Because is love เพราะรัก
เมื่อความรักของกันและการณ์ถูกเปิดเผย ตระกูลใหญ่อย่างอัคราปรีชารัตน์และตระกูลศิริวงศ์สกุลจะยอมรับในความรักครั้งนี้หรือไม่ กันและการณ์จะได้อยู่ด้วยกันอย่างเปิดเผยหรือไม่ นิยายแนวเนื้อหาชีวิตจริงและวายช-ช
Tags: ชาย-ชาย
ตอน: ปฐมบท รักที่พูดไม่ได้ (บางครั้งการกระทำก็สำคัญกว่าคำพูด)
ณ บ้านอัคราปรีชารัตน์ บ้านของตระกูลนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งบ้านหลังนี้มีประเพณีที่สืบทอดกันมายาวนานรุ่นต่อรุ่นคือหากเป็นลูกชายทางบ้านก็จะให้รับราชการทหาร ประเพณีนี้ก็ได้สืบทอดยาวนานมาถึง 7 รุ่นด้วยกัน บริเวณบ้านมีอาณาเขตกว้างขวาง ร่มรื่น ตัวบ้านส่วนใหญ่ทำด้วยไม้ ทาสีด้วยสีขาว
“กัน ตื่นได้แล้วลูก” เสียงของหญิงวัยกลางคนที่กำลังเรียกลูกชายของตน
“จะแปดโมงแล้วนะลูก ลุกขึ้นจากที่นอนได้แล้ว” เธอพูดไปพลางสะกิดลูกชายให้ลุกจากเตียง
“แต่แม่ วันนี้วันเสาร์นะครับ” ลูกชายของเธอพูดโดยไม่ลืมตาหรือแม้แต่หันหน้ามาสบตาผู้เป็นแม่
“วันนี้เรามีแขกมาบ้านนะลูก รีบลุกไปช่วยแม่รับแขก” เธอเริ่มออกคำสั่งกับลูกชายตัวแสบของเธอพร้อมกับดึงลูกชายของตนให้ลุกขึ้นนั่ง
“ได้ครับ แต่ผมขอ 10 นาที”
“งั้น ก็รีบลงมาช่วยแม่ล่ะกัน แขกน่าจะเริ่มทยอยกันมาเรื่อยๆ” เธอเห็นใจลูกชายของเธอเพราะวันนี้เป็นวันหยุดเขาควรได้พักบ้าง
“ครับ” เขาตอบด้วยอาการเบื่อหน่าย
“มันลุกรึยัง” เสียงของชายผู้ที่ดูน่าเกรงขาม มีใบหน้ากลมเรียว ใบหน้านั้นมีหนวดเคราลักษณะคล้ายขุนนางในวัง จมูกโด่งพอประมาณ มีสายตาแสดงอารมณ์ที่ฉุนเฉียวตลอดเวลา เส้นผมสีเทาปะปนกับสีดำ มีร่างกายกำยำล่ำสันซึ่งก็ไม่ได้โรยราตามอายุของเขาเลย
“คุณนายท่านขึ้นไปปลุกแล้วค่ะ” เสียงของสาวใช้ประจำตระกูล
“งั้น ไปบอกให้มาพบฉันหน่อย” น้ำเสียงออกคำสั่งของผู้เป็นนาย
“ค่ะ ท่าน” คนใช้รีบรับคำสั่งจากผู้เป็นนาย
ภายในตัวบ้านเวลานี้ก็เต็มไปด้วยเหล่าบริวารคนรับใช้ทั้งชายหญิงประมาณ 6-7 คนที่กำลังสาละวนกับการเตรียมงานวันเกิดของผู้เป็นนาย
“คุณนายค่ะ คุณท่านให้มาตาม” เสียงของสาวใช้ ที่ได้บอกกับผู้เป็นนายหญิง
“ได้ เดี๋ยวฉันออกไป เธอรีบไปช่วยคนอื่นเตรียมงานเถอะ” เธอกำลังวุ่นกับการเตรียมอาหารสำหรับแขกที่จะมางานวันเกิดของสามีเธอในวันนี้ ซึ่งงานจะเริ่มในเวลาเที่ยง
9.12 น.
“แม่ ครับ” เสียงของผู้ชายที่ซึ่งมีใบหน้าอันสวย หวาน ได้รูปเฉกเช่นกับผู้หญิง มีริมฝีปากที่เล็กราวริมฝีปากของหญิงสาว
“คุณนาย อยู่ข้างนอกคุยกับคุณท่านอยู่ค่ะ” สาวใช้ตอบผู้เป็นนาย “คุณหนู จะเอาอะไรรึเปล่าค่ะ”
“งั้น เอาไรมาให้ฉันกินหน่อย”
“ค่ะ คุณหนู”
ที่หน้าบ้านอัคราปรีชารัตน์ บริเวณโต๊ะไม้สักที่ตั้งเด่นอยู่กลางสวนหย่อม
“นี้คุณ เรื่องที่จะให้ลูกเราสอบเข้ารับราชการทหารล่ะว่าไง” ผู้เป็นสามีถามด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่งยากที่จะเดาอารมณ์
“เรื่องนี้ ฉันว่าควรให้ลูกตัดสินใจเองจะดีกว่านะค่ะ” ผู้เป็นภรรยาตอบตามความคิดของตน
“คุณ!!! คุณจะให้ลูกตัดสินใจเองได้ไง” ผู้สามีเริ่มมีอารมณ์โกรธขึ้นมาเล็กน้อย “มันเป็นธรรมเนียม ประเพณีของต้นตระกูลเรานะ”
“ต้นตระกูลคุณ ไม่ใช่ต้นตระกูลฉัน!!!” เธอตอบกลับสามี “เราควรให้ลูกเลือกเองว่าลูกจะเป็นอะไร” เธอตอบด้วยจิตวิญญาณของความเป็นแม่ “เราไม่ควรจะไปบังคับจิตใจลูก”
“ยังไงลูกเราก็ต้องรับราชการทหาร” เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงขุ่นมั่ว เขาพยายามใจเย็นที่สุดเพื่องานวันเกิดของเขาที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ชั่วโมงนี้ “วันนี้นายทหารชั้นผู้ใหญ่จะมาคุณต้องเตรียมลูกให้พร้อม เขาจะมาดูลูกของเรา” น้ำเสียงเริ่มเย็นและนิ่งตามอารมณ์ที่เริ่มสงบขึ้น “และอีกอย่าง คุณถือว่าเป็นคนของอัคราปรีชารัตน์ตั้งแต่วันที่เราจดทะเบียนสมรสกัน”
“ฉันว่ารอให้ลูกเราเรียนจบก่อนจะดีกว่านะค่ะ” การเจรจาต่อรองได้เริ่มขึ้น
“ได้ ลูกเราเรียนจบเมื่อไหร่ เราค่อยมาคุยเรื่องนี้กันอีกที”
“ค่ะ” ฝ่ายภรรยา เธอได้แต่ถอนหายใจหลังจากรับคำสามี และเธอก็ลุกขึ้นเดินเข้าไปภายในบ้านเพื่อเตรียมงานต่อ
“ยังไง มันก็ต้องรับราชการทหาร” เขาพูดบอกกับตัวเอง เพื่อให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น
“กัน ตื่นได้แล้วลูก” เสียงของหญิงวัยกลางคนที่กำลังเรียกลูกชายของตน
“จะแปดโมงแล้วนะลูก ลุกขึ้นจากที่นอนได้แล้ว” เธอพูดไปพลางสะกิดลูกชายให้ลุกจากเตียง
“แต่แม่ วันนี้วันเสาร์นะครับ” ลูกชายของเธอพูดโดยไม่ลืมตาหรือแม้แต่หันหน้ามาสบตาผู้เป็นแม่
“วันนี้เรามีแขกมาบ้านนะลูก รีบลุกไปช่วยแม่รับแขก” เธอเริ่มออกคำสั่งกับลูกชายตัวแสบของเธอพร้อมกับดึงลูกชายของตนให้ลุกขึ้นนั่ง
“ได้ครับ แต่ผมขอ 10 นาที”
“งั้น ก็รีบลงมาช่วยแม่ล่ะกัน แขกน่าจะเริ่มทยอยกันมาเรื่อยๆ” เธอเห็นใจลูกชายของเธอเพราะวันนี้เป็นวันหยุดเขาควรได้พักบ้าง
“ครับ” เขาตอบด้วยอาการเบื่อหน่าย
“มันลุกรึยัง” เสียงของชายผู้ที่ดูน่าเกรงขาม มีใบหน้ากลมเรียว ใบหน้านั้นมีหนวดเคราลักษณะคล้ายขุนนางในวัง จมูกโด่งพอประมาณ มีสายตาแสดงอารมณ์ที่ฉุนเฉียวตลอดเวลา เส้นผมสีเทาปะปนกับสีดำ มีร่างกายกำยำล่ำสันซึ่งก็ไม่ได้โรยราตามอายุของเขาเลย
“คุณนายท่านขึ้นไปปลุกแล้วค่ะ” เสียงของสาวใช้ประจำตระกูล
“งั้น ไปบอกให้มาพบฉันหน่อย” น้ำเสียงออกคำสั่งของผู้เป็นนาย
“ค่ะ ท่าน” คนใช้รีบรับคำสั่งจากผู้เป็นนาย
ภายในตัวบ้านเวลานี้ก็เต็มไปด้วยเหล่าบริวารคนรับใช้ทั้งชายหญิงประมาณ 6-7 คนที่กำลังสาละวนกับการเตรียมงานวันเกิดของผู้เป็นนาย
“คุณนายค่ะ คุณท่านให้มาตาม” เสียงของสาวใช้ ที่ได้บอกกับผู้เป็นนายหญิง
“ได้ เดี๋ยวฉันออกไป เธอรีบไปช่วยคนอื่นเตรียมงานเถอะ” เธอกำลังวุ่นกับการเตรียมอาหารสำหรับแขกที่จะมางานวันเกิดของสามีเธอในวันนี้ ซึ่งงานจะเริ่มในเวลาเที่ยง
9.12 น.
“แม่ ครับ” เสียงของผู้ชายที่ซึ่งมีใบหน้าอันสวย หวาน ได้รูปเฉกเช่นกับผู้หญิง มีริมฝีปากที่เล็กราวริมฝีปากของหญิงสาว
“คุณนาย อยู่ข้างนอกคุยกับคุณท่านอยู่ค่ะ” สาวใช้ตอบผู้เป็นนาย “คุณหนู จะเอาอะไรรึเปล่าค่ะ”
“งั้น เอาไรมาให้ฉันกินหน่อย”
“ค่ะ คุณหนู”
ที่หน้าบ้านอัคราปรีชารัตน์ บริเวณโต๊ะไม้สักที่ตั้งเด่นอยู่กลางสวนหย่อม
“นี้คุณ เรื่องที่จะให้ลูกเราสอบเข้ารับราชการทหารล่ะว่าไง” ผู้เป็นสามีถามด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่งยากที่จะเดาอารมณ์
“เรื่องนี้ ฉันว่าควรให้ลูกตัดสินใจเองจะดีกว่านะค่ะ” ผู้เป็นภรรยาตอบตามความคิดของตน
“คุณ!!! คุณจะให้ลูกตัดสินใจเองได้ไง” ผู้สามีเริ่มมีอารมณ์โกรธขึ้นมาเล็กน้อย “มันเป็นธรรมเนียม ประเพณีของต้นตระกูลเรานะ”
“ต้นตระกูลคุณ ไม่ใช่ต้นตระกูลฉัน!!!” เธอตอบกลับสามี “เราควรให้ลูกเลือกเองว่าลูกจะเป็นอะไร” เธอตอบด้วยจิตวิญญาณของความเป็นแม่ “เราไม่ควรจะไปบังคับจิตใจลูก”
“ยังไงลูกเราก็ต้องรับราชการทหาร” เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงขุ่นมั่ว เขาพยายามใจเย็นที่สุดเพื่องานวันเกิดของเขาที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ชั่วโมงนี้ “วันนี้นายทหารชั้นผู้ใหญ่จะมาคุณต้องเตรียมลูกให้พร้อม เขาจะมาดูลูกของเรา” น้ำเสียงเริ่มเย็นและนิ่งตามอารมณ์ที่เริ่มสงบขึ้น “และอีกอย่าง คุณถือว่าเป็นคนของอัคราปรีชารัตน์ตั้งแต่วันที่เราจดทะเบียนสมรสกัน”
“ฉันว่ารอให้ลูกเราเรียนจบก่อนจะดีกว่านะค่ะ” การเจรจาต่อรองได้เริ่มขึ้น
“ได้ ลูกเราเรียนจบเมื่อไหร่ เราค่อยมาคุยเรื่องนี้กันอีกที”
“ค่ะ” ฝ่ายภรรยา เธอได้แต่ถอนหายใจหลังจากรับคำสามี และเธอก็ลุกขึ้นเดินเข้าไปภายในบ้านเพื่อเตรียมงานต่อ
“ยังไง มันก็ต้องรับราชการทหาร” เขาพูดบอกกับตัวเอง เพื่อให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น
เพโลโพตัส
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 22 พ.ค. 2558, 21:38:35 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 22 พ.ค. 2558, 21:38:44 น.
จำนวนการเข้าชม : 805
รักที่พยายามจะพูด (มันเพราะอะไรทำไมเขาทั้งสองถึงรักกันไม่ได้) >> |