ะ .. ลินินเกรงใจ อีกอย่างพี่นิกกี้เป็นผู้ชาย ..”


“ต๊าย .. หยาบคายนะน้องลินิน ..”


นิกรส่งค้อนปะหลับปะเหลือกให้มัสลิน ส่วนเวหาก็ได้แต่กลั้นหัวเราะกับประโยคโต้ตอบกันของสองสาว ซึ่งคิดว่าเป็นการดี ที่จะได้ไม่ต้องถามมากกว่าว่า พวกเธอรู้เรื่องและไปรับกลับมาได้อย่างไร


ชายหนุ่มรุ่นพี่แต่จริตจะก้านแพรวพราวอมยิ้ม บอกให้รู้ว่าที่พูดนั้นเป็นการสัพยอก ก่อนเอ่ยกับคนเจ็บไปพลางทำแผลไปพลาง เลยไปจนถึงโปรแกรมนำเที่ยวของกรุ๊ปทัวร์ ตลอดจนสุขอนามัยต่อบาดแผลฟกช้ำของมัสลิน


“ดูซิเนี่ย .. ขาขาวๆสวยๆเป็นแผลหมด เออ .. แล้วพรุ่งนี้เช้าจะไปเกาะรอกไหวเหรอจ๊ะ .. พี่ว่าคืนนี้มันต้องระบมแน่ๆ อีกอย่างน่าจะต้องไปให้หมอที่อนามัยดูแผลหน่อยนะ หินแถวนั้นมันสกปรกเดี๋ยวเชื้อโรคมันจะเข้า”


“นั่นสิ .. เอาอย่างนี้มั้ย คืนนี้พี่มานอนเป็นเพื่อน เผื่อถ้าเป็นไข้จากแผลอักเสบขึ้นมา จะได้ดูแลกันได้ทัน”


มัสลินทำหน้าเหยเกตอนนิกรเผลอบีบนวดข้อเท้าที่ปวดแรงไปนิด แต่นั่นคือการนวดบรรเทาอาการให้เธอ พร้อมๆกับรู้สึกซาบซึ้งใจในความห่วงใยของเวหา แม้ว่ามันอาจจะเป็นผลพลอยได้มาจากการที่เธอเป็นเพื่อนสนิทของพายพัดก็ตาม จึงกล่าวกับเวหาและนิกรอย่างเกรงอกเกรงใจเหลือประมาณ


“ลินินขอบคุณพี่ๆมากนะคะ แค่นี้ก็รู้สึกว่ามาทำตัวเป็นภาระมากพอแล้วค่ะ .. พรุ่งนี้ ถึงไม่ไหวก็ต้องไหวค่ะ เพราะรับงานมา ยังไงก็ต้องรับผิดชอบให้ถึงที่สุด”


ผู้จัดการต้อนรับส่วนหน้ากับผู้ช่วยหันมองสบตา และรับรู้ซึ่งกันอย่างอ่อนใจกับความดื้อรั้นของอีกฝ่าย แต่ก็เข้าใจได้ว่ามัสลินไม่ได้มีเจตนาเป็นอื่นนอกเหนือไปจากที่พูด เวหาจึงเอ่ยสรุปความเสียเองเมื่อเห็นนิกรพันแบนเดจที่ข้อเท้าข้างซ้ายของมัสลินเรียบร้อยแล้ว


“ดื้อจริงๆ .. เอาเป็นว่า ถ้ารู้สึกไม่ดีก็โทร.เบอร์ภายในไปหาพี่ หรือพี่นิกกี้ทันทีนะ อย่าให้ต้องเป็นห่วงมากไปกว่านี้เลย”


มัสลินพยักหน้าหงึกหงักมีรอยยิ้มซีดเซียวตอบรับคำตำหนิของรุ่นพี่ เธอรู้ดีว่านั่นเป็นความห่วงใยจากใจจริงๆ แต่ภาระหน้าที่ที่ยังมีอยู่ ทำให้ไม่สามารถตอบรับความหวังดีได้ทั้งหมด






เพลิงกัลป์กอดอกยืนนิ่งอยู่ตรงเทอร์เรซหน้าห้องพักของตน นานพอๆกับระยะเวลาที่กลุ่มคนทั้งสามมาถึง แล้วพากันหายเข้าที่พักรับรองถัดจากตรงนี้ไปสามหลัง จากนั้นก็มีเพียงสองคนที่ก้าวออกมา


ชายหนุ่มเห็นนิกรแยกตัวไปอีกทาง ที่ถูกจัดแบ่งเป็นสัดส่วนสำหรับที่พักของพนักงาน ซึ่งอยู่ตรงข้ามฟากถนนเส้นหลักบนเกาะ ส่วนเวหากำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ ด้วยสีหน้าที่บ่งบอกยิ่งกว่าคำพูด


คนที่เฝ้ามองเหตุการณ์มานานนับชั่วโมงจึงหันหลังเดินเข้าห้องไป เพราะรู้ดีว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า เขาจะต้องตอบคำถามและข้อสงสัยจนกว่าจะหมดจดสดใสราวผ้าที่ถูกซักฟอก


ประตูที่เพิ่งปิดถูกเคาะเป็นสัญญาณขออนุญาต และเปิดเข้ามาอย่างรวดเร็ว ตามด้วยร่างของคนที่เพลิงกัลป์คาดการณ์ไว้อย่างแม่นยำ


“พี่ไฟ .. ฟ้าถามหน่อย ไปทำอะไรลินินกันแน่ น้องถึงได้เจ็บตัวขนาดนั้น”


“เด็กนั่นฟ้องมารึไง ถึงมาไล่เบี้ยกับพี่”


เพลิงกัลป์ทำน้ำเสียงราวอิดหนาระอาใจเต็มทน กับการฟังความข้างเดียวของเวหา ขณะที่เขาตั้งท่าว่า กำลังคร่ำเคร่งกับงานที่นำกลับมาพิจารณาถึงห้องพักด้วย


“คิดได้ไงคะพี่ไฟ .. ว่าลินินฟ้อง .. แล้วก็ไม่ต้องทำเป็นเอางานมาบังหน้า ฟ้าเห็นนะ ตั้งแต่พี่ไฟมาบอก ยันพวกเราไปรับลินินกลับมา พี่ไฟน่ะยืนจ้องตาเขม็งเชียว ..”


เวหาขยับตัวสืบเท้ามายืนเบื้องหน้าพี่ชาย แล้วนั่งลงบนเก้าอี้หวายมีเบาะรองเข้าชุดกับเตียงหวายมีพนักหัวท้าย ที่เธอมักจะเห็นเจ้าของห้องนั่งๆนอนๆแถวนี้บ่อยๆ เวลาต้องการทำงานแบบเป็นส่วนตัวโดยไม่มีใครกล้ารบกวน


หญิงสาวเองก็ทำกิริยาเดียวกันกับที่กำลังพูดอยู่ คือจ้องหน้ามองตาเพลิงกัลป์จนเขารำคาญ ต้องเลิก ‘ทำเป็น’ อ่านสัญญาระหว่างโรงแรมมณเฑียร สวีท โฮเทล กับ รู้ค รีสอร์ทแอนด์สปา แล้วเหลือบสายตาเข้มเจืออารมณ์หงุดหงิดมาที่น้องสาว


เปล่า .. เขาไม่ได้โกรธหรือโมโหเวหา แต่เป็นมัสลินต่างหาก ที่ชอบทำตัวให้เป็นปัญหาไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แบบนี้จะไม่ให้เสียอารมณ์ได้อย่างไร


ทว่า ขณะที่เพลิงกัลป์ได้แต่คิดถึง ‘ตัวปัญหา’ เงียบๆในใจ กลายเป็นการเปิดช่องว่างให้เวหาพูดต่อจากที่ละไว้เมื่อครู่พอดี


“ .. หรือว่า ที่ต้องคอยมองเพราะ .. เป็นห่วง .. ใช่หรือเปล่าคะ ..พี่ไฟ”


เท่านั้นเอง ชายหนุ่มที่รู้สึกกรุ่นๆอยู่ภายใน ถึงกับกราดเกรี้ยวเอาจริงเอาจริงกับคำขยายความเชิงล้อเลียนของน้องสาวทันที


“จะบ้ารึยัยฟ้า พี่จะไปเป็นห่วงเด็กบ้านั่นทำไม โตแต่ตัว ชอบสร้างแต่ปัญหาไม่รู้จักหยุดจักหย่อน .. มีอย่างที่ไหนจะมือจะค่ำ ยังเดินเตร่ไปได้ถึงเวิ้งหินโน่น ไม่รู้รึไงถ้าน้ำขึ้น มันจะท่วมชะง่อนหินพวกนั้นจนเดินออกมาไม่ได้ แถมถ้าเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นมา เราจะรับผิดชอบไหวเรอะ”


เพลิงกัลป์ใส่อารมณ์เต็มที่ ราวกับได้ระบายความหงุดหงิดต่อหน้าตัวต้นเหตุในสายตาเขา แต่คนที่อยู่ตรงนี้คือเวหา ไม่ใช่คนที่กำลังถูกตำหนิเสียหาย


“ใจเย็นสิพี่ไฟ .. ฟ้าแค่เห็นว่า ถ้าพี่ไฟไม่มาบอก ลินินก็อาจจะต้องอยู่ในสถานการณ์ที่พี่ไฟว่าไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง .. เอาล่ะๆ ไม่เป็นห่วง ก็ไม่เป็นห่วง .. ไม่เห็นต้องเสียงดังเลย”


พอได้ฟังเวหาเตือนตามความจริงด้วยน้ำเสียงติดจะยำเกรง ต่อความเดือดดาลแทบทะลุปรอท เพลิงกัลป์จึงได้สติมองหน้าน้องสาวที่ดูจืดเจื่อนไป แต่เพราะเขายังเชื่อว่าความคิดกับคำพูดนั้นถูกต้องที่สุด เลยสะบัดหน้าไปอีกทางเหยียดยิ้มไม่น่าดูสักนิดในความคิดของเวหา เหมือนกับต้องการส่งมันไปถึงใครบางคน


“หึ .. อย่าคิดว่าเป็นคนของวิริยา ไทยทัวร์ แล้วจะทำอะไรตามใจชอบได้ ที่นี่ .. พี่มีสิทธิ์ที่จะห้าม หรือให้ทำอะไรก็ได้ ถ้าพี่เห็นว่าสมควร”


“ค่ะๆ .. พี่ไฟใหญ่ที่สุดนี่คะ ก็แล้วแต่เถอะค่ะ .. ขออย่างเดียว อย่ามองรุ่นน้องของฟ้าในแง่ร้ายนักเลย ฟ้าไม่รู้หรอกว่า ไปเป็นขมิ้นกับปูนกันมาแต่ชาติปางไหน แต่ถึงยังไงเราก็คนกันเอง รู้จักกันมาก็นานพอดู อย่าให้กลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว หรือร้ายแรงจนเป็นไฟลามทุ่งเลยค่ะ”


“พี่รู้น่า .. แต่กับคนบางคน ถ้าพูดดีแล้วไม่เชื่อไม่ฟัง มันก็ต้องหาวิธีกำราบบ้าง”


เวหาแทบจะถอนหายใจระบายความคับข้องต่อหน้าเพลิงกัลป์เลยทีเดียว ติดที่ว่าเธอไม่อยากเป็นเชื้อฟืนโหมเร่งไฟให้ร้อนแรงขึ้นมาอีก จึงเงียบเอาไว้ ก่อนจะวกเข้ามาคุยเรื่องงานของมัสลินที่เธอแอบเป็นกังวลกับอาการบาดเจ็บที่ดูจะไม่น้อยเลย


“ตอนนี้ฟ้าเป็นห่วงลินินจริงๆนะคะ .. พรุ่งนี้ต้องไปเกาะรอกตอนแปดเก้าโมง ไหนจะลูกทัวร์อีก สต๊าฟผู้ช่วยที่มาด้วยกันก็ไม่รู้ว่าจะดูแลแทนลินินได้มั้ย ถ้าหากน้องไปไม่ไหว”


“หืม .. หนักมากเลยเหรอ”


ก็ว่าจะไม่ใส่ใจ .. แต่แค่การถามไถ่ถึงสวัสดิภาพของตัวแทนจากเอเยนซี่คู่ธุรกิจ คงไม่น่าจะผิดแปลกตรงไหน อีกอย่างชายหนุ่มก็ไม่ต้องการให้ ‘น้องพาย’ ตำหนิได้ว่า ดูแลเพื่อนของเธอไม่ดี .. เท่าที่ควร


“ฟ้าสั่งห้องอาหารให้จัดมื้อเย็นเบาๆและยกมาที่ห้องลินินก่อนจะออกมาน่ะค่ะ แล้วหายาแก้ปวดแก้อักเสบให้กินก่อนนอน .. เรื่องทัวร์เกาะพรุ่งนี้ ฟ้าบอกให้พักก็ไม่ยอม จะไปให้ได้ไม่ห่วงตัวเองเล้ย ..”


“เห็นมั้ยล่ะ ดื้อก็เท่านั้น .. ทำเป็นเก่ง เดี๋ยวก็ไปเป็นภาระคนอื่น แทนที่จะอยู่เฉยๆ”


เพลิงกัลป์ได้ทีเสริมคำที่เวหาบอกเล่าให้ฟัง ซึ่งเธอไม่ได้มีเจตนาซ้ำเติมเพียงแต่อยากให้พี่ชายมองเห็นข้อดีของมัสลินบ้างว่า ต่อให้เจ็บป่วยก็ยังมีความรับผิดชอบไม่ละทิ้งหน้าที่ แต่นี่อะไร พี่ชายกลับมองคนละด้านแถมยังดูราวกับไม่พอใจจนออกนอกหน้า


“เฮ้อ .. ฟ้าขี้เกียจพูดกับพี่ไฟแล้ว ไปหาข้าวกิน .. อาบน้ำนอนคุยกับแฟนให้สบายใจดีกว่า ไม่อยากมัวเสียเวลานั่งคุยกับพี่ชายเจ้าอารมณ์ตรงนี้แล้ว .. ฝันดีค่ะ .. คุณเพลิงกัลป์”


หญิงสาวตัดบทอย่างเบื่อหน่าย บอกลาเพื่อทำตามสิ่งที่บรรยายมาทั้งหมด ในตอนที่ลุกขึ้นยืนเท้าสะเอวพูดกับชายหนุ่ม ด้วยความรู้สึกหมั่นไส้เหลือกำลัง แล้วหันหลังกลับสาวเท้าไปยังประตูโดยไม่รอให้พี่ชายได้คิดทันกับบางคำในประโยคยาวเหยียด เพราะกว่าจะคิดได้ประตูห้องพักก็ปิดปังเบาๆไปแล้ว


ทิ้งให้เพลิงกัลป์ทบทวนอีกอึดใจ แล้วส่งเสียงเป็นคำถามดังไล่หลังไป แต่ว่ามันกลับติดอยู่แค่หน้าประตูนี่เอง


“เดี๋ยว .. ยัยฟ้า .. แฟนที่ว่าน่ะ .. ใคร .. เฮ้ กลับมาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน”






๘.๓๐ น. คือเวลาที่ลูกทัวร์สิบหกชีวิต ค่อยๆทยอยกันขึ้นเรือเร็วหรือสปีดโบ้ทชนิดสองเครื่องยนต์ ที่ทางรู้คจัดเตรียมไว้ ๒ ลำ แต่ละลำสามารถรองรับผู้โดยสารได้ไม่เกิน ๑๕ คน พร้อมกับแจกจ่ายอุปกรณ์ชูชีพเพื่อความปลอดภัย


ส่วนนักท่องเที่ยวอีกเจ็ดคนที่มากับคณะ ปฏิเสธการทัวร์เกาะเนื่องจากสุขภาพส่วนตัว และเกรงว่าหากฝืนกำลังเดินทางไปด้วย อาจเกิดอาการเมาเรือจนทำให้หมดสนุกได้ จึงขออยู่พักผ่อนหรือเลือกแพ็คเกจท่องเที่ยวบนเกาะดีกว่า และแน่นอนว่ามีทีมงานสต๊าฟสแตนด์บายทางนี้พร้อม


การนำเที่ยวเกาะรอกเป็นแบบวันเดย์ทริป คือไปเช้าบ่ายกลับมีอาหารเที่ยงรับรองบนเกาะ และที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยาน จึงมีความปลอดภัยในระดับหนึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวให้พออุ่นใจ


ทว่า ในสายตาเพลิงกัลป์หัวหน้าสต๊าฟทัวร์อย่างมัสลิน ดูท่าทางแล้วไม่น่าไว้วางใจเกี่ยวเนื่องมาจากสุขภาพมากกว่าใคร เมื่อเขาเห็นว่า หญิงสาวเดินโขยกเขยกปะปนอยู่ในกลุ่มลูกทัวร์กับสต๊าฟผู้ช่วยอีกคน และกำลังจะพาตัวเองขึ้นเรือเป็นคนสุดท้าย จึงเร่งสาวเท้าเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว


“นี่มันอะไร .. ทำไมไม่พัก หรืออยู่ดูแลคนที่ไม่ไ่ด้ไป .. จะไปให้เกะกะเขารึไง”


แม้เนื้อเสียงถามจะเข้มข้น แต่ชายหนุ่มก็ไม่สามารถตะโกนถามอย่างใจคิดได้ เขาตะคอกด้วยเสียงกระซิบรอดไรฟันให้ได้ยินกันแค่สองคน ก่อนจะถือวิสาสะจับข้อศอกคนถูกดุ เพื่อลากออกมาคุยกันห่างๆ โดยที่เขาส่งสัญญาณให้ลูกน้องซึ่งประจำการบนเรือรับทราบ


มัสลินที่จู่ๆก็ถูกต่อว่าและโดนลากถูลู่ถูกังขึ้นมาบนชายหาดอย่างไม่ทันตั้งตัว ก็เผลอก้าวตามอีกฝ่ายเพราะตกใจ ยังดีหน่อยที่เขาไม่ได้รุนแรงขนาดทำให้ข้อเท้าที่เริ่มดีขึ้นปวดจนทนไม่ไหวอีก


พอตั้งสติได้ก็มีแรงฮึดสะบัดข้อศอกให้หลุดจากการจับยึด แต่ชายหนุ่มแข็งแรงเกินกว่าที่หญิงสาวจะสลัดให้หลุดได้ง่ายๆ จึงโต้ตอบด้วยน้ำเสียงขุ่นเคืองแต่กดให้เบาไม่ต่างกัน


“จะบ้ารึไง คุณเพลิงกัลป์ .. ฉันกำลังทำงานนะ งานของคุณด้วย .. ทำแบบนี้ไม่กลัวขายหน้าเขารึไงคะ .. ท่านประธาน .. รู้ค”


มัสลินอยากจะโวยวายให้ลั่นหาด กับการกระทำอุกอาจของคนที่ได้ชื่อว่า มีอำนาจสูงสุดของโรงแรมแห่งนี้ แต่เธอก็ยังมีความยับยั้งชั่งใจมากพอ ที่จะไม่ทำลายชื่อเสียงของบริษัทที่ตนเองสังกัดอยู่


ลองสิ .. ลองว่าถ้าเธอมาเป็นการส่วนตัว แล้วเจอใครมาทำแบบนี้ .. ไม่โดนตะบันหน้าก็ให้มันรู้ไป


“เธอนั่นล่ะ .. เจ็บแล้วไม่เจียม ยังจะฝืนไปให้เขาลำบากกันทำไม แทนที่จะช่วยให้งานง่ายขึ้น .. ภาระแท้ๆ”


เพลิงกัลป์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆเค้นเสียงดุเข้มตอกย้ำความจริง ที่คนฟังเองก็รู้แก่ใจแต่ที่ทำได้คือเม้มปากแน่น ก้มหน้าระงับอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่านขึ้นทุกวินาที จนลืมไปว่าตอนนี้สถานการณ์รอบกายของทั้งสองคน คือเป้าสายตานับสิบๆคู่ดีๆนี่เอง


“ฉัน .. จะ .. ไป .. ต่อให้ขาฉันจะหักในนาทีนี้ ... ฉันก็จะไป”


จู่ๆมัสลินก็เงยหน้าขึ้นมา เอ่ยคำพูดเสียงกร้าวยืนยันความตั้งใจ หญิงสาวมองลึกเข้าไปในแววตาของเพลิงกัลป์เพื่อบอกให้เขารู้ว่า ต่อให้เป็นตายร้ายดี เขาก็ไม่มีวันห้ามเธอได้


ดวงตาคู่คมสวยเคลือบแววดุราวแม่เสือ ฉายให้เห็นประกายความเด็ดเดี่ยวและมุ่งมั่น .. ชายหนุ่มมองเห็นมันได้อย่างชัดเจน .. ชัดเสียจน .. เหมือนมีอะไรในร่างกายมากระทุ้งหน้าอกจนมันกระเพื่อมไหวในจังหวะแตกต่างไปจากทุกที


“ปล่อย .. ถ้าได้ยินชัดแล้วก็ .. ปล่อย”


หญิงสาวเป็นฝ่ายรู้สึกตัวก่อนว่ามองจ้องกันนานเกินไป จึงเสก้มดูมือใหญ่ที่ยังกุมข้อศอกไว้ หากแต่ก็ไม่ได้รัดแน่นแล้ว จึงบอกให้เขารู้ตัวบ้าง


เพลิงกัลป์ก้มมองตามอย่างช่วยไม่ได้ ถึงจะขัดใจกับน้ำเสียงแข็งๆเหมือนข่มขู่ หากก็ยอมทำตามที่มัสลินบอกแต่โดยดี .. จนตัวเองต้องขมวดคิ้วงุนงงว่า ทำไมต้องฟังคำสั่งของเธอ!






ในที่สุดสปีดโบ้ทสองลำที่แล่นตามกันเหนือผืนน้ำทะเลครามเข้มแห่งอันดามัน ก็มาถึงเกาะรอกภายในเวลาเกินชั่วโมงไปเพียงเล็กน้อย และก็เป็นหน้าที่ของทางรู้ค ที่จะดำเนินการเกี่ยวกับธรรมเนียมต่างๆเมื่อมายังเกาะแห่งนี้ ก่อนจะชี้แจงเรื่องสำคัญที่นักท่องเที่ยวควรทราบให้เข้าใจ แล้วปล่อยให้ทุกคนได้ดื่มด่ำกับความงามตามธรรมชาติ


มัสลินยกตำแหน่งหัวหน้าสต๊าฟเฉพาะกิจให้เพื่อนร่วมงานอีกคน ซึ่งได้คุยและตกลงกันมาเป็นที่เรียบร้อยตั้งแต่เมื่อคืน เพราะเธอรู้ตัวอยู่แล้วว่าไม่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่


ทว่า คนบางคนไม่เข้าใจ .. และไม่คิดจะทำความเข้าใจด้วยซ้ำ ถึงได้มาตำหนิการทำงานของเธอ


ส่วนคนบางคนที่ว่า .. กลับเดินดุ่มๆแยกตัวออกจากกลุ่มไปทางที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยาน ทำราวกับว่าคุ้นเคยกับเจ้าหน้าที่ที่นี่เสียเหลือเกิน


แม้มือจะทำงานจัดเตรียมอาหารกลางวันกับลูกน้องของเพลิงกัลป์ ในตำแหน่งคนขับเรือที่รู้จักกันอยู่แล้ว แต่สายตาก็อดซอกแซกติดตามชายหนุ่มจอมเผด็จการไปด้วยไม่ได้


“บัง .. คุณไฟเขาสนิทกับเจ้าหน้าที่บนเกาะด้วยเหรอคะ”


มัสลินถามอย่างชวนคุยมากกว่าจะให้คู่สนทนาผิดสังเกตจนจับได้ว่า หญิงสาวทำตัวสอดรู้เกินไป ซึ่ง ‘บัง’ ที่เธอใช้เรียกแทนชื่อในความหมายว่า ‘พี่’ ก็เงยหน้าจากแร็คที่บรรจุถาดและกล่องอาหาร เพื่อป้องกันการทับซ้อน ซึ่งเขากำลังยกขึ้นตั้งโต๊ะรอให้บริการเป็นมื้อเที่ยง


บังคิด หรือ พี่สมคิดหันมาทางมัสลินยิ้มเผล่กับคำถาม ก่อนบอกอย่างอารมณ์ดีด้วยสำเนียงของชาวเกาะทางใต้


“นายหัวแกก็สนิทกับพวกนายๆ ทั้งนั้นล่ะ คุณลินิน .. ไม่งั้นอยู่ไม่ได้หร้อก”


คำพูดชวนสะกิดใจของบังคิด ทำให้มัสลินต้องหันไปมองยังเพลิงกัลป์อีกครั้ง ตั้งแต่ที่เขากระโดดขึ้นเรือมากับคณะทริปท่องเกาะ จนถึงบัดนี้หญิงสาวยังไม่รู้เลยว่า จะต้องพบกับความประหลาดใจเพิ่มกี่มากน้อย .. กว่าการท่องเที่ยวหนนี้ของพวกเธอจะจบลง






หลังจากนักท่องเที่ยวในคณะทัวร์ของมัสลิน รวมถึงสต๊าฟและพนักงานทุกคนรับประทานอาหารกลางวันเรียบร้อยแล้ว ก็นัดหมายมาขึ้นเรือเพื่อพาไปยังจุดดำน้ำดูปะการังน้ำตื้นบริเวณท้ายเกาะ และไม่ว่าจะได้มาเยือนรอบแล้วรอบเล่า ท้องทะเลแห่งนี้ก็ยังมีมนตร์เสน่ห์น่าหลงใหลไม่เสื่อมคลายสำหรับเธอ


เมื่อมัสลินดูนาฬิกาก็เห็นว่าใกล้ได้เวลาต้องอำลาเกาะที่มีชายหาดสวยและน้ำทะเลสีเขียวคราม เธอจึงเตรียมตัวเองให้พร้อมก่อนที่จะมีใครมากระทบกระเทียบให้เจ็บใจอีก


หญิงสาวก้าวขึ้นเรืออย่างระมัดระวัง และด้วยความช่วยเหลือของบังคิด ที่จัดที่นั่งข้างคนขับให้ เธอจะได้ไม่ต้องยืนหรือลำบากจากอาการเจ็บขาจนเกินไป


มัสลินยิ้มกว้างขอบคุณในความเอื้อเฟื้อและเธอก็ไม่ปฏิเสธที่จะรับไว้ แล้วบังคิดก็ถอยออกไปทำหน้าที่ลูกเรือ โดยการถอนสมอและหันเครื่องยนต์กับใบพัดให้อยู่ในตำแหน่งพร้อมใช้งาน


ความที่เพลิดเพลินนั่งชมวิวทิวทัศน์ผ่านกระจกด้านข้างระหว่างรอคนขับเรือ ทำให้ไม่ทันได้สังเกตว่า คนที่มาประจำตำแหน่งควบคุมเรือนั้นไม่ใช่บังคิดคนขับเรือคนเดิม


เสียงเครื่องยนต์เรือดังกระหึ่มให้ได้ยิน เป็นสัญญาณแสดงว่า ทุกอย่างพร้อมสำหรับการเดินทางกลับ หลังจากท่องเที่ยวและดำน้ำชมความงดงามใต้ท้องทะเลอย่างสนุกสนานมาเกือบทั้งวัน


กระทั่งมัสลินหันหน้ามองไปยังคนขับเรือ จึงได้เห็นว่า คนที่เธอหลีกเลี่ยงตลอดวันนับแต่มาถึงและอยู่บนเกาะรอกนั้น กลับมาเคียงข้างใกล้กันแค่นิดเดียวเอง






เพลิงกัลป์ชำเลืองสายตาเพียงชั่ววินาทีก็เห็นแล้วว่า ใครบางคนกำลังจ้องเขม็งด้วยดวงตาที่มีคำถามมากมายในแววสวยดุคู่คม


ชายหนุ่มทำเป็นไม่ให้สนใจ ว่าเธอจะคิดอะไรอยู่ นอกจากโยกคันบังคับเร่งความเร็วของสปีดโบ้ท ค่อยๆปรับระดับจนมันทะยานแหวกกระแสคลื่น มุ่งหน้ากลับสู่เกาะโรงแรมที่พัก


ระหว่างมองผิวน้ำเบื้องหน้าสลับกับแผงควบคุมในการบอกทิศทาง แวบหนึ่งเขาก็หันมามองหญิงสาวที่นั่งเงียบเต็มตา ซึ่งเธอก็บ่ายหน้ากลับไปทางเกาะท่องเที่ยวที่เพิ่งจากมา


ถ้าเป็นศิรา .. เธอจะชอบที่นี่หรือเปล่านะ


เพลิงกัลป์พยายามดึงความสนใจของตนด้วยใครอีกคน ที่เขาคิดว่าควรให้ความสำคัญมากกว่า ‘ยัยเด็กอวดดี’ ที่เจ็บแล้วไม่รู้จักเจียม


แต่พอชายหนุ่มนึกขึ้นมาได้ว่า ตั้งแต่เมื่อวานหลังจากมัสลินทำแผลแล้ว ก็ยังไม่มีใครมาเบิกกุญแจรถยนต์ส่วนกลาง เพื่อพาคนเจ็บไปพบแพทย์ที่อนามัยเลย


“นี่ .. ตอนแวะส่งลูกทัวร์หน้าหาด เธอไม่ต้องลงนะ .. เดี๋ยวจะพาไปทำแผล จะได้มั่นใจได้ว่าบาดทะยักจะไม่ถามหา”


มัสลินได้ยินเสียงเขากระแอมนิดหนึ่งก่อนเกริ่นออกมา เหมือนคนไม่เต็มใจจะพูดด้วย แต่พอขึ้นต้นด้วย ‘นี่’ นี่สิ คิ้วเรียวที่ถูกวาดจนโก่งสวยตามธรรมชาติต้องเลิกขึ้นก่อนจะขมวดมุ่นอย่างขัดใจ แล้วหันมาทางคนพูดเพื่อมองให้ชัดๆว่า อีกฝ่ายกำลังหวังดี .. หรือหาเรื่องกันแน่


“ฉันบอกแล้วไง .. ฉันต้องรับผิดชอบทุกชีวิตที่อยู่ในความดูแล .. แม้ว่าจะไม่ใช่ความผิดของฉันก็ตาม”


ท่าทางและน้ำเสียงของเขาช่างดูยิ่งใหญ่อวดศักดาเสียเหลือเกินในความคิดของมัสลิน แต่เธอก็เลือกที่จะเงียบ .. เหนื่อยเปล่าที่จะต่อล้อต่อเถียง ในเวลาที่ไม่พร้อมจะรับมือ


เพลิงกัลป์กระหยิ่มในใจที่คนอวดดีดูเหมือนจะอ่อนข้อลงไป .. มันก็น่าแปลกทำไมแค่เรื่องเล็กๆน้อยๆเพียงเท่านี้ สามารถสร้างความลำพองในจิตใจให้ฮึกเหิมได้ และมันก็ต่างจากการได้พูดคุยกับหญิงสาวที่เขารู้สึกดีด้วยเป็นคนละโยชน์เลย


ไม่สิ .. ความคิดของเจ้าของรีสอร์ทหนุ่มเริ่มขัดแย้งจนต้องรีบย้ำกับตัวเอง เขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับเพื่อนของพายพัดคนนี้ .. แต่เป็นศิราต่างหาก .. ที่ทำให้เขารู้สึกดี


แล้วที่เขาติดเรือของโรงแรมมาด้วย เพราะถือว่าเป็นการหาข้อมูลเพิ่มเติมจะได้ไม่เสียเที่ยว หากจะพาคนของทางมณเฑียร สวีท มาเยือนเกาะสวยน้ำทะเลใสอย่างเกาะรอก เพื่อประโยชน์ในอนาคตที่พึงมีร่วมกัน


เมื่อหาคำอธิบายให้เหตุผลจนเป็นที่น่าพอใจสำหรับตนเองแล้ว ชายหนุ่มก็ทำหน้าที่ของตนต่อไปเงียบๆ โดยไม่เอ่ยอะไรอีก เว้นแต่มีบางครั้งจะเหลือบมองมาทางหญิงสาว ยามที่เจ้าตัวขยับขาไปมาสลับกับนวดเฟ้นบริเวณที่ฟกช้ำ


เพลิงกัลป์เผลอระบายลมหายใจอย่างลืมตัว .. ขาเรียวสวยที่โผล่พ้นชายกางเกงยีนส์ขาสั้น แต่เต็มไปด้วยริ้วรอยหินครูด อีกนานเท่าใดกว่ามันจะเจือจางจนหายสนิทกันนะ


ชายหนุ่มไม่เข้าใจตัวเองนักว่า เขาควรจะรู้สึกเช่นไรกับผู้หญิงคนนี้ดี


เอ็นดูเหมือนที่เขารู้สึกกับ ‘น้องพาย’ .. มันก็คงจะเป็นไปไม่ได้


สงสาร หรือ เห็นใจ .. ไม่ เขามั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์ว่า คนที่มีสีนัยน์ตาราวกับม่านท้องฟ้ายามดึกสงัด จะไม่ยินดีรับความรู้สึกเหล่านี้แน่


เวทนา .. คงจะเหมาะและยกระดับให้ดูดีกว่าคำว่า ‘สมเพช’ ขึ้นมาหน่อย .. โทษฐานที่เธอดื้อดึงไม่เคยมองเจตนาที่ดีของเขาเลย .. แม้สักครั้ง





ทว่า .. คนที่ชายหนุ่มกำลังหาคำจำกัดความต่อความรู้สึก ก็กำลังสลักลึกความคิด และตอกย้ำกับบาดแผลของตนเอง ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน


มัสลินบีบนวดและคลึงข้อเท้าเบาๆ จนสบายขึ้นมานิดหนึ่ง แม้จะยังเจ็บอยู่ไม่น้อย แต่ก็ไม่เท่ากับความรู้สึกปวดแปลบที่แล่นปราด ยามถูกคนข้างๆมองมาโดยใช้สายตาหยามเยาะไม่ปิดบัง


เถอะ .. มันต้องมีสักวัน ที่เธอจะได้เอาคืนบ้าง .. ให้สาสมกับการกระทำ .. กับน้ำเสียงที่เขาหมิ่นแคลน


วันนี้ เจ็บมากเท่าไหร่ .. วันข้างหน้า นายจะต้องเจ็บมากกว่าที่เธอกำลังเป็น .. ร้อยเท่าพันทวี


นายเพลิงกัลป์!










************************************************************







โปรดติดตามตอนต่อไป ...



ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม .. และกดไลค์ให้นะฮะ



แรมรติ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 10 พ.ค. 2558, 11:36:24 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 10 พ.ค. 2558, 11:36:24 น.

จำนวนการเข้าชม : 1470





   ใยเส้นที่ 3 .. แม่ตัวดี >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account