วิวาห์ลวง บ่วงรักตะวัน (จบแล้วค่า)
สามเดือนของวิวาห์ลวง ที่แสนหวาน
สามเดือนของวิาห์แท้จริง ที่แสนขม

ปริศนาความรักที่เขาเฝ้าไขคำตอบ

ทำไมเธอต้องสร้างวิวาห์ลวงที่เธอสร้างไว้กักขังเขา
ทำไมต้องหลอกลวง ที่กลายเป็นบ่วงผูกให้เขาและเธอเจ็บเมื่อพยายามดิ้นให้หลุดออกจากกัน

ความรักปลอมๆของดวงตะวันที่เผาไหม้หัวใจของอนลทุกครั้งที่เขาเข้าใกล้เธอ
อนลกับคำถามที่ทำให้เขาปวดร้าวหัวใจ

... รวิณดา ...

“คุณเดียว เคยรักผมจริงๆบ้างไหม ที่ผ่านมา คุณเคยรักผมบ้างไหม!”

Tags: ปิ่นนลิน

ตอน: ตอนที่ 22

ตอนที่ 22


คืนนี้อนิษฐ์มาเที่ยวกับเพื่อนสนิททั้งสอง เขาตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไม่เมา แม้จะเป็นคืนวันศุกร์ก็ตาม ยิ่งได้ฟังเปเปอร์ เพื่อนสมัยมัธยมปลายคนสนิทเล่าว่าคืนนั้นเขาก่อเรื่องอะไรลงไปบ้าง อนิษฐ์ยิ่งดื่มไม่ลงสักอึก!

“ตะโกนดังลั่นเลยแกน่ะ อย่าอยู่กับผู้หญิงของกู ... ผีเข้าหรือเปล่าวะ ฮ่าๆ" เปเปอร์หัวเราะล้อเลียน ปกติที่ไหนล่ะที่อนิษฐ์ เด็กดีที่สุดของกลุ่มจะทั้งพูดคำหยาบ ใช้ความรุนแรง แถมเมาไม่รู้เรื่องอีก

“ฉันเนี่ยนะทำแบบนั้น" อนิษฐ์ถามย้ำอีกครั้ง นึกไม่ออกเลยสักเรื่อง

“ใช่แกทำ" เจมส์ยืนยัน หน้าของอนิษฐ์ซีดเผือดทันที ภาพลางๆว่าเห็นหมอกอยู่ในผับคืนนั้นด้วย

“แล้วหมอกเห็นหมดเลยเหรอ"

เพื่อนทั้งสองพยักหน้าตอบแทบจะพร้อมกัน

“แกยังรักหมอกอยู่ ก็อย่าปากแข็งไปเลยว้า ไอ้เล็ก ระวังจะเสียหมอกไปอีกรอบนะเว้ย" เจมส์เตือน รู้สาเหตุดีว่าทำไมเพื่อนรักถึงเลิกรากับแฟนสาว

“ตอนนั้นแกผิดเต็มประตู รู้ตัวไหม" เปเปอร์ถือโอกาสพูดในสิ่งที่ค้างอยู่ในใจมาหลายปี

“ผู้หญิงที่ไหนจะทนได้วะ แฟนตัวเองไปนอนค้างกับผู้หญิงคนอื่นทั้งคืน" เจมส์พูดเพิ่ม อนิษฐ์รู้สึกไม่ต่างจากโดนเพื่อนรุมต่อว่าอยู่อย่างไรอย่างนั้น

“แต่ฉันกับน้องคนนั้นไม่ได้มีอะไรกัน น้องเขาไม่สบายฉันเลยช่วยดูแค่นั้น อีกอย่างถึงจะหวงกันยังไงแต่ผลักน้องเขาตกบันได มันใช้ได้แล้วหรือ" อนิษฐ์ถามออกมา ยกแก้ววิสกี้ขึ้นดื่มจนได้

“ในห้องแกคืนนั้นก็ไม่มีใคร นอกจากแกกับรุ่นน้องคนนั้น แกจะพูดอะไรก็ได้นี่หว่า แล้วแกเห็นชัดๆหรือเปล่าว่าหมอกผลักน้องเขาตกบันไดน่ะ หมอกเป็นคนแบบนั้นจริงหรือ แกน่าจะรู้จักดีที่สุดนะ เล็ก" เจมส์พูดให้เพื่อนคิดตาม อนิษฐ์ส่ายหัวไปมาทันที

“เพราะฉันรู้จักหมอกดียังไงล่ะ ถึงความรู้สึกตอนนี้จะยังรักหรือเปล่าฉันไม่แน่ใจ อีกอย่างฉันก็คิดว่าการที่ฉันต้องแต่งงานกับหมอกมันเป็นเรื่องทำร้ายหมอกมากกว่า หมอกเหมาะกับคนที่ดูแลหมอกได้มากกว่าฉัน"

นอกจากทรัพย์สมบัติที่พ่อและพี่ชายร่วมกันสร้างและมอบให้อนิษฐ์ เขายังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง อายุเพียงยี่สิบห้าปี ยังอยากทำอะไรอีกตั้งมากมาย เขายังไม่พร้อมที่จะแต่งงานจริงๆไม่ว่าจะกับหมอกหรือใคร ... อีกอย่างเขาก็กลัว ... กลัวว่าเขาจะต้องเลิกราอีกครั้งหนึ่ง ความเจ็บปวดเจียนขาดใจนั้น อนิษฐ์ไม่อยากพบเจอมันอีกแล้ว

อนิษฐ์ไม่มีความมั่นใจว่าจะสามารถรักษาลานนาไว้กับเขาได้จนแล้วจนรอดหรือเปล่า

“แต่แกก็ไม่อยากปล่อยเธอไปอยู่ดี ไม่งั้นแกคงไม่ชกนายภาสคนนั้นหรอกใช่ไหมล่ะ" เปเปอร์ถาม

“ไอ้ภาสนั่นมันเป็นคนไม่ดีต่างหากล่ะ" อนิษฐ์เถียง แค่พูดชื่อขึ้นมาก็หงุดหงิดมากๆแล้ว

“เออ เอาเถอะ ขี้เกียจเถียงแกแล้ว" เจมส์ส่ายหน้าบ้าง พลางยกเครื่องดื่มขึ้นจิบ อนิษฐ์หมดอารมณ์เที่ยว จึงบอกลาจากเพื่อนกลับบ้าน ระหว่างเดินออกมาที่รถยนต์เขาก็ถูกผู้ชายตัวใหญ่กว่าท่าทางป่าเถื่อนสามคนเข้ามารุมล้อม ก่อนที่จะถูกลากไปยังมุมหนึ่งของที่จอดรถซึ่งอับคน

“เฮ้ย! มึงน่ะ เก่งนักใช่มั้ย" ภาสโผล่มายืนตรงหน้า ถามน้ำเสียงหาเรื่อง อนิษฐ์เดาได้ว่าเขาคงโดนเอาคืนจากเรื่องวันก่อนแน่นอน

“แกกับฉันมาตัวต่อตัว อย่ามารุมกันเป็นหมาหมู่แบบนี้" อนิษฐ์ฝืนความกลัวพูดออกไป เมื่อรู้ตัวดีว่าไม่สามารถเอาชนะสามคนตัวยักษ์ตรงหน้าได้แน่นอน

“กูไม่ได้หมาหมู่ แต่กูแค่จะจัดคืนให้มึงสามเท่าแค่นั้นแหละ เฮ้ย จัดการมัน!” ภาสพยักเพยิดเป็นสัญญาณให้คนที่เขาหามาเข้าไปจัดการ อนิษฐ์ถอยหลัง กำหมัดแน่น กวาดสายตาดูทรงแล้วก็นึกเสียดายที่ไม่ยอมเรียนเทควันโด้อย่างพี่ชายตอนเด็กๆขึ้นมาทันที และอนิษฐ์ก็โดนหนึ่งในนั้นล็อคแขนไว้จากด้านหลัง จึงไม่มีทางหลบหมัดที่รัวใส่ทั้งตัวและหน้าได้เลย!

“โอ๊ย!” อนิษฐ์แทบจะเงยหน้าไม่ขึ้นเมื่อถูกต่อยเข้าที่ท้อง และใบหน้าอย่างแรง

เสียงตุบตับดังขึ้นชั่วเวลาหนึ่ง อนิษฐ์ที่ถูกหิ้วไว้ น่วมไปทั้งตัว ใบหน้าเขียวช้ำ ปากแตกจนเจ้าตัวรู้สึกถึงรสเลือดคาวในปาก

“เฮ้ย เอาแค่เบาๆก็พอ เดี๋ยวจะตายเสียก่อน" ภาสว่าอย่างสะใจ มองสายตาแค้นเคืองของอนิษฐ์แต่ก็ไม่รู้สึกเกรงกลัวอะไร ชี้หน้าเตือนเสียงเฉียบ

“อย่าคิดมาซ่ากับกูอีก ส่วนผู้หญิงของมึงนะ รอกูหายเบื่อก่อนแล้วกันจะคืนให้ ไอ้กระจอกอย่างมึงน่ะเป็นได้แค่ที่โหล่ สมควรกินของเหลือของกูเว้ย! ฮ่าๆๆ" ก่อนจะแผดเสียงหัวเราะเยาะใส่ อนิษฐ์เจ็บทั้งหน้าและตัว มองภาสอย่างเคียดแค้นใจ

“ทำไม คิดจะร้องไห้ไปฟ้องพี่มึงล่ะสิ ถ้าไม่มีอนลสักคน สินสราญคงวอดวายเพราะน้องหน้าอ่อนอย่างมึงแน่นอน ไอ้อนิษฐ์! ฮ่าๆ ไปเว้ย!” ภาสเตะเข้าที่ท้องของคนที่นอนกองกับพื้นอีกทีเป็นการส่งท้าย

“ไอ้ภาส! ... ไม่จบง่ายๆแค่นี้แน่ ฉันสาบานเลยว่าจะต้องล้มแกให้ได้ ไอ้ภาส!" อนิษฐ์ไม่เคยรู้สึกเจ็บแค้นใจมากมายขนาดนี้มาก่อนเลย!


++


ในโรงพยาบาล รวิณดาถูกกระสุนเฉี่ยวแขนไปเท่านั้น โชคดีที่ไม่ต้องถึงกับผ่าตัดใหญ่ เพียงแค่ทำแผลก็กลับบ้านได้แล้ว

“คุณใหญ่ครับ!” น่านทิวาวิ่งกระหืดกระหอบมา อนลจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลเสร็จกำลังนั่งรอน่านทิวาอยู่พร้อมหนึ่งในบอดี้การ์ด ส่วนอีกคนนั้นไปจัดการเรื่องตำรวจกับน่านทิวา และอนลไม่จำเป็นต้องถามอะไรออกไป ทนายหนุ่มก็รายงานให้เขาฟังทันที

“เรื่องที่บริษัทฯ เรียบร้อยแล้วนะครับ ผมให้พวกบอดี้การ์ด และรปภ.ไปให้ปากคำตำรวจแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้ตำรวจจะมาสอบถามคุณใหญ่ และคุณเดียวเพิ่มอีกที คุณเดียวเป็นอะไรมากไหมครับ" น่านทิวามองไปยังร่างบางที่นั่งอยู่ หน้าตาซีดขาว กุมต้นแขนมีผ้าพันแผลพันอยู่

แม้น่านทิวาจะยังไม่หายเคืองหญิงสาวเรื่องราวในอดีตทั้งเรื่องหลอกลวงอนล กล่าวหาสงสัยบิดาของเขา ซ้ำยังทำให้อนลเจ็บปวดจนล้มป่วย แต่จากปากคำของบอดี้การ์ดทั้งสองแล้ว ถ้ารวิณดาไม่ร้องบอกขึ้นมา อนลคงจะแย่แน่ๆ

“แค่ถากๆน่ะค่ะ ไม่เป็นอะไรมาก" รวิณดาตอบคำถาม พยายามส่งยิ้มให้แต่เพราะยังเจ็บตึงที่แผลมากจนยิ้มได้แค่บางๆเท่านั้น

“ถากๆ บ้าอะไร แขนแทบขาดแล้วนะคุณน่ะ!” อนลหันมาแยกเขี้ยวใส่หญิงสาวที่นั่งหน้าซีดเผือดอยู่

“แล้วจับคนร้ายได้หรือเปล่า หน้าบริษัทมีกล้องวงจรปิดอยู่ไม่ใช่หรือ" อนลถามกับน่านทิวา คิดว่ากล้องวงจรปิดที่ติดไว้น่าจะเห็นคนร้ายได้บ้าง แต่น่านทิวากลับส่ายหน้าตอบคำถามที่ทำให้อนลผิดหวัง

“กล้องจับภาพได้ไม่ชัดเลยครับคุณใหญ่ เหมือนกับมันรู้มุมกล้องดีทีเดียว แต่ก็พอเห็นลักษณะรถที่มันขี่ผ่านกล้องตัวอื่นบ้างครับ ตำรวจพยายามสะกัดจับอยู่ครับ"

อนลขมวดคิ้ว กังวลจนแสดงออกทางสีหน้า

“ทิว นายจัดการเพิ่มกล้องให้เยอะกว่านี้ เอาให้ไม่มีจุดบอด ต้องเพิ่มมากแค่ไหน จ้างคนมากกว่าเดิมเท่าไหร่ก็จัดการไป เข้าใจไหม" อนลสั่งการอย่างกลุ้มใจ ก่อนจะหันไปมองรวิณดาด้วยแววตาที่ยากจะอธิบาย เป็นห่วง โกรธเคือง หรือโล่งใจที่เธอไม่เป็นอะไรมาก แม้แต่เจ้าตัวก็ยังบอกไม่ถูก

“ทำไมคุณถึงยังอยู่ที่บริษัทผม ผมไล่คุณไปตั้งแต่เช้าไม่ใช่หรือ คุณเดียว" เสียงทุ้มถามออกมา ปลายเสียงยังติดไม่พอใจไม่หาย

“อย่าบอกนะว่ารอเจอผมอยู่" อนลคาดเดาจากนิสัยดื้อแพ่งอย่างรวิณดา ซึ่งเมื่อเห็นแววตาของเธอเขาก็ได้คำตอบทันที อนลลืมตัวกระชากแขนอีกข้างของหญิงสาวอย่างแรงจนเธอร้องโอดโอยออกมาจนน้ำตาซึม

“คิดอะไรบ้าๆ! ถ้าผมออกมาดึกกว่านี้ หรือถ้าพวกมันไม่เห็นผมแต่ยิงคุณขึ้นมาจะทำยังไง! นอกจากจะถนัดสร้างเรื่องโกหกแล้ว ยังชอบทำให้ตัวเองเดือดร้อนเป็นอันตรายด้วยหรือไง! ถ้าอยากตายมากนักผมจะสงเคราะห์ให้ เอาไหม!”

อนลทั้งโมโห ทั้งห่วง ใจหายเมื่อคิดว่ารวิณดาคือหนึ่งในเป้าหมายคนร้าย ซึ่งอนลต้องหาเหตุผลให้ได้ว่าทำไมพวกนั้นต้องเล่นงานหญิงสาวที่ไม่เกี่ยวกับเขาด้วย

“คุณใหญ่ๆ ใจเย็นๆครับ คุณเดียวเจ็บตัวอยู่นะครับ" น่านทิวารีบปรามเจ้านาย เห็นน้ำตาไหลจากดวงตากลมๆ ของรวิณดาก็อดสงสารไม่ได้จริงๆ

“ก็ ... ก็ฉันไม่เหลืออะไรแล้วนี่คะ" รวิณดากัดฟันพูดออกมาเสียงแผ่ว สั่นเครือ สะอื้นอย่างไม่อาจจะกลั้นไหว

“ว่าไงนะ!” อนลถามอย่างไม่เข้าใจ เสียงเขายังเข้มเพราะยังโมโหที่คนตรงหน้าทำอะไรไม่รู้จักคิด!

“ฉันรู้ว่าฉันดื้อ แต่ฉันก็ไม่อยากยอมแพ้ ตอนแรกก็คิดจะกลับตั้งแต่ที่คุณไล่ ... แต่พอคิดว่าถ้ายอมแพ้ง่ายๆพวกที่สวนจะทำยังไง ... บ้านฉันพังไม่เหลือแล้วฉันยังไม่เสียใจเท่ากับทำลายชีวิตคนอื่นด้วยเลย พอคิดแบบนั้นเท้ามันก็ก้าวไม่ออก สมองมันก็ตื้อไม่รู้จะไปที่ไหน ... อีกอย่างพอเดินออกมาจากบริษัทของคุณ ฉันก็เห็นคนร้ายแต่งตัวแบบเดียวกับที่เคยทำร้ายคุณที่งานวัด แล้วฉันก็เคยเห็นพวกนั้นป้วนเปี้ยนที่ตลาดตามหาคุณด้วย พอคิดแบบนั้นฉันก็เป็นห่วงคุณ ...”

รวิณดาบอกเหตุผลออกมาทั้งที่ยังร้องไห้อยู่ เธอยังคงพูดต่อแม้ว่าอนลจะกำลังมองเธอด้วยแววตาเคืองขุ่นที่ทำให้เธอหวาดกลัวทุกครั้งว่า เขาคิดจะทำร้ายคนรอบตัวเธออีกหรือเปล่า

“ฉันไม่มีบ้านให้กลับแล้ว สวนผลไม้ก็รู้ว่ากลับไปไม่ได้ แล้วถ้าคุณเป็นอะไรไปอีก ... ฉันจะเหลืออะไรล่ะคะ" พูดจบ รวิณดาก็ยกมือขึ้นปิดหน้าร้องไห้โฮ แม้จะหักห้ามใจให้ไม่อาจเอื้อมคิดแบบนี้กับอนลอีก รู้ว่าเขาคือใคร เขาไม่ใช่นายไข่ที่เธอสามารถรักและเป็นห่วงได้แล้วก็ตาม แต่พอคิดว่าคนร้ายอาจจะรอเล่นงานอนลอยู่ รวิณดาก็ไม่สามารถพาตัวเองออกจากที่ตรงนั้นได้จริงๆ

คำสารภาพของรวิณดาบาดลงไปในหัวใจคนฟังอย่างอนลจนเขารู้สึกแปลกๆ
นี่รวิณดาเป็นห่วงเขางั้นหรือ? ไหนว่าเธอไม่เคยรักเขาเลยไง!

“ถ้าคุณเดียวไม่ตะโกนบอก ก็อาจจะแย่นะครับคุณใหญ่" น่านทิวาเตือนให้เจ้านายของเขาคิดเรื่องที่ลืมไป

“คุณเห็นพวกนั้นตั้งแต่เช้าเลยเหรอ คุณเดียว" น่านทิวาหันมาถามหญิงสาว ซึ่งเธอพยักหน้าทั้งน้ำตา แล้วแทบหลับตาปี๋เมื่อโดนอนลเสียงดังใส่

“บ้า! คุณนี่มันโง่หรือบ้ากันแน่! ผมมีบอดี้การ์ดตั้งสองคน ... แล้วคุณล่ะมีอะไร!” อนลบอกให้เธอฟัง
แถมยังแทบจะกระชากแขนเธออีกรอบ อยากจะเขย่าให้ยายผู้หญิงคนนี้เลิกคิดอะไรบ้าๆเสียที เขาตามความคิดเธอไม่ทันเลยจริงๆ!

“คุณใหญ่พอเถอะครับ เรากลับบ้านกันเถอะนะครับ คุณเดียวต้องการพักผ่อนแล้วล่ะครับ" น่านทิวาเดินมาขวางหน้าเจ้านายเขาไว้ กลัวจะกระชากหญิงสาวจนบาดเจ็บมากกว่าเดิม

“นายกลับไปก่อน เดี๋ยวฉันจะเอายายนี่ไปส่ง" อนลสั่งการ ทนายหนุ่มละล้าละลัง

“ผมไปส่งคุณเดียวให้แทนดีกว่าไหมครับ"

“ไม่ต้อง! นี่คือคำสั่ง ... ทิว นายคงไม่อยากให้ฉันโมโหมากกว่านี้ใช่ไหม" อนลตวัดสายตามองเขาอย่างเอาจริง “ส่วนคุณมานี่เลย" พร้อมทั้งคว้าข้อมือ 'ยายโง่' ในความคิดของเขาให้เดินตาม

น่านทิวาได้แต่ส่ายหน้ากับอารมณ์ร้อนๆของเจ้านายเขา ... ได้แต่ภาวนาว่าจะไม่งับคอหรือกัดหูรวิณดาขาดก่อนที่จะถึงบ้านหรอกนะ!



++



'ต้องขอโทษด้วยนะคะที่หมอกต้องปฏิเสธการเข้าทำงานกับคุณ'

ลานนายกมือขึ้นปาดน้ำตาออกจากแก้ม ทบทวนคำตอบที่เธอมีให้บริษัทนิตยสารแฟชั่นหัวดังที่เธอสมัคร และทางบริษัทก็รับเธอเข้าทำงาน หากลานนามีเหตุต้องปฏิเสธกลับไป

'อย่างที่ผมเคยคุยกับคุณไว้ ช่วยอยู่ทำงานกับนายเล็กได้ไหม ผมจะให้เงินเดือนคุณมากกว่าเงินที่บริษัทนั้นให้คุณสองเท่า ขอแค่คุณหมอกช่วยให้นายเล็กมีผลงานสักชิ้นที่เข้าตาของผู้บริหารทั้งหมดของที่นี่'

ตอนเช้าอนลบอกกับเธอแบบนี้ เงินไม่ใช่สิ่งที่ลานนาอยากได้ทั้งหมด เธออยากทำงาน และได้มีผลงานออกมาสมกับที่บิดาส่งเสียให้เธอร่ำเรียนด้วยเงินมากมาย

'ผมบอกตรงๆ ตอนนี้ผมโดนคนปองร้ายอยู่ พวกนั้นอาจจะฆ่าผมวันไหนก็ได้' ดูจากสายตาที่จริงจัง ไม่ระริกไหวสักนิด อนลไม่ได้โกหกเธอแน่นอน

'ก่อนที่ผมจะเป็นอะไรไปจริงๆ นายเล็กจะต้องได้รับการยอมรับจากคนที่นี่ ผมรู้ว่าคุณทำได้ ตอนที่เรียนปริญญาตรีคุณก็เคยทำได้ ใช่ไหมครับคุณหมอก'

'หมอกจะทำได้ยังไงคะ แรงบันดาลใจของเล็กเค้าไม่ใช่หมอกสักหน่อย แรงบันดาลใจของเขาคือคุณมากกว่านะคะคุณใหญ่' ลานนาตอบอย่างที่คิดไป แต่อนลกลับหัวเราะ ราวกับเธอพูดในสิ่งที่เป็นเรื่องตลก และเป็นไปไม่ได้

'ผมไม่ได้เป็นแรงบันดาลใจอะไรให้นายเล็กหรอกครับ เป็นแรงกดดันมากกว่า ผมไม่โทษว่าเป็นความผิดของใครที่นายเล็กโตมาแบบนี้ แต่นายเล็กก็ไม่ควรจะหนีอีกต่อไปแล้ว ผมทำได้แค่สอนงานเขาไปเรื่อยๆ แต่เขาจะยอมรับความสามารถตัวเองมากแค่ไหน ผมไม่รู้เหมือนกันว่าผมจะทำได้ไหม' อนลถอนหายใจอย่างกังวลใจ ลานนามองเห็นความรักที่พี่มีให้น้องชายก็อดชื่นชมไม่ได้

'คุณใหญ่รักน้องมากเลยนะคะ'

'ผมมีน้องชายคนเดียวนี่ครับ ถ้าผมไม่มีความรักชายหญิง ความรักของผมก็ทุ่มให้กับงานและนายเล็กหมด' เสียงที่ได้ยินนั้นทั้งเหงา อ้างว้าง เศร้าจนลานนารู้สึกได้

'คุณใหญ่นี่นะคะจะไม่มีความรัก เป็นไปไม่ได้ สาวๆรอต่อแถวยาวเป็นกิโลๆ คุณใหญ่ไม่เลือกเองมากกว่ามั้งคะ'

อนลหัวเราะเบาๆ

'เรื่องผู้หญิงผมขี้เกียจคิดครับ ยังไงคุณย่าก็คงจัดการให้ จะรักใครไปทำไมในเมื่อผมสัญญากับคุณย่าไปแล้ว' เสียงของอนลขมขื่นจนเสียดร้าวใจคนฟังที่มีสถานะไม่ต่างกันนัก

'ชีวิตของเราเหมือนจะสบายกว่าใครนะคะ แต่กลับเลือกความรักของตัวเองไม่ได้' ลานนาระบายออกมา
'คำขอร้องของคุณใหญ่ หมอกก็คงเลือกไม่ได้เหมือนกันใช่ไหมคะ' ลานนาเห็นอนลส่งยิ้มให้แทนคำตอบ

'ขอโทษด้วยนะครับที่ทำให้คุณหมอกต้องเสียสิ่งที่อยากทำไป ... ส่วนเรื่องบริษัทคุณพ่อของคุณหมอก ผมสัญญาจะช่วยแค่เรื่องเงินเท่านั้น สินสราญจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือก้าวก่ายการบริหารใดๆของคุณพงษ์ พ่อของคุณหมอกครับ ... แล้วก็ผมอยากให้เรื่องที่เราคุยกันเป็นความลับนะครับ'

ในคำขอร้องของอนล ลานนาสัมผัสได้ถึงการข่มขู่ไปด้วย แม้อนลจะเป็นคนดี แต่ในเรื่องธุรกิจ กับผลประโยชน์นั้น อนล สิริสราญ เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวเกินกว่าจะคาดเดา

เขาคงไม่เข้ามายุ่งกับการบริหารจริงๆ แต่คงใช้บริษัทบิดาของเธอเป็นทางด่วน ที่จะขยายอิทธิพลในตลาดการก่อสร้าง ที่บิดาเธอเคยครอบครองไว้ แต่มันก็คงไม่มีผลเสียอะไร ถ้าหากเธอแต่งงานกับสิริสราญ ประหนึ่งเรือล่มในหนอง ทองและผลประโยชน์จะไปไหน ทั้งสองบริษัทจะมีแต่เรื่องดีๆเกิดขึ้นทั้งคู่

หากตรงกันข้าม ... ถ้าไม่ได้แต่งงานกัน ก็ไม่ต่างจากบริษัทคู่แข่ง มีหรือที่บริษัทที่เล็กกว่าจะไม่กระทบกระเทือนถ้าบริษัทยักษ์ใหญ่เข้าไปทำตลาดในพื้นที่เดียวกัน

แล้วตอนนั้นเองที่อนิษฐ์โผล่เข้ามาในห้อง เธอตกใจกลัวว่าอนิษฐ์จะได้ยินบทสนทนาลับระหว่างเธอกับอนลหรือไม่ ดูเหมือนอนิษฐ์จะสงสัย แต่พออนลพูดไปว่าคุยเรื่องงาน อนิษฐ์ก็เหมือนจะเชื่อ ลานนาเองก็รีบปลีกตัวจากคู่หมั้นโดยอ้างว่ามีธุระต้องไปทำ ทำให้อนิษฐ์ไม่มีโอกาสซักไซร้อะไรเธอต่อ

ไม่อย่างนั้น ลานนาอาจจะหลุดอะไรออกไปให้อนิษฐ์จับได้แน่นอนเลย

“โอ๊ย ใครโทรมากันนะ!” ลานนาที่กำลังอารมณ์ไม่ดีหงุดหงิดทันทีที่ได้ยินเสียงร้องดังของโทรศัพท์ ลุกจากเตียงที่นั่งอยู่ไปคว้ามาดูหน้าจอ พลันแปลกใจที่เห็นชื่ออนิษฐ์หราอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์

“มีอะไร" น้ำเสียงรวนๆถามออกไป

“ลงมาหน่อย เดินขึ้นไปไม่ไหว เค้าจอดรถอยู่ที่เดิมนะ" อนิษฐ์เสียงแหบแห้งโรยแรงผิดปกติ

“นี่นายเมาอีกแล้วเหรอ นายเล็ก นายนี่จะทำตัวเหลวไหลไปถึงไหนกัน!” ลานนาพาลใส่เมื่อคิดว่าชายหนุ่มที่เธอจะต้องช่วยให้เขาได้ดิบได้ดีจากคำขอร้องแกมสั่งของพี่ชายตัวเองทำตัวสำมะเลเทเมาแบบนี้ เธอจะช่วยเขาได้ยังไง!

“ไม่ได้เมาหรอกน่า ลงมาเร็วๆ เจ็บจะแย่แล้ว" ปลายเสียงขาดไปห้วนๆ ลานนาผละมองหน้าจอโทรศัพท์เมื่ออีกฝั่งกดวางสายไปแล้ว

“อะไรของหมอนั่นเนี่ย" เธอถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะคว้าคาร์ดิแก้นติวยาวมาสวมทับเสื้อกล้ามและกางเกงขาสั้นค่อนข้างมาก และกุญแจพร้อมคีย์การ์ดลงไปตามที่อนิษฐ์บอกทันที และเธอต้องตกใจมากเมื่อพบว่าอนิษฐ์นั่งพิงเบาะหลังพวงมาลัยภายในรถยนต์ของเขาด้วยสภาพเขียวน่วมไปทั้งหน้า ที่จมูกโด่ง กับริมฝีปากก็มีเลือดเกาะอยู่

“นายเล็ก! นี่ไปโดนใครรุมมาเนี่ย" ลานนาวิ่งเข้าไปประคองทันทีที่อนิษฐ์เปิดประตูก้าวลงจากรถ เขายังเดินไหว แต่ก็เจ็บไปทั้งตัวอยู่ดี

“ขึ้นไปข้างบนก่อน เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง" อนิษฐ์บอกอย่างนั้น ลานนาจึงรีบทำอย่างที่เขาบอกโดยไม่ซักถามอะไรอีก




“ไอ้ภาส หมอนั่นอีกแล้วเหรอ!” ลานนาได้ฟังแล้วก็โกรธขึ้นมา ทั้งๆที่ภาสมารุ่มร่ามกับเธอเองก่อนแท้ๆ ถึงอนิษฐ์จะรุนแรงกลับไปหน่อยก็เถอะ แต่อย่างน้อยอนิษฐ์ก็ตัวต่อตัว ไม่คิดใช้คนมารุมกันแบบนี้

แน่นอนลานนาลำเอียงให้อนิษฐ์ของเธออยู่แล้ว!

“โอ๊ย อย่าเอาความโกรธมาลงที่แผลของเค้าสิ มันเจ็บ" อนิษฐ์โดนลานนาเผลอออกแรงด้วยความโกรธตอนประคบเจลสีฟ้าแช่เย็นที่ลานนามักจะติดแช่ตู้เย็นไว้กับรอยช้ำบนหน้าของเขา

“หมอกขอโทษ ... เล็กเจ็บแย่เลย อย่างนี้ต้องบอกพี่ใหญ่นะ"

“ไม่! ห้ามบอกพี่ใหญ่เด็ดขาดนะ!” อนิษฐ์เผลอตะโกนออกมา เลยได้สูดปากเพราะเจ็บแผลที่ริมฝีปากซี้ดใหญ่

“ไม่บอกไม่ได้นะ พวกมันทำแบบนี้ พี่ใหญ่ของเล็กต้องไม่ยอมแน่ๆ พวกโชควรารัตน์ได้สะเทือนแน่นอน" ลานนาอยากเห็นภาสน้ำตาตกบ้าง!

“เค้าไม่อยากเป็นเด็กๆที่ต้องฟ้องพี่ทุกเรื่อง อีกอย่างเรื่องนี้เค้าจะจัดการเอง" นอกจากน้ำเสียงจริงจังแล้ว แววตาของอนิษฐ์ยังมุ่งมั่นเป็นอย่างมาก ลานนาไม่เคยเห็นอนิษฐ์เป็นแบบนี้มาก่อนเลย

“แล้วเล็กจะทำยังไง" ถามอย่างอยากรู้

“ในเมื่อมันคิดว่าเล็กกระจอก เล็กก็จะทำให้รู้ไงว่าสายเลือดของสิริสราญอย่างเค้าก็ไม่ด้อยไปกว่าพี่ใหญ่เหมือนกัน เค้าจะล้มไอ้ภาสให้ได้ หมอกคอยดูก็แล้วกัน" อนิษฐ์พูดจบก็หันมาคว้ามือบางของลานนาไว้แน่น มองหน้าเธอด้วยสายตาที่ทำเอาลานนาใจเต้นแรงเหมือนมีคนมาตีกลองอยู่ใกล้ๆเธอ

“คู่หมั้นของลานนาจะต้องไม่น้อยหน้าใคร โดยเฉพาะไอ้ภาส โชควรารัตน์นั่น ... แล้วถึงเล็กจะเมา แต่เล็กพูดจริงๆนะ หมอกเป็นผู้หญิงของเค้าคนเดียวเท่านั้น!"

“เล็ก นี่นาย" ลานนาแปลกใจมากที่อนิษฐ์บอกเธอแน่วแน่เช่นนี้ ทั้งที่ก่อนหน้าเขายังอิดออด และไม่มั่นใจอยู่เลย นี่เพราะโดนภาสรุมอัดและดูถูกมาจึงฮึกเหิมได้ขนาดนี้เลยเหรอ!

หรือโดนชกจนสติกลับ ... แล้วการแสดงออกถึงความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของแบบนี้ล่ะ ลานนาควรจะดีใจหรือเปล่า ... อนิษฐ์ทำแบบนี้เพราะเขายังรักเธออยู่ใช่ไหม?

ลานนาคิดว่าสิ่งที่เธอสงสัยไม่สำคัญเท่ากับการสนับสนุนอนิษฐ์ในเวลานี้ เรื่องอื่นช่างมันก่อนเถอะ!

“หมอกเชื่อใช่ไหมว่าเค้าทำได้" อนิษฐ์ถามคำถามที่ลานนาแทบไม่ต้องคิด เธอวางมือของเธออีกข้างลงบนมือหนาที่เกาะกุมมือเธออยู่ พยักหน้าพร้อมรอยยิ้มตอบกลับไปให้

“อนิษฐ์ของหมอกคิดจะทำอะไรก็ต้องทำได้สิ หมอกเอาใจช่วยนะ"

“ตอนนี้มีอีกอย่างที่หมอกต้องช่วยเค้าก่อน" อนิษฐ์มองเธอแววตาออดอ้อน ก่อนจะบอกออกมา "ให้เค้าค้างที่นี่นะ"

“หา! ทำไมต้องค้างล่ะ" ลานนาร้องตกใจ

“จะให้แบกหน้าแบบนี้กลับไปบ้าน มีหวังโดนพี่ใหญ่ซักเอาจนเปื่อยน่ะสิว่าโดนอะไรมา" อนิษฐ์ชี้หน้าตัวเองประกอบ

“อย่างกับนายกลับพรุ่งนี้แล้วจะไม่เหลือแผลให้พี่ใหญ่ถามงั้นแหละ" ลานนาว่ากลับไป พลันขยับตัวหนีเมื่อร่างสูงเข้ามาคว้าเธอไปกอดแน่น

“ไม่กลับ ยังไงก็ไม่กลับ จะกอดไว้แบบนี้แหละ ถ้ากลับก็ต้องไปด้วยกัน" อนิษฐ์ฺรัดเอวบางเข้ากับตัว ใบหน้าก็แนบชิดกัน แม้ลานนาจะขืนตัวก็ไม่เป็นผล ยังไงอนิษฐ์ก็แรงเยอะกว่าเธอเพราะเขาเป็นผู้ชาย!

“ปล่อยหมอกนะ อย่ามาเแต่ใจกันแบบนี้ได้ไหม! นี่!” หญิงสาวร้องดังอย่างตกใจเมื่อถูกจมูกโด่งฝังเข้ากับแก้ม และเมื่อหันมองก็สบกัวดวงตาพราววิบวับ ริมฝีปากที่ยังมีรอยแผลอยู่ยิ้มหวานกวนให้ใจเธอสั่นระริก หวั่นไหวไปถึงช่องท้องหวิวๆชวนหมดแรงดื้อๆ

“อนิษฐ์คนบ้า!” ลานนาต่อว่าเขา ไม่วายร้องอื้อเสียงดังอย่างขัดใจเมื่อถูกหอมแก้มอีกรอบ อยากจะทุบตีให้อีกฝ่ายเจ็บบ้างแต่ถูกรวบไว้แน่นแบบนี้จะทำได้ยังไง!

“ว่าอีกสิ แล้วจะรู้ว่าจะโดนอะไรอีก" อนิษฐ์ที่น่วมไปทั้งตัว ยังไม่สิ้นฤทธิ์ป่วนง่ายๆ

“อนิษฐ์คนหื่น!” ลานนาแค่คิดอยากจะหาคำเจ็บแสบมาว่าเขานัก ไม่ได้อยากท้าทายแม้แต่น้อย แต่สายตาและรอยยิ้มของเขาเวลานี้ทำให้เธอหลุดคำนี้ออกมา และลานนาก็รู้ทันทีว่าเธอคิดผิด อยากจะเก็บคำต่อว่าลงไปในคอ เมื่อเห็นประกายเร่าร้อนลุกโชนในดวงตาของร่างสูงเวลานี้

“สมพรปากนะจ๊ะ ที่รัก" สิ้นเสียง ริมฝีปากหยักของเขาก็ฉกลงมาจูบกลีบปากนิ่มของเธอจนลานนาแทบไม่ทันตั้งตัว จนต้องหลับตาแน่น อนิษฐ์ยกมือขึ้นมาประคองลำคอเนียนนุ่มมือ ใช้ปลายนิ้วโป้งเชยคางเล็กให้เงยขึ้นเพื่อที่เขาจะได้บดจุมพิตหวานแผ่วเบาอย่างถนัดอว่าเดิม

ตอนแรกลานนาก็อยากจะดิ้นออกจากความเอาแต่ใจของเขา แต่ทำไมก็ไม่รู้อยู่ๆเธอก็หลงใหลอยู่ในสัมผัสรัญจวนใจนี้อีกแล้ว นึกสงสัยขึ้นมาครามครันว่าอนิษฐ์ไปฝึกจูบกับใครมา เขาถึงได้จูบเก่งขนาดนี้

“นาย ... อื้อ!” ลานนาแค่อยากจะถามในสิ่งที่สงสัย แต่เพียงเปิดริมฝีปากออกเท่านั้น ลิ้นที่ไม่ได้รับเชิญก็เข้ามาทักทายในปากเธออย่างเสียมารยาท ไม่เท่านั้นลิ้นอุ่นๆ มีกลิ่นวิสกี้อ่อนๆ ที่เขาคงเพิ่งดื่มมายังจะออดอ้อนปลายลิ้นเล็กๆของเธออีก

“อนิษฐ์ อื้มมม” เธอครางชื่อเขาออกมาอย่างห้ามตัวไม่ทัน ความสุขแสนวาบหวามกำลังจะทำให้ลานนายอมลอยละล่องตามเขาไปได้แทบทุกที่ ...

“หืม?" เขาขานรับเสียงในลำคอ ยังชิมริมฝีปากอ่อนนุ่ม ไม่ปล่อยให้เสียเวลาตอบ ก่อนจะไล่จมูกและปากของเขาไปข้างแก้ม ลงมาลำคอที่หอม ล่อลวงจนเขาไม่อยากจากไปไหน แทบอยากจะอยู่ตรงนั้นตลอดไป มืออุ่นก็ป่ายเปะไปเรื่อย จากลำคอ ไล่ลงมาแผ่นหลังผ่านเสื้อคลุมตัวบาง หากลานนาก็ยังรู้สึกได้ถึงความร้อนที่ตามติดมือหนาไปเรื่อยๆ

กระทั่งเธอรู้สึกได้ว่าเขาจะสอดมือเข้าไปใต้เสื้อกล้ามตัวน้อยของเธอนั่นล่ะ ลานนาถึงรู้ว่าเธอยังไม่พร้อมตามเขาไปเวลานี้ จนต้องพยายามเค้นเสียงออกมาห้ามปรามมือซุกซนของอนิษฐ์

“อนิษฐ์ ...”

“ครับ ว่าไง" ชายหนุ่มกำลังทำให้สติของลานนาเตลิดเตลิงไปสุดจะกู่กลับ

“พอเถอะ ... นะ" เธออ้อนวอนเขาเสียงพร่า

“อื้มม อีกนิดนึงสิ เค้ากำลังหื่นได้ที่เลย" อนิษฐ์เลื่อนริมฝีปากของเขามากระซิบตอบข้างๆใบหูของเธอ ลานนาตกใจ เรียกกำลังกลับคืนมาได้ทันที

“ตาบ้า! ปล่อยเลย! ออกไปนะ!” และเธอหลุดจากอ้อมกอดเขาจนได้ เห็นแววตาวิบวับขบขันก็อดจะทุบกำปั้นกับแขนหนา ซึ่งมันคงไปโดนจุดฟกช้ำพอดี

“โอ๊ย! มันเจ็บนะ ยายโหดนี่” อนิษฐ์ร้องดัง แต่ยังไม่หยุดหัวเราะที่เห็นลานนาทั้งหน้าแดง ทั้งโกรธใส่เขาแบบนี้

“สมน้ำหน้า อนิษฐ์จอมหื่น กลับบ้านไปเลย หมอกไม่ให้ค้างด้วย!” ลานนาตวาดแหวใส่ ไม่วายง้างกำปั้นขึ้นเมื่อเห็นเขายังจะหัวเราะเธออยู่อีก

“เค้าขับรถไม่ไหวนี่นา ให้เค้าค้างด้วยเถอะนะ น้า" คราวนี้เล่นมุขสำออยใส่ ลานนาคว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมาทันที

“ไม่มีทาง ... ขับไม่ไหว งั้นหมอกโทร.ให้พี่ใหญ่ ไม่ก็คุณทิวมารับนายแทนก็แล้วกัน ...”

“ไม่เอาน่า เธอรู้ไหมว่าถ้าพี่ใหญ่เห็นเค้าสภาพนี้ สงครามเกิดแน่ๆ หมอกคงไม่อยากให้ใครเดือดร้อนเพราะหมอก-ฟ้อง-พี่ชายเค้า ใช่ไหม?” อนิษฐ์แย่งโทรศัพท์มือถือจากมือบางมาถือไว้เอง

ลานนาใช่จะไม่รู้ว่าอนลห่วงน้องชายเขาขนาดไหน ถ้ารู้ว่าภาสทำกับอนิษฐ์น่วมขนาดนี้มีหวังอนลล้มโชควรารัตน์ได้ภายในคืนเดียวแน่ๆ แต่การที่อนิษฐ์พูดออกมาแบบนี้ เธออยากจะถามนักว่าทำไมอยู่ๆเธอกลายเป็นคนผิดไปได้ล่ะเนี่ย

แต่อนิษฐ์ก็ไม่ปล่อยให้เธอได้ถามอะไรต่อ ร่างสูงลุกเดินไปราวกับไม่เคยเจ็บมาก่อน ลานนาสงสัยทันที เมื่อครู่ที่เขาโถมกอดเธอแน่นตอนพาเดินขึ้นห้องพักนี่เขาแกล้งหลอกเธองั้นเหรอ!

“เล็กนายจะไปไหนของนายน่ะ" ลานนาลุกตามเขาไปทันที

“นอน!” อนิษฐ์ตอบก่อนจะโถมตัวเองลงบนเตียงกว้าง

“ไม่ได้นะ!” ลานนาพยายามดึงเสื้อชายหนุ่มให้ลุกขึ้น

“จริงสิ ... ต้องอาบน้ำแปรงฟันก่อนนี่นะ" อนิษฐ์หันมาบอกกับเธอ หน้าตาจริงจัง ลานนาส่ายหัวตอบเขาทันที

“นั่นไม่ใช่สิ่งที่นายควรทำ กลับไปเลยยย" ลานนาชี้ไปทางประตู อนิษฐ์มองตามก็จริงแต่เขากลับยักไหล่ ไม่สนใจเธอแม้แต่น้อย เขาตรงไปเข้าห้องน้ำแทน

ลานนาได้แต่กำหมัดแน่น ถ้าไม่ติดว่าดึกมากแล้วก็อยากจะร้องกรี๊ดออกมาจริงๆ ไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมนายอนิษฐ์อดีตเด็กดีของเธอ ถึงได้กลายเป็นเด็กโข่งที่แสนดื้อกับเธอได้ขนาดนี้เนี่ย!



จบตอน

เอาคุณเล็กจอมหื่นมาส่งค่ะ โผล่มาทีไรหนูหมอกโดนกินโดนแกล้งทุกที 55555

คุณ Kim - คุณใหญ่จัดการนางเอกก่อนเลยค่ะ 5555 คุณใหญ่ดุนะคะ อิอิ

คุณ konhin - นั่นสิคะ ยิ่งบื้อๆแบบนี้ จะปล่อยให้ห่างสายตาได้หรือเปล่าน้ออ

คุณ ปรางขวัญ - อันนี้ขอคิดก่อนนะคะ 5555 แต่คิดว่าจะมีนะคะ ^^

พบกันใหม่ตอนหน้านะคะ สวัสดีค่า ^^



ปิ่นนลิน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 8 ก.ค. 2558, 01:16:55 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 8 ก.ค. 2558, 01:16:55 น.

จำนวนการเข้าชม : 2143





   ตอนที่ 25 >>
Kim 8 ก.ค. 2558, 02:55:47 น.
นายเล็กบอกว่าหื่นวันละนิดจิตแจ่มใส 555
ส่วนคุณใหญ่ก็ปากไม่ตรงกับใจ พอกันทั้งพี่ทั้งน้อง


konhin 8 ก.ค. 2558, 05:57:10 น.
นายเล็กอัพเกรด เปลี่ยนโหมดเป็น หญิงข้าใครอย่าแตะแล้ว


ใบบัวน่ารัก 8 ก.ค. 2558, 06:58:00 น.
นั่นจินายเล็กไปฝึกจูบมาจากไหน บอกมานะ
พี่ใหญ่ก็ห่วงเดียวก็บอกเค้าไปเถอะ สงสารนะ


phakarat 8 ก.ค. 2558, 10:25:33 น.
ในเรื่องนี้มียายโง่ ยายโหด ยังขาดอีกยายเป็นยายอะไรดีคะคนเขียน


Zephyr 11 ก.ค. 2558, 13:45:55 น.
โฮ้ยยยยยย เค้าเลิฟๆๆๆ คู่นี้อ่า
น่าร้อกกกกกกก ที่สุดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ถ้ายุบพี่ใหญ่กะตาเล็กรวมกันนี่ คงน่ารักเป็นบ้า
ขอหมอกเป็นนางเอกแทนได้ไหม


พันวลี 12 ก.ค. 2558, 14:57:36 น.
คุณเล็กหื่นได้น่ารักอ่ะ อยากกรี๊ด ชอบบบบบบบ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account