รักครั้งใหม่ ใจดวงเดิม
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: บทที่ 1
รักครั้งใหม่ ใจดวงเดิม
บทที่ 1
นี่มันอะไรกัน!
คล้ายเดือนรู้สึกเหมือนเรี่ยวแรงถูกสูบออกไปจนปล่อยโทรศัพท์ในมือร่วง ยังดีที่พรมปูพื้นช่วยรับแรงกระแทกไม่ให้เกิดความเสียหายกับโทรศัพท์เครื่องเล็ก หญิงสาววัยเบญจเพสเหลือบตามองภาพบาดใจที่เมื่อครู่ถูกส่งมาให้ผ่านทางไลน์จากสามีของเธอ น้ำตาผุดขึ้นพร้อมกับข้อความที่ถูกส่งมาอีกครั้ง
ถ้าอยากพิสูจน์ มาที่คอนโดซันฟลาวเวอร์ ห้อง 303
หญิงสาวปิดตา ไม่อยากเห็นภาพที่ทำให้สะเทือนใจ แต่ภาพนั้นยังปรากฏในห้วงความคิดจนทำให้น้ำตาไหล
เขาทำแบบนั้นจริง ๆ เหรอ
คล้ายเดือนไม่อยากเชื่อ หนึ่งปีที่ได้รู้จักกับอีกสองปีที่ใช้ชีวิตคู่ พสุธาทำให้เธอเชื่อมั่นมาตลอดว่าเขาไม่มีสายตาให้กับผู้หญิงคนไหน นอกจากเธอเพียงคนเดียว
แล้วมันเกิดขึ้นได้ยังไง!
หญิงสาวสะอื้นยามเอามือลูบหน้าท้อง หัวใจเจ็บแปลบเมื่อนึกถึงวันที่แจ้งข่าวดีกับสามี จำได้ว่าเขาดีใจมากที่รู้ว่ากำลังจะได้เป็นพ่อคน แม้ที่ผ่านมาเขามักกลับบ้านดึกแต่เธอก็เฝ้าบอกกับตัวเองว่าเป็นเพราะหน้าที่ความรับผิดชอบในฐานะผู้บริหารระดับสูงของบริษัทรับออกแบบก่อสร้างและตกแต่งภายในที่มีงานเข้ามามากมายนับตั้งแต่ได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดออกแบบเมื่อปีที่แล้ว
ทั้งที่จริง ๆ แล้ว เขากำลังนอกใจเธอด้วยการมีความสัมพันธ์กับเลขาส่วนตัว!
คล้ายเดือนน้ำตาตกอีกครั้ง ความเจ็บปวดในหัวใจเหมือนถูกถ่ายเทไปที่ท้องจนต้องรีบปลอบประโลมอีกหนึ่งชีวิต
“ไม่มีอะไรนะลูก หนูไม่ต้องคิดมาก”
ปากบอกแบบนั้น แต่คล้ายเดือนรู้ดีว่าคนที่กำลังคิดมากคือตัวเธอเองต่างหาก ในขณะที่กำลังร้องไห้อย่างหนัก เสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น
สองสาวที่กำลังก้าวเข้ามาในคอนโดมิเนียมหรูย่านใจกลางเมืองนั้นดึงดูดสายตาใครต่อใครพอสมควร จากการที่หนึ่งในนั้นถูกดึงแกมลากเข้ามาจนพนักงานรักษาความปลอดภัยต้องเข้ามาถาม
“มีอะไรให้ช่วยไหมครับ”
“ไม่มีค่ะ ขอบคุณ”
ปลายฟ้าบอกปัดแล้วทำท่าจะดึงลูกพี่ลูกน้องของตนให้ก้าวตามอีกครั้ง แต่ต้องชะงัก
“ฟ้า เดือนเปลี่ยนใจแล้ว เรากลับกันเถอะ”
คล้ายเดือนเบือนหน้าหนีจากสายตาของญาติสาวเมื่ออีกฝ่ายนิ่วหน้ามองมาราวกับไม่ชอบใจ
“ไหน ๆ ก็มาถึงแล้วจะกลับทำไม ขึ้นไปดูให้รู้ดำรู้แดงกันเลยดีกว่า”
คำบอกนั้นทำให้คล้ายเดือนอดคิดไม่ได้ ถ้าเธอมีนิสัยกล้าได้สักครึ่งหนึ่งของปลายฟ้าก็คงดี จะได้ไม่ต้องลังเลว่าควรไปพิสูจน์หรือกลับบ้านของตัวเองแล้วปล่อยให้ความหวาดระแวงเกาะกินหัวใจต่อไป
“แต่...เดือนกลัว”
ปลายฟ้าเริ่มหงุดหงิดกับคำสารภาพของคล้ายเดือน ไม่แปลกใจที่อีกฝ่ายเปลี่ยนใจเอาดื้อ ๆ อาจด้วยนิสัยอ่อนโยนหรือที่ควรเรียกว่าอ่อนแอ หรือไม่ก็ความไม่กล้าที่เธอชอบเรียกว่าขี้ขลาด ทั้งหมดที่อยู่ภายในตัวของคล้ายเดือนเป็นสิ่งที่เธอคุ้นชินมาตั้งแต่เด็ก กระนั้นก็ยังทำให้เธอนึกขัดใจได้เสมอ
“ไม่ต้องกลัว ฟ้าอยู่ด้วยทั้งคน”
คล้ายเดือนปิดปากเงียบทั้งที่อยากแย้งออกไปว่านั่นล่ะที่เธอกลัว ยิ่งนึกถึงอดีตสมัยเรียนมัธยม ยามปลายฟ้าปกป้องเธอจากเพื่อนในโรงเรียนที่ชอบหาเรื่องกลั่นแกล้งหรือพูดจาถากถางเธอที่เป็นเด็กเรียนอีกทั้งได้รับรางวัลจากการถูกเสนอชื่อให้เข้าประกวดมารยาทดีเด่น แม้ผลที่ตามมาทำให้เธอไม่ถูกแกล้งหรือพูดว่าร้าย แต่ก็ต้องแลกกับการที่เธอไม่มีเพื่อนสนิทเลย ทำให้คล้ายเดือนอดกลัวไม่ได้เพราะนึกวาดภาพร้าย ๆ ที่อาจเกิดขึ้นตามมาหลังจากนี้
ไม่น่าเลย
คล้ายเดือนเริ่มนึกเสียใจเมื่อนึกถึงตอนที่ปลายฟ้าโทรศัพท์มาหาในช่วงที่สภาพจิตใจของเธอย่ำแย่ เพราะอยากระบายกับใครสักคนเธอจึงเล่าเรื่องภาพและข้อความที่ได้รับ จนทำให้ญาติของเธอออกปากชวนให้มาตามหาความจริง
คล้ายเดือนจำใจเดินตามแรงดึงของญาติสาวอย่างนึกปลง จนมาถึงห้องหนึ่งซึ่งมีเลข 303 ติดไว้ที่หน้าประตู
“ห้องนี้เอง”
เมื่อเห็นลูกพี่ลูกน้องของเธอทำท่าหมายมั่นปั้นมือ คล้ายเดือนก็กลัวมากขึ้น แต่จนแล้วจนรอดไม่กล้าปริปากถึงแม้ใจสั่นระรัวเมื่อปลายฟ้าเริ่มส่งสัญญาณเรียกคนที่อยู่ในห้องด้วยการกดกริ่งหน้าประตู
หลายวินาทีผ่านไป ในที่สุดประตูห้องก็ถูกเปิดออกจากคนที่อยู่ด้านใน
ขณะที่คล้ายเดือนตัวแข็งทื่อเหมือนถูกสาปในวินาทีที่เผชิญหน้ากับอรุณรัตน์ เลขาสาววัยสามสิบของสามี ปลายฟ้ากลับทำตรงกันข้ามเมื่อผลักเจ้าของห้องไปอีกทางแล้วก้าวเข้าไปภายในห้องด้วยท่าทางเหมือนพร้อมเอาเรื่องใครสักคน
คล้ายเดือนยังคงยืนนิ่งอย่างทำอะไรไม่ถูกเหมือนกับอรุณรัตน์ที่ทำราวตั้งตั้งไม่ติดกับความลับที่ไม่เป็นความลับอีกต่อไป กระทั่งเสียงกรีดร้องของปลายฟ้าดึงความสนใจของคล้ายเดือนจนเธอรีบเดินเข้าไปด้านใน แล้วนิ่งงันกับภาพที่ประจักษ์สู่สายตา
พสุธา สามีหนุ่มวัยสามสิบกว่าของเธอกำลังนอนหลับสนิทอยู่บนเตียงกว้างอย่างไม่มีทีท่าสะดุ้งสะเทือนกับน้ำเสียงโกรธเกรี้ยวของปลายฟ้า ซึ่งนั่นคงทำให้ลูกพี่ลูกน้องของเธอโกรธจัดจนเขย่าตัวเขาอย่างแรง
คล้ายเดือนรู้ตัวว่าเธอกำลังน้ำตาไหล ทั้งที่ไม่อยากแสดงความอ่อนแอออกมาต่อหน้าผู้หญิงอีกคนที่ทำร้ายจิตใจของเธออย่างเลือดเย็น แต่เธอก็ห้ามตัวเองไม่ได้เมื่อมองปลายฟ้าตั้งหน้าตั้งหน้าปลุกสามีของเธอผ่านม่านน้ำตา
ในที่สุด สามีของเธอก็เริ่มมีทีท่าจะตื่น คล้ายเดือนเฝ้ามองตั้งแต่ท่าทางมึนงงของพสุธาซึ่งเธอรู้ว่าเขาเป็นแบบนี้เสมอก่อนที่จะรู้สึกตัวตื่นเต็มที่ จนกระทั่งแววตาว่างเปล่าของเขาค่อย ๆ เลือนหายเมื่อเขาเห็นเธอ
นาทีนั้น ความอบอุ่นอ่อนหวานในสายตาของเขายามมองเธอไม่ได้ทำให้สุขใจเหมือนที่ผ่านมา ตรงกันข้ามคล้ายเดือนปวดใจมากกว่าเมื่อคิดว่า ทั้งที่เขาทรยศแอบมีคนอื่นแต่เขาก็ยังมองเธอด้วยสายตาแบบนี้ได้อีก
หัวใจของเขาทำด้วยอะไร!
หญิงสาวสะอื้นไห้ยามคร่ำครวญกับตัวเอง
นี่นะเหรอ คนที่บอกว่ารักเธอสุดหัวใจ
ภาพของวันแรกเจอจวบจนตัดสินใจตอบรับคำขอแต่งงานของเขาผุดขึ้นมาจากความทรงจำเหมือนจะตอกย้ำให้หัวใจยิ่งชอกช้ำ ยามเห็นแผงอกของสามีผุดให้เห็นจากกองผ้าห่มที่ร่วงลงมาปกคลุมส่วนล่างของร่างกาย คล้ายเดือนก็นึกอยากปราดเข้าไปทุบอกของอีกฝ่ายแรง ๆ แล้วถามว่า เขาทำแบบนี้กับเธอได้ยังไง
แต่จนแล้วจนรอด คล้ายเดือนก็ไม่กล้าทำอย่างที่ใจคิด ได้แต่ยืนปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาเงียบ ๆ ในขณะที่สามีของเธอก็เหมือนเริ่มรู้ตัวเต็มที่แล้วหลังจากหันไปมองปลายฟ้าและอรุณรัตน์ด้วยท่าทางงงงันอยู่ครู่หนึ่ง
“เดือน”
คำเดียวสั้น ๆ ที่ออกจากปากของคนที่เธอแสนรัก แต่นั่นเหมือนเป็นฟางเส้นสุดท้ายในความรู้สึกของคล้ายเดือนยามที่หัวใจกำลังปวดร้าว เจ้าตัวฝืนกล้ำกลืนก้อนแข็งในลำคอยามตั้งคำถามเสียงกระท่อนกระแท่น
“คุณ...ทำแบบนี้กับเดือนได้ยังไง”
อาจเพราะลึก ๆ ก็เกรงว่าจะได้ฟังคำตอบที่ทำให้ใจเธอยิ่งสลาย คนอ่อนแออย่างคล้ายเดือนจึงเลือกวิธีหนีปัญหา
คล้ายเดือนเอามือปิดหูขณะวิ่งออกมาราวกับจะปิดกั้นเสียงร้องเรียกที่ดังไล่หลังของสามี ไม่รับรู้ใด ๆ แม้กระทั่งเสียงฟ้าร้องคำรามท่ามกลางพายุฝนที่กำลังเทกระหน่ำ กระทั่งมาถึงบริเวณนอกอาคาร
อาจเพราะน้ำตาที่กำลังเอ่อคลอสองเบ้าตาในขณะที่หัวใจกำลังมืดบอด คล้ายเดือนจึงมองไม่เห็นว่ามีรถยนต์คันหนึ่งกำลังแล่นมาด้วยความเร็วสูง กว่าจะรู้ตัวนั่นก็สายเกินไปเมื่อเธอถูกชนจนกระเด็นออกไปราวห้าสิบเมตร
แสงไฟจากท้ายรถยนต์ที่กำลังแล่นจากไปบอกให้รู้ว่าคนขับไม่แยแสต่อการกระทำของตนแม้แต่น้อย คล้ายเดือนได้แต่มองตามไปด้วยความเจ็บปวดและสิ้นหวัง ท่ามกลางพายุฝนฟ้าร้องคะนองแบบนี้คงอีกนานกว่าจะมีใครมาพบเธอ
เธอยังไม่อยากตาย
หญิงสาวบอกกับตัวเองท่ามกลางความเจ็บปวดที่เหมือนร่างกายกำลังถูกฉีกกระชาก รับรู้ได้ว่าลูกในท้องไม่อยู่แล้ว เจ้าตัวยื่นมือที่สั่นระริกไปตรงหน้าท้องแล้วเปล่งคำพูดออกมาท่ามกลางเลือดที่ทะลักออกมาทางปาก
“แม่...ขอโทษ...นะ”
คล้ายเดือนน้ำตาไหลเมื่อหวนนึกถึงเหตุการณ์ที่ทำให้เธอต้องมามีชะตากรรมแบบนี้
ความรักที่ยังสลักแน่นบวกกับความคับแค้นและไม่เข้าใจจากสิ่งที่เพิ่งเผชิญมา เปลี่ยนแปลงคนที่อ่อนแอมาตลอดชีวิตในเสี้ยวนาทีแห่งความเป็นความตาย
เธอยังตายไม่ได้!
ทั้งที่มุ่งมั่นเช่นนั้นแต่คล้ายเดือนก็ยังห้ามน้ำตาตัวเองไว้ไม่ได้จนปล่อยให้ไหลลงมาปะปนกับสายฝน หัวใจกระหวัดหาคนที่เธอแสนรัก
เธอทำอะไรผิด เขาถึงนอกใจเธอ เธอไม่ดีตรงไหน เขาถึงทำกับเธอแบบนี้
แต่คำถามเหล่านั้นยังเทียบไม่ได้เลยกับคำถามหนึ่งที่เธออยากรู้เหลือเกินในช่วงที่วาระสุดท้ายใกล้มาเยือน
ที่ผ่านมา เขาเคยรักเธอจริง ๆ หรือเปล่า
------------------------------------------------------------------------------------------------------
บทที่ 1
นี่มันอะไรกัน!
คล้ายเดือนรู้สึกเหมือนเรี่ยวแรงถูกสูบออกไปจนปล่อยโทรศัพท์ในมือร่วง ยังดีที่พรมปูพื้นช่วยรับแรงกระแทกไม่ให้เกิดความเสียหายกับโทรศัพท์เครื่องเล็ก หญิงสาววัยเบญจเพสเหลือบตามองภาพบาดใจที่เมื่อครู่ถูกส่งมาให้ผ่านทางไลน์จากสามีของเธอ น้ำตาผุดขึ้นพร้อมกับข้อความที่ถูกส่งมาอีกครั้ง
ถ้าอยากพิสูจน์ มาที่คอนโดซันฟลาวเวอร์ ห้อง 303
หญิงสาวปิดตา ไม่อยากเห็นภาพที่ทำให้สะเทือนใจ แต่ภาพนั้นยังปรากฏในห้วงความคิดจนทำให้น้ำตาไหล
เขาทำแบบนั้นจริง ๆ เหรอ
คล้ายเดือนไม่อยากเชื่อ หนึ่งปีที่ได้รู้จักกับอีกสองปีที่ใช้ชีวิตคู่ พสุธาทำให้เธอเชื่อมั่นมาตลอดว่าเขาไม่มีสายตาให้กับผู้หญิงคนไหน นอกจากเธอเพียงคนเดียว
แล้วมันเกิดขึ้นได้ยังไง!
หญิงสาวสะอื้นยามเอามือลูบหน้าท้อง หัวใจเจ็บแปลบเมื่อนึกถึงวันที่แจ้งข่าวดีกับสามี จำได้ว่าเขาดีใจมากที่รู้ว่ากำลังจะได้เป็นพ่อคน แม้ที่ผ่านมาเขามักกลับบ้านดึกแต่เธอก็เฝ้าบอกกับตัวเองว่าเป็นเพราะหน้าที่ความรับผิดชอบในฐานะผู้บริหารระดับสูงของบริษัทรับออกแบบก่อสร้างและตกแต่งภายในที่มีงานเข้ามามากมายนับตั้งแต่ได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดออกแบบเมื่อปีที่แล้ว
ทั้งที่จริง ๆ แล้ว เขากำลังนอกใจเธอด้วยการมีความสัมพันธ์กับเลขาส่วนตัว!
คล้ายเดือนน้ำตาตกอีกครั้ง ความเจ็บปวดในหัวใจเหมือนถูกถ่ายเทไปที่ท้องจนต้องรีบปลอบประโลมอีกหนึ่งชีวิต
“ไม่มีอะไรนะลูก หนูไม่ต้องคิดมาก”
ปากบอกแบบนั้น แต่คล้ายเดือนรู้ดีว่าคนที่กำลังคิดมากคือตัวเธอเองต่างหาก ในขณะที่กำลังร้องไห้อย่างหนัก เสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น
สองสาวที่กำลังก้าวเข้ามาในคอนโดมิเนียมหรูย่านใจกลางเมืองนั้นดึงดูดสายตาใครต่อใครพอสมควร จากการที่หนึ่งในนั้นถูกดึงแกมลากเข้ามาจนพนักงานรักษาความปลอดภัยต้องเข้ามาถาม
“มีอะไรให้ช่วยไหมครับ”
“ไม่มีค่ะ ขอบคุณ”
ปลายฟ้าบอกปัดแล้วทำท่าจะดึงลูกพี่ลูกน้องของตนให้ก้าวตามอีกครั้ง แต่ต้องชะงัก
“ฟ้า เดือนเปลี่ยนใจแล้ว เรากลับกันเถอะ”
คล้ายเดือนเบือนหน้าหนีจากสายตาของญาติสาวเมื่ออีกฝ่ายนิ่วหน้ามองมาราวกับไม่ชอบใจ
“ไหน ๆ ก็มาถึงแล้วจะกลับทำไม ขึ้นไปดูให้รู้ดำรู้แดงกันเลยดีกว่า”
คำบอกนั้นทำให้คล้ายเดือนอดคิดไม่ได้ ถ้าเธอมีนิสัยกล้าได้สักครึ่งหนึ่งของปลายฟ้าก็คงดี จะได้ไม่ต้องลังเลว่าควรไปพิสูจน์หรือกลับบ้านของตัวเองแล้วปล่อยให้ความหวาดระแวงเกาะกินหัวใจต่อไป
“แต่...เดือนกลัว”
ปลายฟ้าเริ่มหงุดหงิดกับคำสารภาพของคล้ายเดือน ไม่แปลกใจที่อีกฝ่ายเปลี่ยนใจเอาดื้อ ๆ อาจด้วยนิสัยอ่อนโยนหรือที่ควรเรียกว่าอ่อนแอ หรือไม่ก็ความไม่กล้าที่เธอชอบเรียกว่าขี้ขลาด ทั้งหมดที่อยู่ภายในตัวของคล้ายเดือนเป็นสิ่งที่เธอคุ้นชินมาตั้งแต่เด็ก กระนั้นก็ยังทำให้เธอนึกขัดใจได้เสมอ
“ไม่ต้องกลัว ฟ้าอยู่ด้วยทั้งคน”
คล้ายเดือนปิดปากเงียบทั้งที่อยากแย้งออกไปว่านั่นล่ะที่เธอกลัว ยิ่งนึกถึงอดีตสมัยเรียนมัธยม ยามปลายฟ้าปกป้องเธอจากเพื่อนในโรงเรียนที่ชอบหาเรื่องกลั่นแกล้งหรือพูดจาถากถางเธอที่เป็นเด็กเรียนอีกทั้งได้รับรางวัลจากการถูกเสนอชื่อให้เข้าประกวดมารยาทดีเด่น แม้ผลที่ตามมาทำให้เธอไม่ถูกแกล้งหรือพูดว่าร้าย แต่ก็ต้องแลกกับการที่เธอไม่มีเพื่อนสนิทเลย ทำให้คล้ายเดือนอดกลัวไม่ได้เพราะนึกวาดภาพร้าย ๆ ที่อาจเกิดขึ้นตามมาหลังจากนี้
ไม่น่าเลย
คล้ายเดือนเริ่มนึกเสียใจเมื่อนึกถึงตอนที่ปลายฟ้าโทรศัพท์มาหาในช่วงที่สภาพจิตใจของเธอย่ำแย่ เพราะอยากระบายกับใครสักคนเธอจึงเล่าเรื่องภาพและข้อความที่ได้รับ จนทำให้ญาติของเธอออกปากชวนให้มาตามหาความจริง
คล้ายเดือนจำใจเดินตามแรงดึงของญาติสาวอย่างนึกปลง จนมาถึงห้องหนึ่งซึ่งมีเลข 303 ติดไว้ที่หน้าประตู
“ห้องนี้เอง”
เมื่อเห็นลูกพี่ลูกน้องของเธอทำท่าหมายมั่นปั้นมือ คล้ายเดือนก็กลัวมากขึ้น แต่จนแล้วจนรอดไม่กล้าปริปากถึงแม้ใจสั่นระรัวเมื่อปลายฟ้าเริ่มส่งสัญญาณเรียกคนที่อยู่ในห้องด้วยการกดกริ่งหน้าประตู
หลายวินาทีผ่านไป ในที่สุดประตูห้องก็ถูกเปิดออกจากคนที่อยู่ด้านใน
ขณะที่คล้ายเดือนตัวแข็งทื่อเหมือนถูกสาปในวินาทีที่เผชิญหน้ากับอรุณรัตน์ เลขาสาววัยสามสิบของสามี ปลายฟ้ากลับทำตรงกันข้ามเมื่อผลักเจ้าของห้องไปอีกทางแล้วก้าวเข้าไปภายในห้องด้วยท่าทางเหมือนพร้อมเอาเรื่องใครสักคน
คล้ายเดือนยังคงยืนนิ่งอย่างทำอะไรไม่ถูกเหมือนกับอรุณรัตน์ที่ทำราวตั้งตั้งไม่ติดกับความลับที่ไม่เป็นความลับอีกต่อไป กระทั่งเสียงกรีดร้องของปลายฟ้าดึงความสนใจของคล้ายเดือนจนเธอรีบเดินเข้าไปด้านใน แล้วนิ่งงันกับภาพที่ประจักษ์สู่สายตา
พสุธา สามีหนุ่มวัยสามสิบกว่าของเธอกำลังนอนหลับสนิทอยู่บนเตียงกว้างอย่างไม่มีทีท่าสะดุ้งสะเทือนกับน้ำเสียงโกรธเกรี้ยวของปลายฟ้า ซึ่งนั่นคงทำให้ลูกพี่ลูกน้องของเธอโกรธจัดจนเขย่าตัวเขาอย่างแรง
คล้ายเดือนรู้ตัวว่าเธอกำลังน้ำตาไหล ทั้งที่ไม่อยากแสดงความอ่อนแอออกมาต่อหน้าผู้หญิงอีกคนที่ทำร้ายจิตใจของเธออย่างเลือดเย็น แต่เธอก็ห้ามตัวเองไม่ได้เมื่อมองปลายฟ้าตั้งหน้าตั้งหน้าปลุกสามีของเธอผ่านม่านน้ำตา
ในที่สุด สามีของเธอก็เริ่มมีทีท่าจะตื่น คล้ายเดือนเฝ้ามองตั้งแต่ท่าทางมึนงงของพสุธาซึ่งเธอรู้ว่าเขาเป็นแบบนี้เสมอก่อนที่จะรู้สึกตัวตื่นเต็มที่ จนกระทั่งแววตาว่างเปล่าของเขาค่อย ๆ เลือนหายเมื่อเขาเห็นเธอ
นาทีนั้น ความอบอุ่นอ่อนหวานในสายตาของเขายามมองเธอไม่ได้ทำให้สุขใจเหมือนที่ผ่านมา ตรงกันข้ามคล้ายเดือนปวดใจมากกว่าเมื่อคิดว่า ทั้งที่เขาทรยศแอบมีคนอื่นแต่เขาก็ยังมองเธอด้วยสายตาแบบนี้ได้อีก
หัวใจของเขาทำด้วยอะไร!
หญิงสาวสะอื้นไห้ยามคร่ำครวญกับตัวเอง
นี่นะเหรอ คนที่บอกว่ารักเธอสุดหัวใจ
ภาพของวันแรกเจอจวบจนตัดสินใจตอบรับคำขอแต่งงานของเขาผุดขึ้นมาจากความทรงจำเหมือนจะตอกย้ำให้หัวใจยิ่งชอกช้ำ ยามเห็นแผงอกของสามีผุดให้เห็นจากกองผ้าห่มที่ร่วงลงมาปกคลุมส่วนล่างของร่างกาย คล้ายเดือนก็นึกอยากปราดเข้าไปทุบอกของอีกฝ่ายแรง ๆ แล้วถามว่า เขาทำแบบนี้กับเธอได้ยังไง
แต่จนแล้วจนรอด คล้ายเดือนก็ไม่กล้าทำอย่างที่ใจคิด ได้แต่ยืนปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาเงียบ ๆ ในขณะที่สามีของเธอก็เหมือนเริ่มรู้ตัวเต็มที่แล้วหลังจากหันไปมองปลายฟ้าและอรุณรัตน์ด้วยท่าทางงงงันอยู่ครู่หนึ่ง
“เดือน”
คำเดียวสั้น ๆ ที่ออกจากปากของคนที่เธอแสนรัก แต่นั่นเหมือนเป็นฟางเส้นสุดท้ายในความรู้สึกของคล้ายเดือนยามที่หัวใจกำลังปวดร้าว เจ้าตัวฝืนกล้ำกลืนก้อนแข็งในลำคอยามตั้งคำถามเสียงกระท่อนกระแท่น
“คุณ...ทำแบบนี้กับเดือนได้ยังไง”
อาจเพราะลึก ๆ ก็เกรงว่าจะได้ฟังคำตอบที่ทำให้ใจเธอยิ่งสลาย คนอ่อนแออย่างคล้ายเดือนจึงเลือกวิธีหนีปัญหา
คล้ายเดือนเอามือปิดหูขณะวิ่งออกมาราวกับจะปิดกั้นเสียงร้องเรียกที่ดังไล่หลังของสามี ไม่รับรู้ใด ๆ แม้กระทั่งเสียงฟ้าร้องคำรามท่ามกลางพายุฝนที่กำลังเทกระหน่ำ กระทั่งมาถึงบริเวณนอกอาคาร
อาจเพราะน้ำตาที่กำลังเอ่อคลอสองเบ้าตาในขณะที่หัวใจกำลังมืดบอด คล้ายเดือนจึงมองไม่เห็นว่ามีรถยนต์คันหนึ่งกำลังแล่นมาด้วยความเร็วสูง กว่าจะรู้ตัวนั่นก็สายเกินไปเมื่อเธอถูกชนจนกระเด็นออกไปราวห้าสิบเมตร
แสงไฟจากท้ายรถยนต์ที่กำลังแล่นจากไปบอกให้รู้ว่าคนขับไม่แยแสต่อการกระทำของตนแม้แต่น้อย คล้ายเดือนได้แต่มองตามไปด้วยความเจ็บปวดและสิ้นหวัง ท่ามกลางพายุฝนฟ้าร้องคะนองแบบนี้คงอีกนานกว่าจะมีใครมาพบเธอ
เธอยังไม่อยากตาย
หญิงสาวบอกกับตัวเองท่ามกลางความเจ็บปวดที่เหมือนร่างกายกำลังถูกฉีกกระชาก รับรู้ได้ว่าลูกในท้องไม่อยู่แล้ว เจ้าตัวยื่นมือที่สั่นระริกไปตรงหน้าท้องแล้วเปล่งคำพูดออกมาท่ามกลางเลือดที่ทะลักออกมาทางปาก
“แม่...ขอโทษ...นะ”
คล้ายเดือนน้ำตาไหลเมื่อหวนนึกถึงเหตุการณ์ที่ทำให้เธอต้องมามีชะตากรรมแบบนี้
ความรักที่ยังสลักแน่นบวกกับความคับแค้นและไม่เข้าใจจากสิ่งที่เพิ่งเผชิญมา เปลี่ยนแปลงคนที่อ่อนแอมาตลอดชีวิตในเสี้ยวนาทีแห่งความเป็นความตาย
เธอยังตายไม่ได้!
ทั้งที่มุ่งมั่นเช่นนั้นแต่คล้ายเดือนก็ยังห้ามน้ำตาตัวเองไว้ไม่ได้จนปล่อยให้ไหลลงมาปะปนกับสายฝน หัวใจกระหวัดหาคนที่เธอแสนรัก
เธอทำอะไรผิด เขาถึงนอกใจเธอ เธอไม่ดีตรงไหน เขาถึงทำกับเธอแบบนี้
แต่คำถามเหล่านั้นยังเทียบไม่ได้เลยกับคำถามหนึ่งที่เธออยากรู้เหลือเกินในช่วงที่วาระสุดท้ายใกล้มาเยือน
ที่ผ่านมา เขาเคยรักเธอจริง ๆ หรือเปล่า
------------------------------------------------------------------------------------------------------
กัณฐกา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 23 ส.ค. 2558, 11:19:30 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 23 ส.ค. 2558, 11:19:30 น.
จำนวนการเข้าชม : 1078
บทที่ 2 >> |