ร้ายรักสลับเล่ห์
ในชีวิตสายลับสุดหล่ออย่างเขา ‘มิณปรานต์’ ไม่เคยหนักใจเรื่องผู้หญิงมาก่อน...
จนกระทั่งมาเจอเธอคนนี้!
ปินญาภัส สาวนักอนุรักษ์ธรรมชาติคนสวย เธอทั้งดื้อ อวดดี เชื่อมั่นในความดีจนน่าตลก
แต่ให้ตายเถอะ! หน่วยที่คอยขจัดอันตรายระดับชาติอย่างหน่วยเทวาพิทักษ์ ถึงกับต้องส่งสายลับระดับพระกาฬแบบเขา
เพื่อมาคุ้มครองเธอและสืบหาผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมระดับชุมชนอย่างลับๆ เนี่ยนะ ไม่ว่าคิดจนหัวแตกก็หาเหตุผลไม่เจอ
แต่มิณปรานต์จำต้องยอมรับ มันคือภารกิจ มันคือหน้าที่
ทว่าเรื่องวุ่นๆ ชวนอิ่มอุ่นหัวใจก็ถือกำเนิดขึ้นจนได้ เมื่อม่านหมอกแห่งกระสุนปืนโรยตัวลงปกคลุมอำเภอฟ้าศักดิ์ พร้อมๆ กับที่ปัญหาระดับชุมชนได้ลุกลามจนกำลังจะเป็นสาเหตุใหญ่ระดับประเทศ มิณปรานต์พบว่าเขาไม่ได้ปกป้องยัยหัวแข็งตามหน้าที่อีกแล้ว แต่เขากำลังโอบกอดเธอ เขากำลังคุ้มครองเธอจากอันตรายทั้งคนใกล้ตัวไกลตัวตามคำสั่ง... จากหัวใจของเขาเอง!
จนกระทั่งมาเจอเธอคนนี้!
ปินญาภัส สาวนักอนุรักษ์ธรรมชาติคนสวย เธอทั้งดื้อ อวดดี เชื่อมั่นในความดีจนน่าตลก
แต่ให้ตายเถอะ! หน่วยที่คอยขจัดอันตรายระดับชาติอย่างหน่วยเทวาพิทักษ์ ถึงกับต้องส่งสายลับระดับพระกาฬแบบเขา
เพื่อมาคุ้มครองเธอและสืบหาผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมระดับชุมชนอย่างลับๆ เนี่ยนะ ไม่ว่าคิดจนหัวแตกก็หาเหตุผลไม่เจอ
แต่มิณปรานต์จำต้องยอมรับ มันคือภารกิจ มันคือหน้าที่
ทว่าเรื่องวุ่นๆ ชวนอิ่มอุ่นหัวใจก็ถือกำเนิดขึ้นจนได้ เมื่อม่านหมอกแห่งกระสุนปืนโรยตัวลงปกคลุมอำเภอฟ้าศักดิ์ พร้อมๆ กับที่ปัญหาระดับชุมชนได้ลุกลามจนกำลังจะเป็นสาเหตุใหญ่ระดับประเทศ มิณปรานต์พบว่าเขาไม่ได้ปกป้องยัยหัวแข็งตามหน้าที่อีกแล้ว แต่เขากำลังโอบกอดเธอ เขากำลังคุ้มครองเธอจากอันตรายทั้งคนใกล้ตัวไกลตัวตามคำสั่ง... จากหัวใจของเขาเอง!
Tags: โรแมนติก แอ็คชั่น ดราม่า สายลับ กุ๊กกิ๊ก
ตอน: บทนำ
บทนำ
ประเทศไทย
เพราะรัฐบาลอ่อนแอมากเกินไป จึงได้ถูกโจมตีเหมือนสุนัขจนตรอก หนี้ที่เกิดจากการใช้จ่ายงบประมาณเกินตัว นโยบายฟุ้งเฟ้อที่ทำให้ฟองสบู่ใกล้แตก ค่าจีดีพีที่มองแล้วชวนถอนหายใจ การค้าระหว่างประเทศก็เจ็บปวดเหมือนมีนิ่วในถุงน้ำดี
ในฐานะนายกรัฐมนตรี เขาต้องทำอะไรสักอย่าง
“ที่ผมเรียกทุกคนมาประชุมในวันนี้ เพราะผมมีแผนการบางอย่าง”
นายทหารใหญ่เจ้าของตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมชำเลืองมอง “พวกเราพร้อมฟังแล้วครับ”
ผู้ร่วมประชุมคนอื่นๆ พยักหน้ายืนยันเห็นพ้องด้วย
ผู้นำประเทศยิ้มกริ่ม หัวเราะในลำคอ “ผมรู้แล้วว่าจะทำให้ประเทศเรา พ้นภาวะวิกฤตเศรษฐกิจได้ยังไง!”
พันเอกอาวุธเจ้าของตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมกลับเข้าห้องทำงานประจำตัว แผนการของชายผู้เป็นนายกรัฐมนตรียังก้องกังวานในสองหู การประชุมจบลงแล้วเมื่อยี่สิบนาทีก่อน ความหวังแห่งการอยู่รอดของรัฐบาลเฉิดฉายเปล่งประกายเรืองรอง พันเอกอาวุธต้องยอมรับว่านายสุพนธ์เป็นคนหนุ่มที่มีสัญชาตญาณเอาตัวรอดเก่งไม่หยอก หากแผนการไม่ผิดพลาด อีกหกเดือนข้างหน้า ประเทศไทยจะเปลี่ยนฐานะจากฝ่ายที่มีหนี้ท่วมหัวไปอยู่ฝั่งประเทศที่ร่ำรวยอับดับต้นๆ ของทวีปเอเชีย
เครื่องปรับอากาศแม้เย็นฉ่ำเพียงใด แต่ก็ไม่อาจบรรเทาความร้อนรุ่มในหัวใจของพันเอกอาวุธให้เบาบางลง เนื่องจากว่าหากแผนการของนายกรัฐมนตรีสุพนธ์สำเร็จ แผนการที่พันเอกอาวุธอุตส่าห์เตรียมการมาอย่างดีเป็นเวลาสามเดือนเต็ม ก็จะล้มครืนลงไม่เป็นท่า
นายทหารวัยห้าสิบสองปีทิ้งกายนั่งในเก้าอี้บุหนัง จมอยู่ในภวังค์ว้าวุ่นครู่หนึ่งก็เอื้อมมือหยิบโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานขึ้นมา กดไปที่ปุ่มเลขหนึ่ง ปลายสายเป็นหน่วยงานเดียวในตอนนี้ที่จะช่วยยับยั้งแผนการของสุพนธ์ พันเอกอาวุธรอให้มีคนตอบรับ ก็กรอกเสียงลงไป
“มาพบผมด้วย วิษณุ”
หน่วยเทวาพิทักษ์เป็นหน่วยพิเศษของกระทรวงกลาโหม ก่อตั้งขึ้นมาโดยแยกจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมนอย่างเป็นเอกเทศ อีกทั้งยังรับคำสั่งขึ้นตรงต่อรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมแต่เพียงผู้เดียว และการมีอยู่ของหน่วยเทวาพิทักษ์ ถือว่าเป็นความลับขั้นสุดยอด
ปราโมทย์ออกมาจากห้องทำงานของพันเอกอาวุธพร้อมข้อสงสัย ภารกิจที่ได้รับมอบหมายครั้งนี้ดูมีลับลมคมในบางอย่าง มันแปลกกว่าทุกครั้งตรงที่สังหรณ์บางอย่างบอกเขาว่าพันเอกอาวุธบอกความจริงเกี่ยวกับภารกิจนี้ไม่หมด แต่วิษณุอย่างเขาไม่มีสิทธิ์ตั้งคำถามกับพรหมอย่างพันเอกอาวุธ
เมื่อขึ้นลิฟต์แก้วในอาคารลงมายังชั้นใต้ดิน ปราโมทย์ก็เดินเข้าสู่ห้องทำงานของหน่วยเทวาพิทักษ์ที่ซ่อนอยู่หลังผนังห้องเก็บแฟ้มเอกสารเหลือใช้ กลุ่ม ‘คณะเทพ’ ห้าคนนั่งประจำตำแหน่งอยู่หลังจอซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่กลางเวิ้งกว้างด้านล่าง
ปราโมทย์ก้าวลงบันไดไปสู่สำนักงานอันตกแต่งด้วยโทนสีดำเข้มขรึมอย่างเชื่องช้าทว่าหนักแน่น
จอภาพขนาดยักษ์อยู่บนผนังด้านหนึ่ง ห้องทำงานของหน่วยเทวาพิทักษ์มีขนาดกว้างขวางพอสำหรับรองรับคนยี่สิบคน พื้นปูพรมนุ่มเท้าและผนังทุกด้านก็บุด้วยวัสดุป้องกันคลื่นอิเล็คทรอนิกส์แทรกแซงจากกภายนอก เจ้าหน้าที่คณะเทพหันมามองและค้อมศีรษะทำความเคารพโดยอัตโนมัติเมื่อปราโมทย์เดินผ่าน เสียงนิ้วมือพรมคีย์บอร์ดดังระรัวไม่มีขาดจังหวะ
ที่นี่คือหน่วยเทวาพิทักษ์ หน่วยผู้รับผิดชอบภารกิจที่เป็นไปไม่ได้
“ทุกอย่างพร้อมแล้วใช่ไหม อินทร์” ปราโมทย์ถาม เดินมาหยุดหน้าโต๊ะทำงานของตนเอง ในหน่วยเทวาพิทักษ์ ทุกคนจะถูกเรียกแทนตัวด้วยรหัสที่เป็นชื่อของเทพเจ้าฮินดูทั้งสิ้น
“ครับ” อินทร์หรือมานะ ผู้เป็นรองหัวหน้าหน่วยรับคำจากโต๊ะทำงานด้านข้าง
เมื่อได้รับทราบดังนั้น ปราโมทย์ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจยาวแรง ก่อนกล่าว
“ติดต่อนารท”
เป็นครั้งแรกในชีวิต ที่นายทหารรู้สึกเหมือนกำลังส่ง ‘ลูกน้อง’ หย่อนเท้าลงไปในกับดักที่มองไม่เห็น
ประเทศไทย
เพราะรัฐบาลอ่อนแอมากเกินไป จึงได้ถูกโจมตีเหมือนสุนัขจนตรอก หนี้ที่เกิดจากการใช้จ่ายงบประมาณเกินตัว นโยบายฟุ้งเฟ้อที่ทำให้ฟองสบู่ใกล้แตก ค่าจีดีพีที่มองแล้วชวนถอนหายใจ การค้าระหว่างประเทศก็เจ็บปวดเหมือนมีนิ่วในถุงน้ำดี
ในฐานะนายกรัฐมนตรี เขาต้องทำอะไรสักอย่าง
“ที่ผมเรียกทุกคนมาประชุมในวันนี้ เพราะผมมีแผนการบางอย่าง”
นายทหารใหญ่เจ้าของตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมชำเลืองมอง “พวกเราพร้อมฟังแล้วครับ”
ผู้ร่วมประชุมคนอื่นๆ พยักหน้ายืนยันเห็นพ้องด้วย
ผู้นำประเทศยิ้มกริ่ม หัวเราะในลำคอ “ผมรู้แล้วว่าจะทำให้ประเทศเรา พ้นภาวะวิกฤตเศรษฐกิจได้ยังไง!”
พันเอกอาวุธเจ้าของตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมกลับเข้าห้องทำงานประจำตัว แผนการของชายผู้เป็นนายกรัฐมนตรียังก้องกังวานในสองหู การประชุมจบลงแล้วเมื่อยี่สิบนาทีก่อน ความหวังแห่งการอยู่รอดของรัฐบาลเฉิดฉายเปล่งประกายเรืองรอง พันเอกอาวุธต้องยอมรับว่านายสุพนธ์เป็นคนหนุ่มที่มีสัญชาตญาณเอาตัวรอดเก่งไม่หยอก หากแผนการไม่ผิดพลาด อีกหกเดือนข้างหน้า ประเทศไทยจะเปลี่ยนฐานะจากฝ่ายที่มีหนี้ท่วมหัวไปอยู่ฝั่งประเทศที่ร่ำรวยอับดับต้นๆ ของทวีปเอเชีย
เครื่องปรับอากาศแม้เย็นฉ่ำเพียงใด แต่ก็ไม่อาจบรรเทาความร้อนรุ่มในหัวใจของพันเอกอาวุธให้เบาบางลง เนื่องจากว่าหากแผนการของนายกรัฐมนตรีสุพนธ์สำเร็จ แผนการที่พันเอกอาวุธอุตส่าห์เตรียมการมาอย่างดีเป็นเวลาสามเดือนเต็ม ก็จะล้มครืนลงไม่เป็นท่า
นายทหารวัยห้าสิบสองปีทิ้งกายนั่งในเก้าอี้บุหนัง จมอยู่ในภวังค์ว้าวุ่นครู่หนึ่งก็เอื้อมมือหยิบโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานขึ้นมา กดไปที่ปุ่มเลขหนึ่ง ปลายสายเป็นหน่วยงานเดียวในตอนนี้ที่จะช่วยยับยั้งแผนการของสุพนธ์ พันเอกอาวุธรอให้มีคนตอบรับ ก็กรอกเสียงลงไป
“มาพบผมด้วย วิษณุ”
หน่วยเทวาพิทักษ์เป็นหน่วยพิเศษของกระทรวงกลาโหม ก่อตั้งขึ้นมาโดยแยกจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมนอย่างเป็นเอกเทศ อีกทั้งยังรับคำสั่งขึ้นตรงต่อรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมแต่เพียงผู้เดียว และการมีอยู่ของหน่วยเทวาพิทักษ์ ถือว่าเป็นความลับขั้นสุดยอด
ปราโมทย์ออกมาจากห้องทำงานของพันเอกอาวุธพร้อมข้อสงสัย ภารกิจที่ได้รับมอบหมายครั้งนี้ดูมีลับลมคมในบางอย่าง มันแปลกกว่าทุกครั้งตรงที่สังหรณ์บางอย่างบอกเขาว่าพันเอกอาวุธบอกความจริงเกี่ยวกับภารกิจนี้ไม่หมด แต่วิษณุอย่างเขาไม่มีสิทธิ์ตั้งคำถามกับพรหมอย่างพันเอกอาวุธ
เมื่อขึ้นลิฟต์แก้วในอาคารลงมายังชั้นใต้ดิน ปราโมทย์ก็เดินเข้าสู่ห้องทำงานของหน่วยเทวาพิทักษ์ที่ซ่อนอยู่หลังผนังห้องเก็บแฟ้มเอกสารเหลือใช้ กลุ่ม ‘คณะเทพ’ ห้าคนนั่งประจำตำแหน่งอยู่หลังจอซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่กลางเวิ้งกว้างด้านล่าง
ปราโมทย์ก้าวลงบันไดไปสู่สำนักงานอันตกแต่งด้วยโทนสีดำเข้มขรึมอย่างเชื่องช้าทว่าหนักแน่น
จอภาพขนาดยักษ์อยู่บนผนังด้านหนึ่ง ห้องทำงานของหน่วยเทวาพิทักษ์มีขนาดกว้างขวางพอสำหรับรองรับคนยี่สิบคน พื้นปูพรมนุ่มเท้าและผนังทุกด้านก็บุด้วยวัสดุป้องกันคลื่นอิเล็คทรอนิกส์แทรกแซงจากกภายนอก เจ้าหน้าที่คณะเทพหันมามองและค้อมศีรษะทำความเคารพโดยอัตโนมัติเมื่อปราโมทย์เดินผ่าน เสียงนิ้วมือพรมคีย์บอร์ดดังระรัวไม่มีขาดจังหวะ
ที่นี่คือหน่วยเทวาพิทักษ์ หน่วยผู้รับผิดชอบภารกิจที่เป็นไปไม่ได้
“ทุกอย่างพร้อมแล้วใช่ไหม อินทร์” ปราโมทย์ถาม เดินมาหยุดหน้าโต๊ะทำงานของตนเอง ในหน่วยเทวาพิทักษ์ ทุกคนจะถูกเรียกแทนตัวด้วยรหัสที่เป็นชื่อของเทพเจ้าฮินดูทั้งสิ้น
“ครับ” อินทร์หรือมานะ ผู้เป็นรองหัวหน้าหน่วยรับคำจากโต๊ะทำงานด้านข้าง
เมื่อได้รับทราบดังนั้น ปราโมทย์ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจยาวแรง ก่อนกล่าว
“ติดต่อนารท”
เป็นครั้งแรกในชีวิต ที่นายทหารรู้สึกเหมือนกำลังส่ง ‘ลูกน้อง’ หย่อนเท้าลงไปในกับดักที่มองไม่เห็น

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 5 ส.ค. 2558, 12:07:28 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 ส.ค. 2558, 12:07:28 น.
จำนวนการเข้าชม : 824
บทที่ 1 >> |