ต้องฤทธิ์เสน่หา โดย ธิดาดิน
ต้องฤทธิ์เสน่หา

โดย ธิดาดิน

แจ้งข่าวจ้า ตอนนี้นิยายเรื่องต้องฤทธิ์เสน่หา (ฉบับเต็มไม่ตัดแม้แต่ฉากเดียว) วางจำหน่ายแล้วในราคา 279 บาท วางที่ร้านนายอินทร์ ร้ายซีเอ็ด ร้านบีทูเอส ทุกสาขา ช่องทางการสั่งซื้อด้านล่างนี้เลยจ้า



ตีพิมพ์กับ สนพ. อินเลิฟ ปกด้านล่างนี้เลยจ้า

ช่องทางการสั่งซื้อ
วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ราคาเล่มละ 279 บาท

1. จำหน่ายที่ร้านหนังสือทั่วประเทศ ร้านนายอินทร์ ร้านซีเอ็ด ร้าน b2s

2.โทรสั่งซื้อกับสำนักพิมพ์ส่งตรงถึงบ้าน ที่เบอร์ โทร. 02-930-3119 และ 02-930-3120
(วัน จ.-ศ. เวลา 9.00-18.00 น.) ยกเว้นวันหยุดทำการ
3.ที่เว็บไซด์อินเลิฟ ใครเป็นสมาชิกลด 20% สั่งซื้อได้ที่ http://www.inlove-book.com/book/1246
4. สั่งซื้อผ่าน facebook >>คลิกที่นี่<<แจ้งข่าวจ้า ตอนนี้นิยายเรื่องต้องฤทธิ์เสน่หา (ฉบับเต็มไม่ตัดแม้แต่ฉากเดียว) วางจำหน่ายแล้วในราคา 279 บาท วางที่ร้านนายอินทร์ ร้ายซีเอ็ด ร้านบีทูเอส ทุกสาขา ช่องทางการสั่งซื้อด้านล่างนี้เลยจ้า ปกอยู่ด้านบนจ้า



ตีพิมพ์กับ สนพ. อินเลิฟ

ช่องทางการสั่งซื้อ
วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ราคาเล่มละ 279 บาท

1. จำหน่ายที่ร้านหนังสือทั่วประเทศ ร้านนายอินทร์ ร้านซีเอ็ด ร้าน b2s

2.โทรสั่งซื้อกับสำนักพิมพ์ส่งตรงถึงบ้าน ที่เบอร์ โทร. 02-930-3119 และ 02-930-3120
(วัน จ.-ศ. เวลา 9.00-18.00 น.) ยกเว้นวันหยุดทำการ
3.ที่เว็บไซด์อินเลิฟ ใครเป็นสมาชิกลด 20% สั่งซื้อได้ที่ http://www.inlove-book.com/book/1246
4. สั่งซื้อผ่าน facebook >>คลิกที่นี่<<

เป็นแพทย์มาก็หลายปี แต่ใครจะคิดว่าเขาจะมาตบะแตกเพียงเพราะได้ตรวจภายในของผู้หญิงคนนั้น…เธอผู้ทำให้คุณหมอผู้วางตัวเหมาะสมกลายเป็นคนเจ้าเล่ห์เจ้าแผนการอย่างไม่น่าเชื่อ

แนะนำตัวละคร

คริสโตเฟอร์ คอลเวลล์สัน


แพทย์สูติ-นรีเวช จอมทะเล้น ผู้มีหน้าตาเป็นอาวุธ หล่อ รวย ระดับมหาเศรษฐีหมื่นล้าน เจ้าของโรงพยาบาลเอกชนเบอร์หนึ่งในสหรัฐอเมริกา แถมยังมีสาขาในต่างประเทศอีกมากมาย


ปิ่นมุก วิเศษวัฒนากุล


สาวไทยวัย 28 ปี ผู้มีต้นทุนชีวิตต่ำ บินข้ามน้ำข้ามทะเลไปไกลถึงอเมริกาเพื่อตามหาความฝัน แต่ไม่รู้ว่าโชคไม่เข้าข้างหรือเทวดากลั่นแกล้ง เธอกำลังจะกลายเป็นนางเอกหนังโป๊ในอีกไม่ช้านี้

.........................................................................................

นิยายเรื่องนี้เป็นแนวรักโรแมนติก คอมเมดี้ เน้น หื่นๆ ฮาๆ รั่วๆ ฟินจิกหมอน แอบงอนและง้อ มีดรามาผสมเล็กน้อยที่สำคัญมีกลิ่นอายของโรมานต์รวมอยู่ด้วยจ้า


Tags: รัก,โรแมนติก,รักเพื่อน,เข้มข้น,หวาน,แรง,นิยาย,ซึ้ง,แอบรัก,ซึ้ง

ตอน: ตอนที่ 1 เพียงสายตามอง ดั่งต้องฤทธิ์เสน่หา

ตอนที่ 1 เพียงสายตามอง ดั่งต้องฤทธิ์เสน่หา


แจ้งข่าวจ้า ตอนนี้นิยายเรื่องต้องฤทธิ์เสน่หา (ฉบับเต็มไม่ตัดแม้แต่ฉากเดียว) วางจำหน่ายแล้วในราคา 279 บาท วางที่ร้านนายอินทร์ ร้ายซีเอ็ด ร้านบีทูเอส ทุกสาขา ช่องทางการสั่งซื้อด้านล่างนี้เลยจ้า

ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์อินเลิฟ

ช่องทางการสั่งซื้อ
วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ราคาเล่มละ 279 บาท

1. จำหน่ายที่ร้านหนังสือทั่วประเทศ ร้านนายอินทร์ ร้านซีเอ็ด ร้าน b2s

2.โทรสั่งซื้อกับสำนักพิมพ์ส่งตรงถึงบ้าน ที่เบอร์ โทร. 02-930-3119 และ 02-930-3120
(วัน จ.-ศ. เวลา 9.00-18.00 น.) ยกเว้นวันหยุดทำการ
3.ที่เว็บไซด์อินเลิฟ ใครเป็นสมาชิกลด 20% สั่งซื้อได้ที่ http://www.inlove-book.com/book/1246
4. สั่งซื้อผ่าน facebook >>คลิกที่นี่<<

Coldwellson Hospital
กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.

ปิ่นมุกนั่งผสานมือสั่นเทาอยู่ภายใน Coldwellson Hospital โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังของสหรัฐอเมริกา อาการผิดปกติที่กำลังเกิดขึ้นไม่ใช่ว่าเธอเป็นไข้ไม่สบาย หากเกิดจากความตื่นเต้นผสานความกลัวในขณะที่นั่งรอพบแพทย์ที่แผนกสูตินรีเวชกรรม
ปิ่นมุก วิเศษวัฒนากุล สาวไทยวัย 28 ปี หอบความฝันข้ามน้ำข้ามทะเลมาหางานทำในบริษัทผลิตนาฬิกายี่ห้อหนึ่งในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ประเทศสหรัฐอเมริกา ผ่านการชักชวนของมณีอินทร์เพื่อนสนิทที่บินมาทำงานที่นี่ก่อนหน้า พอเห็นว่าได้เงินดีมีสวัสดิการ แม้จะไม่ใช่บริษัทที่ใหญ่โตและมีชื่อเสียงมากนัก จึงรีบชักชวนปิ่นมุกเพื่อนซี้ที่เรียนปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยเดียวกัน ซึ่งตอนนั้นยังว่างงานและกำลังร้อนเงินเพราะต้องหาเงินไปรักษามารดาที่กำลังป่วย ปิ่นมุกก็รีบตอบรับและบินมาหามณีอินทร์ในอีกหนึ่งเดือนถัดมา
เงินเดือนที่ได้หากเทียบกับการทำงานในประเทศไทยมันมากกว่าหลายเท่า แต่กระนั้นปิ่นมุกก็ไม่มีเงินเก็บมากนักด้วยค่าครองชีพที่นี่ค่อนข้างสูงเลยทีเดียว อีกทั้งเงินเดือนส่วนหนึ่งก็ยังต้องส่งไปจุนเจือครอบครัวที่มีถึง 3 ชีวิต คือ พ่อ แม่ ซึ่งสุขภาพร่างกายไม่แข็งแรงนัก และน้องชายวัย 21 ปี ที่กำลังเรียนต่อระดับปริญญาตรีด้วย ทำให้มีค่าใช้จ่ายที่มากขึ้นเป็นทวีคูณ
ปกรณ์เคยปรึกษาพี่สาวว่าจะไม่เรียนต่อ แล้วออกมาหางานทำช่วยพี่สาวจุนเจือครอบครัวอีกแรง แต่ปิ่นมุกไม่ยอมให้น้องทำอย่างนั้น เพราะตระหนักดีว่าการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญเธอยินดีที่จะลำบากเพียงลำพังกลั้นใจอดทนทำงานเพื่อหาเงินส่งน้องชายเรียนอย่างน้อยๆเป้าหมายคือจบปริญญาตรี
นั่นเองที่ทำให้ปิ่นมุกใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ต่างแดนอย่างเรียบง่าย เรียกว่าอะไรประหยัดได้เธอก็ทำทุกวิถีทาง แต่ก็ไม่ถึงกับงกจนทำให้ตัวเองลำบาก ก็มีเดินห้างบ้างนานๆครั้ง เข้าร้านอาหารบ้างเป็นบางคราว เติมความสุขให้กับชีวิตไม่ให้เหี่ยวเฉาจนเกินไป
โรงพยาบาลสุดหรูแห่งนี้ เธอก็พึ่งย่างกรายเข้ามาใช้บริการเป็นครั้งแรก โดยอาศัยสวัสดิการจากบริษัทที่เธอทำงานอยู่ที่ให้สิทธิกับพนักงานในบริษัทเมื่อเจ็บป่วยสามารถเข้ามาใช้บริการในโรงพยาบาลแห่งนี้ได้ฟรี แต่หากไม่มีสวัสดิการต่อให้เธอเจ็บป่วยแค่ไหนก็คงไม่กล้าเฉียดกรายเข้ามาใกล้ ด้วยรู้ว่าค่ารักษาพยาบาลของที่นี่ได้ฐานะโรงพยาบาลเอกชนเบอร์หนึ่งของสหรัฐอเมริกาและมีสาขาอีกหลายประเทศนั้นแพงลิบลิ่วเกินที่เธอจะเอื้อมถึง
“คุณปิ่นมุก วิเศษวัฒนากุล ใช่ไหมคะ” พยาบาลที่พึ่งเดินออกมาจากห้องตรวจเข้ามาทักปิ่นมุกที่นั่งรอได้พักใหญ่ๆ
“ใช่ค่ะ ฉันโทรมาจองคิวไว้ตั้งแต่เมื่อวาน”
“รอซักครู่นะคะ ตอนนี้คุณหมอพึ่งประชุมเสร็จ กำลังลงมาค่ะ”
ปิ่นมุกพยักหน้า ก่อนถามต่อ “คุณพยาบาลคะ คุณหมอที่ว่านี่อายุเท่าไหร่คะ”
“คุณหมอโจเซฟอายุ 60 ปี แล้วค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“อ๋อ ไม่มีอะไรค่ะ ขอบคุณนะคะ”
ปิ่นมุกถอนลมหายใจอย่างโล่งอก เมื่อทราบอายุของแพทย์ที่เธอมาพบไม่ใช่วัยไล่เลี่ยกันกับเธออย่างที่คิด อายุหกสิบปีก็รุ่นพ่อรุ่นแม่คงไม่ต้องอายมากเท่าไหร่นัก

คณะแพทย์ชื่อดังของโรงพยาบาลคอลเวลล์สันพากันเดินออกจากห้องประชุมซึ่งอยู่ชั้นสิบสองของตึก หลังจากประชุมเฉพาะกิจเสร็จสิ้น ต่างพากันแยกย้ายกลับห้องทำงานของตัวเอง คริสโตเฟอร์ คอลเวลล์สัน นายแพทย์หนุ่มวัยสามสิบปี เจ้าของโรงพยาบาลเดินเข้าลิฟต์ไปพร้อมกับแพทย์ชื่อดังหลายคน การสนทนายังคงดังต่อเนื่องแต่ไม่ได้เป็นทางการเหมือนอยู่ในห้องประชุมหากเป็นการถามไถ่สารทุกข์สุขดิบตามประสาเพื่อนร่วมงานกันมากกว่า
“คุณคริสเมื่อวานผมบังเอิญไปพบหมอแมทธิว ท่านฝากหนังสือมาให้คุณด้วย แต่ผมลืมถือมาให้ ตอนนี้อยู่ที่ห้องทำงาน เดี๋ยวผมให้พยาบาลถือไปให้ที่ห้องนะครับ”
“เดี๋ยวผมเดินไปเอาเลยก็ได้ครับ เพราะช่วงบ่ายผมว่าจะออกไปข้างนอก ไม่แน่ใจว่าจะได้กลับเข้ามาอีกหรือเปล่า”
“เอาอย่างนั้นก็ได้ครับ”
ประตูลิฟต์เปิดออกที่ชั้นหกคริสโตเฟอร์โบกมือลาแพทย์หลายคนที่ยังอยู่ในลิฟต์ แล้วเดินตามโจเซฟไปยังแผนกสูตินรีเวชกรรมเพื่อไปเอาหนังสือที่หมอแมทธิวฝากมาให้ก่อนจะออกไปทำธุระ พอไปถึงยังไม่ทันได้เดินเข้าไปในห้องของหมอโจเซฟ เขาก็ต้องชะงักฝีเท้าหันมองร่างบางสะดุดตาที่ดึงดูดให้เขาต้องเพ่งตามองอย่างสนใจ
“มีอะไรหรือเปล่าครับคุณคริส” หมอโจเซฟหันมองตามสายตาของคริสโตเฟอร์ก็รู้ถึงต้นเหตุที่ทำให้หมอหนุ่มคอเอียงแบบนั้น

“คุณปิ่นมุกคะ เชิญด้านในเลยค่ะ คุณหมอมาแล้ว”
ปิ่นมุกพยักหน้าสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะลุกขึ้นเดินตามนางพยาบาลเข้าไปในห้องตรวจ มือไม้ของเธอเริ่มสั่นอีกครั้งหลังจากหายไปพักใหญ่ๆหลังจากรู้ว่าหมอที่จะมาตรวจให้เธอนั้นอายุขึ้นเลขหกไปแล้ว แต่เมื่อถึงเวลาจะตรวจจริงๆกลับสั่นมากกว่าเดิม
“สวัสดีค่ะคุณหมอ”
ปิ่นมุกเอ่ยทักทายหมอโจเซฟหลังจากเข้ามาในห้องตรวจ ซึ่งในเวลานี้เจ้าของห้องหมุนเก้าอี้ไปค้นหาเอกสารอยู่อีกฝั่งจึงทำให้เธอไม่ทันได้เห็นหน้าค่าตาของเขา
นายแพทย์ที่กำลังค้นหาประวัติคนไข้หมุนเก้าอี้กลับมาที่โต๊ะทำงานอีกครั้ง นั่นเองที่ทำให้ปิ่นมุกถึงกับปากค้างตาค้างมองด้วยความตกตะลึง ความสงสัยเกิดขึ้นในใจว่านี่หรือแพทย์วัยหกสิบปีคนที่พยาบาลกล่าวถึง ทำไมรูปร่างหน้าตายังดูอ่อนเยาว์ มิหนำซ้ำยังดูหล่อล่ำไม่ต่างจากหนุ่มวัยยี่สิบสามสิบปีเลยสักนิด จะว่าไปศัลยกรรมกระชากวัยให้ดูอ่อนกว่าอายุจริงก็ไม่น่าจะดึงสังขารให้ดูอ่อนเยาว์ได้มากขนาดนี้
“ไม่จริง” ปิ่นมุกสบถกับตัวเองเบาๆ แต่ก็ดังพอให้คนนั่งอยู่ใกล้ๆได้ยิน
“อะไรคือไม่จริงเหรอครับ” คริสโตเฟอร์ยิ้มน้อยๆพอจะคาดเดาได้ว่าเธอกำลังสงสัยอะไร
“คุณหมอคะ ขอถามหน่อยนะคะว่าคุณหมออายุหกสิบจริงๆเหรอ”
คริสโตเฟอร์หัวเราะเบาๆ “ผมแก่ขนาดนั้นเลยเหรอครับ”
“มันสวนทางค่ะ คือคุณหมอดูหนุ่มมาก ไม่บอกไม่รู้เลยนะคะว่าคุณหมออายุหกสิบแล้ว”
“คุณคิดว่าผมอายุหกสิบ?”
“ก็พยาบาลบอกฉันแบบนั้น”
“คนที่พยาบาลพูดถึงอายุหกสิบจริงๆครับ เขาชื่อคุณหมอโจเซฟ ซึ่งนั่นไม่ใช่ผม”
“หมายความว่ายังไงคะ”
“พอดีวันนี้หมอโจไม่ว่าง ผมก็เลยอาสามาทำหน้าที่แทน”
ปิ่นมุกคิดหนัก ทำไมหมอโจเซฟจะต้องไม่ว่างวันนี้ด้วย แล้วทำไมหมอที่มาทำหน้าที่แทนจะต้องเป็นเขาคนนี้ที่เธอประมาณอายุจากสายตาน่าจะห่างจากเธอไม่เกินห้าปี แล้วแบบนี้เธอจะกล้าให้เขาตรวจได้อย่างไร
“ถ้าคุณหมอโจเซฟไม่อยู่ ฉันกลับก่อนแล้วค่อยกลับมาตรวจวันหลังก็ได้ค่ะ”
“ทำไมล่ะครับ ไม่เชื่อฝีมือผมเหรอ ผมก็เป็นหมอเหมือนกันฝีมือการรักษาก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าหมอโจ อีกอย่างถ้าคุณจะรอหมอโจก็ต้องรออีกหนึ่งเดือน เพราะหมอโจจะบินไปพักผ่อนต่างประเทศเย็นนี้ปลายเดือนหน้าถึงจะบินกลับ”
ปิ่นมุกนิ่งพินิจอยู่ในใจว่าจะเอาอย่างไรต่อไป หากจะรอตรวจกับหมอโจเซฟก็คงรอไม่ได้ เนื่องจากเธอถูกบังคับด้วยเวลา ครั้นจะไปตรวจโรงพยาบาลอื่นก็ต้องเสียเงินซึ่งเธอไม่มีทางเลือกข้อนี้แน่นอน แต่หากจะรอตรวจกับหมอหนุ่มคนนี้เธอก็ขจัดความอายออกไปให้ได้ ไม่อย่างนั้นเธอไม่มีทางกล้าถลกกระโปรงอ้าขาให้เขาตรวจอย่างแน่นอน
“ฉันคงรอถึงเดือนไม่ได้”
“ถ้างั้นผมขออนุญาตซักประวัติซักนิดนะครับ” คริสโตเฟอร์อมยิ้ม ดีใจจนเนื้อเต้นเมื่อได้ยินคำตอบของเธอ “ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไรครับ ส่วนหมอชื่อคริสโตเฟอร์”
“ชื่อปิ่นมุกค่ะ”
“ปิ่นมุก ชื่อแปลกแต่ฟังดูเพราะจัง แล้วไม่ทราบว่าคุณปิ่นมุกอายุเท่าไหร่แล้วครับ”
“ยี่สิบแปดค่ะ”
“ยี่สิบแปดวัยกำลังเขี้ยวอร่อย” หมอหนุ่มเผลอพึมพำกับตัวเอง
“คุณหมอว่าอะไรนะคะ ฉันได้ยินไม่ถนัด”
“อ๋อ ปะเปล่าครับ คือผมจะถามว่าอายุขนาดนี้แล้วมีแฟนหรือยังครับ”
“คะ” ปิ่นมุกเลิกคิ้ว นึกสงสัยกับการซักประวัติคนไข้ของแพทย์ที่นั่งอยู่เบื้องหน้า แม้ว่าเธอจะไม่ไปโรงพยาบาลบ่อยนักแต่ก็มั่นใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์เลยว่าคำถามเมื่อครู่ไม่มีแพทย์โรงพยาบาลไหนใช้ซักประวัติคนไข้แน่นอน
“ผมถามว่าคุณปิ่นมุกมีแฟนหรือยังครับ”
“มันคือการซักประวัติคนไข้ใช่ไหมคะ” เธอเตือนเขา แต่ฝ่ายนั้นยังคงตอบมาหน้าระรื่นอย่างไม่สะทกสะท้าน
“ก็อาจจะไม่เกี่ยว แต่ผมอยากรู้เป็นการส่วนตัวครับ”
“ขออนุญาตไม่ตอบนะคะ เพราะฉันคิดว่าคำตอบของฉันมันคงไม่เป็นประโยชน์ต่อการรักษาหรือการตรวจ”
“ใช่ครับ มันอาจจะไม่เป็นประโยชน์ต่อการรักษา แต่มันเป็นผลประโยชน์ต่อผม” ได้ทีหมอหนุ่มก็โยนหินถามทางทันที “ผมล้อเล่นน่ะครับ เดี๋ยวเข้าเรื่องกันดีกว่าแล้ววันนี้คุณปิ่นมุกมีอะไรให้ผมช่วยเหรอครับ”
“คือฉันมา… เอ่อ”
พอจะพูดถึงสาเหตุของการมาพบแพทย์เฉพาะทางวันนี้ก็เกิดความกระดากอายขึ้นมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เธอต้องสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดเรียกความมั่นใจให้กับตัวเองก่อนจะทำใจกล้าหน้าด้านตอบออกไปอย่างไม่เต็มเสียงนัก
“ฉันมาตรวจภายในค่ะ”
“กำลังจะแต่งงานเหรอครับ” ภาวนาขออย่าให้ข้อสันนิษฐานของตนเป็นจริง เพราะมันคงทำให้หัวใจที่พึ่งจะชุ่มชื่นเหี่ยวเฉาลงอย่างฉับพลัน
“ทำไมต้องคิดว่าฉันกำลังจะแต่งงานละคะ”
“ผมสันนิษฐานจากประสบการณ์ คู่รักหลายคู่ที่กำลังจะแต่งงานมักจะจูงมือกันมาตรวจร่างกายหาโรคเมื่อความมั่นใจก่อนใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน”
“เปล่าหรอกค่ะ ฉันไม่ได้แต่งงาน แล้วฉันก็ยังไม่มีแฟนด้วย คงจะแต่งงานอย่างที่คุณหมอสันนิษฐานไม่ได้”
คำตอบของหญิงสาวเปรียบเสมือนหยาดน้ำฝนโปรยปรายมารดหัวใจของคุณหมอหนุ่มให้ชื่นฉ่ำขึ้นไปอีกหลายเท่า คริสโตเฟอร์เองก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมเขาจะต้องดีใจและมีความสุขหลังจากรู้ว่าเธอยังไม่มีใครเป็นเจ้าของ
“เชิญคุณปิ่นมุกไปรอหมอในห้องตรวจเลยครับ” คริสโตเฟอร์ผายมือไปที่ห้องตรวจซึ่งอยู่มุมซ้ายของห้อง ปิ่นมุกพยักหน้าพลางลุกขึ้นก้าวเดินเข้าไปในห้องนั้นด้วยอาการกล้าๆกลัวๆอย่างเห็นได้ชัด
ไม่ถึงหนึ่งนาทีคริสโตเฟอร์ก็เดินตามเข้าไปในห้องตรวจ ซึ่งมีอุปกรณ์ทางแพทย์ทันสมัยครบครัน เขาเดินผ่านหญิงสาวที่นั่งรออยู่เก้าอี้ติดผนังสีขาวไปยังโต๊ะที่มีอุปกรณ์วางอยู่ แพทย์หนุ่มหยิบถุงมือยางจากกล่องมาสวมมือทั้งสองข้าง ก่อนจะหันมาหาหญิงสาวที่นั่งหน้าซีดอยู่ที่เดิม
“แก้ผ้า แล้วขึ้นเตียงเลยครับ”



ธิดาดิน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 8 ส.ค. 2558, 10:41:43 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 23 พ.ย. 2558, 18:41:54 น.

จำนวนการเข้าชม : 2105





   ตอนที่ 2 เพียงได้สัมผัส ดั่งต้องฤทธิ์เสน่หา >>
ปลาวาฬสีน้ำเงิน 1 ก.ย. 2558, 14:25:00 น.
เร่ิมเนื้อเรื่องสนใจน่าติดตาม ค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account