Love & Rock
นิยายภาคต่อของลูกหลานเฮียพาย จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเด็กๆ เข้าสู่วัยรุ่นและเริ่มผจญภัยในแบบของพวกเขา ภาคนี้เกี่ยวเนื่องกับมิคาเอล ไพร์ด อิคารัสและเฮเลน แต่ก็จะมีเหตุการณืหลายอย่างเกิดขึ้น และแน่นอนว่ายาวแน่ เพราะตัวละครหลักและรองเยอะเหลือเกินค่ะ
Tags: พาย

ตอน: ตอนที่ 1

Love & Rock ตอนที่ 1

เด็กสาวอายุสิบสามขวบกำลังซุกตัวร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่ม เมื่อถึงเวลาที่ต้องไปโรงเรียน เมื่อเธอไม่อยากไป ทำให้เด็กหนุ่มวัยสิบเจ็ดหน้าตาคมคายอีกคน ที่กำลังเคาะประตูหงุดหงิดอย่างมาก เพราะต้องโดนเรียกตัวมา เพื่อให้มาช่วยจัดการเรื่องน้องสาว

“เปิดประตูแล้วออกมาได้แล้ว ยัยอิซซี่ เมื่อวานพี่ว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะ” อิคารัสทุบประตูแรงๆ เรียกน้องสาวให้ออกมาจากห้อง

“ไม่ อย่ามายุ่งกับเค้านะ” เสียงตะโกนดังออกมาจากในห้อง แล้วก็ร้องไห้ต่อ เพราะรู้ว่าพี่ชายจะพูดอะไรบ้าง

“ยัยเด็กขี้แย ออกมาเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นจะพังประตูเข้าไป แค่ไปโรงเรียนจะอะไรหนักหนา” อิคารัสออกจะรำคาญนิดๆ ที่ต้องมากล่อมน้องสาวที่ไม่ยอมไปโรงเรียนมาหลายวันแล้ว

“เค้าไม่ได้เป็นเด็กขี้แย อิกกี้บ้าที่สุด ถ้าแม่มา เค้าจะฟ้องแม่” เฮเลนโกรธจนลืมตัว ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังมีความผิดฐานโดดโรงเรียน จึงตอบโต้พี่ชายไปแบบนั้นอย่างเคยชิน

“เชอะ ตอนนี้พี่ว่า แม่คงเข้าข้างพี่ล่ะ นี่ออกไปซื้อออาหารเช้าใกล้จะกลับแล้วด้วย” อิคารัสพูดอย่างเหนือชั้น

“แง” ภายในห้องก็ร้องเสียงดังมากขึ้น

“โธ่ เจ้าอิกกี้ พ่อเรียกมาช่วยกันกล่อมน้อง ไม่ใช่ให้ทำน้องร้องไห้” พ่อก็ต้องออกมาไกล่เกลี่ยลูกทั้งสองคนแทน

“พ่อน่ะแหละ ให้ท้ายอิซซี่จนเคยตัว ดูสิ ดื้อจนไม่ฟังใคร แล้วนี่ผมต้องเสียเวลามานะเนี่ย” อิคารัสบ่นกระปอดกระแปดอย่างเซ็งๆ

“อ้าว ไอ้เจ้าลูกคนนี้” อิคารัสจึงตบกะโหลกลูกชายเบาๆ แก้เก้อ เพราะรู้ว่าลูกชายชอบค้างที่บ้านเพื่อนมากกว่าบ้านตัวเอง

“โดนทั้งขึ้นทั้งล่องเลย” อิคารัสบ่นกระปอดกระแปด ก่อนจะหันไปสนใจประตูห้อง เคาะแรงๆ อีกรอบ แล้วแกล้งทำเป็นพูดดีกับน้องอย่างเห็นได้ชัด “นี่มันสายมาแล้วนะ อิซซี่ที่รัก ไปโรงเรียนกันเถอะ ใครทำอะไรชี้มาเลย เดี๋ยวพี่จะจัดการให้ ต่อให้นักกีฬาฟุตบอลทั้งฝูง พี่ก็ไม่กลัว พี่มีพรรคพวก”

“เอาเข้าไป แหม ส่งเสริมกันดีๆ ทั้งนั้น แม่ล่ะเหนื่อยใจจริงๆ” ปารีส...คุณแม่เสียงใหญ่ ได้แต่ส่ายหน้ากับลูกและสามีที่ยังจัดการกับลูกสาวคนเล็กของบ้านไม่ได้ ก่อนจะชูกุญแจ แล้วเปิดประตู

“ดีนะที่ไม่ได้ใส่ตัวล็อกข้างใน แหม ปารีสที่รัก คุณช่างฉลาดที่สุดจริงๆ” นอร์ธยิ้มอ้อนประจบเมียแก้อาการหน้าแตก หากเพราะได้มอบหน้าที่จัดการครอบครัวมานานแล้ว จึงยอมในทุกเรื่อง

ปารีสได้แต่ส่ายหน้า ก่อนจะเรียกลูกสาวอย่างเข้มงวด “ไม่มีหลุมหลบภัยที่ไหนแล้ว ลูกก็ลุกขึ้นแล้วไปแต่งตัวซะ ต้องให้แม่พูดกี่ครั้งว่าลูกจำเป็นจะต้องไปโรงเรียน”

เฮเลนเลิกผ้าห่มแล้วหันมามองทุกคนทั้งน้ำตา ก่อนจะแก้ตัว “ทีอิกกี้ไม่เห็นต้องไปเลย ไม่อยากเรียน พ่อแม่ก็ไม่บังคับ ก็หนูไม่อยากไปนี่ หนูจะเรียนแบบอิกกี้ มิคกี้ แล้วก็ไพร์ด”

อิคารัสฟังน้องแล้วเห็นด้วย แต่ยังไม่ทันได้พูดกับแม่ก็ต้องเงียบ เพราะแม่จ้องดุแบบดักคอเสียก่อน จึงหันไปยิ้มแห้งๆ กับพ่อ ซึ่งก็ได้แต่รับฟังอย่างเดียวเช่นกัน

“ลูกก็รู้ว่าพวกเราหวังดี อยากให้ลูกได้เรียนรู้การอยู่ร่วมกับคนอื่นในสังคม” ปารีสเน้นคำว่า ‘สังคม’ ก่อนจะจ้องหน้าลูกชาย แล้วก็พูดกับลูกสาวต่อด้วยน้ำเสียงอ่อนลง “คนเราต้องมีสังคมนะลูก ถ้าลูกไม่เรียนรู้วิธีเข้าสังคม ก็จะทำให้ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมลำบาก หรือลูกอยากจะนั่งอยู่หลังคอมพิวเตอร์ พูดคุยกับคนที่ไม่เคยเห็นหน้า ออกไปจากบ้านเจอแต่คนแปลกหน้าอีกเหมือนกัน หรือต่อให้ลูกบอกว่า ลูกนัดพบคนจากในอินเตอร์เนตก็ได้ แต่ยังไงก็คงไม่สนิทใจเหมือนคนที่รู้จักพบหน้ากันตั้งแต่แรกหรอกลูก”

“แม่พูดมีประเด็นแฮะ” อิคารัสบ่นอุบอิบเพียงให้แม่ได้ยิน จึงโดนแม่ปรามด้วยสายตาอีก

“ก็คนเห็นหน้าใจร้ายนี่ หนูไม่ชอบเลย หนูไม่ชอบ” เฮเลนยังไม่ยอมแพ้ แม้จะเริ่มเห็นด้วยนิดๆ

“ดูอย่างแจ็คสิ ไม่เห็นเขาจะหนีปัญหา พี่เขาก็ยังไปโรงเรียนทุกวัน อย่างขยันขันแข็ง เจอปัญหา เขาก็แก้ได้เอง อายุสิบห้าก็เริ่มจับงานธุรกิจแล้ว นี่ต่างหากที่เขาเรียกว่าสู้กับปัญหา แต่ที่ลูกกำลังทำอยู่เป็นการหนีปัญหานะ” ปารีสพยายามอธิบายอย่างใจเย็น

“โห แม่ แจ็คน่ะ รุ่นไหนแล้ว ขนาดผู้ชายยังไม่กล้าจีบเลย คิดเลขเร็วกว่าผมด้วยซ้ำ” อิคารัสหลุดปากพูดออกมาอย่างเสียไม่ได้

เขาออกจะทึ่งกับแจ็คลีน...ซึ่งเป็นน้องสาวของเพื่อนเขา ขณะเดียวกันก็เป็นลูกสาวของเจ้านายพ่อแม่ด้วย หากเพราะใกล้ชิดกันมานานทำให้สนิทสนมกันอย่างดี

“หุบปากน่า อิกกี้ พูดออกมาก็อายบ้าง เป็นพี่ยังไง น้องเดินล้ำหน้าแล้ว คิดบ้างไหมว่าตัวเองอายุมากกว่าแจ็คกี้ แต่แจ็คกี้มีอะไรเยอะแยะแล้วนะ” ปารีสส่ายหน้าช้าๆ กับความทะเยอทะยานอันน้อยนิดของลูกชายและสามี หากก็ต้องซ่อนความรู้สึกภูมิใจ ที่ทั้งคู่ไม่เคยปล่อยให้ความทะเยอทะยาน มาทำลายความสัมพันธ์ฉันท์มิตร

“รายนั้นปล่อยเขาไปเถอะครับ บ้านนั้นเขาขั้นเทพพอแล้ว ผมขออยู่อย่างนี้ดีกว่า ก็ผมเป็นลูกพ่อนี่ครับ พอเพียงๆ” อิคารัสล้อพ่อนิดๆ ที่ชอบสอนให้ลูกรู้จักข่มความทะเยอทะยานตั้งแต่ยังเล็ก แม้จะตามใจลูกไปมากก็เถอะ

“ขอบใจ” นอร์ธที่นิ่งเงียบก็ต้องออกโรงปกป้องตัวเองบ้าง ด้วยการพูดกับภรรยาอย่างซื่อๆ “โธ่ ปารีส มันก็จริงอย่างที่เจ้าอิกกี้พูดนะจ๊ะ เฮ้อ เอาล่ะ ไม่อยากไปก็ไม่ต้องไป”

“ไม่ได้ นี่นายจะบ้าหรือไง ลูกขาดเรียนมาตั้งสามวันแล้วนะ จะเรียนตามคนอื่นทันไหม อนาคตลูกนะยะ ลุกไปแต่งตัวได้แล้ว เดี๋ยวแม่จะไปส่งที่โรงเรียนเอง” ปารีสออกคำสั่งเด็ดขาด

เธอไม่ยอมให้ลูกหยุดเรียนเพราะตามใจสามีอีก และเธอก็ต้องไปดูงานที่แกลอรี่ ทั้งที่เพิ่งจะได้กลับมาจากงานแสดงภาพของพายแกลอรี่ที่ลอสแองเจลลิส ช่วงนั้นสองคนพ่อลูกจึงอยู่กันอย่างสบายใจมาก ซึ่งถึงเวลาจัดการความเรียบร้อยของบ้านนี้แล้ว

“แฮะๆ งั้นอิซซี่ลูกรัก ทำตามที่แม่บอกเถอะ พ่อว่านะ ไม่ว่าที่โรงเรียนจะมีปัญหาอะไรรออยู่ ก็คงไม่เท่าความเด็ดขาดของแม่หรอกลูก” นอร์ธเกรงใจภรรยาที่รักและเคารพยิ่ง ก่อนจะโอบไหล่ลูกสาวให้ลุกขึ้น แต่สายตายังมองภรรยาอย่างเกรงใจ

“แต่หนู” เฮเลนพยายามที่จะคัดค้าน แต่ก็คงยาก เพราะพ่อก็ดันทั้งโอบและแทบจะอุ้ม แม่ก็จ้องจนจะพรุน จึงหันไปหาพี่ชายเป็นตัวช่วยสุดท้าย

“เอ่อ อืม ทนๆ เอาหน่อย เดี๋ยวพี่ดูว่ามีทางไหนช่วยได้บ้างนะ ไปเถอะ” อิคารัสปลอบน้องสาวแล้วก็ต้องยิ้มแห้งๆ กับแม่ ที่เขาสัญญาจะช่วยน้องสาว ก่อนจะแก้ตัว “นะฮะ น้องสิบสามขวบเอง แล้วอีกอย่างถ้าประเมินจากในหนัง มันก็เข้าใจได้อ่ะฮะ ว่าพวกที่ชอบแกล้งคนมันมีอยู่เยอะ”

ความที่เฮเลนยังไม่แตกเนื้อสาวมาก แล้วยังไม่เข้าสู่ขบวนการเจียรไนเป็นเพชรเม็ดงาม เธอจึงเป็นสาวเฉิ่มคงแก่เรียน จึงมีโอกาสที่จะถูกแกล้งจากคนไร้น้ำใจอยู่บ้าง

“ช่วยน้องน่ะ แม่ไม่ว่า แต่อย่าให้ถึงกับอุ้มกันเดินตลอดชีวิต เพราะลูกเองก็ใช่ว่าอยู่กับน้องตลอดเวลา ติดเพื่อนจะตาย มิคกับไพร์ดไปไหนก็ตามตลอด จนน่าเป็นห่วง” ปารีสต้องยอมลดราวาศอกให้ แต่ยังไม่วายสอนลูกชายทิ้งท้าย

“โธ่ มิคกี้กับไพร์ดไม่ทำให้ลูกเราเสียคนหรอกนะ คบกันมาตั้งแต่เด็กแล้วนี่” นอร์ธก็ให้ท้ายลูกอีกตามเคย แต่ภรรยาเขาก็ทำใจได้แล้ว

“มิคกับไพร์ดน่ะไว้ใจได้ แต่ลูกเรานี่สิ ไว้ใจไม่ได้ ถ้าไม่มีสองคนนี่ ลูกเราจะไปถึงไหนก็ไม่รู้ เฮ้อ เหนื่อย ไปได้แล้วอิซซี่ ชื่อก็เหมือนกัน เรียกเฮเลนไม่ได้หรือไง ทำไมต้องอิซซี่ด้วยเนี่ย” ปารีสไม่วายต้องบ่นเรื่องชื่อลูกสาว

เฮเลนมีชื่อไทยว่า...อิสรา แต่เพราะความที่ติดแจ็คลีนมาก จึงอยากมีชื่อเรียกที่คล้องจอง จึงบอกให้ทุกคนเรียกตนเองว่า...อิซซี่ ขณะที่อิคารัสมีชื่อไทยว่า...อัครา แต่ทุกคนก็เรียกว่าอิกกี้ด้วยความเอ็นดูจนติดปาก

“ก็” เฮเลนกำลังจะแก้ตัวก็เห็นว่าแม่ส่ายหน้า จึงเงียบแล้วต้องยอมแพ้

“ฉันซื้ออาหารเช้ามาแล้วนะ อืม ทำไมนายไม่ซื้ออาหารมาเก็บไว้เลย ฉันเปิดตู้เย็นมาเห็นตู้เย็นโล่งๆ นึกว่าโจรตะกละปล้นบ้านซะอีก” ปารีสหันไปดุสามีแล้วพากันเดินออกไปจากห้อง

“ก็ๆ อิซซี่กินหมดน่ะสิ” นอร์ธแก้ตัวน้ำขุ่นๆ ต้องยอมแพ้เมียที่รักและเคารพยิ่งอย่างหมดใจ

จากหนุ่มไทยใจห้าวจอมเจ้าชู้ ที่มีดีกรีเป็นตากล้องในวงการนางแบบนิวยอร์ค ก็ต้องกลายเป็นสามีที่เคารพเมียยิ่งชีพไปเสียแล้ว หากเพราะเขารู้ว่าคุ้มค่าที่ได้รักและดูแลใครสักคน เขาจึงยอมให้เธอเป็นช้างเท้าหน้าแต่โดยดี

ส่วนสาวอเมริกันที่มาดมั่น ก็ต้องยอมรับรักจากหนุ่มวัยอ่อนกว่า แม้หลายอย่างจะเปลี่ยนแปลงไป แต่ความรักในอุปนิสัยชายไทยคนนี้ของเธอไม่เคยเปลี่ยนแปลง

อิคารัสมองพ่อแม่เดินออกไปจากห้อง แล้วก็ต้องมองน้องสาวเดินไปหยิบโน้นนี่อย่างฝืนๆ ก็ต้องปลอบอีกรอบ “โรงเรียนมันน่ากลัวขนาดนั้นเชียว”

เฮเลนหันไปค้อนพี่ชายก่อนจะบอก “ก็แน่สิ ไม่รู้ทำไมมีแต่คนแกล้งเค้าอ่ะ อิกกี้ต้องช่วยเค้านะๆ”

“เอ่อ อืมๆ เดี๋ยวขอคิดก่อนว่าอะไรยังไง” อิคารัสได้แต่ยอม เพราะเจอลูกอ้อนไม่ธรรมดา เมื่อน้องสาวเข้ามาเกาะแขนอ้อนวอนสุดๆ แบบนี้ เขาก็ถามขึ้นอย่างสงสัย “ว่าแต่ทำไมโดนแกล้งได้ ก็ทำตัวเป็นคนธรรมดาๆ หลบหลีกได้ก็ยอมไปสิ คิดอะไรมาก”

“ก็ไม่ได้อยากจะโดนแกล้งเลย พอดีว่ายัยป๊อปปูล่าคนหนึ่งมาขอลอกการบ้านเค้า แล้วเอาไปเฉยเลย เค้าก็ต้องบอกครูสิ เพราะเค้าไม่มีจะส่งนี่ ก็เป็นเรื่องเลย” เฮเลนเล่าความระบายความอึดอัด แม้จะไม่ได้เห็นหน้าพี่ชายมาเป็นเดือนๆ แล้วก็ตาม

“ไร้สาระจริงๆ คนแบบนี้ก็มีด้วย น่าเบื่อนะเนี่ย” อิคารัสส่ายหน้าช้าๆ เห็นเป็นเรื่องไร้สาระ

“เค้าถึงอิจฉาพี่ อยากจะเรียนแบบพี่บ้างจังเลย” เฮเลนบ่นอุบ นึกอิจฉาพี่ชายกับเพื่อนๆ อยู่มากที่มีอิสระ

“เออๆ เอาน่าเดี๋ยวดูให้ รีบไปเตรียมตัวไปโรงเรียนให้ไวเลย เฮ้อ ถ้ามีใบขับขี่ล่ะก็จะไปส่งที่โรงเรียนขอดูหน้ากลุ่มนั้นหน่อยเถอะ นี่ถ้ามิคอยู่ก็คงดีนะ จะได้ขับรถให้” อิคารัสที่ยังไม่ได้สอบใบขับขี่ ก็ออกจะเซ็งนิดๆ แต่ก็โล่งใจที่ได้โอกาสถ่วงเวลาเรื่องน้องสาวไปอีกนิด

เฮเลนได้แต่พยักหน้าก่อนจะไล่พี่ชายออกไปจากห้อง แล้วเตรียมตัวไปโรงเรียนอย่างเซ็งๆ แม้จะเห็นด้วยกับแม่ หากสิ่งที่รออยู่ที่โรงเรียนก็ไม่น่าพิศมัยเท่าไรนัก

****************************************


เสียงตะโกนเรียกชื่อเฮเลนดังอยู่หน้าห้องน้ำหญิง ทำให้เจ้าตัวยิ่งกลัวมากขึ้น นับตั้งแต่หยุดเรียนไปติดๆ กันเมื่อเทอมที่แล้ว ปิดเทอมเป็นช่วงที่เธอมีความสุข และเปิดเทอมก็กลายเป็นฝันร้ายอีกครั้ง เพราะเคยโดนแกล้งที่คิดว่าหนักแล้วทีไร ต้องเจอหนักข้อขึ้นอีกเรื่อยๆ

“เฮเลน ยัยงี่เง่าออกมาเดี๋ยวนี้นะ ยัยขี้ฟ้องๆ” หญิงสาวผมสีเข้มด้านนอก ร้องตะโกนล้อเลียนด้วยความสนุกสนาน

เฮเลนอุดหูแล้วพยายามก้มหน้านิ่งอย่างหวาดๆ ความที่เธอมีพี่ๆ คอยดูแลมาตลอด ทั้งพ่อแม่ก็คอยปกป้องเอาใจใส่ไม่ขาด เธอจึงมองทุกอย่างสดใส

“นี่พวกเธอทำอะไรกัน รู้ไหมนี่มันได้เวลาเข้าเรียนแล้วนะ” เสียงดุเข้มงวดดังขึ้น ก่อนฝูงผึ้งจะแตกรัง แล้วแยกย้ายกันกลับเข้าห้องเรียน “เอาล่ะ เจตองค์ออกมาได้แล้วเธอก็ต้องเข้าห้องเรียนเหมือนกัน”

เฮเลนค่อยๆ เปิดประตู แล้วเดินออกมาจากห้อง ก่อนจะกล่าวขอบคุณเสียงค่อย “ขอบคุณค่ะ”

“อืม เธอก็ควรจะขอบใจวัตสันที่เขามาบอกฉัน รีบๆ เข้าห้องเรียนซะ” ครูโลเปซหันหลังแล้วเดินออกไปจากห้องน้ำนักเรียนแล้วส่ายหน้านิด กับการแกล้งกันที่มีให้เห็นเรื่อยๆ แต่ก็ยากจะทำอะไรได้

เฮเลนถอนหายใจอย่างเซ็งๆ แล้วรู้สึกแย่จนกระทั่งเที่ยง จึงได้มีโอกาสพูดกับเด็กหญิงวัยเดียวกัน “ขอบใจเธอมากที่ตามครูมาให้”

“ไม่เป็นไร” เจนีนยิ้มให้อย่างเป็นมิตร ก่อนจะเตือนด้วยความหวังดี “เธอไม่น่าจะมีเรื่องกับซูเลยนะ ยัยคนนี้นอกจากจะขี้แกล้งยังนิสัยไม่ดีด้วยล่ะ”

เสียงกระแทกถาดดังขึ้น ตามมาด้วยเสียงขอโทษของเด็กหญิงอีกคน “เอ้อ ขอโทษ มือลื่นน่ะ เจนีน” ก่อนเจ้าของเสียงจะมองหน้าคนร่วมโต๊ะใหม่ “อ่า สวัสดี เราโจ โจเซฟีน มาโควิซ”

“อ่า ยังไม่ได้แนะนำตัวเลย ฉันเจนีน วัตสัน แล้วเธอล่ะ” เจนีนยิ้มทกแล้วก็หยิบยื่นมิตรภาพให้อย่างเต็มใจ เพราะเธอไม่กลัวว่าจะโดนแกล้งด้วย และรู้ว่าพวกนั้นต้องไม่กล้าว่าอะไรเธอ ด้วยพ่อของเธอเป็นประธานสมาคมผู้ปกครอง

“ฉัน เฮเลน ไอ ใจตรง” เฮเลนแนะนำตัวก่อนจะยิ้ม แล้วทานอาหารร่วมโต๊ะอย่างสบายใจ

“ฉันเพิ่งย้ายมาเรียนได้อาทิตย์เดียวเอง พ่อฉันได้งานที่โรงพยาบาลที่นี่ แล้วก็จะทำวิจัยอะไรของเค้าก็รู้” โจเซฟีนถามขึ้นไปตามเรื่อง

“ถึงว่าล่ะไม่คุ้นหน้า จริงๆ ฉันก็เพิ่งย้ายมาเรียนเทอมนี้เหมือนกันล่ะ เอ่อ จริงสิ เจนีน เธอมาช่วยฉันแล้วไม่กลัวพวกนั้นแกล้งเธอเหรอ” เฮเลนนึกขึ้นได้จึงถามขึ้นไปตามเรื่อง

“กลัวเหรอ พวกนั้นสิต้องกลัว ถ้าทำอะไรไม่ถูกล่ะก็ฉันจะบอกพ่อให้เอาเรื่อง พ่อฉันเป็นประธานสมาคมผู้ปกครองของที่นี่น่ะ แต่ฉันก็ชอบสงบๆ ล่ะนะ” เจนีนบอกกับเพื่อนแล้วก็ยิ้มสบายใจให้ความรู้สึกเป็นกันเอง

“ดีจัง ไม่ต้องกลัวโดนแกล้งด้วย อืม โจ พ่อเธอเป็นหมอเหรอ” เฮเลนหันไปถามเพื่อนใหม่อย่างสนใจ เพราะเธอก็ไม่เคยมีเพื่อนอื่นนอกเสียจากพี่ๆ ที่เป็นลูกของเพื่อนๆ พ่อกับแม่

“อืม เป็นหมอจิต ฮ่าๆ จิตแพทย์น่ะ บางวันฉันก็โดนบำบัดทั้งวันเลยล่ะ ลืมบอกไป ทั้งพ่อทั้งแม่ฉันเป็นจิตแพทย์ทั้งคู่ แต่แม่ฉันเชี่ยวชาญเรื่องเด็กเป็นพิเศษน่ะ” โจเซฟีนอธิบายให้เพื่อนที่กำลังนั่งฟังอย่างงงๆ ให้เข้าใจ

“ดีหรือร้ายเนี่ย แต่ก็คงดีกว่าพ่อฉัน พ่อฉันเป็นตากล้องน่ะ ทำงานอยู่พายแกลอรี่ ส่วนแม่ฉันก็เป็นผู้จัดการแกลอรี่น่ะ น่าเบื่อไหม ไม่รู้จะเล่าอะไรเลยแฮะ” เฮเลนรู้สึกว่าอาชีพของพ่อแม่น่าเบื่อ ไม่มีอะไรให้เธอรู้สึกสนใจเลยสักนิด

“ตากล้อง พายแกลอรี่” โจเซฟีนทบทวนอย่างตื่นเต้น “ฉันชอบภาพถ่ายของตากล้องที่ชื่อ ‘พาย’ มากเลยนะ รู้ไหมว่าเขาเก่งที่สุด พ่อเธอเป็นตากล้องในสังกัดเขาเหรอ แสดงว่าพ่อเธอต้องเก่งมากๆ แน่ๆ”

เฮเลนขมวดคิ้วอย่างประหลาดใจ ว่าทำไมเพื่อนใหม่จึงรู้สึกตื่นเต้นแบบนั้น “เหรอ ไม่รู้สิ ไม่เห็นพ่อว่ายังไง อ๋อ แล้วพายที่เธอว่าน่ะ ฉันก็เจอบ่อยๆ”

“เจอบ่อยๆ ด้วยอ๋อ พ่อเธอเป็นตากล้องในสังกัดนั้นนี่นา แล้วเราไปเจอพายได้ไหม ฉันชอบผลงานเขามากเลย มีเกือบทุกอัลบั้ม พ่อแม่ฉันซื้อให้หมด แม้แต่ที่เก่าๆ ก็ไปหาซื้อมาให้ฉัน ทดแทนที่ฉันทำตัวดี ไม่เป็นเด็กโรคจิตอย่างที่พวกเขากลัวน่ะ” โจเซฟีนบอกกับเพื่อนๆ แล้วก็หัวเราะอารมณ์ดี

“อุ๊ย ขอโทษ” เสียงหนึ่งดังขึ้น เมื่อเฮเลนโดนสาดนมใส่เต็มๆ และยังกระเด็นไปยังโจเซฟีนแล้วก็เจนีนด้วย

เจนีนมองหน้าซูซานน่าอย่างเคืองๆ แต่ยังไม่ทันพูดอะไรออกมา อีกฝ่ายก็พูดขึ้น

“ก็ไม่ได้ตั้งใจนี่นา เธอคงไม่รีบไปฟ้องพ่อเพราะความเข้าใจผิดหรอกนะ ขอตัวย่ะ เดี๋ยวนิสัยขี้ฟ้องจะติดมา” ซูซานน่ายักไหล่แล้วเดินหนี

“ขอโทษนะ เพราะฉันแท้ๆ เธอต้องโดนไปด้วยเลย” เฮเลนพูดอย่างรู้สึกผิด

“อย่าไปคิดมาก พวกนิสัยไม่ดีแบบนี้ช่างมันเถอะ” โจเซฟีนส่ายหน้าช้าๆ แล้วช่วยเพื่อนใหม่เช็ดเนื้อเช็ดตัว

“อะไรอีกล่ะแม่ตัวยุ่ง ทำไมเปียกทั้งตัวแบบนี้” เสียงหนึ่งดังขึ้นทำให้เด็กหญิงต้องหันไปดู

“อิกกี้” เฮเลนปล่อยโฮใส่พี่ชายก่อนจะเดินเข้าไปกอด

“กรรม แกทำเด็กน้อยร้องไห้อีกแล้ว” เด็กหนุ่มอีกคนพูดแล้วก็ส่ายหน้าช้าๆ ทำเอาคนอื่มมองด้วยความตะลึงกับผมยาวสลวยสีดำสนิทของเขา

ไพร์ดมองน้องสาวเพื่อน ก่อนจะยิ้มให้เพื่อนๆ ของเจ้าน้องสาวของทุกคน แล้วยื่นผ้าเช็ดหน้าให้อีกคนที่โดนไปด้วย “เธอก็โดนไปด้วยนะ เอานี่ ผ้าเช็ดหน้า”

ดวงหน้าของไพร์ดละม้ายคล้ายมิคาเอลอยู่ไม่น้อย มองเผินๆ คล้ายจะเป็นคู่แฝด แต่วัยนั้นแตกต่างกันถึงครึ่งปีเลยทีเดียว

“มีอะไรกัน” ครูใหญ่ที่อยู่ข้างหลังถามขึ้นอย่างสงสัย

“ไม่มีอะไรครับ เรื่องเข้าใจผิดกันเท่านั้นครับ” มิคาเอลตอบแทนน้องสาวที่กำลังตื่นกลัว

เจนีนมองหนุ่มหล่อทั้งสามอย่างตะลึงงัน ออกจะปลื้มอย่างมากที่อยู่ๆ ก็ได้เจอกับหนุ่มหล่อถึงสามคน ถึงคนที่เพื่อนกอดจะหล่อน้อยที่สุด แต่ก็จัดว่าหน้าตาดีใช้ได้

“อิกกี้มาได้ยังไง” เฮเลนถามพี่ชายอย่างงงๆ

“ก็มาได้ดิ ก็มาเรียนที่นี่เทอมนึงไง เฮนริคจัดการให้” อิคารัสบอกน้องสาว ก่อนจะมองตัวเองที่เปื้อนไปด้วย “ดูดิทำไมโดนแกล้งอีกละเนี่ย คนไหนว่ามา ผู้ชายจะท้าต่อย ผู้หญิงจะหลอกจีบ”

โจเซฟีนฟังแต่เสียงไม่ได้มองหน้า หากก็ไม่ชอบใจเท่าไรนัก จึงหันไปชวนเจนีน “เราไปที่อื่นเถอะ ไปก่อนนะ เฮเลน แล้วเจอกัน”

“ขอบใจเธอมากนะ เสียใจด้วยที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้” เฮเลนพูดอย่างรู้สึกผิด ที่ทำให้เพื่อนกลุ่มแรกต้องกระเจิงเพราะปัญหาของตัวเอง

“คิดมากน่า โจแค่อยากจะไปอ่านหนังสือละมั้ง” เจนีนบอกก่อนโบกมือลาเพื่อนใหม่

มิคาเอลมองตามไปอย่างไม่รู้สึกอะไรนัก ก่อนจะหันมามองน้องสาวตัวเล็กของทุกคน “ไปเอาเสื้อผ้ามาให้อิซซี่เปลี่ยนหน่อยละกัน ท้ายรถคงมีเสื้อยืดอยู่ละมั้ง”

“นั่นสิ เดี๋ยวพี่ไปเอามาให้นะ” ไพร์ดเดินกลับไปที่รถ หลังจากนัดที่เจอกันอีกครั้ง

เฮเลนค่อยอุ่นใจที่อยู่ๆ พี่ชายทั้งสามก็ยิ้มออก ในที่สุดก็มีอัศวินมาช่วยตั้งสามคน มีเหรอ...เธอจะไม่ชอบ แค่นี้เธอไม่กลัวอะไรอีกต่อไปแล้ว

****************************************


ตกบ่ายก็เป็นที่ฮือฮา เมื่อมีสาวงามนางแบบพร้อมด้วยวัยรุ่นนักซิ่งอีกจำนวนหนึ่ง มาจอดรถรออยู่หน้าโรงเรียน โดยยืนสงบนิ่ง

กลุ่มเด็กนักเรียนบนตึกต่างก็มองลงมาอย่างงุนงง นึกว่ามีถ่ายภาพยนตร์กันอย่างสนใจ ก่อนเด็กหนุ่มนักเรียนใหม่สามคนเดินตรงไปยังคนกลุ่มนั้น แล้วตบมือทักทายกันอย่างเป็นมิตร

มิคาเอลเงยหน้าขึ้นไปตรงชั้นเรียนที่เฮเลนเคยบอกไว้ ก่อนโบกมือให้ โดยไม่สนใจว่าน้องสาวจะรู้ไหม ทั้งกลุ่มย้ายไปรออยู่ที่ร้านอาหารไม่ห่างจากที่นั่นมากนัก เพราะนัดกับเฮเลนเอาไว้ว่าจะมารับ

หากพอถึงเวลานัด เฮเลนไม่รู้ว่าควรดีใจหรืออายดี เพราะพี่ชายเธอมีสาวสวยซ้อนท้าย ทั้งยังมีกลุ่มแก๊งตามหลังเป็นขบวนจนเด่นเหลือเกิน ถึงจะจอดห่างจากโรงเรียนไปบ้าง แต่แน่ใจได้เลยว่าเด่นสุดๆ

อิคารัสรอน้องสาวอยู่ห่างๆ แล้วพอเจ้าน้องสาวไม่ยอมเดินเข้ามาหาสักทีก็หันไปกระซิบ ก่อนจะจูบสาวสวยอย่างดูดดื่ม ก่อนจะลงจากรถไปรับน้องสาว

“รออะไรอยู่อ่ะ ไปขึ้นรถได้แล้ว เอานี่หมวกกันน็อค” อิคารัสส่งให้น้องสาว ก่อนจะโค้งให้เพื่อนใหม่ของน้องสาวทั้งสองคนเป็นการบอกลา

เฮเลนจึงหันไปหาเพื่อนใหม่แล้วบอกลา “ไปก่อนนะ เจนีน โจ ไว้เจอกันพรุ่งนี้”

เจนีนยิ้มๆ ให้เพื่อนก่อนจะเดินเข้ามาคุยด้วย “พี่ชายเธอแต่ละคน หล่อๆ ทั้งนั้นเลยอ่ะ ไว้จะขอพ่อแม่ไปค้างบ้านเธอบ้างนะ”

เฮเลนหัวเราะกับคำพูดของเพื่อน ก่อนจะโบกมือลา แล้วโดนพี่ชายจูงพาไปที่รถ โดยถูกจับนั่งข้างหน้าพี่ชาย แล้วถูกพี่ชายโอบเอาไว้ไม่ให้มีอันตราย ขณะที่รถยนต์ที่เอามาตอนเช้าให้คนอื่นขับแทน

“ไม่ขับรถยนต์เหรอ” เฮเลนถามอย่างเกรงๆ ตัวเธอสูงกว่าเด็กหญิงในวัยเดียวกัน และการที่ต้องมานั่งข้างหน้าพี่ชาย เธอก็ต้องก้มลงให้ต่ำเอาไว้ จะได้ไม่บังพี่ชายเวลาขี่รถ

“มิคมันไม่อยากขับ มันไล่พี่ไปสอบใบขับขี่อยู่เนี่ย” อิคารัสบอก ก่อนจะสตาร์ทรถออกไป แล้วก็บอก “เอ้อ แจ็คกี้จะมาเย็นนี้ล่ะ มาเรียนเทอมเดียวเหมือนกัน”

“เย้ๆ ดีใจจังเลย ขอหนูไปนอนกับแจ็คกี้ได้ไหม” เฮเลนบอกกับพี่ชาย

“ถามแม่เอาเอง พี่ก็ไปค้างบ้านโน้นเหมือนกัน อ๋อ ป้าพายจะมาอาทิตย์หน้าด้วย ดีที่ได้ป้าพายนะ บอกให้เฮนริคจัดการให้หมดทุกอย่าง ถึงมาเข้าโรงเรียนนี้ได้อ่ะนะ แต่ทำไมแม่ถึงให้แกมาเข้าโรงเรียนนี้ก็ไม่รู้แฮะ ห้องน้ำสกปรกกว่าในบาร์อีก” อิคารัสบ่นอย่างไม่จริงจังนัก เขาพูดภาษาไทยกับน้องสาวคล่อง โดยไม่ต้องกลัวว่าสาวข้างหลังจะได้ยิน

เฮเลนยิ้มแล้วไม่พูดต่อ อารมณ์ดีที่พี่สาวจะมาเที่ยว เธอก็อยากจะเจอพี่สาวมากกว่าพี่ชายอยู่แล้ว แม้อีกฝ่ายจะมีคนคอยติดตามดูแลความสะดวกให้ตลอดเวลาก็ตาม

เด็กผู้หญิงทุกคนก็ฝันอย่างจะเป็นเจ้าหญิงอย่างที่พี่สาวเป็น...ถึงไม่ใช่ราชนิกูล แต่แจ็คลีนก็เป็นเด็กสาวน่ารักที่ ใครๆ ก็ทำราวกับเธอเป็นเจ้าหญิงน้อยๆ ของทุกคน

รถทั้งหมดมาจอดอยู่ที่หน้าแกลอรี่กลางใจเมือง ก่อนอิคารัสจะพาน้องสาวไปส่งให้ถึงมือแม่ที่ยืนรออยู่ โดยมีมิคาเอลกับไพร์ดเดินตามหลังเข้ามาด้วย

“สวัสดีครับ ปารีส” มิคาเอลเดินเข้ามาโอบกอดทักทายเพื่อนแม่ ก่อนจะยกมือไหว้นอร์ธที่เดินเข้ามาตามงานพอดี “สวัสดีครับ น้านอร์ธ”

“ไปไงมายังไงล่ะเนี่ย” นอร์ธถามขึ้นอย่างสงสัย

“สวัสดีครับ น้าปารีส น้านอร์ธ” ไพร์ดทักทายผู้ใหญ่ทั้งสองแบบเดียวกับเพื่อน แตกต่างที่วัฒนธรรม

“เลือกปฏิบัติตามเคย” นอร์ธพูดแล้วก็หัวเราะ ก่อนจะมองเจ้าลูกสาวที่มีสีหน้ายิ้มแย้ม “เป็นอะไรล่ะ อิซซี่ มีอะไรดีๆ เหรอไง”

“อ๋อ ตอนนี้หนูมีเพื่อนแล้วก็มีพี่ชายสามคนที่ใครๆ ก็สนใจค่ะ” เฮเลนเล่าให้พ่อฟังอย่างมีความสุขและปลื้มใจ “พ่อไม่รู้หรอกว่า ยัยซูซี่มันทำหน้ายังไง ตอนเห็นพี่ชายทั้งสามของหนู สมน้ำหน้ามัน อยากให้อิกกี้จิกผมมันแล้วตบๆ”

“ใจเย็นๆ ลูก อย่าห้าวนัก เป็นผู้หญิงให้มันเรียบร้อยหน่อยจ๊ะ” นอร์ธเห็นลูกสาวเริ่มแก่นก็ชักหวั่นใจ

“นั่นสิ อยู่ๆ จะให้พี่ตบผู้หญิงไม่เอาหรอก เสียชื่อหมด แต่พี่ไม่ได้อยู่ทุกวันหรอกนะ บางวันต้องไปอัดเสียง ไม่มีเวลาหรอก” อิคารัสบอกน้องสาวแล้วก็มองเพื่อนที่กำลังมองภาพต่างๆ ไปตามเรื่อง “เฮ้ย เดี๋ยวไปรับแจ็คกี่โมง”

มิคาเอลมองนาฬิกาก่อนจะตอบ “อีกสองชั่วโมง แต่เดี๋ยวปิแอร์ก็เตือนเองล่ะ วันนี้มีการ์บ้านด้วย ให้ปิแอร์ทำให้แล้วไปเที่ยวดีกว่าว่ะ”

“นี่ ได้ไง แล้วจะเอาความรู้ที่ไหนไปสอบ” ไพร์ดตบไหล่ญาติแล้วส่ายหน้า

“ที่นี่ก็อ่านก่อนสอบไง ว่าแต่เราไม่ต้องเตรียมตัวทำรายงานของอาจารย์เหรอ เห็นว่าเสาร์นี้จะมาทดสอบสิ่งที่สอนไป ให้ตายเถอะ ปวดหัวชะมัด อีกปีเดียวก็จบละ เอาไงต่อไปดีหว่า” มิคาเอลคิดเรื่องเรียนนอกระบบมากกว่า

“จะเรียนอะไรต่อดีล่ะ แต่พ่อแม่สั่งว่ายังไงก็ต้องเรียนจบมหาวิทยาลัย ถึงจะไม่ชอบก็เถอะ อิกกี้ แกเอาไง” ไพร์ดหันไปถามเพื่อนอีกคนที่ทำหน้ายุ่งและมองหน้าแม่ตัวเองอย่างเซ็งๆ

“ก็อย่างที่ป้าพิมว่า ยังไงก็ต้องจบมหาวิทยาลัย เรียนเอกดนตรีก็ได้นี่” อิคารัสหาทางออกให้กับตัวเองจนเรียบร้อย และยิ่งยืนยันเมื่อแม่พยักหน้าช้าๆ

“ฉัน พ่อคงส่งไปเรียนวิทยาลัยด้านดนตรีที่ปารีส เขาเป็นศิษย์เก่าที่นั่น พวกแกจะไปด้วยหรือเปล่าล่ะ ต้องทดสอบเครื่องดนตรีที่ตัวเองถนัด มีออดิชั่นด้วยนะ มันก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะพวกแกก็เล่นเป็นกันอยู่แล้ว ฉันว่าจะเอาดับเบิลเบสอ่ะนะ” มิคาเอลบอกกับเพื่อนๆ และเลือกเครื่องดนตรีที่ตัวเองถนัด ซึ่งก็ไม่เป็นปัญหา เพราะเขาชำนาญ

“ก็ไม่มีปัญหา ฉันตีกลองได้ทุกอย่าง อะไรที่เป็นเครื่องตีก็ถนัดหมดล่ะ” ไพร์ดพยักหน้ากับเพื่อนและแน่ใจว่าแม่ก็คงไม่ว่าอีกเช่นกัน

“ฉันมีปัญหา ค่าเรียนไม่มี ถึงจะเล่นเปียโนเก่งแค่ไหน แต่ค่าเรียนที่นั่นแพงมากถึงมากที่สุด” อิคารัสบอกกับเพื่อนๆ แล้วก็ต้องถอนหายใจ

นอร์ธมองหน้าปารีสที่บ่นเรื่องนี้กับเพื่อน ก่อนจะเดินเข้าไปหาลูกชาย แล้วบอก “เงินน่ะ พ่อกับแม่จะให้ยืมก่อน รถสปอร์ตที่แต่งแล้วคงขายได้ค่าเรียน แล้วเงินที่ลูกหาได้จากการเล่นดนตรี พ่อกับแม่ก็อนุญาตให้ลูกเอาออกมาใช้ได้ แต่จำไว้ เงินทองต้องรู้จักเก็บบ้างนะ”

“แล้วหนูล่ะ” เฮเลนอยากจะมีอิสระในการใช้เงินบ้าง

“เฮเลน ลูกยังเด็กเกินกว่าจะมีหนี้สินจำนวนมาก พี่ชายของลูกหาเงินใช้เองได้แล้ว แต่ลูกยัง เพราะฉะนั้น ลูกต้องรอไปก่อน อย่าลืมสิว่า พี่เขายังต้องใช้เงินที่จะยืมแม่ไปนะ ซึ่งมันก็นับเป็นเงินจำนวนมาก เพราะค่าเรียนที่ผ่านมาของพี่เขา พี่เขาก็ทยอยคืนให้พ่อแม่นะ” ปารีสอธิบายกับลูกสาว แต่ก็คงยากที่จะเข้าใจได้

“หนูไม่ยอมนะ ทีหนู พ่อแม่ไม่เคยตามใจ หรือให้อิสระเลย หนูว่าหนูเปลี่ยนชื่อดีกว่า ไม่ชื่ออิสราแล้ว มีแต่กำแพงขวางหนูไปหมด” เฮเลนเริ่มทำตัวงอแงตามประสาเด็ก

อิคารัสมองน้องสาวแล้วส่ายหน้าที่ทำตัวเข้าใจยาก แล้วก็ไม่พูดอะไรกับน้องสาว เพราะรำคาญที่น้องสาวทำตัวเป็นเด็กเอาแต่ใจอยู่เรื่อย

ไพร์ดเดินเข้าไปโอบไหล่ปลอบ ก่อนจะอธิบาย “อิซซี่ ต้องเข้าใจสิว่า พ่อแม่มีความจำเป็น พี่ทุกคนมีรายได้ แล้วหนูล่ะ หนูหาเงินได้หรือยัง ปีนี้ถ้าไม่ขอเงินพ่อแม่ หนูมีเงินอยู่เท่าไร ถ้าพ่อแม่ให้อิสระหนู แต่ไม่ให้เงินหนูใช้ หนูจะใช้ชีวิตยังไง ถ้ายังขอเงินพ่อแม่อยู่ ก็ต้องยอมให้ท่านชี้แนะแนวทางด้วยสิ ท่านหวังดีกับหนูรู้ไหม”

เฮเลนยังมีสีหน้าดื้อดึงอยู่ในที แต่ก็ต้องพยักหน้ายอมรับ เมื่อเธอไม่เคยหาเงินด้วยตัวเอง

“คนดี ไว้อิซซี่หาเงินได้เมื่อไร ก็ทำอะไรหลายอย่างได้ แต่ตอนนี้อย่าเพิ่งคิดอะไร ทำตัวให้ดี อย่าดื้อนะ” มิคาเอลลูบผมน้องสาว ก่อนจะหันไปยิ้มกับน้าทั้งสองคน

ปารีสกับนอร์ธค่อยโล่งใจลูกสาวว่าง่ายกับพี่ชายทั้งสอง ขณะที่อิคารัสยังเหมือนเดิม คือขี้เบื่อ ใจร้อน แล้วก็รู้สึกว่าน้องสาวน่ารำคาญ ถึงจะรักแค่ไหนก็ตาม

“มิคกี้ว่าแจ็คกี้จะให้หนูยืมเงินไปเรียนโรงเรียนอื่นไหมคะ” เฮเลนถามขึ้นแล้วก็ทำให้คนอื่นๆ หัวเราะ

มิคาเอลเอานิ้วจิ้มจมูกรั้นๆ ของเด็กหญิงผมแดง แล้วพูดอย่างขำๆ “ไว้หาเงินเองได้เมื่อไร แจ็คกี้คงใจดีให้ยืมหรอก แต่ตอนนี้หารายได้เองไม่ได้ก็อย่าเพิ่งคิด อีกอย่าง ชีวิตก็ใช่ว่าจะน่าเบื่อไม่ใช่เหรอ ตอนนี้ก็มีเพื่อนแล้วนี่”

เฮเลนครุ่นคิดตามก่อนพยักหน้า “จริงด้วยค่ะ เจนีนกับโจน่ารักด้วย หวังว่าจะเป็นเพื่อนที่ดีของหนูได้นะคะ”

ทั้งหมดปล่อยให้เด็กหญิงฝันต่อไป เมื่อเพิ่งได้พบมิตรภาพใหม่ ก็ควรจะมีโอกาสได้เรียนรู้มิตรภาพนั้นเพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์ชีวิต

เมื่อมีโอกาส...ก็ควรให้โอกาสตัวเองได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ

****************************************

สวัสดีค่ะ มิตรผู้อ่านทั้งหลายท่าน

ถึงเวลาเปิดเรื่องแต่เฮียยังไม่ออกโรง
ส่งนอร์ธกับเจ๊รีดมาอวดโฉมก่อน
ที่เหลือจะตามมาในภายหลังค่ะ
ตอนแรกนี้ขอปูพื้นไปก่อน
ยังไม่มีอะไรให้เร้าใจ ก็ยังเด็กกันอยู่นี่นะ อิอิ

ส่วนที่ 2 ขอความช่วยเหลือเรื่องสำรวจความเห็นผู้อ่านนิยายของเพลิงวารีค่ะ
ตามอ่านรายละเอียดได้ที่ blog เลยค่ะ
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=bzlion&month=22-07-2011&group=8&gblog=5

ขอบคุณที่ติดตามนิยายเรื่อง แว่วเสียงเพลงผ่านเลนส์รัก (สำหรับคนที่ไม่เคยอ่านนิยาย "พาย" http://writer.dek-d.com/Bzlion/writer/view.php?id=473848 เชิญที่นี่ค่ะ)มาโดยตลอดนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามผลงานต่างๆ ของเพลิงวารีมาโดยตลอด
ขอบคุณสำหรับความอดทน (รอไหดอง) มาโดยตลอด ฮ่าๆ
เพลิงวารีจะสร้างสรรค์ผลงานต่อไปค่ะ

ตอบเม้นจากเรื่องสั้นเล็กๆ ของเฮียพาย ^^
คุณ หนอนฮับ --- จัดให้ค่ะ ช้าหน่อยนะคะ อิอิ
คุณ maplezaa --- ฮ่าๆ มาซบอกมิคาเอลแทนจิจ๊ะ เป็นหนุ่มแว้วค่ะ
คุณ Auuuu --- อิอิหวานนิดๆ ด้วยไหมคะ
คุณ kaeka --- เอาลูกมาฝากแทนค่ะ สองพระนางคู่นี้ยังรักกันเหมือนเดิมค่ะ อิอิ
คุณ ใบบัวน่ารัก --- ขอบคุณค่ะ อิอิ
คุณ FonFonnie --- เฮียพายก็คงคิดถึงผู้อ่านด้วยค่ะ
คุณ ตุ๊งแช่ --- ก็ลูกไม้เทิดทูนแม่อย่างแรงนี่คะ



เพลิงวารี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 22 ก.ค. 2554, 03:13:59 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 22 ก.ค. 2554, 03:13:59 น.

จำนวนการเข้าชม : 3393





   LRock ตอนที่ 2(ครึ่งแรก) >>
oolong 22 ก.ค. 2554, 08:08:47 น.
Can't click on the link and can't copy the link. Could you make it so I can click on it? Thanks for this cute and fun family story na ka.


เพลิงวารี 22 ก.ค. 2554, 10:36:13 น.
พิมพ์ ตามนี้นะคะ
http://bzlion.bloggang.com
เข้าไปก็เจอกระทู้ถามความเห็นเลยค่ะ

ส่วนของนิยายที่อยากอ่านออนไลน์กันอีกครั้ง
พิมพ์ตามนี้นะคะ
http://my.dek-d.com/Bzlion/
แล้วหานิยายในช่อง writer จะมีรายชื่อนิยายค่ะ
หาอ่านได้เลย


หนอนฮับ 22 ก.ค. 2554, 11:29:55 น.
มาแว้วววววววววว...อิอิ
ดองแค่ไหนก็ตะรอคะ..อิอิ


ใบบัวน่ารัก 22 ก.ค. 2554, 12:24:47 น.
ดีใจจังได้อ่านแล้ว


maplezaa 22 ก.ค. 2554, 19:21:54 น.
กรี๊ดดดดดด รุ่นลูกๆๆๆๆๆ โอเคค่ะยอมซบอกมิคก็ได้ค่ะ


ตุ๊งแช่ 22 ก.ค. 2554, 19:33:01 น.
โห ยกมาทั้งแก๊งค์เลยงานนี้ใครเด่นล่ะนี่


anOO 22 ก.ค. 2554, 19:39:12 น.
ท่าทางจะมีหลายคู่


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account