เมียบำเรอครึ่งคืน
“ทำไมเธอไม่ห้ามฉัน! โอ... ไม่ไหวแล้วนะ ทำไมถึงน่ากินอย่างนี้...”
จบคำพูดเวทิศก็คุกเข่าก้มปากและจมูกเข้าหาส่วนที่ ‘น่ากิน’
และทำตามความอยากของตัวเองอย่างไม่รีรอ



‘กันตาภา’ พนักงานเงินเดือนระดับล่างมีเหตุผลที่ดีในการ ‘ดูถูก’ นักธุรกิจหนุ่มมหาเศรษฐี
รูปหล่อ คมเข้ม เซ็กซี่ และหยิ่งยโสอย่าง ‘เวทิศ วิชิตเมธา’ CEO หนุ่มของบริษัทที่เธอทำงานอยู่
และผู้ชายคนนี้เองที่เป็น ‘ต้นเหตุ’ ที่ทำให้เธอ ‘ถูกล่อลวง’ ไปที่โรงแรมในคืนนั้น เขาแย่งชิงเอา
‘ความสาว’ และศักดิ์ศรีความเป็นหญิงของเธอไปด้วยกำลัง ทิ้งให้เธอถูกความอัปยศครั้งนั้นตาม
หลอกหลอนอยู่ตลอดเวลา!



จริงอยู่ ตอนนี้เขาอาจเต็มใจที่จะชดใช้ความผิดด้วยการปกป้องและดูแลเธอในฐานะ
‘เมียที่เกิดจากความผิดพลาด’ ด้วยข้อเสนอที่ยั่วยวนใจ... ทั้งเครื่องเพชร เงินสดในบัญชีทุกๆ เดือน
เสื้อผ้าแบรนด์เนม รถยนต์คันหรู และคฤหาสน์ แต่ผู้หญิงที่ถือดีและหยิ่งผยองอย่างกันตาภาไม่มีทาง
ที่จะยอมรับมัน ไม่มีสิ่งใดในโลกที่จะสามารถลบเลือนความเกลียดชังที่มีต่อเขา... หรือความโหดร้ายที่
เขาทำไว้กับเธอได้ แต่เวทิศ ผู้ชายจอมโอหังก็มีวิธีการคุกคาม ข่มขู่ และ ‘บังคับ’ ในรูปแบบของเขาเอง
เสมอๆ ซึ่งซาตานหนุ่มรู้ดีว่าหญิงสาวที่ไร้เดียงสาอย่างเธอยังมีเรื่องที่ต้องเรียนรู้อีกมากเพื่อทําหน้าที่ใน
ฐานะ ‘เมียลับ’ และกันตาภาเองก็รู้ดีไม่แตกต่างกันว่าเธอจะต้องเรียนรู้มันให้ไว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
การเรียนรู้เรื่อง ‘เสแสร้งรัก’ เพื่อเอาตัวรอดจากอํานาจอันอํามหิตของเขาเพื่อรอวันหลบหนี!



“คนจะรักกันมันไม่จำเป็นต้องใช้แรงหรอกส้มโอ โยกเบาๆ คลึงนิ่มๆ ก็สุขหาที่เปรียบไม่ได้แล้ว
แต่ถ้าเธอยังหัวรั้น ดื้อดึงอยู่อย่างนี้ อีกนานกว่าจะรู้ว่าต้องควบคุมฉันยังไง”



“มาแล้วค่ะคุณขา ศิริพารา นักประพันธ์ระดับ Bestselling Author
มีหลายๆ ท่านถามหาผลงานเล่มเล็กของเธอกันจนสายโทรศัพท์แทบไหม้ หยิบไปเลยค่ะ
แค่นามปากกาก็การันตีความมัน! เพราะถ้าหยิบไม่ทัน หมดก่อนแบบรอบที่แล้ว
จะหาว่าดิฉันไม่บอกไม่ได้นะคะ”
รองสนิท ณ สงขลา บรรณาธิการที่ปรึกษา
Tags: เมียบำเรอครึ่งคืน, เวทิศ, กันตาภา

ตอน: ตอนที่ 10 100%

เมื่อเข้ามาอยู่ในห้องทำงาน เวทิศก็กดบ่าบอบบางทั้งสองข้างให้นั่งลงบนเก้าอี้ทำงานของตนแล้วเอื้อมมือไปเปิดคอมพิวเตอร์อีกครั้ง
“ถอยออกไปหน่อยได้ไหม ทำไมต้องเข้ามาใกล้อย่างนี้ด้วย” กันตาภาบอกเมื่อเขาหย่อนสะโพกสอบลงบนที่วางแขนใช้มือข้างหนึ่งเปิดคอมพิวเตอร์และใช้มืออีกข้างหนึ่งค้ำกับที่วางแขนอีกข้าง นั่นเท่ากับว่าเขากำลังโอบเธออยู่กลายๆ
“เงียบแล้วตั้งใจดู” เวทิศบอกพลางก้มตัวลงมาให้ใบหน้าอยู่ใกล้กับใบหน้างดงาม ทันทีที่ได้ยินเสียงกระซิบข้างหู เธอก็เบี่ยงตัวหันมามองเขาด้วยสายตาตำหนิ แต่นั่นก็ทำให้ปลายจมูกของเขาเข้าใกล้กับแก้มเนียน ที่ตอนนี้เป็นสีชมพูระเรื่อด้วยความเขินอาย
กันตาภาเอนตัวหนีได้ไม่มากเพราะติดอยู่ในวงแขนหลวมๆทว่าแข็งแกร่ง และต้องหันกลับมานั่งตัวตรงเช่นเดิมเมื่อเห็นเขาบุ้ยใบ้ไปยังจอคอมพิวเตอร์
หากภาพเคลื่อนไหวของหญิงชายคู่หนึ่งที่กำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่บนเตียง ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นตัวเองและเขาที่กำลังคลุกเคล้ากันอยู่ขอบเตียงกันตาภารีบยกมือขึ้นปิดปาก ทั้งอับอายและตกใจสุดชีวิต เสียงครวญครางที่ดังออกมามันเป็นเสียงที่บ่งบอกว่ากำลังเริงร้อน มีความสุข ไม่เหมือนคนที่ถูกขืนใจเลยสักนิด
เวทิศปิดวิดีโอเมื่อรู้สึกได้ว่าผู้หญิงที่นั่งซ้อนอยู่ด้านหน้านี้กำลังตัวสั่น จึงเอื้อมมือลูบบริเวณหัวไหล่ ต้นแขนเธอขึ้นลงเร็วๆอย่างให้กำลังใจ “นี่ไงล่ะ ลางสังหรณ์ที่ฉันคิดเอาไว้”
กันตาภาแหงนหน้ามองเขาพลางถามด้วยน้ำเสียงกระท่อนกระแท่น “คะ...คุณได้มัน มายังไง?”
“ไอ้ระยำรวิมันคงเป็นคนส่งมา มันวางอยู่บนโต๊ะ ฉันเปิดมันดูแล้วถึงได้ให้คนไปตามเธอ”
“ฉัน... ไม่รู้ว่า เรื่อง มันจะเป็นอย่างนี้ ทำยังไงล่ะ จะทำยังไง?!” กันตาภายังตั้งคำถามแทบไม่เป็นประโยค จนคนฟังนึกสงสาร เข้าใจความรู้สึกของเธอดีว่ากำลังเกิดความกลัว
กริ๊ง... กริ๊ง... กริ๊ง...
หากเสียงโทรศัพท์ที่กรีดร้องขึ้นทำให้กันตาภาสะดุ้งเฮือก ควานหาโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อสูทตัวเข้ารูปออกมา ท่าทางกลัวและมือไม้ที่สั่นเป็นเจ้าเข้าทำให้เวทิศปรายตามองยังหน้าจอโทรศัพท์และแย่งมันมาจากมือของเธอ เมื่อเห็นว่าชื่อที่โชว์หราอยู่บนหน้าจอคือไอ้ระยำที่มันวางแผนเรื่องทุกอย่างขึ้น
“มึงจะเอายังไง ไอ้ชาติชั่ว” เวทิศถามด้วยน้ำเสียงกร้าวในขณะที่ปลายสายยังไม่ได้เอ่ยสิ่งใดออกมาสักคำ หากเสียงหัวเราะที่ดังทำให้เขาอยากกระทืบมันให้จมธรณี “มึงไม่ตายดีแน่”
“โอ๊ะๆ ก่อนตายกูคงเอาหนังเอ็กซ์ที่พวกมึงแสดงไปขายในตลาดมืด โปรโมทหน่อยว่าเป็นไฮโซมั่วกันในโรงแรมหรู กูดูแล้วเสียวสุดๆ มึงสองคนนี่เล่นหนังได้สมจริงมาก” รวิยังยั่วโมโหอย่างไม่เกรงกลัว
“มึงจะเอายังไง รีบพูดมาเลย” เวทิศข่มความโกรธไว้ รู้ว่าตัวเองเป็นรองทุกประตู
“มึงถามกูตรงๆ กูก็จะตอบตรงๆ เงินห้าสิบล้าน แลกกับหนังเอ็กซ์ของพวกมึงความยาวโดยที่ไม่ตัดต่อก็เกือบหกชั่วโมง ซี้ด... อึดดีนี่หว่า” รวิยังยั่วอารมณ์ต่อไป ทั้งที่รู้ดีว่าเวทิศเป็นคนจริง รักแรง เกลียดแรงแต่ในเวลานี้ไม่มีสิ่งใดสำคัญมากไปกว่าเงินอีกแล้ว
“ไม่มากไปหน่อยเหรอ เงินตั้งห้าสิบล้านแลกกับเรื่องชั่วๆที่มึงเป็นคนวางแผนขึ้นมา” เวทิศถามด้วยน้ำเสียงกร้าว ทว่าคนที่นั่งอยู่ใกล้ๆกลับเบิกตามองเขาอย่างตกใจเมื่อได้ยินว่ามันต้องการเงินจำนวนมาก
“ถ้ามึงคิดว่ามันมากไป อีกหนึ่งนาทีกูจะปล่อยภาพนิ่งลงในเฟสบุ๊ก ปล่อยให้คนแชร์ไปดูฟรีๆทั่วโลก แต่ไม่ต้องกลัวเดี๋ยวกูเบลอหน้าให้เรียบร้อย มึงว่า... พวกสื่อหนังสือต่างๆจะยอมทุ่มเงินซื้อไหมล่ะ”
“ก็คงซื้อ แต่มึงคงต้องฝันเอาล่ะว่าจะได้ถึงห้าสิบล้าน อย่างมากก็ไม่เกินล้าน”
หากคำพูดของเวทิศก็ไม่ได้ทำให้รวิจนมุมง่ายๆ “ฮ่า... ก็โอเค้ ถึงไม่ได้ห้าสิบล้านแต่ก็ได้กอดเงินล้าน แถมยังได้เห็นพวกมึงอับอายขายขี้หน้า ถึงมึงจะไม่อายแต่กูรับประกันว่าส้มโอไม่มีหน้าไปพบใครแน่ ก็ภาพมันชัดออกอย่างนั้น เห็นไปถึงไหนต่อไหน ที่สำคัญเปิดซิงกันด้วยนี่หว่า...”
เวทิศบดกรามแน่น ใบหน้าบึ้งตึง มืออีกข้างหนึ่งกำแน่นด้วยความโมโหสุดขีด หากทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าถามถึงความต้องการของมันต่อไป “แล้วกูจะมั่นใจได้ยังไงว่ามึงจะไม่ก็อปปี้ไว้อีกหลายชุด”
“กูยังเชื่อมึงว่าจะเอาเงินสดห้าสิบล้านมากแลก ถ้ามึงไม่เชื่อกู เราก็คงตกลงกันไม่รู้เรื่อง” รวิต่อรองอย่างมีชั้นเชิง
“ตกลง แล้วยังไงต่อ” เวทิศถามถึงรายละเอียดต่อไป
“มึงก็แค่เตรียมเงินสดไว้ให้ครบ ย้ำว่าเงินสดและห้ามตุกติก ห้ามแจ้งตำรวจ พรุ่งนี้สามทุ่มเจอกัน ส่วนสถานที่เดี๋ยวกูจะโทรมาบอกอีกที” รวิบอกอย่างอารมณ์ดีสุดๆ “อ้อ... ขอเตือนว่าถ้ามึงเล่นไม่ซื่อ ของขวัญที่มึงหลงใหลนักหนาได้กลายเป็นนางเอกหนังเอ็กซ์แน่”
เวทิศยื่นโทรศัพท์คืนให้กันตาภาเมื่อปลายสายตัดไปพลางจ้องใบหน้างดงามที่ดูร้อนใจและแววตาที่เป็นกังวลอย่างสงสาร
“ว่ายังไง พี่โต้งว่ายังไงบ้าง” กันตาภาถามด้วยท่าทีร้อนรน
“จนป่านนี้แล้วยังจะไปนับญาติกับไอ้ชั่วนั่นอีก” เวทิศฟังเธอเรียกไอ้เลวนั่นอย่างสนิทสนมแล้วขัดหู ขัดใจนัก ทีเขานี่ไม่เคยจะมองเห็นความดี
“ก็เคยเรียกจนติดปาก พูดมาสิว่าเขาจะเอายังไง จะเอาเงินห้าสิบล้านเลยเหรอ?” กันตาภาไม่มีอารมณ์จะมาต่อล้อต่อเถียงกับเขา และต้องทรุดตัวนั่งลงอย่างหมดแรงเมื่อไม่รู้ว่าจะไปหาเงินจำนวนมากมายนั้นมาจากไหน
“ก็มันว่าอย่างนั้น พรุ่งนี้มันให้ฉันเอาเงินสดไปให้ด้วยตัวเอง ส่วนสถานที่เดี๋ยวมันจะติดต่อมาอีกที” เวทิศว่าพลางพิงสะโพกสอบเข้ากับขอบโต๊ะทำงาน กอดอกมองใบหน้างดงามที่ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความกังวลใจ
“เราจะแจ้งตำรวจไหมคะ ที่เขาทำคือกรรโชกทรัพย์มันผิดกฎหมาย” กันตาภาออกความคิดเห็นหากแต่คนฟังกลับเผลอยิ้มเพราะเป็นครั้งแรกที่เธอพูดจากับเขาอย่างมีหางเสียง “คุณ! ฟังฉันอยู่รึเปล่า”
“ฟัง” ตอบออกมาสั้นๆแต่ประโยคหลังกลับพูดไปอีกเรื่อง “คราวหลังพูดคะขาอย่างนี้นะ ดูน่ารักขึ้นเป็นกอง”
กันตาภาถอนหายใจ ทำไมเขาถึงเล่นไม่รู้เวลาจริงๆนะ คนร้อนใจคิดพลางมองหน้าเขาด้วยสายตาตำหนิ “ที่คุณทำเป็นเล่นอยู่อย่างนี้เพราะต้องการแกล้งฉันใช่ไหม รู้ไหมว่าฉันกลัวแค่ไหน รู้ไหมว่าฉันอับอายจนจะบ้าตายอยู่แล้วที่ต้องเห็นตัวเองอยู่ในวิดีโอนั่น คุณพอใจ สะใจมากใช่ไหมที่เห็นฉันร้อนรนอยู่คนเดียวอย่างนี้”
“แล้วจะให้ทำอะไร มันอยากได้เงินห้าสิบล้าน ฉันก็ต้องเอาไปให้มันอยู่แล้ว จะร้อนรนทุกข์ใจไปตอนนี้มันก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นมา” เวทิศตอบ หากนั่นไม่ใช่คำตอบที่กันตาภาต้องการเพราะเธอคงไม่มีปัญหาไปหาเงินมากมายเช่นนั้นมาไถ่ภาพอัปยศของตัวเองแน่
“แล้วทำไมไม่แจ้งความหรือปรึกษาใครสักคนที่จะให้ความช่วยเหลือเราได้ เงินตั้งมากมายอย่างนั้นฉันจะเอาไปมากจากไหน...”
เวทิศพูดยักไหล่อย่างไม่ยี่หระทั้งยังไม่รอให้เธอพูดจนจบ “เอามาจากฉันไง เรื่องเงินไม่ต้องห่วง ส่วนเรื่อง...”
“แต่ฉันไม่ได้รวยอย่างคุณ ถ้าเขาจะเอาห้าสิบล้านจริงๆ ฉันก็คงต้องแบ่งมาครึ่งหนึ่งเพราะมันก็เป็นภาพของฉันเหมือนกัน” กันตาภายิ่งโมโหมากไปอีกเมื่อเขายังมีท่าทีไม่ทุกร้อน เอาแต่จ้องหน้าเธอเช่นเดิม จึงผุดลุกขึ้น หวังจะออกไปจากห้องนี้ ไปให้พ้นหน้าเขาคงจะคิดหาหนทางได้มากกว่าที่ต้องมาทนมองหน้าเขา ที่ชอบทำท่าทางกวนอารมณ์อยู่ตลอดเวลา
“จะไปไหน?”
“ไปให้พ้นๆหน้าคุณ ไปหาคนช่วย ไปแจ้งความ ไปหาคนที่เข้าใจความรู้สึกของฉันว่าฉันร้อนใจ อับอาย อดสูใจแค่ไหนถ้าภาพและเสียงพวกนี้ถูกเผยแพร่ออกไป” กันตาภากระแทกเสียงตอบออกไปด้วยความโมโห เสียใจเจ็บใจที่เขายังทำเป็นทองไม่รู้ร้อน
เฮอะ! ไม่ว่าจะทำอะไรเขาก็ยังเป็นคนเลวในสายตาเธอวันยังค่ำ
“ใครล่ะ ใครมันจะกล้ายื่นมือเข้ามาช่วยเธอ ใครมันจะเอาเงินห้าสิบล้านมากองตรงหน้าเธอแล้วบอกอย่างไม่ต้องกังวล ยิ่งมีคนรู้เรื่องนี้มากเท่าไหร่เธอก็ยิ่งต้องอับอายมากขึ้นเท่านั้น อย่าลืมว่าทุกครั้งที่เธอเข้าไปขอความช่วยเหลือจากใคร เธอต้องเล่าเรื่องทั้งหมดให้คนพวกนั้นฟัง เธอพร้อมที่จะถ่ายทอดเรื่องราวพวกนั้นเหรอแล้ว”
กันตาภาฉุกคิดกับคำพูดของเขา หันขวับกลับมาจ้องหน้าเขา เพียงแค่อ้าปากเขาก็พูดดักคอขึ้นมาเสียก่อน
“ไอ้หื่นกามคนนี้แหละที่มันจะช่วยเธอ ไอ้โรคจิตคนนี้แหละที่มันตกใจไปไม่น้อยกว่าเธอ ลำพังตัวเองไม่เป็นไรหรอก ก็แค่ภาพกิจกรรมที่คนทั่วโลกก็ทำกันต่อให้มันดังกระฉ่อนแค่ไหน ไม่เกินสิบวันคนก็ลืม แต่ที่ฉันให้คนไปตามเธอ เดินลงไปหาเธอด้วยตัวเอง พาเธอมาดูให้เห็นกับตาว่าตอนนี้เธอตกอยู่ในอันตราย มีคนคิดร้าย เธอจะได้เลิกคิดเสียทีว่าดูแลตัวเองได้ อยู่ตัวคนเดียวได้โดยไม่มีอันตราย ส่วนเรื่องแจ้งความฉันก็ปรึกษากับเพื่อนที่เป็นตำรวจตั้งแต่เดินลงไปหาเธอไม่เจอแล้ว” เวทิศพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเบื่อโลก มันน่าเจ็บใจนักที่ทำดีไม่เคยได้ดี ไม่เคยเป็นคนดีในสายตาของเธอเลยสักครั้ง
“ก็ฉันไม่รู้...” กันตาภาหุบปากฉับเมื่อเขาชี้นิ้วออกมาอย่างคาดโทษ
“เป็นเพราะเธอไม่ยอมฟังฉันพูดให้จบมากกว่า” เวทิศรั้งข้อศอกมนให้กลับมานั่งลงบนเก้าอี้ทำงานของตนเช่นเดิม “ปัญหาอยู่ที่ว่าเธอไม่เคยมองฉันเหมือนคนทั่วไป ไม่ใช่สิ... เธอมองฉันเป็นคนเลว ในสายตาของเธอคนที่เลวจริงๆอย่างไอ้รวิยังดูดีมากกว่าฉัน ใช่! ฉันผิดที่ทำกับเธอออย่างนั้น แต่จะบอกว่าในตอนนั้นฉันก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ลองคิดดูดีๆนะส้มโอ ที่เธอคิด เธอมองฉันอย่างนี้มันยุติธรรมกับฉันรึเปล่า”
กันตาภานิ่งไปครู่ใหญ่เพราะกำลังคิดตามคำพูดของเขา ถ้าใจเย็นพิจารณาทุกอย่างดีๆแล้ว มันก็ไม่ผิดจากที่เขาพูดมาหรอก แต่ภาพที่เขาหักหาญน้ำใจเธอมันยังติดตา “มันก็ใช่หรอกแต่... ฉันคงต้องใช้เวลาปรับอารมณ์หน่อย จะให้พูดดีกับคุณเหมือนคนทั่วไปได้ยังไงในเมื่อคุณคือคนที่ขืนใจฉัน”
“ขืนใจ?!” เวทิศทวนคำประณามนั้นด้วยเสียงสูง “ให้ตายเถอะ ถ้าเธอทนดูมันจนจบได้ ฉันจะเปิดมันตอนนี้เลย จะได้รู้กันไปว่าเธอถูกขืนใจจริงๆรึเปล่า”
“ไอ้! คุณมัน... มันคนเหลือทน!” กันตาภาไม่รู้จะสรรหาคำใดมาด่าว่าเขา
“ฉันยอมผิดที่ครั้งแรกเห็นแก่ตัว ปล่อยให้เธอค้างไว้อย่างนั้นแต่ก็ต้องเข้าใจฉันด้วยว่าตอนนั้น ฉันควบคุมตัวเองไม่ได้ ยามันกำลังออกฤทธิ์ แต่มาคราวหลังนี่ฉันก็ทำให้เธอมีความสุข แล้วไม่ต้องมาเถียงว่าไม่ใช่ เธอถึงไคลแม็กซ์จนตัวบิดตัวเกร็งสองครั้งสองครา แล้วจะมาบอกว่าขืนใจนี่มันไม่เกินไปหน่อยเหรอ” เวทิศพูดอย่างตรงไปตรงมาจนกันตาภาเถียงไม่ออก ได้แต่หน้าแดง อับอายในความจริงที่เขาเอามาพูดหน้าตาเฉยราวกับเป็นเรื่องดินฟ้าอากาศ
“ฉะ...ฉัน คะ...คุณ หยุดพูดนะ!” กันตาภาพูดไม่เป็นประโยค สุดท้ายก็ได้แต่ตวาดออกมาอย่างเหลืออด
เวทิศส่ายหน้าไม่ใช่เพราะเธอ แต่เพราะเบื่อตัวเองที่ไม่เคยเอาชนะดวงตากลมๆสีดำสนิทนั่นได้สักที ไม่ว่าจะผิดหรือถูกก็ต้องเป็นคนยอมเธออยู่วันยังค่ำ “เอาล่ะๆ ฉันจะไม่เอาเรื่องจริงมาพูดอีก เธอก็เลิกคิดว่าตัวเองถูกขืนใจสักที คิดอย่างนั้นต่อไปก็รังแต่จะทำให้เสียสุขภาพจิต”
“ฉันจะเป็นประสาทตายเพราะคำพูดห่ามๆ ตรงๆของคุณนั่นแหละ” กันตาภาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“ฉันก็เป็นของฉันอย่างนี้แหละ ไม่เห็นว่าต้องอ้อมค้อมให้เสียเวลา เรื่องจริงมันเป็นยังไงก็ต้องพูดอย่างนั้นหรือเธอชอบพวกหน้าไหว้หลังหลอก”
“ไม่ได้ชอบแต่คนเราก็ควรจะขัดเกลาคำพูดของตัวเองเสียก่อน พูดออกไปแล้วมันจะกระทบใจใครบ้าง ทำให้ใครเสียใจบ้าง เลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง ไม่ถึงกับว่าต้องปากหวานก้นเปรี้ยวแค่ขัดเกลาให้มันฟังรื่นหูขึ้นเท่านั้น เข้าใจบ้างไหม” กันตาภาร่ายยาวราวกับแม่แก่ หากคนฟังกลับอมยิ้ม ชื่นชอบเสียงเจื้อยแจ้วของเธอนัก
“จ้ะ จะพยายามเรียนรู้จากเธอก็แล้วกัน”
‘เรียนรู้’ แล้วทำไมต้องมาเรียนรู้อะไรจากฉัน พูดราวกับว่าต้องอยู่ด้วยกันไปอีกนาน โอ... ไม่นะ! ถ้าให้อยู่กับผู้ชายที่ต้องขัดเกลาทั้งจิตใจและคำพูดอย่างนี้เธอคงต้องบ้าตายเข้าสักวัน กันตาภามองเขาอย่างไม่ไว้ใจ
“ฉันคงไม่มีอะไรให้เรียนรู้ คงต้องเป็นภรรยาของคุณมากกว่าที่ควรจะทำหน้าที่นี้ ผู้หญิงที่อยู่กับคุณได้ ขัดเกลาจิตใจคุณได้ เธอคงต้องดีงามอย่างมากซึ่งฉันไม่ใช่”
เวทิศเลิกคิ้วพลางคิดในใจว่า ผู้หญิงดีงาม ในสายตาฉันก็เห็นจะมีแต่เธอนั่นแหละ หาได้ยากนักล่ะ ผู้หญิงที่กล้าเถียง กล้าตวาด กล้าวิจารณ์ฉันอย่างเธอเนี่ย หากสมองอันชาญฉลาดกลับคิดขึ้นมาได้อย่างฉับพลันถึงวิธีการที่จะไม่ทำให้เธอออกปากไล่ตนทุกนาทีเช่นที่ผ่านมา
“ความจริงแล้วเธอคงต้องอยู่กับฉันไปสักระยะ จนกว่าจะจัดการเรื่องไอ้รวิเรียบร้อย”
“หมายความว่ายังไง?...” กันตาภาต้องการคำอธิบายที่ชัดเจนกว่านี้
“ก็ระหว่างที่ตำรวจยังจับไอ้รวิไม่ได้ เธอต้องอยู่ในความดูแลของฉัน” เวทิศพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“ไม่มีทาง ฉันโตแล้ว บรรลุนิติภาวะแล้วทำไมต้องอยู่ในความดูแลของคุณ” ส่ายหน้าปฎิเสธ พลางคิดในใจว่าเป็นตายร้ายดีก็จะไม่ยอมอยู่ในความดูแลของเขาเด็ดขาด
“ฉันไม่เถียงหรอกว่าเธอโตแล้ว เป็นผู้ใหญ่แล้วแต่เรื่องดูแลตัวเองได้น่ะ ถ้าที่ผ่านมาทำได้ก็คงไม่ต้องโดนไอ้รวิมันหลอกจนเกิดเรื่อง รู้ไหมว่าไอ้รวิมันขู่ฉันว่าอย่าเผลอ ฉันกับเพื่อนที่เป็นตำรวจเลยคิดว่าเธอต้องอยู่ในความดูแลของฉันไปจนกว่าเรื่องจะจบ” เวทิศปดคำโตหากคิดในใจว่า... ไม่เป็นไรหรอกมั้ง ก็ที่โกหกเพราะหวังดี เป็นห่วงในสวัสดิภาพของเธอ
เมื่อไม่รู้ว่าจะปฏิเสธอย่างไรกันตาภาก็ได้แต่ทำหน้าแหยๆ “คือ... มันกว้างไปหน่อยไหม คุณจำกัดความให้ฉันเข้าใจมากกว่านี้หน่อยได้ไหม”
เวทิศลอบยิ้มเมื่อโอกาสทองมาถึงตรงหน้า “ห้ามเธอไปไหนมาไหนคนเดียวเพราะเราไม่รู้ว่าไอ้รวิมันจะมีพวกอยู่กี่คน มันคิดจะทำอะไรบ้าง หากมันร้ายแรงกว่านี้ไม่แน่ว่าอาจจะลักพาตัวเธอไปเรียกค่าไถ่หรือไปขายในตลาดมืด ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นคงช่วยเหลือได้ลำบาก คือตำรวจเขากังวลว่าเธอเป็นผู้หญิงตัวคนเดียว ไปไหนมาไหนคนเดียว พักอยู่คนเดียวครั้นจะส่งคนเข้ามาประกบก็เกรงว่าเธอจะอึดอัดเพราะส่วนมากก็เป็นผู้ชาย”
กันตาภาคิดตามคำพูดของเขาเมื่อต้องมีตำรวจผู้ชายนอกเครื่องแบบประกบตัวตลอดเวลา เธอคงจะบ้าตายแน่ๆ
“นอกเสียจากว่าเธอจะบอกเรื่องทั้งหมดนี้กับพี่น้องแล้วปรึกษากันดูอีกทีว่าจะเอายังไง” เวทิศสำทับเมื่อเห็นว่าเธอทำท่าคิดหนัก
“ไม่ได้หรอก ทำอย่างนั้นพี่กับองุ่นคงต้องหมดสนุก ต้องยกเลิกโปรแกรมเที่ยวทั้งหมดแล้วกลับมาดูแลฉันคนเดียว อีกอย่างทั้งคู่กำลังตั้งท้องฉันไม่อยากให้คิดมากกับเรื่องของฉัน” กันตาภาบอกด้วยน้ำเสียงเนือยๆ ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี
“งั้นก็ตกลงตามนี้ อยู่กับฉันไปก่อน เรื่องนี้คงไม่ยืดเยื้อหรอก” เวทิศตีขลุมเอาเอง “แล้วเธอจะย้ายไปอยู่กับฉัน หรือให้ฉันย้ายไปอยู่กับเธอ”
“ต้องทำถึงขนาดนั้นเลยเหรอ?!” กันตาภาถามอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
“ไม่งั้นก็โทรหาพี่สาว” เวทิศเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์แล้วยื่นให้เธอ
“คุณจะอึดอัดไหมล่ะ?” กันตาภาคิดอยู่นานว่าจะพูดออกมาหรือไม่ ก็เคยได้ยินมาว่าเขาเป็นคนที่ใช้ชีวิตอย่างเสเพลเต็มที่สุดๆ ปาร์ตี้ ผู้หญิงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ แต่เธอกลับไม่ชอบเที่ยวกลางคืนเลยสักนิดและจะทำตัวติดกันอย่างที่เขาพูดมาได้ยังไง
เวทิศยังมองหน้าเธอพลางเลิกคิ้วอย่างรอคอยคำตอบ “ว่าไง อึดอัดเรื่องอะไร?”
“ก็... ฉันไม่ชอบเที่ยวกลางคืน” กันตาภายังลากเสียงยาวราวกับไม่มั่นใจที่จะพูดออกมาตรงๆ
“แล้ว?...”
“ฉันจะไม่ไปเที่ยวดึกๆดื่นๆกับคุณหรอกนะ แล้วก็ห้ามพาผู้หญิงมาค้างที่ห้องฉันด้วย ถ้าเป็นอย่างนั้นคุณจะอึดอัดไหมล่ะ?” กันตาภาตัดสินใจถามออกไปตรงๆ
เวทิศระเบิดเสียงหัวเราะออกมาราวกับเจอเรื่องขบขันที่สุดในชีวิต พลางเลื่อนเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่เข้ามาใกล้ๆแล้ววางมือทั้งสองข้างไว้บนที่วางแขน โน้มตัวไปข้างหน้าจนเธอต้องเอนตัวไปพิงพนักเก้าอี้ “แล้วถ้าฉันอดใจไม่ไหวหิ้วอีหนูไปสักสองสามชั่วโมง เธอจะทำยังไง?”
“อย่าหวังว่าจะเข้าห้องฉันได้” กันตาภาถลึงตาใส่อย่างไม่เกรงกลัว คิดถึงภาพและเสียงที่จะต้องเกิดขึ้นก็ขนลุกแล้ว หากใบหน้าหล่อเหลาที่ยื่นเข้ามาใกล้ก็ทำให้ตกใจหลุดจากภวังค์ความคิดของตัวเอง “ถอยออกไปนะ ไม่งั้นเจ็บตัวแน่!”
เวทิศไม่ถอยหากเลิกคิ้วมองคนที่ชูกำปั้นเล็กๆขึ้นมาขู่พลางถามอย่างยั่วโมโห “เก่งอย่างนั้นเชียว?”
“ถอยไปไม่งั้นฉันต่อย”
“เอาสิ ต่อยเลย เลือกได้ตามใจชอบ” เวทิศบอกพลางเอียงหน้าทำแก้มป่อง “แต่บอกไว้ก่อนว่าเธอต่อยปากฉันจูบปาก ต่อยหน้าอกฉันจูบหน้าอก ต่อยท้องจูบท้อง ต่อยใต้เข็มขัดฉันจะจูบ...”
“อี๊... ไอ้โรคจิต ถอยไปเลย” กันตาภาตวาดพลางรวบแรงทั้งหมดผลักหน้าอกกว้างของเขาออกไปสุดแรง รีบลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินออกไปจนแน่ใจว่าปลอดภัย “อย่ามาทำรุ่มร่ามกับฉันนะ”
“อ้าว... แล้วจะให้เธอทำร้ายร่างกายฉันอยู่ฝ่ายเดียวรึไง อีกอย่างเกิดมาฉันก็ไม่เคยคิดจะรังแกผู้หญิง แต่จะให้ทำร้ายร่างกายฉันอยู่ฝ่ายเดียวมันก็ไม่ใช่เรื่อง ฉันว่าฉันเป็นคนดีใช้ได้เลยนะ”
“ดีตายล่ะ หยุดๆ พอเลย ฉันจะไปทำงานแล้ว” กันตาภาตัดบทเพราะถ้าหากต่อปากต่อคำกับเขาไปเรื่อยๆ ก็คงไม่มีวันจบสิ้น
“งั้นเดี๋ยวให้คนไปเฝ้า” เวทิศพูดพลางหันหลังกำลังจะเอื้อมมือไปกดอินเตอร์คอมสั่งผู้ช่วยเลขานุการ หากเสียงโวยวายที่ดังขึ้นทำให้ต้องกลั้นยิ้มจนปวดกราม
“ทำไมต้องเฝ้า ฉันไม่ใช่นักโทษนะ อีกอย่างอยู่ในบริษัทคนเยอะแยะ ใครจะมาทำร้ายฉันได้ล่ะ” กันตาภาโวยวาย
เวทิศนึกขันท่าทางที่เธอทำเหมือนเด็กถูกขัดใจแสร้งตีหน้าตายบอกด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ก็ใครจะไปไว้ใจเธอล่ะ ความคิดยิ่งไม่เหมือนคนอื่นอยู่ด้วย ชอบใจอ่อนกับคนเลว อีกอย่างเธอควรที่จะอยู่ในห้องกับฉันแล้วฟังแผนการที่ฉันจะคุยกับตำรวจดีกว่า”
“มันก็ใช่แต่ฉันต้องทำงาน หายไปอย่างนี้หัวหน้าตำหนิแน่”
“เอาน่ะ เดี๋ยวฉันจัดการเอง ไปนั่งรอก่อนเดี๋ยวดูเอกสารกองนี้เสร็จแล้วจะโทรหาตำรวจ” เวทิศบอกพลางทรุดตัวนั่งลงจัดการกับเอกสารบนโต๊ะทำงานของตัวเองต่อไป ทำเป็นไม่ใส่ใจกับอาการกระฟึดกระฟัด เดินกลับไปกลับมาอยู่สองสามรอบสักพักเมื่อเขาไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง เธอก็ยอมไปนั่งลงบนโซฟาชุดใหญ่ที่วางอยู่มุมห้องแล้วหยิบนิตยสารขึ้นมาเปิดดูไปเรื่อยๆ
กันตาภาปิดนิตยสารในมือลงเป็นเล่มที่สาม หากคนที่นั่งทำงานอยู่ไม่ไกลก็ยังสะสางเอกสารไม่จบสักที แอร์เย็นๆ โซฟานุ่มๆบวกกับร่างกายที่เพิ่งฟื้นไข้ทำให้กันตาภาเกิดความง่วง แต่ก็บอกกับตัวเองว่าห้ามหลับเด็ดขาดและคงไม่ได้ผลหากจะนั่งนิ่งๆอยู่เช่นนี้
“มีอะไรให้ช่วยไหมคะ ฉันนั่งเฉยๆมันง่วงแล้วก็เบื่อด้วย”
เวทิศละสายตาจากเอกสารตรงหน้า หรี่ตามองอย่างไม่เชื่อว่าผู้หญิงสวยที่โน้มตัวลงถามจะช่วยตนจริงๆหรือไม่
หากสายตาที่มองมาราวกับไม่เชื่อ ทำให้กันตาภาคะยั้นคะยอเสนอตัวเองช่วยเหลืองานเล็กๆน้อยๆจะได้ประหยัดเวลาขึ้น “จริงๆนะ ให้ทำอะไรก็ได้”
“งั้นมานวดไหล่นวดหัวให้หน่อย อ่านเอกสารพวกนี้แล้วมันเมื่อยสุดๆ”
“ชิ! ฉันไม่ใช่สาวๆของคุณนะจะได้ทำอย่างนั้น” กันตาภาหุบยิ้ม ถอยหลังออกห่างผู้ชายที่ชอบทำเป็นเล่นไปทุกเรื่อง
“อ้าว... ก็บอกทำได้ทุกอย่าง แล้วไม่ต้องมาทำท่าทางขยะแขยงหรือคิดว่าฉันจะบังคับฝืนใจเธอ” เวทิศพูดพลางหงุดหงิดขึ้นมาเป็นริ้วๆเมื่อเห็นท่าทางรังเกียจรังงอนที่เธอแสดงออกมา “จะบอกให้ว่าสาวๆน่ะ ไม่ได้เอามาไว้นวดไหล่หรอก เอามาไปทำอย่างอื่นดีกว่าเยอะแต่เหนื่อยกว่าเดิมเท่านั้นแหละ”
จบคำพูดก็หัวเราะลั่นมองร่างน่าปรารถนาที่เดินไปทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาอย่างไม่กลัวเจ็บ แล้วจึงหันกลับมาจัดการกับงานของตัวเองต่อไป
ราวชั่วโมงต่อมาเขาก็ถือโทรศัพท์และเดินเข้ามานั่งบนโซฟาตัวเดียวกันกับเธอ และต่อสายถึงเพื่อนที่เป็นตำรวจ โดยที่กันตาภายังนั่งฟังเขาพูดอย่างตั้งใจ และได้ความว่าก่อนที่จะถึงเวลานัดหมาย ตำรวจจะออกตามล่าตัวของรวิให้ได้เสียก่อน โดยจะเริ่มสืบจากผับที่เวทิศทำกระเป๋าสตางค์หล่น ซึ่งไม่น่าที่จะสืบหาที่อยู่ยากนัก
เมื่อได้ข้อสรุปเช่นนั้นทั้งเวทิศและกันตาภาจึงทำได้เพียงแค่รอเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งความคืบหน้าเท่านั้น ส่วนกันตาภาก็ต้องทำใจยอมรับกับข้อตกลงที่มีไว้กับเวทิศ นั่นคือจากนี้ไปเธอต้องอยู่ในความดูแลของเขาอย่างไม่คลาดสายตา!

สวัสดีค่า นักอ่านที่รัก
เมียบำเรอครึ่งคืนตีพิมพ์เป็นรูปเล่มแล้วและสามารถ หิ้วคุณคุณกายจอมห่ามไปครอบครองได้ที่ ร้านนายอินทร์ เว็บสำนักพิมพ์อินเลิฟ เว็บบุ๊กสไมล์ และสามารถพูดคุยกับศิริพาราได้ตามช่องทางดังนี้
1. e-mail siripara2writer@gmail.com
2. fanpage https://www.facebook.com/siripara.raya
3.facebook https://www.facebook.com/siripara.looktan
ติชมหรือแสดงความคิดเห็นได้ตามสบายค่า เม้ามอยหอยขมกันได้ไม่เฉพาะเรื่องนิยาย ศิริพารายังมีเกมกติกาแสนง่ายดาย แจกของรางวัลเล็กน้อยเพื่อตอบแทนนักอ่านที่รัก อย่าลืมกดlikefanpage ศิริพารา รายาฤดีนะคะ
จบเรื่องนี้แล้ว ศิริพาราจะเอานิยายทั้งหมดมาอัพให้นักอ่านที่รักได้อ่านกันทุกเรื่อง ขอบคุณที่ติดตามและแสดงความคิดเห็นค่ะ

จุ๊บๆๆ
ศิริพารา



ศิริพารา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 15 ก.ค. 2558, 21:13:45 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 15 ก.ค. 2558, 21:13:45 น.

จำนวนการเข้าชม : 1221





<< ตอนที่ 9 100%   ตอนที่ 11 100% >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account