H.O.P.E.

จาก 'บทละคร' สู่ 'งานเขียน'

ผลงานละครเวทีเรื่องแรกของไมย่าร่วมกับเพื่อนนักเขียนอีก 7 ชีวิต
จะถ่ายทอดออกมาผ่านตัวอักษร
ที่จะยังคงภาพจินตนาการ ไม่ต่างจาก การนั่งดูละครเวทีสักนิด

H.O.P.E.
มนุษย์ หัวใจ ชีวิตและความหวัง

เราจะพาท่านเดินทางข้ามเวลาไปยังศตวรรษที่ 25
หลังสงครามโลกครั้งที่3 ในยุคแห่งความเสื่อมโทรม
ผู้คนบนโลกต่างมีชีวิตอย่างอย่างหวาดกลัว
ทุกคนล้วนแก่งแย่งชิงดี ไร้ซึ่งความรัก ไร้ซึ่งศีลธรรมในใจ

'จะมีใครบ้างไหม มาเปลี่ยนแปลง'

Tags: ramadrama รามาดราม่า hope ออกัส มีอา

ตอน: H.O.P.E.4 ความสงสัยที่ปะทุขึ้นมา

H.O.P.E.4
ความสงสัยที่ปะทุขึ้นมา

‘ติ๊ดๆ’เสียงระบบป้องกันความปลอดภัยตอบรับลายนิ้วมือและม่านดวงตาของปีเตอร์ดังขึ้น ก่อนประตูสีขาวตรงหน้าจะเลื่อนเปิดออกเผยให้เห็นห้องโถงกว้างที่มีโครงฮิวแมนไนท์วางอยู่สองสามตัวตรงกลางห้อง โต๊ะกระจกกว้างสองตัววางไว้อยู่คนละมุมห้อง ออกัสมองสำรวจห้องอยู่สักพักก่อนที่เสียงของปีเตอร์จะดังขึ้น “และนี่เป็นส่วนสุดท้ายที่ฉันจะแนะนำนาย ห้องนี้คือห้องสำหรับต่อโครงสร้างฮิวแมนไนท์ก่อนที่จะส่งมันไปให้มีอาทำสกินและปรับแต่งให้มีรูปร่างภายนอกเหมือนมนุษย์ และที่นี่แหละ คือห้องทำงานของพวกเรา”

“นั่นเป็นโต๊ะทำงานของนาย”ออกัสมองตามมือที่ชี้ไปของปีเตอร์ โต๊ะขนาดใหญ่ตรงหน้ามีชิ้นโลหะหลากหลายขนาดวางอย่างไม่เป็นระเบียบ บางชิ้นก็ถูกหลอมให้เป็นรูปเป็นร่างชิ้นส่วนฮิวแมนไนท์ บางชิ้นก็เป็นเพียงชิ้นโลหะที่วางรอเขามาทำให้มันกลายเป็นสิ่งสำคัญ เขาเดินไปใกล้ๆโต๊ะมองสำรวจใกล้ๆ มีเก้าอี้หมุนไร้พนักวางอยู่ใกล้ๆซึ่งเขาก็ไม่คิดว่ามันจะได้ใช้เท่าไรเพราะเขาถนัดยืนทำงานเสียมากกว่า “และงานของนายก็คือการประกอบโครงสร้างของฮิวแมนไนท์ขึ้นมา งานหนักหน่อยนะเพราะนายต้องทำทุกกระบวนการเองทั้งหมดเลย”

“ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ฉันเคยฝึกงานแบบนี้มาก่อนบ้างแล้ว”ออกัสตอบ

“เฮ้อ ทำงานคนเดียวนี่เหนื่อยชะมัดเลย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดีแหละนะ”ปีเตอร์พูดด้วยน้ำเสียงถอนใจ

“ที่จริงรัฐบาลน่าจะรับคนเข้ามาช่วยเป็นลูกมือแผนกละคนสองคนบ้างนะ”ออกัสเสนอความคิดตัวเองออกไป “ถึงจะเป็นโครงการลับก็เถอะ แต่เราก็ไม่ได้กำลังทำสิ่งไม่ดีที่ไม่ให้คนนอกรู้ไม่ได้นี่”

“นั่นสินะ”ปีเตอร์ตอบเสียงงึมงำเหมือนกำลังคิดตามคำพูดของออกัส “เรื่องนั้นดอกเตอร์เกรย์คงกำลังดำเนินการบางอย่างอยู่ ถ้าไม่มีอะไรแล้วงั้นฉันไปทำงานก่อนนะ”

“เออ ฉันถามอะไรนายหน่อยได้มั้ย”เขาเรียกขณะปีเตอร์กำลังจะเดินกลับไปยังโต๊ะต่อวงจรไฟฟ้าของเขาที่อยู่อีกมุมหนึ่งของห้อง ปีเตอร์หยุดก่อนจะหันมามองเขาด้วยรอยย้ิม “คนที่เขาทำงานตำแหน่งนี้ก่อนหน้าฉัน เขาลาออกทำไมหรอ”

“เรื่องนั้น...”ปีเตอร์ทำท่าหยุดคิดสักครู่ก่อนจะคลี่ยิ้มเช่นเดิม “เห็นว่าจะกลับไปเลี้ยงหลานน่ะ ลูกสาวมิสเตอร์ฟินลีย์เพิ่งคลอดลูกชายเมื่อสองสามเดือนก่อน แล้วพอดีปีหน้าก็ถึงเวลาเกษียณแล้ว เขาเลยขอเกษียณก่อนกำหนดน่ะ นายถามทำไมหรอ”

“แค่สงสัยน่ะ ปกติโครงการลับๆอย่างนี้ ไม่ค่อยได้เปิดโอกาสรับคนบ่อยๆ ฉันโชคดีจริงๆที่สมัครเข้ามาได้ตรงจังหวะพอดี”ออกัสพูดพลางยิ้มให้กับตัวเอง

“ใช่ นายโชคดีจริงๆนั่นแหละ”ปีเตอร์พูดด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ ท่าทางของเพื่อนร่วมงานคนใหม่ทำให้เขารู้ว่าออกัสฝันอยากเข้ามาทำงานที่นี่มากเพียงใด แต่เขาก็ไม่ค่อยแปลกใจเท่าไร เพราะโครงการนี้เป็นโครงการสำคัญและใหญ่ที่สุดของรัฐบาลในขณะนี้ ใครๆต่างก็อยากจะเข้ามาทำงานเพื่อยกระดับตัวเอง หนีพ้นจากสภาพเลวร้ายข้างนอกนั่นทั้งนั้นแหละ

“นายไปทำงานต่อเถอะ ฉันรบกวนเวลาทำงานนายมาตั้งแต่เช้าแล้ว”ออกัสพูดกับปีเตอร์ เขามองตามหลังปีเตอร์ครู่หนึ่งก่อนจะเดินกลับมาทำงานที่โต๊ะทำงานของเขาเอง ชายหนุ่มหยุดยืนอยู่หลังโต๊ะ เขาเริ่มลงมือจัดการชิ้นโลหะที่วางระเกะระกะบนโต๊ะ แยกชิ้นส่วนแต่ละอันไว้เป็นหมวดหมู่ ก่อนจะจัดการเคลียร์พื้นที่ตรงกลางของโต๊ะไว้เป็นพื้นที่ทำงานและเก็บเศษชิ้นโลหะที่ยังไม่น่าจะได้ใช้ ลงลิ้นชักขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ

เขาเลื่อนเปิดลิ้นชักยาวที่อยู่เหนือขึ้นไปเพื่อสำรวจที่เก็บอุปกรณ์ เครื่องมือยุคก่อนสงครามยังคงเป็นที่นิยมกันในการประกอบเชื่อมโลหะรวมถึงงานวิศวกรรมอื่นๆ เนื่องด้วยสงครามได้ทำลายวิทยาการหลายอย่างของมนุษย์ไป ยุคสมัยที่ดำมืดไม่เปิดโอกาสให้มนุษย์สนใจที่จะพัฒนาวิทยาการในด้านต่างๆ รวมทั้งศิลปะและวัฒนธรรมต่างๆก็ยังคงย่ำอยู่กับที่ไม่ต่างจากเมื่อร้อยปีก่อน

ออกัสขยับตัวไปทางอีกฟากหนึ่งของโต๊ะก่อนจะคลำหาปุ่มเปิดคอมพิวเตอร์ที่น่าจะอยู่ใต้โต๊ะ เขาคลำเจอปุ่มเล็กๆที่น่าจะเป็นปุ่มเปิดคอมพิวเตอร์โต๊ะเขียนแบบ โดยปกติแล้วโต๊ะกระจกขนาดใหญ่เช่นนี้มักถูกออกแบบให้วิศวกรอย่างเขาใช้ ขนาดของมันถูกออกแบบเพื่อสนองความต้องการในการใช้พื้นที่ประกอบสิ่งต่างๆ ในขณะที่พื้นโต๊ะเองก็มักจะถูกดีไซน์ให้สามารถเปลี่ยนเป็นหน้าจอคอมพิวเตอร์ได้ให้ผู้ใช้สามารถเขียนแบบหรือร่างโครงสร้างต่างๆได้สะดวก

พื้นโต๊ะสว่างวาบขึ้นมาก่อนจะหรี่แสงปรับตามสภาพแสงในห้อง คอมพิวเตอร์เครื่องนี้น่าจะเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดเพราะมันสามารถรับรู้พื้นที่ว่างที่เขาเพิ่งเคลียร์ออกได้ รุ่นที่เขาเคยใช้ตอนฝึกงาน เขายังต้องคอยลากเขตแสดงหน้าจอเองอยู่เลย หน้าจอที่ขึ้นมาเป็นรูปชายหนุ่มคนหนึ่งถ่ายรูปกับครอบครัวซึ่งประกอบด้วยภรรยาและลูกสาวทำให้เขาหยุดมือที่กำลังจะเอื้อมไปแตะ สีภาพและความละเอียดทำให้เขาเดาได้ว่ามันเป็นรูปที่ค่อนข้างเก่าหลายสิบปีแล้ว ชายหนุ่มในรูปนั่นน่าจะเป็นมิสเตอร์ฟินลีย์ที่ปีเตอร์เพิ่งพูดถึงเมื่อครู่

ออกัสลากมือไปตามพื้นโต๊ะอย่างคล่องแคล่ว เขากำลังสำรวจดูว่ามิสเตอร์ฟินลีย์ได้ทิ้งไฟล์ข้อมูลอะไรไว้บ้าง เผื่อว่าเขาจะนำข้อมูลพวกนั้นไปพัฒนาต่อ การทำงานของเขาจะได้ไม่ต้องเริ่มจากศูนย์เสียทีเดียว คิ้วเข้มของออกัสค่อยๆขมวดเข้าหากัน ขณะที่ชายหนุ่มลากมือไปตามพื้นโต๊ะอย่างรีบร้อนเหมือนกำลังมองหาอะไรบางอย่างอยู่ เวลาผ่านไปพอสมควรชายหนุ่มก็หยุดมือลงและลากมือกลับเข้าตัวส่งผลให้หน้าจอกลับมาเป็นรูปครอบครัวของมิสเตอร์ฟินลีย์อีกครั้ง

ชายหนุ่มยืนเท้ามือลงบนโต๊ะ สายตาไม่ได้ละไปจากหน้าจอตรงหน้า เขาจ้องมองไปยังใบหน้ายิ้มแย้มของมิสเตอร์ฟินลีย์สมัยหนุ่มเหมือนต้องการจะหาคำตอบบางอย่าง เขาไม่คิดว่าคนที่มีรอยย้ิมสดใสเช่นนั้นจะเป็นคนที่หวงผลงานมากจนแม้ตัวเองลาออกไปแล้วก็ยังลบข้อมูลทั้งหมดที่ทำวิจัยมาตลอดหลายปี หรือต่อให้รอยย้ิมในภาพนั่นเป็นเพียงแค่การเสแสร้งและแท้จริงแล้วมิสเตอร์ฟินลีย์ไม่ใช่คนใจดี แต่อย่างน้อยคนที่เข้ามาทำงานในโครงการนี้ต่างก็มีจุดประสงค์ที่ดี อย่างไรเสียก็น่าจะอยากให้โครงการนี้สำเร็จได้อย่างรวดเร็วสิ

แต่ทำไม...เขาถึงไม่เจอไฟล์อะไรเลยในคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ เหมือนกับว่ามันเป็นคอมพิวเตอร์ที่เพิ่งขนมาจากโรงงานอย่างไรอย่างนั้น

หรือว่า...

“ปีเตอร์”ออกัสตัดสินใจตะโกนเรียกเพื่อนร่วมงานข้ามห้อง หลังจากยืนชั่งใจอยู่่นานสองนาน ปีเตอร์เงยใบหน้าคร่ำเครียดขึ้นมามองเขาก่อนจะปรับสีหน้าให้เห็นรอยยิ้มสดใสสมตัว “มิสเตอร์ฟินลีย์เขา.. เข้ามาทำงานได้กี่ปีแล้วหรอ”

“เขาเข้ามาก่อนฉันปีหนีึ่ง อืม... ก็น่าจะสักสามปีละมั้ง”

“สามปีงั้นหรอ ..ยิ่งน่าแปลก”ออกัสพูดกับตัวเองอย่างคนใช้ความคิด

“นายดูสนใจเรื่องของมิสเตอร์ฟินลีย์มากนะ”ปีเตอร์พูดขึ้นอย่างสงสัย เขาไม่ได้ยินสิ่งที่ออกัสพึมพำเมื่อครู่เลยไม่รู้ว่าตอนนี้เพื่อนของเขากำลังคิดอะไรอยู่

“ฉันแค่สงสัยว่าทำไมถึงไม่มีไฟล์ข้อมูลเกี่ยวกับฮิวแมนไนท์ในเครื่องนี้เลย ที่ฉันเห็นก็มีแค่โปรแกรมวิศวกรรม ไม่มีอะไรที่บอกว่าเคยมีคนใช้งานมันด้วยซ้ำ”ออกัสเอ่ยอย่างครุ่นคิด

“ไม่แน่ว่าตอนที่มิสเตอร์ฟินลีย์ออกไปอาจจะลบไฟล์งานของเขาทิ้งหมดเลยก็ได้ นายก็รู้ว่าคนที่เข้ามาทำงานในโครงการนี้ได้แต่ละคนต้องเป็นหนึ่งในด้านนั้นแค่ไหน คนเก่งๆอย่างพวกเราก็มีหลายคนที่หวงผลงานตัวเองยิ่งกว่าอะไรดี”ปีเตอร์เอ่ยอ้างเหตุผลหวังปลอบใจไม่ให้ออกัสคิดมากจนเกินไป

“ก็จริงอย่างที่นายว่า”ชายหนุ่มเอ่ยตัดปัญหา ไม่อยากให้เพื่อนของเขาต้องมาคิดมากตามไปด้วย เขาได้แต่เก็บความสงสัยไว้

“เอาอย่างนี้มั้ยล่ะ ถ้านายกลัวว่าจะทำงานต่อไม่ได้ ก็ลองไปถามดอกเตอร์เกรย์ดู ดอกเตอร์อาจจะเก็บไฟล์พวกนั้นไว้ในคอมฯของเขาก็ได้”ปีเตอร์เสนอทางออกให้ “แต่วันนี้เหมือนว่าดอกเตอร์จะไปทำธุระข้างนอกนะ”

“ไม่เป็นไรหรอก ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนอะไร เรื่องทำงานต่อไม่ได้น่ะ ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ฉันพอจะศึกษาแนวทางการต่อฮิวแมนไนท์ได้จากแบบที่เคยมีอยู่ ไม่น่าจะใช้เวลานาน”ออกัสมีความจำที่ดีและการเรียนรู้ที่รวดเร็ว คุณสมบัติสองข้อนี้นี่เองที่ทำให้เขาก้าวรุดเป็นหนึ่งในสาขาแมคคานิกส์ได้ไม่ยากเย็น ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมถึงไม่มีไฟล์อะไรที่เกี่ยวข้องกับดอกเตอร์ฟินลีย์เหลืออยู่ในคอมพิวเตอร์เลย เขาอาจจะไปลองถามกับดอกเตอร์เกรย์ดูก่อน เขายังรู้สึกทะแม่งๆกับการลบไฟล์พวกนั้นออกจากคอมพิวเตอร์ที่ใช้ทำงานทั้งที่รู้ว่าจะมีคนเข้ามาแทนตำแหน่งนี้ รวมไปถึงเรื่องที่ว่า...

ไม่มีไฟล์ใดที่บ่งบอกการ’เคย’มีอยู่ของดอกเตอร์ฟินลีย์เลย ยกเว้น...ภาพบนหน้าจอนั่น



‘ติ๊ด’เสียงระบบความปลอดภัยประจำห้องดังขึ้นเบาๆก่อนที่ประตูจะเลื่อนเปิดออก เสียงรองเท้าหนังกระทบกับพื้นกระจกดังขึ้นเรื่อยๆจนหยุดลง เบื้องหน้าคือโต๊ะยาวโล่งที่วางขวางไว้ เก้าอี้หนังสีดำข้างหลังโต๊ะถูกจับจองด้วยชายสูงวัยคนหนึ่ง ผมสีขาวโพลนโผล่พ้นพนักเก้าอี้มาเล็กน้อย ดอกเตอร์เกรย์ยืนนิ่งอยู่ด้วยท่าทีเกรงขามขณะที่ชายผู้นั้นค่อยๆหมุนเก้าอี้หันกลับมาเผชิญหน้ากับเขา

“ดอกเตอร์ คุณมาสายนะ”ชายชราเอ่ย ใบหน้าเหี่ยวย่นเพียงแย้มรอยยิ้มให้ขัดกับน้ำเสียงที่แข็งกร้าวและแฝงความไม่พอใจ

“ขอโทษครับท่าน ผมติดสั่งงานลูกน้องอยู่”ดอกเตอร์เกรย์ก้มหน้าลงเล็กน้อยแสดงความรู้สึกผิด

“น่าแปลกนะดอกเตอร์ พวกคุณทำงานกันหนักขนาดนี้ ทำไมถึงยังพัฒนาฮิวแมนไนท์ให้สำเร็จไม่ได้สักที”ชายสูงวัยเอ่ย เขายกรอยยิ้มเยาะขึ้นเล็กน้อยขณะพูดต่อ “ดอกเตอร์บิล มอนต์โกเมอรี่ ยังใช้เวลาแค่สองปี ในการสร้างฮิวแมนไนท์หมายเลข8 แต่นี่ก็เกือบ10ปีแล้ว คุณยังให้พวกเราได้แค่เศษเหล็กอย่างงั้นหรอ”

“ถ้าท่านพอมีความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์อยู่บ้าง ท่านก็น่าจะรู้ว่ามันไม่ได้ง่ายอย่างที่ท่านคิด”ดอกเตอร์เกรย์เอ่ยย้อน เขาไม่ได้สบตาชายสูงฐานะกว่าตรงๆ แต่ก็ไม่ได้ก้มหน้าให้อย่างอ่อนน้อมเช่นกัน

เสียงหัวเราะดังขึ้นอย่างบ้าคลั่ง น้ำเสียงที่ฟังดูเย้ยหยันต่อคำพูดนั้นเสียมากกว่าทำให้ดอกเตอร์เกรย์เผลอกำมือแน่นอย่างไม่พอใจ ชายชรายังคงเอ่ยต่อด้วยรอยยิ้ม “ผมไม่สนหรอกว่าคุณจะทำงานกันยังไง ผมสนแค่ผลลัพธ์เท่านั้น ถ้าคุณยังไม่สามารถผลิตหุ่นให้ผมได้ คุณคงรู้นะว่าจะเจอกับอะไร”

“แล้วท่านจะทำอะไรได้ล่ะครับ ท่านก็รู้ว่าขาดผมไม่ได้”ดอกเตอร์เกรย์เชิดหน้าขึ้นอย่างถือดี เขาเป็นผู้คุมบังเหียนโครงการนี้ และด้วยความสามารถระดับเขา เขาไม่เชื่อว่ารัฐบาลจะสามารถหาใครมาแทนที่เขาได้ ตำแหน่งหัวหน้าแลปที่เป็นอยู่ตอนนี้ ไม่ได้มาจากแค่การเลียแข้งเลียขาใคร แต่ต้องใช้ฝีมือและมันสมองแลกมาทั้งนั้น

“คุณคงอยู่ในห้องแลปมานานเกินไป ดอกเตอร์ จนลืมไปแล้วว่าคุณเป็นใคร.. ผมจะเตือนสติคุณให้เอง”ชายชรากล่าวพลางหันไปพยักหน้าให้กับชายร่างใหญ่สองคนที่ดอกเตอร์เกรย์เพิ่งเห็นว่าเขายืนคุมเชิงอยู่ไม่ไกลจากโต๊ะเท่าไร ยังไม่ทันที่ดอกเตอร์เกรย์จะได้ทำอะไร ชายร่างบึกบึนสองคนนั้นก็เข้ามาล็อกตัวเขาไว้จากด้านหลัง

“ปล่อยผม นี่คุณจะทำอะไรน่ะ”ดอกเตอร์เกรย์พยายามสะบัดตัวให้หลุดจากการจับกุมซึ่งด้วยวัยและความแข็งแรงของเขาแล้วไม่มีทางต้านทานชายหนุ่มร่างกำยำสองคนนี้ได้เลย

“ก็เตือนสติคุณอยู่ไงล่ะ ดอกเตอร์”พูดจบการ์ดคนหนึ่งก็ยกปืนขึ้นจ่อหัวเขาไว้ ดอกเตอร์เกรย์เริ่มมีท่าทีลนลานและหวาดกลัวมากขึ้น เรียกรอยย้ิมให้ปรากฏบนใบหน้าของผู้ออกคำสั่งได้เป็นอย่างดี “คุณพอจะเข้าใจสถานะของตัวคุณมากขึ้นรึยัง”

“ผมเข้าใจแล้ว... ผมเข้าใจแล้วครับ ผมจะเร่งงานให้เร็วที่สุดครับ”ดอกเตอร์เกรย์ตอบกลับอย่างลุกลน แม้เขาจะรู้สึกว่าถูกบังคับให้ตอบไปเช่นนั้น แต่ชีวิตของเขาสำคัญกว่าจะมาทำตัวดื้อด้านขัดหูขัดตา ‘ท่าน’ได้

“ผมจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง เร่งทำงานให้เสร็จก่อนที่ผมจะถึงขีดจำกัดของคำว่า รอ”

“ครับ”ดอกเตอร์เกรย์รวบรวมสติเอ่ยตอบรับไปเสียงแข็ง เขาก้มหน้าไม่กล้าเงยขึ้นสบตาชายชราตรงๆ ชายชราพยักหน้าเป็นสัญญาณให้การ์ดทั้งสองคนปล่อยตัวผู้อยู่ใต้คำสั่งของเขา ส่งผลให้ดอกเตอร์เกรย์หงายหลังลงไปนั่งกับพื้นอย่างหวาดกลัว เขายังรู้สึกว่าขาทั้งสองข้างของเขายังสั่นไม่หาย เขานั่งอยู่ตรงนั้นจนได้ยินเสียงเก้าอี้เลื่อนออกและเสียงเท้ากระทบพื้นกระจกใกล้เข้ามาก่อนจะค่อยๆไกลออกไป

เมื่อเสียงประตูปิดลงดอกเตอร์เกรย์ก็เผลอกำหมัดขึ้นมาอย่างเผลอตัว ...เขาเกลียดการเป็นเบี้ยล่างอย่างนี้ชะมัด


..... ..... ..... ........... ..... ...... .....
......................... ..... ..... ..... ..... ...... ..... .....
..... ..... ..... ............... ..... ..... ...............
..... ..... ..... ..... ..... ..... ..... .....
..... ..... ..... ..... ........... ..... ..... .....



วันแรกของการทำงานก็เหมือนจะมีอะไรแล้ว
นี่ถ้าอยู่ในห้องแลปนี้ต่อไป
ก็ไม่รู้ว่าจะมีอะไรอีกเนอะ

คือ..นี่ไมย่ากลับมาอัพไม่ตรงเวลาอีกแล้วสินะ TT
อาทิตย์ที่แล้วที่แจ้งไปในเพจว่าจะมาอัพวันอาทิตย์
เรื่องมันมีอยู่ว่า จู่ๆไมย่าก็ปวดท้องอย่างรุนแรง
ไม่มีแรงทำอะไรเลย ก็เลยไม่ได้ปั่นต่อ
วันจันทร์ก็ไปหาหมอแล้วก็พบว่า
เป็นโรคกระเพาะเจ้าค่า~

นอนหิวระบมท้องไปหลายวัน
จะกินก็กินไม่ค่อยลง TT
เลยตั้งปณิธานกับตัวเองว่าต่อไปจะไม่อดมื้อกินมื้อแล้ว

บทนี้เป็นบทที่ไมย่าแต่งขึ้นมาเองล้วนๆ
เนื่องด้วยรู้สึกอยากให้มันเป็นนิยายมากขึ้น
ก็เลยเติมนู่นเติมนี่เข้ามา
ใครที่อ่านแล้วรู้สึกไม่คุ้นก็ นั่นแหละ ไมย่าแต่งเพิ่มเอง

ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะ
บอกไว้ก่อนเลยว่าจะเจอเซอร์ไพรส์แบบนี้อีกแน่นอน><

ปล.เรื่องนี้อัพทุกวันเสาร์นะเจ้าคะ^^

เรื่องนี้เป็นผลงานเรื่องที่สองของไมย่าแล้วนะเจ้าคะ
ใครที่ยังไม่เคยอ่านผลงานเรื่องแรก ก็เข้าไปดูได้นะเจ้าคะ
แต่งจบแล้ว!! อิอิ

สายลมหวน พัดใบเรือ โบกสะบัด
เกลียวคลื่นซัด เรือใหญ่ ให้หันเห
เรือลำน้อย ลอยล่อง กลางทะเล
ปล่อยให้เว- ลากาล จะพาไป

Araivia
อาราไอเวีย ขุมทรัพย์วิวาห์เงือก

ค้นหาคำตอบความลับแห่งท้องทะเล
ท่านพร้อมแล้วหรือยัง?
ที่จะได้รับรู้เรื่องราวบนโลกที่ท่านไม่เคยรู้จัก

ปล.ถ้าคุณคิดจะโดยสารไปกับลูนาราร์เธีย โปรดระวังกัปตันเรือ!!!


อย่าลืม ติ ชม วิจารณ์ อย่างสุภาพด้วยนะคะ
ใครเจอคำผิดก็เม้นท์มาบอกกันได้ตลอดค่ะ
แอดเฟรนด์กันมาได้เยอะๆนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามคะ ^^
twitter @MaiyaCorprisia
เฟส Maiya Corprisia
อีเมล Fairytale_maiyares@hotmail.com
เพจ Writer Maiya



MaiYA
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 29 ก.ย. 2558, 19:08:57 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 29 ก.ย. 2558, 19:08:57 น.

จำนวนการเข้าชม : 824





<< H.O.P.E.3 ก็คือเธอ ก็คือฉัน   
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account