H.O.P.E.

จาก 'บทละคร' สู่ 'งานเขียน'

ผลงานละครเวทีเรื่องแรกของไมย่าร่วมกับเพื่อนนักเขียนอีก 7 ชีวิต
จะถ่ายทอดออกมาผ่านตัวอักษร
ที่จะยังคงภาพจินตนาการ ไม่ต่างจาก การนั่งดูละครเวทีสักนิด

H.O.P.E.
มนุษย์ หัวใจ ชีวิตและความหวัง

เราจะพาท่านเดินทางข้ามเวลาไปยังศตวรรษที่ 25
หลังสงครามโลกครั้งที่3 ในยุคแห่งความเสื่อมโทรม
ผู้คนบนโลกต่างมีชีวิตอย่างอย่างหวาดกลัว
ทุกคนล้วนแก่งแย่งชิงดี ไร้ซึ่งความรัก ไร้ซึ่งศีลธรรมในใจ

'จะมีใครบ้างไหม มาเปลี่ยนแปลง'

Tags: ramadrama รามาดราม่า hope ออกัส มีอา

ตอน: H.O.P.E.3 ก็คือเธอ ก็คือฉัน

H.O.P.E.3
ก็คือเธอ ก็คือฉัน

“แล้วนายเป็นใคร ฉันไม่เคยเห็นหน้าเลย”ออกัสไม่ชอบสีหน้าไม่เป็นมิตรที่มองเขามาแม้แต่น้อย ดวงตาคมที่กวาดขึ้นลงมองสำรวจเขาอย่างไร้มารยาททำให้เขารู้สึกไม่ค่อยพอใจชายหนุ่มตรงหน้าเสียเท่าไร น้ำเสียงถามเมื่อครู่ก็ดูไม่ค่อยอยากจะทำความรู้จักกับเขาเสียด้วย

“ออกัสเพิ่งมาทำงานแผนกฉันวันแรก เขาเป็นวิศวกรฝ่ายแมคคานิกส์น่ะ”ปีเตอร์แนะนำตัวเขาด้วยรอยยิ้มในฉบับคนที่ร่าเริงและเป็นกันเอง

“อ้อ ช่างเครื่องใหม่นี่เอง”ชายหนุ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงดูถูกขณะที่ออกัสพยายามจะปั้นสีหน้าเป็นมิตรกลับไป เขายื่นมือออกมาหวังจะทักทายแบบสากล ซึ่งชายหนุ่มก็ทำท่ายื่นมือจะมาจับมือเข้าเหมือนกันแต่ก็กลับชักออกไปอย่างรวดเร็วเหมือนรังเกียจ เขาล่ะไม่ชอบผู้ชายคนนี้เลยจริงๆ “ฉันชื่อโทมัส ฮอลตัน อยู่ตำแหน่ง energy inventor ดูแลระบบพลังงานของฮิวแมนไนท์ทั้งหมด รวมถึงพลังงานของทั้งแลปนี้ด้วย”

“คุณหมายถึงระบบพลังงานของฮิวแมนไนท์ ที่ใช้แก๊สไนโตรเจนเป็นแหล่งพลังงานน่ะเหรอ”ออกัสถามด้วยเสียงประหลาดใจ เขาเคยศึกษาเรื่องการแปลงไนโตรเจนในอากาศมาเก็บไว้ในรูปแบบพลังงานมาก่อน มันเป็นงานวิจัยที่สุดยอดมากในวงการวิศวกรรมในยุคนี้ ถึงเขาจะไม่ชอบหน้าผู้ชายคนนี้แต่ก็ต้องยอมรับว่าโทมัสคนนี้มีฝีมือเก่งไม่น้อย

“ระบบไนโตรเจน ฉันเป็นคนพัฒนามันจนได้พลังงานเกือบ100% ไม่งั้นฮิวแมนไนท์ก็ต้องคอยเติมไนโตรเจนเหมือนพวกหุ่นรุ่นเก่าๆกากๆ งานระดับนี้ช่างเครื่องอย่างนายไม่มีปัญญาทำหรอก”น้ำเสียงอวดตัวและเหยียดคนอื่นทำให้ออกัสกระตุกยิ้มขึ้นมานิดหนึ่ง คิดว่าเขาจะสู้คนไม่ได้รึไงกัน

“งั้นรอดูละกันครับ ว่าช่างเครื่องอย่างผมจะทำอะไรได้บ้าง คุณเด็กปั๊ม”

“นี่นาย!!”

“เอ่อ โทมัส เดี๋ยวฉันขอตัวพาออกัสไปดูแผนกไบโอดีไซน์ก่อนนะ”ปีเตอร์ที่เห็นท่าไม่ดีรีบออกตัวขัดขึ้นมาก่อนที่โทมัสจะถลาไปชกหน้าเด็กใหม่อย่างออกัส ถ้าขืนเกิดเรื่องขึ้นมา เขาคงจะโดนดอกเตอร์เกรย์ตำหนิไปด้วย “นายไปทำงานต่อเถอะ ต้องส่งรายงานความก้าวหน้าให้ดอกเตอร์วันนี้ไม่ใช่เหรอ”

“ห่วงงานตัวเองเถอะปีเตอร์ ฉันไปพบดอกเตอร์ดีกว่า เสียเวลกับพวกนายนานไปแล้ว”โทมัสหันก้มหน้าลงมามองปีเตอร์นิดหนึ่งเพราะความสูงที่ค่อนข้างต่างกัน ก่อนจะทำเสียงหึในลำคอและหันกลับมามองออกัสอีกครั้งพร้อมรอยย้ิมดูถูก “ยินดีที่ได้รู้จักนะ ช่างเครื่อง”

เสียงถอนหายใจของปีเตอร์ดังขึ้นเมื่อโทมัสเดินออกจากประตูไป เขาหันกลับมายิ้มแห้งๆให้ออกัส เข้าใจว่าชายหนุ่มกำลังคิดอะไรอยู่ ก่อนจะเดินนำไปทางออกอีกทางจากที่ออกัสเข้ามา

“คนในห้องแลปนี้นี่ไม่ธรรมดากันทั้งนั้นเลยนะ”ออกัสเอ่ยแซว พลางหันไปยิ้มให้กับมาริยงที่ส่งจูบมาหาเขาจากโต๊ะทำงานและอแมนด้าที่ขยิบตาให้เขาอย่างมีความหมาย ชายหนุ่มรีบเร่งฝีเท้าก็จะโดนสายตาหว่านเสน่ห์ของสองคนนั้นจู่โจมเสียก่อน

“นายอย่าไปถือสาเขาเลย โทมัสน่ะชอบข่มคนอื่นเพราะเขามีเส้นสายกับรัฐบาลน่ะ พ่อแม่เขาเป็นเจ้าของธุรกิจพลังงานให้ทุนสนับสนุนโครงการนี้ตั้งหลายร้อยล้าน”ปีเตอร์พูดขณะเอื้อมมือไปวางสแกนลายน้ิวมือที่แท่นแก้วหน้าตาล้ำสมัยที่โผล่ขึ้นมาจากพื้น “ในยุคนี้น่ะเหลือคนรวยระดับนี้อยู่ไม่กี่คน ส่วนมากถ้าไม่ล้มละลายก็ฆ่าตัวตายไปแล้ว ทางที่ดีนายอย่ามีเรื่องกับเขาเลย”

“ไม่เป็นไรฉันไม่ถือสาคนแบบนั้นหรอก”ออกัสเอ่ยพลางกวาดตามองทางเดินที่เชื่อมกับทางเดินแรกที่เขาเดินผ่านมา ประตูห้องโปรแกรมด้านนี้เปิดสู่ทางเดินด้านที่มีเทเลพอร์ตั้งอยู่ ประตูกระจกที่ปิดกั้นทางเข้าเทเลพอร์ตไว้สะท้อนภาพผนังของทางเดินแทนที่จะเป็นเงาของเขาหรือผนังในเทเลพอร์ตเหมือนจะเป็นระบบป้องกันบางอย่างที่ซ่อนเทเลพอร์ตให้พ้นจากสายตาของผู้บุกรุก

‘ติ๊ดๆ’เสียงสัญญาณเตือนเปิดระบบของเทเลพอร์ตดังขึ้น พร้อมกับประตูกระจกค่อยๆเปิดออกเผยให้เห็นความมืดภายใน “นายต้องสแกนลายน้ิวมือก่อนเข้านะ ไม่งั้นสัญญาณบุกรุกจะดังเอา”

ปีเตอร์หันกลับมามองออกัสที่เงียบไปอย่างผิดปกติ เขาเห็นออกัสหยิบกระป๋องบางอย่างมาพ่นอย่างรีบร้อน “นั่นนายทำอะไรน่ะ”

“ฉันเป็นหอบหืดน่ะ เลยต้องพกยาติดตัวไว้”ออกัสกล่าวขณะรีบเก็บกระป๋องสีขาวในมือลงในกระเป๋ากางเกง

“เฮ้ย จริงสิ เป็นหนักมากรึเปล่าเนี่ย ถ้าไม่ไหวบอกก่อนนะ”ปีเตอร์พูดเสียงตกใจอย่างเป็นห่วง

“ไม่เป็นไรๆ ฉันชินแล้วล่ะ”ออกัสบอกปัดด้วยรอยย้ิม

“งั้นเดี๋ยวฉันจะพานายไปดูส่วนสุดท้ายแล้วกัน”ปีเตอร์กล่าวก่อนจะหายเข้าไปในความมืด ออกัสจับกระป๋องสีขาวผ่านกางเกงให้มั่นใจว่าเขาเก็บมันไว้กับตัวเช่นเดิมแล้ว แล้วจึงเอื้อมมือข้างหนึ่งไปสแกนลายน้ิวมือบนแท่นกระจกตามที่เขาเคยเห็นปีเตอร์ทำและเดินเข้าสู่ความมืดภายในเทเลพอร์ต



“ถึงแล้ว ที่นี่เป็นห้องทำงานของมีอา”เสียงปีเตอร์ดังขึ้นขณะที่ออกัสต้องกระพริบตาถี่ๆเมื่อแสงไฟแยงตาทันทีที่ประตูเทเลพอร์ตเปิดออก ออกัสกวาดตามองไปรอบๆห้องที่เต็มไปด้วยตู้กระจกทรงกระบอกสูงเหนือหัวเขา ภายในบรรจุร่างของฮิวแมนไนท์ที่เหมือนกับมนุษย์ไม่มีผิด เสียงของปีเตอร์ยังคงบรรยายต่อไปขณะที่พวกเขากำลังเดินผ่านสลอทใส่ฮิวแมนไนท์หลายสิบสลอทลึกเข้าไป “เธอเป็นนักออกแบบไบโอดีไซน์คนเดียวของที่นี่ เอ๋ แต่ไม่รู้ตอนนี้หายไปไหน”

ตอนนี้พวกเขาอยู่ในพื้นที่ว่างลึกจากเทเลพอร์ตล้อมรอบด้วยสลอทฮิวแมนไนท์มากมาย ทางเดินหลายทางทอดมาบรรจบกันที่บริเวณนี้ โต๊ะกระจกกว้างวางตั้งอยู่ตรงกลางห้อง มีตู้เก็บของที่ตั้งโชว์ดีไซน์ดวงตา ผมและเล็บวางถัดออกไปไม่ไกล ตู้ว่างๆหลายตู้มีกระดาษออกแบบแปะทับกันไปมาแทบจะไม่เหลือช่องว่างให้เห็นผนังตู้เลย

“งานของเธอดูน่าสนใจดีนะ”ออกัสพูดขณะกวาดตามองบนโต๊ะทำงานที่เต็มไปด้วยภาพสเกตซ์โครงหน้าและแผ่นเฉดสีของดวงตาวางระเกะระกะ ลายเส้นที่ถูกเขียนด้วยดินสอทำให้เขารู้สึกประหลาดใจกับรสนิยมของเธอ โลกนี้มันไปถึงไหนต่อไหนแล้ว เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าทำให้กระดาษและดินสอไม้ดูเป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์ไปโดยปริยาย นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นว่าผลงานจากดินสอไม้บนแผ่นกระดาษแท้จริงแล้วเป็นเช่นไร

ออกัสเดินเข้าไปหยุดมองฮิวแมนไนท์ในสลอทใกล้ๆอย่างสนอกสนใจ ใบหน้าที่ไม่ต่างจากคนเลยแม้แต่น้อยกำลังหลับตาพร้ิมเหมือนคนกำลังนอนหลับอยู่ ฮิวแมนไนท์แต่ละตัวต่างก็มีลักษณะใบหน้าและรูปร่างต่างกันออกไป “ฉันเพิ่งเคยเห็นฮิวแมนไนท์พวกนี้เป็นครั้งแรก เหมือนคนมากจริงๆ”

“ใช่ วิทยาการที่นี่ ด็อกเตอร์เกรย์เป็นคนพัฒนาขึ้นมา หน้าที่ของนายคือการสร้างฮิวแมนไนท์พวกนี้นี่แหละ เจ้าพวกนี้น่ะเป็นแค่ตัวทดลอง”ปีเตอร์หันมาอธิบายให้ก่อนจะไปหยุดยืนมองภาพสเกตซ์ที่แปะไว้บนผนังตู้

ออกัสพยักหน้ารับก่อนจะเดินไปตามทางเดินที่อยู่ตรงข้ามกับทางที่เขาเพิ่งเดินเข้ามา เขาไล่สายตามองฮิวแมนไนท์ในสลอทเหล่านั้นอย่างสนใจก่อนที่เขาจะเดินไปเจอสลอทที่น่าสงสัยสลอทหนึ่งเขา เขาพยายามเพ่งมองเข้าไปแต่ก็พบเพียงเงาใบหน้าของเขาสะท้อนออกมาเท่านั้น “ปีเตอร์ ทำไมสลอทนี้ถึงไม่มีฮิวแมนไนท์อยู่ข้างในล่ะ”

ปีเตอร์เงยหน้าจากภาพสเกตซ์ในมือขึ้นมามองเขา ก่อนจะเดินมาหยุดยืนอยู่ใกล้ๆเขาด้วยใบหน้าเคร่งขรึมผิดจากปีเตอร์ในยามปกติ “อย่าบอกใครนะว่าฉันเล่าเรื่องนี้ให้นายฟัง”

ออกัสพยักหน้ารับขณะนิ่งฟังปีเตอร์เล่าด้วยเสียงเบาๆที่ชวนสั่นประสาท “มีเรื่องเล่าต่อๆกันมาว่าฮิวแมนไนท์หมายเลขแปดตัวนี้คือความสำเร็จขั้นสูงสุดของนักวิทยาศาสตร์รุ่นเก่า พวกเขารักมันเหมือนลูก แต่วันดีคืนดี มันเกิดบ้าคลั่งขึ้นมา ไล่ฆ่านักวิทยาศาสตร์ทุกคน..ตายหมด จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครหามันเจอเลย”

“จริงรึเนี่ย”ออกัสพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่อยากเชื่อ ฮิวแมนไนท์ที่ถูกสร้างขึ้นจากฝีมือมนุษย์จะกลับมาทำร้ายผู้สร้างมันเองทำไมกัน

“จริงสิ แต่มันก็เป็นแค่เรื่องเล่าล่ะนะ”ปีเตอร์พูดก่อนที่เสียงโทรศัพท์จะดังขึ้น เขาล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงก่อนจะหยิบมือถือเครื่องเล็กที่มีรูปร่างเป็นแผ่นกระจกใสขึ้นมามอง ก่อนใบหน้าที่มีรอยย้ิมจะเคร่งเครียดขึ้นมา เขาเดินออกห่างจากออกัสเพื่อรับสายสำคัญนั้นด้วยท่าทางเคร่งเครียด “สวัสดีครับ...”

ออกัสไม่ได้ยืนอยู่ต่อให้เพื่อนรู้สึกอึดอัดใจ เขาเดินกลับมายังส่วนที่ใช้เป็นที่ทำงานของผู้ร่วมงานที่ชื่อ ‘มีอา’ ที่เขายังไม่เห็นวี่แววของเธอเลยแม้แต่น้อย เขายืสกวาดตามองรอบๆห้องอีกครั้ง พยายามหาอะไรทำให้ตัวเองดูไม่ว่างจนเกินไป ก่อนที่สายตาจะไปสะดุดกับอวัยวะเทยมอันหนึ่งซึ่งน่าจะสร้างขึ้นเพื่อใส่ลงไปในตัวฮิวแมนไนท์ เขาเดินไปหยิบขึ้นมาถือไว้

“เออ ออกัส ฉันต้องขอตัวก่อนนะ พอดีว่าดอกเตอร์เรียกแล้วน่ะ”ปีเตอร์เดินเข้ามาและเอ่ยด้วยน้ำเสียงรีบร้อน ก่อนจะเดินออกไปอย่างเร่งรีบ ไม่สนใจสิ่งที่ออกัสจะพูดออกมา

“เดี๋ยวก...”ออกัสเอ่ยได้เพียงเท่านั้นขณะที่เพื่อนร่วมงานที่พาเขามาจะหายไปทางทิศที่เป็นเทเลพอร์ต เขาถอนหายใจเมื่อรู้สึกอึดอัดขึ้นมาเมื่อถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวในสถานที่ที่ไม่คุ้น ที่ทำงานส่วนนี้ไม่ใช่ส่วนของเขา เขาควรจะขึ้นไปพร้อมกับปีเตอร์ตั้งแต่เมื่อครู่

“นายเป็นใคร เข้ามาทำอะไรในห้องฉัน”เสียงตะโกนขึ้นของผู้หญิงคนหนึ่งทำให้ออกัสละสายตาจากทางที่ปีเตอร์เพิ่งเดินจากไปมามองผู้หญิงร่างเล็กที่กำลังใช้ใบหน้าสวยของเธอดุเขาอยู่ สายตาที่มองมาที่เขาดูไม่ไว้วางใจการมีอยู่ของเขาเลย เขาขยับสายตาจากใบหน้าเธอด้วยความอึดอัดก่อนจะสบเข้ากับแสตนด์ไม้สำหรับวาดภาพในมือเธอ หญิงสาวเงื้อมันขึ้นเมื่อเห็นว่าเขาไม่ตอบสนองอะไรกลับไป

“เอ่อ ใจเย็นก่อนนะครับ”ออกัสรีบพูดด้วยน้ำเสียงละล่ำละลักเมื่อเห็นว่าหญิงสาวมีอาวุธอยู่ในมือ อาวุธที่เขาเองยังไม่รู้ว่าจะหลบได้ทันรึเปล่า เขาค่อยๆเดินเข้าไปใกล้หญิงสาวหวังจะฉวยแสตนด์ไม้อันใหญ่นั้นมาเมื่อได้โอกาส

“หยุด นายหยุดเดี๋ยวนี้นะ”เธอเอ่ยเสียงแข็งทำให้ชายหนุ่มชะงักยืนนิ่งอยู่กับที่พร้อมกับยกมือขึ้นเหนื้อหัวเป็นเชิงยอมจำนน หารู้ไม่ว่าการทำเช่นนั้นทำให้สิ่งที่เขาถืออยู่ในมือเผยให้หญิงสาวได้เห็น เธอมองมันพร้อมสีหน้าตกใจก่อนจะหันกลับมามองหน้าเขาอีกครั้ง “แล้วนั่นนายทำอะไรกับงานของฉันน่ะ”

“เออ...ผมขอโทษครับ”ชายหนุ่มรีบเอามันมาถือประคองไว้อย่างดี ดูเหมือนว่าชิ้นงานในมือเขาตอนนี้เป็นของสำคัญสำหรับเธอมาก

“ส่งมาให้ฉันเดี๋ยวนี้ นายรู้มั้ยว่านี่คืออะไร มันเปราะบางแค่ไหน”

“คือ...ผม...”น้ำเสียงโกรธเกรี้ยวของหญิงสาวและการพูดรัวๆนั่นทำให้ออกัสคิดไม่ทันว่าควรจะตอบโต้อย่างไรดี

“มันคือหัวใจของฮิวแมนไนท์ สกินของมันพังง่ายมาก นายจะเอามาถือเล่นอย่างนี้ได้ยังไง”

“เออ ผมแค่หยิบม...”เขาพยายามจะแก้ตัว แต่ผู้หญิงตรงหน้ากลับไม่ให้โอกาสนั้นแก่เขาเลย

“นี่ นายวางมันลงเลยนะ นายคิดว่านายเป็นใคร”

“ผม...ผมขอโทษครับ”ออกัสเอ่ยขณะยื่นของในมือไปให้หญิงสาว แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อต่างฝ่ายต่างไม่ระวังทำให้ผลงานชิ้นสำคัญนั่นร่วงลงบนพื้นท่ามกลางสายตาตกใจของคนทั้งคู่

“หัวใจของฉันพังหมดแล้ว นาย...!!”หญิงสาวพูดเสียงดังอย่างไม่พอใจพยายามคิดคำต่อว่าแก่คนแปลกหน้าตรงหน้านี้

ออกัสรีบก้มลงเก็บมันขึ้นมาถือไว้พลางรีบพลิกมันไปมา สำรวจความเสียหายด้วยใบหน้าเป็นกังวลก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองใบหน้ากรุ่นโกรธของคู่สนทนา “ผมขอโทษครับ เดี๋ยวผมซ่อมให้”

“นี่ นายยังสร้างเรื่องไม่พออีกเหรอ”เธอกล่าวก่อนจะรีบวางแสตนด์ไม้ลงและรีบเดินตามออกัสที่เอาแต่เดินไปมาพลางหยิบอุปกรณ์ต่างๆรอบห้องมาซ่อมหัวใจเทียมในมืออย่างตั้งอกตั้งใจ เธอพยายามที่จะเข้าถึงชายหนุ่มเพื่อเอางานของเธอคืนมา“งานนี้มันละเอียดอ่อนมาก กว่าจะสร้างเสร็จต้องใช้เวลานานแค่ไหน นายรู้บ้างมั้ย ถ้า...”

“ผมซ่อมเสร็จแล้วครับ”ออกัสพูดแทรกขึ้นมาพร้อมกับหันมาหาหญิงสาวอย่างรวดเร็ว พลันทำให้คนที่เดินตามมาอย่างรีบร้อนหัวกระแทกเข้าไปเต็มๆชิ้นงานในมือของเขา เขารีบลดมือลงและก้มมองศรีษะของเธออย่างกังวล

หญิงสาวเหลือบสายตามองเขาอย่างไม่พอใจก่อนจะดันตัวเขาออก ไม่สนใจรอยแดงบนหัวและหยิบผลงานชิ้นสำคัญของเธอมาสำรวจ หัวใจเทียมดูสมบูรณ์แบบเฉกเช่นเดิมและดูเหมือนจะดีขึ้นกว่าที่เธอทำไว้อีกด้วยซ้ำ เธอเงยหน้ามองคนที่มีความสามารถด้วยสายตาไม่อยากเชื่อ “นี่... นายทำได้ยังไง”

“ผมเคยศึกษาเรื่องนี้มาก่อนน่ะครับ แต่ฝีมือยังไม่ค่อยดีนะ คุณเช็คอีกทีดีกว่าครับ”ออกัสพูดพลางเหลือบมองหัวใจเทียมในมือของหญิงสาว เขามองตามเธอเดินไปวางมันลงอย่างทะนุถนอมในตู้กระจก เขามองเห็นจังหวะดีที่จะได้แนะนำตัวอย่างเป็นทางการกับเพื่อนร่วมงานคนนี้เสียที“เออ... ผมชื่อออกัสนะครับ เป็นวิศวกรคนใหม่ที่นี่”

“อ้อ นายเองน่ะเหรอ เด็กใหม่”น้ำเสียงของเธอดูอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัดและคำว่า ‘เด็กใหม่’ นั่นก็ให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากที่เขาได้ยินจากผู้ร่วมงานหลายๆคนที่เขาเพิ่งทำความรู้จักมา ฟังดูเป็นมิตรและประสงค์ดีมากกว่า หรือบางทีอาจเป็นเพราะเสียงจริงๆของเธอแบบที่ไม่ผสมความโกรธเข้าไป ฟังดูอ่อนโยนก็ไม่รู้ “ฉันมีอานะ เมื่อกี้ฉันขอโทษที ฉันตกใจไปหน่อย”

“คุณทำงานบนชั้นนี้คนเดียวเลยเหรอครับ”เขาถามพลางมองไปรอบๆอย่างประหม่า

“งานไบโอดีไซน์ของฉันต้องใช้สมาธิน่ะ ดอกเตอร์เลยให้ฉันใช้ห้องที่เป็นส่วนตัว ฉันทำงานออกแบบสิ่งมีชีวิต ต้องตกแต่งฮิวแมนไนท์ให้เหมือนจริงมากที่สุด”มีอากล่าวพลางเก็บของบนโต๊ะให้เข้าที่เข้าทางไม่ให้เพื่อนร่วมงานคนใหม่เห็นความไม่เป็นระเบียบของเธอ

“เหมือนงานศิลปะเลยนะครับ”ออกัสชวนคุยต่อ

“ก็ไม่เชิงนะ งานฉันไม่ได้เกี่ยวกับความสวยงามหรอก แต่เกี่ยวกับความสมจริงมากกว่า ฉันต้องออกแบบผิวหนัง ผม เล็บ ลูกตาของฮิวแมนไนท์”เธอเงยหน้าขึ้นมาเอ่ยด้วยรอยย้ิม

ออกัสยิ้มตอบอย่างเขินๆก่อนจะเดินหลบไปยืนหน้าตู้กระจกไม่ให้เกะกะการเก็บของของหญิงสาว สายตาพลันสบเข้ากับอวัยวะเทียมที่เมื่อครู่เขาเกือบจะทำมันพังไป“แล้วหัวใจนี่ละครับ”

“มันก็แค่ภาชนะบรรจุระบบคำสั่งพื้นฐานของฮิวแมนไนท์อยู่ ไม่ว่าหุ่นรุ่นเก่ารุ่นใหม่ก็ต้องมีระบบนี่ ฉันเลยอยากออกแบบให้มันเหมือนหัวใจมากที่สุดสมกับความสำคัญของมัน”มีอากล่าวก่อนจะเดินมาหยุดยืนมองหัวใจเทียมผลงานชิ้นเอกของเธอใกล้ๆกับที่ออกัสยืนหลบอยู่ เธอมองชิ้นงานตรงหน้าอย่างภูมิใจก่อนจะหลุบตาลง “แต่ที่จริง ฮิวแมนไนท์ไม่จำเป็นต้องมีหัวใจอยู่แล้ว”

“บางทีฮิวแมนไนท์อาจจะอยากมีหัวใจก็ได้นะครับ”มีอาเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนร่วมงานคนใหม่ที่พูดจาแปลกๆอย่างไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร และเธอก็ได้เพียงรอยย้ิมอบอุ่นตอบมาจากชายหนุ่มเท่านั้น


..... ..... ..... ........... ..... ...... .....
......................... ..... ..... ..... ..... ...... ..... .....
..... ..... ..... ............... ..... ..... ...............
..... ..... ..... ..... ..... ..... ..... .....
..... ..... ..... ..... ........... ..... ..... .....



งานของใคร ใครก็รัก ใครก็หวงกันทั้งนั้นแหละ
ขนาดไมย่ายังเป็นเลย ><
มีอาแอบดุไปหน่อย555
แต่ก็...งานที่ทำมากับมือเนอะ
ใครทำพังก็แย่เลย

ไม่รู้ว่าจะมีรีดเดอร์สงสัยเรื่องชื่อบทรึเปล่า
อาจจะไม่ทันได้สังเกตกัน
แต่ว่าไมย่าอยากบอก ...555
ชื่อบทแต่ละบทล้วนเอามาจากเนื้อเพลงในละครนะเจ้าคะ
จะบอกว่าสิ้นคิดไม่รู้จะตั้งชื่อบทยังไงก็คงได้

ไม่มีเรื่องคุยจริงๆวันนี้
เลยต้องเอาเรื่องชื่อบทมาคุย 555
รีดเดอร์อย่าได้สนใจคนเหงา

ดูมึนๆงงๆเนอะวันนี้ TT

ปล.เรื่องนี้อัพทุกวันเสาร์นะเจ้าคะ^^

เรื่องนี้เป็นผลงานเรื่องที่สองของไมย่าแล้วนะเจ้าคะ
ใครที่ยังไม่เคยอ่านผลงานเรื่องแรก ก็เข้าไปดูได้นะเจ้าคะ
แต่งจบแล้ว!! อิอิ

สายลมหวน พัดใบเรือ โบกสะบัด
เกลียวคลื่นซัด เรือใหญ่ ให้หันเห
เรือลำน้อย ลอยล่อง กลางทะเล
ปล่อยให้เว- ลากาล จะพาไป

Araivia
อาราไอเวีย ขุมทรัพย์วิวาห์เงือก

ค้นหาคำตอบความลับแห่งท้องทะเล
ท่านพร้อมแล้วหรือยัง?
ที่จะได้รับรู้เรื่องราวบนโลกที่ท่านไม่เคยรู้จัก

ปล.ถ้าคุณคิดจะโดยสารไปกับลูนาราร์เธีย โปรดระวังกัปตันเรือ!!!







อย่าลืม ติ ชม วิจารณ์ อย่างสุภาพด้วยนะคะ
ใครเจอคำผิดก็เม้นท์มาบอกกันได้ตลอดค่ะ
แอดเฟรนด์กันมาได้เยอะๆนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามคะ ^^
twitter @MaiyaCorprisia
เฟส Maiya Corprisia
อีเมล Fairytale_maiyares@hotmail.com
เพจ Writer Maiya



MaiYA
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 ก.ย. 2558, 22:58:27 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 12 ก.ย. 2558, 22:58:27 น.

จำนวนการเข้าชม : 800





<< H.O.P.E.2 คือพวกเราในที่แห่งนี้มาร่วมมือ   H.O.P.E.4 ความสงสัยที่ปะทุขึ้นมา >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account