พันธะรักจอมเถื่อน
ความทรงจำที่หายไปหลังจากประสบอุบัติเหตุพลัดตกจากเรือ
ทำให้ ‘อรอาภา’ นักออกแบบเครื่องประดับสาวที่กำลังประสบความสำเร็จอย่างสูง
ลืมเลือนไปหมดทุกสิ่งทุกอย่าง แม้แต่เรื่องที่ว่าตน ‘แต่งงาน’ และมี ‘สามี’ แล้ว
มิหนำซ้ำ ผู้ชายคนนั้นยังรักใคร่และดูแลเอาใจใส่เธอเป็นอย่างดี
จนกระทั่งหญิงสาวตายใจ ยอม ‘ทำหน้าที่เมีย’ ให้แก่เขาอย่างเต็มที่ ทุกวันและทุกคืน
แม้จะแปลกใจที่ ‘ร่างกายเธอ’...
ดูจะไม่คุ้นเคยกับการกอดรัดฟัดเหวี่ยงอันเร่าร้อนของเขาแม้แต่น้อย
หากไม่นานความจริงก็เริ่มปรากฏ...
ว่าคนที่เธอได้ ‘ทำความรู้จัก’ กันมาแล้วอย่างลึกซึ้งและถึงพริกถึงขิง
แท้ที่จริงเป็นซาตานจอมขี้โกง เชื่อใจไม่ได้ ที่หวังล่อลวง
และใช้ความโชคร้ายของเธอเป็นเครื่องมือบำเรอความสุขเพียงเท่านั้น!
ไม่มีใครล่วงรู้ว่าทำไม... ผู้ชายระดับ ‘ฟาเบียโน่ ลูอิส โดส ซานโตส โอลีเวย์ร่า’
นักธุรกิจมหาเศรษฐี เจ้าของเหมืองเพชรและทองแหล่งใหญ่ของประเทศบราซิล
จึงไม่รีรอที่จะสอนจังหวะร่างกายอันกระแทกกระทั้นเร้าใจอย่างหนุ่มละตินให้แก่เธอ
ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้... ถ้าคิดจะให้เขาชายตามองผู้หญิงแพศยา
ให้กินเศษเดนความสาวที่ผ่านมือชายมาเป็นร้อยน่ะหรือ... อย่าฝันไปเลย!
แต่เพราะอะไร ‘ความลับนั้น’ คงมีแต่เขาคนเดียวที่รู้...
และฟาเบียโน่ก็จะเก็บมันเอาไว้ ‘อย่างมิดชิด’ ให้เป็นปริศนา
เช่นเดียวกับที่เขาตั้งใจจะหน่วงเหนี่ยวเธอเอาไว้เป็นทาสบำเรอบนเตียงตลอดกาล
“ตายจริงเฟลิกซ์!! คุณได้แผลกลับมาด้วย ขอฉันดูหน่อยสิคะ”
อรอาภาตกใจพลางดึงใบหน้าที่ซบลงตรงหว่างอกของตัวเองออกมาอย่างยากลำบาก
หากแต่ไม่ได้รับความร่วมมือจากเจ้าตัวแม้แต่น้อย
ปากและจมูกของฟาเบียโน่ระดมจูบไปทั่วอกอวบทั้งสองข้าง
สูดกลิ่นหอมยวนใจที่ฝันหามาแสนนานเข้าเต็มปอด
“อื้อ... ดะ...เดี๋ยว เฟลิกซ์! ฉันอยากดูแผลให้คุณก่อน อื้อ...”
“แผลแค่นี้ไม่ทำให้ผมตายหรอกเมียจ๋า...
ถ้าจะตายก็คงตายเพราะไม่ได้รักคุณมากกว่า”
ฟาเบียโน่พูดอู้อี้กับอกอิ่มพร้อมออกแรงรัดเอวคอด
ลอยขึ้นด้วยแขนทรงพลังเพียงข้างเดียว
ทำให้ ‘อรอาภา’ นักออกแบบเครื่องประดับสาวที่กำลังประสบความสำเร็จอย่างสูง
ลืมเลือนไปหมดทุกสิ่งทุกอย่าง แม้แต่เรื่องที่ว่าตน ‘แต่งงาน’ และมี ‘สามี’ แล้ว
มิหนำซ้ำ ผู้ชายคนนั้นยังรักใคร่และดูแลเอาใจใส่เธอเป็นอย่างดี
จนกระทั่งหญิงสาวตายใจ ยอม ‘ทำหน้าที่เมีย’ ให้แก่เขาอย่างเต็มที่ ทุกวันและทุกคืน
แม้จะแปลกใจที่ ‘ร่างกายเธอ’...
ดูจะไม่คุ้นเคยกับการกอดรัดฟัดเหวี่ยงอันเร่าร้อนของเขาแม้แต่น้อย
หากไม่นานความจริงก็เริ่มปรากฏ...
ว่าคนที่เธอได้ ‘ทำความรู้จัก’ กันมาแล้วอย่างลึกซึ้งและถึงพริกถึงขิง
แท้ที่จริงเป็นซาตานจอมขี้โกง เชื่อใจไม่ได้ ที่หวังล่อลวง
และใช้ความโชคร้ายของเธอเป็นเครื่องมือบำเรอความสุขเพียงเท่านั้น!
ไม่มีใครล่วงรู้ว่าทำไม... ผู้ชายระดับ ‘ฟาเบียโน่ ลูอิส โดส ซานโตส โอลีเวย์ร่า’
นักธุรกิจมหาเศรษฐี เจ้าของเหมืองเพชรและทองแหล่งใหญ่ของประเทศบราซิล
จึงไม่รีรอที่จะสอนจังหวะร่างกายอันกระแทกกระทั้นเร้าใจอย่างหนุ่มละตินให้แก่เธอ
ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้... ถ้าคิดจะให้เขาชายตามองผู้หญิงแพศยา
ให้กินเศษเดนความสาวที่ผ่านมือชายมาเป็นร้อยน่ะหรือ... อย่าฝันไปเลย!
แต่เพราะอะไร ‘ความลับนั้น’ คงมีแต่เขาคนเดียวที่รู้...
และฟาเบียโน่ก็จะเก็บมันเอาไว้ ‘อย่างมิดชิด’ ให้เป็นปริศนา
เช่นเดียวกับที่เขาตั้งใจจะหน่วงเหนี่ยวเธอเอาไว้เป็นทาสบำเรอบนเตียงตลอดกาล
“ตายจริงเฟลิกซ์!! คุณได้แผลกลับมาด้วย ขอฉันดูหน่อยสิคะ”
อรอาภาตกใจพลางดึงใบหน้าที่ซบลงตรงหว่างอกของตัวเองออกมาอย่างยากลำบาก
หากแต่ไม่ได้รับความร่วมมือจากเจ้าตัวแม้แต่น้อย
ปากและจมูกของฟาเบียโน่ระดมจูบไปทั่วอกอวบทั้งสองข้าง
สูดกลิ่นหอมยวนใจที่ฝันหามาแสนนานเข้าเต็มปอด
“อื้อ... ดะ...เดี๋ยว เฟลิกซ์! ฉันอยากดูแผลให้คุณก่อน อื้อ...”
“แผลแค่นี้ไม่ทำให้ผมตายหรอกเมียจ๋า...
ถ้าจะตายก็คงตายเพราะไม่ได้รักคุณมากกว่า”
ฟาเบียโน่พูดอู้อี้กับอกอิ่มพร้อมออกแรงรัดเอวคอด
ลอยขึ้นด้วยแขนทรงพลังเพียงข้างเดียว
Tags: ฟาเบียโน่ - อรอาภา
ตอน: ตอนที่ 11 100%
ราวสี่สิบนาทีต่อมาฟาเบียโน่ก้าวลงจากรถแวนคันใหญ่สีดำวาววับ เมื่อรถเคลื่อนมาจอดสนิทอยู่หน้าบาร์แห่งหนึ่งริมชายหาดโคปา คาบานา ที่คราคร่ำไปด้วยนักเที่ยวยามราตรี ผู้หญิงขายบริการนุ่งน้อยห่มน้อยยืนอยู่ริมชายหาดถึงกับส่งเสียงเรียกเชิญชวน ยั่วยวน เมื่อได้เห็นบุรุษที่คนทั้งบราซิลต่างก็รู้จักเขาเป็นอย่างดีก้าวออกมาจากรถ อิบันรีบวิ่งเข้ามารายงานเจ้านายพร้อมกับซุบซิบบอกรายละเอียดที่ตนสืบรู้มา
“พวกมันอยู่ข้างในครับ บาร์แห่งนี้เป็นของลูกน้องคนสนิทคนหนึ่งของดอนคาร์โล อันเชย์รอตติ และพวกที่ไปลอบยิงเราก็อยู่ข้างในครับ” อิบันรายงายจากการแอบแฝงตัวเที่ยวอยู่ในบาร์แห่งนี้มาสองสามคืน พวกมันต่างก็โอ่ตัวว่าเป็นคนที่สามารถกระตุกหนวดบุรุษจอมเถื่อนแดนอะเมซอนอย่างเซญอร์ฟาเบียโน่ได้ ขนาดว่าทำให้ผู้หญิงของเซญอร์ฟาเบียโน่ถึงกับเลือดตกยางออกได้แล้วยังอยู่รอดปลอดภัยมาจนถึงทุกวันนี้!!
ฟาเบียโน่พยักหน้ารับพร้อมเดินเข้าไปด้านในทันที เงินฟ่อนใหญ่ที่ดีเกาฟาดใส่หน้าอกของการ์ดเฝ้าหน้าประตูก็ทำให้พวกมันหลีกทาง ต้อนรับฟาเบียโน่อย่างกระตือรือล้น
เสียงเพลงดังกระหึ่มกึกก้อง ชายหญิงนับร้อยเต้นกันเมามันส์อยู่ทั่วบริเวณ อิบันเดินนำเจ้านายเข้าไปด้านในลึกตรงทางเดินแคบๆ ขึ้นบันไดไปถึงชั้นบน ก็ได้พบกับไอ้มือปืนกระจอกสองคนกำลังยืนสังเกตการณ์ลงไปด้านล่าง คอยควบคุมไม่ให้มีเหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้นได้ พวกมันทั้งคู่ถึงกับหน้าถอดสีเมื่อคนที่มาเยือนตรงหน้าคือเซญอร์ฟาเบียโน่ ได้มาเยือนมันถึงถิ่น ลางสังหรณ์บอกให้พวกมันรู้ว่าวันนี้คงจะผ่านจากสถานการณ์ตรงหน้านี้ไปไม่ได้ง่ายๆเป็นแน่!!
ฟาเบียโน่เหยียดยิ้มที่มุมปากเมื่อเผชิญหน้ากับหมาลอบกัดทั้งคู่ แม้ว่าพวกมันจะชักปืนออกมาจ่อเขาอย่างกล้าๆกลัวๆแต่ก็ไม่ได้ทำให้ฟาเบียโน่มีอาการสะดุ้งสะเทือนสักนิด มีเพียงดีเกาและอิบันเท่านั้นที่ชักปืนออกจากบั้นเอวของตนออกมาเล็งใส่พวกมันเช่นกัน
“ยิงสิ! กูมาให้พวกมึงยิงถึงที่แล้วนี่ไง จะได้ไม่พลาดเหมือนคราวที่แล้ว ไอ้สวะ! พวกหมาลอบกัด!!” ฟาเบียโน่ด่าเสียงดัง
“เข้าใจอะไรผิดกันรึเปล่าครับเซญอร์?” เสียงของชายร่างสันทัดคนหนึ่งเดินออกมาจากมุมมืดพร้อมกับใช้มือของตัวเองผลักปืนของลูกน้องทั้งสองที่ยืนสั่นเป็นเจ้าเข้าให้ลดปืนลง
“หึ! โอ่ตัวว่าเป็นมาเฟีย แต่ที่พวกมึงทำน่ะ ถ่อยยิ่งกว่าแมงดาคุมโสเภณีอยู่ข้างนอกซะอีก กล้าทำแต่ไม่กล้ายอมรับ!!”
เห็นได้ชัดว่าชายร่างสันทัดที่เดินออกมาหลังสุดกำลังบดกรามตัวเองแน่นอย่างสะกดอารมณ์ “ผมคิดว่าเราน่าจะตกลงกันได้ และเชื่อว่าดอนคาร์โล อันเชย์รอตติ เจ้านายของผมคงดีใจไม่น้อยที่เซญอร์ฟาเบียโน่ให้เกียรติมาถึงที่นี่ด้วยตัวเอง”
มีหรือที่คนอย่างฟาเบียโน่จะไม่รู้ว่าพวกหมาลอบกัดตรงหน้านี้มันต้องการขู่! และต้องการจะบอกเป็นนัยว่าเจ้านายของมันคือมาเฟียอิตาลีจอมโฉด! “กูไม่สนว่าคนที่มึงกำลังพล่ามถึงมันจะใหญ่แค่ไหน! ถ้านายมึงมีปัญหานักก็มาหากูได้ทุกเมื่อ แต่ที่กูมาวันนี้พวกมึงคงรู้ดีว่ากูมาทำไม พวกมึงน่าจะรู้ดีว่าจะฆ่ากูต้องฆ่าให้ตาย ถ้ากูไม่ตาย คงไม่ต้องบอกว่าใครต้องตาย!!”
คำขู่ของชายร่างสันทัดนั้นไม่ได้ผลเอาเสียเลย แต่กลับทำให้ฟาเบียโน่บุรุษเถื่อนแดนอะเมซอนกลับโกรธมากขึ้นกว่าเดิมอีก เห็นได้ชัดว่ากำลังตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบฟาเบียโน่ทุกประตูและคงไม่เป็นการดีแน่หากจะมีเรื่องกับเจ้าถิ่น โดยที่เจ้านายไม่อยู่คุ้มกะลาหัวแบบนี้!! “ไม่เอาน่าเซญอร์ ผมว่าเราน่าจะคุยกันดีๆได้ รับรองว่าผมจะเรียนดอนคาร์โล ชดใช้ให้เซญอร์อย่างสาสมทีเดียว”
“นั่นก็ต้องดูฝีมือพวกมึงก่อน ว่าจะมีชีวิตรอดกลับไปฟ้องนายมึงไหม!!” ฟาเบียโน่ยังพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบราวกับว่าการจัดการกับลูกกระจ๊อกพวกนี้เป็นเรื่องขี้ประติ๋ว! หากว่าพวกมันไม่บังอาจไปทำให้เมียรักของเขาต้องได้รับบาดเจ็บเรื่องเพียงเท่านี้คงไม่ต้องลงมาจัดการด้วยตัวเอง ฟาเบียโน่ล้วงมีดสปาร์ต้าออกมาจากกระเป๋ากางเกงยีนส์ ทันทีที่อาวุธร้ายได้ออกมามันก็ดีดตัวออกมาจากฝักโชว์ความวาบวับของสเตนเลสเนื้อดีที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคมกริบเพียงใด!!
“ลูกพี่ช่วยพวกเราด้วย เซญอร์ฟาเบียโน่ไว้ชีวิตเราสองคนเถอะครับ!! เราทำงานตามคำสั่งครับ” ลูกน้องทั้งคู่ที่ตอนนี้เบียดตัวเข้าหาลูกพี่ร่างสันทัด รักตัวกลัวตายขึ้นมาทันที
วิถีทางของมาเฟียทั่วโลกคือกล้าทำและต้องกล้ารับ ลูกพี่ต้องเดินนำหน้าลูกน้องเสมอ ทั้งหมดออกมาดวลกันตัวต่อตัวที่ด้านหลังของบาร์ในตรอกเล็กๆแคบๆ ไร้ซึ่งตำรวจ! ไร้ซึ่งกติกาอันชอบธรรม! มีเพียงผู้ชนะคนเดียวเท่านั้นที่จะออกไปจากตรอกเล็กๆแคบๆนี้ ครบอาการสามสิบสองอย่างตอนที่เดินเข้ามา
ชั่วโมงต่อมาฟาเบียโน่เดินออกจากตรอกเล็กๆแคบๆนั้นด้วยแผลที่ต้นแขนราวสองสามแห่งและรอยมีดบาดที่หน้าท้องแกร่งลากยาวแต่ไม่ลึกอีกหนึ่งแผล ตอนแรกอิบันจะขอจัดการกับสองมือปืนกระจอกเองแต่ฟาเบียโน่ส่ายหน้า บอกเสียงเย็นว่าเขาจะเป็นคนลงมือกับพวกมันเอง ไม่ถึงยี่สิบนาทีร่างไร้วิญญาณของทั้งคู่ก็นอนจมกองเลือดอยู่บนพื้น ตามด้วยชายร่างสันทัดที่ต้องเดินเข้ามาประลองฝีมือเป็นคนถัดไป ฟาเบียโน่ใช้มีดที่อยู่ในมือเพียงเล่มเดียวหลบหลีกคู่ต่อสู้ที่ใช้มีดเล่มยาวคมกริบฟาดฟันกัน สุดท้ายฟาเบียโน่สามารถรัดคอมันและจ่อมีดสั้นที่คอยหอยมันได้ พร้อมกับด้วยเสียงขอร้องให้ไว้ชีวิตก็ดังขึ้น ทั้งยอมตัดนิ้วของตัวเองได้ตามที่ฟาเบียโน่ต้องการอีกด้วย
การที่เขาตัดนิ้วมือลูกน้องของมาเฟียแห่งอิตาลีนั้นมันเป็นการเย้ยหยามศักดิ์ศรีมาเฟียอย่างที่สุดแล้ว นิ้วมือทั้งห้านิ้วที่ตัดจากมือขวาถูกใส่ไว้ในถุงพลาสติกอย่างดี โดยอิบันเป็นคนรับหน้าที่ส่งของสำคัญนี้ให้มาเฟียเฒ่าแห่งอิตาลีทางไปรษณีย์ มันทำให้ฟาเบียโน่มั่นใจว่าเมื่อมาเฟียเฒ่าได้รับของขวัญชิ้นสำคัญจะทำให้พวกมันโกรธจัด ไม่มีทางที่จะอยู่เฉยได้อีกต่อไปแน่!!
ทั้งหมดกลับเข้ามาถึงบ้านหรูริมทะเลอีกครั้งประมาณเที่ยงคืนครึ่ง ดีเกาจัดการทำแผลให้เจ้านายที่นั่งเอนตัวอยู่บนเก้าอี้ในห้องทำงาน บรั่นดีสีอำพันไหลลงลำคอหนาของฟาเบียโน่ในระหว่างที่ลูกน้องคนสนิทกำลังทำความสะอาดแผลให้ ยาแก้ปวดและยาแก้อักเสบลงไปในร่างกายแข็งแกร่งของฟาเบียโน่ในเวลาต่อมา ชายหนุ่มไล่ให้สองพี่น้องไปพักผ่อน ส่วนตัวเองยังนั่งอยู่เอนตัวในห้องทำงานนี้ต่อไป เพราะไม่รู้ว่าป่านนี้แม่เมียตัวแสบจะหยุดอาละวาดแล้วรึยัง หากว่าเธอยังรอที่จะหาเรื่องกับเขาอย่างตอนหัวค่ำที่ผ่านมาเขาคงไม่มีปัญญาไปสู้รบปรบมือกับเธอได้ หรือไม่ป่านนี้แม่เมียที่รักอาจจะร้องไห้จนน้ำตาท่วมห้องและเขาก็ไม่ปราถนาที่จะเห็นดวงตาบวมช้ำเพราะการร้องไห้อย่างหนักได้เช่นกัน!!
ฟาเบียโน่ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ อรอาภาทำให้เขาปวดหัวและรู้สึกว่าตัวเองหัวใจพองโตอย่างมีความสุขได้ในเวลาเดียวกัน!! การจัดการกับความหึงหวงของเธอเมื่อหัวค่ำทำให้เสียพลังงานมากกว่าออกแรงสู้กับชายสามคนที่ผ่านมาเมื่อกี้นี้อีก นี่เธอคิดว่าเขาเป็นผู้ชายแบบไหนกัน ทั้งที่เขาอดทนรอแต่เธอกลับมาหาว่าเขาเป็นไอ้คนชั่ว สับปรับ หลอกลวงสารพัดคำด่าที่ออกมาจากปากอิ่มนั่น ฟาเบียโน่หัวเราะหึๆ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องทำงานระหว่างเขาและมนตร์ลดามันคงทำให้เธอเข้าใจผิด คิดเลยเถิดไปใหญ่โตสินะ! ไอ้อาการแปลกๆที่เธอแสดงออกมามันคือความหึงหวงในตัวเขา คำต่อว่ามากมายคือความโกรธความน้อยใจที่เธอมี ฟาเบียโน่ยิ้มกริ่ม คนรักกันเท่านั้นถึงจะแสดงความรู้สึกเหล่านี้ออกมาได้ มันจะเป็นไรไปหากเขาจะทำให้เมียตีทะเบียนอย่างเธอมาเป็นมีโดยสมบูรณ์ของเขาเสียที!! เพราะต่อจากนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ความทรงจำของเธอจะกลับคืนมาหรือไม่!?
เมื่อเธอรู้ความจริงมากมายที่เขาปิดบังไว้แล้วจะโกรธ จะเกลียดก็ตาม!
เขาก็จะไม่มีวันปล่อยให้เธอได้พ้นจากพันธะรักที่เขาตั้งใจผูกมัดเธอไว้เป็นอันขาด!!
สามชั่วโมงต่อมาฟาเบียโน่พยุงตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ทำงานเพราะตั้งใจจะพักผ่อนเอาแรงสักหน่อยแล้วจึงจะกลับขึ้นมาเผชิญหน้ากับอรอาภาที่ถูกขังอยู่ในฟห้องนอนอีกครั้ง!! ร่างสูงใหญ่ที่สวมใส่เพียงกางเกงยีนส์เท่านั้นเดินมาหยุดอยู่หน้าประตูห้องนอนอันเงียบกริบพลางเอื้อมมือไปหยิบลูกกุญแจมาปลดล็อกประตูออกอย่างเบามือที่สุด แล้วสอดตัวเข้าไปด้านในอย่างเงียบๆ ภาพที่มองเห็นถึงกับตรึงสายตาคมกริบให้เขายืนนิ่งมองร่างที่นอนหลับใหลด้วยความรู้สึกหลากหลายที่ประดังประเดเข้ามา
เสียงเพลงคลอเบาๆจากสเตริโอชั้นเยี่ยมยังดังขึ้นอย่างต่อเนื่องราวกับเห่กล่อมคนที่นอนหลับใหลอยู่บนเตียง เธอนั่งเอนตัวหลับโดยใช้หมอนวางซ้อนกันไว้ด้านหลังหลายใบ นี่... คงจะนั่งร้องไห้จนเผลอหลับไปสินะ หากแต่เพลงที่กำลังดังอยู่นี้มันช่างตรงกับความรู้สึกของเขาในเวลานี้เหลือเกิน...
“เฟลิกซ์คะ” เสียงเรียกของอรอาภาทำให้ฟาเบียโน่สะบัดศรีษะแรงๆ ความคิดหลุดออกจากเพลงความหมายตรงใจนั้นทันที
“จิงเจอร์!” ฟาเบียโน่ครางโหย เมื่อเห็นอรอาภายืนนิ่งอยู่บนเตียงจ้องมองมายังตัวเองเช่นกัน ชายหนุ่มไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเธอรู้สึกตัวตื่นขึ้นมายืนอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่!? สายตาคมกริบของเขาจ้องค้างอยู่ที่ร่างอ้อนแอ้นในชุดนอนผ้าโปร่งบาง! แสงไฟสลัวจากโคมไฟกลางห้องส่องให้เห็นร่างเกือบเปลือยอวบอิ่มทะลุปรุโปร่งเพราะเธอไม่ได้สวมชุดชั้นในเลยสักชิ้นเดียว!!
“มาหาฉันสิคะ” อรอาภาเรียกพร้อมเดินบนที่นอนหนามาหยุดที่ปลายเตียง มองฟาเบียโน่ที่เดินเข้ามาตนเองราวกับต้องมนต์สะกด แขนเรียวเสลาเกี่ยวเอาต้นคอหนาเข้ามากอดเอาไว้แนบอกอวบอิ่มของตนทันที ทั้งยังสังเกตเห็นว่าตามเนื้อตัวแกร่งของเขามีบาดแผลอยู่สองสามแห่ง จึงเลื่อนมือมาประคองใบหน้าคร้ามคมแล้วดึงออกมาถามทั้งสบตาอย่างห่วงใย “คุณไปไหนมาทำไมถึงมีแผลติดตัวกลับมาแบบนี้!!?”
“ไปจัดการกับคนที่มันทำให้คุณต้องเจ็บตัว ทำไมถึงได้ตื่นขึ้นมากลางดึกแบบนี้จิงเจอร์จ๋า?” เป็นครั้งแรกในชีวิตที่คนอย่างฟาเบียโน่พูดจ๊ะจ๋ากับผู้หญิง ความงามเย้ายวนใจที่สเห็นได้สัมผัสมันทำให้เขารู้สึกอยากถนอมเธอไว้ในส่วนที่อ่อนนุ่มที่สุดพลางงุดหน้าลงไปซุกซบอยู่ที่หว่างทรวงอกหยุ่นอีกครั้ง
“ตายจริงเฟลิกซ์!! คุณได้แผลกลับมาด้วย ขอฉันดูหน่อยซิคะ?” อรอาภาตกใจพลางดึงใบหน้าที่ซบลงตรงหว่างอกของตัวเองออกมาอย่างยากลำบาก หากแต่ไม่ได้รับความร่วมมือจากเจ้าตัวแม้แต่น้อย ปากและจมูกของฟาเบียโน่ระดมจูบไปทั่วอกอวบทั้งสองข้าง สูดกลิ่นหอมยั่วเย้าใจที่ฝันหามาแสนนานเข้าเต็มปอด “อื้อ... ดะ...เดี๋ยว เฟลิกซ์! ฉันอยากดูแผลให้คุณก่อน อื้อ...”
“แผลแค่นี้ไม่ทำให้ผมตายหรอกเมียจ๋า... ถ้าจะตายก็คงตายเพราะไม่ได้รักคุณมากกว่า” ฟาเบียโน่อู้อี้พูดกับอกอิ่มพร้อมออกแรงรัดเอวคอดลอยขึ้นด้วยแขนทรงพลังเพียงข้างเดียว เดินอ้อมจากปลายเตียงมาวางร่างอวบอิ่มให้นอนราบไปกับเตียงกว้างอีกครั้ง ในขณะที่ที่สองมือหนากำลังดึงทึ้งกางเกงยีนส์ออกจากตัวด้วยความเร็วอันเหลือเชื่อ
อรอาภาสะเทิ้นอายสายตาหิวกระหายที่จ้องร่างเกือบเปลือยของตัวเอง หลายชั่วโมงที่ถูกขังไว้ให้อยู่คนเดียวคิดมาอย่างดีแล้วว่าจะไม่โวยวาย ตีโพยตีพายเหมือนที่ผ่านมา แต่จะใช้เสน่ห์ที่มีทั้งหมดอยู่ในตัวดึงเอาสามีกลับคืนมาเป็นของตัวเองให้ได้ “รักฉันซิคะ... เฟลิกซ์”
เพียงเท่านี้ฟาเบียโน่ก็แทบแตกกระจาย!! เมื่อได้ยินเพียงแค่คำเชิญชวนจากปากอิ่มที่เผยอรออยู่ตรงหน้าราวกับหนุ่มไม่ประสาเพราะฤทธิ์พิศวาสเข้ามารุมเร้าอย่างไม่ทันตั้งตัว ริมฝีปากบางเฉียบบดจูบปากอิ่มอย่างเร่าร้อนราวกับโหยหามาแรมปี ลิ้นหนาตวัดเกี่ยวลุกไล่ในโพรงปากหวาน มือทั้งสองข้างเคล้นคลึงทรวงอกใหญ่พิเศษ บ้างก็เปลี่ยนมาเป็นประคองไว้ราวกับจะชั่งน้ำหนักของมันทำให้เจ้าของความงดงามนั้นถึงกับแหนหน้าหงายเพริด จิกเล็บเข้ากับผ้าปี่นอนสีสะอาดอย่างเสียวซ่านในอก
สวัสดีค่า นักอ่านที่รัก
ศิริพาราอัพพันธะรักจอมเถื่อนครบ50% ของเนื้อเรื่องแล้วนะคะ ถ้าทำให้ค้างก็ขออภัย (อิอิ...) เฟลิกซ์ – จินเจอร์ตีพิมพ์เป็นรูปเล่มแล้วและสามารถครอบครองได้ที่ร้านซีเอ็ดบุ๊ก ร้านนายอินทร์ ร้านบีทูเอส เว็บสำนักพิมพ์อินเลิฟ เว็บบุ๊กสไมล์ และสามารถพูดคุยกับศิริพาราได้ตามช่องทางดังนี้
1. e-mail siripara2writer@gmail.com
2. fanpage https://www.facebook.com/siripara.raya
3.facebook https://www.facebook.com/siripara.looktan
สอบถามเกี่ยวกับนิยายเรื่องต่างๆ ติชมหรือแสดงความคิดเห็นได้ตามสบายค่า เม้ามอยหอยขมกันได้ไม่เฉพาะเรื่องนิยาย ศิริพารายังมีเกมกติกาแสนง่ายดาย แจกของรางวัลเล็กน้อยเพื่อตอบแทนนักอ่านที่รัก อย่าลืมกดlikefanpage ศิริพารา รายาฤดีนะคะ
จบเรื่องนี้แล้ว ศิริพาราจะเอานิยายทั้งหมดมาอัพให้นักอ่านที่รักได้อ่านกันทุกเรื่อง ขอบคุณที่ติดตามและแสดงความคิดเห็นค่ะ
จุ๊บๆๆ
ศิริพารา
“พวกมันอยู่ข้างในครับ บาร์แห่งนี้เป็นของลูกน้องคนสนิทคนหนึ่งของดอนคาร์โล อันเชย์รอตติ และพวกที่ไปลอบยิงเราก็อยู่ข้างในครับ” อิบันรายงายจากการแอบแฝงตัวเที่ยวอยู่ในบาร์แห่งนี้มาสองสามคืน พวกมันต่างก็โอ่ตัวว่าเป็นคนที่สามารถกระตุกหนวดบุรุษจอมเถื่อนแดนอะเมซอนอย่างเซญอร์ฟาเบียโน่ได้ ขนาดว่าทำให้ผู้หญิงของเซญอร์ฟาเบียโน่ถึงกับเลือดตกยางออกได้แล้วยังอยู่รอดปลอดภัยมาจนถึงทุกวันนี้!!
ฟาเบียโน่พยักหน้ารับพร้อมเดินเข้าไปด้านในทันที เงินฟ่อนใหญ่ที่ดีเกาฟาดใส่หน้าอกของการ์ดเฝ้าหน้าประตูก็ทำให้พวกมันหลีกทาง ต้อนรับฟาเบียโน่อย่างกระตือรือล้น
เสียงเพลงดังกระหึ่มกึกก้อง ชายหญิงนับร้อยเต้นกันเมามันส์อยู่ทั่วบริเวณ อิบันเดินนำเจ้านายเข้าไปด้านในลึกตรงทางเดินแคบๆ ขึ้นบันไดไปถึงชั้นบน ก็ได้พบกับไอ้มือปืนกระจอกสองคนกำลังยืนสังเกตการณ์ลงไปด้านล่าง คอยควบคุมไม่ให้มีเหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้นได้ พวกมันทั้งคู่ถึงกับหน้าถอดสีเมื่อคนที่มาเยือนตรงหน้าคือเซญอร์ฟาเบียโน่ ได้มาเยือนมันถึงถิ่น ลางสังหรณ์บอกให้พวกมันรู้ว่าวันนี้คงจะผ่านจากสถานการณ์ตรงหน้านี้ไปไม่ได้ง่ายๆเป็นแน่!!
ฟาเบียโน่เหยียดยิ้มที่มุมปากเมื่อเผชิญหน้ากับหมาลอบกัดทั้งคู่ แม้ว่าพวกมันจะชักปืนออกมาจ่อเขาอย่างกล้าๆกลัวๆแต่ก็ไม่ได้ทำให้ฟาเบียโน่มีอาการสะดุ้งสะเทือนสักนิด มีเพียงดีเกาและอิบันเท่านั้นที่ชักปืนออกจากบั้นเอวของตนออกมาเล็งใส่พวกมันเช่นกัน
“ยิงสิ! กูมาให้พวกมึงยิงถึงที่แล้วนี่ไง จะได้ไม่พลาดเหมือนคราวที่แล้ว ไอ้สวะ! พวกหมาลอบกัด!!” ฟาเบียโน่ด่าเสียงดัง
“เข้าใจอะไรผิดกันรึเปล่าครับเซญอร์?” เสียงของชายร่างสันทัดคนหนึ่งเดินออกมาจากมุมมืดพร้อมกับใช้มือของตัวเองผลักปืนของลูกน้องทั้งสองที่ยืนสั่นเป็นเจ้าเข้าให้ลดปืนลง
“หึ! โอ่ตัวว่าเป็นมาเฟีย แต่ที่พวกมึงทำน่ะ ถ่อยยิ่งกว่าแมงดาคุมโสเภณีอยู่ข้างนอกซะอีก กล้าทำแต่ไม่กล้ายอมรับ!!”
เห็นได้ชัดว่าชายร่างสันทัดที่เดินออกมาหลังสุดกำลังบดกรามตัวเองแน่นอย่างสะกดอารมณ์ “ผมคิดว่าเราน่าจะตกลงกันได้ และเชื่อว่าดอนคาร์โล อันเชย์รอตติ เจ้านายของผมคงดีใจไม่น้อยที่เซญอร์ฟาเบียโน่ให้เกียรติมาถึงที่นี่ด้วยตัวเอง”
มีหรือที่คนอย่างฟาเบียโน่จะไม่รู้ว่าพวกหมาลอบกัดตรงหน้านี้มันต้องการขู่! และต้องการจะบอกเป็นนัยว่าเจ้านายของมันคือมาเฟียอิตาลีจอมโฉด! “กูไม่สนว่าคนที่มึงกำลังพล่ามถึงมันจะใหญ่แค่ไหน! ถ้านายมึงมีปัญหานักก็มาหากูได้ทุกเมื่อ แต่ที่กูมาวันนี้พวกมึงคงรู้ดีว่ากูมาทำไม พวกมึงน่าจะรู้ดีว่าจะฆ่ากูต้องฆ่าให้ตาย ถ้ากูไม่ตาย คงไม่ต้องบอกว่าใครต้องตาย!!”
คำขู่ของชายร่างสันทัดนั้นไม่ได้ผลเอาเสียเลย แต่กลับทำให้ฟาเบียโน่บุรุษเถื่อนแดนอะเมซอนกลับโกรธมากขึ้นกว่าเดิมอีก เห็นได้ชัดว่ากำลังตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบฟาเบียโน่ทุกประตูและคงไม่เป็นการดีแน่หากจะมีเรื่องกับเจ้าถิ่น โดยที่เจ้านายไม่อยู่คุ้มกะลาหัวแบบนี้!! “ไม่เอาน่าเซญอร์ ผมว่าเราน่าจะคุยกันดีๆได้ รับรองว่าผมจะเรียนดอนคาร์โล ชดใช้ให้เซญอร์อย่างสาสมทีเดียว”
“นั่นก็ต้องดูฝีมือพวกมึงก่อน ว่าจะมีชีวิตรอดกลับไปฟ้องนายมึงไหม!!” ฟาเบียโน่ยังพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบราวกับว่าการจัดการกับลูกกระจ๊อกพวกนี้เป็นเรื่องขี้ประติ๋ว! หากว่าพวกมันไม่บังอาจไปทำให้เมียรักของเขาต้องได้รับบาดเจ็บเรื่องเพียงเท่านี้คงไม่ต้องลงมาจัดการด้วยตัวเอง ฟาเบียโน่ล้วงมีดสปาร์ต้าออกมาจากกระเป๋ากางเกงยีนส์ ทันทีที่อาวุธร้ายได้ออกมามันก็ดีดตัวออกมาจากฝักโชว์ความวาบวับของสเตนเลสเนื้อดีที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคมกริบเพียงใด!!
“ลูกพี่ช่วยพวกเราด้วย เซญอร์ฟาเบียโน่ไว้ชีวิตเราสองคนเถอะครับ!! เราทำงานตามคำสั่งครับ” ลูกน้องทั้งคู่ที่ตอนนี้เบียดตัวเข้าหาลูกพี่ร่างสันทัด รักตัวกลัวตายขึ้นมาทันที
วิถีทางของมาเฟียทั่วโลกคือกล้าทำและต้องกล้ารับ ลูกพี่ต้องเดินนำหน้าลูกน้องเสมอ ทั้งหมดออกมาดวลกันตัวต่อตัวที่ด้านหลังของบาร์ในตรอกเล็กๆแคบๆ ไร้ซึ่งตำรวจ! ไร้ซึ่งกติกาอันชอบธรรม! มีเพียงผู้ชนะคนเดียวเท่านั้นที่จะออกไปจากตรอกเล็กๆแคบๆนี้ ครบอาการสามสิบสองอย่างตอนที่เดินเข้ามา
ชั่วโมงต่อมาฟาเบียโน่เดินออกจากตรอกเล็กๆแคบๆนั้นด้วยแผลที่ต้นแขนราวสองสามแห่งและรอยมีดบาดที่หน้าท้องแกร่งลากยาวแต่ไม่ลึกอีกหนึ่งแผล ตอนแรกอิบันจะขอจัดการกับสองมือปืนกระจอกเองแต่ฟาเบียโน่ส่ายหน้า บอกเสียงเย็นว่าเขาจะเป็นคนลงมือกับพวกมันเอง ไม่ถึงยี่สิบนาทีร่างไร้วิญญาณของทั้งคู่ก็นอนจมกองเลือดอยู่บนพื้น ตามด้วยชายร่างสันทัดที่ต้องเดินเข้ามาประลองฝีมือเป็นคนถัดไป ฟาเบียโน่ใช้มีดที่อยู่ในมือเพียงเล่มเดียวหลบหลีกคู่ต่อสู้ที่ใช้มีดเล่มยาวคมกริบฟาดฟันกัน สุดท้ายฟาเบียโน่สามารถรัดคอมันและจ่อมีดสั้นที่คอยหอยมันได้ พร้อมกับด้วยเสียงขอร้องให้ไว้ชีวิตก็ดังขึ้น ทั้งยอมตัดนิ้วของตัวเองได้ตามที่ฟาเบียโน่ต้องการอีกด้วย
การที่เขาตัดนิ้วมือลูกน้องของมาเฟียแห่งอิตาลีนั้นมันเป็นการเย้ยหยามศักดิ์ศรีมาเฟียอย่างที่สุดแล้ว นิ้วมือทั้งห้านิ้วที่ตัดจากมือขวาถูกใส่ไว้ในถุงพลาสติกอย่างดี โดยอิบันเป็นคนรับหน้าที่ส่งของสำคัญนี้ให้มาเฟียเฒ่าแห่งอิตาลีทางไปรษณีย์ มันทำให้ฟาเบียโน่มั่นใจว่าเมื่อมาเฟียเฒ่าได้รับของขวัญชิ้นสำคัญจะทำให้พวกมันโกรธจัด ไม่มีทางที่จะอยู่เฉยได้อีกต่อไปแน่!!
ทั้งหมดกลับเข้ามาถึงบ้านหรูริมทะเลอีกครั้งประมาณเที่ยงคืนครึ่ง ดีเกาจัดการทำแผลให้เจ้านายที่นั่งเอนตัวอยู่บนเก้าอี้ในห้องทำงาน บรั่นดีสีอำพันไหลลงลำคอหนาของฟาเบียโน่ในระหว่างที่ลูกน้องคนสนิทกำลังทำความสะอาดแผลให้ ยาแก้ปวดและยาแก้อักเสบลงไปในร่างกายแข็งแกร่งของฟาเบียโน่ในเวลาต่อมา ชายหนุ่มไล่ให้สองพี่น้องไปพักผ่อน ส่วนตัวเองยังนั่งอยู่เอนตัวในห้องทำงานนี้ต่อไป เพราะไม่รู้ว่าป่านนี้แม่เมียตัวแสบจะหยุดอาละวาดแล้วรึยัง หากว่าเธอยังรอที่จะหาเรื่องกับเขาอย่างตอนหัวค่ำที่ผ่านมาเขาคงไม่มีปัญญาไปสู้รบปรบมือกับเธอได้ หรือไม่ป่านนี้แม่เมียที่รักอาจจะร้องไห้จนน้ำตาท่วมห้องและเขาก็ไม่ปราถนาที่จะเห็นดวงตาบวมช้ำเพราะการร้องไห้อย่างหนักได้เช่นกัน!!
ฟาเบียโน่ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ อรอาภาทำให้เขาปวดหัวและรู้สึกว่าตัวเองหัวใจพองโตอย่างมีความสุขได้ในเวลาเดียวกัน!! การจัดการกับความหึงหวงของเธอเมื่อหัวค่ำทำให้เสียพลังงานมากกว่าออกแรงสู้กับชายสามคนที่ผ่านมาเมื่อกี้นี้อีก นี่เธอคิดว่าเขาเป็นผู้ชายแบบไหนกัน ทั้งที่เขาอดทนรอแต่เธอกลับมาหาว่าเขาเป็นไอ้คนชั่ว สับปรับ หลอกลวงสารพัดคำด่าที่ออกมาจากปากอิ่มนั่น ฟาเบียโน่หัวเราะหึๆ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องทำงานระหว่างเขาและมนตร์ลดามันคงทำให้เธอเข้าใจผิด คิดเลยเถิดไปใหญ่โตสินะ! ไอ้อาการแปลกๆที่เธอแสดงออกมามันคือความหึงหวงในตัวเขา คำต่อว่ามากมายคือความโกรธความน้อยใจที่เธอมี ฟาเบียโน่ยิ้มกริ่ม คนรักกันเท่านั้นถึงจะแสดงความรู้สึกเหล่านี้ออกมาได้ มันจะเป็นไรไปหากเขาจะทำให้เมียตีทะเบียนอย่างเธอมาเป็นมีโดยสมบูรณ์ของเขาเสียที!! เพราะต่อจากนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ความทรงจำของเธอจะกลับคืนมาหรือไม่!?
เมื่อเธอรู้ความจริงมากมายที่เขาปิดบังไว้แล้วจะโกรธ จะเกลียดก็ตาม!
เขาก็จะไม่มีวันปล่อยให้เธอได้พ้นจากพันธะรักที่เขาตั้งใจผูกมัดเธอไว้เป็นอันขาด!!
สามชั่วโมงต่อมาฟาเบียโน่พยุงตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ทำงานเพราะตั้งใจจะพักผ่อนเอาแรงสักหน่อยแล้วจึงจะกลับขึ้นมาเผชิญหน้ากับอรอาภาที่ถูกขังอยู่ในฟห้องนอนอีกครั้ง!! ร่างสูงใหญ่ที่สวมใส่เพียงกางเกงยีนส์เท่านั้นเดินมาหยุดอยู่หน้าประตูห้องนอนอันเงียบกริบพลางเอื้อมมือไปหยิบลูกกุญแจมาปลดล็อกประตูออกอย่างเบามือที่สุด แล้วสอดตัวเข้าไปด้านในอย่างเงียบๆ ภาพที่มองเห็นถึงกับตรึงสายตาคมกริบให้เขายืนนิ่งมองร่างที่นอนหลับใหลด้วยความรู้สึกหลากหลายที่ประดังประเดเข้ามา
เสียงเพลงคลอเบาๆจากสเตริโอชั้นเยี่ยมยังดังขึ้นอย่างต่อเนื่องราวกับเห่กล่อมคนที่นอนหลับใหลอยู่บนเตียง เธอนั่งเอนตัวหลับโดยใช้หมอนวางซ้อนกันไว้ด้านหลังหลายใบ นี่... คงจะนั่งร้องไห้จนเผลอหลับไปสินะ หากแต่เพลงที่กำลังดังอยู่นี้มันช่างตรงกับความรู้สึกของเขาในเวลานี้เหลือเกิน...
“เฟลิกซ์คะ” เสียงเรียกของอรอาภาทำให้ฟาเบียโน่สะบัดศรีษะแรงๆ ความคิดหลุดออกจากเพลงความหมายตรงใจนั้นทันที
“จิงเจอร์!” ฟาเบียโน่ครางโหย เมื่อเห็นอรอาภายืนนิ่งอยู่บนเตียงจ้องมองมายังตัวเองเช่นกัน ชายหนุ่มไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเธอรู้สึกตัวตื่นขึ้นมายืนอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่!? สายตาคมกริบของเขาจ้องค้างอยู่ที่ร่างอ้อนแอ้นในชุดนอนผ้าโปร่งบาง! แสงไฟสลัวจากโคมไฟกลางห้องส่องให้เห็นร่างเกือบเปลือยอวบอิ่มทะลุปรุโปร่งเพราะเธอไม่ได้สวมชุดชั้นในเลยสักชิ้นเดียว!!
“มาหาฉันสิคะ” อรอาภาเรียกพร้อมเดินบนที่นอนหนามาหยุดที่ปลายเตียง มองฟาเบียโน่ที่เดินเข้ามาตนเองราวกับต้องมนต์สะกด แขนเรียวเสลาเกี่ยวเอาต้นคอหนาเข้ามากอดเอาไว้แนบอกอวบอิ่มของตนทันที ทั้งยังสังเกตเห็นว่าตามเนื้อตัวแกร่งของเขามีบาดแผลอยู่สองสามแห่ง จึงเลื่อนมือมาประคองใบหน้าคร้ามคมแล้วดึงออกมาถามทั้งสบตาอย่างห่วงใย “คุณไปไหนมาทำไมถึงมีแผลติดตัวกลับมาแบบนี้!!?”
“ไปจัดการกับคนที่มันทำให้คุณต้องเจ็บตัว ทำไมถึงได้ตื่นขึ้นมากลางดึกแบบนี้จิงเจอร์จ๋า?” เป็นครั้งแรกในชีวิตที่คนอย่างฟาเบียโน่พูดจ๊ะจ๋ากับผู้หญิง ความงามเย้ายวนใจที่สเห็นได้สัมผัสมันทำให้เขารู้สึกอยากถนอมเธอไว้ในส่วนที่อ่อนนุ่มที่สุดพลางงุดหน้าลงไปซุกซบอยู่ที่หว่างทรวงอกหยุ่นอีกครั้ง
“ตายจริงเฟลิกซ์!! คุณได้แผลกลับมาด้วย ขอฉันดูหน่อยซิคะ?” อรอาภาตกใจพลางดึงใบหน้าที่ซบลงตรงหว่างอกของตัวเองออกมาอย่างยากลำบาก หากแต่ไม่ได้รับความร่วมมือจากเจ้าตัวแม้แต่น้อย ปากและจมูกของฟาเบียโน่ระดมจูบไปทั่วอกอวบทั้งสองข้าง สูดกลิ่นหอมยั่วเย้าใจที่ฝันหามาแสนนานเข้าเต็มปอด “อื้อ... ดะ...เดี๋ยว เฟลิกซ์! ฉันอยากดูแผลให้คุณก่อน อื้อ...”
“แผลแค่นี้ไม่ทำให้ผมตายหรอกเมียจ๋า... ถ้าจะตายก็คงตายเพราะไม่ได้รักคุณมากกว่า” ฟาเบียโน่อู้อี้พูดกับอกอิ่มพร้อมออกแรงรัดเอวคอดลอยขึ้นด้วยแขนทรงพลังเพียงข้างเดียว เดินอ้อมจากปลายเตียงมาวางร่างอวบอิ่มให้นอนราบไปกับเตียงกว้างอีกครั้ง ในขณะที่ที่สองมือหนากำลังดึงทึ้งกางเกงยีนส์ออกจากตัวด้วยความเร็วอันเหลือเชื่อ
อรอาภาสะเทิ้นอายสายตาหิวกระหายที่จ้องร่างเกือบเปลือยของตัวเอง หลายชั่วโมงที่ถูกขังไว้ให้อยู่คนเดียวคิดมาอย่างดีแล้วว่าจะไม่โวยวาย ตีโพยตีพายเหมือนที่ผ่านมา แต่จะใช้เสน่ห์ที่มีทั้งหมดอยู่ในตัวดึงเอาสามีกลับคืนมาเป็นของตัวเองให้ได้ “รักฉันซิคะ... เฟลิกซ์”
เพียงเท่านี้ฟาเบียโน่ก็แทบแตกกระจาย!! เมื่อได้ยินเพียงแค่คำเชิญชวนจากปากอิ่มที่เผยอรออยู่ตรงหน้าราวกับหนุ่มไม่ประสาเพราะฤทธิ์พิศวาสเข้ามารุมเร้าอย่างไม่ทันตั้งตัว ริมฝีปากบางเฉียบบดจูบปากอิ่มอย่างเร่าร้อนราวกับโหยหามาแรมปี ลิ้นหนาตวัดเกี่ยวลุกไล่ในโพรงปากหวาน มือทั้งสองข้างเคล้นคลึงทรวงอกใหญ่พิเศษ บ้างก็เปลี่ยนมาเป็นประคองไว้ราวกับจะชั่งน้ำหนักของมันทำให้เจ้าของความงดงามนั้นถึงกับแหนหน้าหงายเพริด จิกเล็บเข้ากับผ้าปี่นอนสีสะอาดอย่างเสียวซ่านในอก
สวัสดีค่า นักอ่านที่รัก
ศิริพาราอัพพันธะรักจอมเถื่อนครบ50% ของเนื้อเรื่องแล้วนะคะ ถ้าทำให้ค้างก็ขออภัย (อิอิ...) เฟลิกซ์ – จินเจอร์ตีพิมพ์เป็นรูปเล่มแล้วและสามารถครอบครองได้ที่ร้านซีเอ็ดบุ๊ก ร้านนายอินทร์ ร้านบีทูเอส เว็บสำนักพิมพ์อินเลิฟ เว็บบุ๊กสไมล์ และสามารถพูดคุยกับศิริพาราได้ตามช่องทางดังนี้
1. e-mail siripara2writer@gmail.com
2. fanpage https://www.facebook.com/siripara.raya
3.facebook https://www.facebook.com/siripara.looktan
สอบถามเกี่ยวกับนิยายเรื่องต่างๆ ติชมหรือแสดงความคิดเห็นได้ตามสบายค่า เม้ามอยหอยขมกันได้ไม่เฉพาะเรื่องนิยาย ศิริพารายังมีเกมกติกาแสนง่ายดาย แจกของรางวัลเล็กน้อยเพื่อตอบแทนนักอ่านที่รัก อย่าลืมกดlikefanpage ศิริพารา รายาฤดีนะคะ
จบเรื่องนี้แล้ว ศิริพาราจะเอานิยายทั้งหมดมาอัพให้นักอ่านที่รักได้อ่านกันทุกเรื่อง ขอบคุณที่ติดตามและแสดงความคิดเห็นค่ะ
จุ๊บๆๆ
ศิริพารา
ศิริพารา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 13 พ.ค. 2558, 20:36:02 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 13 พ.ค. 2558, 20:36:15 น.
จำนวนการเข้าชม : 1268
<< ตอนที่ 10 100% |