เจ้าสาวเงากุหลาบ (จบแล้วค่า)
เจ้าสาวเงากุหลาบ

เธอฝันเห็นคนตาย
เธอมีวิญญาณตามติดไม่ห่าง
เธอถูกคนที่เธอแอบชอบมานาน ขอแต่งงาน และเธอก็รักเขา
แต่เธอกลับรู้สึกว่า ในตัวเธอเรียกร้องหาใครอีกคน

มาหยา ~ สาวอินทีเรียวัยเบญจเพสหน้าลูกครึ่งตาสีฟ้าพลาดท่าตกบันไดในบ้านโบราณที่เธอรับปรับปรุงครั้งใหญ่

หลังจากนั้น มาหยาก็ฝันแปลกๆแถมยังรู้สึก... เหมือนมีใครอีกคนคอยติดตามแล้วบางครั้งก็พยายามจะช่วงชิงร่างกายเธอไปอีก

ทำให้ ภีมวัชช์ โชควรารัตน์ ~ ต้องมาดูแลเธอที่เป็นเหมือนหลานสาวอย่างใกล้ชิด เพราะมาหยาไม่เหลือญาติคนไหนแล้ว

และการแก้อาถรรพณ์บางอย่าง ที่จะทำให้ภีมวัชช์ต้องเข้าประตูวิวาห์อย่างจำเป็น
Tags: วิวาห์ ปิ่นนลิน วิญญาณ เจ้าบ่าว เจ้าสาว

ตอน: ตอนที่ 2

ตอนที่ 2



นี่คงจะเป็นสถิติที่เร็วที่สุดของการขับรถจากกรุงเทพมหานครไปอยุธยาของภีมวัชช์

พอรถอเนกประสงค์เอสยูวีสีขาวของภีมวัชช์จอดที่จอดรถโรงพยาบาลแห่งหนึ่งเรียบร้อย ทั้งคู่ก็รีบเข้าไปด้านในทันที ร่างของชัชชวินยังอยู่ที่โรงพยาบาล โดยมีพี่สาวของชัชชวิน และญาติคนอื่นๆนั่งอยู่หน้าห้องที่มีร่างของอาจารย์นักออกแบบนอนไร้ลมหายใจอยู่

“ไหม!" ชลลดา พี่สาวของชัชชวินผุดลุกจากที่นั่งเมื่อเห็นหลานสาวกึ่งเดินกึ่งวิ่งมาแต่ไกล เธอกอดคุณป้าชลลดาไว้แน่นก่อนจะร้องไห้โฮ

“เกิดอะไรขึ้นหรือครับพี่ดา ทำไมพี่ชัชถึงได้...จากไปเร็วแบบนี้ล่ะครับ" ภีมวัชช์รู้จักชลลดาดี จึงรีบถามรายละเอียดเพิ่มเต้ม เพราะจืด คนดูแลบ้านนั้นเสียใจจนเล่าไม่เป็นเรื่องเลย

“พี่ก็ไม่รู้หรอกภีม จืดโทรมาบอกพี่ว่าได้ยินเสียงชัชร้องดังมาก พอวิ่งมาดูก็พบว่านอนอยู่ คงตกบันไดมา เลือดไหลท่วมไปหมด และก็คอหักด้วยทำให้เสียชีวิตทันที" ชลดาเล่าเสียงสั่น น้ำตาไหล ด้วยไม่คิดเลยว่าน้องชายที่อนาคตไกลจะด่วนจากไปแบบนี้

“หนูอยากเจอพ่อจ้ะป้าดา" มาหยาบอกกับชลลดา มาหยาจึงได้รับอนุญาตให้เข้าไปร่ำลาพ่อเลี้ยงเป็นครั้งสุดท้าย โดยภีมวัชช์ตามติดไปอยู่ไม่ห่าง

“พ่อ ... พ่อชัชจ๋า ... ทำไมพ่อชัชต้องทิ้งหนูไปด้วย พ่อตื่นขึ้นมาหาหนูสิจ๊ะ" มาหยาร้องไห้และเรียกหาบิดาใจจะขาด ใบหน้าขาวแดงก่ำจากการร้องไห้มาตลอดทาง ยิ่งเห็น ยิ่งรับรู้ว่าบิดาที่ใจดีของเธอได้จากไปแล้วจริงๆ เธอก็ยิ่งรับไม่ได้

“พี่ชัช ...” ภีมวัชช์เอ่ยอะไรไม่ออก อดน้ำตาไหลไม่ได้เมื่อต้องสูญเสียพี่ชายที่มีบุญคุณและสนิทกันมากไปแบบนี้

ชัชชวินเคยช่วยชีวิตภีมวัชช์จากอุบัติเหตุไว้ คราวนั้นรถของภีมวัชช์คว่ำ ถ้าหากชัชชวินที่ผ่านมา ไม่ช่วยลากเขาออกมาจากซากรถก่อนที่รถจะไฟลุกท่วม ป่านนี้เขาคงตายไปพร้อมซากรถคันนั้นแล้ว หลังจากนั้นภีมวัชช์ก็ติดต่อ และนับถือชัชชวินเหมือนพี่ชายมาตลอด

“พี่ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมรับปากไว้ ผมจะทำตามสัญญา ผมจะดูแลมาหยาแทนพี่เอง"

ภีมวัชช์รู้ดีว่าสิ่งนี้ ห่วงสุดท้ายที่อาจจะทำให้ชัชชวินนอนตายตาไม่หลับจึงบอกกับร่างไร้วิญญาณของชัชชวินด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แม้มาหยาจะเป็นเพียงเด็กที่รับมาเลี้ยงเท่านั้น แต่ชัชชวินรักลูกสาวมาก ถึงขนาดเคยออกปากกับเขาเมื่อครั้งล่าสุดที่ภีมวัชช์มาเยี่ยม ... ราวสามเดือนก่อน

'ถ้าภีมทำใจจากแฟนเก่าได้เมื่อไหร่ ลองมองลูกสาวพี่บ้างไหม ยายไหมสวยนะ' ชัชชวินบอกยิ้มๆ ไม่รู้พูดจริงหรือล้อเขาเล่นกันแน่

'อย่าเลยครับพี่ชัช ไหมยังมีอนาคตที่สวยงาม อย่ามาจมปลักกับคนแก่อย่างผมเลย' ภีมวัชช์คิดว่าอายุเขากับมาหยาห่างกันเป็นสิบปี น่ากลัวจะทำร้ายมาหยามากกว่าหากต้องมาอยู่กับคนน่าเบื่ออย่างเขา

'แต่พี่คงสบายใจ ถ้าไหมได้คนอย่างภีมดูแล เพราะพี่รู้จักภีมดีว่าภีมเป็นคนไม่เจ้าชู้ และเอาการเอางาน ... ภีม รับปากพี่ได้ไหมถ้าพี่เป็นอะไรไป พี่ฝากลูกสาวพี่ด้วยนะภีม'

ตอนนั้นชัชชวินฝากฝังลูกเลี้ยงกับเขา ภีมวัชช์ไม่คิดว่านั่นจะเป็นการฝากฝังครั้งสุดท้ายที่เขาได้เจอกับชัชชวิน เพราะภีมวัชช์มัวแต่ยุ่งกับเรื่องงานทั้งงานบริษัทก่อสร้าง และงานที่แฮ้ปปี้ แบร์ ฟาร์ม จึงไม่ได้พูดคุยกับชัชชวินเลย มีเพียงพบหน้ามาหยาบ้างอย่างบังเอิญมากกว่า

... ภีมวัชช์ไม่คิดเลยว่าเขาจะต้องรักษาคำสัญญาที่ให้ไว้กับชัชชวินไวขนาดนี้ ... ไม่น่าเลย



เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือที่ตั้งไว้เฉพาะบุคคลดังเรียกให้หญิงสาวร่างบางผอมสูง ผมสั้นบ๊อบ ที่อยู่ในห้องน้ำรีบวิ่งออกมาทั้งที่มีแค่แว่นสายตา และผ้าขนหนูนุ่งอยู่ผืนเดียว แต่ในห้องนอนตัวเองเลยไม่น่าห่วงเท่าไหร่

“ว่าไงไหม" มณิกา กรอกเสียงถามอย่างสงสัยว่ามาหยา ที่แยกกันที่สนามบินโทรศัพท์มาหาเวลานี้ทำไม เพราะเมื่อมองนาฬิกาแขวนผนังก็เห็นว่าเลยวันใหม่มาเกือบชั่วโมงแล้ว

มณิกาเพิ่งรื้อกระเป๋าเดินทางใบใหญ่หลังจากไปท่องเที่ยวต่างประเทศกับมาหยา เพื่อนสนิทที่สุด รวมๆสองอาทิตย์ เธอจึงเพิ่งได้อาบน้ำ เพื่อเตรียมตัวจะนอน เพราะวันรุ่งขึ้นต้องไปทำงานแต่เช้า

“อาเองนะลูกแก้ว ... อาภีม" เมื่อภีมวัชช์บอกอีกฝ่าย ก็ได้ยินเสียงอุทานตกใจจากมณิกา เพื่อนซี้ปึ้กของมาหยา

“อาภีม! มีอะไรหรือคะ ทำไมโทรมาเบอร์ไหม หรือเกิดอะไรขึ้นกับไหมหรือเปล่าคะ"

มณิการัวคำถามใส่ภีมวัชช์ ผู้มีสองสถานะสำหรับเธอ คือ หนึ่ง อาของเพื่อนสนิท และสอง คือ เจ้านายของเธอเอง มณิกาก็ทำงานเป็นสถาปนิกบริษัทที่ภีมวัชช์บริหารงานอยู่

แต่เรื่องที่มาหยาเป็นหลานของภีมวัชช์นี่ นอกจากมณิกาแล้วที่ทำงานไม่มีใครรู้เลย เนื่องจากไม่อยากให้เกิดความอึดอัดขึ้นในแผนกการทำงาน มาหยาจึงไม่อยากให้ใครรู้เรื่องนี้ เวลาพบหน้ากันที่บริษัทฯ จึงไม่ค่อยทัก หรือถ้าพูดคุยก็จะฟอร์มว่าเป็นพนักงานกับผู้บริหารทุกที

ภีมวัชช์ไม่ชอบหรอก แต่ก็ไม่อยากขัดใจ หรือทำให้หลานสาวที่น่ารักของเขาวางตัวลำบากในการทำงาน

“ไหมไม่ได้เป็นอะไรหรอก แต่พ่อของไหมเขาเสียน่ะ ตอนนี้อากับไหมเลยอยู่อยุธยาด้วยกัน" ภีมวัชช์เล่ารายละเอียดคร่าวๆให้คนในโทรศัพท์ฟัง

“พรุ่งนี้ไหมคงไม่ได้ไปทำงานนะ ยังไงเดี๋ยวอาจะให้ไหมโทรศัพท์ไปลากับคุณกฤษณ์ หัวหน้าของไหมอีกทีนึง" ภีมวัชช์บอกถึงธุระที่ทำให้เขาต้องโทรศัพท์หามณิกากลางดึก

“ค่ะ แล้วไหมเป็นยังไงบ้างคะ" มณิกาเป็นห่วงเพื่อนสนิทมาก รู้ดีว่ามาหยามีพ่อเลี้ยงเพียงคนเดียว แต่ภีมวัชช์ก็อยู่ด้วย มณิกาก็คล้ายจะเบาใจ เจ้านายและอาหนุ่มคงปลอบมาหยาได้ดีแน่ๆ

“ก็แย่ๆน่ะนะ ... แล้วอามีเรื่องจะให้ลูกแก้วช่วยอาเรื่องหนึ่ง" ภีมวัชช์เว้นจังหวะ เมื่อมณิกาตอบรับจึงเอ่ยต่อ

"พรุ่งนี้จะมีเพื่อนของอาไปพบอาที่บริษัทฯ แต่อาคิดว่าอาคงยังไม่กลับจนกว่าจะเสร็จงานศพของพ่อไหม ... เลยอยากจะให้ลูกแก้วช่วยรับงานจากเพื่อนอาแทนที"

“ได้ค่ะอาภีม ไม่ต้องห่วงนะคะ ลูกแก้วจะจัดการให้นะคะ" มณิการับปาก ก่อนจะถามรายละเอียดเพิ่มเติม "เพื่อนของอาภีมชื่ออะไรคะ" มณิกาถามพร้อมหาสมุดจดมารอ

“เขาชื่อ พี่พีช นะ ... เอางี้ ... เดี๋ยวอาจะส่งเบอร์โทรศัพท์ให้ ... อาฝากลูกแก้วทีนะ ขอโทษทีที่โทรมารบกวนกลางดึก" ภีมวัชช์ทิ้งท้ายอย่างเกรงใจ

“ไม่เลยค่ะอาภีม ยังไงก็ดูๆไหมด้วยนะคะ ลูกแก้วเป็นห่วงไหมมากเลยค่ะ"

“แล้วอาจะบอกไหมให้นะ คืนนี้ฝันดีจ้ะ"

ภีมวัชช์วางสายไปแล้ว แต่มณิกายังนั่งอยู่ในท่าเดิม เธอถอนหายใจกับความไม่แน่นอนของชีวิต ไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากเสียงข้อความเข้าก็ปลุกให้เธอกดอ่าน

“มล. พิชาภพ วงศ์ปภาภัทร" มณิกาขมวดคิ้วกับคำนำหน้าชื่อ

"หม่อมหลวงเหรอ ... อื๋อ ... จะเจ้ายศเจ้าอย่างหรือเปล่าเนี่ยะ" มณิกาเบ้หน้าเมื่อนึกถึงฉากต่างๆในละครแนวเจ้าแนวคุณชายต่างๆ ยิ่งเธอเป็นพวกขี้รำคาญอยู่ด้วย หวังว่าคุณชายคนนี้จะไม่มาเต็มรูปแบบแบบในละครหรอกนะ


++


กว่าจะจัดการเรื่องชัชชวินที่โรงพยาบาลเสร็จ ก็เกือบตีสาม วันรุ่งขึ้นค่อยมีการเคลื่อนศพไปวัดในตอนเช้าตามฤกษ์ยามที่ชลลดาไปหามา ชลลดาเป็นพวกเชื่อทั้งฤกษ์ยาม ดูดวง และเรื่องลี้ลับมากๆ ด้วยความที่มาหยายังทำใจไม่ได้ จึงปล่อยให้ป้าเป็นคนจัดการให้เสียหมด ส่วนหนึ่งคงเพราะชลลดาเคยผ่านการจัดงานศพให้พ่อแม่มาแล้วจึงรู้งานดี

ภีมวัชช์ขับรถพามาหยากลับมาบ้าน ...เป็นบ้านที่มาหยาอยู่มาตั้งแต่เด็ก ... ตั้งแต่ชัชชวินรับมาหยาเป็นลูกบุญธรรม ก็ผ่านมาสิบแปดปีแล้ว และเป็นบ้านที่ชัชชวินเสียชีวิตด้วย

จืด คนดูแลบ้านหนุ่มวัยยี่สิบสามปีร่างกายสูง ผอม ผิวคล้ำ หน้าตาโศกเศร้า คงได้ยินเสียงรถเลยรีบวิ่งมาต้อนรับ ภีมวัชช์มีเพียงกระเป๋าเสื้อผ้าเล็กๆหนึ่งใบที่เขามีติดรถไว้เวลาไปลงแปลงผัก บางครั้งต้องอาบน้ำเพราะเหงื่อไคลจากการปลูกผักบ้าง ส่วนที่นี่เป็นบ้านของมาหยาจึงมีเสื้อผ้าติดบ้านอยู่แล้ว จึงไม่ต้องจัดเตรียมอะไรมาให้เสียเวลา จึงบอกให้จืดไปจัดเตรียมห้องให้แทน

“คุณหนูไหม" เสียงของ ป้าจาว ดังเรียก ทำให้มาหยาชะงักตัว ก่อนจะเดินไปกอดป้าแม่บ้านที่อยู่ช่วยชัชชวินดูแลเธอ และป้าจาวก็เป็นแม่ของจืดด้วย

“โธ่ อย่าร้องเยอะนะคะ เดี๋ยวคุณพ่อจะเป็นห่วงนะคะ" ป้าจาวลูบหลังปลอบโยนมาหยาด้วยความสงสารและเห็นใจ

“ทำไมพ่อถึงตกบันไดได้คะ พ่อออกจะแข็งแรง" มาหยาผละออกจากอ้อมกอดป้าจาว ถามอย่างสงสัย

“ป้าก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ อาจจะพลาดก็ได้ แต่พักนี้คุณชัชก็ดูอ่อนแอ ไม่รู้เพราะมัวแต่ทำงานหนักหรือเปล่า" ป้าจาวคาดเดา

“ไหม อาว่าไปพักผ่อนดีกว่านะ พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้า" ภีมวัชช์แทรกขึ้น ป้าจาวพยักหน้าเห็นด้วย

“จืดมันจัดห้องให้คุณภีมแล้วค่ะ อยู่ห้องเดิมนะคะ ตรงข้ามห้องของคุณหนูไหมนะคะ" ป้าจาวเอ่ยบอก ภีมวัชช์ยิ้มตอบป้าแม่บ้าน ก่อนจะโอบไหล่มาหยาขึ้นไปชั้นบน หากมาหยากลับชะงักเมื่อเห็นคราบเลือดแดงๆที่ขอบขั้นบันได จืดคงถูทำความสะอาดไม่เกลี้ยงจนหลงเหลือมา

“ไหม ...” ภีมวัชช์รั้งศีรษะของมาหยาที่ร้องไห้ฮือมาแนบอก แล้วดันให้เดินขึ้นบันไดไปชั้นสอง เขาส่งมาหยาที่หน้าประตู มองจนหญิงสาวปิดประตูไปพักหนึ่ง ได้ยินเสียงร้องไห้ไม่หยุดจากด้านในก็ทำให้ภีมวัชช์เป็นห่วงจนขยับเท้าไม่ออก

แต่สุดท้ายเขาก็ตัดใจ หมุนกาย ไปเข้าห้องนอนที่จืดจัดให้ฝั่งตรงข้าม ซึ่งเป็นห้องที่เมื่อไหร่เขามาพัก จืดก็จะจัดห้องห้องนี้ให้เขาทุกครั้ง


++


ผ่านไปร่วมชั่วโมง ภีมวัชช์ยังนอนไม่หลับจึงส่งข้อความไปบอกพิชาภพเรื่องที่เขาจะให้ติดต่องานผ่านมณิกาแทนก่อน ด้วยเหตุผลติดงานศพคนสำคัญที่ต่างจังหวัด พิชาภพน่าจะหลับไปแล้วข้อความจึงยังไม่ถูกเปิดอ่าน ภีมวัชช์จึงเปลี่ยนไปดูภาพบนโซเชียลมีเดียแทน ลูกค้าที่ไปร่วมงานแต่งงานผู้บริหารหนุ่มแห่งบริษัทอสังหาริมทรัพย์ สินสราญ คู่แข่งตัวเป้งของโชควรารัตน์ลงรูปถ่ายเจ้าบ่าวเจ้าสาวแช่มชื่นมากทีเดียว ภีมวัชช์ยิ้มตามเมื่อเห็นรอยยิ้มสดใสของเจ้าสาวในภาพ ก่อนที่จะตัดใจกดปิด

หากรูปภาพตุ๊กตาดอกทานตะวันบนหน้าจอโทรศัพท์ที่เขาตั้งไว้ ก็ตอกย้ำให้เขาปวดแปลบในใจ เพราะมันคือตุ๊กตาที่เขาเคยให้เจ้าสาวคนนั้นไป ... ภีมวัชช์จึงเดินไปหยิบตุ๊กตาหมีตัวเล็กๆ ที่มาหยาซื้อมาฝากจากญี่ปุ่นออกมาจากกระเป๋ากางเกง ที่เขาติดมาด้วย วางเจ้าหมีน้อยลงบนเตียงก่อนจะหามุมถ่ายแบบใกล้ๆ แล้วเลือกตั้งเป็นภาพหน้าจอแทน



มาหยาเองก็นอนไม่หลับเช่นกัน ... เธอจึงเดินออกจากห้องนอนลงไปชั้นล่างที่ปิดไฟมืด แต่มาหยาก็ไม่กลัวเพราะนี่คือบ้านที่เธอเติบโตมาสิบแปดปี

หญิงสาววัยยี่สิบห้าปีกับหนึ่งเดือนเปิดประตูห้องทำงานบิดาเข้าไปด้านใน เห็นห้องทำงานบิดายังเหมือนเดิมทุกอย่าง หนังสือที่ชัชชวินอ่านค้างไว้ก็ยังวางอยู่บนโต๊ะทำงานเหมือนกับว่าบิดาแค่รีบลุกไปไหนสักที่เท่านั้น ซึ่งในความเป็นจริงคือท่านไม่มีทางกลับมาอ่านหนังสือต่อได้อีกแล้ว

มาหยายกมือขึ้นปิดหน้าร้องไห้กับภาพถ่ายคู่ของตนกับบิดาบนโต๊ะหลายภาพ ภาพสมัยเด็ก ภาพที่เธอได้เป็นเชียร์ลีดเดอร์สมัยเรียน ภาพท่องเที่ยวด้วยกัน หรือแม้แต่ภาพงานรับพระราชทานปริญญาบัตรเมื่อมาหยาเรียนจบ ความทรงจำมากมายทำให้เธออดร้องไห้ไม่ได้จริงๆ

แต่สิ่งหนึ่งที่สว่างวูบ ประกายวาบ จนมาหยาชะงักและหันมองทั้งน้ำตา แหวนเพชรสีชมพูวงหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะอย่างไม่มีใครใส่ใจ มาหยาหยิบขึ้นมาดูใกล้ๆ มาหยาไม่เคยเห็น หรือไม่รู้มาก่อนเลยว่าบิดามีเครื่องประดับจำพวกนี้มาก่อนจึงแปลกใจมาก แหวนทองสีค่อนข้างเก่า หากเธอก็ปฏิเสธไมไ่ด้เลยว่าเพชรสีชมพูสวยจนทำให้เธอยืนมองอยู่นาน กระทั่งได้ยินเสียงดังจากตรงประตู มาหยาสะดุ้งเฮือกอย่างตกใจ ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาเมื่อเห็นว่าเจ้าของเสียงนั้นคือภีมวัชช์นั่นเอง

“อาได้ยินเสียงเปิดประตู คิดว่าต้องเป็นไหมแน่ๆ" ภีมวัชช์เดินเข้ามาหา

“หนูนอนไม่หลับน่ะค่ะ" มาหยาเอ่ยบอก มือยังคงกำแหวนเพชรไว้อยู่

“อาเข้าใจ ... แต่ถ้าไหมไม่พัก ไหมจะเอาแรงที่ไหนไปจัดงานให้พี่ชัชให้ดีที่สุดล่ะ หืม? ... ไปนอนเถอะนะ ... จำได้ไหม อาไม่ชอบเด็กดื้อ เป็นเด็กดีแล้วไปนอนซะ แล้วอาจะมีรางวัลให้"

เขาพูดแล้วจับข้อมือเล็ก ดึงให้หญิงสาวเดินตามเขาออกจากห้องทำงานชัชชวินไป มาหยาไม่ดื้อดึง ยอมเดินตามไม่บ่นหรือพูดอะไรอีก ไม่ใช่เพราะกลัวว่าถ้าเธอยังไม่ยอมไปนอนแล้วอาภีมจะไม่รัก หรือหวังรางวัลอะไร แต่เพราะอยู่ๆเธอก็รู้สึกง่วงขึ้นมาต่างหาก



มาหยายังคงกำแหวนเพชรสีชมพูไว้ในมือยามสอดตัวเข้าไปใต้ผ้าห่ม ภีมวัชช์เป็นห่วงจึงเดินเข้ามาส่งเธอถึงเตียง หนังตาที่หนักอึ้งทำให้การนอนหลับไม่เป็นเรื่องยากของหญิงสาว ทั้งที่ก่อนหน้านี้มาหยายังนอนไม่หลับเพราะเอาแต่คิดถึงพ่ออยู่เลย ภีมวัชช์เห็นว่าหลานสาวหลับสนิทจึงค่อยๆเดินออกจากห้องไป

และในคืนนั้นเองที่มาหยาฝัน ... เธอฝันเห็นหญิงสาวผมยาวสวมมงกุฏดอกกุหลาบเหี่ยวแห้งจนกลายเป็นสีดำ ใบหน้าสวยหวานหมองเศร้า หญิงสาวแปลกหน้าสวมชุดแต่งงานสีขาวทำด้วยลูกไม้ทั้งชุดที่ทั้งเก่าและขาด แต่อยู่ๆก็มีไฟลุกท่วมไปครึ่งซีกของหญิงสาวในชุดแต่งงานคนนั้น

'ช่วย ... ช่วยฉันด้วย...'

เสียงโหยหวนโอดโอยอย่างทรมาน ไม่นานหญิงสาวคนนั้นทรุดลงดิ้นไปมากับพื้น พร้อมยื่นมือมาทางเธอเหมือนจะขอความช่วยเหลือ ฉับพลันร่างของหญิงสาวคนนั้นก็ฟุ่บหายไปเป็นควัน! ทำให้มาหยาตกใจสะดุ้งตื่น ใบหน้าขาวตื่นตกใจจนพร่างพรายไปด้วยเหงื่อทั้งที่อากาศในห้องนอนเย็นมาก ก่อนที่มาหยาจะรู้สึกอะไรบางอย่าง เมื่อแบมือออก แสงส่องจากหน้าต่างเมื่อฟ้าเริ่มสว่างทำให้มาหยามองเห็นแหวนเพชรสีชมพู ที่มาหยากำไว้ตลอดคืนที่ผ่านมา


++


หม่อมหลวงพิชาภพหน้าตาเป็นแบบไหน

มณิกาเกิดคำถามระหว่างหันมองหาลักษณะท่าทางคนที่น่าจะชื่อนี้ไปรอบๆโถงชั้นล่างของบริษัท เมื่อครู่เธอโทรศัพท์นัดแนะกับเพื่อนภีมวัชช์ว่าจะมารออยู่ตรงหน้าร้านกาแฟเพียงร้านเดียวในตึกของบริษัทโชควรารัตน์

“ลูกแก้ว" เสียงของกฤษณ์ หัวหน้าของเธอส่งเสียงมาแต่ไกล มณิกาคลี่ยิ้มเห็นฟันขาวเบิกทางไปก่อนเลย หลังจากลาพักร้อนไปร่วมสองอาทิตย์เพื่อไปเที่ยวญี่ปุ่นกลับมา

แม้บริษัทจะใช้ทำงานเยอะ แต่ผู้บริหารก็อนุมัติให้ลาพักร้อนไปเที่ยวได้ถึงสิบห้าวันต่อปีถ้าหากไม่กระทบงานที่ทำ ซึ่งมณิกาและมาหยาก็จัดสรรหาเวลาหลังจากปิดโปรเจ็คลงได้ ยื่นลาพักร้อนคร่อมวันหยุดต่างๆ พร้อมวันเสาร์อาทิตย์เพื่อไปเที่ยวตามที่วางแผนกันไว้ เพราะได้ตั๋วเครื่องบินราคาถูกมา

“พี่กฤษณ์น่ะเอง ลูกแก้วคิดทึ้งคิดถึงพี่พี่กฤษณ์จัง ลูกแก้วมีของฝากให้พี่กฤษณ์ด้วยนะคะ" มณิกาทักทายอย่างเอาใจหัวหน้าทีมหนุ่มวัยสามสิบปีสุดเท่อย่างกฤษณ์

“พี่ก็คิดถึงเสียงของเราเหมือนกันนั่นแหละ นี่ได้ข่าวว่าพ่อของไหมเสียหรือ ไหมโทรมาลางานกับพี่แต่เช้าเลย" กฤษณ์ถามอย่างเป็นห่วงลูกน้องในทีมเขา

“ค่ะ ลูกแก้วก็รู้เมื่อคืนเหมือนกัน" มณิกาตอบ โดยเลี่ยงว่ารู้จากภีมวัชช์เจ้านายของเธอ

“แล้วคุณภีมก็โทรหาพี่เหมือนกัน บอกเรื่องที่ลูกแก้วจะไปรับงานของเพื่อนคุณภีมในวันนี้ ... ยังไงลูกแก้วก็เต็มที่นะ เราอย่าทำให้เสียลูกค้าคนสำคัญล่ะ" กฤษณ์เตือนด้วยไม่อยากให้ภีมวัชช์โกรธ อาจจะโดนเพ่งเล็งทั้งแผนกได้

มณิกาพยักหน้าไวๆ

“ไม่ต้องห่วงค่ะ พี่กฤษณ์เชื่อมือลูกแก้วเถอะค่ะ ... อ๊ะ! เขาโทรมาแล้วค่ะ ลูกแก้วขอตัวก่อนนะคะ" มณิกาบอกก่อนจะกดรับโทรศัพท์แล้วเดินวนรอบๆ เพื่อมองหาคนที่น่าจะเป็นคุณชายพีชที่ว่า

“คุณอยู่ไหนคะคุณ" มณิกาถามไป พลันนึกสงสัยว่าเธอต้องใช้คำราชาศัพท์ไหมนะ แต่คิดว่าคงไม่ต้องหรอกมั้ง

“ผมอยู่หน้าป้าย ...” พิชาภพบอกพิกัดมาในโทรศัพท์

มณิกามองไปรอบกายอีกครั้งมองหาป้ายที่ว่า ก่อนที่สายตาเธอ รวมถึงลมหายใจ ไม่สิทั้งเวลา และคนรอบกายก็เหมือนจะหยุดตามเมื่อเธอมองไปยังชายหนุ่มร่างสูงในเสื้อนอกสีงาช้าง กางเกงสีน้ำตาล ผมของเขาสั้น และหันมาทางเธอพอดี

คงเป็นคนนั้น ... มณิกาเห็นแสงสว่างประกายออกมาจากร่างสูงที่หันรีหันขวางอยู่ มือหนึ่งถือโทรศัพท์ ส่วนอีกมือก็ล้วงกระเป๋ากางเกง เขาช่างเหมือนหงส์ในฝูงกา หรือประมาณว่ามีสปอตไลท์ส่องจนโดดเด่นรับรู้ได้ว่าผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดาแน่ๆ

หล่อมาก! หล่อจนใจเต้นไม่เป็นส่ำ ยิ่งกว่าเจอแบรทพิทมายืนข้างๆอีก เธอมัวแต่ตะลึง ตกหลุมความหล่อจนไม่ได้ยินอีกฝั่งเรียกเธอซ้ำๆ

“คุณลูกแก้วครับ คุณลูกแก้ว"

“ค่ะ ... อ่อ ค่ะ ลูกแก้วเจอคุณแล้วค่ะ" มณิกาได้สติจึงรีบตอบกลับ ก่อนจะก้าวเท้ายาวๆตรงไปทางที่หม่อมหลวงพิชาภพยืนอยู่

“ลูกแก้วค่ะ ใช่คุณชายพีชหรือเปล่าคะ" เธอเอ่ยถามไป

หม่อมหลวงพิชาภพมอบรอยยิ้มกระแทกใจจนมณิกาเกือบจะหลุดยิ้มตาม โชคดีที่เธอดึงสติไว้ได้ทัน จึงทำได้แค่ยิ้มกว้างแบบไม่เห็นฟันให้เขาเท่านั้น

“เอ่อ คุณคือสถาปนิกที่ภีมแนะนำให้ผมใช่ไหมครับ" เขาถามย้ำอีกครั้ง พลางใช้สายตามองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า

“ใช่ค่ะ ลูกแก้วเป็นสถาปนิกที่นี่ค่ะ ... พอดีว่าคุณภีมไม่สะดวกที่จะมาพบ คือเขา ...” มณิกาจะอธิบาย แต่คนฟังกลับยกมือขึ้นเป็นเชิงห้าม

“ผมรู้เรื่องหมดแล้วล่ะ พอดีผมรีบ เราไปด้วยกันแล้วมีอะไรค่อยคุยในรถล่ะกันนะ" เขาพูดพร้อมเดินนำเธอไป มณิกากระพริบตารัวๆ กับการถูกเบรกจนตามไม่ทัน และเมื่อเธอยังยืนงงอยู่ ร่างสูงก็หันมาหาเธออีกรอบ

“ผมรีบครับ" ย้ำอีกครั้ง

“ค่า" มณิการีบขยับเท้าตาม ในใจก็ตะหงิดๆ ขัดใจกับท่าทางของชายหนุ่มที่เดินนำอยู่ชอบกล ... ท่าทางว่าสิ่งที่มณิกากังวลไว้อาจจะเป็นจริง

"เฮ้อ" เธอถอนหายใจเบาๆ นี่มณิกาคงเจอพวกคุณชายเจ้ายศเจ้าอย่าง เอาแต่ใจ และขี้วีนขี้เหวี่ยงเข้าแล้ว นี่สินะที่โบราณท่านว่า เกลียดแบบไหน มักจะได้แบบนั้น

... ไม่นะ มณิกาเปลี่ยนใจทันไหม ... เธอจะได้เปลี่ยนใจไปชอบเขาแทน เพื่อจะได้ไม่ต้องทำงานกับคนแบบนี้!




บ้านที่พิชาภพพามณิกามานั้นอยู่ใจกลางเมืองก็จริง แต่เข้าซอยไปค่อนข้างลึก แถมรอบๆก็เป็นบ้านหลังใหญ่ๆทั้งนั้น หากส่วนใหญ่ก็เป็นบ้านสไตล์ยุโรปกันหมด

มีบ้านที่ราชนิกูลหนุ่มต้องการปรับปรุงนั้นแปลกแตกต่างออกไป เป็นบ้านสไตล์โคโลเนียลสองชั้นขนาดเล็กๆยกสูงจากพื้น หลังคาทรงปั้นหยามุงกระเบื้องดินเผาสีแดงเลือดหมูเข้มๆที่เก่ามาก สร้างด้วยไม้สักทองทั้งหลัง ฐานของบ้านก่ออิฐถือปูน อายุน่าจะร่วมเจ็ดสิบปี ตัวบ้านเก่าและทรุดโทรมจนสีเดิมลอกไปหมด มีบางส่วนที่ยังคงอยู่ทำให้รู้ว่าบ้านนี้ทาด้วยสีชมพูมาก่อน เหนือบันไดทางขึ้นบ้านมีปั้นลมติดอยู่ กรอบหน้าต่างโค้งชั้นล่างมีช่องลมฉลุลายอ่อนช้อย ส่วนด้านบนเป็นหน้าต่างบานกระทุ้งตีเกล็ด แนวขอบล่างของหลังคาติดฉลุลายขนมปังขิงไปรอบช่างสวยงามจับตานัก

นับว่าเป็นบ้านที่สวยมากทีเดียว ... มณิกาเผลอมองรอบๆอย่างเพลิดเพลิด เธอชอบบ้านเก่าบ้านโบราณอยู่ก่อนแล้ว เพียงแต่น้อยครั้งที่มณิกาจะยอมมาเหยียบบ้านอายุเยอะๆแบบนี้สักที นี่ถ้าภีมวัชช์บอกกันก่อนก็ดี เธอจะได้เตรียมตัวมาบ้าง

“ทางนี้ครับ" พิชาภพส่งเสียงทุ้มๆ เรียกให้คนที่เอาแต่มองรอบๆให้สนใจเขา ราชนิกูลหนุ่มเดินนำขึ้นบันไดไปบนบ้าน แม้จะอายุร่วมเจ็ดสิบปีตามที่หม่อมหลวงพิชาภพบอกขณะเดินทางมาด้วยกัน แต่หลายๆอย่างของบ้านก็ยังแข็งแรงอยู่เลย

“ผมอยากบูรณะที่นี่ ไม่เอาเปลี่ยนอะไรเลยนะครับ ให้อยู่ทุกอย่างเหมือนเดิม แต่แค่ให้มันใหม่กว่านี้ ... แล้วก็มีตกแต่งข้างในใหม่บ้าง" พิชาภพบอกขณะพาเธอเดินผ่านประตูไม้ที่เขาเป็นคนไขกุญแจเปิดออกเอง เสียงประตูเปิดดังแอ๊ดช่างสั่นคลอนขวัญของมณิกาเหลือเกิน

“เอ้อ คุณชายพีชคะ" มณิกาเดินเชื่องช้าตามหลังเขาเข้าไปด้านใน ท่าทางหวาดจนแสดงออกทั้งใบหน้าและน้ำเสียง พิชาภพหยุดเดิน หันมองเห็นก็หรี่ตาใส่เธอ

“คุณลูกแก้วไม่ต้องเรียกผมว่าคุณชายหรอก ตามสถานะแล้วเรียกคุณพีชเฉยๆครับ" เขาบอกหน้าตาเรียบ หากน้ำเสียงฟังดูเหมือนจะหงุดหงิดไม่พอใจอะไรบางอย่างในตัวเธอ

“คุณพีชคะ ... คุณจะบูรณะที่นี่เพื่ออยู่เองหรือคะ" มณิกาถาม ด้วยท่าทางไม่ค่อยไว้วางใจกับบ้านหลังนี้

“ใช่ครับ" พิชาภพตอบ หน้าเริ่มมุ่ยกับอาการแปลกๆของนักออกแบบภายในสาวที่เพื่อนแนะนำมา ... อย่าบอกนะว่ายายผู้หญิงคนนี้กลัวผี?

“หรือว่าคุณกลัว" พิชาภพถามตรงๆ มณิกาถึงกับเม้มปาก หายใจดังฟืด ตาโตหลังแว่นสายตากรอบหนามองเขานิ่ง ก่อนจะกลอกตาไปซ้ายทีขวาที กลืนน้ำลาย แล้วปฏิเสธด้วยน้ำเสียงสบายๆ

“เปล่าค่ะ ดิฉันไม่ได้กลั๊ว! ... ที่สอบถามก็เพราะบ้านหลังนี้เหมือนบ้านที่ผู้หญิงอยู่มากกว่า ... ดูสิคะ ตัวบ้านก็สีชมพู ลายฉลุเหนือหน้าต่างก็เป็นลวดลายดอกกุหลาบ เฟอร์นิเจอร์ก็อ่อนหวานซะ ... อ่อ ใช่ๆ ด้านนอกก็มีขนาบถนนทางเข้าบ้านเนี่ยก็เป็นพุ่มดอกกุหลาบอีก ก็เลยถามดูน่ะค่ะ ดิฉันจะได้ออกแบบปรับปรุงให้เข้ากับไลฟ์สไตล์คุณชายถูกน่ะค่ะ" มณิกาให้เหตุผล

“คุณพีช" เขาแก้ทันทีี

“ค่ะ จะได้เข้ากับแนวของคุณพีชถูก" เธอเปลี่ยนให้ตามความต้องการของลูกค้ามภิมหากิตติมศักดิ์

“ผมชอบแบบนี้แหละ" พิชาภพมองไปรอบๆเช่นกัน "ไม่ต้องเปลี่ยนอะไรมากหรอก แต่ถ้าผมต้องการอะไรเพิ่มผมจะแจ้งคุณอีกทีอย่างเป็นการเป็นงานตอนที่นายภีมอยู่ด้วย ... วันนี้ผมแค่พาคุณมาดูสถานที่จริงก่อนเท่านั้น" เขาว่า

“ค่ะ" มณิกาตอบ พยักหน้ารับรู้ ก่อนจะเบือนหน้าไปอีกทาง ขยับปากหมุบหมิบหมั่นไส้ท่าทางของท่านชายผู้นี้เสียจริง หากอยู่ๆมณิกาก็รู้สึกเย็นวาบที่ด้านหลัง พอมองแขนแล้วก็เห็นว่าขนพากันลุกฮือ เธอหันมองหน้าพิชาภพที่กำลังจ้องมองเธออยู่เช่นกัน

“คุณพีชคะ" เธอเรียกเขา ทำให้พิชาภพสบตาเธอ

“ครับ?”

“คุณไม่รู้สึกอะไรแปลกๆในบ้านหลังนี้บ้างหรือคะ" มณิกาอดไม่ได้ ทนไม่ไหว ถามออกมาตรงๆ ขณะที่มองไปรอบๆบ้านที่สร้างบรรยากาศเย็นยะเยือกชอบกล

“ถ้าจะแปลกสุด ตอนนี้ ทีนี่ ... ก็คงเป็นคุณนี่ล่ะ" คุณชายพีชตอบขณะใช้สายตาสำรวจหญิงสาวอีกครั้ง

มณิกา สาวตัวสูงเท่าไหล่เขาผมบ๊อบสั้นทรงเหมือนหมวกกันน็อค สวมแว่นสายตากรอบหนาสีดำ สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวสอดชายเสื้อไปในกางเกงสีดำทรงประหลาด ช่วงบนป่องๆ ส่วนช่วงล่างก็ลีบติดข้อเท้า อย่างกะโจงกะเบน แถมยังสะพายย่ามผ้าฝ้ายสีแดงเข้มลายยึกยืกๆ

แม่สาวติสท์คนนี้จะแปลกประหลาด แหวกแนวไปไหม ออกมาคุยงานกับเขาก็ควรแต่งตัวให้ดูเป็นทางการสิ!

พิชาภพไม่ค่อยจะถูกกับพวกแต่งตัวแนวๆเท่าไหร่จริงๆ มันทำให้เขาอึดอัดที่จะต้องเดินด้วย สนทนาด้วย ถ้าไม่ใช่ภีมวัชช์แนะนำมา คงเพราะมีฝีมือจริงๆ พิชาภพคงส่ายหน้าแล้วเลิกคุยไปนานแล้ว

“ถ้าคราวหน้าเราต้องคุยกันอีก ผมขอให้คุณแต่งตัวเหมือนคนปกตินะครับ คุณมณิกา"

“คะ?”

มณิกาอ้าปากจะเถียงกลับ คนมากเรื่องเรื่องมากที่กล้ามาจุ้นจ้านกับการแต่งตัวของเธอ ก็หันหลังเดินออกจากบ้านไปก่อนแล้ว สาวติสท์จึงได้แต่กัดริมฝีปาก อยากจะโยนกำปั้นใส่ แต่พิชาภพหันมาเห็นก่อน สายตาคมดุที่มองตำหนิมาทำให้กำปั้นเล็กๆของมณิกาตกลงข้างตัวทันที ก่อนที่เธอจะก้าวฉับๆ ฟึดฟัดเดินผ่านเขาไป

ให้ตายเถอะ ... ถ้าไม่ใช่เพื่อนอาภีม ไม่ใช่ลูกค้าบริษัท มณิกาสาบานเลยว่า ต่อให้เขาเป็นหม่อมจะต้องมีการตะบันหน้าหมอนี่แน่ๆ

แม้เธออาจจะต้องจ่ายค่าปรับโทษฐานทำร้ายร่างกายเขา หรือโดน โมกข์ พี่ชายที่เป็นตำรวจตำหนิไปสามวันสามคืน เธอก็ยอม!



จบตอน


นำนิยายมาส่งค่ะ

เศร้าอีกสักตอนน้า ไม่นานจะพาความกุ๊กกิ๊กมาส่งค่า
อาภีมวัชช์เป็นสายกุ๊กกิ๊กค่า
ส่วนคุณชายพีชนั้น ... ต้องเอาฮีไปปรับทัศนคติอีกนิด ... นะคะ ให้ฮีเกรียนใส่ไปก่อน ฮี่ๆ


ขออนุญาตตอบคอมเมนท์น้าา


คุณ phakarat - น่ากลัวไหม นิดนึงค่ะ แต่ปิ่นจะเขียนได้น่ากลัวหรือเปล่าคืออีกเรื่อง 555

คุณ nuchsan - ปิ่นตั้งใจจะเขียนกุ๊กกิ๊กๆ ผสมๆ นะคะ 5555 แม้ตอนแรกจะเศร้าไปหน่อย แต่จะพยายาม ฮึ้บๆ

คุณ Zephyr - นั่นสิ ผีสาวแค้นใครนะ ... แล้วจะนัวอาภีมหรือเปล่านั้น ... ต้องดูกันต่อไป ฮี่ๆ


ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์ Like และนักอ่านทุกท่านค่า

*ปล ขอบคุณคุณ Zephyr ด้วยค่ะที่ช่วยทัก ปิ่นเบลอจัด 555
มีการปรับแก้จากคุณชาย เป็น คุณแล้วนะคะ :P



ปิ่นนลิน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 19 ส.ค. 2558, 03:28:44 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 10 ต.ค. 2559, 22:18:48 น.

จำนวนการเข้าชม : 1252





<< บทนำ - ตอนที่ 1   
กาซะลองพลัดถิ่น 19 ส.ค. 2558, 04:47:50 น.
ส่วนมากคุณชายจะท่ามาก เรื่องมาก ระเบียบเยอะ แบบนี้หมดเลยเหรอ ...ไม่คิดจะแหกกฎของการเป็นคุณชายบ้างเหรอ ........ท่าทางคู่รองคงจะมันส์ เกรียน จิก ๆ กัด ๆ แน่ ๆ


kaelek 19 ส.ค. 2558, 11:46:37 น.
555 ชอบๆ ลูกแก้วกะคุณชาย แก่น+เกรียน มั้ยน้าาา


แว่นใส 19 ส.ค. 2558, 13:17:24 น.
มีวิญญาณในบ้าน ในแหวนเหรอ


Zephyr 19 ส.ค. 2558, 18:53:44 น.
อ่าว หม่อมหลวงนี่ยังเรียกคุณชายเหรอคะ นึกว่าคุณเฉยๆ
เราไม่ได้รู้หรอกนะ อาศัยจำชาวบ้านมา 555 ถ้าผิดขออภัยนะ
มีสามคู่ป่ะคะ พี่ภีม คุณพีช โมกข์
แฮ่ๆๆๆ ปูเสื่อรอปู้ชายยย ต่อๆๆๆ


กัณฐกา 23 ส.ค. 2558, 12:02:21 น.
เริ่มชอบเกรียน ๆ แบบคุณชายแล้วสิ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account