Rainbow University สายรุ้งรักปักหัวใจนายต่างชาติ(1)
มหาวิทยาลัยสายรุ้งหรือRainbow University เป็นมหาลัยเอกชนชื่อดังของเมืองไทยที่ใครๆก็ต่างอยากมาเรียนกันทั้งนั้น เพราะที่นี่ผลิตบัณฑิตอย่างมีคุณภาพ และจะมีสิทธิประโยชน์ต่างๆเกินหยั่งถึง
ทำไมนะทำไม คนอย่างฉันจะต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้ด้วย อาจารย์นะอาจารย์ก็รู้อยู่ล้วว่าฉันน่ะมันเป็นคนที่มีความสามารถ(แน่ะ ชมตัวเองด้วย) ยังจะมาท้าทายฉันด้วยการให้โจทย์การแสดงวัฒนธรรมต่างประเทศ แถมยังต้องให้ไปหาคู่แสดงเองอีก ฉันเลยต้องไปพึ่งนักศึกษาที่เป็นเด็กแลกเปลี่ยนมาจากจีนอยู่คณะอื่น ปี3 ยังไม่พออีกนะฉันยังจะต้องมาแข่งกับยัยดาวคณะเน่านี่อีกด้วย เฮ้อ....ชีวิตหน๋อ...ชีวิต
ปล.บ่นโดย ยัยสุพรรณิการ์ นักศึกษาคณะศิลปศาสตร์ สาขานาฏศิลป์ ปี 2
Tags: รัก ฮาๆ ฟินๆจิกหมอนขาด

ตอน: ตอนที่ 6 นี่มันธุระหรือเดท

ติ๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
โอ๊ยยยยย เสียงอะไรวะ โคตรหนวกหูเลย อยากจะบ้านาฬิกาปลุกนั่นเอง
วันนี้ฉันมีนัดธุระ ธุระจริงๆนะ (ใครเถียงอะไรแก) แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไปทำไม แต่อะไรก็ช่าง แต่งตัวสวยไว้ก่อน ว่าแต่ฉันจะสวยไปทำไม ไม่ได้ไปเดทซะหน่อย เปลี่ยนๆ
ฉันเปลี่ยนจากชุดกระโปรงสีชมพูน่ารักขัดกับบุคลิกของฉันอย่างสิ้นเชิง ไปเป็นเอี้ยมยีนธรรมขายาว ตามผู้หญิงห้าวๆทั่วไป เขาว่ากันว่าเด็กนาฏศิลป์จะเรียบร้อย อันนี้ฉันจะไม่ขัดเลย เพราะข้อนั้นมันยกเว้นกับฉันคนเดียว 5555
“จะไปไหนอะ วันนี้วันเสาร์นะยะ” เสียงยัยอัญชันดังทักฉันทันที ที่เห็นฉันกำลังก้มลงผูกเชือกรองเท้าผ้าใบ
“ไปหาผู้ชาย” ถามมาก็ตอบไป ตรงๆนั่นแหล่ะ เจ๋ง
“ป้าขวัญ ไอ้ณิการ์มันจะไปหาผู้ชายอะป้า” ผลตอบรับเป็นอย่างที่ฉันคิดไว้เป๊ะ ยัยอัญชันมันขี้ฟ้องจะตายไป
“ใครมันคือผู้โชคร้ายคนนั้นกันนะ” นี่ก็อีกคน ไม่ต้องแปลกใจ ป้าของอัณชันก็คือแม่ของฉันเองนั่นแหล่ะ ไม่เคยที่จะคิดเลยว่าลูกสาวตัวเองจะสวยขนาดไหน (เหรอ)
“ไร้สาระน่ะ จะรีบไปรีบกลับนะ ไปละ”
“ว่างๆพามาเปิดตัวกับแม่บ้างนะ” ยัง ยังไม่จบ อุตส่าห์ตัดบทละนะ คุณแม่ของฉันก็ยังคงแซวต่อไป แล้วฉันจะไปเครียดกับคำแซวของแม่กับยัยอัญชันทำไมกัน มันไม่จริงซะหน่อย ฟุ้งซ่านจริงเลย

ณ ศาลเจ้า@@@@@
ฉันเดินเข้ามาในบริเวณศาลเจ้า แล้วมองหาหญิงสาว เอ้ย!! ชายหนุ่มด้วยความรู้สึก เบื่อหน่าย คนเยอะเหมือนกันนะเนี่ย มีทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติ และก็คนไทย
ตึง ตึง ตึง แปะ แปะ แปะๆๆๆๆๆๆ
เสียงกลองดังเป็นจังหว่ะลอยเข้าหูฉันทันที พร้อมกับเสียงปะทัดดังลั่น นั่นมันสิงโตเชิดนี่หน่า น่ารักจังสำหรับฉันอะนะ ฉันฝันที่จะอยากเชิดสิงโตเป็นบ้าง มันต้องสนุกแน่ๆ
“น่ารักดีนะครับ” อุ้ยแหก!! ตกอกตกใจหมด เกือบปล่อยพลังหมัดใส่คนข้างหลังแล้วไง อีตาพี่จื่อเฉิงนี่เอง แต่เมื่อกี้เค้าชมใครกัน สิงโตตัวนั้นเหรอ หรือใครที่ไหน
“นี่คุณ!! ใครบอกให้มาโผล่ข้างหลังเนี่ย ตกใจหมด” ฉันหันไปเอ็ดเค้าทันทีถึงแม้ว่าเค้าจะเป็นรุ่นพี่ก็เถอะ
“ทีเสียงปะทัด ไม่เห็นคุณน้องตกใจเลย” เถียงๆ มาอีกแล้วคุณน้อง ค่ะคุณพี่ขา
“เด็กแถวบ้านมันจุดบ่อย ฉันชินแล้ว แต่ไอ้ที่โผล่มาข้างหลังเงียบๆเนี่ยระวังจะเจอดีไม่รู้ตัว” จื่อเฉิงเอียงคอเหมือนเด็กที่ไม่เข้าใจในสิ่งที่แม่พูด นี่ฉันกำลังคุยกับเด็กอยู่เหรอเนี่ย ถ้าเป็นเด็กน้อยต้องเป็นเด็กน้อยที่ตัวใหญ่เท่าควาย5555
“เข้าไปข้างในกันเถอะครับ คุณน้อง” ฉันคงต้องทำใจกับคำนี้ซะแล้ว
“คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม” ฉันถามพลางจับธูปที่ใหญ่มาก มาถือไว้ ขี้ธูปมันจะตกใส่มือแล้ว เห็นไหมตาบ้า
“ก็คุณน้องบอกว่าอยากรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมของจีนไม่ใช่เหรอครับ ผมก็พาคุณมาเคารพศาลเจ้า เพื่อที่คุณจะได้เข้าใจอะไรได้มากขึ้น”
“ถ้าอย่างงั้นคุณยอมเป็นคู่แสดงให้ฉันแล้วใช่ไหม!” ดีมากเลยจ้า คุณพี่จื่อเฉิง น่ารักจังเลย
“ผมเคยพูดเหรอว่าจะเป็นคู่ให้คุณน้อง” ขอถอนสิ่งที่คิดในใจเมื่อครู่ออกให้หมด โดยไม่ทิ้งซาก
“^^* ก็คุณพูดอะไรทำนองนั้น ฉันก็เลยคิดว่า....” เดินไปนุ่นแล้ว พูดกับลมนะเมื่อกี้ (หน้าแตกจ้า)

“แล้วคุณน้องเลือกการแสดงอะไร เหรอครับ” อีตาจื่อเฉิงถามขึ้นในตอนที่ฉันกำลังสุขสำราญกับซาลาเปาแสนอร่อยตรงหน้า เป็นคู่ก็ไม่ยอม จะอยากรู้ไปทำไม
“น่าจะรำพัด” ถอดใจเถิดณิการ์เอ้ย เค้าไม่ยอมก็คงต้องเลือกการแสดงเดี่ยวแล้วล่ะ
“ผมจะเสนอทางออกให้คุณน้องเอาไหมครับ” ทางออกอะไรของแก ฉันล่ะงง
“=_=^^^ ว่ามาฉันฟังอยู่”
“ผมจะชวยคุณน้อง แต่การแสดงนั้น ผมจะไม่แสดง”
“o_O? ยังไง งง อธิบายด่วน”
“หมายความถึงการแสดงเดี่ยว ผมจะหาคนสอนให้ครับ” อ้อ ขอบคุณที่มีน้ำใจนะ งานงอกแน่ ถ้าแสดงเดี่ยว ขนาดยัยซอลญ่ายังมีคู่ แถมเป็นเดือนของคณะด้วย (อิจฉานิดๆ)
“*_*มันต้องมีคู่แจมหน่อยๆ คุณทำอย่างนั้นไม่ได้เหรอ” ฉันลองทำหน้าแบ๊วๆใส่ เหมือนเด็กที่กำลังขอพ่อซื้อของเล่น จื่อเฉิง นิ่งไปพักหนึ่งกับการที่ฉันทำหน้าแบบนั้น ฉันไม่เคยทำใส่ใครเลยนะเนี่ย นายคนแรกเลย (อีกแล้วเหรอ)
“แจมแบบไหนเหรอครับ” ได้ผลด้วย ผู้ชายนี่มันแพ้ทางผู้หญิงจริงๆเลย (ภูมิใจจริงเลย เค้ายังไม่ตกลงสักคำ มโนจริ๊ง)
“โผลามาหน่อยๆให้รู้ว่า มีคู่แค่นั้นแหล่ะ” เค้าทำหน้าครุ่นคิด จะอะไรนักหนากะอีแค่เดินผ่านให้คนดูกริ๊ดเล่นๆ
“งั้นก็ได้ครับ”
“เฮ้ย!! จริงดิ น่ารักน่าหยิกอะไรขนาดนี้ เดี๋ยวเลี้ยง ไอศกรีมอันหนึ่งนะจ๊ะ” ด้วยความที่ฉันดีใจเกินเหตุ ฉันเอื้อมมือไปหยิกแก้มเค้าเล่นที่หนึ่ง เหมือนผู้ใหญ่หมั่นเขี้ยวเด็ก เค้าชะงักกับการกระทำของฉัน แช่แช็งไปแล้ว
“O///O” ดูหน้าเค้าสิ ฉันไม่น่าทำอะไรแบบนั้นเลย อีบ้าเอ้ยยยย
“=///=” สภาพไม่ต่างค่ะตอนนี้
“คุณจะให้ใครสอนฉันเรื่องการแสดงเหรอ” เปลี่ยนเรื่องด่วนคร้า เดี๋ยวเขินกันตาย อีมือบ้า
“เดี๋ยวผมไปคุยกับเค้าก่อนนะครับ ว่ายังไงค่อยนัดกันอีกที”
“(-_-)(_ _)(-_-)(_ _)” เอางั้นก็ได้
ฉันกำลังจะลุกเอาขยะไปทิ้ง แต่ดันโดนคว้าข้อมือไว้ก่อน คนที่คว้าข้อมือฉันเอามืออีกข้างหนึ่งเอื้อมมือมาเช็ดปากฉันอย่างแผ่วเบา สงสัยเศษซาลาเปาจะเลอะ ว่าแต่ทำอย่างนี้ฉันเองก็เขินเป็นนะ
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก
“=///=” หัวใจ หัวใจ แกจะเต้นแรงทำไมทราบยะ หยุดเดี๋ยวนี้เลย หมายถึงหยุดเต้นแรงอะนะไม่ได้หยุดเต้นไปเลย
“อยากกินไอศกรีมที่น้อง*โหย่วหยี บอกว่าจะเลี้ยงจังเลย” (*ในภาษาจีนแปลว่าปลาหมึก) เมื่อกี้เรียกฉันว่าอะไรนะ โหย่วหยีงั้นเหรอ ฟังผ่านๆเหมือนยาหยีเลยอะ ถ้าไม่ติดว่าความหมายมันคือปลาหมึกอะนะ หลอกด่าปะเนี่ย
“อะไรคือโหย่วหยีไม่ทราบ เรียกให้มันดีๆหน่อย” ต้องรีบเปลี่ยนสถานการณ์ด่วน เดี๋ยวเขินตาย ยิ่งไอ้บ้านี่มาทำหน้าน่ารักแล้วก็...หล่อด้วย เนี่ย....เฮ้ย!!!!สลัดความคิดออกเดี๋ยวนี้ เมาซาลาเปาเหรอวะฉัน เพ้อเจ้อใหญ่แล้ว
“เรียกไม่ได้หรอครับ ผมว่ามันเหมาะกับคุณน้องดีนะครับ” ถ้าใช้เรียกแทนคำว่าคุณน้องได้ ฉันก็คงต้องยอมแล้วล่ะนะ ขยาดหูจริงเลย
“อีตาบ้า!!!” ฟังรู้เรื่องอะเปล่าคำนี้อะ
ฉันด่าเค้าไปคำหนึ่ง พร้อมกับเดินตรงไปร้านไอศกรีม โดยไม่หันกลับไปมองคนตัวสูงที่กำลังวิ่งตามฉันมา สมน้ำหน้าชอบเดินหนีฉันดีนัก โดนซะบ้าง หึหึ



Greek
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 21 มิ.ย. 2558, 10:40:36 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 21 มิ.ย. 2558, 10:40:36 น.

จำนวนการเข้าชม : 815





<< ตอนที่ 5 คุณน้องกับคุณพี่   ตอนที่ 7 เกย์ ????? >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account