ป่าหนาวไม่หนาวรัก
ความรักช่างเกิดขึ้นได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่ได้สบตากันครั้งแรก
นายหัวหนุ่มแห่งป่าหนาวพยายามบอกหัวใจตัวเองมาตลอดเวลาทุกครั้งที่ได้เจอหน้าเธอว่าเขาไม่มีสิทธิ์ที่จะรักใครได้อีกแล้วเพราะทั้งหัวใจตอนนี้มีเพียงแค่ปรายฟ้าคนเดียวเท่านั้นถึงแม้แฟนสาวได้จากเขาไปแล้ว หมอเคียวเพียงได้สบตานายหัวหนุ่มราวกับมีประกายไฟแล่นเข้าสู่ร่างกายเธอทันที ความรักทำให้เธอเข้าไปพัวพันกับการตายของปรายฟ้า และเหตุการณ์ครั้งนั้นนั่นเองผูกความสัมพันธ์ของเขากับเธอให้แน่นยิ่งกว่าเดิม เธอจะทำอย่างไรเมื่อเจอกับปัญหาใหญ่หลวง และเขาจะทำอย่างไรเลือกความรักครั้งเก่า หรือเลือกหัวใจตัวเอง
Tags: รักหวานแหวว แววตาซึ้ง ๆ

ตอน: บทที่ 20 รักต้องเชื่อในรัก (แม้มันจะเจ็บปวด)

บทที่ 20 รักต้องเชื่อในรัก (แม้มันจะเจ็บปวด)

ร่างบอบบางค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมานิดนึง แสงยามเช้าสอดส่องเข้าดวงตาทำให้ดวงตากลมโตต้องกระพริบปริบ ๆ หลายครั้งเพื่อปรับสายตาให้ชินชากับแสงอรุณของวันใหม่ เพียงครู่เดียวน้ำใส ๆ ก็คลอดวงตาขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อคิดได้ว่าสิ่งที่เธอได้ยินเมื่อวานไม่ใช่เรื่องจริง
“เคียวไม่เชื่อ พี่ป่าจะเป็นแบบนั้น”
หญิงสาวครางออกมาเสียงสั่น น้ำตารินไหลเปียกหมอนที่ยังคงชื้นเพราะซับน้ำตาเธอหลายต่อหลายครั้งเมื่อคืนทั้งคืน
“พี่ป่าจะหมดรักเคียวแค่วันเดียว...ไม่มีทาง”
ร่างบางลุกขึ้นมานั่งบนเตียงอีกครั้ง มันต้องมีอะไรแน่ ๆ เธอจะไม่ยอมให้เรื่องนี้ผ่านไปแน่นอน พนาพรรษต้องมีอะไรสักอย่าง เมื่อวานก่อนเขายังดี ๆ กับเธออยู่เลย อะไรเพียงแค่วันเดียวมีอะไรดลใจให้เขาทำร้ายจิตใจเธอแบบนี้ เพียงแค่วันเดียวเขาเปลี่ยนเป็นคนละคน
“ไม่มีทาง เคียวไม่เชื่อ เคียวจะพิสูจน์”
ร่างบางบอกเสียงแน่วแน่ก่อนจะปาดน้ำตา ดวงตากลมโตมองออกไปข้างนอกอย่างมุ่งมั่น เธอต้องพิสูจน์เรื่องนี้ให้ได้ ถ้าพนาพรรษคิดจะเลิกรักเธอจริง ๆ เธอจะรู้รู้สาเหตุ ไม่ใช่อยู่ดี ๆ มาบอกเธอแบบนี้เด็ดขาด หญิงสาวลุกขึ้นอาบน้ำ เธอจะเริ่มการพิสูจน์ตั้งแต่วันนี้ ถ้าวันใดที่พนาพรรษมองหน้าเธอตรง ๆ แล้วบอกว่าไม่รักเธอได้วันนั้นเธอจะออกไปจากป่าหนาวทันที นั่นหมายถึงเธอกับเขาคงไม่มีวาสนาต่อกันแล้ว
“สู้ ๆ เคียว”
คุณหมอคนสวยให้กำลังใจตนเองอีกครั้งหลังจากจัดการกับตัวเองเรียบร้อยแล้ว ร่างบางในชุดใหม่เอี่ยมซึ่งใครได้มองคงต้องตาค้างกันเป็นแถวเพราะแนวนี้คนในป่าหนาวยังไม่เคยเห็นหมอเคียวแต่งตัวแบบนี้เลย เหตุผลเดียวก็คือพี่ป่าขอไว้ แต่ต่อไปนี้เธอต้องทำให้พนาพรรษสนใจเธอยิ่งกว่าเก่าให้ได้ หญิงสาวเดินไปที่บ่อมุกทันทีและที่นั่นก็มีคนสองคนที่เธอต้องการเจออย่างที่เธอคิดไว้ไม่มีผิด หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดก่อนจะเดินเข้าไปหาสองคนที่กำลังเคร่งเครียดกับการตรวจหอยมุกจนไม่สังเกตว่ามีใครเดินเข้าไปหา
“สวัสดีค่ะ มีอะไรให้ฉันช่วยมั้ยคะ”
พนาพรรษปล่ยอมุกหลุดมือทันทีเมื่อได้ยินเสียงใคร ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวที่เดินเข้ามาตาค้าง กางเกงยีนส์ขาสั้นที่เหนือเข่าไปเยอะ กับเสื้อไหมพรมบาง ๆ แขนยาวที่ดำ ที่ทำให้คนมองอย่างเขาใจสั่นไหวอย่างรุนแรง
“คนอะไรหน้าด้าน เจ้าของเกาะเขาไล่แล้วยังไม่ไปอีก”
เสียงขอดค่อนของบุษราลัลน์ทำให้คนฟังถึงกับหน้าซีดเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อวาน คุณหมอคนสวยสูดลมหายใจเข้าปอดเพราะต้องการเพิ่มกำลังใจให้ตัวเองอย่างแผ่วเบาเพราะกลัวผู้หญิงอีกคนจับได้ว่าคำพูดของหญิงสาวผู้นั้นจะทำให้เธอหวั่นไหวได้
“แค่ไล่ ไม่ได้หมายความว่าฉันจะต้องลาออกไปจากฟาร์มป่าหนาวนี่คะ ฉันยังคงทำงานได้เหมือนเดิมจริงมั้ยคะนายหัว”
คุณหมอคนสวยหันไปถามคำถามนั้นกับอีกคนที่นั่งอึ้งอยู่ข้าง ๆ บุษราลัลน์ ทั้งที่ใจลุ้นกับคำตอบของเขาเต้นหัวใจเต้นแทบไม่เป็นจังหวะ
“ไม่เป็นไรหรอกบุษ แค่อย่าให้เขามายุ่งกับเราก็พอ”
ไม่ไล่ก็เหมือนไล่กับคำตอบของเขา ขวัญพรรษเมินไปทางอื่นทันทีเมื่อได้ยินคำตอบบาดหัวใจ น้ำตาเริ่มปริ่มดวงตากลมโตของหญิงสาวขึ้นมาอีก ไม่นะขวัญพรรษเธออ่อนแอตอนนี้ไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด
“นั่นคือฉันยังทำงานได้ปกติเหมือนเดิม”
ขวัญพรรษกลั้นน้ำตาแล้วหันไปบอกพร้อมรอยยิ้มให้กับบุษราลัลน์ที่มองเธอตาแทบหลุดออกจากเบ้า
“หน้าด้าน”
เสียงของบุษราลัลน์ดังไม่ใช่น้อย อย่างน้อยก็เรียกสายตาคนรอบข้างให้หันมามองเธอเป็นตาเดียว ลุงหวานที่เห็นเหตุการณ์นั้นพอดี รู้สึกสงสารหมอเคียวคนสวยที่เขาลุ้นให้มาเป็นคุณผู้หญิงของป่าหนาวอย่างมาก ถ้าเทียบกับบุษราลับน์แล้วห่างกันลิบลั่วเลยในความรู้สึกของลุงหวาน
“หมอเคียว ทางนี้ครับ มาดูมุกกับลุงทางนี้ดีกว่า”
ขวัญพรรษหันไปยิ้มราวกับเสียงของลุงหวานเป็นเสียงเทวดาผู้ทรงธรรม
“ค่ะ ลุงหวาน”
หมอเคียวตอบพร้อมกับเดินไปหาลุงหวานผู้มีอุปการคุณทันที โดยมีสายตาเป็นห่วงของนายหัวแห่งป่าหนาวแอบมองตามไป
“บุษว่าป่าน่าจะไล่มันออกจากป่าหนาวไปเลยนะคะ อย่าแบบนี้แล้วมันแทงใจบุษเหลือเกิน”
เสียงหวาน ๆ ออดอ้อนชายหนุ่มทันที
“บุษก็อย่าไปสนใจเขาสิครับ ผมบอกแล้วว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับเขาเป็นเพราะต้องการให้บุษหึง ถึงตอนนี้ผมก็ยังเลือกบุษนะ”
บุษราลัลน์ยิ้มอย่างยินดีเมื่อได้ยินประโยคนั้น
“รู้มั้ยบุษไม่เสียใจเลยที่ฟ้าตาย”
ความดีใจทำให้บุษราลัลน์หลุดความจริงออกมาแล้วก็ต้องตกใจกับสิ่งที่ตัวเองพูดไป เพราะไม่รู้ว่าชายหนุ่มจะสงสัยอะไรอีกหรือเปล่า แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มของอีกฝ่ายยังคงอยู่ บุษราลัลน์ก็ต้องยิ้มออกมาอย่างยินดี
“คิดเหมือนผมเลย”
“จริงหรือคะ”
“บุษคงไม่รู้อะไร ผมรู้สึกอึดอัดทุกครั้งที่อยู่ใกล้ฟ้า อาจเพราะว่าผมรักฟ้าไม่เท่ารักบุษกระมัง”
“แหมถ้ารู้อย่างนี้บุษฆะ...”
เกือบหลุดไปอีกแล้ว แต่คราวนี้รู้สึกจะมีตัวช่วยมาช่วยหล่อนอีกแล้ว ในขณะที่พนาพรรษกำลังตกใจกับสิ่งที่เขาได้ยินเมื่อสักครู่ ถ้าได้ยินไม่ผิดเขาได้ยินว่าเธอจะฆ่า....ฟ้าหรือเปล่า
“แหม น่าอิจฉาจังนะคะ”
เสียงของมนัญญาดังขึ้นเมื่อเธอมองเห็นภาพที่เกือบหวานของนายหัวกับบุษราลัลน์ แม้แต่เธอเองยังไม่เชื่อเลยว่าคนอย่างนายหัวป่าแห่งป่าหนาวจะเลิกรักผู้หญิงที่ครั้งหนึ่งเขายอมเอาชีวิตเข้าแลกเพียงเพราะอยากตามไปช่วยหญิงสาวท่ามกลางพายุและฝนโปรยปรายอย่างนักเมื่อได้ยินว่าผู้หญิงคนนั้นกำลังตกอยู่ในอันตราย แต่นี่อะไรเพียงแค่วันเดียวกลับหมดรักกันง่าย ๆ แบบนี้เลยเหรอ
“หัดไว้ให้ชินนะโม เพราะอีกหน่อยเธอต้องเห็นแบบนี้ไปอีกนาน”
บุษราลัลน์ตะโกนบอกพร้อมกับหันไปยิ้มหวานให้นายหัวที่มองหน้าเธออยู่ก่อนแล้ว
“ป่าคะ เห็นเคียวมั้ย”
“อะไรนี่มันเวลาทำงานนะ จะมาชวนกันไปไหนอีก”
“ฉันไม่ได้ชวนไปเวลานี้ จะไปตอนกลางคืน พี่มาร์คเขาอยากชวนไปกินข้าว”
คำบอกของมนัญญาทำให้หัวใจของนายหัวร้อนรนขึ้นทุกที ๆ
“โน่นอยู่โน่น แหมเนื้อหมอจริง ๆ เลยนะ โดนสลัดทิ้งไม่ทันไรมีหนุ่มใหม่มาดามอกให้แล้ว”
คำข่อนแคะของบุษราลัลน์ทำให้นายหัวลุกขึ้นยืนแล้วรีบออกไปจากตรงนั้น เขาเริ่มทนไม่ได้แล้ว นี่มันแค่เริ่มแรกเท่านั้น เขาจะทนให้ไอ้ลูกครึ่งนั้นพาขวัญพรรษไปกินเข้าได้อย่างไรกัน
“ป่าคะ ป่า”
“ผมจะไปดูที่รีสอร์ตหน่อยนะ เห็นไอ้น้ำมันบอกว่าลูกค้าจากอังกฤษจะโทรเข้าคุยเรื่องงานหน่ะ”
ใจร้อนเหมือนใครเอาไฟมาลนเอาไว้ นายหัวรีบเดินไปยังรีสอร์ตป่าหนาวจนเกือบจะเป็นวิ่ง เพื่อไปถามไอ้ฝรั่งนั่นว่ามันทำแบบนี้หมายความว่าอย่างไร แล้วก็เหมือนสวรรค์ดลใจเมื่อเห็นมันยืนกินลมชมไม้อยู่หน้ารีสอร์ตป่าหนาวนั่นเอง
“หวังว่าอาหารค่ำคงอร่อยนะครับ”
แม็กซิอุสหันไปมองต้นเสียงที่ยืนหายใจเร็วจนเกือบเป็นหอบอยู่ด้านหลัง
“อ้อ...นึกว่าใคร ข่าวไวจังนะครับ อร่อยหน่ะมันอร่อยอยู่แล้ว ยิ่งได้ไปกับคนสวย ๆ อย่างเคียวยิ่งอร่อยไปใหญ่”
แม็กซิอุสยิ้มกว้างขึ้นกว่าเดิมเมื่อเห็นว่าใครเดินมาด้านหลังอีกสองคน แต่ขวัญพรรษยกมือขึ้นแตะปากตัวเองเบา ๆ หมายถึงไม่ให้เขาบอกว่าเธออยู่ตรงนี้ด้วย
“คุณมาที่นี่มีอะไรหรือเปล่า หรือแค่มาอวยพรให้อาหารค่ำของผมอร่อย”
พนาพรรษมองหน้าอีกฝ่ายอย่างจนด้วยคำพูด จะบอกได้อย่างไรว่ามาที่นี่เพราะอยากบอกให้ชายหนุ่มตรงหน้ารู้ว่าเขาไม่พอใจมากแค่นั้น
“พอดีมีลูกค้าโทรมา ผมเห็นคุณยืนอยู่ เลยคิดว่าอวยพรเสียหน่อย หวังว่าคงมีความสุขนะครับ กินของเหลือของผม
เอ้ย...ไม่ใช่สิ กินของก็อย่าให้เหลือแล้วกันเพราะว่าเราต้องช่วยชาติประหยัดนะครับ”
แม็กซิอุสมองสบตาคมเข้มที่มองของอย่างแวววาวด้วยอารมณ์โกรธ ก่อนจะยิ้มแล้วตอบกลับอีกฝ่ายไปเช่นกัน
“ผมไม่กินเหลือหรอกครับ จะกินให้หมดถ้าคนที่ไปกินด้วยเขาเต็มใจ”
เปรี้ยง!!!
มันเหมือนกับฟ้าผ่าลงมากลางหัวใจของนายหัวเหลือเกิน แล้วชายหนุ่มก็ต้องเดินออกไปอย่างรวดเร็วอย่างทนไม่ไหวถ้าอยู่นานกว่านี้มีหวังได้วางมวยกันแน่นอน
“ไงเคียว ทนไหวหรือเปล่า”
แม็กซิอุสถามน้องสาวเพื่อนทันทีที่อีกฝ่ายไปแล้ว ขวัญพรรษยิ้มให้ชายหนุ่มเซียว ๆ ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ แล้วเดินเข้ามาหาหนุ่มลูกครึ่ง
“เคียวทนได้ค่ะ เพราะเคียวเชื่อว่าใจจริงแล้วพี่ป่ายังไม่หมดรักเคียว เคียวเชื่ออย่างนั้น มันต้องมีอะไรบางอย่างแน่นอน”
แม็กซิอุสมองหน้าหญิงสาวที่ตนเองตกหลุมรักตั้งแต่เห็นรูป แต่ไม่ได้หัวใจหล่อน เพราะเขามาช้าเกินไปหัวใจของหล่อนเป็นของคนอื่นแล้ว และไม่ใช่ใครที่ไหนนายหัวแห่งป่าหนาวนั่นเอง เขาจะบอกเรื่องที่นายหัวมาขอร้องให้เขาดูแลขวัญพรรษให้ก่อนดีหรือไม่ แต่เมื่อคิดแล้วคิดอีก เขาต้องบอกเพราะมันเป็นสิทธิ์ของหญิงสาวที่ต้องรู้
“เคียวคิดไม่ผิดหรอก เขามีเหตุผลบางอย่างที่ต้องบอกเลิกเคียว พี่ไม่รู้หรอกว่าเคียวรู้หรือเปล่า แต่เขาบอกว่าเขาอยากให้คนชื่อบุษสารภาพว่าเป็นคนฆ่าฟ้า รู้สึกว่าเขาจะไปเห็นหลักฐานอะไรบางอย่างมั้ง เขาเลยมาขอร้องพี่ให้ดูแลเคียวก่อน แล้วเขาจะมาทวงเคียวคืนทีหลัง แต่พี่ก็กวนเขาไปนิดหน่อย ถามอะไรก็ไม่ค่อยจะยอมบอก อยากให้ช่วยก็น่าจะพูดดี ๆ เคียวว่ามั้ย”
แม็กซิอุสรู้สึกปวดใจนิด ๆ เมื่อเห็นใบหน้าหวาน ๆ นั้นยิ้มอย่างยินดีเมื่อได้ยินสิ่งที่เขาเล่า
“เคียวว่าแล้ว พี่ป่าต้องมีอะไรบางอย่าง พี่ป่าต้องไม่เลิกรักเคียวแน่นอน”
“โมก็ว่าอย่างนั้นแหล่ะ”
มนัญญาก็ยิ้มยินดีกับเพื่อนรัก
“เคียวมีเรื่องอยากขอร้องพี่มาร์ค แต่มันอาจจะทำให้พี่มาร์คลำบากใจนิดนึงนะคะ”
ขวัญพรรษมองอีกฝ่ายอย่างขอร้องกับน้ำเสียงพูดอ่อย ๆ ของตัวเอง
“เรื่องนี้หรือเปล่า ถ้าอย่างนั้นก็โอเค แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่พิสูจน์ได้แล้วว่าคุณพนาพรรษไม่รักเคียวแล้ว เคียวต้องให้โอกาสพี่โดยไม่มีข้อต่อรอง นี่ไม่ใช่คำขู่ เพราะเรื่องนี้จะถึงหูไอ้ทิกทันที”
มนัญญาอ้าปากค้างก่อนจะพูดออกมาแทนเพื่อน
“นี่ไม่ขู่หรือคะ ถ้าขู่จะขนาดไหนเนี่ย”
“ว่าไง เราตกลงมั้ย”
“ค่ะ ถ้าเมื่อไหร่ที่พี่ป่าพูดต่อหน้าเคียว มองหน้าเคียว แล้วบอกว่าไม่รักเคียวได้ เคียวจะไปกับพี่มาร์คทันทีโดยไม่มีเงื่อนไขเลยคะ ขอให้เคียวได้พิสูจน์แค่นั้น”
แม็กซิอุสพยักหน้าเบา ๆ
“แต่เรื่องนี้ต้องไม่ถึงหูพี่ทิกนะคะ หรือว่าแอบบอกกันไปแล้ว”
หมอเคียวชี้หน้าอีกฝ่าย แล้วทำเสียงขู่
“ก็เกือบเหมือนกันแหล่ะ เมื่อคืน ถ้าไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวของเคียว เคียวควรบอกไอ้ทิกมันเอง”
ขวัญพรรษยกมือขึ้นไหว้เพื่อนพี่ชายอีกครั้งอย่างขอบคุณ
“ขอบคุณนะคะ เย็นนี้เจอกัน หกโมงนะคะ”
“ครับ”
มนัญญากำลังจะเดินไปกับแม็กซิอุสแล้ว ถ้าไม่ถูกมือเรียวเล็กดึงไว้เสียก่อน ขวัญพรรษพยักหน้าเบา ๆ เป็นเชิงบอกว่าให้มนัญญาเดินกลับไปพร้อมเธอ
“อะไรของเธอเนี่ย”
“มันมีเรื่องจะปรึกษาทั้งเธอทั้งวินนี่ด้วย เพราะฉะนั้นไปที่ฟาร์มนกกันเถอะ”
สองสาวพากันเดินไปยังฟาร์มนกอย่างรวดเร็ว เรื่องสำคัญก็ไม่ใช่เรื่องอะไรหรอก เธอก็อยากหาหลักฐานพิสูจน์เพื่อช่วยพนาพรรษเหมือนกันเรื่องทุกอย่างมันจะได้จบเร็วขึ้น เธอไม่อยากทรมานแบบนี้อีกแล้ว เมื่อถึงฟาร์มนกวินนี่ก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นลักษณะการแต่งตัวของเพื่อน
“ไอ้เคียว วันนี้แกแรงมาก ขอบอก”
มนัญญาถึงกับยิ้มกว้างเลยทีเดียวเมื่อได้ยินประโยคที่เธอยากพูดเมื่อเจอหน้าขวัญพรรษตอนแรก
“ฉันอยากแรงให้พี่ป่าสนใจ ดูซิว่าจะใจดำไม่สนใจฉันได้หรือเปล่า”
“โถ โถ โถ นี่เพื่อนฉันเป็นถึงขนาดนี้เลยหรือ ฉันว่าแกเปลี่ยนใจไปหาคนที่ชอบแกไม่ดีกว่าหรือ มันง่ายกว่าที่แกจะมาทำให้คนที่หมดรักแกสนใจแกอีกนะ”
“ฉันไม่เชื่อหรอกวินนี่ พี่ป่าไม่มีทางหมดรักฉัน แล้วอีกอย่างพี่มาร์คบอกว่าพี่ป่าไปขอให้พี่มาร์ดช่วยดูแลฉันชั่วคราว แล้วจะมาทวงคืนทีหลัง เพราะต้องการสืบเรื่องของคุณบุษ ฉันถึงต้องมาหาแกวันนี้ไง เราสามคนต้องช่วยกันสืบเรื่องนี้ต่อให้เสร็จ”
วินนี่มองหน้าเพื่อนตาค้าง ไม่น่าเชื่อเลยว่าความรักจะทำให้เพื่อนของเธอเปลี่ยนไปขนาดนี้ ถ้าเป็นเมื่อก่อนโดนด่าขนาดนี้หมอเคียวไม่มีทางยืนอยู่ที่นี่ต่อเด็ดขาดป่านนี้วิ่งกลับไปช้ำใจที่บ้านแล้ว แต่นี่กลับเป็นว่าช้ำใจแค่คืนเดียวพอเช้าขึ้นมาเปลี่ยนเป็นคนละคนกับเมื่อคืนเลย นี่แหล่ะน้าที่เขาเรียกว่าความรักเปลี่ยนคนให้เป็นคนใหม่ได้แค่ชั่วข้ามคืน
“งั้นมีอะไรเริ่มเลย งานตอนนี้ของพวกเราไม่เยอะ มีเวลาเหลือด้วยซ้ำไป”
สองสาวกับหนึ่งหนุ่มหัวใจสาวยกมือขึ้นประสานงานกันก่อนจะร้องเย้เหมือนนักกีฬารวมมือกันก่อนจะลงแข่งขันยังไงยังงั้นเลย

ร่างบางของมนัญญาเดินออกมาจากหน้าบ้านพักของบุษราลัลน์อย่างอารมณ์ดีเพราะดูลาดเลามาแล้วว่าบุษราลัลน์กำลังคร่ำเคร่งอยู่ที่บ่อมุกกับพนาพรรษยังไม่กลับ
“ไปกันเถอะ ไปกินข้าวให้สนุกก่อนแล้วค่อยมาดูผลงาน นังบุษคงขนหัวลุกแน่นอน”
สองสาวกับอีกหนึ่งหนุ่มเดินไปที่รีสอร์ตป่าหนาวอย่างสบายอารมณ์ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็รู้ว่าบุษราลัลน์จะรู้สึกอย่างไร
“ไงครับ อารมณ์ดีกันจริง ๆ นะ”
แม็กซิอุสมองหน้าสามคนที่เดินมาอย่างเสียดาย ทั้ง ๆ ที่รู้แล้วว่าจะไม่ได้ไปกินข้าวกับขวัญพรรษสองต่อสองแต่ก็ยังแอบหวังนิด ๆ ไม่ได้
“งานเสร็จเร็วค่ะ เลยรีบมากันเลย”
ขวัญพรรษตอบยิ้ม ๆ แล้วเดินขึ้นรถพร้อมสามคนที่ตามมาขึ้นรถเหมือนกัน
“ว่าแต่เราไปร้านไหนดีคะ ร้านนี้ดีกว่า เคียวได้ยินเอมี่บอกว่าเพิ่งเปิดใหม่ บรรยากาศดีมาก อาหารก็อร่อย”
“ครับ ยังไงก็ได้”
เสียงหัวเราะในรถดังอย่างครื้นเครง ต้นน้ำถูกชวนไปเหมือนกันแต่เขาไม่อยากไปเพราะเกรงใจเพื่อนรัก อย่างน้อยหมอเคียวก็เคยเป็นแฟนเพื่อน ถึงตอนนี้เขาจะได้ยินมันบอกเลิกรักแล้วก็เถอะ แต่เขาดูว่ามันง่ายเกินไปสำหรับคนที่รักกันมาก ไอ้ป่ามันมีปัญหาอะไร มันไม่ยอมบอกเขา คิดแก้ปัญหาคนเดียวแน่นอน แล้วรถคันหรูก็ขับออกไปจากรีสอร์ตหรูแห่งนี้เหมือนกัน
บุษราลัลน์กลับมาที่บ้านพักของตัวเอง วันนี้เธอรู้สึกอิ่มเอมในหัวใจมาก เธอค่อย ๆ แอบเปิดเผยความลับทีละอย่างอย่างไม่ได้ตั้งใจ แต่สิ่งที่พนาพรรษตอบรับกลับเป็นความรู้สึกเดียวกันกับเธอ ถ้าเป็นแบบนี้เธอบอกเสียตั้งแต่แรกไปแล้ว ไม่ปล่อยให้เรื่องมันเลยเถิดแบบนี้หรอก หญิงสาวไขกุญแจเข้าไปแล้วก็ต้องเอะใจเมื่อปลายท้าวไปเหยียบกับอะไรบางอย่างเข้า
“ต่างหู ของใครกัน แล้วนี่กระดาษอะไร”
ความสงสัยมีมากกว่าเลยทำให้ร่างบางหยิบต่างหูพร้อมกับกระดาษขึ้นมาดูให้ชัด ๆ อีกครั้ง แล้วก็ต้องตัวชาไปทั้งตัวเมื่อเห็นข้อความในกระดาษ
“ฆาตรกรชุดดำก็ใส่ต่างหูอันนี้ คุณก็มีต่างหูอันนี้เหมือนกัน หรือว่าคุณคือฆาตรกร”
ใคร ใครกันที่ทำแบบนี้ ใครกันส่งต่างหูอันนี้มาให้เธอ ถ้าอย่างนั้นมันต้องรู้ความลับของเธอแล้ว เธอหละหลวมปล่อยให้คนอื่นรู้เรื่องตอนไหนกันเห็นทีต้องทำลายหลักฐานเสียก่อนแล้ว เร็วเท่าความคิดบุษราลัลน์เดินเข้าห้องไปหยิบเสื้อชุดดำอันเป็นหลักฐาน แล้วเดินออกมานอกบ้านแอบไปด้านหลังเมื่อเห็นว่าไม่มีใครสังเกต หญิงสาวจึงใช้น้ำมันราดไปจนชุ่มเสื้อแล้วจุดไฟเผาทันที เพียงครู่เดียวไฟก็ลามทั่วเสื้อตัวนั้น
“คุณทำอะไรครับคุณบุษ”
บุษราลัลน์ตกใจสุดชีวิตเมื่อได้ยินเสียงคนเรียกชื่อของตัวเองดังออกมาจากด้านหลังเธอ
“สัก..มีอะไร ฉันบอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่ามาที่นี่”
“นี่มันอะไรครับ ชุดดำ อย่าบอกนะว่าคุณเป็นคนฆ่าคุณฟ้า ฆ่านกพวกนั้น ไหนคุณบอกไม่รู้เรื่องไงครับ คุณหลอกใช้ผมหรือ”
สักซึ่งแอบอยู่หลังบ้านบุษราลัลน์สักพักใหญ่แล้ว เขาร้อนใจมากเมื่อได้ข่าวจากคนงานรอบ ๆ ตัวว่าบุษราลัลน์สงสัยจะได้เป็นนายผู้หญิงคนต่อไปเสียแล้ว เพราะหมอเคียวที่ว่าแน่นอนนั้นโดนนายหัวไล่ออกไปจากป่าหนาวแล้ว
“ฉะ..ฉันไม่ได้ทำ”
“แล้วคุณเผาพวกนี้ทำไม ทำลายหลักฐานหรือครับ”
“ถึงฉันจะทำแล้วทำไม นังฟ้ามันโง่ ส่วนนังเคียวมันอยากแย่งป่าไปจากฉันเองนี่ ดีนะที่ป่ายังกลับตัวทันไม่งั้นมันก็คงเป็นศพต่อไป”
บุษราลัลน์จ้องสักแทบถลน เห็นเธอจะต้องกำจัดอีกคนเพิ่มเสียแล้ว มันบังอาจรู้เรื่องลับของเธอได้ไง สักถึงกับผงะเมื่อเห็นแววตาของคนไม่ปกติของบุษราลัลน์ นี่มันแววตาของคนเป็นโรคจิตชัด ๆ
“ฉันจะบอกความจริงให้สักฟังทุกอย่าง เดี๋ยวสักไปรอฉันที่ท้ายเกาะนะ ฉันรักสักนะฉันถึงจะเล่าเรื่องทุกอย่างให้สักฟัง”
สักมองหน้านั้นอย่างพิจารณา รักมันก็รักอยู่หรอกนะ แต่ถ้าเรื่องที่เขาฟังมันมีประโยชน์และพร้อมจะช่วยเหลือนายหัวของเขาได้เขาก็ยอม สักพยักหน้ารับคำแล้วเดินไปตามที่นัดไว้ทันที บุษราลัลน์มองตามด้วยสายตาไม่ปกติ หญิงสาวเดินไปหยิบมีดในบ้านแล้วซ่อนไว้ในเสื้อจากนั้นก็เดินตามนายสักไปที่นัดหมายทันที
“คุณบุษมีอะไรจะบอกผม”
“ความจริงฉันรักสักนะ ฉันคิดว่าถ้าฉันได้ป่ามาเป็นของฉัน แล้วฉันก็จัดการฆ่าป่า สมบัติทุกอย่างก็ต้องตกเป็นของฉันแล้วถึงตอนนั้นสักก็ได้ผลประโยชน์ด้วยนะ เป็นเจ้าของเกาะเองไม่ชอบเหรอ”
สักมองดวงหน้าหวาน ๆ นั้นอีกครั้งอย่างพิจารณา เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าหน้าหวาน ๆ แบบนี้ใจคอจะอัมหิตฆ่าคนได้
“คุณบุษจะบอกผมว่า คุณบุษเป็นคนฆ่าคุณฟ้าหรือ”
“ใช่ มันขวางทางฉัน ฉันก็ต้องกำจัดมัน”
บุษราลัลน์กล่าวเสียงดัง ดวงตาลอกแลกมองซ้ายมองขวาเมื่อนึกถึงปรายฟ้า
“แต่คุณฟ้าเป็นเพื่อนคุณนะครับ”
“ก็แค่เพื่อน สักฉันรักสักนะ ฉันขอแค่สัญญาว่าสักจะไม่บอกเรื่องนี้กับใคร แค่นั้นได้หรือเปล่า แล้วทุกอย่างจะตกเป็นของเรา”
ร่างบางขอบบุษราลัลน์เข้าไปโอบรัดร่างของสักไว้ทันที หญิงสาวจงใจเบียดตัวเข้าหาอกกว้างของสัก เพราะต้องการให้สักไขว้เขวคิดถึงแต่เรื่องตัณหาอย่างเดียว
“คุณบุษรักผมจริง ๆ นะครับ”
“จ้ะ”
พอสิ้นเสียงดวงตาของสักก็เบิกกว้างขึ้นเมื่อรู้สึกตัวว่าด้านหลังตัวเองมีอะไรมาแทง จากความเสียง กลายมาเป็นชา แล้วก็เจ็บในวินาทีถัดมา ก่อนมันจะโดนแบบนั้นอีกสองครั้ง ร่างสูงของสักร่วงลงไปกองกับพื้นทรายทันที ดวงตาเหลือกขึ้นมองบุษราลัลน์ที่กำมีดเปื้อนเลือดในมือไว้แน่น
“รักเหรอ แกมันโง่ เป็นแค่คนงานคิดสะเออะ”
ปากหนาของสักเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างแล้วก็สลบเหมือดไป บุษราลัลน์มองผลงานตรงหน้าอย่างพอใจ ก่อนจะลากร่างหนา ๆ ของสักเข้าไปในป่าลึกด้านใน ตรงท้ายเกาะด้านนี้ไม่มีนักท่องเที่ยวมาเพราะเป็นเขตหวงห้ามและอยู่ไกลจากรีสอร์ตพอสมควร บุษราลัลน์หยิบใบไม้มาเช็ดเลือดที่ติดกับมีดออก แล้วนำมีดไปล้างน้ำทะเลเท่านี้ทุกอย่างก็หมดสิ้น หญิงสาวปาดเหงื่อออกเพราะต้องลากร่างหนัก ๆ ของสักไปไกลพอสมควรเรียกเหงื่อเธอได้อย่างมาก
“แค่นี้ก็ไม่มีใครรู้แล้ว โทษตัวเองเถอะนะสักที่โง่มาสอดรู้เรื่องของฉัน”
แล้วร่างบางก็เดินกลับไปยังบ้านพักของตัวเอง พนาพรรษซึ่งเดินมาจากรีสอต์พอดี เห็นบุษราลัลน์เหลียวซ้ายเหลียวขวาเหมือนกับว่าเพิ่งมาจากไหนงั้นแหล่ะ เกิดอะไรขึ้นอีกหรือ
“บุษไปไหนมา”
บุษราลัลน์สะดุ้งเฮือกใจไปอยู่ที่ตาตุ่มทันที แต่หญิงสาวก็ปรับสีหน้าได้ในวินาทีต่อมา
“เปล่าค่ะ เดินเล่นเฉย ๆ แล้วป่าหล่ะคะ”
ชายหนุ่มสังเกตหน้าอีกฝ่ายก่อนตอบ
“ผมกลับมาจากประชุมที่รีสอร์ตหน่ะ ทำไมบุษหน้าซีดแบบนี้”
“เปล่าค่ะ คงเดินนานไปหน่อย เหงื่อออกเยอะมั้งค่ะ บุษขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ กู๊ดไนท์ค่ะ”
ร่างบางชะโงกไปหอมแก้มอีกฝ่ายทันที ชายหนุ่มจะผงะหนีในตอนแรกแล้วพอคิดอะไรออกก็ยอมให้อีกฝ่ายจุมพิตแต่โดยดี แต่ เขารู้สึกไปเองหรือเปล่า รู้สึกเหมือนได้กลิ่นเลือด ชายหนุ่มสำรวจทั่วตัวของหญิงสาวแล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นหยดเลือดเปื้อนปลายเท้าบุษราลัลน์มา ดูเหมือนหญิงสาวจะไม่รู้สึกตัว เพราะร่างบางเดินกลับบ้านพักไปอย่างรวดเร็วจนไม่สังเกตสายตาของคนที่มองตามเลยสักนิด บุษราลัลน์ไปทำอะไรมา นายหัวแห่งป่าหนาวเก็บความสงสัยเอาไว้เพราะตอนนี้เขามีเรื่องจะจัดการ และสำคัญที่สุดสำหรับเขาในตอนนี้ ชายหนุ่มเดินมาหยุดนิ่งหน้าบ้านพักของขวัญพรรษอย่างทอดถอนใจเขาจะให้ทุกอย่างมันผ่านพ้นไปได้หรือ ในเมื่อเพียงแค่หญิงสาวไปกินข้างกับแม็กซิอุสแค่นี้หัวใจของเขาก็เต้นพล่านราวกับปลาโดนน้ำร้อนลวกดิ้นไปดิ้นมา นี่มันกี่โมงแล้ว......สี่ทุ่มกว่าเข้าไปแล้วคุณหมอคนสวยยังไม่กลับอีก ร่างสูงกำลังยืนกระวนกระวายใจแล้วอยู่ ๆ ก็วิ่งไปหลบอีกด้านหนึ่งของบ้านพักเมื่อได้ยินเสียงคนเดินพร้อมกับเสียงหัวเราะมายังบ้านพักของขวัญพรรษ
“ค่ะ พ่อจ๋าไม่ต้องเป็นห่วง เคียวสบายดี เคียวไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วนะ”
“พ่อก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ แล้วนี่เมื่อไหร่จะหยุดงานกลับมาบ้านเราบ้างหล่ะ”
พัฒน์ถามกลับลูกสาวด้วยความคิดถึง เขาไม่ได้เห็นหน้าลูกสาวคนเดียวของเขาคนนี้มานานเท่าไหร่แล้วนะ...เกือบสี่เดือนแล้ว เวลามันผ่านไปเร็วราวกับมีปีกบินเลย จนเขากับภรรยาแทบจะทนไม่ไหวแล้วได้ยินแต่เพียงเสียงอย่างเดียวเท่านั้น
“ตอนนี้งานมันยุ่ง พ่อจ๋าก็รู้ อย่างอนนะ เดี๋ยวเคียวหาเวลาว่างแล้วจะกลับไปหาพ่อจ๋ากับแม่จ๋านะคะ ฝากจุ๊บแม่จ๋าด้วย สวัสดีค่ะ”
ขวัญพรรษวางสายในขณะที่ใบหน้ายังคงมีรอยยิ้มติดอยู่
“ไง ไปกินข้าวแค่นี้มันมีความสุขมากเลยหรือ”
ร่างบางสะดุ้งเมื่อเห็นว่าเป็นใครเดินออกมาจากความมืดด้านหลังบ้านพักของเธอ
“เปล่าค่ะ”
“กินข้าวหรือกินอะไรมา ถึงได้มีความสุขขนาดนี้”
เขาไม่ได้ตั้งใจให้เสียงเป็นแบบนี้เลย แต่เพราะควบคุมตัวเองเอาไว้ไม่อยู่น้ำเสียงที่ออกไปเลยระคายหูคนฟังอยู่ซักหน่อย
“ถ้าจะมาหาเรื่องกันหล่ะก็ เคียวขอตัว วันนี้เหนื่อย”
“มันก็น่าจะเหนื่อยนี่มันกี่ทุ่มแล้วหล่ะ”
“ถ้าคุณไม่มีอะไรจะคุยฉันขอตัว”
ไหนบอกว่าไม่สนใจเราไง แล้วทำไมถึงทำตัวหาเรื่องแบบนี้ หญิงสาวเตรียมปิดประตูแต่ร่างสูงที่ยืนอยู่ด้านนอกดันตัวเข้ามาเสียก่อนแถมมือหนานั้นยังปิดประตูและล็อคให้อีกต่างหาก
“คุณทำอะไร”
“ก็ล็อคประตูไง เดี๋ยวคนอื่นจะเข้ามา”
นายหัวหันไปตอบเสียงยียวนกวนประสาทคนฟังสุดฤทธิ์
“เข้ามาทำไม ออกไปนะ”
“ไล่เจ้าของบ้านเลยเหรอ”
“แต่ตอนนี้มันเป็นของฉัน”
ขวัญพรรษยืนยันพร้อมกับดันตัวนายหัวแห่งป่าหนาวออกไปข้างนอก แต่ดูเหมือนเธอกำลังดันกำแพงหรืออะไรสักอย่างเพราะร่างนั้นไม่ขยับเขยื้อนกายเลยสักนิด
“ถ้าคุณไม่ออกไปฉันจะร้องจริง ๆ นะ”
“ก็ร้องไปสิ คนทั้งป่าหนาวจะได้รู้ว่าคุณเป็นอะไรกับผม”
“เป็นอะไร ในเมื่อคุณปฏิเสธทุกอย่าง พร้อมกับไล่ฉันไม่ให้ยุ่งกับคุณไง”
เสียงของขวัญพรรษเริ่มสั่นขึ้นนิด ๆ เมื่อเอ่ยถึงเรื่องเศร้าอันน่าปวดใจในวันที่ผ่านมา
“ในเมื่อคุณตัดสินใจแล้ว ก็ออกไปจากบ้านหลังนี้ได้แล้ว ออกไป”
น้ำตาที่คลอตาเมื่อสักครู่ไหลหยาดรินรดสองแก้ม ดวงตากลมโตมองหน้านายหัวอย่างเจ็บช้ำที่สุด
“ออกไปให้เธอเสวยสุขกับไอ้ฝรั่งนั่นหน่ะหรือ”
มือหนาจับยกขึ้นจับมือบางไว้ทันทีเมื่อหญิงสาวตั้งใจจะทำร้ายร่างกายเขา
“คุณนี่มันบ้า บ้าที่สุด อย่าคิดว่าคนอื่นจะเลวเหมือนตัวเอง”
“ฉันหรือเลว ใครกันแน่ อ่อยผู้ชายไม่เลือก แค่ฉันบอกเลิกไม่ถึงวันแล่นไปหาไอ้ฝรั่งนั่นแล้ว”
เพี๊ยะ!!!
เสียงฝ่ามือกระทบใบหน้าคมเข้มของนายหัวแห่งป่าหนาวดังลั่นบ้านพักหลังน้อยของขวัญพรรษ ใบหน้าหล่อเหลาหันไปตามแรงตบนั้นทันที
“ทำไมพูดถูกใจดำหรือไง แล้ววันนี้ไอ้ฝรั่งมันปนเปรอถึงใจมั้ย”
“อ๊าย...หยุดพูดนะ อย่าเอาพี่มาร์คมาแปดเปื้อนเรื่องเลว ๆ ที่คุณแต่งขึ้นมาเลย”
นั่นเท่ากับเป็นฉนวนจุดความโกรธและความหึงหวงที่มีอยู่มากของชายหนุ่มให้กระพือขึ้นเหมือนไฟไหม้ฟางอย่างไรอย่างนั้นเลย
“เลวหรือ เออ เลวก็เลว งั้นคนเลวคนนี้จะให้ความเป็นผัวอีกหน่อยจะเป็นไร หวังว่าคงไม่เหนื่อยมากจนเกินไปนะ”
มือบางของหญิงสาวยกขึ้นมาอีกครั้งหมายจะตบใบหน้าคมเข้มที่กล่าวหาเธอฉอด ๆ นั้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ดูเหมือนนายหัวแห่งป่าหนาวจะรู้ตัวถึงจับมือบางนั้นไว้อย่างรวดรเร็วแล้วผลักร่างบางลงบนเตียงกว้างอย่างแรงก่อนที่ตัวเองจะตามติดลงไปจทับร่างบางจนหญิงสาวไม่สามารถขยับเขยื้อนไปไหนได้อีก มือหนาตรึงสองมือของหญิงสาวไว้เหนือศีรษะของคุณหมอคนสวย
“ปล่อยนะ คุณจะทำอะไร”
ขวัญพรรษดิ้นรนสุดแรงเพื่อให้ตัวเองหลุดพ้นจากอ้อมกอดของพนาพรรษ
“เสร็จแล้วช่วยบอกทีนะว่า ผมหรือไอ้ฝรั่งที่ถูกใจคุณกันแน่”
พูดเสร็จชายหนุ่มก็ฉกวูบมาที่ปากบางของหญิงสาวทันที ขวัญพรรษเม้มริมฝีปากแน่นเพื่อปิดกั้นไม่ให้ชายหนุ่มทำทุกอย่างตามอำเพอใจ ความรุนแรงของชายหนุ่มค่อย ๆ เปลี่ยนไปทีละน้อย ปลายลิ้นไล้เล็มไปทั่วริมฝีปากบางก่อนจะบังคับให้หญิงสาวค่อย ๆ แย้มปากเพื่อสอดลิ้นเข้าไปแสวงหาความหวานที่ห่างหายเขาไปนาน มันหวานเหลือเกิน เขาคิดถึงรอยจูบ คิดถึงความหวานนี้มากจริง ๆ
“ปะ...ปล่อยนะ”
เสียงหอบดังขึ้นหลังจากชายหนุ่มปล่อยให้เธอเป็นอิสระเพียงนิดเดียวเท่านั้น
“เคียว เคียว”
นายหัวแห่งป่าหนาวเอ่ยได้แค่นั้นก่อนจะสอดปลายลิ้นเข้าหาความหวานจากช่องปากนั้นอีกครั้ง คราวนี้ขวัญพรรษสั่นไปทั้งตัวเพราะความเรียกร้องของอีกฝ่าย
“อะ..อืม...อ่อยอ๊ะ” (ปล่อยนะ)
เสียงปฏิเสธดังออกจากปากหญิงสาวเมื่อเธอพยายามส่ายหน้าไปมาหนีจุมพิตอันแสนหวาดเสียวนั้น
“เคียว...พี่คิดถึงเหลือเกิน”
ขวัญพรรษหยุดชะงักเมื่อได้ยินคำแสนหวานออกจากปากชายหนุ่มคนที่เธอรักสุดหัวใจเหมือนกัน เมื่อเห็นอาการชะงักแบบนั้นชายหนุ่มจึงแนบปากเข้าไปหาอย่างเว้าวอน ปลายลิ้นสอดส่ายเข้าหากันก่อนจะรัดเกี่ยวกระหวัดกันไว้เพื่อแลกความหวานให้กันและกัน นายหัวผงะห่างออกจากหญิงสาวเล็กน้อยเพื่อมองหน้าหวาน ๆ ที่ตอนนี้ปากแดงจัดเพราะฝีมือเขาก่อนที่ใบหน้าคมเข้มจะก้มลงไปสูดความหอมจากซอกคอขาวนวลของเธอ ปลายลิ้นไล้เล็มไปทั่วร่างบางสั่นสะท้านเพราะอารมณ์แปลกใหม่ที่เขามอบให้ มือหนาสัมผัสลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังขาวเนียนก่อนจะดันให้ร่างบางแนบชิดกับตัวเขายิ่งกว่าเดิม
“อืม...เคียว หอมเหลือเกิน”
ริมฝีปากเข้มไล้จากซอกคอขาวมาถึงนวลเนื้ออวบอิ่มเต็มวัยสาว ใบหน้าคมเข้มคลุกเคล้ากับอกอวบจนหนำใจก่อนใจใช้มือหนาของตัวเองปลดตะขอชุดชั้นใน ทันทีที่ชุดชั้นในโดนปลดออกความวาบหวามเข้ามาเต็มหัวใจของขวัญพรรษทันที หัวใจเธอเต้นไม่เป็นส่ำยิ่งมือหนาแต่ได้รูปของนายหัวลูบไล้จากแผ่นหลังก่อนจะสอดเข้าสัมผัสอกอวบอิ่มเต็มไม้เต้มมือของชายหนุ่มอย่างพอใจ
“พ.พี่..ป่าหยุดนะ”
มันเป็นคำสั่งที่ฟังดูอ่อนหวานที่สุด เพราะเสียงที่เอ่ยออกมานั้นสั่นจนหวั่นไหวไปหมด
“พี่รักเคียว รักเคียวที่สุด”
ถ้าเธอไม่ยอมคงจะยอมเขาก็ตอนที่เขาบอกรักเธอนี่แหล่ะ นายหัวค่อย ๆ แกะกระดุมเสื้อของหญิงสาวออกก่อนจะดึงเสื้อชั้นนอกออกไปจากตัวตามด้วยเสื้อชั้นในที่เขารำคาญลูกตายิ่งนัก ชายหนุ่มจดจ้องความงามตรงหน้าราวกับไม่เคยเจอมาก่อน
ใบหน้าคมเข้มก้มลงไปดมดอมความหวานนั้นทันที หญิงสาวสะดุ้งอีกครั้งเมื่อปลายลิ้นเกี่ยวกระหวัดยอดอกอิ่มที่ชูช่อเหมือนรอเขา ชายหนุ่มดูดดื่มความหวานครั้งแล้วครั้งเล่า จนร่างบางถึงกับแอ่นกายผวาหาเขาราวกับว่ามันยังไม่ใกล้ชิดพอ พนาพรรษลูบไล้มืออีกข้างหนึ่งกับอกอวบอีกข้าง หัวแม่มือไล้วนเบา ๆ รอบยอดอกที่แข็งขึงชูชันต้านแรงกับมือของชายหนุ่ม พนาพรรษถึงกับครางเมื่อมือบางของหญิงสาวลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังของเขาเพื่อปลดปล่อยความทรมาน และไม่รู้ว่าจะเอามือของตัวเองไปไว้ที่ไหน นิ้วเรียวลูบไล้ไปทั่วท้ายทอยได้รูปของชายหนุ่ม ดึงเส้นผมของเขาเมื่ออารมณ์วาบหวามสัดสาดเข้ามา มือหนาของพนาพรรษรีบดึงกางเกงยีนส์ตัวสวยออกจากกายคุณหมอคนสวยอย่างรวดเร็วตามด้วยซับใน ขณะนี้มีเพียงขวัญพรรษคนเดียวเท่านั้นที่เปล่าเปลือยต่อหน้าเขาในขณะที่นายหัวยังอยู่ครบ ร่างบางขดตัวเข้าหากันเพื่อหลีกเลี่ยงสายตาหวานที่มองเธอเหมือนจะกลืนกิน ทั้วตัวเธอตอนนี้คงแดงเหมือนกุ้งโดนลวกแล้วมั้ง
“เอาเปรียบ”
เสียงต่อว่าเบา ๆ ทำให้พนาพรรษหัวเราะน้อย ๆ ก่อนจะจับมือบางมาที่กระดุมแล้วค่อย ๆ แกะไปด้วยกันกับเขา เสื้อของชายหนุ่มถูกสลัดไปด้านไหนไม่มีใครสนใจ นายหัวผละออกจากร่างบางเพื่อมาถอดกางเกง สายตาของเขาไม่ได้ผละออกจากร่างบางที่นอนระทวยอยู่บนเตียงกว้างสักวินาที เพียงครู่เดียวร่างสูงก็ลงไปทาบทับร่างบางเอาไว้ริมฝีปากหนาค่อย ๆ สัมผัสกับปากบาง ริมฝีปากเข้มเม้มขบปากสีแดงเชอร์รี่ของหญิงสาวหลายครั้งก่อนจะสอดลิ้นเข้าหาความหวาน สองลิ้นเกี่ยวกระหวัดแลกเปลี่ยนความหวานให้กันและกัน มือหนาบีบเคล้นความอวบอิ่มทั้งสองข้าง ก่อนที่ริมฝีปากจะตามมาสัมผัสดูดดื่ม และอ่อนหวาน ชายหนุ่มค่อย ๆ เลื่อนกายลงจนถึงหน้าท้องแบนราบเรียบไร้ไขมันส่วนเกิน ปลายลิ้นหนาไล้วนรอบแอ่งสะดือบุ๋มของเธอเบา ๆ หญิงสาวถึงกับครางออกมาด้วยความรัญจวน ขนตั้งชันด้วยความเสียวซ่าน
“พี่ป่าขา พี่ป่า”
เสียงครางเรียกชื่อของเขาเปรียบเสมือนน้ำมัน เร่งโหมให้ไฟอย่างเขามอบความสุขให้กับหญิงสาวคนนี้ยิ่งกว่าเดิม ปลายลิ้นไล้ต่ำลงจนถึงจุดหมาย ความฉ่ำชื้นกระจายไปทั่ว ปลายลิ้นสอดเข้าหาเนินเนื้อดูดดื่มราวกับแมลงผึ้งทั้งหลายดูดดื่มน้ำจากเกสรดอกไม้ ขวัญพรรษผวาไปทั้งตัวเมื่อรู้ว่าชายหนุ่มผู้นี้กำลังทำอะไร ร่างบางค่อย ๆ แยกขาออกเพื่อให้เขาสัมผัสเธอได้อย่างเต็มที่ ความคุ้นเคยของสัมผัสที่เคยมอบให้แก่กัน แทบจะไม่ต้องบอกเลยว่าต้องทำอย่างไรบ้าง มันเป็นไปตามกลไกธรรมชาติทั้งหมด ปลายลิ้นสอดส่ายไปมาครั้งแล้วครั้งเล่า สะโพกบางไหวไปตามจังหวะที่ชายหนุ่มมอบให้ หญิงสาวครางดังเมื่อชายหนุ่มเร่งความเร็วของปลายลิ้นขึ้นอีก
“ยะ..อย่าแกล้งเคียวนะคะ”
“บอกว่าเคียวรักพี่สิ”
เสียงแหบพร่าบ่งบอกอารมณ์ของชายหนุ่มดังขึ้น เมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบรับชายหนุ่มจึงก้มสัมผัสที่เดิมอีกครั้งคราวนี้เพิ่มความแรงและความเร็วเข้าไปอีกนิด ใบหน้าสวยส่ายไปมาราวกับจะขาดใจกับการสัมผัสของเขา
“คะ.เคียวรักพี่ป่า รักพี่ป่าคนเดียว”
ชายหนุ่มยิ้มอย่างพอใจก่อนจะแยกขาเรียวออกห่างอีกนิดเพื่อสอดสะโพกตัวเองเข้าหาหญิงสาว ก่อนที่ความคับแน่นจะดันเข้ามาเติมเต็ม พนาพรรษครางออกมาอย่างพอใจเมื่อร่างบางยกสะโพกขึ้นอีกนิดเพื่อตอบรับเขาให้เข้าสู่กายเธอได้อย่างแน่นแฟ้นขึ้นอีก มือหนายกสะโพกมนของหญิงสาวขึ้นอีกนิดก่อนจะขยับกายเข้าและออกอย่างช้า ๆ การกระทำแบบนี้มันยิ่งสร้างความทรามานให้กับตัวเองยิ่งกว่าหญิงสาวที่อยู่ด้านล่างเสียอีก แต่เขาอยากให้ขวัญพรรษพร้อมสำหรับเขา เธอจะได้มีความสุขเหมือนที่เขากำลังมีความสุขร่วมกันในขณะนี้ สะโพกหนาโยกเร็วขึ้นอีกนิดเมื่อหญิงสาวตอบรับเขาในจังหวะเดียวกัน มือหนาบีบเคล้นอกอวบอิ่มที่ไหวตามจังหวะของร่างกายทั้งสองข้าง ก่อนจะเร่งไหวสะโพกขึ้นอีก เขาทนไม่ไหวแล้วต้องไปให้ถึงจดหมายเสียที ชายหนุ่มเหลียวมองหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าราวกับสำรวจว่าหญิงสาวใกล้จะถึงฝั่งฝันเหมือนเขาหรือยัง ลำขาเรียวของหญิงสาวรัดรอบเอวชายหนุ่มมากยิ่งขึ้นเมื่อความสุขกระสันได้พาเธอมาจนเกือบถึงจุดหมายปลายทาง ชายหนุ่มเร่งจังหวะให้เร็วและแรงขึ้นอีกนิดจนได้ยินเสียงครางต่ำของหญิงสาวซึ่งเกิดจากการถึงจุดมุ่งหมายแล้ว นายหัวจึงเร่งจังหวะของตัวเองตามหญิงสาวไปติด ๆ นายหัวแห่งป่าหนาวหอบจนเสียงดังทั่วห้องชายหนุ่มซบลงกับอกอวบอิ่มของหญิงสาวอย่างหมดแรงก่อนจะเปลี่ยนเป็นยกร่างบางขึ้นข้างบนแล้วเป็นตัวเขาเองที่อยู่ด้านล่างเพราะเกรงว่าหญิงสาวจะรับน้ำหนักเขาไม่ไหว
ชายหนุ่มยังไม่ทอดถอนตัวเองออกจากหญิงสาว มือหนาเริ่มลูบไล้แผ่นหลังขาวเนียวก่อนจะหยุดที่บั้นท้ายกลมกลึง มือหนาลูบไล้สลับกับบีบเคล้นไปมาอย่างหลงใหล ก่อนจะดันบั้นท้ายหญิงสาวขึ้นลงขึ้นลงจนความแข็งขึงขยายขึ้นภายในตัวหญิงสาวอีกครั้ง
“อีกหรือคะ”
ขวัญพรรษถามเสียงสั่น เพราะเธอเองก็เริ่มทนไม่ไหวกับความปรารถนาที่เขามอบให้อีกครั้ง
“อีกครั้ง และหลาย ๆ ครั้ง ถ้าเคียวไหว”
เสียงแหบพร่าบ่งบอกว่าชายหนุ่มอยู่ในอารมณ์ไหน
“ครั้งนี้เคียวรักพี่นะครับ”
“แตะ..แต่ว่า”
“นะครับ”
มือหนายกสะโพกหญิงสาวขึ้นลงเบา ๆ ราวกับสอนว่าต้องทำอย่างไรบ้าง เพียงครู่เดียวธรรมชาติก็สอนให้หญิงสาวเรียนรู้ที่จะมอบความสุขให้กับคนใต้ร่างเธอ สะโพกกลมกลึงบิดไปมาจนชายหนุ่มถึงกับครางเมื่อกลั้นความเสียวซ่านเอาไว้ไม่ไหว
“เคียวกำลังจะฆ่าพี่เหรอ”
มือหนาดันบั้นท้ายของหญิงสาวเข้าหาเขาอย่างแรง ๆ และเร็วขึ้นเมื่อความต้องการกำลังทรมานเขาอย่างเหลือหลาย หญิงสาวไหวสะโพกเร็วขึ้น เร็วขึ้น เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มเริ่มทนไม่ไหว
“อ้า...เคียว...เคียว”
ชายหนุ่มตะโกนเรียกหญิงสาวอีกครั้งก่อนจะกระตุกไปทั้งตัวเมื่อความปรารถนาได้รับการปลดปล่อยแล้วอย่างเต็มที่ ขวัญพรรษซบหน้าลงกับอกกว้างอีกครั้ง คราวนี้หญิงสาวหอบเสียงดังเพราะใช้พลังงานไปกับการบอกรักครั้งนี้มากเพียงไหน เปลือกตาของหญิงสาวค่อย ๆ ปรือลงแล้วก็หลับไปในที่สุดกับอกกว้างของชายหนุ่มนั่นเอง พนาพรรษอมยิ้มกับกิริยาน่ารักของอีกฝ่ายเหมือนลูกแมวไม่มีผิดกินอิ่มแล้วก็นอน
นายหัวค่อย ๆ ผลักร่างบางให้นอนบนเตียงจะได้นอนสบาย ๆ แล้วห่มผ้าคลุมร่างเบาเอาไว้ ใบหน้าคมเข้มก้มลงไปจรดที่หน้าผากมนนั้นอีกครั้ง ดวงตาคมเข้มค่อย ๆ พิศหน้าหวาน ๆ นั้นอย่างช้า ๆ ปลายนิ้วไล้เบา ๆ ตั้งแต่ดวงตากลมทั้งสองข้าง จมูกโด่งเป็นสันได้รูปสวย ปากบางที่เขาเพิ่งลิ้มลองว่ามันหวานเพียงใด ของต้องทนเจ็บปวดในตอนนี้ เพื่อที่จะได้มีความสุขในเวลาต่อไป ความสุขที่มีร่างบางอยู่ในอ้อมแขนตลอดเวลา ทุกเช้า และก่อนนอน
“พี่จะไม่ยอมให้ใครทำอะไรเคียวเด็ดขาด ไม่มีทาง”



เอรินี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 24 ก.ค. 2554, 21:35:57 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 24 ก.ค. 2554, 21:35:57 น.

จำนวนการเข้าชม : 2661





<< บทที่ 18 ของ ของใคร ใครก็ต้องหวง   
xeve 24 ก.ค. 2554, 22:34:32 น.
19 หายไปค่ะ


ปูสีน้ำเงิน 24 ก.ค. 2554, 23:34:32 น.
^^"


ptyks 24 ก.ค. 2554, 23:49:07 น.
ขอเดาว่าตอน 19 เป็นตอนที่ต้นน้ำเล่าให้ป่าฟังว่า สาวๆ กำลังทำอะไร ป่าเลยแกล้งตัดเคียวแล้วคบกับบุษ เพื่อให้เคียวปลอดภัยและค้นหาความจริง


anOO 25 ก.ค. 2554, 13:33:08 น.
ยัยบุษฆ่าไปกี่คนแล้วนี่


cherryfirm 15 ส.ค. 2554, 00:06:42 น.
ตอน19 หายไปไหนคะ ไม่ยอมนะ....โอมจงมา ตอน19 จงมา.....


cherryfirm 15 ส.ค. 2554, 00:08:06 น.
อ้อ..ลืมบอกไปคะว่าตั้งแต่อ่านมามีคำผิดเยอะเหมือนกันยังไงก็อย่าลืมกลับไปแก้ดูทีละตอนนะคะ...^__^


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account