กลรัตติกาล
เรื่องต่อ ซ่อนใจไว้ใต้ดาว ชุดเสน่หาฆาตกรรม

หลงกลิ่นจันทน์ , ซ่อนใจไว้ใต้ดาว , กลรัตติกาล
Tags: กลรัตติกาล คีตา ณิชนิตา

ตอน: บทที่ ๑๕ แผนลวง (๑)

บทที่ ๑๕


แผนลวง



ข่าวพาดหัวบนหน้านิตยสารบันเทิงฉบับหนึ่งทำให้ชายไทต้องหยิบหนังสือขึ้นมาจากแผง เขากวาดสายตาอ่านใหม่อีกสองรอบกว่าจะเข้าใจความหมายนั้นได้

‘เผยความสัมพันธ์ลับๆ ของนางแบบสาว เพิ่งกลับเข้าวงการบันเทิงได้ไม่เท่าไหร่ก็มีข่าวเสียแล้วสำหรับ รัตติกาล เลิศรัตนกุลถาวรชัย ไฮโซสาวซึ่งเพิ่งหวนกลับเข้าวงการ ข่าววงในบอกว่า กลับเข้ามาเพราะมีพ่อหนุ่มนายแบบคาสโนว่าช่วยการันตีจนได้กลับมาถ่ายแบบอีกครั้งนั่นเอง หนุ่มคนที่ว่าเป็นใคร ภาพนี้ยืนยันได้เป็นอย่างดี’ ภาพดังกล่าวเป็นภาพของอชิตะยืนยิ้มอยู่ข้างกับรัตติกาล เขาจำได้ว่านี่เป็นชุดที่ใส่ไปงานถ่ายแบบต่างจังหวัด ซึ่งตอนนั้นเขาก็อยู่ด้วย นักข่าวตัดเอาเฉพาะอชิตะกับรัตติกาลเท่านั้น

ชายไทเดินกลับไปยังห้องพักอาจารย์พร้อมทั้งคิดเรื่องข่าวไประหว่างทาง จนไปถึงหน้าห้องได้ยินเสียงเอะอะของนักศึกษาหญิงจึงพยายามจ้องหาสาเหตุว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ สายตาคมของเขาเหลือบเห็นร่างสูงเพรียวโดดเด่นของอชิตะท่ามกลางเหล่านักศึกษาแล้วก็พอเข้าใจ

“ชาย!” เสียงอชิตะดังขึ้นพร้อมกับโบกมือหยอยๆ ให้เพื่อนรัก

ชายไทเปิดประตูห้องพักอ้าออกเพื่อให้อชิตะก้าวเข้าไปก่อนจะตามเข้าไปแล้วปิดประตูห้องทันที อชิตะทรุดตัวลงนั่งลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานของเพื่อนทันที

“มาหาถึงนี่ มีอะไรหรือเปล่า”

“แกเห็นข่าวเช้านี้หรือยัง” เป็นคำถามสะกิดใจคนฟัง อชิตะยิ้มกริ่ม ทำตาวิบวับเปล่งประกายจนดูน่าหมั่นไส้สำหรับคนเห็นเหลือเกิน

“อืม” ชายไทได้แต่ตอบรับในลำคอ นายแบบหนุ่มเลิกคิ้วสูงข้างหนึ่งด้วยความประหลาดใจ

“หึงเหรอวะ”

“หึงอะไร พูดไปเรื่อย ฉันจะหึงแกทำไม ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับคุณรัตสักหน่อย”

“เปล่า แกหึงฉันต่างหาก” อชิตะแสร้งหยอกเย้า ดวงตาเปล่งประกายความเจ้าเล่ห์ออกมา

“ไอ้บ้า ฉันไม่ได้ชอบไม้ป่าเดียวกัน”

“โถ...ปากแข็งไปเถอะ ตอนนี้นะยอดการค้นหาข่าวระหว่างฉันกับรัตเต็มหน้าเว็บเลยนะ พยายามจับคู่จิ้นให้ฉันกับรัตกันใหญ่ ตอนแรกฉันก็เฉยๆนะ แต่พอคิดๆไปก็ดีนะ คราวนี้รัตจะได้ดังโดยไม่ต้องโปรโมทมากมายอะไรเลย”

“อืม” ชายไทตอบรับในลำคออีกครั้ง อชิตะหัวเราะออกมาเบาๆ

“เออ ที่ฉันมานี่มีเรื่องอยากบอกแกด้วย พอดีมีโฆษณาชิ้นหนึ่งติดต่อให้รับงานคู่กับรัต ฉันว่าจะรับแกว่าไง”

“มาถามฉันทำไม อยากทำก็ทำสิ”

อชิตะเผลอยิ้มออกมาเมื่อได้ยินคำตอบของเพื่อน “โอเค ก็แค่อยากถามความเห็นแก แกช่วยเหลือรัตมาตั้งเยอะ เผื่อว่ามันไม่เวิร์คฉันก็จะไม่รับไง งานนี้นะต้องมีเต้นรำคู่กันด้วย โชว์วันเปิดตัวสินค้าน่ะแต่รายละเอียดงานยังไม่ได้คุยลงลึกเพราะรอให้ฉันคอนเฟิร์มรับงานก่อน ถ้าแกไม่ว่าอะไรฉันก็จะรับงานนี้ละกันนะ เดี๋ยวไปหารัตก่อน ค่อยคุยกันอีกที”อชิตะพูดจบก็ลุกขึ้นไม่รอให้ชายไทเอ่ยอะไรตอบกลับเลยสักนิด

เมื่อเพื่อนรักเปิดประตูก้าวออกไปจากห้อง ชายไทได้แต่ถอนหายใจเบาๆ อชิตะกำลังกวนประสาทเขา แน่นอนอาจเป็นผลมาจากเขาปล่อยให้เพื่อนตกระกำลำบากเดินกลับรีสอร์ท ซึ่งตอนนั้นเขาก็หวังดีอยากให้ปรับความเข้าใจกับมโนชาให้ได้ช่วงที่เดินกลับมาด้วยกันแต่ทุกอย่างพลาดก็เพราะตัวอชิตะเอง นี่คิดจะแก้เผ็ดเขาอยู่แน่ๆ

ฝันไปเถอะอชิ...ฉันไม่มีทางตกหลุมพรางของแกหรอก...



สายของวันนั้นรัตติกาลนั่งฟังอชิตะพร่ำพูดเรื่องโฆษณาตัวใหม่ ซึ่งติดต่อให้เธอกับเขาออกงานคู่เป็นพรีเซนเตอร์ร่วมกันนั้นด้วยความรู้สึกเฉยๆ เขาโทรศัพท์นัดเธอให้มาพบที่บ้านหลังจากออกไปธุระข้างนอกมา นายแบบหนุ่มเดินออกมาจากห้องครัวพร้อมขนมในจานเล็กๆ เพื่อรับรองเพื่อนบ้าน หญิงสาวยิ้มกว้างเมื่อได้เห็นขนมเค้กชิ้นนั้น

“อยู่ดีๆ มาคะยั้นคะยอให้รับงานคู่นี่มีอะไรกันแน่เหรออชิ ฉันว่านายมีแผนอะไรใช่ไหม”

“ฉลาดมากเพื่อนรัก” อชิตะยกยอจนคนฟังเกิดอาการสั่นสะท้านขึ้นมาทันที

อชิตะไม่เคยเรียกเธอว่าเพื่อนรักมาก่อน แน่นอนว่าไม่เคยแม้แต่ตอนที่เรียนมัธยมปลายห้องเดียวกันนั่นด้วย แทบจะเรียกว่าอยู่กันคนละกลุ่มเลยด้วยซ้ำ อชิตะมาแปลกจริงๆ

“ขนลุกเลย...ตกลงมีอะไรกันแน่ พูดแบบนี้ต้องมีอะไรแอบแฝง”

“คือ...ถ้าเธอรับงานนี้นะ เราจะยิงนกได้สองตัวเลย”

“หา?”

“เธอชอบไอ้ชายใช่ไหม”อชิตะถามตรงๆ

“อืม...ฉันแสดงออกชัดเจนขนาดนั้นเลยเหรอ”รัตติกาลถามกลับสีหน้าตื่น เธอไม่อยากให้ใครรู้มาก ยางอายยังพอมีอยู่บ้างนะ

“โอ้ย ตาไม่บอดก็เห็นกันทั้งนั้นแหละ”อชิตะยืนยันเสียงหนักแน่นเสียจนคนถามหน้าเจื่อนจืดไปบ้าง

“แต่เขาไม่เห็นนี่” รัตติกาลบ่นออกมาอย่างเสียไม่ได้ เธอไม่เห็นว่าชายไทจะแสดงออกอะไรกับเธอมากมาย จนเธอเองเริ่มรู้สึกอายตัวเองแทน

“นี่แหละฉันถึงมีแผนที่จะยิงนกให้เธอได้”

“หืม? ยังไงเหรอ” หญิงสาวขมวดคิ้วด้วยความสงสัย อชิตะทรุดตัวลงนั่งข้างๆ พร้อมกับร่ายแผนการซึ่งตัวเองคิดมาอย่างดีนั้นให้หญิงสาวฟัง รัตติกาลนึกขันกับความคิดเด็กๆ ของอชิตะ แต่เธอกลับยอมรับที่จะทำตามแผนนั้น ไม่ลองก็ไม่รู้ว่าจะดีหรือไม่ อย่างน้อยเธอก็ไม่เสียหายอะไร มีแต่ได้กับได้มากกว่า...

หลังจากฟังอชิตะพร่ำพูดจบลง รัตติกาลยิ้มกว้าง ตักเค้กเข้าปากอย่างอารมณ์ดี ...หวังว่าแผนการเด็กๆของอชิตะจะสำเร็จ!



เกือบหนึ่งสัปดาห์ที่ด็อกเตอร์หนุ่มไม่ได้รับโทรศัพท์หรือข้อความจากรัตติกาล หญิงสาวกำลังยุ่งอยู่กับการเปิดตัวเป็นพรีเซนเตอร์น้ำหอมยี่ห้อหนึ่ง เธอรับงานนี้คู่กับอชิตะซึ่งดูไม่น่าเป็นห่วงอะไร ทว่าข่าวคราวที่ออกมาอยู่เรื่อยๆ ต่างหากที่ทำให้ชายไทรู้สึกเป็นห่วงเขายกแก้วกาแฟร้อนที่เพิ่งซื้อมาขึ้นจดริมฝีปากกำลังจะเดิม สายตาก็เหลือบไปเห็นอชิตะอยู่ไกลๆ เขาไม่ทันได้สังเกตว่ามีหญิงสาวเดินตามหลังเพื่อนมาด้วย

“ขอโทษที่ให้รอนะวะ พอดีรัตแต่งตัวช้านิดหนึ่ง” อชิตะออกตัวทันทีที่เดินมาถึง ชายไทเหลือบมองหญิงสาวซึ่งเพิ่งก้าวออกมาจากด้านหลังของอชิตะนั้นด้วยแววตาประหลาดใจ

“ตกลงเรียกมาหาถึงที่นี่ทำไม” ชายไทถามกลับโดยไม่ได้เอ่ยทักทายหญิงสาวอย่างเช่นเคย รัตติกาลเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะหันไปสบตากับอชิตะ

“เรียกมา ใช้คำเหมือนฉันอยากใช้งานอะไรแกงั้นแหละ ฉันว่าจะชวนกันข้าว ช่วงนี้เราไม่ค่อยได้เจอกันเลย คิดถึงไงวะ แต่เดี๋ยวขอฉันซ้อมเต้นเปิดตัวสินค้าก่อนนะ แค่ชั่วโมงเดียวเอง”

“อืม ได้ วันนี้ฉันว่าง”

“คุณชายไม่เห็นทักรัตบ้างเลย” หญิงสาวอดรนทนไม่ไหวเมื่อเห็นว่าเขาไม่ยอมทักทายเธอสักที ชายไทหันไปมองรัตติกาลพร้อมกับยิ้มบางให้

“สวัสดีครับ คุณรัตสบายดีนะครับ”

“ค่ะ สบายดี คิดถึงคุณชายนะคะ...” ไม่ทันที่รัตติกาลจะกล่าวจบอชิตะก็กระแอมขึ้นเสียงดังฟังชัดจนเธอเหลือบมอง แล้วจึงยิ้มหวานคล้องแขนชายหนุ่มกระชับเข้าหาตัว “อะไรติดคอเหรอ ไปอ๊วกในห้องน้ำเลยไหม”

อชิตะส่งสายตาหมั่นไส้หญิงสาวออกมาแวบหนึ่งก่อนทำตาเข้มขึงใส่ “ก็เธอพูดหวานกับคนอื่น ฉันไม่ชอบนี่”

ชายไทนึกอยากแคะหูตัวเองใหม่ ถ้อยคำพูดคุยระหว่างอชิตะกับรัตติกาลมันทำให้เขาร้อนๆในอก แม้จะรู้ว่ามันเป็นการเสแสร้งแกล้งทำก็ตามที แต่เขาก็ยังไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่นักนึกหมั่นไส้เพื่อนรักขึ้นมาครามครัน เมื่อไหร่ละครบ้าๆ ของสองคนนี้จะจบสักที อยากเล่นจนกว่าเขาจะยอมแพ้สินะ

ด็อกเตอร์หนุ่มเดินตามคนทั้งคู่เข้าไปในห้องซ้อมเต้น นั่งรอดูการซักซ้อมเหล่านั้นด้วยท่าทีเฉยชา เป็นครั้งแรกที่เขาไม่มีอารมณ์อยากรู้หรืออยากดูอะไรทั้งนั้น

เสียงเพลงดังขึ้นพร้อมกับร่างสูงเพรียวของรัตติกาลค่อยๆ เดินออกมาตามจังหวะเพลง ใบหน้าสวยแต่งแต้มเครื่องสำอางอ่อนๆ แต่พอเหมาะพอดีกับเธอจริงๆ ผมยาวถูกปล่อยสยายเต็มหลัง เหมือนทุกท่วงท่าของหญิงสาวสะกดสายตาเขาไว้ตลอด ดวงตาสวยหันมาสบตาเขาเหมือนรู้ว่าชายไทกำลังจ้องอยู่แทบไม่กระพริบตาเลยด้วยซ้ำ ทว่าระหว่างนั้นอชิตะก็เดินออกมาตามจังหวะเพลงเช่นกัน นายแบบหนุ่มคว้าแขนของหญิงสาวออกแรงดึงเพียงเล็กน้อยร่างของเธอก็ตวัดเข้าไปในอ้อมกอดของอชิตะทันที จังหวะนั้นชายไทรู้สึกถึงลมหายใจตัวเองสะดุด จนใบหน้าของอชิตะก้มต่ำลงซุกไปบนซอกคอผ่านกลุ่มผมสีดำขลับของหญิงสาว ชายไทแทบอยากปิดตาตัวเองลงทันที เขาไอออกมาเบาๆ ก่อนจะเบือนหน้าหนี หันไปจ้องอย่างอื่นแทน

ตอนแรกชายไทเข้าใจว่าคงเป็นการเต้นเหมือนลีลาศธรรมดา แต่ไม่ใช่อย่างที่คิดไว้เสียแล้วโลกมันเปลี่ยนไป...เขาเข้าใจดี ทว่านี่ดูมากเกินไปสำหรับเขา...ตั้งใจอยากยั่วเขาให้ตกหลุมพรางจริงๆ เลยใช่ไหม

ชายไทลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินออกไปจากห้องซ้อมโดยไม่หันกลับไปมองนักเต้นมือใหม่ทั้งสองคนอีกเลย

จนถึงเวลาซ้อมเสร็จอชิตะจึงเดินออกมาตามเพื่อนรักซึ่งลุกออกมาจากห้องซ้อมตั้งแต่กลางเพลงที่เพิ่งเปิดซักซ้อมกันนั้นเองอชิตะแสร้งตบบ่าเพื่อนเบาๆ ก้มลงจ้องหน้าอย่างสังเกตอาการ

“เป็นอะไรวะ ออกมารอข้างนอกนี่ไม่ร้อนเหรอ”

“ข้างในร้อนกว่า” ชายไทตอบ อชิตะลอบยิ้ม

“อะไรวะหน้าบูดแบบนี้ ใครทำให้อารมณ์เสียกันเนี่ยว๊า แย่จัง”ยิ่งอชิตะพูดยิ่งทำให้คนฟังหน้าบึ้งมากขึ้นไปอีก

ชายไทเหลือบมองคนพูด อชิตะจงใจพูดยียวนกวนอารมณ์เขามากกว่า “แกต้องการให้ฉันโกรธอยู่แล้วนี่”

“ก็รู้ตัวนะ แต่ทำไมยังปากแข็งอยู่ได้”

ชายไทไม่ยอมตอบ ยังทำหน้านิ่งขรึมอยู่เช่นเดิม เขาไม่ได้ปากแข็งอะไรแต่ทุกอย่างมันไม่ง่ายเลย...เขามีเรื่องต้องคิดมากกว่าการทำตามที่ตัวเองรู้สึกเพียงอย่างเดียว

“แกพูดกับฉันเองว่าคนเราเกิดมาหนเดียว อย่าคิดอะไรมากเลย ทำตามสัญชาตญาณตัวเองดีที่สุด ตอนนี้ฉันเริ่มรู้สึกแล้วว่า รัตติกาลน่ารักกว่าแต่ก่อนมาก บางทีฉันอาจจะยอมแพ้เรื่องหวาน รัตติกาลอาจจะเหมาะกับฉันเหมือนอย่างที่แฟนคลับเชียร์ก็ได้”

ชายไทหันขวับจ้องเพื่อนรักตาเขียวเข้ม “แก...ชอบคุณรัตงั้นเหรอ”

“ไม่รู้สิ เพิ่งสัปดาห์เดียวที่เราได้ใกล้ชิดกัน แต่มันทำให้ฉันรับรู้ว่า รัตติกาลไม่ได้หยิ่งเหมือนก่อน นิสัยน่ารักขึ้นเยอะ ทำให้ฉันหัวเราะได้ตลอดเวลา ไม่เหมือนตอนที่อยู่กับหวาน...หวานทำให้ฉันอึดอัด ฉันควรยอมแพ้เรื่องหวานสักที”

“แกล้อเล่นอีกใช่ไหม”

“ไม่ คราวนี้ฉันพูดจริง คนอย่างฉันแกก็รู้จักดี ฉันไม่จริงจังกับอะไรนานๆ สำหรับหวานฉันทำมานานเกินความอดทนของตัวเองมากไปแล้ว”

“แกควรถามใจตัวเองดีๆ ไม่ใช่แค่แรงเชียร์จากคนอื่น คุณรัตไม่เหมาะกับแกหรอก”

“แกเอาอะไรมาวัดว่าเหมาะหรือเปล่า แกไม่ยอมรับความรู้สึกของรัตเองนะ ในเมื่อแกไม่ชอบ ฉันก็จะจีบเอง”

ชายไทได้ต้องสบตาเพื่อนด้วยความไม่เข้าใจ อชิตะไม่เคยจริงจังกับผู้หญิงคนไหนนาน เขารู้ดีมาตลอด แต่สำหรับมโนชาดูอชิตะฝังจิตฝังใจเหลือเกินแล้วความอดทนของอชิตะก็มีน้อยนิด เขาเองยังลุ้นเลยว่าจะทำการง้องอนได้นานแค่ไหน เรื่องเลิกง้อมโนชาไม่ทำให้เขาตกใจเท่าเรื่องเลือกที่จะจีบรัตติกาล

เป็นไปไม่ได้หรอก...อชิตะกำลังวางแผนเล่นเกมอะไรกับเขาอยู่แน่ๆ แต่เกมนี้อชิตะจะได้อะไร เพราะไม่ได้ดึงมโนชามาเกี่ยวข้องเลยมีแค่เขากับรัตติกาลเท่านั้นเอง

น่าหงุดหงิดจริงๆ!



ณิชนิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 14 พ.ค. 2558, 07:33:04 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 14 พ.ค. 2558, 07:33:04 น.

จำนวนการเข้าชม : 1237





<< ---ลบ---   บทที่ ๑๕ แผนลวง (จบ) >>
konhin 15 พ.ค. 2558, 04:29:47 น.
อ่านรวดเดียวเลย น่าสนใจมากๆค่ะ นางเอกแปลกดี พระเอกก็แปลก เรื่องสนุก


ณิชนิตา 15 พ.ค. 2558, 06:21:58 น.
คุณ Konhin ขอบคุณค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account