เมียบำเรอครึ่งคืน
“ทำไมเธอไม่ห้ามฉัน! โอ... ไม่ไหวแล้วนะ ทำไมถึงน่ากินอย่างนี้...”
จบคำพูดเวทิศก็คุกเข่าก้มปากและจมูกเข้าหาส่วนที่ ‘น่ากิน’
และทำตามความอยากของตัวเองอย่างไม่รีรอ



‘กันตาภา’ พนักงานเงินเดือนระดับล่างมีเหตุผลที่ดีในการ ‘ดูถูก’ นักธุรกิจหนุ่มมหาเศรษฐี
รูปหล่อ คมเข้ม เซ็กซี่ และหยิ่งยโสอย่าง ‘เวทิศ วิชิตเมธา’ CEO หนุ่มของบริษัทที่เธอทำงานอยู่
และผู้ชายคนนี้เองที่เป็น ‘ต้นเหตุ’ ที่ทำให้เธอ ‘ถูกล่อลวง’ ไปที่โรงแรมในคืนนั้น เขาแย่งชิงเอา
‘ความสาว’ และศักดิ์ศรีความเป็นหญิงของเธอไปด้วยกำลัง ทิ้งให้เธอถูกความอัปยศครั้งนั้นตาม
หลอกหลอนอยู่ตลอดเวลา!



จริงอยู่ ตอนนี้เขาอาจเต็มใจที่จะชดใช้ความผิดด้วยการปกป้องและดูแลเธอในฐานะ
‘เมียที่เกิดจากความผิดพลาด’ ด้วยข้อเสนอที่ยั่วยวนใจ... ทั้งเครื่องเพชร เงินสดในบัญชีทุกๆ เดือน
เสื้อผ้าแบรนด์เนม รถยนต์คันหรู และคฤหาสน์ แต่ผู้หญิงที่ถือดีและหยิ่งผยองอย่างกันตาภาไม่มีทาง
ที่จะยอมรับมัน ไม่มีสิ่งใดในโลกที่จะสามารถลบเลือนความเกลียดชังที่มีต่อเขา... หรือความโหดร้ายที่
เขาทำไว้กับเธอได้ แต่เวทิศ ผู้ชายจอมโอหังก็มีวิธีการคุกคาม ข่มขู่ และ ‘บังคับ’ ในรูปแบบของเขาเอง
เสมอๆ ซึ่งซาตานหนุ่มรู้ดีว่าหญิงสาวที่ไร้เดียงสาอย่างเธอยังมีเรื่องที่ต้องเรียนรู้อีกมากเพื่อทําหน้าที่ใน
ฐานะ ‘เมียลับ’ และกันตาภาเองก็รู้ดีไม่แตกต่างกันว่าเธอจะต้องเรียนรู้มันให้ไว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
การเรียนรู้เรื่อง ‘เสแสร้งรัก’ เพื่อเอาตัวรอดจากอํานาจอันอํามหิตของเขาเพื่อรอวันหลบหนี!



“คนจะรักกันมันไม่จำเป็นต้องใช้แรงหรอกส้มโอ โยกเบาๆ คลึงนิ่มๆ ก็สุขหาที่เปรียบไม่ได้แล้ว
แต่ถ้าเธอยังหัวรั้น ดื้อดึงอยู่อย่างนี้ อีกนานกว่าจะรู้ว่าต้องควบคุมฉันยังไง”



“มาแล้วค่ะคุณขา ศิริพารา นักประพันธ์ระดับ Bestselling Author
มีหลายๆ ท่านถามหาผลงานเล่มเล็กของเธอกันจนสายโทรศัพท์แทบไหม้ หยิบไปเลยค่ะ
แค่นามปากกาก็การันตีความมัน! เพราะถ้าหยิบไม่ทัน หมดก่อนแบบรอบที่แล้ว
จะหาว่าดิฉันไม่บอกไม่ได้นะคะ”
รองสนิท ณ สงขลา บรรณาธิการที่ปรึกษา
Tags: เมียบำเรอครึ่งคืน, เวทิศ, กันตาภา

ตอน: ตอนที่ 4 100%

หลายชั่วโมงต่อมา... รวิยังนอนตาค้าง มองกระเป๋าสตางค์ยี่ห้อดังที่อยู่ในมือ เขานอนไม่หลับเพราะคิดหาวิธีทางที่จะใช้มันแก้แค้น ทวงความยุติธรรมให้ตัวเองได้บ้าง เวลาล่วงเลยมาจนเกือบเที่ยงวัน คนที่มีแต่ความเคียดแค้นสุมหัวใจก็ลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัว ผลุนผันออกจากบ้านเช่าซอมซ่อด้วยแววตาที่เปี่ยมความหวัง!


รวิเดินออกมาจนถึงหน้าปากซอยพร้อมกับความคิดที่ว่า... ตนต้องทำตัวให้น่าสงสาร น่าเวทนามากที่สุด ให้ทุกคนเห็นใจและเชื่อใจจนเกิดความไว้ใจ พวกมันทุกคนสมควรที่จะถูกคนที่ไว้ใจหักหลัง จะได้ลิ้มรสของความเจ็บปวดอย่างที่เขาต้องพบเจอบ้าง เมื่อคิดได้ดังนั้นจึงเริ่มทำตามแผนการที่วางไว้ทันที

กริ๊ง... กริ๊ง... กริ๊ง...

เสียงโทรศัพท์ของเวทิศดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยที่เจ้าของโทรศัพท์ต้องขมวดคิ้วมุ่นกับเบอร์โทรที่ไม่คุ้นตา

“เวทิศพูดครับ”

“เอ่อ... ผม คุณกายจำผมได้ไหมครับ รวิที่เคยทำงานกับคุณร็อก ที่เคยหาสาวๆ...” พูดยังไม่จบประโยคก็ได้ยินเสียงครางรับยาวๆ รวิจึงเงียบฟังอย่างตั้งใจ

“อ๋อ... จำได้ มีอะไรกับฉัน” ไม่ต้องแนะนำตัวให้ยืดยาว ก็เมื่อวานนี้เขาเพิ่งจะเห็นว่ารวิควงสาวรูปร่างน่าปรารถนาเดินออกไปจากหน้าบริษัท ไม่เช่นนั้นก็คงต้องแนะนำตัวกันยาวสักหน่อย หรืออีกทีไอ้พี่ชายคงจะให้รวิหาสาวๆมาแก้เบื่อล่ะสิ มิน่าล่ะ! ถึงได้บอกให้เขาทำงานดีๆ มีรางวัล

“ผมเก็บกระเป๋าสตางค์ของคุณได้น่ะครับ ตอนนี้อยู่กับผม”

“อ้าว... เหรอ ฉันก็นึกว่าเทมส์ให้เอาของขวัญมาส่งเสียอีก” พูดจบก็หัวเราะร่วน

หากคนฟังนั้นนิ่งงันจมอยู่กับความคิดที่พุ่งขึ้นมาในสมองเมื่อได้ยินคำว่า ‘ของขวัญ’ มันคือคำเรียกหญิงสาวสวยๆที่พร้อมจะทอดกายให้เชยชม ซึ่งเข้าใจกันได้เฉพาะในกลุ่มเท่านั้น

“แล้วมันไปอยู่กับนายได้ยังไง นี่ฉันนึกว่าแม่ตัวดี อ่อ... นึกว่ามีคนมาขโมยไปซะอีก” เวทิศแก้คำพูดของตนเสียใหม่เพราะคิดว่าคู่นอนเมื่อคืนนี้กล้าดีขโมยกระเป๋าสตางค์ซึ่งมีบัตรสำคัญอยู่หลายอย่าง แต่หล่อนก็ยืนกรานเสียงแข็งว่าไม่รู้เรื่องอะไรด้วย จนเขาคาดโทษเอาไว้ด้วยน้ำเสียงดุดันจนเธอทำท่าจะร้องไห้ “เฮ้... ว่าไง นายฟังฉันอยู่รึเปล่า”

“เอ่อ... ครับ คุณกายถามผมว่าไงนะครับ” หากสมองของรวิกำลังทำงานอย่างหนัก มันคือโอกาสอันดีเยี่ยมที่ลอยมาอยู่ตรงหน้า มันรวดเร็วเกินกว่าที่จะตั้งตัวและหากไม่คว้ามันเอาไว้ก็ไม่รู้ว่าจะหาโอกาสดีๆอย่างนี้ได้เช่นไร

“ฉันถามนายว่ามันไปอยู่ที่นายได้ไง แล้วนี่นายยังทำงานที่พิพิธรีโซเทลเหมือนเดิมรึเปล่า”

“เปล่าครับ ผมเป็นเด็กรับรถในผับที่คุณกายไปเมื่อคืนนี้ครับ ขากลับคุณกายรีบร้อนออกไปเลยทำมันตกไว้ ผมเลยเก็บมาและโทรมาตามหมายเลขที่อยู่ในนามบัตร” รวิชี้แจงอย่างละเอียด หากสุดท้ายก็เอ่ยมันออกมาด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ความจริงแล้วคุณเทมส์ก็สั่งให้ผมเอาของขวัญมาให้อยู่เหมือนกันนะครับ แต่คุณกายรู้ทันเกมอย่างนี้ผมก็แย่สิครับ”

“ก็... ฉันจะทำไม่รู้ไม่ชี้แล้วกัน”

รวิยิ้มหยันเมื่อได้ยินประโยคตอบรับนั้น “พูดจริงๆนะครับ ถ้าคุณกายถามเรื่องนี้กับคุณเทมส์ ผมคงได้ค่าตอบแทนน้อยลง ข้อหาที่ทำให้ความตื่นเต้นลดลง”

“คำไหนคำนั้นสิ เรื่องขี้ผงเท่านี้เอง” เวทิศรับคำอย่างอารมณ์ดี

“ตอนแรกผมว่าจะเอากระเป๋าสตางค์มาคืนด้วยตัวเอง ถ้าเรื่องออกมาอย่างนี้ผมจะฝากกระเป๋าสตางค์มากับของขวัญเลยนะครับ ส่วนจะเป็นที่ไหน เดี๋ยวผมจะโทรมาแจ้งอีกครั้งครับ”

“อู้ว... แทบอดใจรอไม่ไหว”

จบคำพูดปลายสายก็ตัดไปทันที แต่รวิกลับกระหยิ่มยิ้มย่องในใจเพราะการแก้แค้นที่เขากำลังจะทำ มันเป็นวิธีการที่คล้ายคลึงกันกับที่พวกมันทำนัก แต่รับรองว่าเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้จะไม่เป็นเพียงแค่การจัดฉากหลอกลวง พวกมันต้องได้อับอายกันทั้งโคตร สะใจดีนักล่ะ!

รวิเดินไปตามฟุตบาทอย่างเร่งรีบ มุ่งตรงไปยังตู้เอทีเอ็ม หวังจะใช้เงินเก็บก้อนสุดท้ายที่เหลืออยู่ในชีวิต ลงทุนกับการแก้แค้นในครั้งนี้ ไม่กี่นาทีเงินสดจำนวนหนึ่งซึ่งมากพอที่จะใช้เตรียมการทุกอย่างให้สำเร็จลุล่วงก็อยู่ในมือของเขาเรียบร้อย


กันตาภากำลังเก็บของใช้บนโต๊ะทำงานของตัวเองให้เรียบร้อย หลังจากที่เวลาเลิกงานผ่านไปแล้วราวยี่สิบนาที

“นี่... จะไม่ไปด้วยกันจริงๆเหรอ หนังเรื่องนี้สนุกจริงๆนะ พระเอกหล่อมาก...” รุจิราชวนเพื่อนสาวที่ปฏิเสธการไปชมภาพยนตร์กับตนอีกครั้ง

“ไปเถอะน่า... อีกอย่างเธอมีนัดกับแฟนแล้วจะมาชวนฉันไปอีกนี่ จะให้ฉันทำตัวยังไง เร็วๆอย่าเซ้าซี้มาก รีบไป เดี๋ยวก็เลยเวลานัดหรอก” กันตาภาบอกพลางออกแรงดันเพื่อนสาวให้เดินออกมาจากห้องทำงานฝ่ายการตลาด

“งั้นกลับบ้านคนเดียวก็ระวังตัวนะ” รุจิราบอก

“อือ... รีบไปเถอะน่า ทำอย่างกับว่าฉันไม่เคยไปไหนมาไหนคนเดียว” จบคำพูดของกันตาภา สองสาวก็หัวเราะออกมาพร้อมๆกัน จากนั้นจึงแยกกันตรงด้านหน้าของบริษัท

กันตาภาเดินขึ้นลงบันไดของสถานีรถไฟใต้ดิน ในเวลาเร่งด่วนเช่นนี้ผู้คนที่ใช้บริการจึงมากมายเป็นพิเศษ ต่างก็รีบเร่งเอาตัวรอดเฉกเช่นวิถีชีวิตของคนในเมืองใหญ่

“โอ๊ย...” กันตาภาถูกชนเข้าอย่างจัง

“ขอโทษครับ ผมรีบจริงๆ อ้าว... ส้มโอ!”

“อ้าว... พี่โต้ง” กันตาภามองผู้ชายที่เดินชนตัวเอง ไม่คาดคิดว่าจะคือรวิ “จะไปไหนคะเนี่ย ทำไมถึงได้ดูรีบร้อนอย่างนี้”

“ก็เพิ่งออกมาจากบริษัทคุณเทมส์นั่นแหละ พี่เก็บกระเป๋าสตางค์ของคุณกายได้ เลยจะเอามาคืน แต่ประชาสัมพันธ์บอกว่าคุณกายออกไปได้ราวชั่วโมงแล้ว” รวิบอกด้วยน้ำเสียงร้อนใจ

“แล้วทำไมพี่โต้งไม่ฝากประชาสัมพันธ์เอาไว้ล่ะคะ?”

“เอ่อ... ตอนแรกพี่ก็คิดว่าจะทำอย่างนั้น แต่คุณกายบอกให้เอาไปคืนที่... แล้วก็ตัดสายไปเลย เขาคงอยากดูด้วยตาตัวเองมั้งว่ามีอะไรหายบ้างรึเปล่า” รวิตอบ ท้ายประโยคยังทำนำเสียงซื่อๆจนดูน่าสงสาร

“อะไรกัน ถ้าคิดว่าจะขโมยแล้วจะเอามาคืนอย่างนี้ทำไม ผู้ชายคนนี้คิดอะไรไม่เข้าท่า” กันตาภาบ่นพลางไม่เข้าใจว่า พนักงานทั้งบริษัทชื่นชมเขาได้อย่างไร ในเมื่อแต่ละเรื่องที่ได้ยินมานั้นมันติดลบเสียส่วนมาก

“ช่างเขาเถอะ เราทำดีสักวันต้องได้ดี” รวิบอกพลางยิ้มด้วยความจริงใจจนคนมองนึกสงสาร “ถึงแม้มันจะมีอุปสรรคสักหน่อยก็ช่างมัน วันนี้คงต้องยอมให้เจ้านายตัดเงินเพราะถ้าพี่เอากระเป๋าไปให้คุณกายที่... ยังไงก็คงต้องเข้างานสายหลายชั่วโมง”

“อ้าว อย่างนี้ก็แย่สิคะ เพิ่งได้งานทำไม่ใช่เหรอ”

“ไม่เป็นไรเดี๋ยวพี่รีบไป ไม่คุยแล้วนะเดี๋ยวจะสายไปใหญ่” พูดจบรวิก็ทำท่าจะเดินหนีหากแต่มือนุ่มๆของกันตาภาคว้าเข้าที่ท่อนแขนเสียก่อน

“พี่โต้งไปทำงานเถอะค่ะ เดี๋ยวส้มโอจะเป็นคนเอากระเป๋าสตางค์ไปให้เขาเอง” กันตาภาบอกด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด

“อย่าดีกว่า พี่รับปากแล้วว่าจะเอาไปส่งเขาถึงที่ เดี๋ยวจะเสียคำพูด คุณกายยิ่งย้ำมาว่ามีเรื่องต้องใช้ของที่อยู่ในกระเป๋าด่วนที่สุด” รวิบอก

“แล้วเขาจะไปที่... ทำไมกันคะ” กันตาภาถามอย่างสงสัย

“คิดว่าน่าจะไปพบลูกค้านะ ไม่งั้นคงไม่พูดว่าจะใช้ของในกระเป๋า” รวิแสร้งทำสีหน้าเศร้าไม่ต่างจากคนเจียมตัว “แต่พี่ว่าพี่เอาไปให้เองดีกว่า อีกอย่างพี่ไม่อยากให้คนในครอบครัวของส้มโอรู้ว่าพี่ทำอะไร อยู่ที่ไหน พี่...อาย”

ได้ฟังเช่นนั้นกันตาภายิ่งเกิดความสงสารมากขึ้นไปอีก จึงรับปากด้วยน้ำเสียงแข็งขัน “รับรองค่ะว่าเรื่องที่เราเจอกัน เรื่องที่ส้มโอจะเอากระเป๋าสตางค์ไปคืนคุณกายจะไม่มีใครรู้เด็ดขาด ทีนี้พี่โต้งจะวางใจรึยังคะ รีบไปทำงานของพี่ดีกว่า แค่กระเป๋าสตางค์ใบเดียวอย่าให้มันต้องเป็นภาระเลยค่ะ”

“งั้นพี่ฝากด้วยนะ” รวิพูดพลางส่งกระดาษใบจิ๋วซึ่งมีที่อยู่อย่างละเอียด

“ค่ะ เราแยกกันตรงนี้เลยนะคะ เพราะดูจากแผนที่ ส้มโอคงต้องนั่งแท็กซี่ น่าจะสะดวกกว่า”

“จ้ะ ขอบใจส้มโอจริงๆนะ”

ทันทีที่แยกจากกัน กันตาภาก็หมุนตัวกลับเดินขึ้นบันไดสถานีรถไฟใต้ดิน โดยที่ไม่รู้ตัวว่ารวิแอบสะกดรอยตามมาตลอดเวลา แม้กระทั่งเธอขึ้นแท็กซี่ รวิก็เรียกแท็กซี่แล้วสั่งให้ตามประกบไปอย่างไม่คลาดสายตา ระหว่างที่อยู่บนแท็กซี่ก็จัดการต่อสายถึงเวทิศ ซึ่งคาดการว่าต้องเดินทางไปถึงยังโรงแรมที่ตนเปิดไว้รออยู่แล้ว ทั้งยังทิ้งท้ายให้เวทิศตายใจว่า...

‘คุณกายเข้าไปอาบน้ำ จิบเบียร์รอให้สบายใจได้เลยนะครับ ไม่เกินสามสิบนาที ของขวัญแสนหวานจะไปหาถึงเตียง อ้อ... อย่าล็อกประตูห้องนะครับ’

หากเวทิศกลับรู้สึกแปลกใจอยู่ไม่น้อย เมื่อเดินเข้ามาในโรงแรมระดับสี่ดาวซึ่งไม่เคยคุ้นชินเท่าไหร่นักหรืออาจจะเป็นเพราะสถานที่ที่ของขวัญแสนหวานสะดวกสบาย เขาก็คร้านจะหาเหตุผลเมื่อขึ้นมาถึงหน้าห้องที่นัดหมายและเปิดประตูเข้ามาเจอกับเตียงกว้าง ปิดผ้าม่านทึบเปิดไฟสลัว สิ่งของอำนวยความสะดวกสบายครบครันก็ถือว่าไม่ได้ด้อยกว่ามาตรฐานเท่าไหร่นัก ที่สำคัญเมื่อเดินลึกเข้าไปในห้องน้ำกว้าง ภายในอ่างอาบน้ำที่เต็มไปด้วยฟองสบู่ยังมีแก้วเบียร์เย็นเฉียบตั้งไว้ตรงขอบอ่าง เพียงเท่านั้นก็ทำให้เพลย์บอยหนุ่มที่เครียดจากการทำงานมาทั้งวัน สลัดเสื้อผ้าบนร่างกายทิ้งแล้วก้าวเข้าไปอยู่ในอ่างพร้อมจิบเบียร์เย็นเฉียบอย่างสบายอารมณ์


ในขณะที่กันตาภาเพิ่งเดินทางมาถึงโรงแรม หญิงสาวก้าวเรื่อยเข้าไปตามหมายเลขที่ระบุชั้น ห้องไว้อย่างชัดเจน และเดินไปหยุดที่หน้าห้องที่มีหมายเลขตรงกับรายละเอียดในมือ

ก๊อก... ก๊อก...

ไม่มีเสียงขานรับแต่อย่างใด ครั้นลงมือเคาะติดๆกันอีกครั้งก็ยังเงียบกริบเช่นเดิม หญิงสาวถอนหายใจเฮือก หันรีหันขวางเพราะไม่รู้ว่าจะทำเช่นใด จึงถือวิสาสะลองเปิดประตูเข้าไปด้านในและต้องแปลกใจอยู่ไม่น้อยเมื่อเจ้าของห้องไม่ได้ล็อกประตู

“ขอโทษนะคะ มีคนอยู่ไหมคะ...” ถามเมื่อเข้ามาอยู่ในห้องเรียบร้อยแล้ว โดยไม่รู้ตัวว่ารวิแอบมองอยู่ที่มุมตึกด้วยความสะใจ เขาคิดว่าหากกันตาภาเข้าไปแล้วไม่กลับออกมาภายในเวลาสิบนาที ก็แปลว่าแผนการของเขานั้นสำเร็จ แต่ทว่าไม่เป็นเช่นนั้น เขาก็เตรียมหาของขวัญไว้รอบรับอารมณ์สวาทของเวทิศไว้อยู่แล้ว ทว่าคงเป็นไปตามที่วางแผนไว้เพราะเสือหนุ่มที่มีพลังขับเคลื่อนทางเพศอย่างมากล้นบวกเข้ากับฤทธิ์ของยาปลุกเซ็กส์ที่อยู่ในเบียร์เย็นเฉียบ

เวทิศก็คงไม่ต่างจากเสือหนุ่มกลัดมัน คงไม่มีทางปล่อยกันตาภาให้รอดมือ

เสียงปกติที่ไม่ได้ปรุงแต่งหรือยั่วยุที่ดังขึ้นด้านนอก กลับทำให้เวทิศรู้สึกว่าเสียงที่ได้ยินนั้นช่างเร้าอารมณ์ยิ่งนัก “มีอะไร คนอยู่ข้างใน”

“เอากระเป๋าสตางค์มาคืนค่ะ” กันตาภาบอกพลางกวาดสายตาหาต้นกำเนิดของเสียง

เวทิศสะบัดศีรษะแรงๆ กับความร้อนรุ่มที่แผ่ซ่านขึ้นในร่างกายพลางชันตัวลุกขึ้นจากอ่างอาบน้ำแล้วเดินออกจากห้องน้ำราวโดยไม่มีสิ่งใดปกปิดร่างกาย “อืม... สวยใช้ได้นี่”

กันตาภาเอี้ยวใบหน้าหันไปยังต้นกำเนิดของเสียงแล้วก็ต้องตกใจจนแทบสิ้นสติ เมื่อพบว่าเจ้าของเสียงนั้นยืนพิงกับขอบประตูห้องน้ำมองตนด้วยแววตาหื่นกระหาย ซ้ำร้ายคือเขาเปลือยเปล่าเปิดเผยร่างกายอย่างไม่ละอาย

ความอลังการกลางกายแกร่งมันทำให้เธอพูดไม่บอก แต่สัญชาตญาณสั่งให้พาตัวเองออกไปจากห้องนี้ให้เร็วที่สุด กันตาภาจึงหมุนตัวหันหลังให้เขาคิดอย่างเดียวว่าต้องวิ่งให้เร็วที่สุด!

“กรี๊ดดด...”

แค่เห็น ‘ของขวัญแสนสวย’ ตั้งท่าจะวิ่งหนี เวทิศก็ก้าวตามอย่างรวดเร็วและใช้ท่อนแขนรวบเข้าที่เอวคอดกิ่ว รู้สึกคึกคะนองเต็มที่เมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องของเธอ “จะไปไหน เรามาสนุกกันดีกว่า จะได้ไม่เสียเวลา”

กันตาภากรีดร้องอย่างตกใจเมื่อเขากระโจกเข้าใส่แล้วพาล้มลงบนเตียง “กรี๊ด... ไอ้... อุ๊บ!”

เสียงต่อว่าหลุดหายเข้าไปในลำคอหนา ริมฝีปากร้อนรุ่มที่ทาบทับลงมาอย่างรวดเร็วทำให้กันตาภาเบิกตากว้างตกใจที่จู่ๆ ผู้ชายคนนี้ก็ปล้ำจูบตัวเองโดยที่ยังไม่ทันได้ห้ามปรามสักนิด จูบเขาเร่าร้อนและเอาแต่ใจพอๆกับแรงดิ้นของเธอ ยิ่งเธอต่อต้านทุบตีตามเนื้อตัวเขามากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งกดริมฝีปากลงมาหนักๆให้เนื้อบอบบางกระแทกกับฟันแรงขึ้นเท่านั้น


เวลาที่ผ่านไปกว่าสิบนาทีประตูห้องก็ยังปิดสนิทเช่นเดิมก็ทำให้รวิอยากจะระเบิดเสียงหัวเราะให้ก้องฟ้านัก ไม่เสียแรงที่เขาทุ่มเงินหมดหน้าตักไปกับการเตรียมทุกอย่างให้ออกมาประจวบเหมาะเช่นนี้ แต่สิ่งที่ทำคือการเดินลงไปชั้นล่างเพื่อพบกับพนักงานทำความสะอาดของโรงแรมที่รู้จักมักคุ้นกันมาก่อน

“อย่าลืมที่ตกลงกันไว้ล่ะ พอเจ้านายฉันออกมาพี่เข้าไปทำความสะอาดก็เก็บของมาให้ฉันด้วย” รวิบอกพร้อมจ่ายสินน้ำใจให้กับแม่บ้านวัยกลางคน

“โห... ได้รับใช้เจ้านายกระเป๋าหนักอย่างนี้ก็สบายเลยสิ” แม่บ้านรับธนบัตรสีเทามากำไว้ในมืออย่างรวดเร็ว "ว่าแต่คนรวยนี่ชอบทำอะไรแปลกๆนะ"

“ไม่งั้นเขาจะเรียกว่าคนรวยเหรอพี่ เราคนจนก็มีหน้าที่ทำตามคำสั่งเพราะเงิน อย่าไปสนใจพวกเขาเลย อย่าลืมนะ ได้ของแล้วโทรเข้าเบอร์ที่ผมให้ไว้ เดี๋ยวเจ้านายเขาจ่ายอีกไม่อั้น”

“รู้แล้วน่า เรื่องแค่นี้ไม่มีพลาด” แม่บ้านรับคำพลางยัดเงินใส่กระเป๋าเสื้อของตัวเอง “หายไปตั้งนาน นึกว่าจะไม่ได้เจอกันซะแล้ว”
รวิยิ้มรับก่อนที่จะเดินออกมาจากโรงแรมที่เคยใช้บริการอยู่เป็นประจำ จึงไม่แปลกที่จะรู้จักมักคุ้นกับพนักงานหลายๆคน เมื่อก่อนนี้งานหาสาวๆให้ลูกค้าในผับก็ทำเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ซ้ำร้ายยังมีสาวๆที่ให้เบอร์โทรไว้ ถ้ามีลูกค้าสนใจก็เรียกใช้บริการได้ตลอดเวลา แค่มองตาก็รู้ใจอีกฝ่ายได้ความสุข อีกฝ่ายได้เงินมาดำรงชีวิต ใครหลายคนอาจจะมองว่ามันคือวงจรอุบาทว์ แต่ก็นั่นแหละ โลกแห่งความจริงที่ทุกคนต้องดิ้นรนหาดำรงชีพ โลกในด้านมืดที่ไม่ได้สดใสสวยงาม มันมืดมนจนเขาไม่สามารถกลับไปใช้ชีวิตอย่างที่เคยตั้งใจได้

‘ในเมื่อเป็นคนดีแล้วมันถูกรังแก กดขี่ข่มเหง ก็ขอเป็นคนเลวที่ไม่ต้องถูกใครมาเอาเปรียบก็แล้วกัน’ รวิคิดพลางเดินออกไปยังถนนใหญ่ ต่อไปนี้เขาจะหาผลประโยชน์ที่ควรได้ เรียกร้องมันให้หนัก เอาให้พวกมันต้องรู้สึกนึกที่ชอบรังแกคนไม่มีทางสู้


ความสะใจของคนคนหนึ่งกลับทำให้หญิงสาวคนหนึ่งต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน ไม่อาจช่วยเหลือตัวเองได้ เพราะไม่อาจสู้แรงของผู้ชายที่มีร่างกายใหญ่โตกว่าตนอย่างน้อยสองเท่า ยิ่งเขาลุกขึ้นนั่งคร่อมช่วงหน้าขาเอาไว้แล้วกดข้อมือทั้งสองข้างไว้เหนือศีรษะด้วยมือเพียงข้างเดียว อีกมือก็กระชากเสื้อเชิ้ตจนหลุดลุ่ย

“ไม่ๆ อย่าทำร้ายฉัน ขอร้อง”

“อา... เธอกัดปากฉันจนได้เลือด แล้วยังมาหาว่าฉันจะทำร้ายเธออีกรึ ของขวัญ” เวทิศร้อนรุ่มไปด้วยเพลิงปรารถนาจนไม่มีเวลากำจัดเสื้อผ้าออกจากร่างกายของเธอ แค่ทึ้งกระดุมเสื้อเชิ้ตออก ปลดตะขอบราเซียร์ที่อยู่กลางหว่างอก ปัดมันให้พ้นทางโดยที่สองสิ่งนี้ยังคล้องอยู่ในแขนเรียวงาม แต่ทรวงอกอวบอิ่มที่ลอยเด่นล่อตาล่อใจอยู่ตรงหน้านี้ทำให้ปากคอแห้งผากด้วยความต้องการ

กันตาภาบิดตัวหนีแต่นั่นยิ่งทำให้คนที่ถูกยาปลุกเซ็กส์ควบคุมเห็นว่าเป็นการบิดตัวเชิญชวน “ของขวัญกับผีน่ะสิ ไอ้บ้า ไอ้เลว ฉันบอกให้ปล่อย”

“โอออ... รู้ไหมว่ายิ่งดิ้น ฉันยิ่งคึก”

จบคำพูดตรงไปตรงมานั้นก็ทำให้กันตาภานิ่งไปชั่วขณะ และหวีดร้องออกมาอีกครั้งเมื่อเขาอ้าปากรวบยอดทรวงข้างหนึ่งเอาไว้แล้วสะบัดลิ้นระรัว “ไม่... โอ...”

ตั้งแต่เกิดมาเวทิศไม่เคยปรารถนาผู้หญิงคนไหนเท่าของขวัญแสนอร่อยตรงหน้านี้เลย ทรวงอกเธออวบอิ่ม ยอดทรวงสีสวยถูกใจแถมยังรสชาติแสนวิเศษ มันนุ่มหยุ่น เหมาะมือ แถมอีกข้างยังหดเกร็งเบียดเสียดกลางฝ่ามือที่กำลังเคล้นคลึง และเวทิศก็พบว่าทุกครั้งที่ตนออกแรงดูด แผ่นหลังบอบบางจะแอ่นโค้ง สองมือของเธอชะงักการประทุษร้ายร่างกายเขาไปชั่วขณะ

“ชอบก็ไม่บอกกันดีๆ รู้ไหมว่าไม่มีปัญหากับการดูดนมสดสักครั้ง”

กันตาภาหอบหายใจแรง ไม่เข้าใจว่าที่เขาพูดนั้นหมายถึงอะไร จนปากร้อนก้มลงที่ยอดทรวงอีกข้างหนึ่งและทำทุกขั้นตอนอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง “มะ...ไม่ อย่า... ทำ”

ทุกครั้งที่เขาออกแรงดูดยอดทรวง ความเสียวซ่านก็แล่นพล่านไปตามเส้นเลือด มันไหลเวียนอยู่ในตัวอย่างไม่มีที่สิ้นสุด หากเรี่ยวแรงดิ้นรนที่ค่อยๆเลือนหายไปกลับฮึดสู้ขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อรู้สึกว่ามือใหญ่ของเขาเอื้อมไปดึงแพนตี้ตัวบางออกจากสะโพก
“หยุด... หยุด! ฉันขอร้อง อย่าข่มขืนฉันเลย ฉันเป็น...”

“เป็นของขวัญที่วิเศษที่สุด เธอหอมหวานจนฉันทนไม่ไหวแล้วนะคนสวย” หากไม่สามารถถอดแพนตี้ตัวบางได้อย่างสะดวกเพราะเจ้าตัวไม่ให้ความร่วมมือ เวทิศก็กระชากมันออกในอึดใจต่อมาพร้อมยกสะโพกของตัวเองขึ้นเล็กน้อย หันมายิ้มให้เธอราวกับว่าสนุกนักหนาเมื่อได้ยินเสียงหวีดร้องอย่างตกใจ พลางดึงกระโปรงขึ้นมากองบริเวณหน้าท้องแบนราบและตวัดขาเรียวงามข้างหนึ่งขึ้นพาดบ่า ความงดงามที่ทำให้เขาจ้องมองไม่กระพริบตา “โอ... เธอสวยอะไรอย่างนี้”

แต่สิ่งที่เขาทำกลับทำให้กันตาภาร้องไห้ออกมาด้วยความกลัว ความอับอายที่ผู้ชายคนนี้กำลังหยิบยื่นให้มันทำให้น้ำตาไหลรินออกมาราวเขื่อนทำนบพัง ดิ้นเอาเป็นเอาตายเมื่อถูกล็อกไว้ในท่าทางน่าอาย ทั้งยังรู้สึกถึงความร้อนจากแก่นกายที่เจ้าตัวกำลังใช้ส่วนปลายของมันกรีดไล้ขึ้นลงราวกับกระตุ้นเร้าให้เธอได้โอนอ่อนผ่อนตาม!

“ไม่ไหวแล้วนะคนสวย ฉันต้องได้เธอเดี๋ยวนี้!”

“กรี๊ดดด...”

เสียงกรีดร้องดังขึ้นพร้อมๆกับการแทรกตัวเข้าไปในร่างงดงามจังหวะเดียว ความรัดรึงที่โอบล้อมอยู่รอบกายนั้นยังไม่ได้ทำให้คนที่ถูกครอบงำด้วยยาปลุกเซ็กส์รู้สึกตัวได้เท่า ความเหนียวหนืดในจุดเชื่อมประสาน เลือดพรหมจรรย์ที่ปรากฏอยู่อย่างชัดเจนทำให้เวทิศเกือบถอนตัวออกมา แต่จิตใจในด้านที่ถูกครอบงำกลับสั่งให้เขาซุกซบอยู่ในแอ่งเนื้อรัดรึงนั่นเช่นเดิม

“ให้ตายเถอะ! ผู้หญิงบริสุทธิ์อย่างนั้นเหรอ?!”

“ฮือ... ออกไปๆ เจ็บ ฉันเจ็บ! ฮือ...”

เวทิศทำตัวไม่ถูกเมือเห็นผู้หญิงตรงหน้าร้องไห้อย่างเอาเป็นเอาตาย แต่จะให้เขาถอยตอนนี้ก็ไม่สามารถที่จะทำได้ สมองสั่งการให้ขยับเขยื้อน ตักตวงเอาความสุขจากร่างกายงดงามนี้ในขณะที่จิตใต้สำนึกสั่งให้ล่าถอยจากเธอ ความสับสน ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้นั้นทำให้เวทิศเอะใจว่าต้องถูกวางยาปลุกเซ็กส์เป็นแน่ และมันกำลังออกฤทธิ์อย่างเต็มที่!

“โอ... ของขวัญ ฉันหยุดตัวเองไม่ได้” เวทิศบอกทั้งยังอยากรู้นักว่าใครมันบังอาจเล่นตลกกับเขาเช่นนี้ จะขยับตัวอย่างใจปรารถนาก็ทำได้ลำบากนัก เธอเล็กแคบ รัดแน่นจนแทบจะถึงจุดแตกดับในครั้งแรกที่เข้าไปซุกซบ แต่ชายเจนโลกก็มีวิธีปลดปล่อยตัวเองและสลัดสถานการณ์อันน่าอึดอัดนี้ได้อย่างซ่านใจ

กันตาภารู้สึกเหมือนถูกแยกร่าง ไม่รู้ว่าจะทำอะไรได้นอกจากร้องไห้ ความเจ็บที่เขาเบียดเสียดแทบจะเป็นเนื้อเดียวนี้ยิ่งเพิ่มมากขึ้น เมื่อเขาลดขาที่พาดอยู่บนบ่าลงกับเตียงแล้วโถมตัวมาคลอเคลีย ซอกคอ และ

หากสิ่งที่ทำให้กันตาภาต้องตกใจกับความรู้สึกเสียวซ่านที่พุ่งพล่านขึ้นมาก็คือ ทุกครั้งที่เขาดูดดึงทรวงอก กางฝ่ามือใหญ่ออกแล้วทาบมันลงบนทรวงอก คลุกเคล้าทั้งใบหน้าเข้ากับกลางหว่างอก โดยที่หมุนวนสะโพกเป็นวงกลม คลื่นความเสียวกระสันที่วิ่งพล่านไปทุกเส้นประสาทมันทำให้เธอขนลุกชัน หลุดเสียงครางน่าอายออกมาจนต้องรีบยกมือขึ้นมาปิดปาก!

“ร้องออกมา ร้องดังๆ มันจะทำให้เธอไม่เจ็บไปมากกว่านี้” เวทิศบอกแต่เจ้าของร่างน่าปรารถนายังดื้อรั้น ส่ายหน้าเร็วๆจนผมเผ้ากระจาย “เร็วๆ คนสวย ก่อนที่ฉันจะควบคุมตัวเองไม่ได้”

กันตาภาหลับตาแน่น ได้ยินชัดเจน และรับรู้ได้แจ่มชัดกว่าทุกครั้ง หากเธออดสูใจยิ่งนักที่ร่างกายทรยศ มันตื่นเต้น ซ่านสยิวตอบรับการกระทำของชายแปลกหน้าอย่างน่าอาย หากให้กรีดร้อง ครวญครางออกมาอย่างที่เขากำลังสั่ง เธอคงจะสูญสิ้นศรัทธาในตัวเองไปตลอดกาล

“ดื้อ!”

คำเดียวสั้นที่เวทิศบอกเธอแล้วหยุดฟอนเฟ้นร่างกายของเธอ ดึงข้อมือเรียวที่ปิดปากเธอออก ก้มลงมอบจุมพิตเร่าร้อนให้อย่างดูดดื่ม

“อื้อ...” กันตาภาหน้ามืดกับจุมพิตดูดดื่มที่เรียกร้องเอาบางสิ่งบางอย่างจากเธอ ในขณะที่ร่างกายแทบจะทนรับกับความเสียวซ่านที่เกิดจากการหมุนวนสะโพกไม่หยุดหย่อน แผงอกกว้างที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของบุรุษเพศอันสมบูรณ์เบียดเสียด คลุกเคล้ากับทรวงอกทั้งสองของเธอจนแทบจะเป็นเนื้อเดียว

เสียงครางและจูบตอบอย่างเงอะงะทำให้เขาพึงใจ เธอฉ่ำหวาน หยาดเยิ้มแม้ในตอนที่แนบสนิท นั่นคือสัญญาณที่ทำให้เวทิศมั่นใจว่าความเจ็บปวดของเธอมันเริ่มเลือนหาย นับจากวินาทีนี้เขาควรที่จะขยับเขยื้อนตามที่ใจปรารถนา พลางเอ่ยถ้อยคำรัญจวนใจชิดริมฝีปากอิ่มที่บวมเจ่อขึ้นเล็กน้อย “เริ่มเลยนะคนสวย รู้ไหมว่าเธอร้อนจนฉันแทบจะไหม้แล้ว”

“โอ๊ะ! โอ...” กันตาภาอุทานออกมาด้วยความตกใจกับความเจ็บที่กรีดกลางกายเมื่อเขาถอยห่างออกไปอย่างเชื่องช้า แต่เมื่อเขากลับเข้ามาเติมเต็มอีกครั้งมันกลับทำให้เธอยอมจำนน ความเสียวซ่านหวานแหลมที่บุกรุกเข้ามาครั้งแล้วครั้งเล่า มันทำให้เธอหน้ามืด ไม่รู้ว่าจะจัดการกับตัวเองอย่างไร มือไม้ดูเกะกะราวกับไม่ใช่ส่วนหนึ่งของร่างกาย

“กอดฉัน สัมผัสฉัน ทำทุกอย่างตามใจเลยสาวน้อย” เวทิศไม่เคยให้สิทธิ์ผู้หญิงหน้าไหนมากเท่าเธอ ไม่เคยอดทนโอ้โลมปฏิโลมใครอย่างนี้มาก่อน

“ฉะ...ฉัน” กันตาภาไม่รู้ว่าจะปฏิเสธอย่างไร เมื่อเธอไม่ทำตามเขาก็ดึงมือทั้งสองข้างมาวางที่บ่าหนาของตัวเอง เขาช่างรู้ทัน ช่างทำให้เธอปล่อยตัวปล่อยใจไปอย่างง่ายดายนัก

รูปร่างอวบอิ่มน่าปรารถนาของเธอช่างดูเย้ายวนใจเมื่อบิดเร่าอยู่ใต้ร่าง ยามเขาเขยื้อนเข้าไปหา... เธอก็อุ่นจัดบีบคั้น ยามเขาล่าถอยร่างกายของเธอก็เหมือนแม่เหล็กที่ดูดดึงให้รีบสอดแทรกเข้าไปอีกครั้งและอีกหลายๆครั้ง จากเชื่องช้ากลายเป็นเร็วรี่ ถี่กระชั้น

“โอ... เธอหล่นมาบนเตียงของฉันได้ยังไงกันนะ แม่สาวบริสุทธิ์” เวทิศพร่ำความรู้สึกอัศจรรย์ใจออกมาได้มากกว่าทุกครั้ง เธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่อยู่ใต้ร่างเขาแล้วทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง แถมยังไม่ยอมทำตามที่เขาบอกเลยสักนิด แต่กลับทำให้เขารวดร้าว เหยียดขยายไปด้วยความต้องการอันไร้ขีดจำกัด

ฤทธิ์ของยาอันรุนแรงที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายทำให้เวทิศไม่อาจยับยั้งชั่งใจตัวเอง โหมร่างเข้าใส่อย่างถึงพริกถึงขิง เร่งจังหวะอย่างไม่ยั้งและพุ่งถึงเส้นชัยอย่างดุเดือดทะลุองศา และกลับลงมาซุกซบใบหน้าที่ซอกคอหอมกรุ่น

เนิ่นนานนักที่เวทิศยังคลอเคลียกับผิวเนื้อนวลเนียน ดื่มด่ำกับความรู้สึกสุดยอดอันเข้มข้นพลางคิดว่าคงเป็นเพราะฤทธิ์ยาที่ทำให้เขาถึงจุดแตกดับอย่างดุเดือด โดยลืมนึกไปว่าทิ้งให้สาวน้อยไร้ประสบการณ์ให้หลงทางอยู่บนเส้นทางปรารถนา



ศิริพารา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 ก.ค. 2558, 20:56:59 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 12 ก.ค. 2558, 20:56:59 น.

จำนวนการเข้าชม : 1229





<< ตอนที่ 3 100%   ตอนที่ 5 100% >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account