วิวาห์ลวง บ่วงรักตะวัน (จบแล้วค่า)
สามเดือนของวิวาห์ลวง ที่แสนหวาน
สามเดือนของวิาห์แท้จริง ที่แสนขม

ปริศนาความรักที่เขาเฝ้าไขคำตอบ

ทำไมเธอต้องสร้างวิวาห์ลวงที่เธอสร้างไว้กักขังเขา
ทำไมต้องหลอกลวง ที่กลายเป็นบ่วงผูกให้เขาและเธอเจ็บเมื่อพยายามดิ้นให้หลุดออกจากกัน

ความรักปลอมๆของดวงตะวันที่เผาไหม้หัวใจของอนลทุกครั้งที่เขาเข้าใกล้เธอ
อนลกับคำถามที่ทำให้เขาปวดร้าวหัวใจ

... รวิณดา ...

“คุณเดียว เคยรักผมจริงๆบ้างไหม ที่ผ่านมา คุณเคยรักผมบ้างไหม!”

Tags: ปิ่นนลิน

ตอน: ตอนที่ 25

ตอนที่ 25

การตื่นเช้ากว่าเดิมเล็กน้อยเพื่อไปส่งรวิณดาที่ทำงานไม่ได้เป็นปัญหากับอนลเท่าไหร่

อนลไม่ได้โกรธ หรือไม่พอใจที่รวิณดาอยากทำงาน ไม่รู้สึกเสื่อมเกียรติศักดิ์ศรีว่าใครจะหาว่าเขาเลี้ยงเมียคนเดียวไม่ได้ คนอย่างอนลต่อให้มีสิบเมียเขาก็เลี้ยงได้ แต่ที่เขาโมโหและห้ามเมียของเขาไม่ให้ไปทำงานก็เพราะยังไม่วางใจเรื่องคนร้าย จนต้องให้คนเฝ้าติดตามหญิงสาวห่างๆแถวบริษัทแฮปปี้ แบร์ ฟาร์ม สามวันที่ผ่านมาไม่มีอะไรน่าห่วง รวิณดาไม่คิดหนี แน่นอนว่าเพราะเขาเอาสวนผลไม้ขู่เธอไว้ พลอยทำให้เขาสบายใจ มีสมาธิทำงานตัวเองได้

อนลไม่ได้ลืมว่ารวิณดาทำอะไรกับเขาไว้บ้าง แต่อนลก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเขายังห่วงเธออยู่ หัวใจที่ถูกทำร้ายราวกับไม่รักดี เจ็บจนทรมานขนาดนั้นแต่ก็ยังจะสั่งให้เขาเอาแต่ห่วหญิงสาวน่ารำคาญคนนั้นแทบทุกลมหายใจ ยิ่งตื่นมาเห็นหน้ากันทุกเช้า เจอกันก่อนนอนทุกคืน บางครั้งตื่นมา เขาก็เผลอกอดร่างอุ่นไว้แนบแน่น มีความสุขจนเขาทนไม่ไหว ต้องรีบสั่งให้ตัวเองอย่าเผลอใจไปกับยายตัวร้ายตาใสนี่อีก

อนลสงสัยวิญญาณนายไข่จะเฮี้ยนมากจริงๆ สั่งให้เขาทำตรงข้ามกับสิ่งที่ตั้งใจไว้ได้ขนาดนี้!

“คุณใหญ่ครับ เรื่องคอนโดฯ ตรงฝั่งธน เราได้หลักฐานครบแล้วนะครับว่าภาสเป็นคนส่งมาป่วนเรา"

น่านทิวาทำให้อนลรู้สึกตัวว่ายังมีทนายส่วนตัวของเขานั่งร่วมห้องทำงานอยู่ด้วย ทนายหนุ่มว่าที่เจ้าบ่าวส่งข้อมูลใส่แฟ้มให้อนลหลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ดู แม้จะรู้อยู่แล้วว่าเป็นฝีมือภาส โชควรารัตน์ หากขาดหลักฐานก็ทำอะไรไม่ได้

“ผมก็จัดการหัวโจก รวมถึงทำความเข้าใจกับชาวบ้านเรียบร้อยแล้วด้วยครับ พวกเขาจึงสงบๆกันไป" น่านทิวาทำให้อนลหมดห่วงได้เสมอ

“แล้วเรื่องคุณเล็ก ... พวกที่ผับบอกว่ามีคนชกต่อยกันหลังผับจริง แต่ไม่เห็นว่าเป็นใครครับ จากปากคำที่ผมสืบมา พวกทำร้ายคุณเล็กมีสี่คนครับ แต่ไม่มีใครรู้ว่าใครรุมคุณเล็ก"

“รุมเหรอ เรื่องอะไรกัน!” อนลขมวดคิ้ว อนิษฐ์น้องชายของเขาไม่ใช่พวกเกเรที่จะหาเรื่องใครก่อน จึงทำให้อนลสงสัยมากแทบอยากเรียกตัวอนิษฐ์มาถามให้รู้เรื่อง แต่จากท่าทางของอนิษฐ์แล้ว ต่อให้ง้างปากก็คงไม่ยอมพูดออกมา แล้วลานนาจะรู้เรื่องไหมนะ

“ก่อนหน้านี้คุณเล็กต่อยนายภาสในผับอีกที่ครับคุณใหญ่" น่านทิวาได้เรื่องเพิ่ม

“ต่อยนายภาส ภาส โชควรารัตน์ เนี่ยนะ!” อนลเลิกคิ้วถาม ยิ่งงุนงงมากกว่าเดิม

“เรื่องผู้หญิงน่ะครับ มีคนเล่าว่านายภาสรุ่มร่ามใส่ผู้หญิงที่คุณเล็กพาไป คุณเล็กเมามากเลยคุมสติไม่อยู่ สงสัยว่าผู้หญิงคนนั้นน่าจะเป็นคุณหมอกนะครับ" น่านทิวาคาดเดา "คุณเล็กยังรักคุณหมอกอยู่จริงๆอย่างที่คุณใหญ่คิด ที่ผ่านมาที่คุณเล็กไม่มีใคร แม้คุณย่า หรือจะคุณตาคุณยายของคุณเล็กจะพยายามหาผู้หญิงมาให้ คุณเล็กก็หนีมาตลอด ก็คงเพราะแบบนี้ล่ะมั้งครับ"

“ก็ดีแล้วล่ะ ช่วงนี้นายก็ให้คนคอยดูนายเล็กไว้ เพราะฉันไม่คิดว่าภาสจะจบเรื่องนี้ง่ายๆ ไม่รู้พวกนั้นคิดจะทำอะไรกันแน่" อนลเป็นห่วงน้องชายที่คงไม่มีวันทันเล่ห์เหลี่ยมของลูกชายคนกลางคู่แข่ง

จะว่าไปแล้วก่อนที่ภาสจะขึ้นมาทำหน้าที่รองผู้บริหาร สินสราญกับโชควรารัตน์ก็ไม่เคยมีปัญหากัน เป็นคู่แข่งในด้านธุรกิจก็จริง หากเรื่องสกปรกไม่เคยเกิดขึ้นระหว่างสองบริษัทเลย เพราะความอยากเอาชนะแบบผิดๆชองภาสจึงทำให้เกิดกระแสนี้ขึ้นมา และก็ทำให้อนลไม่อาจจะยอมแพ้ได้ง่ายๆด้วย

“ภาส นอกจากเรื่องสกปรกแล้วหมอนั่นคิดจะเอาชนะฉันในเรื่องอื่นบ้างไหมนะ เสียดายพี่ชายของนายภาสขึ้นมาจริงๆ" อนลเอนหลังพิงเก้าอี้ตัวใหญ่ ถอนหายใจกับนิสัยไม่ดีของอนาคตผู้บริหารใหญ่โชควรารัตน์

“อ๋อ คุณใหญ่หมายถึงพี่ชายที่ลาออกไปทำบริษัทตัวเองน่ะหรือครับ เขาเป็นคนเก่งนะครับ ถ้าเขายังทำหน้าที่บริหารโชควรารัตน์อยู่ คงจะปรามน้องชายเขาได้บ้าง" จะว่าไปน่านทิวาจำหน้าพี่ชายของภาสไม่ได้แล้ว

“คนที่ฉันกลัว และค่อนข้างกังวลตอนที่เริ่มเข้ามาทำงานใหม่ๆ ไม่ใช่ภาส ไม่ใช่โชควรารัตน์ แต่เป็นภีมวัชช์ พี่ชายเขาต่างหาก คนที่กดดันทำให้ฉันพยายามอยากเอาชนะ มาจนมาถึงจุดนี้ได้" อนลยอมรับจากใจ จะว่าไปตอนนี้ภีมวัชช์ทำอะไรอยู่นะ!

++


“นั่นเป็นอะไร" เสียงทุ้มๆทำให้รวิณดาที่เดินกลับเข้าออฟฟิศหลังจากออกไปทานมื้อเที่ยงกับเพื่อนร่วมงานหันมองเห็นภีมวัชช์เดินตามเธอมา เพื่อนร่วมงานคนอื่นเห็นอย่างนั้นจึงพากันเดินเข้าอาคารไปก่อน เจ้านายหุ่นหมีที่เพิ่งกลับจากธุระด้านนอกจ้องมาที่ต้นแขนตนก็ตอบคำถามทันที

“อ๋อ บาดเจ็บนิดหน่อยค่ะ"

ภีมวัชช์เดินมาพลิกต้นแขนบางดู ท่าทางไม่ใช่บาดเจ็บธรรมดาล่ะมั้ง

“โดนคนชื่ออนลทำร้ายมาหรือ" เขาถาม ภีมวัชช์มีออกไปติดต่องานทุกวันเพิ่งเจอหน้ากันครั้งแนกในอาทิตย์นี้

“ไม่ใช่ค่ะ คุณภีมเข้าใจผิดไปใหญ่แล้ว" หญิงสาวรีบแก้ความเข้าใจผิดเสียงหลง ตาโตไปด้วย

“แสดงว่าไปเคลียร์กับแฟนคุณมาแล้วสินะ" เขาจับใจความได้แบบนี้ เพราะเธอไม่เถียงนี่ว่าไปเจอผู้ชายของเธอมา

“เอ่อ จะว่าไปแล้วก็ ...” รวิณดาคิดว่าถ้าเธอยอมทำให้อนลไม่โกรธ น่าจะพอยื้อเวลาหาเงินไถ่สวนคืนได้ แบบนี้เรียกว่าเคลียร์หรือเปล่านะ

“ยอมรับแล้วสินะว่าเป็นแฟน คืนดีกันแล้วล่ะสิ" ภีมวัชช์เสียงขุ่น

“คือว่า จริงๆแล้ว ...” รวิณดาตอบไม่ถูก สถานะที่เธอมีกับอนลมันอธิบายให้คนนอกฟังยากจริงๆ เมื่อก่อนตอนอยู่ทุ่งทานตะวัน เธออาจจะเป็นเมียหลอกๆชองเขา

ตอนนี้ล่ะ เธอเป็นอะไร อนลพูดปาวๆว่าเธอเป็นเมีย ... แต่การกระทำทุกอย่าง คำพูด สายตา ไม่ต่างจากนักโทษในกรงขังที่อนลขังเธอไว้ เพราะความเกลียดชังมากกว่า

“พอเถอะ ขี้เกียจฟังแล้ว เจ็บแขนแบบนี้งั้นผมหาคนอื่นไปลงผักแทนล่ะกัน" ภีมวัชช์พูดจบก็เดินผ่านเธอไป รวิณดาได้ยินอย่างนั้นก็ขยับเท้าไวกว่าเดิม เดินเคียงข้างคนตัวสูงใหญ่กว่า

“ให้เดียวไปเถอะนะคะ เดียวอยากไปที่สวนค่ะ" รวิณดาขอร้องเจ้านายหนุ่ม

ภีมวัชช์หยุดเดิน หันมองคนตัวเล็กที่จ้องเขาด้วยแววตามุ่งมั่น ก็ส่ายหน้าปฏิเสธ

“คุณเจ็บอยู่ ไม่ต้องหรอก"

“เดียวไม่เจ็บแล้วค่ะ แผลแห้งแล้วไม่ตึงแล้วด้วย นี่ไงคะยกแขนได้แล้ว" เธองอข้อศอก ขยับโชว์ให้ภีมวัชช์ดู รวิณดาดีใจที่คุณพยาบาลก็บอกว่าเธออาบน้ำได้แล้ว ไม่ต้องให้อนลมายุ่งวุ่นวายกับร่างกายเธออีก รอยยิ้มที่กระจ่างบนใบหน้าก็เพราะสาเหตุนี้ด้วยเหมือนกัน

“คุณนี่ดื้อดีนะ เคยมีคนว่าคุณแบบนี้ไหม" ภีมวัชช์ถอนหายใจ

“มีค่ะ" เธอตอบเสียงใส ก็จะใคร อนลไงล่ะ!

คำตอบหน้าตายราวกับยอกย้อนเลยได้มะเหงกจากร่างสูงใส่กลางศีรษะเป็นรางวัล รวิณดาร้องโอดเบาๆพลางยกมือขึ้นลูบป้อยๆ "ให้เดียวไปนะคะ เดียวคิดถึงกลิ่นดิน กลิ่นผักจะแย่แล้ว"

“ตามใจ แต่ถ้าไม่ไหวต้องพักทันทีนะ พรุ่งนี้คุณมารอผมที่ออฟฟิศแล้วเราค่อยไปสวนผักด้วยกัน" ภีมวัชช์ส่ายหัวไปมา ยอมเธอเลยจริง สาวๆในออฟฟิศมีสักกี่คนที่อยากลงไปสวนผักร้อนๆ ล้วนแต่อยากนั่งออฟฟิศห้องแอร์กันมากกว่า มีแต่ยายนี่นี่แหละที่อาสาออกไปสวนผักกับเขาได้ตลอด

“ไอ้ตัวที่คุณอุ้มอยู่ หน้าเหมือนคุณดีนะ" ภีมวัชช์มองไปที่ตุ๊กตาดอกทานตะวันนุ่มๆ หน้าตาแป้นแล้น แก้มสีชมพูสดใส ในอ้อมแขนหญิงสาว

“ว่าเดียวหน้าบานหรือคะคุณภีม" รวิณดานิ่วหน้า ยกขึ้นมาเทียบกับหน้าของเธอ บานๆกลมๆแบบนี้เหมือนเธอตรงไหนกัน!

"ใช่แล้ว หน้าบานมากๆ ... ไปเอามาจากไหนล่ะ" ภีมวัชช์แหย่เธอเสียงร่าเริง แย่งตุ๊กตามาดึงแก้มดอกทานตะวันเล่น แม้จริงๆอยากจะดึงแก้มหญิงสาวหน้าบานมากกว่า

“เดินผ่านตลาดนัดน่ะค่ะ เดียวเคยปลูกดอกทานตะวัน เห็นแล้วคิดถึงเลยซื้อติดมือมา" ร

วิณดามองดอกทานตะวันก็อดสะเทือนใจกับภาพบ้านของเธอโดนถล่มไม่ได้ ถ้าไม่ติดว่าเธอทำผิดกับอนลไว้ก่อน รวมถึงต้องยอมเขาทุกอย่างเพราะเขาเอาเรื่องสวนผลไม้มาขู่เธอไว้ รวิณดาจะไม่มีวันให้อภัยอนลเรื่องนี้เลย .. คนผิดสัญญา!

“คงสวยมากนะ ผมเคยไปเที่ยว เห็นดอกสีเหลืองละลานตา จริงๆผมก็อยากจะลองปลูกดอกทานตะวันดูเหมือนกัน ไว้ต้องศึกษาจากคุณแล้วล่ะ คุณดอกทานตะวัน" ภีมวัชช์ยอมคืนตุ๊กตาให้เจ้าของ แถมยังตั้งชื่อใหม่ให้เธออีก

“ได้สิคะคุณภีม" รวิณดาตอบเขาอย่างยินดี ก่อนที่เธอจะขอตัวเข้าไปทำงานด้านใน

ภีมวัชช์ถอนหายใจเฮือกๆ อนาถใจกับความรู้สึกของตัวเองขึ้นมา พอรู้ว่ารัก ก็อกหักเสียแล้ว นายภีมเอ๋ย!

++



ตอนเย็น คนของอนลมารับเธอเช่นทุกวัน เธออึดอัดไม่น้อยเมื่อกลายเป็นเป้าสายตากับรถหรูหราที่จอดรอเธออยู่

“คราวหน้าคุณไปจอดรถฉันไกลกว่านี้หน่อยก็ได้นะคะ" รวิณดายื่นหน้าไปบอกกับบอดี้การ์ดที่ขับรถให้

“ไม่ได้หรอกครับ คุณใหญ่สั่งไว้ครับ" บอดี้การ์ดหนุ่มตอบเป็นหุ่นยนต์เลย

“ไม่บอกเขาก็ไม่รู้หรอกค่ะ" รวิณดายังไม่ยอมแพ้

“คุณใหญ่สั่งไว้ครับ ผมขัดคำสั่งไม่ได้ ขอโทษด้วยนะครับคุณรวิณดา" บอดี้การ์ดยังตอบตามระบบที่ป้อนไว้อยู่ดี หญิงสาวได้แต่ถอนหายใจ กอดตุ๊กตาในมือแน่น

“เดี๋ยวผมจะไปส่งคุณที่บ้านก่อนนะครับ วันนี้คุณใหญ่มีประชุมถึงค่ำเลย ท่านไม่อยากให้คุณรอนาน อยากให้กลับไปพักผ่อนมากกว่า" บอดี้การ์ดหนุ่มเอ่ยบอก

“ถ้าอย่างนั้น คุณช่วยพาฉันไปซื้อของก่อนได้ไหมคะ คุณบอดี้การ์ด" รวิณดาถาม เห็นบอดี้การ์ดหนุ่มกดโทรศัพท์ออกผ่านบลูทูธที่เสียบไว้ที่หู รวิณดาเบ้หน้าใส่ เมื่อรู้ทันทีว่าต้องรายงานถามไถ่นายของเขาก่อนสินะ

“คุณใหญ่อนุญาตครับ แต่ห้ามเกินสองทุ่มนะครับ" ชายหนุ่มกดวางสาย ตอบคำถามผู้หญิงของเจ้านายทันที

รวิณดาได้แต่พ่นลมหายใจระบายความอึดอัด ... สงสัยว่าตอนที่เธอขังอนลไว้ในบ้านกลางทุ่งทานตะวัน ไม่ให้ออกไปไหนเลยนั้น อนลจะอึดอัดเช่นเดียวกับเธอเวลานี้ไหมนะ

และถ้าเป็นแบบนั้น นี่คงไม่ต่างจากกรรมตามสนอง แถมสยองจนรวิณดาอยากจะรีบหาเงินมาไถ่สวนและอิสรภาพตัวเองคืนไวๆจริงๆ!




ตุ๊กตาดอกทานตะวันหน้าบานแฉ่งในอ้อมแขนของรวิณดานั่นคืออะไร?

อนลนิ่วหน้าเมื่อเดินมาหยุดลงข้างๆร่างบางที่ชิงนอนกอดตุ๊กตาหลับสบายอยู่บนเตียงก่อนเขากลับถึงบ้าน กว่าจะเลิกประชุม เคลียร์งานจนเสร็จ ถึงบ้านก็ห้าทุ่มกว่าแล้ว

อนลส่ายหน้าไปมากับสาวน้อยนอนกอดตุ๊กตาตรงหน้า ยอมเลิกสนใจอะไรแปลกประหลาดบนเตียง อาบน้ำชำระร่างกายเปลี่ยนชุดนอน ก่อนจะล้มลงนอนข้างกายพักผ่อนบ้าง คงเพราะกลิ่นหอมๆของตัวหญิงสาวทำให้เขาอดใจไม่ไหว เผลอยื่นหน้าไปกดจมูกที่แก้มใสหนึ่งที แววตามองเธอนั้นเต็มไปด้วยความเอ็นดู ยิ่งเห็นหญิงสาวยิ้มหวานทั้งที่ยังอยู่ในห้วงนิทรา หัวใจไม่รักดีของอนลก็ยิ่งบังคับให้เขาอมยิ้ม นอนมองรอยยิ้มหวานอยู่พักใหญ่จนความง่วงดึงให้เขาดิ่งสู่นิทราแสนสุขบ้าง


++



ไม่มีใครรู้ว่าอนิษฐ์ไปเจออะไรมา ที่อยู่ๆ ถึงได้กลายพกพาความมั่นใจ กับความคิดของที่พักริมทะเลที่สร้างความประทับใจให้ทั้งบิดา พี่ชาย รวมถึงผู้บริหารอีกหลายคนขนาดนี้

แม้อนิษฐ์จะใช้คอนเซปต์ง่ายๆ แค่เรื่องที่พักสำหรับคู่รักมาเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก

ที่พักริมทะเลราคาแพงหรูหราซึ่งมีจำนวนห้องจำกัด เพราะอยากให้เป็นส่วนตัว ยกระดับทั้งการบริการ การออกแบบพื้นที่ สำหรับลูกค้ากระเป๋าหนักเท่านั้น โดยนำไอเดียสไตล์เมดิเตอเรเนียนมาใช้ในการออกแบบ ตัวที่พักสีขาวสะอาดตา หรูหราด้วยการตกแต่ง เน้นให้ดูโรแมนติกจนคนร่วมประชุมถึงกับเคลิ้มตาม อยากพาคนรักไปพักกันทีเดียว

อารักษ์มองลูกชายคนเล็กที่เขาเคยตำหนิด้วยแววตาชื่นชมชัดเจน เขาอยากให้อนิษฐ์มั่นใจในความคิดตัวเองเช่นนี้มานานแล้ว และอนิษฐ์มีความสุขกับคำชมของบิดา คว้าลานนามากอดแน่นทันทีที่ก้าวเท้าเข้าห้องทำงานส่วนตัว

“เป็นไงบ้าง พ่อนายว่าไงบ้าง" ลานนาดันตัวออกห่าง อยากฟังผลการพรีเซนต์มากกว่า อนิษฐ์ตั้งใจทำงานนี้มาก ลานนาแค่ให้ไอเดียเล็กๆน้อยๆเขาก็ต่อยอดได้อย่างน่าประทับใจ

“เตรียมตัวไว้เลย เธอโดนเค้าหม่ำแน่ๆ หมอก" อนิษฐ์กระซิบตอบที่ข้างหู ปลดมือออกจากเอวบาง ก่อนจะเดินลัลล้าไปนั่งที่โต๊ะทำงาน พี่ชายผลักประตูเข้ามาพร้อมรอยยิ้มภูมิใจในตัวน้องชาย

“เยี่ยมมาก เห็นไหมว่านายก็ทำได้ดีเหมือนกัน" อนลมาเพียงคนเดียว ส่วนน่านทิวาไปเตรียมตัวเป็นเจ้าบ่าวอยู่จึงไม่ได้มาร่วมชื่นชมยินดีกับอนิษฐ์ด้วย

“พี่อยากรู้จริงๆว่าใครที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จนี้" อนลมองไปยังหญิงสาวคนเดียวในห้อง

“ไม่ใช่หมอกหรอกค่ะพี่ใหญ่ แต่เป็น ...” ลานนาเกือบหลุดความจริงไปแล้ว หากอนิษฐ์ชิงพูดขึ้นก่อน

“หมอกแหละครับ เพราะฉะนั้นห้ามลืมสัญญาเด็ดขาดนะหมอก" อนิษฐ์ยักคิ้วให้ลานนา หญิงสาวร้อนๆหนาวๆกับสัญญาที่ให้เขาไว้ที่ทะเลก่อนหน้านี้ทันที

“รอให้เห็นผลตอบรับมากกว่านี้ก่อนเถอะ ค่อยมาทวง" ลานนายื่นปากใส่

“คอยดูก็แล้วกัน" อนิษฐ์บอกอย่างมั่นใจ

“จริงสิพี่ใหญ่ วันอาทิตย์ก็งานแต่งพี่ทิวแล้ว พี่ใหญ่จะพาคุณเดียวไปด้วยไหมครับ" อนิษฐ์ถามออกมาในสิ่งที่อนลลังเลใจอยู่ เขาไม่อยากกลับไปที่นั่น...ที่ที่เต็มไปด้วยความทรงจำมากมายระหว่างเธอกับเขา

แต่น้องชายคนสำคัญของเขา และพี่สาวคนสนิทของรวิณดาแต่งงานทั้งที ไม่พาไปก็คงไม่ได้
“คงต้องพาไปแหละนะ"

++



อนลกลับบ้านดึกมาสามคืนติด กลับไปก็เห็นรวิณดาชิงหลับก่อนทุกคืน เขารู้ว่ารวิณดาเป็นพวกนอนแต่หัวค่ำอยู่แล้วแถมยังตื่นเช้าอีก แต่อนลก็อดขัดใจไม่ได้

วันนี้เลยออกจากออฟฟิศเร็วหน่อยเพื่อไปรับรวิณดาที่ทำงาน เขานั่งรอเธออยู่ในรถ นั่นทำให้เขาถึงกับแปลกใจกับใครบางคนที่เดินออกมาเรียกรวิณดาที่หน้าบริษัท

อนลถึงกับหลังไม่ติดเบาะ จ้องมองไปยังร่างสูงหนาในเสื้อโปโลสีเขียวสดใส มีลายหมียิ้มติดอยู่บนอก ซึ่งร่างสูงหนานั้นซึ่งส่งถุงบางอย่างให้รวิณดาไม่เห็นหรอกว่าอนลมองอยู่

ซึ่งอนลรู้จักชายคนที่คุยกับรวิณดาดีทีเดียว

“ภีมวัชช์? ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ ...”

อนลหันมองป้ายบริษัทที่เขียนไว้สองภาษา แฮ้ปปี้ แบร์ ฟาร์ม ความไม่พอใจผุดเต็มสี่ห้องหัวใจอนลทันที ยิ่งรอยยิ้มที่ภีมวัชช์มีให้เมียของเขาด้วยแล้ว ...

ยิ่งกว่าโดนตบหน้ากลางสี่แยกอีก ... นี่ผู้หญิงของเขาไปทำงานให้พวกโชควรารัตน์งั้นหรือ!

แถมรวิณดาก็ยังส่งยิ้มตอบกลับไปง่ายๆอีก ... อนลฮึ่มฮั่มในอก ปรายตาดุใส่ทันทีร่างบางที่ก้าวขึ้นรถ นั่งข้างๆเขา

“มีอะไรหรือคะ" เธอถามกับแววตาไม่พอใจของอนล

“ไม่มี" อนลตอบห้วนๆ อารมณ์ไม่ดีอย่างมาก

“ค่ะ ไม่มีก็ไม่มี" รวิณดาพยักหน้าง่ายๆ ขี้เกียจมีปัญหาทะเลาะกันอีก

อนลหงุดหงิด แม้จะเข้าใจว่ารวิณดาคงไม่รู้หรอกว่าภีมวัชช์เป็นคนของใคร แต่เขาก็ยังไม่พอใจอยู่ดี หากความคิดทุกอย่างสะดุดวูบเมื่อรถยนต์ที่บอดี้การ์ดขับอยู่เปลี่ยนเลนกระทันหัน

“อะไรน่ะ" อนลถาม

“มีรถตามหลังเรามาครับคุณใหญ่" หนึ่งในบอดี้การ์ดตอบ เตรียมปืนไว้ในมือ

รวิณดาร้องกรี๊ดเมื่อมีรถคันหนึ่งพยายามจะขับมาปาดหน้ารถที่เธอนั่ง จนบอดี้การ์ดต้องเปลี่ยนเลนกระทันหันอีกครั้ง

อนลคว้าร่างบางมากอดไว้แน่น หันตัวเองออกด้านนอกเอาตัวเองเป็นเหมือนกำบังให้ ขณะที่รถกำลังเบียดกันไปมา ถ้าใครพลาดรับรองว่ารถได้เหวี่ยงชนกับอะไรสักอย่างข้างทางแน่นอน! ซึ่งสุดท้ายบอดี้การ์ดของอนลก็เก่งกว่า พารถเบี่ยงเปลี่ยนเลน หลอกล่อจนรถที่ขับเบียดกันไปมาเสียหลักตกไปคูน้ำข้างทางสำเร็จ!

“คุณใหญ่ เราหลุดมาได้แล้วครับ" หนึ่งในบอดี้การ์ดรายงาน อนลถอนหายใจอย่างโล่งอก ก้มมองร่างเล็กที่ซุกอยู่กับอกของเขาอย่างหวาดกลัวจนตัวสั่น

อนลถึงกับกัดฟันกรอด ขณะโอบกอด ลูบไหล่ ปลอบประโลมคนเสียขวัญกับอกของเขา

เขาไม่เคยคิดตอบโต้การลอบทำร้ายเขาแบบนี้ แต่ถ้ากล้าแตะต้องรวิณดาด้วยแล้ว อนลแทบอยากจะสนองคืนกลับไปแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน กล้าทำร้ายหัวใจของเขา อนลก็อยากจะทำคืนให้สาสมบ้าง

แต่มันติดที่ว่า ... คนสำคัญของอีกฝ่าย ก็เป็นคนสำคัญของอนล ...

อนลปวดใจกับการถูกบีบบังคับให้เลือก ... ที่ไม่มีทางเลือกอะไรให้เขาเลย!


จบตอน

ยังคงตามฆ่ากันอยู่ ><

คุณ Zephyr - 555 ยังคงมีนายไข่หลอกหลอนๆอนลอยูเรื่อยๆ แค้นก็แค้น รักก็รัก น่าสับสนแทนจริงๆ

คุณ ใบบัวน่ารัก - ให้คู่พี่ทิวแต่งไปก่อนนะคะ ^^

คุณ Kim - ตอนนี้อนลแพ้นายไข่อยู่ค่ะ แต่พอเห็นคุณภีม อนลก็ชนะอีกรอบ 5555


พบกันตอนหน้านะคะ สวัสดีค่ะะ :)



ปิ่นนลิน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 ก.ค. 2558, 04:37:18 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 12 ก.ค. 2558, 04:56:17 น.

จำนวนการเข้าชม : 2014





<< ตอนที่ 22   
Kim 12 ก.ค. 2558, 08:40:12 น.
อย่าบอกว่าคนร้ายเป็นแม่เลี้ยงของอนลนะ ปวดหัวแทน


ใบบัวน่ารัก 12 ก.ค. 2558, 09:38:07 น.
พี่ทิวไปถ่ายรูปแต่งงานทันหรือ
ใครจะฆ่าเดียวอะ
อยากไปทุ่งทานตะวัน
อยากไปงานแต่งด้วยอะ


พันวลี 12 ก.ค. 2558, 15:12:10 น.
ยิ่งอ่านยิ่งมั่นใจว่าคนร้ายคือคนที่คิดเอาไว้
แต่สงสารคุณภีมอ่ะ พอรู้ตัวว่ารักก็อกหักซะแล้ว ถ้าไงหาคู่ให้สักคนได้ไหม คนดี ๆ แบบนี้ไม่สมควรต้องอยู่คนเดียวเลยนะ


konhin 12 ก.ค. 2558, 21:10:01 น.
ไม่อยากเดา กลัวถูก ฮา


Zephyr 13 ก.ค. 2558, 00:21:56 น.
ประโยคสุดท้ายนี่แทบเฉลยเลยค่ะ
คนที่คุณรู้ว่าใคร ฮ่าๆๆๆๆ
เจ็บปวดน่าดู ขอไปทำใจแพร้พ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account