แก้วขวัญวันรัก "ประกาศิตรักแก้วกัลยา"
เป็นเรื่องราวต่อยอดมาจาก แก้วขวัญวันรัก
โดยเรานำเรื่องราวของนางเอกทั้งสี่แบ่งพาสเป็นเรืองของตัวเองประกอบไปด้วย
"ประกาสิตรักแก้วกัลยา"
"พันธนาการรักขวัญชีวัน"
"ละลายรักวันวิวาห์"
"กลบ่วงรักรักจิรา"
โดยเรื่องแรกของ แก้วขวัญวันรักที่นำมาให้ได้อ่านกันคือ "ประกาศิตรักแก้วกัลยา"
แก้วกัลยาพี่สาวของโตของบ้านสิทธิทรัพย์อาภา
เมื่อถูกกดดันให้คลุมถุงชนกับเจษฎา เธอจึงต้องหาทางดิ้นให้พ้นบ่วงนี้
เธอจึงออกปากท้าอากง ว่าจะหาสามีที่ดีมาโชว์ให้ได้
แก้วกัลยาเลือก "เพทาย" ประธานหนุ่มแห่งวินัสมีเดีย
ผู้ชายที่สมบูรณ์แบบ ผู้ชายที่เธออยากจะเอาชนะใจ
ผู้ชายที่ติดอยู่ในความทรงจำของเธอมาตลอดเจ็ดปี
แก้วกัลยาจะพิชิตใจเพทายได้หรือไม่ติดตามได้ใน "ประกาศิตรักแก้วกัลยา"
โดยเรานำเรื่องราวของนางเอกทั้งสี่แบ่งพาสเป็นเรืองของตัวเองประกอบไปด้วย
"ประกาสิตรักแก้วกัลยา"
"พันธนาการรักขวัญชีวัน"
"ละลายรักวันวิวาห์"
"กลบ่วงรักรักจิรา"
โดยเรื่องแรกของ แก้วขวัญวันรักที่นำมาให้ได้อ่านกันคือ "ประกาศิตรักแก้วกัลยา"
แก้วกัลยาพี่สาวของโตของบ้านสิทธิทรัพย์อาภา
เมื่อถูกกดดันให้คลุมถุงชนกับเจษฎา เธอจึงต้องหาทางดิ้นให้พ้นบ่วงนี้
เธอจึงออกปากท้าอากง ว่าจะหาสามีที่ดีมาโชว์ให้ได้
แก้วกัลยาเลือก "เพทาย" ประธานหนุ่มแห่งวินัสมีเดีย
ผู้ชายที่สมบูรณ์แบบ ผู้ชายที่เธออยากจะเอาชนะใจ
ผู้ชายที่ติดอยู่ในความทรงจำของเธอมาตลอดเจ็ดปี
แก้วกัลยาจะพิชิตใจเพทายได้หรือไม่ติดตามได้ใน "ประกาศิตรักแก้วกัลยา"
Tags: แก้วกัลยา เพทาย ความรัก เดิมพัน
ตอน: บทนำ
สวัสดีอย่างเป็นทางการอีกครั้ง หายจากก้นไปนอน
ไม่ค่อยได้แวะมา แต่ครั้งนี้ก็นำเรื่องเก่ามาเล่าใหม่
คงยังจำแก้วขวัญวันรักกันได้
ตอนนี้ไรเตอร์นำเรื่องราวของสี่สาวมาแบ่งพาสออกเป็นสี่เรื่อง
โดยนำเรื่อง ...ประกาศิตรักแก้วกัลยา... มาประเดิมให้อ่านเป็นเรื่องแรก
หวังว่าทุกคนจะชอบและติดตามกัน
หลังจากลงประกาศิตรักได้ครึ่งหนึงจะเริ่มลง "พันทนาการรักขวัญชีวัน" ต่อแน่นอนค่ะ
บทนำ
เธอเชื่อเสมอว่าความรักคือส่วนเติมเต็มสิ่งที่มันขาดหาย ส่วนเติมเติมสิ่งที่ว่างเปล่า คือความสมบูรณ์ของคนทั้งคู่เธอจึงปรารถนาความสมบูรณ์แบบ ปรารถนาคนที่จะมาเติมเต็มส่วนที่หายไปของเธอ เธอเชื่อว่าความรักก็เหมือนกับเกมจิ๊กซอว์ถ้าขาดไปเพียงส่วนหนึ่งมันจะไม่มีทางสมบูรณ์ได้เธอจึงปรารถนาจะเจอกับความรักที่สมบูรณ์ เธอจึงออกตามหาจิ๊กซอร์ที่กระจัดกระจายเหล่านั้นเพื่อมาต่อเติมความรักของเธอให้สมบูรณ์
แต่แล้ววันหนึ่งเธอก็ค้นพบว่าบางทีความรักมันไม่ต้องสมบูรณ์ก็ได้ ความรักมันไม่มีอะไรเลย เพราะบนโลกนี้ไม่มีความสมบูรณ์ที่สุด เพราะบางทีจิ๊กซอว์ก็ไม่มีวันสมบูรณ์คงอยู่ได้ตลอดกาล วันหนึ่งมันอาจจะหล่นหายไป ถ้าเธอยึดติดกับความสมบูรณ์ เธอจะต้องออกตามหามันซ้ำแล้วซ้ำเล่าเมื่อชิ้นใดชิ้นหนึ่งหายไป เธอจะต้องเหน็ดเหนื่อยกับการตามหามันไม่มีที่สิ้นสุด สำหรับความรักแล้ว มันไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่ต้องใช้ใจแทนสมองบ้าง วันนี้เรายังมองเห็นภาพจิ๊กซอว์ที่สมบูรณ์นั้น เราก็ควรจะมองมัน จดจำภาพที่สมบูรณ์นั้นไว้ในหัวใจ แล้ววันหนึ่งถ้าจิ๊กซอว์ชิ้นนั้นมันหายไป มันอาจจะไม่สวยสมบูรณ์เหมือนเดิม ขอให้เรานึกถึงภาพที่เคยสมบูรณ์ นึกถึงวันที่มันยังเป็นภาพที่สวยงาม แล้วเราจะมีความสุข ไม่ต้องพยายามที่จะไขว้คว้า หรือตามหามันทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าชิ้นส่วนนั้นอาจจะไม่มีวันที่จะหาเจอได้อีก ที่สำคัญเราควรเรียนรู้จากความไม่สมบูรณ์นั้น มองมันในมุมที่แตกต่าง มองความไม่สมบูรณ์นั้นให้เป็นสัจธรรม แล้วเราจะได้ไม่ทุกข์กับความสมบูรณ์ที่ไม่มีวันสมบูรณ์
แก้วกัลยา
1 มกราคม 2558
เสียงเพลงเปิดดังไปทั่วตลาดสิทธิทรัพย์ ตลาดที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดระยอง ชาวตลาด รวมถึงชาวบ้านในละแวกโดยรอบพากันมางานเลี้ยงฉลองปีใหม่ ที่เสี่ยสุนทรเจ้าของตลาดจัดขึ้นทุกปี แม้จะขึ้นชื่อเรื่องความเค็ม งก เพราะค่าแผงขายของที่ต้องจ่ายห้ามขาดแม้แต่เดือนเดียว เป็นหนี้ก็ต้องใช้ตามกำหนด ขึ้นชื่อเรื่องความโหด เผด็จการ แต่ก็ไม่เคยโกงใคร แม้จะมีนิสัยโผงผาง เอะอะโวยวายตามประสาคนเจ๊ก คนจีน แต่ก็เป็นคนใจดีในแบบของตนเองอย่างงานปีใหม่ งานสงกรานต์จะจัดการให้ชาวตลาดมาสนุกครึกครื้น มีแจกจ่ายของให้กับชาวตลาดฟรี ๆ แม้จะโหดเรื่องเงินไปบ้าง แต่ชาวตลาดก็รักและเคารพเสี่ยสุนทรดั่งเป็นญาติผู้ใหญ่ของคนเอง มีเรื่องเดือดร้อนก็สามารถไปขอความช่วยเหลือได้ทุกเมื่อ นอกจากชาวบ้านในละแวกตลาดแล้ว เพื่อนพ้องน้องพี่พากันมาร่วมงานอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง รวมถึงบรรดาหลานสาวทั้งสี่ที่กลับมาจากกรุงเทพเพื่อมางานปีใหม่เหมือนทุกปี มาอวยพรและขอพรกับตากับยายที่เป็นญาติผู้ใหญ่ที่พวกเธอเคารพและรักมาก หลานสาวทั้งสี่ของเสี่ยสุนทรขึ้นชื่อเรื่องความสวย คนทั้งตลาดต่างชื่นชม
หลานคนแรกของเสี่ยสุนทรชื่อแก้วกัลยาเป็นสาวลูกครึ่งไทย จีน ฝรั่งเศส เป็นลูกสาวของแก้วตาบุตรสาวคนโตกับฝรั่งตาน้ำข้าวชาวฝรั่งเศส ทั้งสองประสบอุบัติเหตุและจบชีวิตลงในในเวลาไล่เลี่ยกัน พ่อของแก้วกัลยาเป็นลูกชายคนเดียวของบ้าน ปู่ย่าของแก้วกัลยาเสียชีวิตไปก่อนหน้านั้นและไม่มีญาติที่ไหนอีก แก้วกัลยาจึงถูกส่งมาให้ผู้เป็นตารับผิดชอบเลี้ยงดู
หลานสาวคนที่สองคือขวัญชีวัน เป็นหลานสาวที่เกิดจากบุตรสาวคนที่สอง ขวัญชนกและเสี่ยววิบูลย์ เจาของตลาดคู่แข่ง พ่อตากับลูกเขยไม่ลงรอยกัน เกิดปัญหาแตกแยกของครอบครัวเมื่อเสี่ยวิบูลย์กิจขอแยกทางด้วยสาเหตุบางอย่าง แต่สุนทรยื้อหลานสาวคนที่สองไว้ไม่ยกให้ และเพราะขวัญชนกขอร้อง เสี่ยวิบูลย์กิจจึงไม่นำลูกสาวไปด้วย แต่ก็ติดต่อกันไปมาตลอดตามข้อตกลงของทั้งสองบ้าน
หลานสาวคนที่สามคือวันวิวาห์ เป็นหลานสาวที่เกิดจากบุตรสาวคนที่สาม วันวิภา ส่วนพ่อของวันวิวาห์ไม่มีใครรู้จัก วันวิภาเองก็ไม่เคยปริปากพูด เธอจึงต้องเป็นผู้หญิงที่ท้องไม่มีพ่อ ตกอยู่ในสภาพชีวิตที่ทุกข์ระทม และยิ่งต้องมาพิการก็เพิ่มความน่าสงสารให้กับวันวิภา และเรื่องเหล่านี้ หล่อหลอมให้วันวิวาห์ดูเป็นผู้ใหญ่เกินวัยมาตั้งแต่เด็ก
และหลานสาวคนสุดท้ายคือรักจิรา หลานสาวที่เกิดจากลูกสาวคนที่สี่ รักนรากับตำรวจหนุ่มผู้ย้ายมาทำงานในต่างจังหวัด แต่แล้วพ่อของรักจิราก็ถูกลอบยิง แม่ตรอมใจหลังจากพ่อเสียชีวิตไปได้ไม่นาน
หญิงสาวทั้งสี่สาวมีอายุไล่เลี่ยกัน โดยแก้วกัลยาเกิดก่อนพี่น้องคนอื่น ตามมาด้วยขวัญชีกับวันวิวาห์ที่เกิดปีเดียวกัน และสุดท้ายก็เป็นรักจิราก็เกิดในอีกสองปีถัดมา ปัจจุบันสี่สาวทำงานอยู่ในกรุงเทพทุกวันสำคัญทั้งสี่จะแวะกลับมาที่ระยองเพื่อมาเยี่ยมอากงอาม่า ไม่ใช่ตามหน้าที่ แต่เพราะให้ความสำคัญกับทั้งสองคนที่เลี้ยงดูพวกเธอมาอย่างดี
“พวกอั๊วไม่แต่งนะอากง นี่มันเรื่องใหญ่ระดับชาติเลยนะ อยู่ ๆ อากงจะมาตัดสินแทนพวกอั๊วได้ยังไง ให้ฟ้าถล่มดินทลายพวกอั๊วก็ไม่แต่งแน่ ๆ” สาวสวยใบหน้าเรียวรูปไข่เอ่ยขึ้น เสียงหวีดแหลมอย่างมีเอกลักษณ์ของเธอทำให้ผู้เป็นตาถึงกับต้องเอามืออุดหู แก้วกัลยามีสีหน้าบึ่งตึงอย่างเก็บอาการไว้ไม่อยู่ เธอคิดไว้อยู่แล้วเชียว ว่าเรียกพวกเธอแยกออกมาจากงานเลี้ยงทำไม
“แต่อั๊วคุยกับเสี่ยกรแล้ว หัวเด็ดตีนขาดพวกลื้อก็ต้องแต่ง อั๊วไม่ได้ขอร้องพวกลื้อให้แต่งแต่อั๊วกำลังสั่งให้พวกลื้อแต่ง” ทุกคนในที่นี้รู้ดี เสี่ยสุนทรเป็นคนที่เด็ดขาด ถ้าบอกเป็นคำสั่งต้องทำตาม ห้ามค้าน แต่ในบรรดาหลานสาวทั้งสี่ หนึ่งในนั้นมีหลานกบฏ ที่เสี่ยสุนทรใช้เรียกหลานสาวคนโตที่เกิดจากบุตรสาวคนโตผู้ไม่เคยเชื่อฟัง ตามนิสัยเด็กจบนอกและมีสายเลือดกึ่งหนึ่งเป็นชนชาติตะวันตกที่สุนทรเกลียดนักเกลียดหนา
“พวกลื้อไม่ได้ยินซินแสบอกหรือยังไงว่าถ้าพวกลื้อไม่แต่งงานปีนี้ พวกลื้อจะขึ้นคาน”
“นี่ใช่ไหมที่อากงคะยั้นคะยอให้อั๊วมาให้ได้ มาฟังซินแสเก๊ทำนายมั่ว ๆ แบบนี้”
“ซินแสจางไม่ใช่ซินแสเก๊ อั๊วไปดูดวงกับอีเป็นประจำ พวกลื้อจะเชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่ พวกลื้อต้องแต่ง อั๊วไม่ยอมอายชาวบ้านไปทั้งบางแน่ อั๊วอับอายเพราะแม่พวกลื้อมามากพอแล้ว ยังต้องมาอาย คนเค้าเม้ากันทั้งบาง หลานสาวเสี่ยสุนทรไม่มีปัญญาหาผะ...แฟน อั๊วอยากจะเอาปี๊บคลุมหัว”
“ใครหน้าไหนมันพูดไปตามตัวมาสิ” แก้วกัลยาทำท่าราวกับนักเลงใหญ่ ไม่กลัวเกรงใคร
“ก็คนทั้งตลาดนั่นแหละ”
“ตกลงที่อากงบังคับพวกเราแต่งงาน เพราะซินแสทัก หรือเพราะอายที่คนเอาเรื่องพวกอั๊วไปเม้าส์กันแน่”
“ก็สองอย่างนั่นแหละ ลื้อรู้ไหม อั๊วไปเชิญอาซินแสจางมาจากฮ่องกงเชียวนะ ซินแสจางไม่เคยทักใครพลาด แล้วถ้ารอเกินปีหน้าไป พวกลื้อไม่มีแฟน พวกลื้อจะขึ้นคานตลอดชีพ แล้วคนที่เข้ามาก็มาล้างผลาญพวกลื้อ ทำให้ตระกูลวินาศวอดวาย”
“มั่วแล้ว แฟนพวกอั๊วจะไปสร้างความวินาศให้ตระกูลได้ยังไง อากงคิดมากไปแล้ว แล้วพวกอั๊วก็ไม่เข้าใจ ทำไมต้องเป็นพวกหลานเสี่ยกร ถ้าปีหน้าพวกอั๊วจะขึ้นคานจริงนะ พวกอั๊วก็มั่นใจว่ามีปัญญาแฟนเองได้ อากงไม่มีสิทธิ์มาบังคับพวกอั๊วแบบนี้”
“อั๊วเป็นอากงพวกลื้อทำไมจะไม่มีสิทธิ์ ลื้อถามได้ดีมากอาแก้วว่าทำไมต้องลูกเสี่ยกร บอกเลยแล้วกัน อั๊วอัดอั้นตันใจมานานแล้ว ตามจริงคนที่ควรจะได้แต่งกับบ้านเสี่ยกรก็คือแม่พวกลื้อนั่นแหละ แต่แม่พวกลื้อหนีไปมีผัวเอ่อ...พ่อพวกลื้อก่อน รู้ไหมอั๊วเสียหน้าแค่ไหน แล้วอั๊วคุยกับเสี่ยกรไว้แล้ว อั๊วจะไม่ผิดสัญญาอีก พวกลื้อก็รู้ว่าอั๊วกับเสี่ยกรสนิทกันแค่ไหน อั๊วกับเสี่ยกรเป็นเพื่อนกันตัดสินใจกันว่ายังไงครอบครัวเราสองคนก็ต้องดองกันในวันหนึ่ง เมื่อแม่พวกลื้อทำให้อั๊วไม่ได้ พวกลื้อก็ต้องแต่งแทน”
“ไม่นะอากง พวกอั๊วไม่แต่ง ไม่แต่งแน่ ๆ นั่นมันเรื่องตั้งนานนมแล้ว อากงมาบังคับพวกอั๊วไม่ได้นะ นี่มันปี พ.ศ. ไหนกันแล้ว หมดยุคคลุมถุงชนแล้ว ส่วนเรื่องหาแฟนพวกอั๊วมั่นใจว่าพวกอั๊วหาได้ แล้วต้องคุณสมบัติเลิศแน่ เลิศกว่าหลานอาเสี่ยกรหลายสิบเท่าเลยแหละ” แก้วกัลยาพูดอย่างมั่นอกมั่นใจ
“พวกลื้ออย่าเรื่องมากนักเลย หลานชายสี่คนของเสี่ยกรเขาก็ยังไม่ได้แต่งงานเหมือนกัน หน้าที่การงานก็ดี หน้าตาก็...ใช้ได้ แต่งกัน พวกลื้อจะกลัวอะไร ได้แต่งกับพวกอีนะลื้อสบายไปทั้งชาตินะอาแก้ว” แก้วกัลยาหลานสาวคนโตสุดแสบถึงกับหน้าหงิกงอขึ้นมาทันที
“อากง ลูกชายของเสี่ยกรแต่ละคนนะ แค่คิดก็ไม่ไหวแล้ว อั๊วสงสารพวกขวัญมากถ้าต้องไปแต่งงานกับคนพวกนั้น อากงไม่รู้หรือแกล้งไม่รู้กัน อาหลงน่ะเพลย์บอยตัวพ่อเชียวนะ แล้วอาเปานี่จะเลี้ยงไอ้รักได้เหมือนอากงหรือเปล่าขี้เหนียวขนาดนั้น มีหวังให้ไอ้รักต้มก้างปลากินแน่ แล้ว...” แก้วกัลยายังคงพยายามจะยกเหตุผลกลับ
“ลื้ออย่ามาเถียงอั๊วได้ไหม อั๊วมั่นใจว่าอั๊วดูคนไม่ผิด ลื้อดูพวกอาขวัญ อียังไม่เห็นค้านอะไรเลย”
“พวกนั้นไม่กล้าพูดต่างหาก อั๊วถึงต้องพูดแทน” สาวสาวที่ยืนอยู่ข้างหลังมองการต่อปากต่อคำที่ดุเดือดจนไม่กล้าเข้าไปขัด ได้แต่ก้มหน้าก้มตาอย่างหวาด ๆ ในขณะที่คุณนายเหมยฟ้าก็ทำอะไรไม่ถูก ปวดหัวกับบทสนทนาเผ็ดร้อนของทั้งคู่ที่เหมือนจะไม่ยอมใคร ถ้าถามว่าแก้วกัลยาเหมือนใครก็คงต้องบอกว่าถอดแบบปู่ของเขามานี่แหละ เถียงหน้าดำหน้าแดงจะเอาชนะให้ได้
“พวกลื้ออายุจะสามสิบกันแล้วนะ หรือลื้อจะรอให้อายุสามสิบจนขึ้นคาน ขายไม่ออกก่อนหรือไง อั๊วแก่แล้วนะ อั๊วอยากอุ้มหลาน แล้วลื้อคิดดูนะอั๊วหาแฟนให้ลื้อมันดีแค่ไหนแล้ว ไอ้ที่บอกหาเองได้ แล้วเลอเลิศมันอยู่ไหน อั๊วอยู่กับพวกลื้อมาตั้งแต่พวกลื้อยังตัวเท่ามด จนพวกลื้อแตกเนื้อสาว ตอนนี้อายุปาไปจะสามสิบแล้ว อั๊วยังไม่เห็นพวกลื้อจะหาแฟนมาอวดอั๊วได้สักคน จะให้สาธยายไหมว่าทำไม”
“อะไรอากง”
“อาแก้วอั๊วขอถาม ลื้อเคยคบกับใครได้เกินหนึ่งวันบ้าง อั๊วเห็นควงวันเดียวผู้ชายพวกนั้นหนีกันเปิงหมด ผู้ชายแต่ละคนของลื้อก็พวกงูบ้าง ปลาไหลบ้าง แล้วนิสัยแบบลื้อจะไปดึงดูดผู้ชายดี ๆ เข้ามาได้ยังไง ช่างติไปทุกอย่าง ไม่พอใจก็วีนก็ด่าเขา แล้วอั๊วบอกเลยนะว่าไม่มีใครทนมือทนเท้าลื้อได้ไปมากกว่าอาเจตอีกแล้ว อ่อ อั๊วขอสั่งห้ามเลยนะถ้าจะควงไอ้ฝรั่งหัวแดงมาเหมือนแม่ลื้อ อั๊วบอกก่อนเลยนะ อั๊วไม่รับหลานเขยฝรั่งเด็ดขาด อั๊วขอสั่งห้าม”
“เอ่อ...” แก้วกัลยาถึงกับพูดไม่ออก เมื่อเจอความจริงของสุนทร ซึ่งสาธยายมา หรือจะเรียกว่าประจานเธอต่อหน้าน้อง ๆ ทั้งสามก็ว่าได้ ทำเอาใบหน้าสวยลูกครึ่งชาหนึบขึ้นมาทันที
“แต่พวกอั๊วไม่ได้อยากแต่งนะอากง” เสียงของรักจิราหลานสาวคนเล็กเอ่ยขึ้นหลังจากเห็นแก้วกัลยานิ่งไปเมื่อโดนจัดไปหนึ่งดอกปักเข้ากลางใจ จี้ใจดำแก้วกัลยาแบบนี้ทำให้แก้วกัลยานั้นพูดไม่ออก หาเสียงไม่เจอ
“อารัก ลื้อ...” รักจิรากำลังจะเป็นรายต่อไปที่โดยหางพายุจากอากง แต่น้ำเสียงเย็น ๆ ที่นุ่มนวลของเหมยฟ้าก็เอ่ยขึ้นขัด
“อั๊วว่าอาเฮียใจเย็น ๆ ก่อนดีไหม หลาน ๆ คงจะยังไม่พร้อม อยู่ ๆ อาเฮียก็ไปคุยไม่บอกหลานก่อน ไหนอาเฮียเคยบอกอั๊วว่าจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวเรื่องจับคู่อีกแล้วไงล่ะ อาเฮียจำตอนพวกอาแก้วตา อาขวัญชนก อาวิภา แล้วก็อานราไม่ได้หรอ พวกอีเชื่อฟังอาเฮียขนาดไหน แต่สุดท้ายพวกอีก็ไปมีคนรักเป็นคนตัวเอง คงไม่ต้องบอกนะว่าด้วยวิธีไหน”
“เพราะอย่างนั้นไงล่ะ อั๊วถึงต้องจัดการ อั๊วจะไม่ยอมให้หลานของอั๊วต้องไปเลือกคนผิด ๆ อีก อาขวัญใจทำอั๊วเจ็บมากที่ไปเอาไอ้วิบูลย์มาเป็นผัว คิดได้ยังไงไปเอาลูกไอ้เหลามาเป็นผัว อั๊วเจ็บใจมาถึงตอนนี้ อั๊วไม่มีทางยอมพลาดอีกแน่” พูดพลางทำหน้าเข่นเขี้ยวไปด้วย
“อาเฮีย ความรักมันห้ามกันได้ที่ไหน อาเฮียทำแบบนี้ถ้าหลานหนีไป อาเฮียจำตอนอาแก้วตาได้ไหม อาแก้วตาติดปีกติดหางบินไปยุโรป แล้วอาแก้วที่ถอดแบบแม่มาแบบนี้ ดูท่าจะหนักกว่าด้วย ตั้งแต่มาอีเถียงลื้อเอา ๆ รั้นขนาดนี้ อีหนีแน่ แล้วจะหาว่าอั๊วไม่เตือนไม่ได้นะ”
“ก็เพราะอย่างนั้นไง ลูกสาวของลื้อทำอั๊วแสบมากอาเหมย คนหนึ่งก็ไปมีผัวฝรั่ง อีกคนไปเอาไอ้ลูกศัตรู อีกคนท้องไม่มีพ่อ อานราคนที่ควรจะเชื่ออั๊วที่สุดยังต้องมาตรอมใจตายเพราะเลือกผัวเอง อั๊วไม่ยอมให้หลานอั๊วต้องมีสภาพเดียวกับลูกอั๊วหรอก อั๊วคิดไว้แล้วว่าถ้าพวกอีแต่งงานกับหลานเสี่ยกรคนกันเองเห็นกันตั้งแต่เล็ก คงไม่มีจุดจบแบบแม่พวกอีก มันคงดีกว่าปล่อยเวลาผ่านไปแบบนี้”
“อากง พวกเราไม่แต่งนะ รักไม่ยอมนะอากง อั๊วไม่แต่งกับอาเปาแน่” รักจิราเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของสุนทร และการเจรจาของแก้วดูเหมือนจะไม่ได้ผลแล้ว ก่อนจะซวยคงต้องรีบหาทางจัดการ
“อาเฮียใจเย็น ๆ ก่อน ให้หลาน ๆ ได้คิดได้ตัดสินใจ อั๊วเชื่อว่ามันมีทางออกที่ดีกว่าการบังคับนะ”
“แต่อั๊วไม่อยากให้หลานสาวเราไปเป็นขี้ปากพวกชาวบ้าน อายุปูนนี้ขายไม่ออก แล้วอั๊วคิดว่าลูกของเสี่ยกรนี่ก็เป็นคนดีขยันขันแข็ง แต่งไปสบาย มันไม่ดีตรงไหนอาเหมย”
“ไม่ดีตรงที่พวกอั๊วมีปัญหาหาแฟนดี ๆ ไม่ต้องให้อากงมาหาคู่ผัวตัวเมียให้แบบนี้” แก้วกัลยาที่เริ่มตั้งสติได้ เรียกเสียงกลับมาเอ่ยตอกกลับไปบ้าน
“หน้าอย่างลื้อน่ะหรอมีปัญญาหาแฟนดี ๆ”
“ใช่พวกอั๊วมีปัญญา อั๊วสี่คนขอเวลาหนึ่งปี แค่หนึ่งปี”
“พวกลื้ออยู่มาจนอายุปาไปสามสิบยังหาไม่ได้ แล้วปีเดียวพวกลื้อจะมีปัญญาหรือไง เดี๋ยวก็ไปคว้าใครที่ไหนมาหลอกอั๊ว หรือไม่ก็หยิบมาสุ่ม ๆ อั๊วไม่...”
“ถ้าหนึ่งปี พวกอั๊วหาคนที่ดีพร้อมมาไม่ได้ พวกอั๊วจะยอมแต่งงานด้วยไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ”
“ลื้อแน่ใจ” สุนทรมองแก้วกัลยา สองปู่หลานจ้องตากันเหมือนหยั่งเชิงกันไปมา และแก้วกัลยาก็เอ่ยขึ้น
“แน่ใจ ขอแค่หนึ่งปี”
“แน่ใจ แต่มีข้อแม้ว่าถ้าสองในสี่สามารถหาคนที่ตรงตามที่อากงต้องการได้ อากงจะไม่บังคับอีกสองคนที่เหลือให้แต่งงานอีก แต่ถ้าพวกเราทำไม่ได้ทุกอย่างตามที่ตกลง ว่าไงคะอากง”
“ก็ได้ ถ้าพวกลื้อทำได้ อั๊วก็จะไม่ยุ่งกับชีวิตพวกลื้ออีก แต่เมื่อพวกลื้อมีข้อแม้ อั๊วก็มีข้อแม้บ้าง ว่าไงรับข้อแม้ของอั๊วบ้างหรือเปล่าล่ะ ถ้าพวกลื้อยอม อั๊วก็ยอม”
“ข้อแม้อะไรอากง” แก้วกัลยาถามเสียงระแวง
“ตอบสิ”
“เอ่อ...ก็ได้อั๊วรับ” รักจิราหันไปมองหน้าแก้วกัลยาที่ทำอะไรไม่ปรึกษาพวกเธอสักคำ พูดทุกอย่าง ตัดสินใจเองหมด แล้วพวกเธอจะเหลืออะไรให้ได้คิด ตัดสินใจบ้าง
“ดี ระหว่างนี้หนึ่งปีพวกลื้อต้องให้โอกาสพวกอาเจต ให้พวกอีพาไปเที่ยว ดูหนัง ฟังเพลง”
“ไม่เอานะอากง อั๊วไม่รับ” น้ำเสียงตกใจของรักจิราเอ่ยขึ้น
“แต่อาเจ้ลื้อรับแล้ว เอาล่ะอั๊วเหนื่อยกับพวกลื้อมาทั้งวันแล้ว พวกลื้อก็ไปพักผ่อนเถอะ ไปอาเหมย อั๊วจะโทรไปบอกเสี่ยกรให้เตรียมตัวไว้ให้พร้อม หาฤกษ์หายามรอแต่เนิ่น ๆ ฮ่า ฮ่า ฮ่า” สี่สามมองเสียงหัวเราะที่ลับหายเข้าไปในห้อง รักจิรามีสีหน้าเครียด เธอแทบอย่างจะกระโดดไปกัดคอแก้วกัลยาที่ไม่ได้หันมาถามความเห็นพวกเธอสักคำ แถมตกลงเองเออเองว่าจะให้พวกนั้นมายุ่งกับชีวิตพวกเธออีก แล้วงานนี้ชีวิตเธอจะสงบได้อย่างไร สี่สาวพากันเดินกลับเข้าห้องไป แต่ไม่ใช่ห้องของตัวเอง แต่เป็นห้องของแก้วกัลยา ทันทีที่บานประตูห้องแก้วกัลยาปิดลง
“พวกเราตายแน่ ตาย ๆ ๆ ตัวพูดบ้าอะไรออกไปตัวรู้ไหม ตัวไปเดิมพันอะไรบ้า ๆ แบบนั้นได้ยังไง ตัวกำลังทำพวกเราซวยกันหมดตัวรู้ไหม” รักจิราแทบจะพุ่งเข้าไปบีบคอแก้วกัลยา แต่แก้วกัลยานั้นไว้วิ่งไปหลบอยู่ข้างหลังวันวิวาห์เสียก่อนเพราะรู้ดีว่าน้องสาวของตนแม้จะไม่ใช่คนขี้เหวี่ยงขี้วีนแบบตน แต่อารมณ์รุนแรงรักจิราเป็นที่หนึ่ง ทำร้ายคนได้โดยไม่สนใจด้วยว่าอาวุโสกว่า ไม่สนว่าจะนับถือพี่น้อง ขอแค่ระบายก่อนเป็นพอ
“ก็ถ้าไม่พูดแบบนี้อากงให้พวกเราแต่งงานกับพวกลูกชายเสี่ยกรอีกสามเดือนข้างหน้าแน่”
“แล้วตัวพูดไปแบบนั้นพวกเราไม่ตายกันหมดหรอ เราจะเอาแฟนที่ไหนไปให้อากงดู ถ้าหนึ่งปีข้างหน้าพวกเราไม่มีแฟนขึ้นมา พวกเราไม่ต้องไปเป็นสะใภ้บ้านนั่นกันหมดหรอ ใช่สิเจ๊แก้วลอยตัวแล้ว เฮียเจตรักตามใจเจ๊แก้วจะตายยังไงก็ต้องหาทางช่วย แต่พวกเค้า เจ๊วัน เจ๊ขวัญล่ะ” รักจิราเอ่ย
“รักแกอย่ามาพูดเลยรัก ถ้าแกไม่เห็นด้วยกับฉัน ทำไมเมื่อกี้ไม่ค้านไปล่ะ ตัวเองก็ไม่ได้อยากแต่ง อย่าทำปากดีหน่อยเลย นี่ฉันช่วยยืดชีวิตให้พวกแกอีกเป็นปีเชียวนะ ไอ้อาเปามันจ้องจะงาบแกอยู่ไม่ใช่หรอ”
“แล้วเราจะหาแฟนมาจากไหน มีเวลาแค่ปีเดียวเองนะ” คำพูดนี้ดังออกมาจากปากของวันวิวาห์สาวผู้ดูเงียบและสงบที่สุด ความเงียบของผู้หญิงคนนี้ทำให้ทุกคนลืมไปสนิทว่าเธอยังมีตัวตนอยู่ไม่ใช่ธาตุอากาศแต่สาวสองนางนั่งทะเลาะกันข้ามหัวเธอราวกับว่าเธอเป็นธาตุอากาศ
“ใช่ ขวัญว่าเราไปคุยกับอากงดี ๆ ก่อนดีไหมแก้ว ขวัญกลัวนะ ขวัญยังไม่พร้อมจะแต่ง เฮียเหมาก็เป็นคนดี แต่ขวัญไม่ได้คิดอะไรกับเฮียเหมาแบบนั้น”
“พวกแกก็รู้ว่าอากงเป็นคนยังไง ถ้าบอกให้ทำก็ต้องทำ วิธีเดียวก็คือพวกเราต้องหาแฟนมาให้อากงดู วิธีเดียวที่จะทำให้พวกเรารอดคือหาแฟนให้ได้ก่อนครบกำหนดสัญญาปีหน้า” แก้วกัลยาพูด
“ตัวพูดบ้าอะไรเจ๊แก้ว หาแฟนนะไม่ได้ซื้อลูกหมาลูกแมวที่เดินแถวจตุจักรเลือกถูกใจปุ๊บก็ซื้อกลับบ้านปั๊บ คิดดูนะพวกเราอยู่มาจนป่านนี้ ยังไม่ได้เฉียดผู้ชายสักคนเลย อย่าว่าแต่หนึ่งปีเลย อีกสิบปีจะหาได้ไหม คนที่มีภาษีดีหน่อยก็ตัวอ่ะเจ๊แก้ว แต่ภาษีของตัวโดนหักเละคบใครก็ไม่เกินวันก็พากันเผ่นแนบไปหมด แล้วเจ๊ขวัญไปที่ไหนที่นั่นเกิดหายนะ เล่นเอาผู้ชายพวกนั้นเกือบตาย กิตติศัพท์เจ๊ขวัญแบบนี้ใครจะกล้าเข้ามาจีบ แล้วเจ๊วันถามสิว่าเจ๊แกเป็นผู้ถือศีลกลับชาติมาเกิดหรือเปล่าทำไมถึงด้านชากับความรักขนาดนี้ แล้วส่วนเค้านะ พวกตัวก็รู้ว่าทำไม เค้าไม่มีทางหาแฟนได้ภายในหนึ่งปีหรอก แล้วพวกเราจะทำยังไง” สามสาวที่ฟังคำสาธยายที่เหมือนจะเป็นคำเหน็บแนมด้วยท่าทีนิ่งงัน
“เอาน่า มันต้องมีสักคนแหละ แกเชื่อสิรัก บางทีฟ้าอาจจะเห็นถึงความดีงามของพวกเราอาจจะส่งเนื้อคู่พวกเรามาแล้วก็ได้ แล้วเราอาจจะได้พบเร็ว ๆ นี้ แกไม่ต้องกลัว ฉันแก้วกัลยาจะช่วยพวกแกเองรัก”
พรึบ
ทันทีที่แก้วกัลยาเอ่ยปากช่วย สามสาวต่างพาลุกขึ้นจากเตียงทันที ถ้าแก้วกัลยาบอกจะช่วย เมื่อนั่นแหละหายนะกำลังจะมาเยือนพวกเธอ
“ตัวเก็บความหวังดีของตัวไว้เถอะ ตัวหาแฟนของตัวให้ได้เป็นตัวเป็นตนก่อน ลำพังตามคุณเพชรมาเกือบปีแล้วยังไม่สำเร็จเลย แล้วจะมาช่วยพวกเค้า ตัวไปหาวิธีทำให้คุณเพชรมาแฟนให้ได้ก่อนแล้วค่อยมายุ่งกับชีวิตพวกเค้า พวกเค้าขอไปนอนก่อน เครียดโว้ย” แล้วทั้งสามสาวก็พากันกลับไปที่ห้องของตัวเอง แก้วกัลยานั่งนิ่งมองโทรศัพท์ที่มีเบอร์ผู้ชายเป็นร้อย แต่กลับโทรไม่ได้สักเบอร์ก็พวกนี้เล่นคบกันวันเดียวก็บอกบ๊ายบายเธอทันที แถมยังแบล็คลิสต์เบอร์ของเธออีก แก้วกัลยาเปิดสไลด์รูปมาหยุดอยู่ที่รูปของเพทาย ผู้ชายที่ใจแข็งเสียยิ่งกว่าหิน ในบรรดาผู้ชายที่เธอรู้จักเขาเหมาะสมกับเธอหมดทุกอย่าง อากงจะไม่มีทางปฏิเสธ และเธอก็มั่นใจว่าต้องเป็นเขาเท่านั้น
...ติดตามตอนต่อไป...
สำหรับบทนำจะเป็นบทเกริ่นที่ขึ้นในทั้งสี่เรื่อง
ฝากติดตาม คอมเม้นส์เป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ
จะมีตอนใหม่และเดิมที่แต่งจนสมบูรณ์ ช่วงแรก ๆ จะเป็นตอนเก่า
แต่หลังผ่านช่วงแรกจะเป็นตอนใหม่ทั้งหมด ฝากด้วยค่ะ
ไม่ค่อยได้แวะมา แต่ครั้งนี้ก็นำเรื่องเก่ามาเล่าใหม่
คงยังจำแก้วขวัญวันรักกันได้
ตอนนี้ไรเตอร์นำเรื่องราวของสี่สาวมาแบ่งพาสออกเป็นสี่เรื่อง
โดยนำเรื่อง ...ประกาศิตรักแก้วกัลยา... มาประเดิมให้อ่านเป็นเรื่องแรก
หวังว่าทุกคนจะชอบและติดตามกัน
หลังจากลงประกาศิตรักได้ครึ่งหนึงจะเริ่มลง "พันทนาการรักขวัญชีวัน" ต่อแน่นอนค่ะ
บทนำ
เธอเชื่อเสมอว่าความรักคือส่วนเติมเต็มสิ่งที่มันขาดหาย ส่วนเติมเติมสิ่งที่ว่างเปล่า คือความสมบูรณ์ของคนทั้งคู่เธอจึงปรารถนาความสมบูรณ์แบบ ปรารถนาคนที่จะมาเติมเต็มส่วนที่หายไปของเธอ เธอเชื่อว่าความรักก็เหมือนกับเกมจิ๊กซอว์ถ้าขาดไปเพียงส่วนหนึ่งมันจะไม่มีทางสมบูรณ์ได้เธอจึงปรารถนาจะเจอกับความรักที่สมบูรณ์ เธอจึงออกตามหาจิ๊กซอร์ที่กระจัดกระจายเหล่านั้นเพื่อมาต่อเติมความรักของเธอให้สมบูรณ์
แต่แล้ววันหนึ่งเธอก็ค้นพบว่าบางทีความรักมันไม่ต้องสมบูรณ์ก็ได้ ความรักมันไม่มีอะไรเลย เพราะบนโลกนี้ไม่มีความสมบูรณ์ที่สุด เพราะบางทีจิ๊กซอว์ก็ไม่มีวันสมบูรณ์คงอยู่ได้ตลอดกาล วันหนึ่งมันอาจจะหล่นหายไป ถ้าเธอยึดติดกับความสมบูรณ์ เธอจะต้องออกตามหามันซ้ำแล้วซ้ำเล่าเมื่อชิ้นใดชิ้นหนึ่งหายไป เธอจะต้องเหน็ดเหนื่อยกับการตามหามันไม่มีที่สิ้นสุด สำหรับความรักแล้ว มันไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่ต้องใช้ใจแทนสมองบ้าง วันนี้เรายังมองเห็นภาพจิ๊กซอว์ที่สมบูรณ์นั้น เราก็ควรจะมองมัน จดจำภาพที่สมบูรณ์นั้นไว้ในหัวใจ แล้ววันหนึ่งถ้าจิ๊กซอว์ชิ้นนั้นมันหายไป มันอาจจะไม่สวยสมบูรณ์เหมือนเดิม ขอให้เรานึกถึงภาพที่เคยสมบูรณ์ นึกถึงวันที่มันยังเป็นภาพที่สวยงาม แล้วเราจะมีความสุข ไม่ต้องพยายามที่จะไขว้คว้า หรือตามหามันทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าชิ้นส่วนนั้นอาจจะไม่มีวันที่จะหาเจอได้อีก ที่สำคัญเราควรเรียนรู้จากความไม่สมบูรณ์นั้น มองมันในมุมที่แตกต่าง มองความไม่สมบูรณ์นั้นให้เป็นสัจธรรม แล้วเราจะได้ไม่ทุกข์กับความสมบูรณ์ที่ไม่มีวันสมบูรณ์
แก้วกัลยา
1 มกราคม 2558
เสียงเพลงเปิดดังไปทั่วตลาดสิทธิทรัพย์ ตลาดที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดระยอง ชาวตลาด รวมถึงชาวบ้านในละแวกโดยรอบพากันมางานเลี้ยงฉลองปีใหม่ ที่เสี่ยสุนทรเจ้าของตลาดจัดขึ้นทุกปี แม้จะขึ้นชื่อเรื่องความเค็ม งก เพราะค่าแผงขายของที่ต้องจ่ายห้ามขาดแม้แต่เดือนเดียว เป็นหนี้ก็ต้องใช้ตามกำหนด ขึ้นชื่อเรื่องความโหด เผด็จการ แต่ก็ไม่เคยโกงใคร แม้จะมีนิสัยโผงผาง เอะอะโวยวายตามประสาคนเจ๊ก คนจีน แต่ก็เป็นคนใจดีในแบบของตนเองอย่างงานปีใหม่ งานสงกรานต์จะจัดการให้ชาวตลาดมาสนุกครึกครื้น มีแจกจ่ายของให้กับชาวตลาดฟรี ๆ แม้จะโหดเรื่องเงินไปบ้าง แต่ชาวตลาดก็รักและเคารพเสี่ยสุนทรดั่งเป็นญาติผู้ใหญ่ของคนเอง มีเรื่องเดือดร้อนก็สามารถไปขอความช่วยเหลือได้ทุกเมื่อ นอกจากชาวบ้านในละแวกตลาดแล้ว เพื่อนพ้องน้องพี่พากันมาร่วมงานอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง รวมถึงบรรดาหลานสาวทั้งสี่ที่กลับมาจากกรุงเทพเพื่อมางานปีใหม่เหมือนทุกปี มาอวยพรและขอพรกับตากับยายที่เป็นญาติผู้ใหญ่ที่พวกเธอเคารพและรักมาก หลานสาวทั้งสี่ของเสี่ยสุนทรขึ้นชื่อเรื่องความสวย คนทั้งตลาดต่างชื่นชม
หลานคนแรกของเสี่ยสุนทรชื่อแก้วกัลยาเป็นสาวลูกครึ่งไทย จีน ฝรั่งเศส เป็นลูกสาวของแก้วตาบุตรสาวคนโตกับฝรั่งตาน้ำข้าวชาวฝรั่งเศส ทั้งสองประสบอุบัติเหตุและจบชีวิตลงในในเวลาไล่เลี่ยกัน พ่อของแก้วกัลยาเป็นลูกชายคนเดียวของบ้าน ปู่ย่าของแก้วกัลยาเสียชีวิตไปก่อนหน้านั้นและไม่มีญาติที่ไหนอีก แก้วกัลยาจึงถูกส่งมาให้ผู้เป็นตารับผิดชอบเลี้ยงดู
หลานสาวคนที่สองคือขวัญชีวัน เป็นหลานสาวที่เกิดจากบุตรสาวคนที่สอง ขวัญชนกและเสี่ยววิบูลย์ เจาของตลาดคู่แข่ง พ่อตากับลูกเขยไม่ลงรอยกัน เกิดปัญหาแตกแยกของครอบครัวเมื่อเสี่ยวิบูลย์กิจขอแยกทางด้วยสาเหตุบางอย่าง แต่สุนทรยื้อหลานสาวคนที่สองไว้ไม่ยกให้ และเพราะขวัญชนกขอร้อง เสี่ยวิบูลย์กิจจึงไม่นำลูกสาวไปด้วย แต่ก็ติดต่อกันไปมาตลอดตามข้อตกลงของทั้งสองบ้าน
หลานสาวคนที่สามคือวันวิวาห์ เป็นหลานสาวที่เกิดจากบุตรสาวคนที่สาม วันวิภา ส่วนพ่อของวันวิวาห์ไม่มีใครรู้จัก วันวิภาเองก็ไม่เคยปริปากพูด เธอจึงต้องเป็นผู้หญิงที่ท้องไม่มีพ่อ ตกอยู่ในสภาพชีวิตที่ทุกข์ระทม และยิ่งต้องมาพิการก็เพิ่มความน่าสงสารให้กับวันวิภา และเรื่องเหล่านี้ หล่อหลอมให้วันวิวาห์ดูเป็นผู้ใหญ่เกินวัยมาตั้งแต่เด็ก
และหลานสาวคนสุดท้ายคือรักจิรา หลานสาวที่เกิดจากลูกสาวคนที่สี่ รักนรากับตำรวจหนุ่มผู้ย้ายมาทำงานในต่างจังหวัด แต่แล้วพ่อของรักจิราก็ถูกลอบยิง แม่ตรอมใจหลังจากพ่อเสียชีวิตไปได้ไม่นาน
หญิงสาวทั้งสี่สาวมีอายุไล่เลี่ยกัน โดยแก้วกัลยาเกิดก่อนพี่น้องคนอื่น ตามมาด้วยขวัญชีกับวันวิวาห์ที่เกิดปีเดียวกัน และสุดท้ายก็เป็นรักจิราก็เกิดในอีกสองปีถัดมา ปัจจุบันสี่สาวทำงานอยู่ในกรุงเทพทุกวันสำคัญทั้งสี่จะแวะกลับมาที่ระยองเพื่อมาเยี่ยมอากงอาม่า ไม่ใช่ตามหน้าที่ แต่เพราะให้ความสำคัญกับทั้งสองคนที่เลี้ยงดูพวกเธอมาอย่างดี
“พวกอั๊วไม่แต่งนะอากง นี่มันเรื่องใหญ่ระดับชาติเลยนะ อยู่ ๆ อากงจะมาตัดสินแทนพวกอั๊วได้ยังไง ให้ฟ้าถล่มดินทลายพวกอั๊วก็ไม่แต่งแน่ ๆ” สาวสวยใบหน้าเรียวรูปไข่เอ่ยขึ้น เสียงหวีดแหลมอย่างมีเอกลักษณ์ของเธอทำให้ผู้เป็นตาถึงกับต้องเอามืออุดหู แก้วกัลยามีสีหน้าบึ่งตึงอย่างเก็บอาการไว้ไม่อยู่ เธอคิดไว้อยู่แล้วเชียว ว่าเรียกพวกเธอแยกออกมาจากงานเลี้ยงทำไม
“แต่อั๊วคุยกับเสี่ยกรแล้ว หัวเด็ดตีนขาดพวกลื้อก็ต้องแต่ง อั๊วไม่ได้ขอร้องพวกลื้อให้แต่งแต่อั๊วกำลังสั่งให้พวกลื้อแต่ง” ทุกคนในที่นี้รู้ดี เสี่ยสุนทรเป็นคนที่เด็ดขาด ถ้าบอกเป็นคำสั่งต้องทำตาม ห้ามค้าน แต่ในบรรดาหลานสาวทั้งสี่ หนึ่งในนั้นมีหลานกบฏ ที่เสี่ยสุนทรใช้เรียกหลานสาวคนโตที่เกิดจากบุตรสาวคนโตผู้ไม่เคยเชื่อฟัง ตามนิสัยเด็กจบนอกและมีสายเลือดกึ่งหนึ่งเป็นชนชาติตะวันตกที่สุนทรเกลียดนักเกลียดหนา
“พวกลื้อไม่ได้ยินซินแสบอกหรือยังไงว่าถ้าพวกลื้อไม่แต่งงานปีนี้ พวกลื้อจะขึ้นคาน”
“นี่ใช่ไหมที่อากงคะยั้นคะยอให้อั๊วมาให้ได้ มาฟังซินแสเก๊ทำนายมั่ว ๆ แบบนี้”
“ซินแสจางไม่ใช่ซินแสเก๊ อั๊วไปดูดวงกับอีเป็นประจำ พวกลื้อจะเชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่ พวกลื้อต้องแต่ง อั๊วไม่ยอมอายชาวบ้านไปทั้งบางแน่ อั๊วอับอายเพราะแม่พวกลื้อมามากพอแล้ว ยังต้องมาอาย คนเค้าเม้ากันทั้งบาง หลานสาวเสี่ยสุนทรไม่มีปัญญาหาผะ...แฟน อั๊วอยากจะเอาปี๊บคลุมหัว”
“ใครหน้าไหนมันพูดไปตามตัวมาสิ” แก้วกัลยาทำท่าราวกับนักเลงใหญ่ ไม่กลัวเกรงใคร
“ก็คนทั้งตลาดนั่นแหละ”
“ตกลงที่อากงบังคับพวกเราแต่งงาน เพราะซินแสทัก หรือเพราะอายที่คนเอาเรื่องพวกอั๊วไปเม้าส์กันแน่”
“ก็สองอย่างนั่นแหละ ลื้อรู้ไหม อั๊วไปเชิญอาซินแสจางมาจากฮ่องกงเชียวนะ ซินแสจางไม่เคยทักใครพลาด แล้วถ้ารอเกินปีหน้าไป พวกลื้อไม่มีแฟน พวกลื้อจะขึ้นคานตลอดชีพ แล้วคนที่เข้ามาก็มาล้างผลาญพวกลื้อ ทำให้ตระกูลวินาศวอดวาย”
“มั่วแล้ว แฟนพวกอั๊วจะไปสร้างความวินาศให้ตระกูลได้ยังไง อากงคิดมากไปแล้ว แล้วพวกอั๊วก็ไม่เข้าใจ ทำไมต้องเป็นพวกหลานเสี่ยกร ถ้าปีหน้าพวกอั๊วจะขึ้นคานจริงนะ พวกอั๊วก็มั่นใจว่ามีปัญญาแฟนเองได้ อากงไม่มีสิทธิ์มาบังคับพวกอั๊วแบบนี้”
“อั๊วเป็นอากงพวกลื้อทำไมจะไม่มีสิทธิ์ ลื้อถามได้ดีมากอาแก้วว่าทำไมต้องลูกเสี่ยกร บอกเลยแล้วกัน อั๊วอัดอั้นตันใจมานานแล้ว ตามจริงคนที่ควรจะได้แต่งกับบ้านเสี่ยกรก็คือแม่พวกลื้อนั่นแหละ แต่แม่พวกลื้อหนีไปมีผัวเอ่อ...พ่อพวกลื้อก่อน รู้ไหมอั๊วเสียหน้าแค่ไหน แล้วอั๊วคุยกับเสี่ยกรไว้แล้ว อั๊วจะไม่ผิดสัญญาอีก พวกลื้อก็รู้ว่าอั๊วกับเสี่ยกรสนิทกันแค่ไหน อั๊วกับเสี่ยกรเป็นเพื่อนกันตัดสินใจกันว่ายังไงครอบครัวเราสองคนก็ต้องดองกันในวันหนึ่ง เมื่อแม่พวกลื้อทำให้อั๊วไม่ได้ พวกลื้อก็ต้องแต่งแทน”
“ไม่นะอากง พวกอั๊วไม่แต่ง ไม่แต่งแน่ ๆ นั่นมันเรื่องตั้งนานนมแล้ว อากงมาบังคับพวกอั๊วไม่ได้นะ นี่มันปี พ.ศ. ไหนกันแล้ว หมดยุคคลุมถุงชนแล้ว ส่วนเรื่องหาแฟนพวกอั๊วมั่นใจว่าพวกอั๊วหาได้ แล้วต้องคุณสมบัติเลิศแน่ เลิศกว่าหลานอาเสี่ยกรหลายสิบเท่าเลยแหละ” แก้วกัลยาพูดอย่างมั่นอกมั่นใจ
“พวกลื้ออย่าเรื่องมากนักเลย หลานชายสี่คนของเสี่ยกรเขาก็ยังไม่ได้แต่งงานเหมือนกัน หน้าที่การงานก็ดี หน้าตาก็...ใช้ได้ แต่งกัน พวกลื้อจะกลัวอะไร ได้แต่งกับพวกอีนะลื้อสบายไปทั้งชาตินะอาแก้ว” แก้วกัลยาหลานสาวคนโตสุดแสบถึงกับหน้าหงิกงอขึ้นมาทันที
“อากง ลูกชายของเสี่ยกรแต่ละคนนะ แค่คิดก็ไม่ไหวแล้ว อั๊วสงสารพวกขวัญมากถ้าต้องไปแต่งงานกับคนพวกนั้น อากงไม่รู้หรือแกล้งไม่รู้กัน อาหลงน่ะเพลย์บอยตัวพ่อเชียวนะ แล้วอาเปานี่จะเลี้ยงไอ้รักได้เหมือนอากงหรือเปล่าขี้เหนียวขนาดนั้น มีหวังให้ไอ้รักต้มก้างปลากินแน่ แล้ว...” แก้วกัลยายังคงพยายามจะยกเหตุผลกลับ
“ลื้ออย่ามาเถียงอั๊วได้ไหม อั๊วมั่นใจว่าอั๊วดูคนไม่ผิด ลื้อดูพวกอาขวัญ อียังไม่เห็นค้านอะไรเลย”
“พวกนั้นไม่กล้าพูดต่างหาก อั๊วถึงต้องพูดแทน” สาวสาวที่ยืนอยู่ข้างหลังมองการต่อปากต่อคำที่ดุเดือดจนไม่กล้าเข้าไปขัด ได้แต่ก้มหน้าก้มตาอย่างหวาด ๆ ในขณะที่คุณนายเหมยฟ้าก็ทำอะไรไม่ถูก ปวดหัวกับบทสนทนาเผ็ดร้อนของทั้งคู่ที่เหมือนจะไม่ยอมใคร ถ้าถามว่าแก้วกัลยาเหมือนใครก็คงต้องบอกว่าถอดแบบปู่ของเขามานี่แหละ เถียงหน้าดำหน้าแดงจะเอาชนะให้ได้
“พวกลื้ออายุจะสามสิบกันแล้วนะ หรือลื้อจะรอให้อายุสามสิบจนขึ้นคาน ขายไม่ออกก่อนหรือไง อั๊วแก่แล้วนะ อั๊วอยากอุ้มหลาน แล้วลื้อคิดดูนะอั๊วหาแฟนให้ลื้อมันดีแค่ไหนแล้ว ไอ้ที่บอกหาเองได้ แล้วเลอเลิศมันอยู่ไหน อั๊วอยู่กับพวกลื้อมาตั้งแต่พวกลื้อยังตัวเท่ามด จนพวกลื้อแตกเนื้อสาว ตอนนี้อายุปาไปจะสามสิบแล้ว อั๊วยังไม่เห็นพวกลื้อจะหาแฟนมาอวดอั๊วได้สักคน จะให้สาธยายไหมว่าทำไม”
“อะไรอากง”
“อาแก้วอั๊วขอถาม ลื้อเคยคบกับใครได้เกินหนึ่งวันบ้าง อั๊วเห็นควงวันเดียวผู้ชายพวกนั้นหนีกันเปิงหมด ผู้ชายแต่ละคนของลื้อก็พวกงูบ้าง ปลาไหลบ้าง แล้วนิสัยแบบลื้อจะไปดึงดูดผู้ชายดี ๆ เข้ามาได้ยังไง ช่างติไปทุกอย่าง ไม่พอใจก็วีนก็ด่าเขา แล้วอั๊วบอกเลยนะว่าไม่มีใครทนมือทนเท้าลื้อได้ไปมากกว่าอาเจตอีกแล้ว อ่อ อั๊วขอสั่งห้ามเลยนะถ้าจะควงไอ้ฝรั่งหัวแดงมาเหมือนแม่ลื้อ อั๊วบอกก่อนเลยนะ อั๊วไม่รับหลานเขยฝรั่งเด็ดขาด อั๊วขอสั่งห้าม”
“เอ่อ...” แก้วกัลยาถึงกับพูดไม่ออก เมื่อเจอความจริงของสุนทร ซึ่งสาธยายมา หรือจะเรียกว่าประจานเธอต่อหน้าน้อง ๆ ทั้งสามก็ว่าได้ ทำเอาใบหน้าสวยลูกครึ่งชาหนึบขึ้นมาทันที
“แต่พวกอั๊วไม่ได้อยากแต่งนะอากง” เสียงของรักจิราหลานสาวคนเล็กเอ่ยขึ้นหลังจากเห็นแก้วกัลยานิ่งไปเมื่อโดนจัดไปหนึ่งดอกปักเข้ากลางใจ จี้ใจดำแก้วกัลยาแบบนี้ทำให้แก้วกัลยานั้นพูดไม่ออก หาเสียงไม่เจอ
“อารัก ลื้อ...” รักจิรากำลังจะเป็นรายต่อไปที่โดยหางพายุจากอากง แต่น้ำเสียงเย็น ๆ ที่นุ่มนวลของเหมยฟ้าก็เอ่ยขึ้นขัด
“อั๊วว่าอาเฮียใจเย็น ๆ ก่อนดีไหม หลาน ๆ คงจะยังไม่พร้อม อยู่ ๆ อาเฮียก็ไปคุยไม่บอกหลานก่อน ไหนอาเฮียเคยบอกอั๊วว่าจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวเรื่องจับคู่อีกแล้วไงล่ะ อาเฮียจำตอนพวกอาแก้วตา อาขวัญชนก อาวิภา แล้วก็อานราไม่ได้หรอ พวกอีเชื่อฟังอาเฮียขนาดไหน แต่สุดท้ายพวกอีก็ไปมีคนรักเป็นคนตัวเอง คงไม่ต้องบอกนะว่าด้วยวิธีไหน”
“เพราะอย่างนั้นไงล่ะ อั๊วถึงต้องจัดการ อั๊วจะไม่ยอมให้หลานของอั๊วต้องไปเลือกคนผิด ๆ อีก อาขวัญใจทำอั๊วเจ็บมากที่ไปเอาไอ้วิบูลย์มาเป็นผัว คิดได้ยังไงไปเอาลูกไอ้เหลามาเป็นผัว อั๊วเจ็บใจมาถึงตอนนี้ อั๊วไม่มีทางยอมพลาดอีกแน่” พูดพลางทำหน้าเข่นเขี้ยวไปด้วย
“อาเฮีย ความรักมันห้ามกันได้ที่ไหน อาเฮียทำแบบนี้ถ้าหลานหนีไป อาเฮียจำตอนอาแก้วตาได้ไหม อาแก้วตาติดปีกติดหางบินไปยุโรป แล้วอาแก้วที่ถอดแบบแม่มาแบบนี้ ดูท่าจะหนักกว่าด้วย ตั้งแต่มาอีเถียงลื้อเอา ๆ รั้นขนาดนี้ อีหนีแน่ แล้วจะหาว่าอั๊วไม่เตือนไม่ได้นะ”
“ก็เพราะอย่างนั้นไง ลูกสาวของลื้อทำอั๊วแสบมากอาเหมย คนหนึ่งก็ไปมีผัวฝรั่ง อีกคนไปเอาไอ้ลูกศัตรู อีกคนท้องไม่มีพ่อ อานราคนที่ควรจะเชื่ออั๊วที่สุดยังต้องมาตรอมใจตายเพราะเลือกผัวเอง อั๊วไม่ยอมให้หลานอั๊วต้องมีสภาพเดียวกับลูกอั๊วหรอก อั๊วคิดไว้แล้วว่าถ้าพวกอีแต่งงานกับหลานเสี่ยกรคนกันเองเห็นกันตั้งแต่เล็ก คงไม่มีจุดจบแบบแม่พวกอีก มันคงดีกว่าปล่อยเวลาผ่านไปแบบนี้”
“อากง พวกเราไม่แต่งนะ รักไม่ยอมนะอากง อั๊วไม่แต่งกับอาเปาแน่” รักจิราเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของสุนทร และการเจรจาของแก้วดูเหมือนจะไม่ได้ผลแล้ว ก่อนจะซวยคงต้องรีบหาทางจัดการ
“อาเฮียใจเย็น ๆ ก่อน ให้หลาน ๆ ได้คิดได้ตัดสินใจ อั๊วเชื่อว่ามันมีทางออกที่ดีกว่าการบังคับนะ”
“แต่อั๊วไม่อยากให้หลานสาวเราไปเป็นขี้ปากพวกชาวบ้าน อายุปูนนี้ขายไม่ออก แล้วอั๊วคิดว่าลูกของเสี่ยกรนี่ก็เป็นคนดีขยันขันแข็ง แต่งไปสบาย มันไม่ดีตรงไหนอาเหมย”
“ไม่ดีตรงที่พวกอั๊วมีปัญหาหาแฟนดี ๆ ไม่ต้องให้อากงมาหาคู่ผัวตัวเมียให้แบบนี้” แก้วกัลยาที่เริ่มตั้งสติได้ เรียกเสียงกลับมาเอ่ยตอกกลับไปบ้าน
“หน้าอย่างลื้อน่ะหรอมีปัญญาหาแฟนดี ๆ”
“ใช่พวกอั๊วมีปัญญา อั๊วสี่คนขอเวลาหนึ่งปี แค่หนึ่งปี”
“พวกลื้ออยู่มาจนอายุปาไปสามสิบยังหาไม่ได้ แล้วปีเดียวพวกลื้อจะมีปัญญาหรือไง เดี๋ยวก็ไปคว้าใครที่ไหนมาหลอกอั๊ว หรือไม่ก็หยิบมาสุ่ม ๆ อั๊วไม่...”
“ถ้าหนึ่งปี พวกอั๊วหาคนที่ดีพร้อมมาไม่ได้ พวกอั๊วจะยอมแต่งงานด้วยไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ”
“ลื้อแน่ใจ” สุนทรมองแก้วกัลยา สองปู่หลานจ้องตากันเหมือนหยั่งเชิงกันไปมา และแก้วกัลยาก็เอ่ยขึ้น
“แน่ใจ ขอแค่หนึ่งปี”
“แน่ใจ แต่มีข้อแม้ว่าถ้าสองในสี่สามารถหาคนที่ตรงตามที่อากงต้องการได้ อากงจะไม่บังคับอีกสองคนที่เหลือให้แต่งงานอีก แต่ถ้าพวกเราทำไม่ได้ทุกอย่างตามที่ตกลง ว่าไงคะอากง”
“ก็ได้ ถ้าพวกลื้อทำได้ อั๊วก็จะไม่ยุ่งกับชีวิตพวกลื้ออีก แต่เมื่อพวกลื้อมีข้อแม้ อั๊วก็มีข้อแม้บ้าง ว่าไงรับข้อแม้ของอั๊วบ้างหรือเปล่าล่ะ ถ้าพวกลื้อยอม อั๊วก็ยอม”
“ข้อแม้อะไรอากง” แก้วกัลยาถามเสียงระแวง
“ตอบสิ”
“เอ่อ...ก็ได้อั๊วรับ” รักจิราหันไปมองหน้าแก้วกัลยาที่ทำอะไรไม่ปรึกษาพวกเธอสักคำ พูดทุกอย่าง ตัดสินใจเองหมด แล้วพวกเธอจะเหลืออะไรให้ได้คิด ตัดสินใจบ้าง
“ดี ระหว่างนี้หนึ่งปีพวกลื้อต้องให้โอกาสพวกอาเจต ให้พวกอีพาไปเที่ยว ดูหนัง ฟังเพลง”
“ไม่เอานะอากง อั๊วไม่รับ” น้ำเสียงตกใจของรักจิราเอ่ยขึ้น
“แต่อาเจ้ลื้อรับแล้ว เอาล่ะอั๊วเหนื่อยกับพวกลื้อมาทั้งวันแล้ว พวกลื้อก็ไปพักผ่อนเถอะ ไปอาเหมย อั๊วจะโทรไปบอกเสี่ยกรให้เตรียมตัวไว้ให้พร้อม หาฤกษ์หายามรอแต่เนิ่น ๆ ฮ่า ฮ่า ฮ่า” สี่สามมองเสียงหัวเราะที่ลับหายเข้าไปในห้อง รักจิรามีสีหน้าเครียด เธอแทบอย่างจะกระโดดไปกัดคอแก้วกัลยาที่ไม่ได้หันมาถามความเห็นพวกเธอสักคำ แถมตกลงเองเออเองว่าจะให้พวกนั้นมายุ่งกับชีวิตพวกเธออีก แล้วงานนี้ชีวิตเธอจะสงบได้อย่างไร สี่สาวพากันเดินกลับเข้าห้องไป แต่ไม่ใช่ห้องของตัวเอง แต่เป็นห้องของแก้วกัลยา ทันทีที่บานประตูห้องแก้วกัลยาปิดลง
“พวกเราตายแน่ ตาย ๆ ๆ ตัวพูดบ้าอะไรออกไปตัวรู้ไหม ตัวไปเดิมพันอะไรบ้า ๆ แบบนั้นได้ยังไง ตัวกำลังทำพวกเราซวยกันหมดตัวรู้ไหม” รักจิราแทบจะพุ่งเข้าไปบีบคอแก้วกัลยา แต่แก้วกัลยานั้นไว้วิ่งไปหลบอยู่ข้างหลังวันวิวาห์เสียก่อนเพราะรู้ดีว่าน้องสาวของตนแม้จะไม่ใช่คนขี้เหวี่ยงขี้วีนแบบตน แต่อารมณ์รุนแรงรักจิราเป็นที่หนึ่ง ทำร้ายคนได้โดยไม่สนใจด้วยว่าอาวุโสกว่า ไม่สนว่าจะนับถือพี่น้อง ขอแค่ระบายก่อนเป็นพอ
“ก็ถ้าไม่พูดแบบนี้อากงให้พวกเราแต่งงานกับพวกลูกชายเสี่ยกรอีกสามเดือนข้างหน้าแน่”
“แล้วตัวพูดไปแบบนั้นพวกเราไม่ตายกันหมดหรอ เราจะเอาแฟนที่ไหนไปให้อากงดู ถ้าหนึ่งปีข้างหน้าพวกเราไม่มีแฟนขึ้นมา พวกเราไม่ต้องไปเป็นสะใภ้บ้านนั่นกันหมดหรอ ใช่สิเจ๊แก้วลอยตัวแล้ว เฮียเจตรักตามใจเจ๊แก้วจะตายยังไงก็ต้องหาทางช่วย แต่พวกเค้า เจ๊วัน เจ๊ขวัญล่ะ” รักจิราเอ่ย
“รักแกอย่ามาพูดเลยรัก ถ้าแกไม่เห็นด้วยกับฉัน ทำไมเมื่อกี้ไม่ค้านไปล่ะ ตัวเองก็ไม่ได้อยากแต่ง อย่าทำปากดีหน่อยเลย นี่ฉันช่วยยืดชีวิตให้พวกแกอีกเป็นปีเชียวนะ ไอ้อาเปามันจ้องจะงาบแกอยู่ไม่ใช่หรอ”
“แล้วเราจะหาแฟนมาจากไหน มีเวลาแค่ปีเดียวเองนะ” คำพูดนี้ดังออกมาจากปากของวันวิวาห์สาวผู้ดูเงียบและสงบที่สุด ความเงียบของผู้หญิงคนนี้ทำให้ทุกคนลืมไปสนิทว่าเธอยังมีตัวตนอยู่ไม่ใช่ธาตุอากาศแต่สาวสองนางนั่งทะเลาะกันข้ามหัวเธอราวกับว่าเธอเป็นธาตุอากาศ
“ใช่ ขวัญว่าเราไปคุยกับอากงดี ๆ ก่อนดีไหมแก้ว ขวัญกลัวนะ ขวัญยังไม่พร้อมจะแต่ง เฮียเหมาก็เป็นคนดี แต่ขวัญไม่ได้คิดอะไรกับเฮียเหมาแบบนั้น”
“พวกแกก็รู้ว่าอากงเป็นคนยังไง ถ้าบอกให้ทำก็ต้องทำ วิธีเดียวก็คือพวกเราต้องหาแฟนมาให้อากงดู วิธีเดียวที่จะทำให้พวกเรารอดคือหาแฟนให้ได้ก่อนครบกำหนดสัญญาปีหน้า” แก้วกัลยาพูด
“ตัวพูดบ้าอะไรเจ๊แก้ว หาแฟนนะไม่ได้ซื้อลูกหมาลูกแมวที่เดินแถวจตุจักรเลือกถูกใจปุ๊บก็ซื้อกลับบ้านปั๊บ คิดดูนะพวกเราอยู่มาจนป่านนี้ ยังไม่ได้เฉียดผู้ชายสักคนเลย อย่าว่าแต่หนึ่งปีเลย อีกสิบปีจะหาได้ไหม คนที่มีภาษีดีหน่อยก็ตัวอ่ะเจ๊แก้ว แต่ภาษีของตัวโดนหักเละคบใครก็ไม่เกินวันก็พากันเผ่นแนบไปหมด แล้วเจ๊ขวัญไปที่ไหนที่นั่นเกิดหายนะ เล่นเอาผู้ชายพวกนั้นเกือบตาย กิตติศัพท์เจ๊ขวัญแบบนี้ใครจะกล้าเข้ามาจีบ แล้วเจ๊วันถามสิว่าเจ๊แกเป็นผู้ถือศีลกลับชาติมาเกิดหรือเปล่าทำไมถึงด้านชากับความรักขนาดนี้ แล้วส่วนเค้านะ พวกตัวก็รู้ว่าทำไม เค้าไม่มีทางหาแฟนได้ภายในหนึ่งปีหรอก แล้วพวกเราจะทำยังไง” สามสาวที่ฟังคำสาธยายที่เหมือนจะเป็นคำเหน็บแนมด้วยท่าทีนิ่งงัน
“เอาน่า มันต้องมีสักคนแหละ แกเชื่อสิรัก บางทีฟ้าอาจจะเห็นถึงความดีงามของพวกเราอาจจะส่งเนื้อคู่พวกเรามาแล้วก็ได้ แล้วเราอาจจะได้พบเร็ว ๆ นี้ แกไม่ต้องกลัว ฉันแก้วกัลยาจะช่วยพวกแกเองรัก”
พรึบ
ทันทีที่แก้วกัลยาเอ่ยปากช่วย สามสาวต่างพาลุกขึ้นจากเตียงทันที ถ้าแก้วกัลยาบอกจะช่วย เมื่อนั่นแหละหายนะกำลังจะมาเยือนพวกเธอ
“ตัวเก็บความหวังดีของตัวไว้เถอะ ตัวหาแฟนของตัวให้ได้เป็นตัวเป็นตนก่อน ลำพังตามคุณเพชรมาเกือบปีแล้วยังไม่สำเร็จเลย แล้วจะมาช่วยพวกเค้า ตัวไปหาวิธีทำให้คุณเพชรมาแฟนให้ได้ก่อนแล้วค่อยมายุ่งกับชีวิตพวกเค้า พวกเค้าขอไปนอนก่อน เครียดโว้ย” แล้วทั้งสามสาวก็พากันกลับไปที่ห้องของตัวเอง แก้วกัลยานั่งนิ่งมองโทรศัพท์ที่มีเบอร์ผู้ชายเป็นร้อย แต่กลับโทรไม่ได้สักเบอร์ก็พวกนี้เล่นคบกันวันเดียวก็บอกบ๊ายบายเธอทันที แถมยังแบล็คลิสต์เบอร์ของเธออีก แก้วกัลยาเปิดสไลด์รูปมาหยุดอยู่ที่รูปของเพทาย ผู้ชายที่ใจแข็งเสียยิ่งกว่าหิน ในบรรดาผู้ชายที่เธอรู้จักเขาเหมาะสมกับเธอหมดทุกอย่าง อากงจะไม่มีทางปฏิเสธ และเธอก็มั่นใจว่าต้องเป็นเขาเท่านั้น
...ติดตามตอนต่อไป...
สำหรับบทนำจะเป็นบทเกริ่นที่ขึ้นในทั้งสี่เรื่อง
ฝากติดตาม คอมเม้นส์เป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ
จะมีตอนใหม่และเดิมที่แต่งจนสมบูรณ์ ช่วงแรก ๆ จะเป็นตอนเก่า
แต่หลังผ่านช่วงแรกจะเป็นตอนใหม่ทั้งหมด ฝากด้วยค่ะ
พัชรีพร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 24 พ.ค. 2558, 18:13:30 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 28 มิ.ย. 2558, 12:35:36 น.
จำนวนการเข้าชม : 864
<< เกริ่นนำก่อนเริ่มเรื่อง | ตอนที่ 1 แก้วกัลยา มารร้ายอสรพิษ >> |
kaelek 24 พ.ค. 2558, 20:45:24 น.
หายไปนานมากกก..จากใจแล้วรอขวัญชีวัน แต่จะเอาใจช่วยเจ้แก้วนะ ภาคเดิมนางจี๊ดมาก ไม่รู้ยังเหมือนเดิมมั้ย
หายไปนานมากกก..จากใจแล้วรอขวัญชีวัน แต่จะเอาใจช่วยเจ้แก้วนะ ภาคเดิมนางจี๊ดมาก ไม่รู้ยังเหมือนเดิมมั้ย