แก้วขวัญวันรัก "ประกาศิตรักแก้วกัลยา"
เป็นเรื่องราวต่อยอดมาจาก แก้วขวัญวันรัก
โดยเรานำเรื่องราวของนางเอกทั้งสี่แบ่งพาสเป็นเรืองของตัวเองประกอบไปด้วย
"ประกาสิตรักแก้วกัลยา"
"พันธนาการรักขวัญชีวัน"
"ละลายรักวันวิวาห์"
"กลบ่วงรักรักจิรา"
โดยเรื่องแรกของ แก้วขวัญวันรักที่นำมาให้ได้อ่านกันคือ "ประกาศิตรักแก้วกัลยา"
แก้วกัลยาพี่สาวของโตของบ้านสิทธิทรัพย์อาภา
เมื่อถูกกดดันให้คลุมถุงชนกับเจษฎา เธอจึงต้องหาทางดิ้นให้พ้นบ่วงนี้
เธอจึงออกปากท้าอากง ว่าจะหาสามีที่ดีมาโชว์ให้ได้
แก้วกัลยาเลือก "เพทาย" ประธานหนุ่มแห่งวินัสมีเดีย
ผู้ชายที่สมบูรณ์แบบ ผู้ชายที่เธออยากจะเอาชนะใจ
ผู้ชายที่ติดอยู่ในความทรงจำของเธอมาตลอดเจ็ดปี
แก้วกัลยาจะพิชิตใจเพทายได้หรือไม่ติดตามได้ใน "ประกาศิตรักแก้วกัลยา"
โดยเรานำเรื่องราวของนางเอกทั้งสี่แบ่งพาสเป็นเรืองของตัวเองประกอบไปด้วย
"ประกาสิตรักแก้วกัลยา"
"พันธนาการรักขวัญชีวัน"
"ละลายรักวันวิวาห์"
"กลบ่วงรักรักจิรา"
โดยเรื่องแรกของ แก้วขวัญวันรักที่นำมาให้ได้อ่านกันคือ "ประกาศิตรักแก้วกัลยา"
แก้วกัลยาพี่สาวของโตของบ้านสิทธิทรัพย์อาภา
เมื่อถูกกดดันให้คลุมถุงชนกับเจษฎา เธอจึงต้องหาทางดิ้นให้พ้นบ่วงนี้
เธอจึงออกปากท้าอากง ว่าจะหาสามีที่ดีมาโชว์ให้ได้
แก้วกัลยาเลือก "เพทาย" ประธานหนุ่มแห่งวินัสมีเดีย
ผู้ชายที่สมบูรณ์แบบ ผู้ชายที่เธออยากจะเอาชนะใจ
ผู้ชายที่ติดอยู่ในความทรงจำของเธอมาตลอดเจ็ดปี
แก้วกัลยาจะพิชิตใจเพทายได้หรือไม่ติดตามได้ใน "ประกาศิตรักแก้วกัลยา"
Tags: แก้วกัลยา เพทาย ความรัก เดิมพัน
ตอน: ตอนที่ 1 แก้วกัลยา มารร้ายอสรพิษ
1
แก้วกัลยา มารร้ายอสรพิษ
แก้วกัลยา สิทธิทรัพย์อาภา สาวสวยเจ้าของฉายา มารร้ายอสรพิษ ฉายาของเธอไม่ได้มาจากการจับฉลาก หรือ ตั้งให้ส่ง ๆ แต่ฉายาของเธอมันมาจากสิ่งที่เธอสร้างมันขึ้น เธอคือเจ้าแม่วงการแฟชั่น เป็นสาวที่ตรง ตรงในที่นี่คือนิสัย คำพูด ไม่พอใจจะพูดออกไป ติทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้า ไม่พอใจก็ระเบิดออกมา สามารถทำทุกอย่างเพื่อทำลายคนที่กล้ามาเป็นศัตรูกับเธอ เธอเป็นคนสวยที่ไม่ใช่คนโง่ รู้ว่าควรทำอะไรแต่อยู่ที่เธอพอใจที่จะทำมันไหม เธอไม่ใช่คนอ่อนแอ แต่เธอเป็นคนที่แข็งนอกอ่อนใน เป็นคนที่ดีแต่ไม่ต้องป่าวประกาศให้ใครรู้ ดังนั้นคนจึงมองเพียงภาพลักษณ์ร้าย ๆ ของเธอที่แสดงออกมา ไม่มีใครเคยเห็นด้านดีที่เธอจะแสดงมันออกมาอยู่หลังภาพเสมอ และเธอไม่แคร์สายตาใครนอกจากครอบครัวของเธอ คนภายนอกจะมองเธอยังไงก็แล้วแต่เธอไม่สน จะมองเธอตามฉายาเธอก็ไม่ว่า แต่อย่ามาล้ำเส้นกับเธอก็แล้วกัน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เข้ามา” ประตูห้องถูกผลักเข้ามา สาวสวยร่างเล็กบอบบางผู้ช่วยส่วนตัวหมายเลขสองเดินถือถาดน้ำส้มเข้ามาในห้อง มิลา เตชะสิทธิ์ สาวร่างเล็กบอบบางท่าทางหงอ ๆ ขี้กลัวคล้ายกระต่ายที่จับมาก ๆ จะเฉามือตายได้ทุกเมื่อ ครั้งแรกที่เห็นมิลา ความรู้สึกบางอย่างบอกแก้วกัลยาว่ารับไว้ก่อน ตั้งแต่นั้นมามิลาก็ทำงานเป็นผู้ช่วยข้างตัวแก้วกัลยา
“คุณมงกุฎล่ะ”
“คุณมงกุฎขอกลับก่อนค่ะ ให้ดิฉันอยู่ช่วยคุณแก้ว” แก้วกัลยาพยักหน้า ใบหน้าสวยที่เติมแต่งเครื่องสำอางเอียงซ้ายขวาไปมาดูความสมบูรณ์ของวันนี้ เตรียมพร้อมสำหรับไปประกาศศักดิ์ดาต่อหน้าคน ๆ หนึ่ง
“คืนนี้ฉันเป็นไง” แก้วกัลยาลุกขึ้นและหันไปมองมิลา มิลายิ้มมองเจ้านายสาวด้วยความรู้สึกภาคภูมิใจในตนเองทีได้ทำงานกับเจ้านายแสนสวยมากไปด้วยความสามารถ แม้จะมีอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ ยากต่อการคาดเดาก็ตามที
“วันนี้คุณแก้วสวยมาก แล้วสมบูรณ์พร้อมที่สุดค่ะ คุณแก้วต้องเป็นดาวเด่นในงานแน่นอน” มิลาเอ่ยชม แก้วกัลยายิ้มอย่างพอใจกับคำชม และมองเงาร่างของตนเองในกระจกที่สะท้อนออกมา ผู้หญิงที่สะท้อนออกมาคือสาวสวยลูกครึ่งใบหน้าคมคายสวยสง่าบาดใจ ดวงตาคมกริบกลมโตสีฟ้าดั่งสายเลือดลูกครึ่งที่ได้รับมาคือเสน่ห์ที่น่าประทับใจเมื่อได้สบมอง ดวงตาคมกริบสีฟ้าฉายแววของผู้หญิงที่มีความมั่นใจในตัวเองสูงออกมา ขนตาที่ยาวงอนแบบของแท้แม่ให้มาปัดด้วยมาสคาร่าเสริมความโดดให้กับขนตาที่งอนอยู่แล้วดูหนาขึ้น รับกับคิ้วโก่งคมดุจคันศร เลือนจมูกโด่งเป็นสันได้รูปเข้ากับหน้าสวยคมของเธอ ริมฝีปากรูปกระจับทาด้วยลิปสติกสีแดงเน้นริมฝีปากให้น่ามองน่าจุมพิตขึ้น ใบหน้าขาวนวลไร้สิวฝ่าราคีเพราะได้รับการดูแลอย่างดีถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางราคาแพง แก้วกัลยาเป็นผู้หญิงที่สวยมาก สวยจับตาคนมองไม่ได้เพียงแต่สวยดาดเดื่อ ใครหลายคนบอกว่าเธอสวยดั่งดอกกุหลาบ เธอสวยมากแต่กลับแตะต้องไม่ได้ เพราะเมื่อใดที่มีใครหลงเข้ามาแตะ หนามแหลมเหล่านั้นที่ปกป้องดอกไม้ดอกงาม จะบาดตำมือของผู้ที่กล้าเข้ามาเด็ดดอม เธอเป็นสาวที่ปกป้องตนเองได้โดยไม่ต้องใครใครมาดูแล
“แน่นอน ใครจะสวยกว่าฉันได้อีกล่ะ”
“คุณวัน...” น้ำเสียงมิลาที่กำลังจะเอ่ยต่อเงียบลงทันที แก้วกัลยาตวัดสายตามอง
“ฉันเว้นให้คนเดียว รายนั้นราชินีหิมะ แต่ฉันแม่มด” แก้วกัลยายิ้ม
“จริงสิที่ให้เตรียมของไปให้ยัยเจนนี่เรียบร้อยไหม”
“ค่ะ ดิฉันกำชับแล้วว่าให้ส่งถึงมือคุณเจนนี่ แต่ว่าของที่ให้เอาไปให้มันอะไรคะ” มิลาถามอย่างใคร่รู้ แก้วกัลยาตวัดสายตาร้าย ๆ มองมิลาก่อนจะยิ้ม รอยยิ้มที่น่ากลัวที่สุด
“ของที่เหมาะสมกับยัยเจ้าสาวที่กล้าอวดดีกับฉัน ไปเถอะเดี๋ยวไปช้าไม่ทันเจอคุณเพชรกันพอดี” แก้วกัลยาคว้าหยิบกระเป๋าคลัทช์ใบเก๋ที่วางอยู่บนโต๊ะและเดินนำหน้ามิลาออกไป มิลาเดินตามลงมาคืนนี้คุณมงกุฎผู้ช่วยส่วนตัวเบอร์หนึ่งของแก้วกัลยามองหน้าที่ดูแลแก้วกัลยาให้กับเธอผู้ช่วยหมายเลขสอง รวมถึงตำแหน่งพลขับรถคืนนี้ก็เป็นของเป็นของเธอ ปกติแก้วกัลยาจะขับรถเอง แต่เพราะวันนิมีงานสังคมไฮโซสารถีจึงต้องให้มิลาเป็นผู้ขับแทนคนขับรถชายที่แก้วกัลยาไม่ยอมจ้างมา เหตุผลคือไม่จำเป็น
งานประมูลเครื่องเพชรเพื่อการกุศลครั้งที่ 15 ของมูลนิธิแสงตะวัน ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่โดยคุณหญิงพรพรรณ เจ้าของบริษัทเพชรแกรนด์ ไดมอนต์ และ หม่อมหลวงดารา พิชยธร เจ้าของพิชยธร ไดมอนต์ สองบริษัทเพชรยักษ์ใหญ่ของประเทศไทยที่จับมือกันคืนกำไรให้แก่สังคม เมื่อสองบริษัทเพชรยิ่งใหญ่ร่วมมือกันจัดงานขึ้น งานประมูลเพชรครั้งนี้จึงเป็นงานใหญ่แห่งปีอีกงานหนึ่ง ที่บรรดาเซเลบ ไฮโซคนดังสนใจต่างสนใจที่จะมาร่วมงาน เมื่อหันไปมองทางไหนก็เห็นบรรดาเซเลบเดินกันให้ทั่วงาน รวมถึงสื่อมวลชนที่กำลังกดชัตเตอร์ถ่ายภาพเก็บบรรยากาศภายในงานกันมือระวิง หนึ่งในนั้นมีรักจิรา สิทธิทรัพย์อาภา นักข่าวสาวจากหนังสือพิมพ์ไทยนิวส์ วันนี้รักจิราอยู่ในชุดที่เป็นทางการและสุภาพเหมาะสมกับงาน ที่คอห้อยบัตรสำหรับนักข่าว ที่ไหล่ขวามีกระเป๋ากล้องสะพายไว้อย่างไม่เกรงความหนักอึ้งของกล้อง รักจิราเป็นสาวมั่น ที่มีท่าทางแมนนิด ๆ แต่เป็นหญิงแท้ร้อยเปอร์เซ็น ใบหน้าสวยดูมีเอกลักษณ์ ดวงตากลมโตดูกล้าแข็ง บ่งบอกถึงนิสัยที่ยอมหักแต่ไม่ยอมงอ เรือนจมูกโด่งได้รูปรับกับใบหน้าเรียวรูปไข่ ริมฝีปากบางสีแดงอมชมพู ที่แก้มมีลักยิ้มเล็ก ๆ บุ๋มลงไปดูน่ารัก ใบหน้าสวยล้อมกรอบด้วยผมหยักศกที่เป็นลอนซอยสั้น เธอเป็นหญิงสาวที่มั่นใจ สวยเก๋ในแบบของตนเอง เธอคงจะมีหนุ่มติดตามขายขนมจีบมากกว่านี้ถ้าเธอเปลี่ยนลุคสบาย ๆ ที่ดูแมน ๆ เป็นสาวหวาน เพราะเธอคงจะน่าทะนุถนอมมากไม่แพ้สาวคนอื่น
“รัก” รักจิราหันไปมองคนที่เรียกตนในจังหวะที่กำลังเดินเข้าไปในงาน
“ตัวมาได้ยังไงเจ๊แก้ว” แก้วกัลยาเดินเข้ามาด้วยท่วงท่าของนางพญา ความสวยตรึงตราสง่า กิริยาสง่า เสริมให้เธอเป็นผู้หญิงที่น่าสนใจมากขึ้น ที่แขนขวาหนีบกระเป๋าคลัทช์แบรนด์ดังไว้ ที่มือซ้ายชูบัตรเชิญให้ดู รักจิราพยักหน้า บัตรเชิญของแก้วกัลยาต่างบัตรเชิญของรักจิรา บัตรเชิญของรักจิราเป็นบัตรสำหรับนักข่าวเท่านั้น คืนนี้แก้วกัลยาดูสวยและโดดเด่นมากกว่าใคร ๆ ยิ่งถ้าเข้าไปเฉิดฉายในงาน ออกร่าสวยสง่าราวนางพญาของเธอกลบความสวยของคนอื่น ๆ แน่นอน ใบหน้าสวยที่ดูเย่อยิ่ง สวยแบบมีมิติ เธอไม่ได้สวยหวานหยดย้อยดั่งเจ้าหญิงเหมือนน้องสาว ไม่ได้สวยนิ่งสุขุมราวราชินีหิมะเหมือนวันวิวาห์ แต่ความสวยของเธอดูเซ็กซี่เย้ายวน สง่างามดุจ มีมนต์ขลังเหมือนแม่มด งดงามทุกท่วงท่า สง่างามทุกการกระทำ ดวงตาคมเมื่อจ้องใครก็พาให้คน ๆ นั้นหวาดหวาดแต่ แต่กลับมีเสน่ห์ชวนหลงใหลให้หนุ่ม ๆ มองตาม รักจิราสำรวจพี่สาวที่สวยเลิศเกินใคร ก่อนจะเดินขนาบข้างเข้าไปในงานพร้อมกัน
“ทุกทีเห็นชิ่งบอกไม่ชอบงานที่มีคนแก่เยอะ” รักจิราถามลูกพี่ลูกน้องสาวในบรรดาพี่น้องแก้วกัลยาคือคนที่รวยที่สุด เพราะพ่อของเธอเป็นนักธุรกิจชาวต่างชาติที่ประสบความสำเร็จด้วยตนเอง แต่ก็มาด่วนจากไปด้วยอุบัติเหตุหลังจากแก้วตาแม่ของแก้วกัลยาตายไปได้สองปี เมื่อสิ้นพ่อแม่ แก้วกัลยาจึงย้ายมาอยู่กับสุนทรตั้งแต่ยังอายุได้สิบขวบ แม้พ่อของแก้วกัลยาจะเสียไปแล้วแต่ก็ทิ้งสมบัติที่สร้างมาด้วยสองมือให้กับแก้วกัลยา นอกจากสปาของแม่ที่เป็นสมบัติทางธุรกิจชิ้นสุดท้ายที่ทิ้งไว้ให้ เหมือนพ่อแก้วกัลยาจะรู้ล่วงหน้ากลัวลูกสาวลำบากจึงไปลงทุนซื้อหุ้นบริษัทต่าง ๆ เก็บไว้ เหลือเป็นเงินปันผลจำนวนมากไว้ให้แก้วกัลยาเก็บไว้ใช้ แก้วกัลยาจึงมีเงินเหลือใช้ในการทำสิ่งต่าง ๆ ในบรรดาพี่น้องแก้วกัลยาเป็นคนเดียวที่ดันตัวเองไปเรียนเมืองนอกไม่ใช่ด้วยเงิน แต่ด้วยความสามารถที่มากล้น เธออาจจะไม่ใช่อัจฉริยะแบบวันวิวาห์ แต่แก้วกัลยาเป็นเด็กที่มีความสามารถมากล้นสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ตั้งแต่อายุสิบหกปี หลังจากเรียนจบ แก้วกัลยาก็เข้าสู่วงการดีไซเนอร์อย่างเต็มตัวหลังจากเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากดีไซเนอร์ดัง ๆ มาหลายปี เธอหุ้นกับเพื่อนเปิดห้องเสื้อ Paeonia ห้องเสื้อที่เริ่มจากแบรนด์โนเนมเล็ก ๆ แต่แล้วเมื่อเสื้อผ้าของเธอมีโอกาสได้ไปเฉิดฉายอยู่บนพรมแดงด้วยความช่วยเหลือจากเพื่อน ๆ พีโอเนียเริ่มเป็นแบรนด์ที่ถูกจับตามอง จนได้รับเกียรติที่ถือว่าสูงสุดของคนทำเสื้อผ้าคือการที่ชุดได้ไปเฉิดฉายอยู่บนเวทีแฟชั่นวีคระดับโลก ตั้งแต่นั้นมาไม่มีใครไม่รู้จักพีโอเนีย
หลังจากประสบความสำเร็จแก้วกัลยาเลือกกลับมาที่ไทย และเข้ามามีบทบาทในวงการไฮโซ เมื่อเธอได้ร่วมงานกับดาราซุปเปอร์สตาร์ดังของประเทศ และหลังจากนั้นเธอก็ได้เปิดตัวพีโอเนียในประเทศไทย แบรนด์ดังของเธอทำให้คนรู้จักเธออย่างรวดเร็ว ผลงานเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาทุกคนยอมรับในฝีมือและความสามารถด้านการออกแบบของแก้วกัลยา แต่ฤทธิ์เดชของแก้วกัลยาที่เป็นคนจริงจังกับงาน และไม่พอใจก็วีนจนทำเอาหลาย ๆ คนขยาด แต่กลับไม่มีใครกล้าต่อกรเมื่อเธอตั้งตัวเป็นมาเฟียในวงการ เพราะคนที่แก้วกัลยารู้จักเป็นเพื่อนล้วนมีอิทธิพลต่อวงการต่าง ๆ ทำให้ไม่มีใครกล้าจะไปยุ่ง และทุกคนก็ตั้งฉายานามเธอว่า ...มารร้ายอสรพิษ... แต่ฉายานี้ไม่ได้ทำให้แก้วกัลยาสนใจ เธอแคร์เสียที่ไหน ปากคนถ้าเอามาใส่ใจเธอก็คงจะตายด้วยคำพูดคน เพราะมีคนเป็นร้อยเป็นพันที่แอบนินทาเธอ ถ้าเธอใส่ใจเธอก็ต้องใส่ใจทุกคน แล้วฉายาที่ว่ามันมาเล่น ๆ เสียที่ไหน มันมาจากนิสัยที่ไม่ยอมใครของเธอ และคนที่กล้าเข้ามาท้าทายเธอมักจะได้รับผลตอบแทนที่สาสมเสมอ เธอบอกเลยว่าเธอไม่ใช่นางเอก
“คุณพรพรรณเป็นลูกค้าประจำที่สปา ไม่มาไม่ได้ ที่สำคัญเลยคุณเพชรพึ่งกลับจากจีน เป็นโอกาสอันดีที่จะรับหาทางสานสัมพันธ์” แก้วกัลยาเอ่ยจุดประสงค์ที่แท้จริงตามมา รักจิราแอบเหน็บในใจว่า บ้าผู้ชาย
“ตามมาเขามาจะสามปีแล้ว จีบไม่ติดก็เปลี่ยนเป้าหมายเถอะ เสียเวลากับคุณเพชรหาแฟนไม่ทันปีหน้าเจ๊โดนอากงเชือดแน่” รักจิราเอ่ยถึงนักธุรกิจหนุ่มสุดหล่อผู้บริหารค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ที่แก้วกัลยาเจอเมื่อสามปีก่อน เจอด้วยเหตุบังเอิญเจ้าตัวก็เลยเหมารวมว่ามันคือพรหมลิขิตและจากการเจอกันวันนั้นแม่คุณก็ออกตัวแรงด้วยการพาตัวเองไปพบเขาที่บริษัทของเขาแทบทุกวัน บางวันก็ได้พบบางวันก็ไม่ได้พบ แต่แก้วกัลยาเมื่อชอบใครแล้ว เธอจะมีความอดทนชนิดพิเศษจนทำให้ผู้ชายคนนั้นขวัญผวาได้ตามความคิดของรักจิรา
“แกไม่ต้องห่วง ยังไงเสีย ฉันลงทุนหมดหน้าตักแล้วยังไงฉันจะต้องได้คุณเพชรเป็นแฟนไปโชว์ต่อหน้าอากงแน่ ทีนี้แหละอากงจะต้องอึ้ง” แก้วกัลยาเอ่ยอย่างมั่นใจว่าเธอจะเอาชนะใจผู้ชายที่ปฏิเสธน้ำใจเธอมาเป็นสิบครั้งคนนี้ได้
“ขอให้จริงเถอะ”
“จริงแน่ ตอนนี้แกไปห้องน้ำกับฉันก่อนนะ”
“เค้ามาทำงาน”
“โห่ ใจคอแกจะปล่อยให้ฉันไปคนเดียวเกิดฉันไปเจอยัยซูซี่ขึ้นมาทำไง นี่ถิ่นมันนะ ฉันไปคนเดียวมีหวังโดนรุมเละ คืนนี้ฉันไม่อยากมีเรื่องก่อนได้เจอคุณเพชร ไปด้วยกันนะ” รักจิราถอนหายใจและยอมเดินนำลูกพี่ลูกน้องของตัวเองไปอย่างปฏิเสธไม่ได้ แก้วกัลยาเดินเข้ามาในห้องน้ำ รักจิราเดินหยุดอยู่หน้าห้องน้ำเพื่อรอลูกพี่ลูกน้องสาว
“กรี๊ด!!!” รักจิราหันไปมองที่หน้าประตูห้องน้ำ เพราะเสียงที่เธอได้ยินไม่ใช่เสียงพี่สาวจึงยังไม่เดินเขาไป ประตูห้องน้ำถูกเปิดออก พร้อมกับสุจิรา หรือซูซี่ และบรรดาเพื่อนไฮโซอีกสองคนก็วิ่งหนีออกมาในสภาพตัวเปียกมอล็อกมอแล็ก รักจิราขมวดคิ้วเมื่อทั้งสามวิ่งผ่านหน้าไปพร้อมกับที่แก้วกัลยาเปิดประตูเดินตามออกมาด้วยใบหน้าประดับรอยยิ้ม
“ไหนว่าไม่อยากมีเรื่อง”
“ก็ใครใช้ให้ยัยพวกนั้นคิดจะรุมฉันก่อนเล่า ไปเถอะสบายใจแล้ว คุณเพชรรอฉันอยู่ข้างหน้า” รักจิราส่ายหน้ากับท่าทีผีเข้าผีออกของลูกพี่ลูกน้องที่เดินนำออกไป
“โอ๊ย!!!” เสียงของแก้วกัลยาดังขึ้นอีกครั้ง รักจิราตกใจรีบวิ่งไปเพราะกลัวเกิดเรื่องกับแก้วกัลยา ภาพที่เธอเห็นคือพี่สาวล้มนั่งก้นจ้ำเบ้าอยู่กับพื้น รองเท้าส้นสูงข้างขวาส้นหักออกไม่สมราคาเหยียบหมื่น ตรงหน้าของแก้วกัลยามีชายหนุ่มในชุดสูทสีดำยืนอยู่ รักจิรารู้จักแก้วกัลยาดี อีกไม่เกินห้านาทีต้องมีมวยแน่ ใบหน้าสวยของแก้วกัลยาฉายแววกรุ่นโกรธ รองเท้าของเธอราคาเกือบหมื่นแต่กับไร้ประสิทธิภาพอย่างไม่น่าเชื่อ ใบหน้าของเธอชาวาบเพราะรู้ว่าคงมีสายตาไม่น้อยกำลังมองมาทางเธอด้วยแววตาขำขัน เธอต้องมาขายหน้าต่อคนเป็นสิบเป็นร้อย ยอมจบคงไม่ใช่แก้วกัลยา แก้วกัลยากำลังเงยหน้าขึ้นตั้งท่าจะวีนใส่คนที่ทำให้เธอขายหน้า
“คุณไม่เป็นอะไรนะครับ” เสียงนุ่มทุ่มที่เอ่ยขึ้นทำให้ดวงตากลมโตของแก้วกัลยาแวววาวขึ้นมาทันที ผู้ชายตรงหน้าเธอคือเพทาย วรโชติวาทิน หรือคุณเพชร ผู้บริหารค่ายเพลงยักษ์ใหญ่อย่างบริษัทวีนัส มีเดีย จำกัด (มหาชน) ค่ายเพลงคุณภาพที่ติดอันดับหนึ่งในห้าของประเทศไทย รวมทั้งยังเป็นบริษัทธุรกิจบันเทิงครบวงจรครอบคลุมธุรกิจบันเทิงตั้งแต่ค่ายเพลงไปจนสื่อภาพยนตร์ในปัจจุบัน ปัจจุบันนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงอย่างเพทายคนนี้คือคนที่แก้วกัลยากำลังหลงใหล คุณสมบัติไร้ที่ติแบบนี้ยิ่งทำให้เธอไม่สามารถตัดใจได้
แก้วกัลยาเจอกับเพทายเมื่อเจ็ดปีก่อน ตอนนั้นเธอกลับมาที่ไทย เธอไปเที่ยวเสม็ดกับเพื่อน วันนั้นเธอเกิดเป็นตะคริวและจมน้ำ เธอคิดว่าเธอต้องตายแน่ ๆ แต่กลับมีใครคนหนึ่งดึงชีวิตเธอให้รอดพ้นจากความตาย ทันทีที่ลืมตาขึ้นเห็นหน้าเขา เธอรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบหยุดหมุน เธอพึ่งรู้จักคำว่ารักแรกพบก็วันนั้น เธอไม่ได้รู้จักเขาไปมากกว่านี้ จนเมื่อสามปีก่อนเธอมีโอกาสได้พบกับเขาอีกครั้ง เธอจึงไปช่วยทำหน้าที่เป็นสไตลิสต์ให้กับคีตภัทรในคอนเสิร์ตใหญ่ของวีนัส และเขาที่พึ่งเข้ามารับตำแหน่งผู้บริหารต่อจากบิดา ก็มาร่วมงานนี้ด้วย ทันทีที่เธอสบตาเขาเธอไม่มีทางลืมเขาได้ และการเจอกันครั้งนี้เธอไม่ปล่อยให้พรหมลิขิตทำงานอีก เธอตามตื้อเขา ใช้โอกาสที่ยังเป็นสไตลิสต์ส่วนตัวให้คีตภัทรเทียวไปหาเขา แม้เขาจะหนี ปฏิเสธน้ำใจของเธอครั้งแล้วครั้งเล่า เธอก็ไม่ทิ้งความเพียรพยายามที่จะตามตื๊อ
ความรู้สึกในเวลานั้นยังไม่ปะทุแรงเท่าเมื่อหนึ่งปีก่อน วันที่เขาช่วยชีวิตเธอไว้อีกครั้ง คืนนั้นแก้วกัลยาไปงานวันเกิดของลูกค้าที่สปา จำได้ว่าบังเอิญไปมีเรื่องกับสุจิราหรือซูซี่ไฮโซสาวรุ่นน้อง เธอโดนผลักตกน้ำ แน่นอนว่าผู้หญิงสมบูรณ์แบบอย่างเธอว่ายน้ำเป็นอยู่แล้ว แต่อยู่ ๆ ตะคริวก็เกิดกินขาเธอขึ้นมา เธอคิดว่าเธอตายแน่เมื่อไม่มีใครกระโดดลงมาแต่ละคนเอาแต่มองและชี้มาที่เธอเหมือนเจอตัวประหลาด พลันก็มีฮีโร่คนหนึ่งกระโดดลงน้ำมาช่วยเธอไว้ ชีวิตของเธอครั้งที่สองเขาก็เป็นคนฉุดมันขึ้นมาอีก จากที่หลงรักเขาอยู่แล้วกลับยิ่งหลงรักเขามากขึ้น แก้วกัลยาสาบานกับตัวเองว่ายังไงเธอจะต้องเอาเขามาเป็นสามีในอนาคตให้ได้ เธอไม่เคยยอมแพ้สักนิด เคยเข้าไปถึงในบริษัท ในห้องทำงานของเขา และโดนเขาเรียก รปภ. จับเธอโยนออกมาอย่างไม่ไยดี แต่เธอก็ไม่เคยคิดจะยอมแพ้ และคิดเสมอว่ายิ่งยากก็ยิ่งอยากได้ บรรดาพี่น้องพากันยกย่องแก้วกัลยากับความอดทนเกือบสองปี ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าหนุ่มหล่อคนนี้มีผู้หญิงที่กำลังดูใจอยู่แล้ว แต่แก้วกัลยากลับพูดประโยคหนึ่งที่ทำเอารักจิราตะลึงกับความหนาสุด ๆ ของพี่สาว
...ใครดีใครได้ ตราบได้ยังไม่จดทะเบียนตีตราจองเป็นผัวเมียกัน ฉันก็มีสิทธิ์... ตั้งแต่นั้นมารักจิราไม่เคยห้ามญาติผู้พี่อีกเลย เพราะมันไม่มีประโยชน์ไงล่ะ เมื่อตัวรั้นขนาดนี้ห้ามไปก็เสียงน้ำลายเปล่า รอดูตอนผิดหวังแล้วกัน วันนั้นแหละเธอจะพูดเลยว่าเธอเตือนแล้ว เป็นคำพูดธรรมดาแต่สามารถทำให้ใครบางคนเจ็บได้ชะงัด
“ไม่เป็นเลยค่ะ” มือของเพทายที่ยื่นอยู่ตรงหน้าทำท่าจะชักกลับเมื่อเห็นผู้หญิงคุ้นตาที่เขาไม่เจอมาเป็นเดือนเพราะต้องไปทำธุระที่จีน แต่แก้วกัลยากลับคว้ามือของเขาไว้ก่อนที่เขาจะชักกลับไป
“คุณเพชรจะไม่ช่วยแก้วหน่อยหรอคะ” เพทายถอนหายใจอย่างอ่อนใจกับผู้หญิงช่างตื้อ ผู้หญิงที่ติดเขาแจยิ่งกว่าปลิง ไม่ว่าจะงานไหนที่เขาไปเขาจะเจอผู้หญิงคนนี้เสมอ เขายอมรับแก้วกัลยาเป็นผู้หญิงที่สวยมาก แต่เขาไม่ชอบเธอ ความรู้สึกบางอย่างบอกเขาว่าแก้วกัลยาเป็นผู้หญิงอันตราย เธอจะนำพาความวุ่นวายมาสู่ชีวิตเขาในวันหนึ่ง เขาไม่เคยให้ความหวังเธอด้วยซ้ำ สีหน้าเขาก็แสดงออกอย่างชัดเจนแล้วว่าไม่ชอบ พูดปฏิเสธอย่างสุภาพที่สุด แต่ผู้หญิงคนนี้ดูจะทานทนเสียเหลือเกิน ไม่สนใจสิ่งที่เขาพยามสื่อออกไปเลยสักนิด
“คุณเพชร” สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจดึงให้แก้วกัลยาลุกขึ้นอย่างจนใจ เสียงแหลม ๆ ของเธอทำให้เขาปวดหัว
“ขอบคุณ คุณเพชรน่ารักแบบนี้จะไม่ให้แก้วรัก แก้วหลงได้ยังไงกันคะ หายไปตั้งเป็นเดือนแก้วคิดทึ้งคิดถึงคุณเพชร” เขาผงะถอยหนีทันที เมื่อแม่สาวไฟแรงทำท่าจะโผเข้ากอดเขา ใบหน้าหล่อเหลาปานเทพบุตรยังคงรักษาความนิ่งและสุภาพไว้ เกิดมาไม่เคยเจอผู้หญิงแบบนี้มาก่อน เธอทำให้เขากลัวมาก
“ผมขอตัว” แล้วเขาก็เดินไปทันที รักจิราหัวเราะขำตัวแทบงออยู่ข้างหลัง แก้วกัลยาส่งสายตาแทบตาย เพทายไม่ได้สนใจสักนิดแถมยังปลายตามองเหมือนกลัวอยู่กราย ๆ เกิดมารักจิรายังไม่เคยเห็นผู้ชายคนไหนกล้ามองข้ามพี่สาวเธอขนาดนี้นอกจากผู้ชายที่ได้เดทกับพี่สาวเธอและเจออิทธิฤทธิ์ของเจ้าแม่ประคุณคนนี้ต่างพากันเผ่นนี้เพราะกลัว พลานุภาพความโกรธของมารร้ายอย่างแก้วกัลยา
“ตัวมองขนาดนี้วิ่งตามไปเลยไหม” แก้วกัลยายังคงยืนตาลอยและพูดกับตัวเองไปมาเหมือนคนเสียสติ
“ผู้ชายอะไรหล่อไม่เกรงใจใคร หล่อตั้งแต่หน้ายันซิคแพ็ค โอ๊ย!!!” รักจิรามองแก้วกัลยารู้สึกเหมือนเริ่มกลัวลูกพี่ลูกน้องสาวคนนี้ขึ้นมาแล้ว
“ตัวเคยเห็นซิคแพ็คคุณเพชรเขาหรอ” รักจิราทำสายตาเหมือนแก้วกัลป์ยาเป็นโจรโรคจิต เพทายไม่เคยถ่ายรูปลงนิตยสาร เพราะนักธุรกิจแบบเขาไม่มีเวลาแบบนั้น การที่จะเห็นไปถึงซิคแพ็คได้แสดงว่าสุ่มดู
“ก็เคยสิ ตอน... ยุ่ง”
“ตัวหื่นมากอ่ะเจ๊แก้ว นี่ตัวไปแอบดูคุณเพชรเขาแก้ผ้ามาใช่ไหม ตอนแรกก็ว่าเจ๊แค่คลั่งไคล้ปกติ พึ่งรู้ว่าตัวเป็นสต็อกเกอร์ รับไม่ได้”
“ฉันไม่ได้แอบ ฉันดูโต้ง ๆ เลย ผู้ชายอะไรหล่อ รวย เก่ง ครบสูตร ฉันจะต้องเอาเขามาแต่งงานแล้วเอาไปเย้ยอากงให้ได้ คอยดูนะอากงจะเสียใจที่สบประมาทฉันไว้” แก้วกัลยาเอ่ย และมองตามเขาไปด้วยแววตาเคลิ้ม ๆ รักจิรายื่นหน้าเข้ามาใกล้ ใบหน้าสวย ๆ ออกแนวเคลิ้มเหมือนฝันกลางวัน รักจิรายืนมือมาหยิกที่หยิกเข้าที่แขนขวาของแก้วกัลยาเพื่อเรียกสติที่หลุดลอยไปให้กลับคืนมา
“โอ๊ย!!!” แก้วกัลยาหันกลับมามองรักจิราด้วยแววตาไม่พอใจที่บังอาจขัดความสุขของเธอ
“มองแบบนี้เขาก็ไม่ลอยมาหาตัวหรอก นั่นตัวจริงของเขามาแล้ว” แก้วกัลยาหันขวับไปมองในทันที เมื่อแขนข้างขวาของเขาไม่ว่างอีกต่อไป มีมือของผู้หญิงสวยหวานสะดุดตาเกาะไว้อยู่อย่างเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ
“เป็นหมาหรือไงถึงต้องให้คนคอยจูง ชิ” แก้วกัลยาเอ่ย และมองดารินทิพย์หรือคุณหนูดาหวันไฮโซสาวหน้าตาสวย ท่าทางใสซื่อบริสุทธิ์ทำให้คนพากันรักและเอ็นดู เมื่อปีก่อนมีข่าวแว่ว ๆ ว่าดารินทิพย์กับเพทายมีข่าวว่ากำลังคบหาดูใจกันอยู่ แต่ทั้งสองออกมาให้สัมภาษณ์ตรงกันว่า ยังไม่ได้เป็นแฟนกัน เป็นเพียงพี่น้อง แม้จะบอกว่าพี่น้องแต่การกระทำของทั้งคู่ก็บอกอะไรได้มากมายว่ามันไม่ใช่แค่นั้น เพราะการที่ผู้ชายคนหนึ่งไปรับไปส่งผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งแก้วกัลยารับไม่ได้ เธอสวยน้อยกว่าแม่นั่นตรงไหน เผลอ ๆ สวยมากกว่าด้วยทำไมเขาไม่มองเธอบ้าง แก้วกัลยาได้แต่เข่นเขี้ยวในใจ
“เทพบุตร ต้องคู่กับเทพธิดา ถึงจะถูกสินะ ว่าไหมเจ๊แก้ว” รักจิราเอ่ย เพทายผู้ชายที่หล่อแสนสุภาพคนนี้ทุกครั้งที่มองเธอรู้สึกเห็นออร่าสีขาวกระจายออกมา เขาเหมือนเทพบุตร พอหันมามองพี่สาวเธอ เธอรู้สึกเหมือนเห็นประกายสีดำกระจายออกมา ซึ่งมันไม่เหมาะกับคุณเพทายคนนี้สักนิด แก้วกัลยามองภาพตรงหน้าด้วยสายตาริษยา ในใจคิดไปว่าตรงนั้นมันควรเป็นเธอสิ ไม่ใช่ยัยคุณหนูจอมแอ๊บหน้าจืดนั่น แก้วกัลยาจิกแขนของรักจิราเมื่อไม่รู้จะลงอารมณ์ที่กรุ่นโกรธด้วยอะไร
“โอ๊ย!!! ตัวจะใช้กงเล็บของตัวจิกแขนเค้าทำไม ปล่อยเลย ปล่อยเลย” แก้วกัลยายอมปล่อยแขนรักจิราออก
“ฉันไม่ยอมเสียคุณเพชรให้ยัยเด็กแอ๊บแบ๊วนั่นหรอก ฉันไม่ยอม ฉันต้องได้คุณเพทาย ฉันต้องได้” คำพูดของแก้วกัลยาทำให้รักจิราขมวดคิ้ว นัยน์ตากลมหวานมองและส่ายหน้า นี่มันตัวอิจฉาในละครชัด ๆ เจ้าตัวจะรู้ไหมเนี่ย
“อะไรที่ไม่ใช่ของเรา มันก็ไม่มีวันใช่ ตัวปลงซะเถอะเจ๊แก้ว เดี๋ยวน้ำตาจะเช็ดหัวเข่าเอานะ”
“ปากหมาจริงไอ้รัก ไม่รู้ล่ะฉันจะต้องได้คุณเพชรเป็นเจ้าบ่าวของฉัน ถ้าฉันไม่ได้คุณเพชรเป็นเจ้าบ่าวของฉัน ฉันจะบวชชีไม่สึกเลยคอยดู”
“ปากหรอนั่น” รักจิราเอ่ยทันที
“ไม่รู้แหละ ฉันจะเอาคุณเพชรไปให้อากงดูหน้าในฐานะว่าที่สามีของฉันให้ได้ ใครขวางตาย อย่างแรกฉันต้องวางแผนใหม่ ใช่แผนของฉันไม่รัดกุมพอ ทำไมป่านนี้คุณเพชรยังไม่แม้แต่จะมองหน้าฉัน ฉันต้องกลับบ้านไปวางแผน ไปปรึกษาวันดีกว่า” แก้วกัลยาพูดกับตัวเองเหมือนกับคนบ้า ถ้าไม่ใช่พี่น้องกัน และนี่คืออาการปกติเธอ คงคิดว่าแก้วกัลยาเป็นบ้าแน่ ๆ พูดเองเออเอง รักจิรามองใบหน้าที่ยิ้ม ๆ ของแก้วกัลยาอย่างขนลุก
“ตัวกำลังคิดอะไรชั่วร้ายอยู่ใช่ไหม” รักจิรามองรอยยิ้มของนางมาร้ายอสรพิษตรงหน้าอย่างกลัว ๆ แทนเพทาย เธอได้แต่อวยพรขอให้เพทายอยู่รอดปลอดภัย คอยดูเถอะถ้าหล่อนไม่ได้คนที่ต้องการจะได้หล่อนเล่นหนักแน่ เธอรู้จักความร้ายกาจของพี่สาวเธอดี ถ้าดีก็ดีจนใจหาย แต่ถ้าร้ายก็ร้ายจนถึงที่สุด คิดแล้วก็ขนลุกขึ้นมาทันที
“ใครบอกชั่วร้าย กลับบ้านก่อนนะ” รักจิรามองอย่างแปลกใจที่คนอย่างแก้วกัลยายอมถอยทัพไปง่าย ๆ เพราะแก้วกัลยามีนิยามประจำใจว่าเป้าหมายมีไว้ให้พุ่งชน ถ้าฉันอยากได้ก็ต้องชน แต่การที่ถอยในวันนี้เธอคิดว่ามันแปลก แสดงว่าในหัวคงวางแผนอะไรอยู่แน่ ๆ
“รีบไปไหน นี่งานยังไม่เริ่มเลย ไหนว่าจะแวะเข้าไป”
“ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าคุณเพชรอีกแล้ว ฉันจะรีบกลับไปคิดแผนเข้าหาคุณเพชรสุดหล่อใหม่ และฉันต้องหาทางเขี่ยยัยไฮโซแอ๊บแบ๊วนั่นออกไปให้ได้ ดูก็รู้ว่าชีนะแอ๊บ ทำไมไม่มีใครดูออกนะ”
“ไปว่าเค้าอีก ตัวนี่มัน...” รักจิรากำลังสรรหาคำมาว่าแก้วกัลยา แต่แก้วกัลยาไม่ได้รอฟัง
“ไปแล้ว” แล้วแก้วกัลยาก็เดินออกไป โดยที่ลงทุนหักส้นรองเท้าอีกข้างและใส่เดินออกจากงานไปราวกับนางแบบเดินบนเวทีแคตวอล์ค
เสียงรักจิราที่คุยอยู่กับขวัญชีวันดังขึ้นมาถึงชั้นบน แก้วกัลยาที่กำลังจัดการเคลียร์งาน เคลียร์ตัวเองให้ว่างสำหรับเพทาย ใครจะว่าเธอบ้าผู้ชายเธอไม่สน ยุคนี้จำนวนประชากรผู้ชายก็เหลือไม่พอสำหรับผู้หญิงอยู่ด้วย ส่วนหนึ่งก็มีครอบครัว เธอไม่พิสมัยแย่งผู้ชายมีห่วงคล้องคอ ส่วนหนึ่งก็ดันไปกินกันเอง เธอไม่คิดจะเอากลุ่มนี้มาทำพันธุ์ แต่คบเป็นเพื่อนจะรู้ว่าไม่เสียหาย ส่วนที่เหลืออยู่ก็แทบไม่เพียงพอต่อประชากรหญิง และยังต้องเอาประเภทที่เหลือน้อยนิดนั่นมาแยกระดับเลเวลดีชั่ว คือผู้ชายที่ดีพร้อมทั้งรูปทรัพย์และคุณทรัพย์แทบจะหาไม่ได้แล้ว ชีวิตเธอเจอมาหมดแล้ว ทั้งพวกขี้เก๊ก เจ้าชู้ มือไว ใจเร็ว แมงดา ประเภทพวกนี้ที่คบวันเดียวแล้วหนีเพราะเธอด่ากลางร้านอาหารไงล่ะ เธอด่าจนไม่มีหน้ากลับมาเดินผ่านหน้าเธออีก แล้วคุณสมบัติที่ดีพร้อมจริง ๆ ก็เหลือน้อยเต็มทน แถมสาวรุ่นเยาว์ก็คาบไปกินเสียก็เยอะ และตอนนี้เพทายคือผู้ชายที่สมบูรณ์พร้อมที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเธอ เขาคือส่วนเติมเต็มที่เธอต้องการ คือจิ๊กซอว์ที่จะทำให้ภาพของเธอสมบูรณ์ เธอจะต้องชิงเขามาให้ได้ แก้วกัลยาเดินออกจากห้องตรงไปที่โต๊ะอาหารที่ชุมนุมของสี่พี่น้อง
“เฮลโล่มายซิสเตอร์” สามสาวหันมามองแก้วกัลยา ที่หน้าตาดูแจ่มใสขึ้นมาก สภาพของเธอในเวลานี้หมดภาพลักษณ์สาวสวยไฮโซที่สร้างมาตลอดสี่ห้าปี ใบหน้าของแก้วกัลยานั้นยิ้มแย้มแจ่มใสจนทั้งสามแปลกใจว่ามีอะไรน่ายินดีขนาดนั้น รักจิราเริ่มเดาอะไรบางอย่างได้
“ยิ้มแบบนี้ คิดออกแล้วหรอว่าจะเข้าไปถึงตัวคุณเพชรเขายังไง”
“ใช่ รับรองว่าคุณเพชรจะไม่มีทางปฏิเสธฉันแน่ แกคอยดูว่าฉันจะได้แต่งงานเป็นคนแรก”
“มั่นใจขนาดนั้น วิธีอะไรกัน ทำให้ตัวมั่นใจขนาดนี้เจ๊แก้ว เดี๋ยวไม่สำเร็จจะนั่งหัวเราะให้ฟังหักเลยคอยดู” แก้วกัลยาคว้าหยิบกล่องกระดาษทิชชู่ที่วางอยู่กลางโต๊ะขึ้นมาก่อนจะปาออกไป
ฟึบ
รักจิรารับไว้ได้และยิ้มอย่างไม่สะทกสะท้าน
“เดี๋ยวแกได้ฟันหักแน่ ฉันจะเอาค้อนมาทุบแกนี่ไง จำไว้ระดับแก้วกัลยาไม่มีคำว่าพลาดอยู่แล้ว แกรอดูแล้วกัน ถ้าฉันสามารถเอาชนะใจคุณเพชรได้แกจะต้องเสียใจที่ดูถูกฉัน”
“หรอ..”
“ไอ้...”
“พอ ๆ ทั้งคู่นั่นแหละ ทะเลาะกันไปทะเลาะกันมา แก้ว ขวัญถามจริง ๆ นะ แก้วจริงจังกับคุณเพชรจริง ๆ ใช่ไหม ไม่ใช่แค่อยากเอาชนะ พวกเราเป็นพี่น้องกันเราอยู่ด้วยกันมานาน พวกเรารู้ว่าแก้วกระหายความชนะแค่ไหน แต่เรื่องนี้ขวัญไม่อยากให้แก้วเอามาเป็นเรื่องเล่น ๆ นะ ที่สำคัญการที่เราจะแต่งงานกันมันต้องอยู่บนพื้นฐานของความรัก ไม่ใช่แค่ความสมบูรณ์แบบ แก้วจริงจังกับคุณเพชรแค่ไหน” ขวัญชีวันเอ่ยถามด้วยสีหน้ากังวลใจ เธอกลัวว่าแก้วกัลยาอาจจะต้องเสียใจ เธอไม่อยากให้แก้วกัลยาต้องพลาด
“ฉันไม่รู้”
“เฮ้อ... เค้าเตือนไว้นะ เดิมพันครั้งนี้ตัวอาจจะแพ้สูงมาก ตัวลืมไปหรือเปล่าว่ายังมีคุณดาหวันอยู่ แม้ตอนนี้สองคนจะยังไม่ประกาศว่าเป็นแฟนการ แต่การกระทำมันก็มากกว่าเพื่อน และพี่น้องแล้ว เค้าว่านะอีกไม่นานสองคนต้องตกลงปลงใจกันแน่นอน คุณดาหวันได้รับช่อดอกไม้ทุกวันเลยนะ แถมถ้าคุณเพชรว่างเมื่อไหร่ก็ตามไปรับไปส่งตลอด เค้าว่าตัวตัดใจ เปลี่ยนตัวเลือกเถอะ คุณเพชรเธอหินมากสำหรับตัวนะเจ๊แก้ว ถึงแม้ตัวจะมีความสวยแต่งานนี้ ตัวแพ้ราบคาบ หมากหมดกระดานแน่” แก้วกัลยายิ้มอย่างมีเลศนัย
“แผนของฉันรัดกุมพอ แกไม่ต้องห่วงหรอก ฉันจะจัดการคุณหนูจอมแอ๊บนั่นให้แอ๊บต่อไม่ได้เลยล่ะ ผู้หญิงคนที่เหมาะสมกับคุณเพชรมีแค่แก้วกัลยา เพชรที่งามพร้อมผ่านการเจียระไนให้คู่ควรกับคุณเพชรคนนี้” รักจิราขมวดคิ้วกับคำพูดของแก้วกัลยา และคิดในใจว่าแม่มดจะไปเหมาะกับเจ้าชายได้ยังไง ถ้าเอาแก้วกัลยามาเปรียบเทียบกับดารินทิพย์ความใสซื่อของดารินทิพย์ก็ชนะ พี่สาวคนนี้ของเธอมองยังไงก็แม่มดร้าย เหมาะสมกับสมญานามมาร้ายอสรพิษแล้วล่ะ แล้วจะให้คนดี ๆ อย่างคุณเพชรต้องมาเจอมาร้ายที่วีนเหวี่ยงไปวัน ๆ เธอไม่อยากจะคิด
“เมื่อตอนสองทุ่มงานแต่งงานคุณเจนนี่ ตัวไปทำเรื่องอะไรไว้หรือเปล่า”
“อะไร”
“อย่ามาทำไก๋นะเจ๊แก้ว เค้ารู้นะว่าฝีมือแก้ว มือปล่อยแมลงสาปในงานแต่งน่ะ” แก้วกัลยามองโทรศัพท์ที่รักจิรายื่นให้ พึ่งมีการแชร์ข่าวเมื่อชั่วโมงก่อนว่างานแต่งงานของไฮโซสาวเจนนิตากับนักธุรกิจหนุ่มรัชวินเป็นอันต้องล่มเมื่อกองทัพแมลงสาปจากบุคคลปริศนาถูกปล่อยขึ้นมากล่องงาน บรรดานักธุรกิจไฮโซพากันวิ่งหน้าต่างเมื่อเจ้าแมลงสาปพากันหนีตายออกมาจากกล่องใบใหญ่ที่บรรจุแมลงสาปเอาไว้
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า” น้ำเสียงระเบิดหัวเราะออกมาอย่างสะใจของแก้วกัลยาทำให้รักจิรามองพี่สาวอย่างอึ้ง ๆ
“ฝีมือตัวจริง ๆ ด้วย ตัวยังมีหน้ามาหัวเราะอีกหรอไปพังงานแต่งเขาแบบนั้นน่ะ”
“สะใจไอ้แก้วจริง ๆ เสียดายไม่ได้ไปดูด้วยตาตัวเอง สมน้ำหน้ากล้ามาหักหน้าฉันต่อหน้าคนเป็นร้อย แค่นี้ยังน้อยไปกับที่ยัยนั้นกล้าเอาฉันไปจับคู่มั่วกับนายรัชวิน จนทำให้คุณเพชรเข้าใจฉันผิดสมน้ำหน้าแล้ว”
“นี่ตัวยังผูกใจเจ็บกับเรื่องที่เค้าเอาน้ำไปสาดหน้าตัวกลางงานวันเกิดพี่พิตต้าใช้หรือเปล่า” แก้วกัลยาไม่ยอมรับออกมาตรง ๆ แต่มันก็อย่างที่รักจิราพูดที่เธอผูกใจเจ็บกับเจนนิตา ไฮโซขี้อวดที่อวดทุกอย่างและพยายามจะท้าชนกับเธอ จนเหตุการณ์ล่าสุดเมื่อสามเดือนก่อนที่เจนนิตามาอาละวาดใส่เธอตอนเธอกำลังคุยเจรจาธุรกิจกับนายรัชวิน แต่เจนนิตาไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรมมาถึงก็อาละวาดกลางร้านน้ำจานสปาเกตตี้ขว้างใส่เธอก่อนจะหนีกลับไป ถ้าไม่เพราะตกใจคงได้มีวางมวยกันบ้าง หลังจากนั้นยัยนั่นก็ขยันเอาเรื่องเธอมาสร้างประเด็นให้เสียหายซึ่งเธอก็ม่ได้สน จนเมื่อเดือนก่อนที่ยัยนั่นเอาน้ำมาสาดใส่หน้าเธอในงานวันเกิดโสภิตตา ทำให้เธอขายหน้าต่อหน้ามหาชนรวมถึงยัยโสภิตตาเธอยอมไม่ได้แม้รัชวินจะตามมาขอโทษเธอแล้ว แต่เมื่อไม่ยอมจบก็ต้องทำให้จำไปจนตาย
“รู้ไหมว่าคุณเจนนี่เธอช็อคไปเลย” แก้วกัลยารู้ว่าเจนนิตาเป็นโฟเบียขั้นหนัก เจอแมลงสาปกองทัพไม่ช็อคหมดสติก็คงบ้าตายแน่
“เล่นแรงไปแล้วนะ งานแต่งเค้าล่มแบบนี้เกิดเค้ามาเอาคืนจะทำยังไง” ขวัญชีวันเอ่ย
“ไม่กล้าหรอก ยัยนั่นรู้ถ้ากล้ากับฉันจะเจอหนักกว่ากองทัพแมลงสาป นี่แค่เบาะ ๆ“ ทั้งหมดส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจกับความเจ้าคิดเจ้าแค้นของแก้วกัลยา
“น่าสงสารเค้าออกนะแก้ว งานแต่งล่ม บ้านยังเต็มไปด้วยแมลงสาป แล้วต้องใช้เวลาเป็นเดือนแน่ ๆ กว่าจะจัดการแมลงสาปหมดบ้าน”
“เอาน่า ขำ ๆ”
“มันไม่ขำเลยเจ๊แก้ว ตัวทำแบบนี้ยังมีหน้าหัวเราะได้อีก ยัยมาร้ายอสรพิษ ยัยแม่มดใจร้าย ใจดำ” รักจิราพูดจบคว้าโทรศัพท์ขึ้นห้องไปทันทีไม่สนใจแก้วกัลยาที่นั่งหน้าตูมพอจะหันไปหาพวก ขวัญชีวันที่ไม่เห็นด้วยก็เดินตามรักจิราขึ้นไปอย่างไม่ชอบการกระทำครั้งนี้ของแก้วกัลยา
“อะไรกัน วัน นี่ฉันผิดหรอ ยัยนั่นทำฉันก่อนนะ” แก้วกัลยาหันไปมองวันวิวาห์ที่มองเธอนิ่ง ๆ
“แก้วทำไม่ถูก วันเป็นหมอ แล้วรู้ว่าเค้าเป็นโฟเบียขั้นรุนแรงด้วย ถ้าเค้าช็อคตายขึ้นมามันไม่คุ้นนะแก้ว ปิดบ้านให้เรียบร้อยด้วย วันไปนอนก่อนนะ” วันวิวาห์เดินกลับขึ้นไปทันที ปกติวันจะไม่ออกความเห็นเรื่องความผิดของเธอมักจะเลี่ยงไป แต่ครั้งนี้วันวิวาห์บอกชัดมากว่าเธอทำไม่ถูก
“ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย ทำไมไม่เข้าข้างฉันบ้างล่ะ” แก้วกัลยาก็ยังเป็นแค่แก้วกัลยาที่ไม่เคยยอมรับความผิดอะไร ดวงตาคมกวาดหันไปเห็นแฟ้มสีดำที่วางอยู่บนโต๊ะที่เหมือนหนึ่งในสามสาวจะลืมทิ้งไว้ แก้วกัลยาหยิบขึ้นมาเปิดดูเธอเปิดไปเรื่อย ๆ จนมาหยุดอยู่ที่รูป ๆ หนึ่ง มือถือแฟ้มค้างและมองรูปนั่นอีกครั้ง
“หมอนี่มัน...” แก้วกัลยาแย้มยิ้มออกมา เป็นรอยยิ้มที่ตนว่าสวยที่สุด แต่ถ้าบรรดาพี่น้องของเธอเห็นจะบอกว่ามันดูชั่วร้ายที่สุด
....ติดตามตอนต่อไป...
นำตอนมาฝากแล้ว เปิดตอนแรกก็เอาความแซ่บเล็ก ๆ ของเจ๊แก้วกันไปก่อน
เดี่วนางจะแซ่บขึ้นแน่นอน
ส่วนใครรออีกสามสาวก็รอกันอีกนิด ได้พบแน่นอน สี่สาวต่างสไตล์ก็แล้วแต่ความชอบ
ใครชอบแนวแซ่บ ๆ แบบเจ๊แก้วก็ไม่ผิดหวัง
ชอบหวาน ๆ ซื่อ ๆ แบบเจ๊ขวัญ ก็รออีกนิด ได้ติดตามกันแน่นอน
ส่วนใครชอบสาวนิ่ง ๆ ซึ้น ๆ อารมณ์หนาวเหน็บเป็๋นน้ำแข็ง ต้องไม่พลาดเจ๊วัน
แล้วสุดท้ายใครชอบสาวแซบซ่า แบบรักจิรา คนสุดท้ายก็รอนานหน่อย
แต่จะได้อ่านกันทุกเรื่องแน่นอน ขอบคุณที่่ติดตาม ฝากเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ
ฝากติดตาม คอมเม้นส์ เป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ พบกันตอนหน้าค่ะ
พัชรีพร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 25 พ.ค. 2558, 09:35:27 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 28 มิ.ย. 2558, 12:47:30 น.
จำนวนการเข้าชม : 941
<< บทนำ | ตอนที่ 2 พรหมไม่ลิขิตแก้วลิขิตเอง >> |